More Related Content
Similar to computer 2 (20)
computer 2
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ว 30284 ชื่อวิชา วิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี 4
ปีการศึกษา 2563
ชื่อโครงงาน เหยื่อเพศชายและการถูกประณาม
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.นางสาวธาริกา ใจวงค์ เลขที่ 36 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 6
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาวธาริกา ใจวงค์ เลขที่ 36
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
โรคพิษสุราเรื้อรัง
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Alcoholism
ประเภทโครงงาน
โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวธาริกา ใจวงค์ เลขที่ 36 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 6
ชื่อที่ปรึกษา
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
แต่ก่อนการดื่มสุราเป็นการดื่มเพื่อเข้าสังคมเพื่อพูดคุยหลังจากทางาน แตกต่างกับปัจจุบันที่เห็นว่าการดื่มเป็นเรื่องที่
ทาให้คนดื่มดูกล้าและเข้มแข็ง มองว่าคนที่ไม่ดื่มเป็นคนที่อ่อนแอ ไม่กล้า ในสังคมคนทางานการสังสรรค์เป็นเรื่องที่ทุก
คนทาเพื่อการทางานที่ราบรื่น นอกจากนี้ยังดื่มเพื่อคลายความเครียดลงด้วยผลที่ตามมาคือการขาดสติเกิดการใช้
ความรุนแรง เกิดอุบัติเห็น รวมถึงเสียสุขภาพในระยะยาว เมื่อดื่มมากเข้าส่งผลให้เกิดอาการเสพติด ทาให้เป็นโรคสุรา
เรื้อรังที่ยากจะรักษาในระยะสุดท้าย ในปัจจุบันวัยรุ่นนิยมกันดื่มสุรามากขึ้นเพื่อต้องการเป็นที่ยอมรับในกลุ่มเพื่อน
ผู้จัดทาต้องการศึกษาเกี่ยวกับโรคและวิธีรักษาอาการว่าสามารถเลิกได้จริงหรือไม่แล้วทาไมยังมีคนดื่ม หากสุราไม่มี
ข้อดีแล้วทาไมยังมีจาหน่ายอยู่ แสดงให้เห็นสุราไม่ใช่ปัญหาของโรคนี้ แต่ปัญหาคือตัวบุคคลที่ไม่สามารถคิดวิเคราะห์
เองได้ว่าควรบริโภคเท่าไหร่ และค่านิยมผิดๆในหมู่วัยรุ่นและกลุ่มคนทางานที่คิดว่าการเข้าสังคมต้องใช้สุราเข้าหากัน
เพื่อละลายพฤติกรรม
สุราไม่ปัญหาของโรคพิษสุราเรื้อรังผู้จัดทาเชื้อว่าการผู้บริโภคไม่รู้จักขีดจากัดของตนเองและไม่ได้มีคนให้
ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับสุราและผลที่ตามมาทาให้เกิดอาการเสพติดและเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังตามมา ผู้จัดทาเชื้อว่า
มุกโรคย่อมมีวิธีรักษาแต่ขึ้นอยู่กับว่าเรารักษาถูกต้องหรือไม่เพื่อหาการรักษาและการป้องกันที่ถูกต้องผู้จัดทาจึงจัด
ทางานนี้ขึ้นมา
- 3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อศึกษาเกี่ยวกับโรคพิษสุราเรื้อรัง
2.เพื่อศึกษาวิธีรักษาอาการและโรคพิษสุราเรื้อรัง
3.เพื่อศึกษาโรคแทรกซ้อนของโรคพิษสุราเรื้อรัง
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
ศึกษาเกี่ยวกับอาการและโรคแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้อง วิธีการรักษาและการป้องกัน
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ทัศนคติ ค่านิยม ในวงเหล้าเหล่านี้ เป็นการเสริมให้ทัศนคติแบบชายเป็นใหญ่ ให้มีความเข้มข้นขึ้น ผู้ชายส่วนใหญ่จึง
วนเวียนอยู่กับสังคมเพื่อน ความกล้าหาญ กล้าแสดงออกถึงความยิ่งใหญ่เมื่ออยู่ในวงเหล้า เพื่อให้ได้รับการยอมรับ
จากเพื่อนวานเป็นคนเก่ง กล้าหาญ ถ้าใครไม่ดื่มเหล้าก็จะถูกดูถูกว่าเป็นคนอ่อนแอเหมือนผู้หญิง ไม่มีศักดิ์ศรี ซึ่งเป็นที่
ผู้ชายกลัวมาก ดังนั้น ปัญหาการดื่มเหล้าของชายไทยจึงมีสาเหตุสาคัญมาจากการชักชวนของเพื่อน เพื่อการยอมรับ
และศักดิ์ศรีของระบบชายเป็นใหญ่ และนามาสู่ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และความรุนแรงทางเพศ
โรคพิษสุราเรื้อรัง เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากติดต่อกันเป็นเวลานานจนไม่สามารถเลิกดื่มได้ แม้รู้ว่าการ
ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจานั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือกระทบต่อการใช้ชีวิตประจาวันก็ตาม ซึ่งหากหยุดดื่มอาจ
ก่อให้เกิดอาการขาดสุรา เช่น มือสั่น หงุดหงิด อาเจียน สันสน หรือประสาทหลอน
ระยะแรก
หันไปพึ่งแอลกอฮอล์เมื่อต้องเผชิญกับปัญหา
ต้องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกมึนเมา
จาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้
ไม่ต้องการแบ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับผู้อื่น
รู้สึกอยากดื่มแอลกอฮอล์ตลอดเวลา
รู้สึกผิดหลังจากดื่มแอลกอฮอล์
ระยะกลาง
ไม่สามารถควบคุมปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ได้ แม้รู้ว่าการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจานั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพ หรือ
ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในครอบครัว
ต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองออกจากการดื่มแอลกอฮอล์
มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปและมีอารมณ์แปรปรวน
ระยะรุนแรง
มีอาการขาดสุราเมื่อหยุดดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหงื่อออก ตัวสั่น มือสั่น หงุดหงิด คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย สับสน
หัวใจเต้นเร็ว หรือประสาทหลอน เป็นต้น
สาเหตุของโรคพิษสุราเรื้อรัง
ปัจจุบันในทางการแพทย์ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของโรคพิษสุราเรื้อรังได้อย่างแน่ชัด แต่คาดว่าการดื่มแอลกอฮอล์
ปริมาณมากส่งผลให้สารเคมีในสมองเปลี่ยนแปลงและทาให้เกิดความรู้สึกสุขสมตามมา จนอาจทาให้ความรู้สึก
ดังกล่าวส่งผลต่อผู้บริโภคให้ต้องการดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ และเกิดการเสพติดในที่สุด ซึ่งหากหยุดดื่ม
อาจมีอาการขาดสุราตามมาจึงทาให้เลิกดื่มได้ยากไปด้วย
ผู้ที่อยู่ในกลุ่มต่อไปนี้ อาจเสี่ยงต่อโรคพิษสุราเรื้อรังมากกว่าคนทั่วไป
- 4. 4
ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นประจา
มีปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า หรือโรคจิตเภท เป็นต้น
เผชิญกับแรงกดดัน หรือรู้สึกเครียดเป็นประจา
มีความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองต่า
มีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง
อยู่ในชุมชนที่คนส่วนใหญ่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจา
การวินิจฉัยโรคพิษสุราเรื้อรัง
การรักษาโรคพิษสุราเรื้อรัง
การรักษาโรคพิษสุราเรื้อรังมีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหยุดดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทาได้หลายวิธี ดังนี้
การถอนพิษสุราอาจเรียกว่าช่วงล้างพิษ จัดเป็นขั้นตอนแรกของการรักษาโรคนี้ โดยแพทย์จะแนะนาให้ผู้ป่วยหยุดดื่ม
หรือลดการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับให้ยาบรรเทาอาการขาดสุราควบคู่ไปด้วย
การฟื้นฟูสมรรถภาพ เป็นการเข้ารับคาแนะนาจากแพทย์ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรู้จักควบคุมพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์
การให้คาปรึกษาทางจิต เพื่อบาบัดความผิดปกติทางจิตที่เป็นสาเหตุของโรคพิษสุราเรื้อรัง ซึ่งอาจเป็นการบาบัดแบบ
กลุ่มหรือการบาบัดรายบุคคล โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
การรับประทานยา แพทย์อาจแนะนาให้ผู้ป่วยบางรายรับประทานยาที่มีฤทธิ์ช่วยให้ไม่อยากดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่
ยานาลเทรกโซน ช่วยลดความรู้สึกสุขสมจากการดื่มแอลกอฮอล์
ยาแอคแคมโพรเซส ช่วยปรับสารเคมีในสมองให้อยู่ในระดับปกติ จึงมีความรู้สึกอยากดื่มแอลกอฮอล์น้อยลง
ยาไดซัลฟิแรม ช่วยทาให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวเมื่อดื่มแอลกอฮอล์ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และเวียนศีรษะ
เป็นต้น
ส่วนผู้ป่วยที่เป็นโรคพิษสุราเรื้อรังขั้นรุนแรง แพทย์จะเฝ้าดูอาการขาดสุราตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้ผู้ป่วยเข้ารับการ
บาบัดในโรงพยาบาลด้วย เมื่อผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นแพทย์จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่หลังจากนั้นผู้ป่วยจาเป็นต้อง
เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องจนหายดี
ภาวะแทรกซ้อนของโรคพิษสุราเรื้อรัง
การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตในด้านต่าง ๆ ดังนี้
ระบบย่อยอาหารทางานผิดปกติ เช่น โรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคตับอ่อนอักเสบ เกิดแผลในหลอดอาหารหรือ
กระเพาะอาหาร การดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ลดลง เป็นต้น
โรคตับ อาจเกิดโรคหรือความผิดปกติใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตับ อย่างไขมันพอกตับหรือตับอักเสบจากแอลกอฮอล์
รวมถึงโรคตับแข็งที่อาจส่งผลให้เกิดการสะสมของเสียจาพวกยูเรียจนเกิดพิษต่อสมองได้
โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจโต หัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจห้องบนเต้นสั่นพลิ้ว และโรคหลอด
เลือดสมอง เป็นต้น ภาวะน้าตาลในเลือดต่าแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งกลูโคสของตับ และอาจก่อให้เกิดภาวะ
น้าตาลในเลือดต่าตามมา ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่กาลังใช้ยาอินซูลินเพื่อลดระดับน้าตาลในเลือดจึงควรหลีกเลี่ยงการดื่ม
แอลกอฮอล์ เพราะอาจทาให้ระดับน้าตาลยิ่งลดต่าลงจนเป็นอันตราย
พัฒนาการทางเพศผิดปกติ ผู้ป่วยชายอาจเสี่ยงต่อภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ส่วนผู้ป่วยหญิงอาจเสี่ยงต่อภาวะ
ประจาเดือนมาไม่ปกติ
- 5. 5
ความพิการแต่กาเนิด หญิงตั้งครรภ์ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจาอาจเสี่ยงต่อการแท้งบุตร หรือเผชิญกับกลุ่มอาการ
ทารกในครรภ์ได้รับแอลกอฮอล์ จนส่งผลให้เด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ผิดปกติ
กระดูกเกิดความเสียหาย อาจเกิดโรคกระดูกพรุน หรือไขกระดูกซึ่งมีหน้าที่ผลิตเซลล์เม็ดเลือดถูกทาลาย จนส่งผลให้
เกล็ดเลือดมีปริมาณลดลง ผู้ป่วยจึงเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกมากกว่าปกติ
ความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น มือเท้าชา กระบวนการคิดผิดปกติ ภาวะสูญเสียความทรงจาชั่วคราว หรือโรค
สมองเสื่อม เป็นต้น
ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้ป่วยโรคพิษสุราเรื้อรังอาจเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อต่าง ๆ มากกว่าปกติ เช่น โรคปอดบวม เป็นต้น
มะเร็ง ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากอาจเสี่ยงต่อมะเร็งชนิดต่าง ๆ มากกว่าคนทั่วไป เช่น มะเร็งช่องปาก มะเร็ง
ลาคอ มะเร็งตับ มะเร็งลาไส้ มะเร็งเต้านม เป็นต้น
การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของยารักษาที่ผู้ป่วย
กาลังรับประทานอยู่ โดยฤทธิ์ของยาอาจลดลง มากขึ้น หรือกลายเป็นพิษต่อร่างกายได้
ปัญหาในการดาเนินชีวิต การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจาวัน การเรียน การ
ทางาน และความสัมพันธ์กับผู้อื่น ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุประเภทต่าง ๆ เช่น รถชน ตกจากที่สูง เป็นต้น
นอกจากนี้ อาจเสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรม การข้องเกี่ยวกับอาชญากรรม หรือการตกเป็นเหยื่อของอาชญากร เช่น
การถูกล่วงละเมิดทางเพศ เป็นต้น ตลอดจนเสี่ยงควบคุมตัวเองไม่ได้และนาไปสู่การฆ่าตัวตาย
การป้องกันโรคพิษสุราเรื้อรัง
โรคพิษสุราเรื้อรังสามารถป้องกันได้ เพียงจากัดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ของตัวเอง โดยทั่วไปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แต่ละชนิดมักมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เท่ากัน โดย 1 ดื่มมาตรฐานของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเท่ากับเครื่องดื่มที่มี
แอลกอฮอล์ผสมอยู่ 10 กรัม เฉลี่ยแล้ว 1 ดื่มอาจเท่ากับเบียร์ 360 มิลลิลิตร ไวน์ 150 มิลลิลิตร และสุรา 45
มิลลิลิตร จากคาแนะนาของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขประเทศไทย ผู้ชายไม่ควรดื่มเกิน 4 ดื่มมาตรฐาน/
วัน ส่วนผู้หญิงไม่ควรดื่มเกิน 2 ดื่มมาตรฐาน/วัน
วัยรุ่นอาจเป็นวัยที่เสี่ยงต่อโรคพิษสุราเรื้อรังค่อนข้างสูง ผู้ปกครองควรสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับลูก และปฏิบัติ
ตามคาแนะนาต่อไปนี้ เพื่อป้องกันพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่เหมาะสมของลูก
พูดคุยและทากิจกรรมร่วมกับลูกเป็นประจา
เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกในเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์
สร้างบรรทัดฐานที่เหมาะสม เพื่อให้ลูกปฏิบัติตามและเรียนรู้ว่าสิ่งใดควรทาหรือไม่ควรทา