More Related Content
Similar to กว่าจะเป็นหนังสือกำเนิดสปีชีส์ (8)
More from Namchai Chewawiwat (20)
กว่าจะเป็นหนังสือกำเนิดสปีชีส์
- 1. ดร.นําชัย ชีววิวรรธน์ 1/6
เกร็ดหนังสือกําเนดสปีชีส์ิ
ม.มหิดล, 8 ก.พ. 2016
TIMELINE
8 พ.ย. 2007 - ผมเปิด โครงการกาลาปากอส ใน วชาการดอทคอมิ
ชวนคนอ่าน (ครู นักเรียน นศ.) มาช่วยกันแปลหนังสือ Origin คนละประโยค
ผล --> ล้มเหลว ไม่มีใครมาร่วม
ก.พ. 2008 - ไป Lecture ที7 ม.มหิดล (วันเกิด อ.จารุจินต์ นภีตะภัฏ) เจอกับพี7ปูเป้
(ส.) 8 มี.ค. 2008 - ประชุมครั1งที2 1
พี7ปูเป้ (อ.ศศิวิมล) / ชิ>น / น้องซวง (ดร.อุบลศรี) / น้องแจ๋ว (อ.จันทร์เพ็ญ) / น้องเอก น.สพ.เอกชัย เจนวิถี
สุข (สุดท้ายไม่สะดวกเข้าร่วมแปล), ผมแจก CD เนื>อหาหนังสือ : แบ่งเนื>อหาความรับผิดชอบ
17 มี.ค. 2008 - มีลงบทสัมภาษณ์ใน นสพ.กรุงเทพธุรกจิ ว่า
ผมกับเพื7อนๆ กําลังแปลหนังสือเล่มนี>อยู่
(พ.) 10 ธ.ค. 2008 - ประชุมครั>งที7 7 พี7ปูเป้ / พี7ปอม้ / ชิ>น / น้องซวง / น้องแจ๋ว
ชิ>นแจ้งว่า จะมี อ.เอก (อ.เจษฎา) กับ อ.โจ้ (อ.ณัฐพล) มาช่วยแปล ปรับแบ่งเนื>อหาบางส่วนกันใหม่
มีบันทึกการประชุมเฉพาะในคณะผู้แปลอย่างน้อย 9 ฉบับ (น่าจะประชุมมากกว่านี> แต่หลังๆ เป็นการปรับแก้
ในรายละเอียด เลยแก้ในเอกสารการแปลเลย)
17 ก.พ. 2009 - Draft แรกของทุกบทเสร็จ (นับจากเริ7มแบ่งงานครั>งแรกสุด 11 เดือน 9 วัน)
--- ก.พ. 2009 นิตยสาร สารคดี ฉบับพิเศษ ทฤษฎีววัฒนาการิ ---
--- ก.พ. 2012 หนังสือ ชาร์ลส์ ดาร์วน กําเนดแหงชีวตและทฤษฎีววัฒนาการิ ิ ิ ิ่ ---
1 ก.ค. 2010 - ส่งต้นฉบับให้ กอง บก. สนพ.สารคดี ดูเป็นครั>งแรก
24 ส.ค. 2010 - ได้ข้อเสนอแนะ และปญหาที7พั บกลับมาจาก กอง บก. เป็นครั>งแรก (บทที7 1)
26 พ.ค. 2013 - ปรับแก้ตามคําแนะนําของกอง บก. เสร็จสิ>น
- 2. ดร.นําชัย ชีววิวรรธน์ 2/6
16 เม.ย. 2015 - คําปรารถจากคณะผู้แปล ส่งให้ทางกอง บก.
25 มี.ค. 2015 - หนังสือพิมพ์เสร็จ ส่งไปถึง สนพ.สารคดี, ฉบับภาษาไทย พิมพ์ครั>งที7 1 รวม 4,000 เล่ม และ
พิมพ์ซํ>าครั>งที7 2 (3,000 เล่ม) ปลายเดือน พ.ค. ปจจุบัน พิมพ์ครั>งที7ั 3
สรุประยะเวลาในการทํางาน
จากการประชุมครั>งแรก จนได้บทแปล draft แรก - 11 เดือน
ขัดเกลาและปรับแก้ไขกันเองในคณะผู้แปล - 1 ปี 5 เดือน
ปรับแก้ไขกับ บก.สนพ.สารคดี - 2 ปี 10 เดือน
ระยะเวลาจาการประชุมแบ่งงานครั>งแรกจนตีพิมพ์ - 7 ปี 1 เดือน
วธีการทํางานิ
- เนื>อหามาจากเว็บ darwin online เลือกฉบับพิมพ์ครั>งที7 1
- แบ่งกันแปล แต่มีการประชุมทีมแปลเป็นระยะๆ ราวทุก 4-6 สัปดาห์
ส่วนใหญ่เป็นวันหยุด (วันสิ>นปี, วันพ่อ, วันแม่ ฯลฯ)
บางประโยคซึ2งยาว 5-6 บรรทัดใช้เวลาแปลเทากับขนมปังกรอบ่ 2 หอ่ - อ.โจ้
- เพื7อสะดวกในการอ้างอิง มีการใส่ "เลขลําดับยอหน้า่ " ไว้เพื7อการอ้างอิงตลอดทั>งเล่ม
- ชื7อสปีชีส์ ใช้ "ตัวเอียง" ต่างจากต้นฉบับที7ใช้ตัวปกติทั>งหมด
- file : Keywords รวมศัพท์ที7คิดว่าคงเก็บคําศัพท์เดิมในภาษาอังกฤษไว้
แชร์เพื7อให้คนในทีมใช้แบบเดียวกัน, เรียงตามตัวลําดับอักษร, version สุดท้าย มี 30 หน้า, รวมชื7อคน
- file : Wording รวบรวมศัพท์เพื7อสะดวกในการบรรณาธิการและอ้างอิง
มีการเก็บรายละเอียดรวมคําต่างๆ ที7ติดขัด มีข้อสงสัย และอภิปรายกัน รวมทั>งคําที7ได้จากการค้น
เอกสารอ้างอิงและเว็บไวต์ต่างๆ, มี 22 version, v. สุดท้ายมี 17 หน้า
- เลือกไม่ใส่ footnote หรือวงเล็บขยายความ แต่นําไปรวมไว้ในคําปรารถจากคณะผู้แปล
- ประชุมกับบรรณาธิการ 2 หน : หนแรก บก.มาเข้าชมการทํางาน / ครั>งที7 2 - 23 ก.ย. 2010 พูดคุยปญหาั
- ฉบับตีพิมพ์ครั>งแรก มี.ค. 2015
- 3. ดร.นําชัย ชีววิวรรธน์ 3/6
Statistics
บทนํา + 14 บท (บท 1-14)
338 หน้า
151,748 คํา
751,950 ตัวอักษร (ไม่รวมช่องว่าง)
ผมแปล 18.96%
เกร็ดการแปล
- ปัญหาใหญสุดที2เจอ่ คือ ดาร์วินนิยมเขียนโดยใช้ ประโยคที7ยาวมากๆ โดยมีวลีหรือประโยคขยายความที7
ยาวและมีเป็นจํานวนมากตลอดทั>งเล่ม ซึ7ง
- การสะกดคําหลักในหนังสือ
Charles เลือก ชาร์ลส์ แทนที7จะเป็น ชาลส์ (แบบที7ราชบัณฑิตยสถานกําหนด)
species ราชบัณฑิตยสถาน --> สปีชีส์, ชนิด
เลือกใช้ สปีชีส์ และสะกดแบบตัวไม่เอียง (ถือตามต้นต้นฉบับ)
natural selection ใช้การคัดเลือกธรรมชาติ (ผมเสนอ การคัดสรรตามธรรมชาติ แต่แพ้โหวต 4:3 เสียง)
- การเลือกคําแปลให้เข้ากับยุคสมัย
I, me ข้าพเจ้า
Vestiges of Creation รอยนิรมิต (อาจใช้ เนรมิตร หรือ เสก หรือ สร้าง)
- มีคําที7ใกล้เคียง แต่ไม่เทียบเท่าอยู่เยอะ เวลาแปลก็ต้องให้ชัดเจน และแสดงความแตกต่าง เช่น
breeder นักปรับปรุงพันธุ์สัตว์ / นักผสมพันธุ์พืชและสัตว์
gardener คนสวน
agriculturalist นักการเกษตร
horticulturist นักพืชสวน
florist นักเพาะพืชดอก
- บางคําแปลไทย แล้วเหมือนเขียนนิยามให้
plantigrade สัตว์ที7เดินแบบใช้ฝาเท้าและมีส้นเท้าแนบพื>น่
สรุปว่าใช้ สัตว์เลี>ยงลูกด้วยนมที7เดินบนฝาเท้า่
furcula กระดูกหน้าอกรูปสองง่าม
- 4. ดร.นําชัย ชีววิวรรธน์ 4/6
คําศัพท์ลําดับตามอนุกรมวธานิ (สะกดตามราชบัณฑตฯิ )
kingdom อาณาจักร
phylum ไฟลัม
class X ชั>น (พยายามใช้ชั>น แต่ไม่ไหวจริงๆ), คลาส
order อันดับ
family วงศ์
genus, genera สกุล (ชื7อสกุลให้เขียนตัวเอียง)
species สปีชีส์
subspecies ชนิดย่อย [ราชบัณฑิตยสถาน]
คําศัพท์อื2นๆ ที2ใกล้เคียงกับเรื2องการจัดจําแนกอนุกรมวธานิ
breed ให้ใช้สายพันธุ์
พันธุ์, ผสมพันธุ์ [วิทยาศาสตร์]
strain สายเชื>อ, สายพันธุ์ [พฤกษศาสตร์, แพทยศาสตร์]
variety วาไรตี (สุดท้ายใช้ "พันธุ์")
sub-breed สายพันธุ์ย่อย
trait ลักษณะสืบสายพันธุ์ [แพทยศาสตร์]
race ให้ใช้เชื>อชาติหรือเผ่าพันธุ์ ตามแต่บริบท
เชื>อชาติ [นิติศาสตร์, รัฐศาสตร์, ประชากรศาสตร์]
เผ่าพันธุ์ [พฤกษศาสตร์]
- บางคําต้องเลือกว่าจะแปลอย่างไรดี แปลตรงๆ จะไม่เข้าใจ
systematist นักอนุกรมวิธาน (ไม่ใช่นักระบบ !)
artificial selection การคัดเลือกพันธุ์โดยมนุษย์ (ไม่ใช่การคัดเลือกเทียม)
reversion การย้อนกลับ (ตอนแรกใช้การวกกลับ)
- บางคําก็มีประวัติศาสตร์หรือภูมิศาสตร์มาเกี7ยวข้อง จะเลือกแปลอย่างไรดี
Ceylon ซีลอน
Britain บริเตน
Great Britain บริเตนใหญ่ [อังกฤษ,เวลส์และสก๊อตแลนด์]
- บางคําเริ7มแปลอย่างหนึ7ง แต่พอแปลไปๆ แล้วก็ต้องเปลี7ยน
inhabitant ตอนแรกๆ ใช้ "สิ7งมีชีวิตที7อยู่อาศัย" แต่เปลี7ยนเป็น "ผู้อาศัย" ในที7สุด
class ชั>น --> คลาส
- 5. ดร.นําชัย ชีววิวรรธน์ 5/6
- คําที7เห็นไม่ตรงกัน
adaptive radiation ราชบัณฑิตยสถาน - การแผ่ขยายพันธุ์ (ราชบัณฑิตฯ)
หลวงเจษฎาวิจิตร - การแผ่รัศมีของการปรับตัว
พระประดิษฐ์นําชัย - การแผ่ขยายของการปรับตัว
living fossil ศัพท์บัญญัติใช้ "สิ7งมีชีวิตคงสภาพดึกดําบรรพ์"
ผมเสนอ "ซากดึกดําบรรพ์คงชีพ" (fossil ซากดึกดําบรรพ์)
บันทึก อ.โจ้ >> อย่างวันนี>ก็คุยเรื7องข้อตกลงการใช้คําต่างๆ ฯลฯ ยกตัวอย่างเช่น fossil จะเขียนว่า
ฟอสซิล หรือเขียน ซากดึกดําบรรพ์ (ราชบัณฑิต) หรือซากบรรพชีวิน หรือ...ซากขุดแข็งโคตร (เพราะ fossil
มาจากจากคําว่า fossus แปลว่า have been dug up)
12 เรื2องนาประหลาดใจเกี2ยวกับ่
หนังสือ “กําเนดสปีชีส์ิ ” ของชาร์ลส์ ดาร์วนิ
1. แม้ว่าจะชื7อหนังสือ “กําเนิดสปีชีส์” แต่ดาร์วินไม่ได้ให้ “นิยาม” หรือข้อสรุปไว้ในหนังสือว่า สปีชีส์คืออะไร
2. แม้ว่าดาร์วินตั>งใจให้ “กําเนิดสปีชีส์” เป็นรายงานทางวิทยาศาสตร์ที7คนทั7วไปอ่านเข้าใจได้ และมีการกล่าว
อ้างชื7อบุคคลอยู่บ้าง แต่ดาร์วินไม่ได้ให้รายชื7อ “เอกสารอ้างอิง (references)” หรือ “บรรณานุกรม
(bibliography)” ดังธรรมเนียมที7รายงานทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ทํา
3. แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงข้อมูลในตารางอยู่บางแห่ง แต่ดาร์วินก็ไม่ได้ลงตารางใดๆ ไว้ในหนังสือเล่มนี>เลย
4. แม้ว่าหนังสือ “กําเนิดสปีชีส์” จะมีเนื>อหาเกี7ยวกับวิวัฒนาการ แต่ในหนังสือไม่มีคําว่า “วิวัฒนาการ
(evolution)” ปรากฏอยู่เลยและมีคําว่า “การกลายพันธุ์ (mutation หรือ mutations หรือ transmutation)”
ปรากฏอยู่เพียง 7 ครั>งใน 4 บทคือ บทที7 9, 10, 11 และ 14 นอกจากนี>แล้ว คําศัพท์ทั>ง 2 คํายังไม่ปรากฏอยู่ใน
อภิธานศัพท์ (glossary) อีกด้วย
5. แม้ว่าดาร์วินจะไม่เชื7อเรื7อง “พระผู้สร้าง” แต่ในหนังสือ “กําเนิดสปีชีส์” เขาได้ใส่คําไว้ The Creator ไว้ด้วย
ในบทสุดท้าย (บทที7 14) ซึ7งเชื7อกันว่าเป็นความพยายามลดแรงกดดันจากคริสต์ศาสนิกผู้เคร่งครัด (รวมทั>ง
ภรรยาของเขาเองด้วย!)
6. ดาร์วินตั>งใจจะเขียน “กําเนิดสปีชีส์” ในรูปแบบของบทคัดย่อ (abstract) ของหนังสือฉบับสมบูรณ์ (ที7ไม่
เคยทําได้สําเร็จตลอดชีวิต) ความยาวก่อนลงมือเขียนคาดว่าจะอยู่ที7ราว 12 หน้า แต่เมื7อลงมือเขียนแล้ว ข้อมูล
ต่างๆ ที7เขาสะสมมาถึง 20 ปีทําให้หนังสือมีความยาวเพิ7มขึ>นๆ จนมีความยาวกว่า 500 หน้า เขาตั>งใจจะใช้คํา
ว่า “บทคัดย่อ” ในชื7อหนังสือด้วย แต่จอห์น เมอร์เรย์ ที7เป็นผู้จัดพิมพ์เกลี>ยกล่อมจนเขายอมดึงคําดังกล่าวออก
ในที7สุด
- 6. ดร.นําชัย ชีววิวรรธน์ 6/6
7. ดาร์วินใช้เวลาเร่งเขียนหนังสือ “กําเนิดสปีชีส์” จนจบใน 10 เดือน แต่เมื7อเขาอ่านทานต้นฉบับที7ผ่านการ
พิสูจน์อักษรแล้ว เขาเองถึงกับตกใจกับสํานวนที7แข็งกระด้างและ “ยากที7จะอ่านเข้าใจและไม่ติดขัด” จนในที7สุด
เขาต้องยอมควักกระเปาเป็นค่าใช้จ่ายกับการแก้ไขต้นฉบับ เพราะทําให้ต้องมีการเรียงตัวพิมพ์ใหม่๋
8. ชื7อเต็มของหนังสือ “กําเนิดสปีชีส์” ในการพิมพ์ครั>งแรกปี ค.ศ. 1859 ยาวมากคือ “ว่าด้วยกําเนิดสปีชีส์ด้วย
วิธีการคัดเลือกตามธรรมชาติ หรือการดํารงไว้ซึ7งสายพันธุ์ที7เหมาะสมกว่าในการต่อสู้เพื7อมีชีวิตอยู่ (On the
Origin of Species by Means of Natural Selection, or the Preservation of Favored Races in the
Struggle for Life)”
9. ภายหลังการตีพิมพ์หนังสือ “กําเนิดสปีชีส์” ครั>งแรก มีการตีพิมพ์หนังสือ “กําเนิดสปีชีส์” ซํ>าอีกรวมทั>งหม
6 ครั>งตลอดชีวิตของดาร์วิน มียอดขายรวมราว 25,000 เล่ม (ฉบับพิมพ์ครั>งที7 6 ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1872 หรือ
สิบปีก่อนเขาเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลวในวัย 73 ปี) และทุกครั>งที7พิมพ์ใหม่มีการแก้ไขเพิ7มเติมเนื>อหาต่างๆ
โดยผู้เขียน
10. มีหลักฐานว่าต้นฉบับส่วนหนึ7งที7เขาตั>งใจไว้ว่าจะรวมในฉบับสมบูรณ์ของหนังสือ “กําเนิดสปีชีส์” นั>น ต่อมา
เขาดัดแปลงไปเป็นหนังสือเกี7ยวกับการแปรผันที7เกิดขึ>นในสัตว์เลี>ยง ส่วนอีกแปดบทครึ7งนั>น ไม่เคยมีใครได้พบ
เห็นอยู่นาน จนนักวิชาการชื7อ อาร์. ซี. สตอฟเฟอร์ ไปพบเข้าและนํามาเรียบเรียงใหม่เพื7อตีพิมพ์เป็นหนังสือ
ใหม่ได้ทั>งเล่มในชื7อ “การคัดสรรตามธรรมชาติของชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin’s Natural Selection)”
11. มีรายงานใน ค.ศ. 1977 ว่า มีฉบับพิมพ์ที7แตกต่างกันของ “กําเนิดสปีชีส์” อยู่อย่างน้อยถึง 425 ฉบับใน
ขณะนั>น (ไม่นับรวมการตีพิมพ์ซํ>าของแต่ละฉบับพิมพ์) ซึ7งรวมทั>งฉบับภาษาญี7ปุน่ (15 สํานวน) ภาษาเกาหลี
(4 สํานวน) ภาษาฮังการี (4 สํานวน) ภาษาฮีบรู ภาษาโรมาเนีย และภาษาลัทเวีย อีกอย่างละ 2 สํานวน แต่ยัง
ไม่เคยมีฉบับสํานวนไทยเลยแม้แต่สํานวนเดียว
12. หนังสือ “กําเนิดสปีชีส์” เป็นผลงานที7ต่างจากผลงานการคิดค้นของยอดนักคิดนักวิทยาศาสตร์ท่านอื7นๆ
มาก (เช่น กาลิเลโอ นิวตัน และไอน์สไตน์) เพราะเป็นหนังสือที7คนธรรมดาสามัญก็อาจอ่านทําความเข้าใจได้
และอันที7จริงแล้ว หนังสือเล่มนี>ฉบับพิมพ์ครั>งที7 1 นั>นจําหน่ายหมดในวันแรกที7เปิดจําหน่ายเลยด้วยซํ>า