SlideShare a Scribd company logo
1 of 131
Download to read offline
ก
คานิยมของผู้บังคับบัญชา
อาชีพครูคือ อาชีพที่ต๎องปฏิบัติหน๎าที่อยํางมืออาชีพ เพราะการศึกษาคือพื้นฐานที่สําคัญที่สุดที่จะ
พัฒนาทรัพยากรมนุษย๑ให๎มีความสมบูรณ๑ทั้งรํางกาย อารมณ๑ และจิตใจ ครูเป็นบุคคลที่จะสามารถบํมเพาะ
ผู๎เรียนให๎ก๎าวสูํคุณภาพชีวิตที่ดี เกํง และมีความสุข ดังนั้นครูจึงต๎องปฏิบัติหน๎าที่ให๎สมบูรณ๑ทั้งภาคทฤษฎี
และภาคปฏิบัติ อีกทั้งต๎องจัดทําสื่อนวัตกรรมประกอบการจัดการเรียนรู๎อยํางมีคุณภาพ เพื่อให๎ผู๎เรียนมี
ความรู๎ความเข๎าใจ สามารถเรียนรู๎อยํางมีความสุขและเป็นไปตามตัวบํงชี้ที่มาตรฐานการศึกษากําหนดไว๎
เอกสารประกอบกานสอน เรื่อง “ภูผามําน ตํานานเมืองทองคํา” เลํมนี้ เป็นการสืบค๎นประวัติ
ความเป็นมาของอําเภอภูผามําน จากเอกสาร หลักฐาน และมุขปาฐะจากปราชญ๑ชาวบ๎าน ซึ่งใช๎วิธีการทาง
ประวัติศาสตร๑เพื่อให๎ได๎มาซึ่งข๎อมูลที่เป็นจริง ทั้งนี้เป็นเอกสารที่หนํวยงานทางราชการและชุมชนชาว
อําเภอภูผามํานให๎การยอมรับวํา ได๎มีการสืบค๎นจากสภาพความเป็นจริงที่ปรากฏ จึงสามารถนํามาเป็น
เอกสารประกอบการเรียนการสอนในรายวิชา “ประวัติเลําขาน สืบสานตรุษไท” อีกทั้งเป็นไปตาม
เจตนารมณ๑ ของทางโรงเรียนที่ต๎องการให๎นักเรียนที่มาเรียนโรงเรียนภูผามํานทุกคน ได๎ศึกษาและเรียนรู๎
ประวัติความเป็นมาของอําเภอภูผามําน เพื่อให๎เกิดความรัก ความหวงแหน ความภาคภูมิใจในท๎องถิ่น
มาตุภูมิของตนเอง ซึ่งสอดคล๎องกับคําขวัญของโรงเรียนภูผามํานที่วํา “มานะ อดทน ประพฤติตนดี มีวิชา
รักมาตุภูมิ”
เอกสารเลํมนี้ จึงเป็นประโยชน๑ตํอเยาวชนลูกหลานชาวอําเภอภูผามําน ตลอดจนทุกทํานที่มีความ
สนใจในประวัติความเป็นมาของอําเภอภูผามําน และจะเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร๑ในอนาคตที่
ทรงคุณคํา ความสําเร็จในการปฏิบัติงานของคุณครู จะเป็นผลตํอการพัฒนาตน พัฒนาชุมชน พัฒนาสังคม
และพัฒนาประเทศชาติ ขอให๎คุณครูได๎ใช๎ความรู๎ความสามารถอยํางเต็มตามศักยภาพ และเกิดประโยชน๑
สูงสุด ตํอราชการตํอไป
(นายสมควร ไกรพน)
ผู๎อํานวยการโรงเรียนภูผามําน
ข
คานา
อําเภอภูผามําน จังหวัดขอนแกํน เป็นอําเภอที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน มีรํองรอยหลักฐาน
ทางประวัติศาสตร๑ที่สามารถสืบค๎นได๎ ทั้งโบราณสถาน โบราณวัตถุเอกสาร การบันทึกตํางๆ โดยเฉพาะ
มุขปาฐะจากผู๎อาวุโสที่เลําขานสืบตํอกันมารุํนแล๎วรุํนเลํา ซึ่งจากประวัติความเป็นมาของแตํละท๎องถิ่นก็จะ
มีวิถีชีวิต ภูมิป๓ญญา ความเชื่อ ความศรัทธาที่ยึดถือปฏิบัติจนเป็นวิถีชุมชนที่สืบทอดเป็นระเบียบแบบแผน
ตํอๆกันมา จากรุํนสูํรุํนจนตกผลึกผนึกเป็นวัฒนธรรมประเพณีจารีตของสังคม ตลอดจนคํานิยมที่สร๎าง
เสริมให๎ชุมชน ท๎องถิ่นสามารถดํารงอยูํไมํสร๎างป๓ญหา สร๎างความขัดแย๎ง หรือสร๎างความเดือดร๎อนให๎ใคร
ผู๎ใด กลุํมไหน พวกเราในฐานะอนุชนรุํนหลังก็ควรรํวมกันอนุรักษ๑ให๎คงอยูํ เพื่อให๎สังคมดํารงอยูํได๎อยําง
มีความสุขแบบพอเพียงและยั่งยืน
ด๎วยผลดังกลําวข๎างต๎น จึงได๎จัดทําเอกสารการสอนเลํมนี้ขึ้นเพื่อ เป็นสํวนหนึ่งของรายวิชา
“ประวัติเล่าขาน สืบสานตรุษไท” โดยในเนื้อหาประกอบด๎วย ภูผามํานยุคตํานานเมืองทองคํา ภูผามําน
ยุคประวัติศาสตร๑ ภูผามํานยุคป๓จจุบัน ประวัติหมูํบ๎าน ๕ ตําบล ๔๒ หมูํบ๎าน บทร๎อยกรองคําขวัญประจํา
อําเภอภูผามําน ตลอดจนบทเพลงเกี่ยวกับอําเภอภูผามําน ซึ่งล๎วนเป็นความภาคภูมิใจที่อนุชนรุํนหลัง
ควรใฝุเรียนรู๎ ศึกษา จดจํา และน๎อมนํามาเป็นแนวทางประพฤติปฏิบัติตลอดจนประยุกต๑ใช๎
ในชีวิตประจําวันให๎เกิดประโยชน๑ตํอตนเอง ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
ขอกราบขอบพระคุณ ทํานนายกพงษ๑ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ๑ ทํานนายอําเภอจารึก
เหลําประเสริฐ ทํานผู๎อํานวยการสมควร ไกรพน ซึ่งถือวําเป็นบุคคลสําคัญที่เป็นแรงบันดาลใจให๎ได๎
จัดทําหนังสือฉบับนี้ขึ้น อีกทั้งปราชญ๑ชาวบ๎าน คุณพํอรูป กุลด๎วง คุณพํอบุญเกิด แพงจันทร๑
พระครูสุวรรณจิตตานุกูล คุณแมํบุญล๎อม ปลื้มกมล นางพูํ หนูทัศน๑ และอีกหลาย ๆ ทําน ที่ให๎
ข๎อมูล ทําให๎เอกสารฉบับนี้มีความสมบูรณ๑ สามารถนํามาประกอบการเรียนการสอนได๎ ขอให๎ความสําเร็จ
ในครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจให๎กับทุกทํานที่ได๎ให๎เกียรติศึกษาและรับรู๎เรื่องราวประวัติ ความเป็นมา
ของชาวอําเภอภูผามําน ขอขอบพระคุณ
นางบุญจันทร๑ บัวพา
ค
สารบัญ
เรื่อง หน้า
ปฐมลิขิต
๑. ประวัติภูผาม่าน ตานานเมืองทองคา
สื่อคํานําเสนอ ประวัติภูผามําน ตํานานเมืองทองคํา ๑
เกริ่นคํานําเรื่อง ๒
ปราชญ๑แหํงภูมิป๓ญญา ๖
ภูผาม่าน...ยุคแห่งตานาน
จากอดีตกาลแหํงอาณาจักร ๑๔
จากอาณาจักร...สูํตํานานเมืองทองคํา ๑๖
กุดเขมร.......... ที่มาแหํงตํานาน ๑๘
ผญา ปรัชญา ป๓ญญา ๒๑
คําผญา ลายแทงขุมทรัพย๑โบราณ ๒๓
วิเคราะห๑เจาะลึก ผนึกเมืองทองคํา ๒๕
ถอดรหัสภูผามําน ยุคตํานานเมืองทองคํา ๒๘
ภูผาม่าน...ยุคประวัติศาสตร์
ย๎อนรอยประเทศไทย...เพื่อถอดรหัส สูํความเป็นอําเภอภูผามําน ๓๐
น๎อมนําเที่ยวเมืองประวัติศาสตร๑ “ภูผามําน” ๓๔
เจ๎าเมือง คุณปูุ.....ภูผามําน ๓๖
สหายปูุ...สร๎างบ๎านแปลงเมือง ๓๘
ผู๎ให๎ชีวิต ๓๙
นายกองสํวยสีผึ้งบ๎านเซิน ๔๑
ยุบกอง...เป็น ตําบลโนนคอม ๔๓
เปลี่ยนนายกอง เป็น...กํานันต๎นตระกูล ๔๕
กํานัน........คนเกํง ๔๖
กํานันเบอร๑... ผู๎นําแหํงการเปลี่ยนแปลง ๔๙
ถอดรหัสภูผามําน ยุคประวัติศาสตร๑ ๕๒
รําลึก จารึก และจดจํา ประวัติศาสตร๑ “ภูผามําน” ๕๔
ง
เรื่อง หน้า
ภูผาม่าน...ยุคปัจจุบัน
ยุคป๓จจุบัน.........จากการสถาปนาอําเภอ ๕๖
๕ ตําบล.....คนอําเภอ ๕๗
เคารพรักนักปกครอง ๕๘
ชื่อฉัน.. สวรรค๑สร๎าง ๖๐
จากใจนายอําเภอจารึก.......รวมผนึกประเพณี ๘๑
๒. ภาษาสร้างสรรค์ บ้านฉัน...ภูผาม่าน
ภูผามํานบ๎านฉัน ๘๒
กลอนเอํยอ๎าง...มํานฟูาผางาม ๘๓
กาพย๑ฉบัง ๑๖ พลังมาตุภูมิ ๘๔
โคลง ฉันท๑ กาพย๑ กลอน ออนซอนคําขวัญ ๘๕
๓. คติชนคนหมู่บ้าน...๕ ตาบล ในอาเภอภูผาม่าน
คติชนคนหมูํบ๎าน ๘๘
คมคํา...นํา ตําบลโนนคอม ๘๙
คมคํา...นํา ตําบลนาฝาย ๙๔
คมคํา...นํา ตําบลวังสวาบ ๙๘
คมคํา...นํา ตําบลภูผามําน ๑๐๔
คมคํา...นํา ตําบลห๎วยมํวง ๑๑๐
ภูผาม่านภาษาเพลง
วีรชนคนภูผามําน, ภูผามํานบ๎านฉัน ๑๑๖
รวมใจไทผามําน, เอิ้นขวัญไทภู ๑๑๗
แดนนาฝาย, สวรรค๑ห๎วยมํวง ๑๑๘
เต๎ยกุดเขมร, สวรรค๑กุดเขมร ๑๑๙
ห๎าแดนสวรรค๑ไทภู ๑๒๐
เทิดไท๎องค๑ราชัน ๑๒๑
ปัจฉิมลิขิต
หนังสืออ้างอิง
รายนามปราชญ์ชาวบ้าน
ปฐมลิขิต
ด๎วยมุํงมั่นใฝุฝ๓นอันยิ่งใหญํ ด๎วยหัวใจใฝุรู๎สู๎ศึกษา
ด๎วยมาดหวังสืบสานงานวิชา ด๎วยศรัทธาแผํนดินถิ่นไทภูฯ
จึงเกิดแรงบันดาลใจในขอบเขต จึงเป็นมนต๑วิเศษให๎ตํอสู๎
จึงสืบค๎นประวัติให๎เชิดชู จึงเป็นครูคนหนึ่งที่ซึ้งใจ
ขอฝากฝ๓งผลงานให๎ทํานอําน ขอเลําขานวานแจ๎งแถลงไข
ขอสืบค๎นประวัติพิพัฒน๑ชัย ขอนําเรียนด๎วยใจใฝุศรัทธา
ณ วันนี้แบํงเรื่องประเทืองยุค ณ วันนี้รํวมสนุกและค๎นหา
ณ ผามํานยุคแห่งตานานพา ณ เวลายุคประวัติศาสตร์แตํดั้งเดิม
ลํวงมาถึงผาม่านปัจจุบัน ลํวงเวลาสร๎างสรรค๑นั้นสํงเสริม
ลํวงภาษาคาขวัญมาตํอเติม ลํวงเพิ่มพูนประวัติบ้านเนิ่นนานจํา
อีกสร๎างสรรค๑บทเพลงบรรเลงใจ อีกสายใยแหํงชีวิตคิดคูณค้ํา
อีกรํวมคิดรํวมสร๎างและรํวมทํา อีกคอยนําคอยชํวยด๎วยภักดี
จนสําเร็จเสร็จงานที่มุํงมั่น จนสานฝ๓นให๎เห็นเป็นศักดิ์ศรี
จนผลงานได๎เรียงร๎อยถ๎อยวจี จนน๎องพี่ได๎พบประสบจริง
จึงอยากฝากเชิญชวนมารํวมคิด จึงอยากฝากให๎เพํงพิศในทุกสิ่ง
จึงอยากฝากอนุรักษ๑ประจักษ๑จริง จึงอยําได๎หยุดนิ่งมาอํานกัน
ครูจันทร๑
๑
สื่อคา นาเสนอ
ปณิธานมุ่งแท้ ประวัติมี
ผาม่านเมืองคนดี ยิ่งไซร้
ลูกหลานใฝุชีวี บอกเล่า สืบมา
คุณค่าตานานไว้ ม่านฟูาผาภู
ตาราแห่งมาตุภูมิ
แรงบันดาลใจ ที่ใคร่อยากรู้
สืบค้นมองดู เรียนรู้ค้นหา
รากเหง้าชีวี ศักดิ์ศรีศรัทธา
ผาม่านเมืองฟูา ตาราเล่าเรียน
เพื่อลูกเพื่อหลาน รักอ่านขีดเขียน
จดจาบทเรียน บ้านเมืองมีมา
ด้วยแรงคานึง คิดถึงภายหน้า
สร้างสรรค์พัฒนา ภูผายั่งยืน.
สื่อคา นาเสนอ ประวัติภูผาม่าน ตานานเมืองทองคา สืบค๎นพบเจอ ใฝุรู๎…สูํ
“เกริ่นคา นาเรื่อง”
ประวัติภูผาม่าน ตานานเมืองทองคา
๒
วัฒนธรรม ฯ นั่นนั้น วาจา ร้องขอ
ผาม่านอดีตเป็นมา สืบค้น
ด้วยใจใฝุศรัทธา จึงมุ่ง- หมายทา
งานประวัติเมืองโพ้น เปี่ยมล้นยินดี
ด๎วยแรงบันดาลใจ และปณิธานที่มุํงมั่น พร๎อมกับในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวัฒนธรรมจังหวัด
ขอนแกํน ให๎โรงเรียนภูผามําน สืบค๎นประวัติตําบลภูผามําน อําเภอภูผามําน ซึ่งขณะนั้น ผู๎อํานวยการ
โรงเรียนภูผามําน นายเรืองรัตน์ ปัญญามี ได๎มอบหมายให๎ข๎าพเจ๎านางบุญจันทร๑ บัวพา สืบค๎นข๎อมูล
เพราะเห็นวํามีบ๎านเรือนอยูํที่อําเภอภูผามําน ทั้งนี้ ได๎รับเกียรติบัตรจากสภาวัฒนธรรมจังหวัดขอนแกํน
จวบถึงปี พ.ศ. ๒๕๕๒ รวมระยะเวลาถึง ๑๐ ปี จึงได๎มีโอกาสรวบรวมประวัติอําเภอภูผามํานอยํางจริงจัง
อีกครั้ง เนื่องจากอําเภอภูผามํานเป็นอําเภอเล็กๆ ในจังหวัดขอนแกํน ซึ่งจากการสํารวจค๎นหา
ประวัติศาสตร๑ท๎องถิ่น เอกสารอ๎างอิงที่พอหาได๎เป็นการเทียบเคียงกับประวัติศาสตร๑จากอําเภอข๎างเคียง
คือ อําเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งได๎กลําวถึงพื้นที่ซึ่งเป็นต๎นกําเนิดอําเภอภูผามํานไว๎ และ คําบอก
กลําวซึ่งเลําสืบตํอกันมาโดยทํานผู๎เฒํา ผู๎แกํ ผู๎อาวุโสซึ่งบุคคลเหลํานี้ชาวบ๎านให๎ความเคารพนับถือ
ศรัทธา เป็นปราชญ๑ของหมูํบ๎านเพื่อสืบค๎นหาข๎อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของอําเภอภูผามําน
และสืบเนื่องจาก นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายกองค๑การบริหารสํวนจังหวัดขอนแกํน ได๎ให๎ความสําคัญ
และทํานปรารภวํา ขอให๎สืบค๎นประวัติความเป็นมาของอําเภอภูผามําน กอปรกับ นายจารึก เหล่าประเสริฐ
มาดํารงตําแหนํงนายอําเภอภูผามําน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ - ๒๕๕๒ ทํานสนใจประวัติความเป็นมา ทํานขอให๎สืบค๎น
เรื่องราวเพิ่มเติม โดยได๎ขอความอนุเคราะห๑ไปยังทํานผู๎รู๎ในท๎องถิ่นอีกหลายทํานซึ่งได๎รับความรํวมมืออยํางดียิ่ง
ทั้งนี้ ได๎รับการบอกเลํา และได๎เอกสารรํองรอยการบันทึกของปราชญ๑ชาวบ๎านเพิ่มขึ้น อีกทั้งในปี พ.ศ. ๒๕๕๒
ทํานได๎จัดสรรงบประมาณจํานวน ๑๖๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนหกหมื่นบาทถ๎วน) สนับสนุนให๎มีการแสดงแสง สี
เสียง เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของอําเภอภูผามําน ในงานประเพณีตรุษไท (งานบุญเดือนสี่) ซึ่งเป็นงาน
ประเพณีประจําปีของชาวอําเภอภูผามําน ใช๎ชื่อชุดการแสดงวํา “ย๎อนอดีต มองป๓จจุบัน เพื่อสร๎างสรรค๑ภูผา
มําน ในอนาคต” ใช๎ผู๎แสดงที่เป็นนักเรียนโรงเรียนภูผามําน จํานวน ๒๐๐ คน เป็นชาวบ๎าน บ๎านเซินใต๎ จํานวน
๑๖๐ คน
ข๎าพเจ๎ามีโอกาสได๎เป็นคณะทํางานรับผิดชอบทั้งการสืบค๎น เขียนบท รํวมกํากับการแสดง จัดทํา
ฉาก นําโดย นายสมควร ไกรพน ผู๎อํานวยการโรงเรียนภูผามําน เป็นประธาน และให๎กําลังใจในการ
ทํางานมาโดยตลอด และทํานฝากวํา ขอให๎นําประวัติภูผามําน มาจัดทําเป็นหลักสูตรท้องถิ่น เพื่อสอน
ลูกหลานชาวภูผามํานสืบไป
เกริ่นคา นาเรื่อง
๓
ขอกราบนมัสการ พระครูสุวรรณจิตรานุกูล เจ๎าอาวาสวัดทุํงสวําง บ๎านเซินใต๎ ตําบลโนนคอม
อําเภอภูผามําน นายหล่วน เสี้ยวภูเขียว ทํานผู๎เชี่ยวชาญในการออกแบบเครื่องแตํงกาย อีกทั้งให๎
คําปรึกษา ฝึกซ๎อมการแสดง และดูแลกํากับการแสดงของชาวบ๎านเซินใต๎ ตําบลโนนคอม อําเภอภูผามําน
ขอขอบคุณ คุณครูเสน่ห์ หนูทัศน์ คุณครูสงกรานต์ หนูทัศน์ คุณครูปิยดา ฮวดตา
คุณครูเจริญศรี ผดุงธรรม และ คุณครูปัญจา พลธิรักษา ที่ชํวยตรวจทานบทการแสดง ตลอดจน
คณะครู-นักเรียนโรงเรียนภูผามําน โรงเรียนบ๎านโนนสวํางทํากระบือ โรงเรียนบ๎านโนนคอม ที่นําคณะครู
และนักเรียนมารํวมจัดการแสดง จากการแสดงแสง สี เสียงในครั้งนี้ ทําให๎คณะครู นักเรียน เยาวชน
ชาวบ๎านในชุมชน เกิดความตระหนักรักในถิ่นฐาน ต๎องการสืบหา สืบค๎น และสืบสานอดีตแหํงความ
เป็นมาของบรรพบุรุษ ข๎าพเจ๎าจึงได๎เริ่มเก็บข๎อมูลอีกครั้งด๎วยความมุํงมั่น ตั้งใจ และศรัทธาอันแรงกล๎า
ซึ่งได๎รํองรอยหลักฐานเพิ่มเติมหลายอยํางจากปราชญ๑ชาวบ๎าน คุณพ่อบุญเกิด แพงจันทร์ ปราชญ๑
ชาวบ๎านอําเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ อีกทั้งทํานได๎ให๎ความรู๎เป็นวิทยาทานพร๎อมมอบหนังสือเกี่ยวกับ
เมืองคอนสารชื่อ “เลําเรื่อง เมืองคอนสาร จากหลานปูุ” หนังสือประวัติเมืองคอนสาร ปี ๒๕๓๕ และ
ฉบับปรับปรุง ปี ๒๕๕๑ ทั้งนี้ ยังมีหลักฐานสําคัญอีกอยํางหนึ่ง นั่นก็คือ ตราประทับประจําตําแหนํง
ของหลวงพิพิธภูมเรศ โดยอดีตผู๎ใหญํบ๎านบ๎านเซินเหนือ นางสุนีย์ เต็มวงษ์ ผู๎ซึ่งมีความผูกพันทาง
สายโลหิตเป็นเหลนของหลวงพิพิธภูมเรศ ได๎เป็นผู๎สืบค๎น บันทึกตราประทับ มาเพื่อเป็นหลักฐานอ๎างอิง
จวบจนถึง ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ด๎วยแรงบันดาลใจดังกลําวมาแล๎วข๎างต๎น ทําให๎สามารถสืบค๎นรํองรอย
หลักฐานที่เป็น เอกสาร หนังสือ แหลํงเรียนรู๎ ตลอดจนการให๎ความรํวมมืออยํางดียิ่งจากปราชญ๑ชาวบ๎าน
การได๎มาซึ่งตราประทับ สิ่งเหลํานี้ทําให๎สามารถนําองค๑ความรู๎มาเรียงร๎องถ๎อยภาษา เพื่อจัดทําเป็น
หนังสือประวัติศาสตร๑ภูผามําน ซึ่งอาจจะกลําวได๎วํา เป็นหนังสือเลํมแรกที่ได๎สืบค๎นความเป็นมาตั้งแตํ
อดีตจนถึงป๓จจุบัน (ปี ๒๓๘๐ – ๒๕๕๕ ) ของชาวอําเภอภูผามําน ขอขอบพระคุณ บุพการี “สกุล จัน
เวียง” ผู๎ให๎กําเนิด ทํานผู๎นําท๎องถิ่นทุกภาคสํวน ทํานผู๎บริหารโรงเรียน ครอบครัวบัวพา
ครอบครัวหนูทัศน๑ และทุกๆทํานที่สนับสนุนพลังแหํงสติป๓ญญา พลังกาย พลังใจ พลังทรัพย๑ ทําให๎
ข๎าพเจ๎านางบุญจันทร๑ บัวพา ครู คศ.๓ วิทยฐานะชํานาญการพิเศษ โรงเรียนภูผามําน อําเภอภูผามําน
จังหวัดขอนแกํน ได๎ทําในสิ่งที่ตั้งปณิธานไว๎
จึงขอมอบหนังสือ “ ประวัติภูผาม่าน ตานานเมืองทองคา “ ไว๎เป็นอนุสรณ๑แหํงความรัก
ความศรัทธา ความภาคภูมิใจ ให๎กับทุกๆทําน โดยเฉพาะประชาชนชาวอําเภอภูผามําน บุคคลที่ใฝุเรียนรู๎
และสนใจที่จะศึกษาค๎นคว๎า อีกทั้งบุคคลที่มีโอกาสมาเยือนอําเภอภูผามําน แดนมหัศจรรย๑แหํงธรรมชาติ
มิตรภาพมิรู๎ลืม
เพราะ“หนังสือคืออนุสาวรีย์ที่ทรงคุณค่า แต่มีราคาถูกที่สุด”
๔
ถูกกาหนดให้เกิดแรงบันดาลใจ.....จากผู้นา
นายกพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ ประสงค๑รู๎
ยอดนักสู๎ นายอาเภอจารึก นึกสร๎างสรรค๑
ให๎สืบค๎น ประวัติ เป็นสําคัญ
หลักสูตรนั้น ผ.อ.สมควร ล๎วนผลงาน
นางบุญจันทร์ บัวพา ผู๎ขานรับ
นํามาปรับ เป็นหลักสูตรฯ ภูผามําน
อนุสรณ๑ หนังสือ สื่อตํานาน
รํวมสืบสาน ให๎ธํารง คงนิรันดร๑
นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น
นายจารึก เหล่าประเสริฐ
อดีต นายอาเภอภูผาม่าน
นายสมควร ไกรพน
ผู้อานวยการโรงเรียนภูผาม่าน
๕
นางบุญจันทร์ บัวพา
ครู คศ. ๓ วิทยฐานะชํานาญการพิเศษ กลุํมสาระการเรียนรู๎ภาษาไทย
โรงเรียนภูผามําน อําเภอภูผามําน จังหวัดขอนแกํน
ป๓จจุบันอาศัยอยูํ บ๎านเลขที่ ๑๓๔ หมูํ ๑ ตําบลภูผามําน อําเภอภูผามําน จังหวัดขอนแกํน
ขอน๎อมรับการทํางานสานประโยชน๑ ด๎วยใจโปรดการเขียนเชิงสร๎างสรรค๑
ความสามารถรํวมด๎วยชํวยแบํงป๓น พร๎อมสร๎างสรรค๑ผลงานการวิชา
ได๎บันทึกเรื่องราวที่สืบค๎น เชิญทุกทํานเยือนยลและศึกษา
ปราชญ๑ชาวบ๎านให๎ความรู๎คูํป๓ญญา ภูผามํานมีที่มานําภูมิใจ
“หลักสูตรท้องถิ่นถวิลคิดคืนชีวิตสู่สังคม”
(เรียงร้อยถ้อยภาษา โดย บุญจันทร์ บัวพา)
เกริ่นคา นาเรื่อง ศรัทธาบุคคลที่ชาญฉลาด ทํานคือ “ปราชญ์แห่งภูมิปัญญา”
๖
กราบนักปราชญ์เด่นล้า ปัญญา
บอกเล่าอดีตมา เอ่ยอ้าง
ลูกหลานจ่งศึกษา เติมต่อ สิ่งดี
ผาม่านสืบสานสร้าง ชื่อไว้ตลอดกาล
ปราชญ์ ผู้รู้ ครูประวัติศาสตร์
การสืบค๎นตํานานในครั้งนี้ ประวัติศาสตร๑พอมีอ๎างอิงได๎
กานันเบอร์ ท่านพระครูปราชญ๑ผู๎ใหญํ ตํางรํวมใจพ่อสมพานสานศรัทธา
อีกพ่อรูป พ่อหนูคล้ายใจเอื้อเฟื้อ พ่อบุญเหลือ พ่อบุญเกิดเลาะเสาะหา
ทั้งแม่พู่ แม่ล้อม พร๎อมเจรจา งามคุณคําครูเสน่ห์เก๐ถ๎อยคํา
ครูปิยดา ครูเจริญศรี เลํามาฝาก การแตํงตัวสีดอกหมากแสนงามขํา
อีกผ๎าซิ่นชื่อผ๎าควบควรจดจํา คอยสื่อนําครูสงกรานต์งานวิชา
ครูปัญจาตรวจตราภาษาให๎ นายทรงเกียรติได๎รับใช๎ในผญา
คุณสุนีย์ ผู๎ใหญํบ๎านเอกสารมา อีกทั้งหาตราประทับนับเพิ่มเติม
นายยรรยงชํวยเลําเรื่องอีกครั้ง กาลกํอนหลังนางสวาทฉลาดเสริม
นางนวลอนงค์ นางพรม รู๎เรื่องเดิม จากริเริ่มถึงสําเร็จเสร็จสมใจ
จึงขอกราบขอบพระคุณแทนญาติมิตร คนสนิทพี่น๎องผํองสดใส
ภูผามํานประวัติศาสตร๑แหํงชาติไทย จารึกไว๎ในแผํนดินถิ่นมาตุภูมิ
และยังมีทํานผู๎รู๎อีกหลายๆทํานที่ไมํได๎เอํยนามในที่นี้ คือบุคคลสําคัญที่ให๎ข๎อมูล จนสามารถทําให๎
หนังสือเลํมนี้สําเร็จเสร็จสมบูรณ๑
ประกอบด๎วยได๎สืบค๎นจากหนังสือ วันสถาปนาอําเภอภูผามําน ปี ๒๕๓๗ หนังสือประวัติเมือง
คอนสาร โดย หลานปูุ ฉบับปี พ.ศ.๒๕๓๕ และปี พ.ศ.๒๕๕๑ (นายบุญเกิด แพงจันทร๑ ปราชญ๑ชาวบ๎าน
อําเภอคอนสาร) ซึ่งคอนสารกับภูผามําน เป็นเมืองพี่เมืองน๎องกันมาตั้งแตํอดีตกาล สืบเนื่องจากสภาพ
ภูมิประเทศที่มีพื้นที่เชื่อมตํอกัน โดยมีลําน้ําเซินเป็นสายธารกั้นแบํงเขตแดน ณ สองฝ๓่งเซิน จึงมีวิถีชีวิต
ปราชญ์แห่งภูมิปัญญา
๗
การดํารงอยูํที่ได๎เรียนรู๎รํวมกัน รู๎จักแบํงป๓น รู๎จักสร๎างสรรค๑ จนเกิดซึ่งวิถีวัฒนธรรมประเพณี ปฏิบัติสืบ
ทอดกันมาจากรุํนสูํรุํน รุํนแล๎วรุํนเลํา ตลอดจนสําเนียงเสียงพูดอันเดียวกัน ดังคําพูดที่วํา “สําเนียงสํอ
ภาษา กิริยาสํอสกุล” ทําให๎เป็นหลักฐานอ๎างอิงเชื่อมโยงความสัมพันธ๑ระหวํางอําเภอคอนสารกับอําเภอ
ภูผามํานได๎ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้น จาการบอกเลําของปราชญ๑ชาวบ๎าน ทํานผู๎รู๎ทุกๆทําน ตลอดจน รํองรอย
หลักฐาน เอกสารที่มีอยูํ ทําให๎สามารถถอดรหัสประวัติศาสตร๑ความเป็นมาของอําเภอภูผามําน ได๎อยําง
นําภาคภูมิใจ
ขอให๎คุณงามความดีแหํงผลการกระทํานี้ กํอเกิดประโยชน๑สูงสุดแดํวีรบุรุษ บรรพบุรุษ ปูุยํา ตา
ยาย บุพการี ตลอดจน ลูกหลานชาวอําเภอภูผามําน หากข๎อความในเนื้อหาที่สืบค๎นคลาดเคลื่อนประการ
ใด ก็ต๎องกราบขออภัยไว๎ ณ ที่นี้ ขอน๎อมนําทุกทํานได๎สัมผัส “ประวัติภูผามําน ตํานานเมืองทองคํา ”
“เวลาที่เรียกว่า อดีต ไม่อาจย้อนกลับ
แต่ อดีต เปรียบตาราอันทรงค่าที่น่าสืบค้น”
(เรียงร้อยถ้อยภาษา โดย บุญจันทร์ บัวพา)
นายเบอร์ หนูทัศน์ พระครูสุวรรณจิตตานุกูล นายสมพาน หนูทัศน์
อดีตกานันตาบลโนนคอม เจ้าอาวาสวัดทุ่งสว่าง อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านเซินเหนือ
นายรูป กุลด้วง นายหนูคล้าย ทิพฤาตรี นางล้อม ปลื้มกมล
บ้านโนนสว่าง ต.ภูผาม่าน บ้านห้วยซ้อ ต.ห้วยม่วง บ้านเซินเหนือ ต.โนนคอม
๘
นายบุญเกิด แพงจันทร์ นางพู่ หนูทัศน์
บ้านคอนสาร ต.คอนสาร บ้านโนนสว่าง ต.ภูผาม่าน
นายทรงเกียรติ บัวพา นางสวาท สารเงิน นางนวลอนงค์ ต่อชีวี
อดีต ส.อบจ.ขอนแก่น เขต อ.ภูผาม่าน บ้านปุากล้วยหมู่ ๖ ต.โนนคอม บ้านโนนสว่าง ต.ภูผาม่าน
๙
หลักฐาน แหล่งเรียนรู้/เอกสาร ……สู่แรงบันดาลใจ
อาเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ บ้านพี่เมืองน้อง
แหล่งเริ่ม แหล่งเรียน แหล่งรู้ แหล่งสู้ แหล่งสร้าง แหล่งเสริม แหล่งต่อ แหล่งตาม แหล่งเติม แหล่งเพิ่ม แหล่งพิศ แหล่งพา
อนุสาวรีย๑หลวงพิชิตสงคราม อีกนิยาม เรื่องเลําจาก หลานปูุ
พระเจดีย๑ ๗๐๐ ปี นี้เรียนรู๎ ยอดนักสู๎พํอบุญเกิดประเสริฐชน
อนุสาวรีย์หลวงพิชิตสงคราม
เจ้าเมืองคอนสาร
ตั้งอยู่วัดเจดีย์
อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
วัดเจดีย์อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
เจดีย์ ๗๐๐ ปี เมือง
หนังสือ “เรื่องเล่าเมือง
คอนสาร จากหลานปู่ ”
ปี ๒๕๓๐, ปี ๒๕๕๑
๑๐
อาเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น
ต้นเฉลียงทอง อยู่ในบริเวณวัดเฉลียงทอง ซึ่งมีผึ้งหลวงมาอาศัยอยู่ในอดีตแห่งตานาน
หนังสือวันสถาปนาอาเภอภูผาม่าน ปี พ.ศ.๒๕๓๗ เกียรติบัตรวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ปี พ.ศ. ๒๕๔๒
มอบให้ผู้ สืบค้น นางบุญจันทร์ บัวพา
สืบค้น สืบเสาะ สืบหา ศึกษา ศรัทธา ศาสตร์ศรี แซ่ซร้อง ซึ้งสุด สะดุดี ทราบซ่าน ทราบดี ทราบธรรม
เล่าขานกันเฉลียงทองมองที่ตั้ง มิผิดพลั้งผึ้งหลวงปวงทั้งหลาย
มาอาศัยพักพิงประวิงกาย สืบค้นง่ายเพราะญาติมิตรคิดผูกพัน
๑๑
กุดเขมร ที่มาแห่ง “ผญา” ตานานเมืองทองคา
กุดเก่า กุดน้้า กุดเขมร กุดเกณฑ์ กุดกั้น กุดฝัน กุดรัก กุดอเนก กุดอนันต์ กุดนั้น กุดเกิด กุดมี
กุดน้าและซากหินที่ค้นพบ คือส่วนที่ประสบเลาะเสาะหา
อดีตกาลกุดเขมรกะเกณฑ์มา เรียนรู้ค่าร่วมกันนั้นอย่าลืม
๑๒
ตราประทับเจ้าเมือง
ตราประทับหลวงพิพิธภูมเรศ ทาด้วยงาช้าง
ปัจจุบันอยู่กับ นายเบอร์ เย็นสถิตย์ บ้านนาเขิน อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ มีฐานะเป็นเหลน
๑๓
ตราประทับหลวงพิพิธภูมเรศ ทําด๎วยงาช๎าง บางสํวนอยูํกับ นายแก๎ว เย็นสถิตย๑ บ๎านนาน้ําซํา อําเภอภูผามําน
จ.ขอนแกํน (น๎องชายนายเบอร๑ เย็นสถิตย๑) สืบค๎นพบ มีลักษณะเดียวกันกับตราประทับเจ๎าเมืองสนม จังหวัดสุรินทร๑
ประทับ ประทุ ประเทือง ประเดื่อง ประดับ ประดิษฐ์ ประกาศ ประก้อง ประกิต ประสิทธิ์ ประสาท ประเสริฐ
ตราประทับกับหลักฐานวานให้คิด ใครประดิษฐ์ให้มาพาคิดหวน
สัญลักษณ์เจ้าเมืองเรื่องใคร่ครวญ ทุกอย่างล้วนสรรพสิ่งที่จริงเอย
ปราชญ์แห่งภูมิปัญญา ได๎เลํามา จึงขอย๎อนเวลา สูํ เหตุการณ๑ที่อยากฝาก.....
“จากอดีตกาลแห่งอาณาจักร”
๑๔
สุโขทัยแว่นแคว้น ทรงคิด ครอบครอง
เดิมพ่อขุนศรีทราทิตย์ ก่อตั้ง
กาลสืบต่อเพ่งพิศ คือพ่อ ขุนรามฯ
งามชื่ออยุทธ์รั้ง พระเจ้าอู่ทอง
ในราวปี พ.ศ. ๑๗๖๐ สุโขทัยเริ่มมีฐานะเป็นแวํนแคว๎น โดยมีพํอคุณศรีนาวนําถมเป็นพํอเมือง
กอปรกับ ขอม(อาณาจักรละโว๎หรือลพบุรี) เริ่มเสื่อมอํานาจลง สุโขทัยเริ่มเป็นปึกแผํนมากยิ่งขึ้น หลังจาก
นั้นไมํนานก็เกิดเหตุวุํนวาย โดยมีขอมพวกหนึ่งชื่อวํา “ขอมสบาดโขลนลําพง” ได๎เข๎ายึดเมือง ซึ่งขณะนั้น
พํอคุณศรีนาวนําถมสิ้นชีวิต พํอขุนผาเมืองเจ๎าเมืองราด (เพชรบูรณ๑) รํวมกับพํอขุนบางกลางหาว เจ๎า
เมืองบางยาง (นครไทย) ไปชิงกรุงสุโขทัยคืนมาได๎สําเร็จ พํอขุนผาเมือง จึงยกเมืองให๎พํอคุณบางกลาง
หาว พร๎อมปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย๑ ทรงพระนามวํา “ศรีอินทราบดินทราทิตย๑” (พํอขุนศรีอินทราทิตย๑)
ในปี พ.ศ. ๑๗๙๒ พระองค๑กวาดต๎อนผู๎คนและรวบรวมบ๎านเมืองเป็นปึกแผํน ตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี
ทรงมีพระราชโอรส ๓ พระองค๑ เมื่อพระองค๑สวรรคต โอรสองค๑ที่ ๑ สิ้นพระชนม๑ตั้งแตํงยังเยาว๑ พํอ
ขุนบานเมือง ราชโอรสองค๑ที่ ๒ ทรงปกครองบ๎านเมืองตํอมา ลํวงมาถึงพํอขุนรามคําแหงมหาราช ราช
โอรสองค๑ที่ ๓ ได๎ขึ้นปกครองสืบตํอ พระองค๑เป็นผู๎สร๎างกรุงสุโขทัยให๎เจริญถึงขีดสุด มีการเปิดตลาดการ
ค๎าขายอยํางเสรี โดยไมํเก็บภาษี อาณาจักรสุโขทัยจึงเป็นศูนย๑กลางการค๎าที่สําคัญและเป็นแหลํงรวม
วัฒนธรรมอันหลายหลาก ทรงปกครองแบบพํอปกครองลูก ไพรํฟูาประชาชนอยูํดีกินดีมีความสุขถ๎วน
หน๎ากัน อีกทั้ง ในปี พ.ศ.๑๘๒๖ ทรงประดิษฐ๑อักษรไทย ทําให๎คนไทยได๎มีภาษาเป็นของตนเอง สามารถ
ติดตํอสื่อสารสร๎างความเข๎าใจซึ่งกันและกันได๎งําย สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
กษัตริย๑องค๑ลําดับตํอๆมาคือ พระยาเลอไทย พระยางั่วนําถม ลํวงมาจนถึงปี พ.ศ.๑๘๙๐
สมัยพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไทย/พระยาลือไทย) พระองค๑ทรงศึกษาพุทธศาสนาอยํางแตกฉาน
ทรงพร่ําสอนพระธรรมวินัย พระอภิธรรมให๎พระภิกษุสงฆ๑ ศิลปะทางศาสนาที่เดํนชัดในสมัยของพระองค๑
คือ พระพุทธรูปปางลีลา และพระเจดีย๑ทรงดอกบัวตูมหรือทรงพุํมข๎าวบิณฑ๑ ตลอดจนวรรณคดีที่มีชื่อเสียง
ได๎แกํ ไตรภูมิพระรํวง กษัตริย๑ลําดับตํอมา พระมหาธรรมราชาธิราชที่ ๒ พระมหาธรรมราชาธิราชที่ ๓
จนถึงกษัตริย๑องค๑สุดท๎ายคือ พระมหาธรรมราชาธิราชที่ ๔ รวมกษัตริย๑ราชวงศ๑สุโขทัย ทั้งสิ้น ๙ พระองค๑
สุโขทัยจึงเสื่อมอํานาจลง ตกเป็นเมืองประเทศราชของ กรุงศรีอยุธยา
จากอดีตกาลแห่งอาณาจักร
๑๕
ตํอจากนั้นมา ในปี พ.ศ. ๑๘๙๓ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ๎าอูํทอง) พระปฐมบรมกษัตริย๑
แหํงกรุงศรีอยุธยา จึงทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา เป็นราชธานี
“กาลเวลาไม่เคยหยุดนิ่ง สรรพสิ่งเป็นไปตามกรรม”
(เรียงร๎อยถ๎อยภาษา สืบค๎นจาก หนังสือนามานุกรมพระมหากษัตริย๑ไทย ๒๕๕๔)
จาก.....อดีตกาลแห่งอาณาจักร จึง เป็นที่มา
“จากอาณาจักร.......สู่ตานานเมืองทองคา ”
๑๖
กาลตานานเล่านั้น เมืองทอง เฮาเฮย
ขอมมุ่งหมายเมียงมอง ซ่อนไว้
เพราะหวังว่าครอบครอง คงบ่ สูญนา
วันหนึ่งสมบัติไซร้ ค่าล้านาคืน
พํอรูป กุลด๎วง ปราชญ๑ชาวบ๎านเลําวํา ภูผามํานมีเรื่องราวเลําสืบตํอกันมาวํา ในชํวงที่พระมหา
ธรรมราชาธิราชที่ ๑ (พระยาลิไท/พระยาเลอไท) ทรงปกครองอาณาจักรสุโขทัย นั้น ขอมเริ่มแผํอํานาจ
อีกครั้ง ซึ่งในสมัยกํอน อาณาจักรตํางๆก็จะแยํงชิงอํานาจกันโดยใครมีกําลังทหาร มีนักรบเกํงกล๎าก็จะยก
ทัพไปตีเมืองตําง ๆ เพื่อมาเป็นเมืองขึ้นของตนเอง ซึ่งเมืองที่ตกเป็นเมืองขึ้นก็จะทําหน๎าที่สํงสํวย (สํวย
เป็นคํานาม หมายถึง ของที่เรียกเก็บจากพื้นเมืองสํงเป็นภาคหลวงตามวิถีเรียกเก็บภาษีอากรในสมัย
โบราณ) มีขอมกลุํมหนึ่งได๎อพยพมาอาศัยอยูํในเขตพื้นที่ทางทิศตะวันตกของบ๎านโนนสวําง
อําเภอภูผามําน ซึ่งบริเวณเหลํานั้นชาวบ๎านเรียกติดปากกันมานาน และก็ยังเรียกกันอยูํจนถึงป๓จจุบัน วํา
“กุดเขมร”(ขอม) ขณะที่ขอมแผํอํานาจเข๎ามา พระองค๑ก็ไมํได๎นิ่งนอนพระหฤทัย ได๎สํงกําลังทหารมา
ปราบขอม กองทัพทหารได๎มาตั้งฐานทัพ และสร๎างปูอมปราการโดยขุดรํองคูคลองเพื่อปูองกันศัตรูไว๎
โดยรอบ (บริเวณปุาช๎าข๎างวัดราษฎร๑ศรัทธาธรรม บ๎านโนนสวําง ในป๓จจุบัน) เขมรและสุโขทัยได๎ตํอสู๎กัน
เป็นระยะเวลาเกือบ ๒ ปี เขมรรู๎ดีวํา กําลังตนเองน๎อยกวําเห็นทีจะสู๎กับ สุโขทัยไมํได๎ จึงนําเอาสิ่งของที่มี
คําบางสํวนฝ๓งไว๎ในดิน และอีกสํวนหนึ่งนําไปซํอนไว๎ในถ้ําหํางจากกุดเขมรประมาณ ๓ กิโลเมตร ซึ่ง
ป๓จจุบันอยูํบริเวณเทือกเขาภูผามําน มีถ้ําอยูํเป็นจํานวนมาก แตํถ้ําที่มีรํองรอยหลักฐานที่สืบทอดมาเป็น
ประเพณีตั้งแตํโบราณ คือ “ถ้ําพระ” ในอดีตคนเฒําคนแกํ ผู๎อาวุโสเลําวํา บริเวณ ถ้ําพระ ได๎ค๎นพบ
พระพุทธรูปเป็นจํานวนมาก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีคํา ทําด๎วยทองสัมฤทธิ์ ทองคําแท๎ แกะสลักด๎วยไม๎ก็มี
แตํป๓จจุบันสูญหายไปมาก เพราะไมํมีใครเห็นความสําคัญ มีการลักขโมยไปบ๎าง คงเหลือเพียงพระพุทธรูป
ที่แกะสลักจากไม๎เทํานั้น ที่พอเป็นรํองรอยหลักฐานได๎วําเป็นสมบัติสํวนหนึ่งของขอม อาจจะเป็นเพราะมี
พระพุทธรูปเหลืออยูํให๎เห็น ณ ถ้ําแหํงนี้ จึงทําให๎ชาวบ๎านเรียกชื่อถ้ําวํา “ถ้ําพระ” เพราะเป็นชื่อที่เรียก
กันมาตั้งแตํอดีตกาล ด๎วยความศรัทธา และความเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ บุคคลที่ลํวงล้ํานําของมีคํา
ดังกลําวไป มักพบกับภัยพิบัติอันหาสาเหตุไมํได๎ ผู๎เฒํา ผู๎แกํ ผู๎อาวุโส ได๎ยึดถือปฏิบัติด๎วยศรัทธาอันแรง
กล๎า ตลอดจนคุณธรรมที่ถูกปลูกฝ๓งในกรอบของพุทธศาสนา ทําให๎ชาวบ๎านมีความงดงามด๎านจิตใจ
ซื่อสัตย๑ สุจริต เสียสละ มีความมักน๎อย สันโดษ พร๎อมกับความเชื่อทางไสยศาสตร๑ รู๎จักบาปบุญคุณโทษ
ดังนั้นจะห๎ามญาติพี่น๎องไมํให๎เข๎าไปลํวงล้ําในบริเวณนั้นเป็นอันขาด และก็จะนําพาบุตรหลานไปสรงน้ํา
พระพุทธรูปในถ้ําทุกปี ถือเป็นประเพณีปฏิบัติ เรียกวํา “ประเพณีสรงน้ําพระ”(จะทําหลังประเพณีตรุษ
สงกรานต๑ประมาณ ๑๕ วัน ซึ่งก็ยังยึดถือปฏิบัติมาจนถึงป๓จจุบัน แตํจะเลือกวันที่สะดวกในระยะ
จากอาณาจักร...สู่ตานานเมืองทองคา
๑๗
๑-๑๕ วัน ) ทํานผู๎รู๎เลําวํา เขมร(ขอม)มีสิ่งของที่เป็นสมบัติล้ําคํามากมาย เชํน พระพุทธรูปทองคํา วัตถุ
โบราณ เครื่องไม๎เครื่องมือ ซึ่งเขมรได๎นําพระพุทธรูปไปเก็บไว๎ในถ้ําพระ และถ้ําอื่นๆ ทั้งนี้อาจจะมีสมบัติ
ล้ําคําสิ่งอื่น ซึ่งคงอยูํตามถ้ําภายในบริเวณเทือกเขาภูผามําน เมื่อนําสิ่งของมีคําเข๎าไปซํอนพร๎อมปิดปาก
ถ้ําไว๎ แล๎วอาจจะทําสัญลักษณ๑ซึ่งเป็นลายแทงขุมทรัพย๑โบราณ ด๎วยหวังเอาไว๎วํา สักวันหนึ่งจะกลับมา
เอาสมบัติล้ําคํานั้นกลับคืน
“ ทรัพย์สมบัติคือของนอกกาย ไม่ตายหาได้ แต่อะไรเล่าที่
มนุษย์พึงคิด พึงทา เพื่อเพื่อนมนุษย์”
(เรียงร้อยถ้อยภาษา สืบค้นจากภูมิปัญญา ปราชญ์ชาวบ้าน พ่อรูป กุลด้วง, พ่อสง่า นาดมั่น, แม่พู่ หนูทัศน์)
ถ้้าพระ ถ้้าพิศ ถ้้าเพริศ ถ้้าลอด ถ้้าเลิศ ถ้้าล้้า ถ้้าเก่า ถ้้าเกิด ถ้้ากรรม ถ้้าค้า ถ้้าค้้า ถ้้าคูณ
ถ้าพระคือที่มาพาให้คิด ถ้าพระคือลิขิตตานานล้า
ถ้าพระคือคาบอกเล่าจงจดจา ถ้าพระคือเขมรนาซ่อนทองคา
ถ้าพระ.......สถานที่ที่เล่าต่อๆ กันมาว่า เป็นที่เก็บซ่อนสมบัติโบราณอันล้าค่า
จากอาณาจักร...สู่ตานานเมืองทองคา จึงเกิดสถานที่ชี้ชัดให้เห็น
“กุดเขมร.......... ที่มาแห่งตานาน”
๑๘
กุดเขมร ชื่อนี้ มีมา นานเนา
ในหมู่ขอมศรัทธา ก่อไว้
คงเหลือร่องรอยพา สืบส่ง เรื่องราว
โนนสว่าง จดจาได้ ถิ่นนี้บ้านเฮา
คําวํา “กุด” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานปี พ. ศ. ๒๕๔๒ อธิบายไว๎วํา กุด (ถิ่นอีสาน)
น. บึง ลําน้ําที่ปลายด๎วน พํอรูป กุลด๎วง และแมํพูํ หนูทัศน๑ ปราชญ๑ชาวบ๎านได๎ให๎ความหมายเพิ่มเติม
วํา “กุด” เป็นภาษาเขียนที่สะกดตามหลักคําไทยแท๎ ซึ่งชาวขอม(เขมร) ได๎ขุดรํองคูคลองเพื่อเก็บกักน้ํา
เอาไว๎ใช๎ในฤดูแล๎งหรือยามขาดแคลน เพราะชาวบ๎านในสมัยกํอนจะอาศัยแมํน้ําเป็นหลักในการดํารงชีวิต
กุดเขมร เป็นรํองคูคลองที่อาศัยน้ําจากลําน้ําเซิน มีน้ําไหลตลอดทั้งปี อีกนัยหนึ่ง ได๎อธิบายไว๎วํา ขอม ได๎
ขุดหลุมเพาะไว๎เพื่อปูองกันศัตรู ณ บริเวณดังกลําวมีรํองรอยฐานสถูปเจดีย๑ที่ขอม(เขมร) สร๎างขึ้นเพื่อไว๎
เคารพบูชา มีขนาดไมํใหญํนัก แสดงวําอาจเป็นเพียงชุมชนเล็กๆ พบรํองรอยซากอิฐที่หักพังเป็นก๎อนเล็ก
ก๎อนน๎อย ก๎อนอิฐมีลักษณะเป็นหินทราย จากการไปสืบค๎นพบวํา ลักษณะหินคล๎ายหินทรายที่สร๎าง
ปราสาทหินพิมาย จ.นครราชสีมา ปราสาทหินพนมรุ๎ง จ.บุรีรัมย๑ ซึ่งเป็นศิลปกรรมการกํอสร๎างตามแบบ
ฉบับของขอมโบราณ และในสมัยตํอมาบริเวณดังกลําวอยูํในอาณาเขตของธรณีสงฆ๑ เพราะมีการสร๎างวัด
สร๎างกุฏิให๎เป็นที่อยูํของภิกษุสงฆ๑ เป็นวัดเกํา ชาวบ๎านบางคนจึงเข๎าใจผิดคิดวํา กุด คือ กุฏิ (อํานวํา กุ-ติ
แตํชาวบ๎านจะอํานวํา กุด เพียงพยางค๑เดียว) แตํความจริงจากตํานานความเป็นมา จากการบอกเลํา
คําวํา “กุดเขมร” ลําน้ําที่มีลักษณะเป็นบึง เป็นแอํงน้ํา ที่มนุษย๑ใช๎ภูมิป๓ญญาเก็บกักน้ําไว๎ให๎มีน้ําใช๎ได๎ตลอด
ทั้งปี หรืออาจจะเป็นหลุมเพาะที่ทําไว๎ปูองกันศัตรู ซึ่ง ป๓จจุบันวัดดังกลําวได๎ย๎ายออกมา ตั้งอยูํทางทิศ
ตะวันออกของหมูํบ๎านคือ วัดราษฏร๑ศรัทธาธรรม บ๎านโนนสวําง อําเภอภูผามําน จังหวัดขอนแกํน แตํ
เนื่องจากวํา ป๓จจุบันมีชาวบ๎านบางกลุํมที่ขาดแคลนที่ทํากิน ได๎ขอเชําพื้นที่ดังกลําว เพื่อขุดไถํที่ดินทําไรํ
ซึ่งบริเวณนั้นนิยมทําไรํพริก ไรํมะเขือ ไรํข๎าวโพด ไรํอ๎อย ชาวบ๎านที่ทําไรํเคยขุดพบไหโบราณ ภายในไห
มีกระดูก ขุดพบพระพุทธรูป ขวาน มีด วัตถุโบราณ และสิ่งของมีคําอื่นๆ ตกเย็นหลับฝ๓นไปวํา เจ๎าที่เจ๎า
ทางมาทวงทรัพย๑สมบัติคืน ชาวบ๎านบางคนตกใจกลัวจนจับไข๎หัวโกร๐น เมื่อมีการบอกเลําปากตํอปาก ถึง
เรื่องเร๎นลับที่ไมํนําเชื่อ แตํห๎ามลบหลูํ จึงทําให๎ไมํมีใครกล๎าไปขุดหาสิ่งของและวัตถุโบราณที่บริเวณนั้นอีก
เพราะยังมีสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ ความเชื่อเรื่องไสยศาสตร๑ของชาวบ๎านซึ่งยากจะหาบทพิสูจน๑ได๎ เลํากัน
วํา เจ๎าที่เจ๎าทาง ณ บริเวณนั้นแรงมาก ซึ่งแตํเดิมหมูํบ๎านที่เป็นที่ตั้งของ กุดเขมร เรียกวํา บ๎านโคก
ขวาง (โคก หมายถึง ที่ราบที่มีลักษณะโนนสูง ภาษาเขมร เรียก โคก เชํนกัน หมายความวํา ที่ไมํมีน้ํา
กุดเขมร.......... ที่มาแห่งตานาน
๑๙
,แห๎ง) เพราะตั้งหมูํบ๎านขวางพระอาทิตย๑ จึงเรียกตามลักษณะดังกลําว ตํอมาเห็นวําชื่อหมูํบ๎านไมํเป็นสิริ
มงคล เพราะคําวํา”ขวาง” มีความหมายวํา กีดขวาง จึงเปลี่ยนชื่อใหมํ เป็น บ๎านโนนสวําง ซึ่งก็เรียกตาม
ทําเลที่ตั้งเพราะพื้นที่หมูํบ๎าน บริเวณหมูํบ๎านในอดีตสํวนมากตั้งอยูํริมแมํน้ําเซิน ซึ่งเป็นแมํน้ําสายหลัก
ของชุมชนเพื่อความสะดวกในการทํามาหากิน ถึงฤดูน้ําหลาก น้ําทํวมบ๎านเรือน ทําให๎ยุํงยากในการขนย๎าย
ข๎าวของ ชาวบ๎านบางกลุํมทนไมํไหวจึงอพยพครอบครัวมาอยูํบริเวณที่โนนสูง และบริเวณดังกลําวมีพระ
อาทิตย๑สํองสวํางแจํมจ๎า จึงเรียกชื่อวํา “บ๎านโนนสวําง” มาจนถึงป๓จจุบันนี้ ชุมชนดั้งเดิมที่ไมํยอมย๎ายมา
เชํน บ๎านเซินเหนือ บ๎านเซินใต๎ บ๎านทํากระบือ ก็ยังมีน้ําทํวมขังในฤดูน้ําหลาก ในเดือน สิงหาคม-
ตุลาคม ของทุกปี (น้ําทํวม ชาวบ๎านเรียกวํา น้ําออก) ถ๎าปีไหนน้ําไมํออกหรือน้ําไมํทํวมจะไมํใชํภูผามําน
ชาวบ๎านยังกังวลใจ ถ๎าน้ําออกเมื่อไหรํทุกคนจะรับรู๎และรับทราบรํวมกันวํา เสร็จสิ้นแหํงฤดูกาล เริ่มยําง
เข๎าสูํฤดูแหํงการเก็บเกี่ยวซึ่งคาบเกี่ยวกับวันเวลา ปลายฝนต๎นหนาว กําลังมาเยือน อีกครั้งแหํงปี
จากวันนั้น ไมํมีใครพบเห็นขอม(เขมร)กลับมาขุดค๎นหาสมบัติใดใด (มีเพียงคําบอกเลําวําเคยมีคน
บางกลุํมมาสอบถามถึงสมบัติล้ําคํา แตํไมํมีใครให๎คําตอบได๎) จวบจนถึงวันนี้ ไมํมีใครกล๎าลํวงล้ําเข๎าไปยัง
เขตแหํงขุนเขาลําเนาปุา ไมํมีใครกล๎าขุดหาขุมทรัพย๑มหาศาล ไมํมีใครกล๎าสํารวจถ้ําภายในเทือกเขา
ภูผามํานอยํางจริงจัง เพราะยังมีสิ่งเร๎นลับเหนือธรรมชาติที่ยากจะหาใครท๎าพิสูจน๑ได๎ ตลอดจนความสูงชัน
มั่นคง แข็งแกรํงของภูเขาหินปูนทั้งลูก มีหน๎าผาที่เปรียบเหมือนผ๎ามําน ตั้งตระหงํานโดดเดํน ท๎าลม แดด
ฝน มาหลายชั่วอายุขัย พร๎อมกับความเชื่อเรื่องเจ๎าที่เจ๎าทางสมบัติโบราณ และ ป๓จจุบันพื้นที่ดังกลําวอยูํ
ในเขตอุทยานแหํงชาติภูผามําน จึงไมํมีใครกล๎าไปรุกล้ํา คงเหลือไว๎แตํความทรงจํา ที่กลั่นออกมาเป็น
บทผญาลายแทงตํานานเมืองทองคํา อําเภอภูผามําน จังหวัดขอนแกํน
“บางเรื่องจะเชื่อหรือไม่ อย่าลบหลู่ เพราะการหลบลู่ไม่ใช่สิ่งดีงาม”
(เรียงร๎อยถ๎อยภาษา สืบค๎นจากภูมิป๓ญญา ปราชญ๑ชาวบ๎าน พํอรูป กุลด๎วง, พํอสงํา นาดมั่น, แมํพูํ หนูทัศน๑)
๒๐
กุดเขมร...... ที่มาแห่งตานาน สร๎างวรรณกรรมนําภาษา “ผญา ปรัชญา ปัญญา”
๒๑
ผญาคาแน่แท้ ปรัชญา ปัญญาเฮย
คุณค่างามภาษา เด่นล้า
อีสานบ่งบอกมา ยายย่า สอนสั่ง
อีกปูุตาคอยค้า ร่วมฟื้นผญาเฮา
ผญา เป็นวัฒนธรรมทางภาษาของไทยอีสาน ป๓จจุบัน ผญา หาฟ๓งจากคนรุํนใหมํได๎ยากยิ่งนัก
เพราะในสังคมอีสานถูกกลืนด๎วยวัฒนธรรมหลายหลาก สืบเนื่องจากความเจริญก๎าวหน๎าด๎านการคมนาคม
เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ด๎านวิทยาการ การสื่อสารตํางๆ รวมทั้งภาษา ซึ่งภูผามํานก็เป็นอีกชุมชน
หนึ่งที่มีภาษาเป็นของตนเอง ภาษาซึ่งเป็นวรรณกรรมอันสําคัญในการสืบค๎นรํองรอยในอดีต ทั้งนี้ยังคง
พอมีอยูํบ๎างที่มองเห็นเป็นรูปธรรมที่ได๎ให๎ความสําคัญนําเอาผญา มาใช๎เป็นภาษาในการประกอบการแสดง
หมอลํา ทั้งการดําเนินเรื่อง การสนทนา การเจรจาตํางๆ ผญาจะประกอบไปด๎วยคําคม คําปริศนา และ
คํากลอนที่ไพเราะกินใจ ในสมัยกํอนคําพูดที่พํอแมํ ปูุยํา ตายายใช๎สอนบุตรหลานนั้นจะบรรจุไว๎ใน ผญา
ทุกวันนี้เรื่องการสอนจะฝากไว๎ให๎กับทางโรงเรียน ทั้งๆที่คํอนชีวิตของคนเราอยูํกับครอบครัว เด็กๆถูก
กําหนดบทบาท กิริยามารยาทจากการดูทีวี วีซีดี ภาพยนตร๑ อินเตอร๑เน็ต ความก๎าวหน๎าของระบบสื่อสาร
ที่ไร๎พรมแดนเสียเป็นสํวนใหญํ แล๎วความงดงามทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษอุตสําห๑สั่งสมเป็นแบบอยํางของ
ความงามทางภาษา ซึ่งไมํต๎องลงทุน เป็นทรัพย๑สินทางป๓ญญาที่ทรงคุณคํา จะหลงเหลือไว๎ให๎ได๎ชื่นชม
ซาบซึ้ง สักเทําไหรํ เพราะ เพลานี้ เด็กไขวํคว๎าหาวัตถุ หาใชํจิตใจไมํ
ทํานผู๎รู๎อีกทํานหนึ่ง คือ นายทรงเกียรติ บัวพา อดีตสมาชิกสภาองค๑การบริหารสํวนจังหวัด
ขอนแกํน เขตอําเภอภูผามําน ขณะที่ทํานกําลังศึกษาตํอในระดับปริญญาโท สาขาไทยศึกษาเพื่อการ
พัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย อําเภอเมือง จังหวัดเลย ข๎าพเจ๎าได๎มีโอกาสอํานผลงานของทํานที่ตีพิมพ๑
ในวารสาร “คูณแคน” ของ นายพงษ๑ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ๑ นายกองค๑การบริหารสํวนจังหวัดขอนแกํน
ทํานเขียนไว๎วํา ผญา เป็นคําประพันธ๑ชนิดหนึ่งของชาวอีสาน ที่ควรรํวมกันฟื้นฟู สืบทอด อนุรักษ๑ให๎เป็น
มรดกแกํคนรุํนใหมํ เพราะ ผญา เป็นจุดเริ่มต๎นที่สําคัญที่สุดที่จะเกิดวรรณกรรมอีสานประเภทคํากลอน
คําสอน ทํานผู๎รู๎หลายทําน เชํน อาจารย๑เจริญชัย ชนไพโรจน๑ อาจารย๑พรชัย ศรีสารคาม อาจารย๑อุดม
ศรีบัว อาจารย๑จารุบุตร เรืองสุวรรณ และอีกหลายทํานที่มารํวมสัมมนาเพลงพื้นบ๎านที่มหาวิทยาลัยศรี
นครินทรวิโรฒมหาสารคาม อําเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม จัดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ทุกคนมี
ความเห็นสรุปวํา “ ผญา” มาจากคําวํา “ ป๓ญญา” หรือ “ ปรัชญา” ในวิทยานิพนธ๑ของทํานผู๎รู๎หลาย
ทํานก็สรุปออกมาเชํนเดียวกัน
ผญา ปรัชญา ปัญญา
๒๒
ผญา จึงถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร๑อยํางหนึ่งซึ่งมีรํองรอยสามารถใช๎เป็นข๎อมูลในการ
สืบค๎นความเป็นมาของเรื่องราวในอดีตได๎ ซึ่งคําวํา ผญา เป็นรากศัพท๑ที่ถูกกําหนดขึ้นในคนยุคใหมํของ
ชาวอีสาน ในอดีต อาจจะเป็นคํากลําวที่พ๎องคํา พ๎องเสียง พ๎องความหมาย เพื่อให๎งํายตํอการจดจํา อาทิ
ในสมัยพํอขุนรามคําแหงมหาราช กษัตริย๑แหํงกรุงสุโขทัย ที่ทรงประดิษฐ๑อักษรไทย ยังมีคํากลําววํา “ใคร
ใครํค๎าม๎าค๎า ใครใครํคําช๎างค๎า” ซึ่งแสดงให๎เห็นวิถีชีวิตของคนสมัยสุโขทัยที่มีความอุดมสมบูรณ๑มีการ
แลกเปลี่ยนซื้อขายอยํางเสรี ดังนั้นบทผญาลายแทงภูผามํานตํานานเมืองทองคํา ที่เป็นรํองรอยหลักฐานที่
เหลือไว๎ให๎ลูกหลานได๎ยินได๎ฟ๓ง เป็นแรงบันดาลใจที่ผลักดันในการสืบค๎นประวัติภูผามํานในครั้งนี้
และผญาบทนี้เป็นคํากลําวที่มีมาปากตํอปาก จากรุํนสูํรุํน รุํนแล๎ว รุํนเลํา และจะยังคงกลําวถึงในหมูํชนคน
ผู๎รู๎ ซึ่งทํานผู๎รู๎อีกทํานหนึ่ง คือ ครูเสนํห๑ หนูทัศน๑ อายุ ๕๓ ปี หลานชายของกํานันเบอร๑ หนูทัศน๑
ป๓จจุบันเป็นข๎าราชการครูโรงเรียนบ๎านโนนคอม ตําบลโนนคอม อําเภอภูผามําน ทํานเป็นคนภูผามํานโดย
กําเนิด ทํานเลําวําขณะทํานเป็นเด็ก มีคนกลุํมหนึ่งประมาณ ๑๕ - ๒๐ คน ได๎มาสอบถามถึงเรื่องราว
ตํางๆ แตํสื่อสารกันไมํรู๎เรื่อง เพราะใช๎ภาษาคนละภาษา มีชาวบ๎านคนหนึ่งพอรู๎ภาษาอยูํบ๎าง จึงได๎
สอบถาม รู๎วําเป็นชาวขอม(เขมร) ได๎มาสอบถามถึงบริเวณตํางๆในเขตเทือกเขาภูผามําน มีเอกสารซึ่งเป็น
เหมือนแผนที่ลายแทงอะไรสักอยําง แตํไมํมีใครรู๎วํามาเสาะสืบหาอะไร ทํานเองเป็นเด็กก็ได๎แตํยืนมองดู
เหตุการณ๑ จึงเป็นเรื่องเลําบอกตํอๆกันมาถึงเหตุการณ๑ครั้งนั้น จากการบอกเลําดังกลําว จึงได๎มีบุคคลใน
ยุคใหมํ ซึ่งไมํใชํคนภูผามําน ทราบวําเป็นข๎าราชการที่เคยมาทํางานที่ภูผามําน ได๎ยินได๎ฟ๓งความเป็นมา
ของภูผามําน จึงได๎คิดบทผญาไว๎
จึงขอนําเสนอเรื่องราวในบทผญา ที่ทํานซึ่งไมํทราบแนํชัดวําเป็นใคร รู๎แตํเพียงวําทํานเป็น
ข๎าราชการที่มาปฏิบัติงานอยูํที่ภูผามําน ทํานได๎ถํายทอดองค๑ความรู๎โดยใช๎ภูมิป๓ญญาทางภาษาบันทึก
เรื่องราว ทําให๎ชาวภูผามํานมีรํองรอยในการสืบค๎นรากเหง๎าแหํงอดีตที่นําภาคภูมิใจ ขอกราบขอบพระคุณ
ทําน แทนชาวอําเภอภูผามําน และขออนุญาต นําบทผญา มากลําวอ๎าง เพื่อนํามาบันทึกเป็นตํานานอ๎างอิง
สูํประวัติศาสตร๑ ของชาวภูผามําน
ค่าของคนคือผลแห่งการงาน ค่าของกาลเวลาพาเปลี่ยนหมุน
ค่าชีวิตเพ่งพินิจคิดการุณย์ ค่าแห่งบุญเป็นผู้ให้ใจเบิกบาน
“ผญา ปรัชญา หรือ ปัญญา สร้างศรัทธาด้วยสติ”
(เรียงร๎อยถ๎อยภาษา สืบค๎นจากทํานผู๎รู๎ นายทรงเกียรติ บัวพา)
ผญา ปรัชญา ปัญญา คือที่มา
“คาผญา ลายแทงขุมทรัพย์โบราณ”
๒๓
คาผญาว่าไว้ จดจา อย่าลืม
เพื่อสื่อสารลานา แม่นหมั้น
ขุมทรัพย์แห่งทองคา คนไปุ- รู้นา
มีค่าแสนโกฏินั้น อาจค้นสืบเจอ
คาผญา ออกเสียงแบบภาษาถิ่นอีสาน
“แตํกํอนกี้พันแปดปีปลาย มีเมืองทองอยูํภูผามําน ไฟไหม๎ม๎างเมืองทองมุดมอด
หมดมอดเมี้ยนซุมเซื้อเผําพันธุ๑ มีดาบสเฒํานําทองลี้ซํอนในถ้ํากว๎างกลางด๎าวหนํวยภูเป็นทอง
แท๎ราคาแสนโกฏิ บุญบํมาวาสนาบํให๎ แสนสิค๎นกะบํเห็น”
คาผญา ออกเสียงแบบภาษาภูผาม่าน
“แตกํอนกี๊พันแปูดปีปลาย หมี่เมืองทองหยูํภูํผ๎าม๏าน ใฝุไหม๎หม๎างเมืองทองหมุดหม๎อด
หมดหม๎อดเหมื้อนซุํมเซื้อเผําผั๊น มีดาบสเฒ๎านําทองหลี้ซ๎อนในถ้ํากว๏างกลางด๎าวหนวยภูํ
เป็นทองแท๏ราคาแส๏นโก๎ฏิ บุญบํหมําว๎าสหนาบํให๎ แซนสิค๎นกะบํเฮ๎น”
กาลครั้งหนึ่งเมื่อ ๑,๘๐๐ ปีเศษ (สันนิษฐานวําเป็นปี พ.ศ. ๑,๘๐๐) ผํานมาแล๎ว ได๎มีเมืองๆ
หนึ่งที่บ๎านเรือนสร๎างขึ้นด๎วยทองคําอยูํภูผามําน (ตําบลภูผามําน หรือชื่อ อําเภอภูผามํานในป๓จจุบัน)
ตํอมาได๎ถูกเผาผลาญทั้งบ๎านเรือนและผู๎คนล๎มตายไปสิ้น หากแตํมีผู๎ทรงศีลรูปหนึ่งได๎รอดชีวิตจาก
เหตุการณ๑ครั้งนั้น เพราะทํานจําศีลภาวนาอยูํในถ้ําลึกจึงได๎รอดพ๎นจากความตาย ทํานจึงเก็บรวบรวม
ทองคําลําเลียงเข๎าไปซํอนไว๎ในถ้ําใหญํใจกลางภูเขา ราคาทองคําแท๎ทั้งหมดที่เก็บซํอนไว๎นับได๎แสนโกฎิ (๑
โกฏิ มีคําเทํากับ ๑๐ ล๎าน) ตํอมาแม๎จะมีผู๎คนมากมายอยากจะได๎มาครอบครอง แตํหากผู๎คนเหลํานั้น
มิมีบุญญาธิการและแรงบุญบารหนุนสํงแล๎ว ถึงจะเพียรพยายามค๎นหาอยํางไรก็ไมํสามารถพบเห็นได๎ นี่
เป็นผญาลายแทงขุมสมบัติภูผามํานโบราณ ผญาลายแทงตํานานเมืองทองคํา ได๎เลําสืบตํอกันมาหลายชั่ว
อายุคนจากบรรพบุรุษสูํลูกหลาน ซึ่งทํานปราชญ๑ของหมูํบ๎านได๎บอกเลําวํา ไมํมีหลักฐานยืนยันวํา
แนํนอนวํามีมากี่พันปีแล๎ว แตํเชื่อวําจากคําผญา กลําวไว๎ พันแปดปีปลาย( ปี พ.ศ. ๑,๘๐๐ ปีเศษ)
นําจะอยูํในชํวงสมัยอาณาจักรสุโขทัย ซึ่งอยูํใชํวงพระมาหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไทย) ซึ่งตรงกับคํา
บอกเลําของคุณตารูป กุลด้วง ปราชญ๑ชาวบ๎าน
ผญาลายแทงตํานานเมืองทองคํา อาจจะเป็นเพียงตํานานที่สืบค๎นจากข๎อมูลคติชนวิทยาเกี่ยวกับ
มุขปาฐะ(ความเชื่อ) ซึ่งผู๎อาวุโส ปราชญ๑ของหมูํบ๎านได๎ให๎ข๎อมูลไว๎เป็นหลักฐาน ล๎วนแตํเป็นข๎อมูลที่มี
คาผญา ลายแทงขุมทรัพย์โบราณ
๒๔
ความนําเชื่อถือ แตํยังไมํมีหนํวยงานใดหรือใครจะรับอาสาพิสูจน๑ความจริงตามตํานานนั้น เนื่องจาก
สาเหตุที่กลําวมาแล๎วข๎างต๎น แตํสิ่งที่คงเหลือไว๎ก็คือ ความภาคภูมิใจในตํานานเรื่องราวบ๎านเกิดเมืองนอน
ของชาวภูผามําน พร๎อมด๎วยธรรมชาติที่สวยสดงดงามคงความเป็นธรรมชาติยากที่จะหาที่ใดเปรียบได๎
สมควรอยํางยิ่งที่จะต๎องรํวมกันอนุรักษ๑ไว๎ให๎เป็นสมบัติของลูกหลานสืบตํอไป ไมํแนํในอนาคตอันใกล๎นี้
อาจจะมีลูกหลานชาวภูผามํานเป็นผู๎มีบุญญาภิสมภารค๎นพบลายแทงตํานานเมืองทองคําที่กลําวไว๎ใน
บทผญา ก็เป็นได๎ ใครจะไปรู๎
“ความยากง่ายของการได้มาไม่สาคัญ
สาคัญอยู่ว่า ใครจะเห็นคุณค่าและรักษาได้ยั่งยืน”
(เรียงร๎อยถ๎อยภาษา สืบค๎นจากภูมิป๓ญญาปราชญ๑ชาวบ๎าน พํอรูป กุลด๎วง, แมํพูํ หนูทัศน๑, นายทรงเกียรติ บัวพา)
หากมีทรัพย์เป็นทองกองเต็มหน้า ไร้จรรยามารยาทวาดแต่งเสริม
คงหมดงามหมดค่าราคาเดิม จงคิดเพิ่มให้เหมือนทองมองที่ใจ
คาผญา ลายแทงขุมทรัพย์โบราณ ทํานผู๎รู๎ขอฝากมุมมอง...เพื่อ
“วิเคราะห์เจาะลึก ผนึกเมืองทองคา”
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"
หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"

More Related Content

What's hot

ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6sapatchanook
 
แผนการเรียนรู้สุภาษิต
แผนการเรียนรู้สุภาษิตแผนการเรียนรู้สุภาษิต
แผนการเรียนรู้สุภาษิตyaowarat Lertpipatkul
 
บทที่ 4 การอ่านตีความ
บทที่ 4 การอ่านตีความบทที่ 4 การอ่านตีความ
บทที่ 4 การอ่านตีความAj.Mallika Phongphaew
 
หนังสือรุ่นโรงเรียนบ้านหินลับศิลามงคล ปีการศึกษา 2551
หนังสือรุ่นโรงเรียนบ้านหินลับศิลามงคล ปีการศึกษา 2551หนังสือรุ่นโรงเรียนบ้านหินลับศิลามงคล ปีการศึกษา 2551
หนังสือรุ่นโรงเรียนบ้านหินลับศิลามงคล ปีการศึกษา 2551Tos Prom
 
ลักษณะรูปเรขาคณิต
ลักษณะรูปเรขาคณิตลักษณะรูปเรขาคณิต
ลักษณะรูปเรขาคณิตkhanida
 
ประวัติส่วนตัว''วิ
ประวัติส่วนตัว''วิประวัติส่วนตัว''วิ
ประวัติส่วนตัว''วิwitinee
 
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ รร โนนสะอาดพิทยา 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ รร โนนสะอาดพิทยา 1แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ รร โนนสะอาดพิทยา 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ รร โนนสะอาดพิทยา 1KruKaiNui
 
โทษของแอลกอฮอล์และบุหรี่
โทษของแอลกอฮอล์และบุหรี่โทษของแอลกอฮอล์และบุหรี่
โทษของแอลกอฮอล์และบุหรี่พัน พัน
 
แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดประชุมสัมมนาโครงการสภานักเรียน ประจำปี ๒๕๕๘
แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดประชุมสัมมนาโครงการสภานักเรียน ประจำปี ๒๕๕๘แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดประชุมสัมมนาโครงการสภานักเรียน ประจำปี ๒๕๕๘
แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดประชุมสัมมนาโครงการสภานักเรียน ประจำปี ๒๕๕๘Duangnapa Inyayot
 
ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง ปีการศึกษา 2553
ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง  ปีการศึกษา 2553ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง  ปีการศึกษา 2553
ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง ปีการศึกษา 2553Yutthana Sriumnaj
 
ตัวอย่างบันทึกความดีครูทับทิม
ตัวอย่างบันทึกความดีครูทับทิมตัวอย่างบันทึกความดีครูทับทิม
ตัวอย่างบันทึกความดีครูทับทิมทับทิม เจริญตา
 
แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013
แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013
แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013Kruthai Kidsdee
 
ตัวอย่างหนังสือประกาศ
ตัวอย่างหนังสือประกาศตัวอย่างหนังสือประกาศ
ตัวอย่างหนังสือประกาศWoodyThailand
 
แนวทางการดำเนินงานกิจกรรมสภานักเรียน
แนวทางการดำเนินงานกิจกรรมสภานักเรียนแนวทางการดำเนินงานกิจกรรมสภานักเรียน
แนวทางการดำเนินงานกิจกรรมสภานักเรียนDuangnapa Inyayot
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงานHero Siamza
 
รายงานผลการดำเนินกิจกรรมสภานักเรียน ประจำปีการศึกษา 2559
รายงานผลการดำเนินกิจกรรมสภานักเรียน ประจำปีการศึกษา 2559รายงานผลการดำเนินกิจกรรมสภานักเรียน ประจำปีการศึกษา 2559
รายงานผลการดำเนินกิจกรรมสภานักเรียน ประจำปีการศึกษา 2559สภานักเรียน ส.ป. samutprakanstudentcouncil
 

What's hot (20)

ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
ข้อสอบอ่านจับใจความสำคัญ ป.6
 
แผนการเรียนรู้สุภาษิต
แผนการเรียนรู้สุภาษิตแผนการเรียนรู้สุภาษิต
แผนการเรียนรู้สุภาษิต
 
บทที่ 4 การอ่านตีความ
บทที่ 4 การอ่านตีความบทที่ 4 การอ่านตีความ
บทที่ 4 การอ่านตีความ
 
ก.ค.ศ. 3 ทับ 1 นางรุ่งนภา ผลเกิด
ก.ค.ศ. 3 ทับ 1 นางรุ่งนภา ผลเกิดก.ค.ศ. 3 ทับ 1 นางรุ่งนภา ผลเกิด
ก.ค.ศ. 3 ทับ 1 นางรุ่งนภา ผลเกิด
 
หนังสือรุ่นโรงเรียนบ้านหินลับศิลามงคล ปีการศึกษา 2551
หนังสือรุ่นโรงเรียนบ้านหินลับศิลามงคล ปีการศึกษา 2551หนังสือรุ่นโรงเรียนบ้านหินลับศิลามงคล ปีการศึกษา 2551
หนังสือรุ่นโรงเรียนบ้านหินลับศิลามงคล ปีการศึกษา 2551
 
ฎีกาผ้าป่าโรงเรียนปรางค์ทองวิทยา
ฎีกาผ้าป่าโรงเรียนปรางค์ทองวิทยาฎีกาผ้าป่าโรงเรียนปรางค์ทองวิทยา
ฎีกาผ้าป่าโรงเรียนปรางค์ทองวิทยา
 
ลักษณะรูปเรขาคณิต
ลักษณะรูปเรขาคณิตลักษณะรูปเรขาคณิต
ลักษณะรูปเรขาคณิต
 
ประวัติส่วนตัว''วิ
ประวัติส่วนตัว''วิประวัติส่วนตัว''วิ
ประวัติส่วนตัว''วิ
 
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ รร โนนสะอาดพิทยา 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ รร โนนสะอาดพิทยา 1แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ รร โนนสะอาดพิทยา 1
แผ่นพับโครงงานการงานอาชีพ รร โนนสะอาดพิทยา 1
 
โทษของแอลกอฮอล์และบุหรี่
โทษของแอลกอฮอล์และบุหรี่โทษของแอลกอฮอล์และบุหรี่
โทษของแอลกอฮอล์และบุหรี่
 
แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดประชุมสัมมนาโครงการสภานักเรียน ประจำปี ๒๕๕๘
แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดประชุมสัมมนาโครงการสภานักเรียน ประจำปี ๒๕๕๘แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดประชุมสัมมนาโครงการสภานักเรียน ประจำปี ๒๕๕๘
แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดประชุมสัมมนาโครงการสภานักเรียน ประจำปี ๒๕๕๘
 
อำลา อาลัย จากใจครู
อำลา  อาลัย  จากใจครูอำลา  อาลัย  จากใจครู
อำลา อาลัย จากใจครู
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง ปีการศึกษา 2553
ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง  ปีการศึกษา 2553ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง  ปีการศึกษา 2553
ทะเบียนคุมเงินทุนการศึกษาประเภทไม่ต่อเนื่อง ปีการศึกษา 2553
 
ตัวอย่างบันทึกความดีครูทับทิม
ตัวอย่างบันทึกความดีครูทับทิมตัวอย่างบันทึกความดีครูทับทิม
ตัวอย่างบันทึกความดีครูทับทิม
 
แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013
แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013
แบบสอบถาม โครงการบันทึกรักการอ่าน2013
 
ตัวอย่างหนังสือประกาศ
ตัวอย่างหนังสือประกาศตัวอย่างหนังสือประกาศ
ตัวอย่างหนังสือประกาศ
 
แนวทางการดำเนินงานกิจกรรมสภานักเรียน
แนวทางการดำเนินงานกิจกรรมสภานักเรียนแนวทางการดำเนินงานกิจกรรมสภานักเรียน
แนวทางการดำเนินงานกิจกรรมสภานักเรียน
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
รายงานผลการดำเนินกิจกรรมสภานักเรียน ประจำปีการศึกษา 2559
รายงานผลการดำเนินกิจกรรมสภานักเรียน ประจำปีการศึกษา 2559รายงานผลการดำเนินกิจกรรมสภานักเรียน ประจำปีการศึกษา 2559
รายงานผลการดำเนินกิจกรรมสภานักเรียน ประจำปีการศึกษา 2559
 

Similar to หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"

หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล
หม่อมหลวงปิ่น มาลากุลหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล
หม่อมหลวงปิ่น มาลากุลSRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
 
16ภูมิปัญญาไทย
16ภูมิปัญญาไทย16ภูมิปัญญาไทย
16ภูมิปัญญาไทยJulPcc CR
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Prom Pan Pluemsati
 
ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร
ผักพื้นบ้านเขลางค์นครผักพื้นบ้านเขลางค์นคร
ผักพื้นบ้านเขลางค์นครIntrapan Suwan
 
เล่มที่ 5 ภาษา ศาสนาและวัฒนธรรม
เล่มที่ 5 ภาษา ศาสนาและวัฒนธรรมเล่มที่ 5 ภาษา ศาสนาและวัฒนธรรม
เล่มที่ 5 ภาษา ศาสนาและวัฒนธรรมหรร 'ษๅ
 
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...0894239045
 
072อริยสัจจสี่ม.๕
072อริยสัจจสี่ม.๕072อริยสัจจสี่ม.๕
072อริยสัจจสี่ม.๕niralai
 
ถอดบทเรียนครูสอนดี
ถอดบทเรียนครูสอนดีถอดบทเรียนครูสอนดี
ถอดบทเรียนครูสอนดีPinmanas Kotcha
 

Similar to หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ" (20)

History
HistoryHistory
History
 
หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล
หม่อมหลวงปิ่น มาลากุลหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล
หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล
 
ระดับของภาษา
ระดับของภาษาระดับของภาษา
ระดับของภาษา
 
16ภูมิปัญญาไทย
16ภูมิปัญญาไทย16ภูมิปัญญาไทย
16ภูมิปัญญาไทย
 
File
FileFile
File
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
หน้า 1
หน้า 1หน้า 1
หน้า 1
 
พงษ์ศักดิ์ หนูนาค
พงษ์ศักดิ์  หนูนาคพงษ์ศักดิ์  หนูนาค
พงษ์ศักดิ์ หนูนาค
 
5
55
5
 
History
HistoryHistory
History
 
Warasanonline255
Warasanonline255Warasanonline255
Warasanonline255
 
ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร
ผักพื้นบ้านเขลางค์นครผักพื้นบ้านเขลางค์นคร
ผักพื้นบ้านเขลางค์นคร
 
เล่มที่ 5 ภาษา ศาสนาและวัฒนธรรม
เล่มที่ 5 ภาษา ศาสนาและวัฒนธรรมเล่มที่ 5 ภาษา ศาสนาและวัฒนธรรม
เล่มที่ 5 ภาษา ศาสนาและวัฒนธรรม
 
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...
หนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ : ทัศนศิลป์ เรื่องเส้นสายลาย...
 
Libary
LibaryLibary
Libary
 
libary
libarylibary
libary
 
Libary
LibaryLibary
Libary
 
072อริยสัจจสี่ม.๕
072อริยสัจจสี่ม.๕072อริยสัจจสี่ม.๕
072อริยสัจจสี่ม.๕
 
Bestmaecharao
BestmaecharaoBestmaecharao
Bestmaecharao
 
ถอดบทเรียนครูสอนดี
ถอดบทเรียนครูสอนดีถอดบทเรียนครูสอนดี
ถอดบทเรียนครูสอนดี
 

หนังสือประกอบบทเรียน "ภูผาม่าน ตำนานเมืองทองคำ"

  • 1.
  • 2. ก คานิยมของผู้บังคับบัญชา อาชีพครูคือ อาชีพที่ต๎องปฏิบัติหน๎าที่อยํางมืออาชีพ เพราะการศึกษาคือพื้นฐานที่สําคัญที่สุดที่จะ พัฒนาทรัพยากรมนุษย๑ให๎มีความสมบูรณ๑ทั้งรํางกาย อารมณ๑ และจิตใจ ครูเป็นบุคคลที่จะสามารถบํมเพาะ ผู๎เรียนให๎ก๎าวสูํคุณภาพชีวิตที่ดี เกํง และมีความสุข ดังนั้นครูจึงต๎องปฏิบัติหน๎าที่ให๎สมบูรณ๑ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ อีกทั้งต๎องจัดทําสื่อนวัตกรรมประกอบการจัดการเรียนรู๎อยํางมีคุณภาพ เพื่อให๎ผู๎เรียนมี ความรู๎ความเข๎าใจ สามารถเรียนรู๎อยํางมีความสุขและเป็นไปตามตัวบํงชี้ที่มาตรฐานการศึกษากําหนดไว๎ เอกสารประกอบกานสอน เรื่อง “ภูผามําน ตํานานเมืองทองคํา” เลํมนี้ เป็นการสืบค๎นประวัติ ความเป็นมาของอําเภอภูผามําน จากเอกสาร หลักฐาน และมุขปาฐะจากปราชญ๑ชาวบ๎าน ซึ่งใช๎วิธีการทาง ประวัติศาสตร๑เพื่อให๎ได๎มาซึ่งข๎อมูลที่เป็นจริง ทั้งนี้เป็นเอกสารที่หนํวยงานทางราชการและชุมชนชาว อําเภอภูผามํานให๎การยอมรับวํา ได๎มีการสืบค๎นจากสภาพความเป็นจริงที่ปรากฏ จึงสามารถนํามาเป็น เอกสารประกอบการเรียนการสอนในรายวิชา “ประวัติเลําขาน สืบสานตรุษไท” อีกทั้งเป็นไปตาม เจตนารมณ๑ ของทางโรงเรียนที่ต๎องการให๎นักเรียนที่มาเรียนโรงเรียนภูผามํานทุกคน ได๎ศึกษาและเรียนรู๎ ประวัติความเป็นมาของอําเภอภูผามําน เพื่อให๎เกิดความรัก ความหวงแหน ความภาคภูมิใจในท๎องถิ่น มาตุภูมิของตนเอง ซึ่งสอดคล๎องกับคําขวัญของโรงเรียนภูผามํานที่วํา “มานะ อดทน ประพฤติตนดี มีวิชา รักมาตุภูมิ” เอกสารเลํมนี้ จึงเป็นประโยชน๑ตํอเยาวชนลูกหลานชาวอําเภอภูผามําน ตลอดจนทุกทํานที่มีความ สนใจในประวัติความเป็นมาของอําเภอภูผามําน และจะเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร๑ในอนาคตที่ ทรงคุณคํา ความสําเร็จในการปฏิบัติงานของคุณครู จะเป็นผลตํอการพัฒนาตน พัฒนาชุมชน พัฒนาสังคม และพัฒนาประเทศชาติ ขอให๎คุณครูได๎ใช๎ความรู๎ความสามารถอยํางเต็มตามศักยภาพ และเกิดประโยชน๑ สูงสุด ตํอราชการตํอไป (นายสมควร ไกรพน) ผู๎อํานวยการโรงเรียนภูผามําน
  • 3. ข คานา อําเภอภูผามําน จังหวัดขอนแกํน เป็นอําเภอที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน มีรํองรอยหลักฐาน ทางประวัติศาสตร๑ที่สามารถสืบค๎นได๎ ทั้งโบราณสถาน โบราณวัตถุเอกสาร การบันทึกตํางๆ โดยเฉพาะ มุขปาฐะจากผู๎อาวุโสที่เลําขานสืบตํอกันมารุํนแล๎วรุํนเลํา ซึ่งจากประวัติความเป็นมาของแตํละท๎องถิ่นก็จะ มีวิถีชีวิต ภูมิป๓ญญา ความเชื่อ ความศรัทธาที่ยึดถือปฏิบัติจนเป็นวิถีชุมชนที่สืบทอดเป็นระเบียบแบบแผน ตํอๆกันมา จากรุํนสูํรุํนจนตกผลึกผนึกเป็นวัฒนธรรมประเพณีจารีตของสังคม ตลอดจนคํานิยมที่สร๎าง เสริมให๎ชุมชน ท๎องถิ่นสามารถดํารงอยูํไมํสร๎างป๓ญหา สร๎างความขัดแย๎ง หรือสร๎างความเดือดร๎อนให๎ใคร ผู๎ใด กลุํมไหน พวกเราในฐานะอนุชนรุํนหลังก็ควรรํวมกันอนุรักษ๑ให๎คงอยูํ เพื่อให๎สังคมดํารงอยูํได๎อยําง มีความสุขแบบพอเพียงและยั่งยืน ด๎วยผลดังกลําวข๎างต๎น จึงได๎จัดทําเอกสารการสอนเลํมนี้ขึ้นเพื่อ เป็นสํวนหนึ่งของรายวิชา “ประวัติเล่าขาน สืบสานตรุษไท” โดยในเนื้อหาประกอบด๎วย ภูผามํานยุคตํานานเมืองทองคํา ภูผามําน ยุคประวัติศาสตร๑ ภูผามํานยุคป๓จจุบัน ประวัติหมูํบ๎าน ๕ ตําบล ๔๒ หมูํบ๎าน บทร๎อยกรองคําขวัญประจํา อําเภอภูผามําน ตลอดจนบทเพลงเกี่ยวกับอําเภอภูผามําน ซึ่งล๎วนเป็นความภาคภูมิใจที่อนุชนรุํนหลัง ควรใฝุเรียนรู๎ ศึกษา จดจํา และน๎อมนํามาเป็นแนวทางประพฤติปฏิบัติตลอดจนประยุกต๑ใช๎ ในชีวิตประจําวันให๎เกิดประโยชน๑ตํอตนเอง ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ขอกราบขอบพระคุณ ทํานนายกพงษ๑ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ๑ ทํานนายอําเภอจารึก เหลําประเสริฐ ทํานผู๎อํานวยการสมควร ไกรพน ซึ่งถือวําเป็นบุคคลสําคัญที่เป็นแรงบันดาลใจให๎ได๎ จัดทําหนังสือฉบับนี้ขึ้น อีกทั้งปราชญ๑ชาวบ๎าน คุณพํอรูป กุลด๎วง คุณพํอบุญเกิด แพงจันทร๑ พระครูสุวรรณจิตตานุกูล คุณแมํบุญล๎อม ปลื้มกมล นางพูํ หนูทัศน๑ และอีกหลาย ๆ ทําน ที่ให๎ ข๎อมูล ทําให๎เอกสารฉบับนี้มีความสมบูรณ๑ สามารถนํามาประกอบการเรียนการสอนได๎ ขอให๎ความสําเร็จ ในครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจให๎กับทุกทํานที่ได๎ให๎เกียรติศึกษาและรับรู๎เรื่องราวประวัติ ความเป็นมา ของชาวอําเภอภูผามําน ขอขอบพระคุณ นางบุญจันทร๑ บัวพา
  • 4. ค สารบัญ เรื่อง หน้า ปฐมลิขิต ๑. ประวัติภูผาม่าน ตานานเมืองทองคา สื่อคํานําเสนอ ประวัติภูผามําน ตํานานเมืองทองคํา ๑ เกริ่นคํานําเรื่อง ๒ ปราชญ๑แหํงภูมิป๓ญญา ๖ ภูผาม่าน...ยุคแห่งตานาน จากอดีตกาลแหํงอาณาจักร ๑๔ จากอาณาจักร...สูํตํานานเมืองทองคํา ๑๖ กุดเขมร.......... ที่มาแหํงตํานาน ๑๘ ผญา ปรัชญา ป๓ญญา ๒๑ คําผญา ลายแทงขุมทรัพย๑โบราณ ๒๓ วิเคราะห๑เจาะลึก ผนึกเมืองทองคํา ๒๕ ถอดรหัสภูผามําน ยุคตํานานเมืองทองคํา ๒๘ ภูผาม่าน...ยุคประวัติศาสตร์ ย๎อนรอยประเทศไทย...เพื่อถอดรหัส สูํความเป็นอําเภอภูผามําน ๓๐ น๎อมนําเที่ยวเมืองประวัติศาสตร๑ “ภูผามําน” ๓๔ เจ๎าเมือง คุณปูุ.....ภูผามําน ๓๖ สหายปูุ...สร๎างบ๎านแปลงเมือง ๓๘ ผู๎ให๎ชีวิต ๓๙ นายกองสํวยสีผึ้งบ๎านเซิน ๔๑ ยุบกอง...เป็น ตําบลโนนคอม ๔๓ เปลี่ยนนายกอง เป็น...กํานันต๎นตระกูล ๔๕ กํานัน........คนเกํง ๔๖ กํานันเบอร๑... ผู๎นําแหํงการเปลี่ยนแปลง ๔๙ ถอดรหัสภูผามําน ยุคประวัติศาสตร๑ ๕๒ รําลึก จารึก และจดจํา ประวัติศาสตร๑ “ภูผามําน” ๕๔
  • 5. ง เรื่อง หน้า ภูผาม่าน...ยุคปัจจุบัน ยุคป๓จจุบัน.........จากการสถาปนาอําเภอ ๕๖ ๕ ตําบล.....คนอําเภอ ๕๗ เคารพรักนักปกครอง ๕๘ ชื่อฉัน.. สวรรค๑สร๎าง ๖๐ จากใจนายอําเภอจารึก.......รวมผนึกประเพณี ๘๑ ๒. ภาษาสร้างสรรค์ บ้านฉัน...ภูผาม่าน ภูผามํานบ๎านฉัน ๘๒ กลอนเอํยอ๎าง...มํานฟูาผางาม ๘๓ กาพย๑ฉบัง ๑๖ พลังมาตุภูมิ ๘๔ โคลง ฉันท๑ กาพย๑ กลอน ออนซอนคําขวัญ ๘๕ ๓. คติชนคนหมู่บ้าน...๕ ตาบล ในอาเภอภูผาม่าน คติชนคนหมูํบ๎าน ๘๘ คมคํา...นํา ตําบลโนนคอม ๘๙ คมคํา...นํา ตําบลนาฝาย ๙๔ คมคํา...นํา ตําบลวังสวาบ ๙๘ คมคํา...นํา ตําบลภูผามําน ๑๐๔ คมคํา...นํา ตําบลห๎วยมํวง ๑๑๐ ภูผาม่านภาษาเพลง วีรชนคนภูผามําน, ภูผามํานบ๎านฉัน ๑๑๖ รวมใจไทผามําน, เอิ้นขวัญไทภู ๑๑๗ แดนนาฝาย, สวรรค๑ห๎วยมํวง ๑๑๘ เต๎ยกุดเขมร, สวรรค๑กุดเขมร ๑๑๙ ห๎าแดนสวรรค๑ไทภู ๑๒๐ เทิดไท๎องค๑ราชัน ๑๒๑ ปัจฉิมลิขิต หนังสืออ้างอิง รายนามปราชญ์ชาวบ้าน
  • 6. ปฐมลิขิต ด๎วยมุํงมั่นใฝุฝ๓นอันยิ่งใหญํ ด๎วยหัวใจใฝุรู๎สู๎ศึกษา ด๎วยมาดหวังสืบสานงานวิชา ด๎วยศรัทธาแผํนดินถิ่นไทภูฯ จึงเกิดแรงบันดาลใจในขอบเขต จึงเป็นมนต๑วิเศษให๎ตํอสู๎ จึงสืบค๎นประวัติให๎เชิดชู จึงเป็นครูคนหนึ่งที่ซึ้งใจ ขอฝากฝ๓งผลงานให๎ทํานอําน ขอเลําขานวานแจ๎งแถลงไข ขอสืบค๎นประวัติพิพัฒน๑ชัย ขอนําเรียนด๎วยใจใฝุศรัทธา ณ วันนี้แบํงเรื่องประเทืองยุค ณ วันนี้รํวมสนุกและค๎นหา ณ ผามํานยุคแห่งตานานพา ณ เวลายุคประวัติศาสตร์แตํดั้งเดิม ลํวงมาถึงผาม่านปัจจุบัน ลํวงเวลาสร๎างสรรค๑นั้นสํงเสริม ลํวงภาษาคาขวัญมาตํอเติม ลํวงเพิ่มพูนประวัติบ้านเนิ่นนานจํา อีกสร๎างสรรค๑บทเพลงบรรเลงใจ อีกสายใยแหํงชีวิตคิดคูณค้ํา อีกรํวมคิดรํวมสร๎างและรํวมทํา อีกคอยนําคอยชํวยด๎วยภักดี จนสําเร็จเสร็จงานที่มุํงมั่น จนสานฝ๓นให๎เห็นเป็นศักดิ์ศรี จนผลงานได๎เรียงร๎อยถ๎อยวจี จนน๎องพี่ได๎พบประสบจริง จึงอยากฝากเชิญชวนมารํวมคิด จึงอยากฝากให๎เพํงพิศในทุกสิ่ง จึงอยากฝากอนุรักษ๑ประจักษ๑จริง จึงอยําได๎หยุดนิ่งมาอํานกัน ครูจันทร๑
  • 7. ๑ สื่อคา นาเสนอ ปณิธานมุ่งแท้ ประวัติมี ผาม่านเมืองคนดี ยิ่งไซร้ ลูกหลานใฝุชีวี บอกเล่า สืบมา คุณค่าตานานไว้ ม่านฟูาผาภู ตาราแห่งมาตุภูมิ แรงบันดาลใจ ที่ใคร่อยากรู้ สืบค้นมองดู เรียนรู้ค้นหา รากเหง้าชีวี ศักดิ์ศรีศรัทธา ผาม่านเมืองฟูา ตาราเล่าเรียน เพื่อลูกเพื่อหลาน รักอ่านขีดเขียน จดจาบทเรียน บ้านเมืองมีมา ด้วยแรงคานึง คิดถึงภายหน้า สร้างสรรค์พัฒนา ภูผายั่งยืน. สื่อคา นาเสนอ ประวัติภูผาม่าน ตานานเมืองทองคา สืบค๎นพบเจอ ใฝุรู๎…สูํ “เกริ่นคา นาเรื่อง” ประวัติภูผาม่าน ตานานเมืองทองคา
  • 8. ๒ วัฒนธรรม ฯ นั่นนั้น วาจา ร้องขอ ผาม่านอดีตเป็นมา สืบค้น ด้วยใจใฝุศรัทธา จึงมุ่ง- หมายทา งานประวัติเมืองโพ้น เปี่ยมล้นยินดี ด๎วยแรงบันดาลใจ และปณิธานที่มุํงมั่น พร๎อมกับในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ สภาวัฒนธรรมจังหวัด ขอนแกํน ให๎โรงเรียนภูผามําน สืบค๎นประวัติตําบลภูผามําน อําเภอภูผามําน ซึ่งขณะนั้น ผู๎อํานวยการ โรงเรียนภูผามําน นายเรืองรัตน์ ปัญญามี ได๎มอบหมายให๎ข๎าพเจ๎านางบุญจันทร๑ บัวพา สืบค๎นข๎อมูล เพราะเห็นวํามีบ๎านเรือนอยูํที่อําเภอภูผามําน ทั้งนี้ ได๎รับเกียรติบัตรจากสภาวัฒนธรรมจังหวัดขอนแกํน จวบถึงปี พ.ศ. ๒๕๕๒ รวมระยะเวลาถึง ๑๐ ปี จึงได๎มีโอกาสรวบรวมประวัติอําเภอภูผามํานอยํางจริงจัง อีกครั้ง เนื่องจากอําเภอภูผามํานเป็นอําเภอเล็กๆ ในจังหวัดขอนแกํน ซึ่งจากการสํารวจค๎นหา ประวัติศาสตร๑ท๎องถิ่น เอกสารอ๎างอิงที่พอหาได๎เป็นการเทียบเคียงกับประวัติศาสตร๑จากอําเภอข๎างเคียง คือ อําเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งได๎กลําวถึงพื้นที่ซึ่งเป็นต๎นกําเนิดอําเภอภูผามํานไว๎ และ คําบอก กลําวซึ่งเลําสืบตํอกันมาโดยทํานผู๎เฒํา ผู๎แกํ ผู๎อาวุโสซึ่งบุคคลเหลํานี้ชาวบ๎านให๎ความเคารพนับถือ ศรัทธา เป็นปราชญ๑ของหมูํบ๎านเพื่อสืบค๎นหาข๎อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของอําเภอภูผามําน และสืบเนื่องจาก นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายกองค๑การบริหารสํวนจังหวัดขอนแกํน ได๎ให๎ความสําคัญ และทํานปรารภวํา ขอให๎สืบค๎นประวัติความเป็นมาของอําเภอภูผามําน กอปรกับ นายจารึก เหล่าประเสริฐ มาดํารงตําแหนํงนายอําเภอภูผามําน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ - ๒๕๕๒ ทํานสนใจประวัติความเป็นมา ทํานขอให๎สืบค๎น เรื่องราวเพิ่มเติม โดยได๎ขอความอนุเคราะห๑ไปยังทํานผู๎รู๎ในท๎องถิ่นอีกหลายทํานซึ่งได๎รับความรํวมมืออยํางดียิ่ง ทั้งนี้ ได๎รับการบอกเลํา และได๎เอกสารรํองรอยการบันทึกของปราชญ๑ชาวบ๎านเพิ่มขึ้น อีกทั้งในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ทํานได๎จัดสรรงบประมาณจํานวน ๑๖๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนหกหมื่นบาทถ๎วน) สนับสนุนให๎มีการแสดงแสง สี เสียง เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของอําเภอภูผามําน ในงานประเพณีตรุษไท (งานบุญเดือนสี่) ซึ่งเป็นงาน ประเพณีประจําปีของชาวอําเภอภูผามําน ใช๎ชื่อชุดการแสดงวํา “ย๎อนอดีต มองป๓จจุบัน เพื่อสร๎างสรรค๑ภูผา มําน ในอนาคต” ใช๎ผู๎แสดงที่เป็นนักเรียนโรงเรียนภูผามําน จํานวน ๒๐๐ คน เป็นชาวบ๎าน บ๎านเซินใต๎ จํานวน ๑๖๐ คน ข๎าพเจ๎ามีโอกาสได๎เป็นคณะทํางานรับผิดชอบทั้งการสืบค๎น เขียนบท รํวมกํากับการแสดง จัดทํา ฉาก นําโดย นายสมควร ไกรพน ผู๎อํานวยการโรงเรียนภูผามําน เป็นประธาน และให๎กําลังใจในการ ทํางานมาโดยตลอด และทํานฝากวํา ขอให๎นําประวัติภูผามําน มาจัดทําเป็นหลักสูตรท้องถิ่น เพื่อสอน ลูกหลานชาวภูผามํานสืบไป เกริ่นคา นาเรื่อง
  • 9. ๓ ขอกราบนมัสการ พระครูสุวรรณจิตรานุกูล เจ๎าอาวาสวัดทุํงสวําง บ๎านเซินใต๎ ตําบลโนนคอม อําเภอภูผามําน นายหล่วน เสี้ยวภูเขียว ทํานผู๎เชี่ยวชาญในการออกแบบเครื่องแตํงกาย อีกทั้งให๎ คําปรึกษา ฝึกซ๎อมการแสดง และดูแลกํากับการแสดงของชาวบ๎านเซินใต๎ ตําบลโนนคอม อําเภอภูผามําน ขอขอบคุณ คุณครูเสน่ห์ หนูทัศน์ คุณครูสงกรานต์ หนูทัศน์ คุณครูปิยดา ฮวดตา คุณครูเจริญศรี ผดุงธรรม และ คุณครูปัญจา พลธิรักษา ที่ชํวยตรวจทานบทการแสดง ตลอดจน คณะครู-นักเรียนโรงเรียนภูผามําน โรงเรียนบ๎านโนนสวํางทํากระบือ โรงเรียนบ๎านโนนคอม ที่นําคณะครู และนักเรียนมารํวมจัดการแสดง จากการแสดงแสง สี เสียงในครั้งนี้ ทําให๎คณะครู นักเรียน เยาวชน ชาวบ๎านในชุมชน เกิดความตระหนักรักในถิ่นฐาน ต๎องการสืบหา สืบค๎น และสืบสานอดีตแหํงความ เป็นมาของบรรพบุรุษ ข๎าพเจ๎าจึงได๎เริ่มเก็บข๎อมูลอีกครั้งด๎วยความมุํงมั่น ตั้งใจ และศรัทธาอันแรงกล๎า ซึ่งได๎รํองรอยหลักฐานเพิ่มเติมหลายอยํางจากปราชญ๑ชาวบ๎าน คุณพ่อบุญเกิด แพงจันทร์ ปราชญ๑ ชาวบ๎านอําเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ อีกทั้งทํานได๎ให๎ความรู๎เป็นวิทยาทานพร๎อมมอบหนังสือเกี่ยวกับ เมืองคอนสารชื่อ “เลําเรื่อง เมืองคอนสาร จากหลานปูุ” หนังสือประวัติเมืองคอนสาร ปี ๒๕๓๕ และ ฉบับปรับปรุง ปี ๒๕๕๑ ทั้งนี้ ยังมีหลักฐานสําคัญอีกอยํางหนึ่ง นั่นก็คือ ตราประทับประจําตําแหนํง ของหลวงพิพิธภูมเรศ โดยอดีตผู๎ใหญํบ๎านบ๎านเซินเหนือ นางสุนีย์ เต็มวงษ์ ผู๎ซึ่งมีความผูกพันทาง สายโลหิตเป็นเหลนของหลวงพิพิธภูมเรศ ได๎เป็นผู๎สืบค๎น บันทึกตราประทับ มาเพื่อเป็นหลักฐานอ๎างอิง จวบจนถึง ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ด๎วยแรงบันดาลใจดังกลําวมาแล๎วข๎างต๎น ทําให๎สามารถสืบค๎นรํองรอย หลักฐานที่เป็น เอกสาร หนังสือ แหลํงเรียนรู๎ ตลอดจนการให๎ความรํวมมืออยํางดียิ่งจากปราชญ๑ชาวบ๎าน การได๎มาซึ่งตราประทับ สิ่งเหลํานี้ทําให๎สามารถนําองค๑ความรู๎มาเรียงร๎องถ๎อยภาษา เพื่อจัดทําเป็น หนังสือประวัติศาสตร๑ภูผามําน ซึ่งอาจจะกลําวได๎วํา เป็นหนังสือเลํมแรกที่ได๎สืบค๎นความเป็นมาตั้งแตํ อดีตจนถึงป๓จจุบัน (ปี ๒๓๘๐ – ๒๕๕๕ ) ของชาวอําเภอภูผามําน ขอขอบพระคุณ บุพการี “สกุล จัน เวียง” ผู๎ให๎กําเนิด ทํานผู๎นําท๎องถิ่นทุกภาคสํวน ทํานผู๎บริหารโรงเรียน ครอบครัวบัวพา ครอบครัวหนูทัศน๑ และทุกๆทํานที่สนับสนุนพลังแหํงสติป๓ญญา พลังกาย พลังใจ พลังทรัพย๑ ทําให๎ ข๎าพเจ๎านางบุญจันทร๑ บัวพา ครู คศ.๓ วิทยฐานะชํานาญการพิเศษ โรงเรียนภูผามําน อําเภอภูผามําน จังหวัดขอนแกํน ได๎ทําในสิ่งที่ตั้งปณิธานไว๎ จึงขอมอบหนังสือ “ ประวัติภูผาม่าน ตานานเมืองทองคา “ ไว๎เป็นอนุสรณ๑แหํงความรัก ความศรัทธา ความภาคภูมิใจ ให๎กับทุกๆทําน โดยเฉพาะประชาชนชาวอําเภอภูผามําน บุคคลที่ใฝุเรียนรู๎ และสนใจที่จะศึกษาค๎นคว๎า อีกทั้งบุคคลที่มีโอกาสมาเยือนอําเภอภูผามําน แดนมหัศจรรย๑แหํงธรรมชาติ มิตรภาพมิรู๎ลืม เพราะ“หนังสือคืออนุสาวรีย์ที่ทรงคุณค่า แต่มีราคาถูกที่สุด”
  • 10. ๔ ถูกกาหนดให้เกิดแรงบันดาลใจ.....จากผู้นา นายกพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ ประสงค๑รู๎ ยอดนักสู๎ นายอาเภอจารึก นึกสร๎างสรรค๑ ให๎สืบค๎น ประวัติ เป็นสําคัญ หลักสูตรนั้น ผ.อ.สมควร ล๎วนผลงาน นางบุญจันทร์ บัวพา ผู๎ขานรับ นํามาปรับ เป็นหลักสูตรฯ ภูผามําน อนุสรณ๑ หนังสือ สื่อตํานาน รํวมสืบสาน ให๎ธํารง คงนิรันดร๑ นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น นายจารึก เหล่าประเสริฐ อดีต นายอาเภอภูผาม่าน นายสมควร ไกรพน ผู้อานวยการโรงเรียนภูผาม่าน
  • 11. ๕ นางบุญจันทร์ บัวพา ครู คศ. ๓ วิทยฐานะชํานาญการพิเศษ กลุํมสาระการเรียนรู๎ภาษาไทย โรงเรียนภูผามําน อําเภอภูผามําน จังหวัดขอนแกํน ป๓จจุบันอาศัยอยูํ บ๎านเลขที่ ๑๓๔ หมูํ ๑ ตําบลภูผามําน อําเภอภูผามําน จังหวัดขอนแกํน ขอน๎อมรับการทํางานสานประโยชน๑ ด๎วยใจโปรดการเขียนเชิงสร๎างสรรค๑ ความสามารถรํวมด๎วยชํวยแบํงป๓น พร๎อมสร๎างสรรค๑ผลงานการวิชา ได๎บันทึกเรื่องราวที่สืบค๎น เชิญทุกทํานเยือนยลและศึกษา ปราชญ๑ชาวบ๎านให๎ความรู๎คูํป๓ญญา ภูผามํานมีที่มานําภูมิใจ “หลักสูตรท้องถิ่นถวิลคิดคืนชีวิตสู่สังคม” (เรียงร้อยถ้อยภาษา โดย บุญจันทร์ บัวพา) เกริ่นคา นาเรื่อง ศรัทธาบุคคลที่ชาญฉลาด ทํานคือ “ปราชญ์แห่งภูมิปัญญา”
  • 12. ๖ กราบนักปราชญ์เด่นล้า ปัญญา บอกเล่าอดีตมา เอ่ยอ้าง ลูกหลานจ่งศึกษา เติมต่อ สิ่งดี ผาม่านสืบสานสร้าง ชื่อไว้ตลอดกาล ปราชญ์ ผู้รู้ ครูประวัติศาสตร์ การสืบค๎นตํานานในครั้งนี้ ประวัติศาสตร๑พอมีอ๎างอิงได๎ กานันเบอร์ ท่านพระครูปราชญ๑ผู๎ใหญํ ตํางรํวมใจพ่อสมพานสานศรัทธา อีกพ่อรูป พ่อหนูคล้ายใจเอื้อเฟื้อ พ่อบุญเหลือ พ่อบุญเกิดเลาะเสาะหา ทั้งแม่พู่ แม่ล้อม พร๎อมเจรจา งามคุณคําครูเสน่ห์เก๐ถ๎อยคํา ครูปิยดา ครูเจริญศรี เลํามาฝาก การแตํงตัวสีดอกหมากแสนงามขํา อีกผ๎าซิ่นชื่อผ๎าควบควรจดจํา คอยสื่อนําครูสงกรานต์งานวิชา ครูปัญจาตรวจตราภาษาให๎ นายทรงเกียรติได๎รับใช๎ในผญา คุณสุนีย์ ผู๎ใหญํบ๎านเอกสารมา อีกทั้งหาตราประทับนับเพิ่มเติม นายยรรยงชํวยเลําเรื่องอีกครั้ง กาลกํอนหลังนางสวาทฉลาดเสริม นางนวลอนงค์ นางพรม รู๎เรื่องเดิม จากริเริ่มถึงสําเร็จเสร็จสมใจ จึงขอกราบขอบพระคุณแทนญาติมิตร คนสนิทพี่น๎องผํองสดใส ภูผามํานประวัติศาสตร๑แหํงชาติไทย จารึกไว๎ในแผํนดินถิ่นมาตุภูมิ และยังมีทํานผู๎รู๎อีกหลายๆทํานที่ไมํได๎เอํยนามในที่นี้ คือบุคคลสําคัญที่ให๎ข๎อมูล จนสามารถทําให๎ หนังสือเลํมนี้สําเร็จเสร็จสมบูรณ๑ ประกอบด๎วยได๎สืบค๎นจากหนังสือ วันสถาปนาอําเภอภูผามําน ปี ๒๕๓๗ หนังสือประวัติเมือง คอนสาร โดย หลานปูุ ฉบับปี พ.ศ.๒๕๓๕ และปี พ.ศ.๒๕๕๑ (นายบุญเกิด แพงจันทร๑ ปราชญ๑ชาวบ๎าน อําเภอคอนสาร) ซึ่งคอนสารกับภูผามําน เป็นเมืองพี่เมืองน๎องกันมาตั้งแตํอดีตกาล สืบเนื่องจากสภาพ ภูมิประเทศที่มีพื้นที่เชื่อมตํอกัน โดยมีลําน้ําเซินเป็นสายธารกั้นแบํงเขตแดน ณ สองฝ๓่งเซิน จึงมีวิถีชีวิต ปราชญ์แห่งภูมิปัญญา
  • 13. ๗ การดํารงอยูํที่ได๎เรียนรู๎รํวมกัน รู๎จักแบํงป๓น รู๎จักสร๎างสรรค๑ จนเกิดซึ่งวิถีวัฒนธรรมประเพณี ปฏิบัติสืบ ทอดกันมาจากรุํนสูํรุํน รุํนแล๎วรุํนเลํา ตลอดจนสําเนียงเสียงพูดอันเดียวกัน ดังคําพูดที่วํา “สําเนียงสํอ ภาษา กิริยาสํอสกุล” ทําให๎เป็นหลักฐานอ๎างอิงเชื่อมโยงความสัมพันธ๑ระหวํางอําเภอคอนสารกับอําเภอ ภูผามํานได๎ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้น จาการบอกเลําของปราชญ๑ชาวบ๎าน ทํานผู๎รู๎ทุกๆทําน ตลอดจน รํองรอย หลักฐาน เอกสารที่มีอยูํ ทําให๎สามารถถอดรหัสประวัติศาสตร๑ความเป็นมาของอําเภอภูผามําน ได๎อยําง นําภาคภูมิใจ ขอให๎คุณงามความดีแหํงผลการกระทํานี้ กํอเกิดประโยชน๑สูงสุดแดํวีรบุรุษ บรรพบุรุษ ปูุยํา ตา ยาย บุพการี ตลอดจน ลูกหลานชาวอําเภอภูผามําน หากข๎อความในเนื้อหาที่สืบค๎นคลาดเคลื่อนประการ ใด ก็ต๎องกราบขออภัยไว๎ ณ ที่นี้ ขอน๎อมนําทุกทํานได๎สัมผัส “ประวัติภูผามําน ตํานานเมืองทองคํา ” “เวลาที่เรียกว่า อดีต ไม่อาจย้อนกลับ แต่ อดีต เปรียบตาราอันทรงค่าที่น่าสืบค้น” (เรียงร้อยถ้อยภาษา โดย บุญจันทร์ บัวพา) นายเบอร์ หนูทัศน์ พระครูสุวรรณจิตตานุกูล นายสมพาน หนูทัศน์ อดีตกานันตาบลโนนคอม เจ้าอาวาสวัดทุ่งสว่าง อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านเซินเหนือ นายรูป กุลด้วง นายหนูคล้าย ทิพฤาตรี นางล้อม ปลื้มกมล บ้านโนนสว่าง ต.ภูผาม่าน บ้านห้วยซ้อ ต.ห้วยม่วง บ้านเซินเหนือ ต.โนนคอม
  • 14. ๘ นายบุญเกิด แพงจันทร์ นางพู่ หนูทัศน์ บ้านคอนสาร ต.คอนสาร บ้านโนนสว่าง ต.ภูผาม่าน นายทรงเกียรติ บัวพา นางสวาท สารเงิน นางนวลอนงค์ ต่อชีวี อดีต ส.อบจ.ขอนแก่น เขต อ.ภูผาม่าน บ้านปุากล้วยหมู่ ๖ ต.โนนคอม บ้านโนนสว่าง ต.ภูผาม่าน
  • 15. ๙ หลักฐาน แหล่งเรียนรู้/เอกสาร ……สู่แรงบันดาลใจ อาเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ บ้านพี่เมืองน้อง แหล่งเริ่ม แหล่งเรียน แหล่งรู้ แหล่งสู้ แหล่งสร้าง แหล่งเสริม แหล่งต่อ แหล่งตาม แหล่งเติม แหล่งเพิ่ม แหล่งพิศ แหล่งพา อนุสาวรีย๑หลวงพิชิตสงคราม อีกนิยาม เรื่องเลําจาก หลานปูุ พระเจดีย๑ ๗๐๐ ปี นี้เรียนรู๎ ยอดนักสู๎พํอบุญเกิดประเสริฐชน อนุสาวรีย์หลวงพิชิตสงคราม เจ้าเมืองคอนสาร ตั้งอยู่วัดเจดีย์ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ วัดเจดีย์อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เจดีย์ ๗๐๐ ปี เมือง หนังสือ “เรื่องเล่าเมือง คอนสาร จากหลานปู่ ” ปี ๒๕๓๐, ปี ๒๕๕๑
  • 16. ๑๐ อาเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ต้นเฉลียงทอง อยู่ในบริเวณวัดเฉลียงทอง ซึ่งมีผึ้งหลวงมาอาศัยอยู่ในอดีตแห่งตานาน หนังสือวันสถาปนาอาเภอภูผาม่าน ปี พ.ศ.๒๕๓๗ เกียรติบัตรวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ปี พ.ศ. ๒๕๔๒ มอบให้ผู้ สืบค้น นางบุญจันทร์ บัวพา สืบค้น สืบเสาะ สืบหา ศึกษา ศรัทธา ศาสตร์ศรี แซ่ซร้อง ซึ้งสุด สะดุดี ทราบซ่าน ทราบดี ทราบธรรม เล่าขานกันเฉลียงทองมองที่ตั้ง มิผิดพลั้งผึ้งหลวงปวงทั้งหลาย มาอาศัยพักพิงประวิงกาย สืบค้นง่ายเพราะญาติมิตรคิดผูกพัน
  • 17. ๑๑ กุดเขมร ที่มาแห่ง “ผญา” ตานานเมืองทองคา กุดเก่า กุดน้้า กุดเขมร กุดเกณฑ์ กุดกั้น กุดฝัน กุดรัก กุดอเนก กุดอนันต์ กุดนั้น กุดเกิด กุดมี กุดน้าและซากหินที่ค้นพบ คือส่วนที่ประสบเลาะเสาะหา อดีตกาลกุดเขมรกะเกณฑ์มา เรียนรู้ค่าร่วมกันนั้นอย่าลืม
  • 19. ๑๓ ตราประทับหลวงพิพิธภูมเรศ ทําด๎วยงาช๎าง บางสํวนอยูํกับ นายแก๎ว เย็นสถิตย๑ บ๎านนาน้ําซํา อําเภอภูผามําน จ.ขอนแกํน (น๎องชายนายเบอร๑ เย็นสถิตย๑) สืบค๎นพบ มีลักษณะเดียวกันกับตราประทับเจ๎าเมืองสนม จังหวัดสุรินทร๑ ประทับ ประทุ ประเทือง ประเดื่อง ประดับ ประดิษฐ์ ประกาศ ประก้อง ประกิต ประสิทธิ์ ประสาท ประเสริฐ ตราประทับกับหลักฐานวานให้คิด ใครประดิษฐ์ให้มาพาคิดหวน สัญลักษณ์เจ้าเมืองเรื่องใคร่ครวญ ทุกอย่างล้วนสรรพสิ่งที่จริงเอย ปราชญ์แห่งภูมิปัญญา ได๎เลํามา จึงขอย๎อนเวลา สูํ เหตุการณ๑ที่อยากฝาก..... “จากอดีตกาลแห่งอาณาจักร”
  • 20. ๑๔ สุโขทัยแว่นแคว้น ทรงคิด ครอบครอง เดิมพ่อขุนศรีทราทิตย์ ก่อตั้ง กาลสืบต่อเพ่งพิศ คือพ่อ ขุนรามฯ งามชื่ออยุทธ์รั้ง พระเจ้าอู่ทอง ในราวปี พ.ศ. ๑๗๖๐ สุโขทัยเริ่มมีฐานะเป็นแวํนแคว๎น โดยมีพํอคุณศรีนาวนําถมเป็นพํอเมือง กอปรกับ ขอม(อาณาจักรละโว๎หรือลพบุรี) เริ่มเสื่อมอํานาจลง สุโขทัยเริ่มเป็นปึกแผํนมากยิ่งขึ้น หลังจาก นั้นไมํนานก็เกิดเหตุวุํนวาย โดยมีขอมพวกหนึ่งชื่อวํา “ขอมสบาดโขลนลําพง” ได๎เข๎ายึดเมือง ซึ่งขณะนั้น พํอคุณศรีนาวนําถมสิ้นชีวิต พํอขุนผาเมืองเจ๎าเมืองราด (เพชรบูรณ๑) รํวมกับพํอขุนบางกลางหาว เจ๎า เมืองบางยาง (นครไทย) ไปชิงกรุงสุโขทัยคืนมาได๎สําเร็จ พํอขุนผาเมือง จึงยกเมืองให๎พํอคุณบางกลาง หาว พร๎อมปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย๑ ทรงพระนามวํา “ศรีอินทราบดินทราทิตย๑” (พํอขุนศรีอินทราทิตย๑) ในปี พ.ศ. ๑๗๙๒ พระองค๑กวาดต๎อนผู๎คนและรวบรวมบ๎านเมืองเป็นปึกแผํน ตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ทรงมีพระราชโอรส ๓ พระองค๑ เมื่อพระองค๑สวรรคต โอรสองค๑ที่ ๑ สิ้นพระชนม๑ตั้งแตํงยังเยาว๑ พํอ ขุนบานเมือง ราชโอรสองค๑ที่ ๒ ทรงปกครองบ๎านเมืองตํอมา ลํวงมาถึงพํอขุนรามคําแหงมหาราช ราช โอรสองค๑ที่ ๓ ได๎ขึ้นปกครองสืบตํอ พระองค๑เป็นผู๎สร๎างกรุงสุโขทัยให๎เจริญถึงขีดสุด มีการเปิดตลาดการ ค๎าขายอยํางเสรี โดยไมํเก็บภาษี อาณาจักรสุโขทัยจึงเป็นศูนย๑กลางการค๎าที่สําคัญและเป็นแหลํงรวม วัฒนธรรมอันหลายหลาก ทรงปกครองแบบพํอปกครองลูก ไพรํฟูาประชาชนอยูํดีกินดีมีความสุขถ๎วน หน๎ากัน อีกทั้ง ในปี พ.ศ.๑๘๒๖ ทรงประดิษฐ๑อักษรไทย ทําให๎คนไทยได๎มีภาษาเป็นของตนเอง สามารถ ติดตํอสื่อสารสร๎างความเข๎าใจซึ่งกันและกันได๎งําย สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น กษัตริย๑องค๑ลําดับตํอๆมาคือ พระยาเลอไทย พระยางั่วนําถม ลํวงมาจนถึงปี พ.ศ.๑๘๙๐ สมัยพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไทย/พระยาลือไทย) พระองค๑ทรงศึกษาพุทธศาสนาอยํางแตกฉาน ทรงพร่ําสอนพระธรรมวินัย พระอภิธรรมให๎พระภิกษุสงฆ๑ ศิลปะทางศาสนาที่เดํนชัดในสมัยของพระองค๑ คือ พระพุทธรูปปางลีลา และพระเจดีย๑ทรงดอกบัวตูมหรือทรงพุํมข๎าวบิณฑ๑ ตลอดจนวรรณคดีที่มีชื่อเสียง ได๎แกํ ไตรภูมิพระรํวง กษัตริย๑ลําดับตํอมา พระมหาธรรมราชาธิราชที่ ๒ พระมหาธรรมราชาธิราชที่ ๓ จนถึงกษัตริย๑องค๑สุดท๎ายคือ พระมหาธรรมราชาธิราชที่ ๔ รวมกษัตริย๑ราชวงศ๑สุโขทัย ทั้งสิ้น ๙ พระองค๑ สุโขทัยจึงเสื่อมอํานาจลง ตกเป็นเมืองประเทศราชของ กรุงศรีอยุธยา จากอดีตกาลแห่งอาณาจักร
  • 21. ๑๕ ตํอจากนั้นมา ในปี พ.ศ. ๑๘๙๓ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ๎าอูํทอง) พระปฐมบรมกษัตริย๑ แหํงกรุงศรีอยุธยา จึงทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา เป็นราชธานี “กาลเวลาไม่เคยหยุดนิ่ง สรรพสิ่งเป็นไปตามกรรม” (เรียงร๎อยถ๎อยภาษา สืบค๎นจาก หนังสือนามานุกรมพระมหากษัตริย๑ไทย ๒๕๕๔) จาก.....อดีตกาลแห่งอาณาจักร จึง เป็นที่มา “จากอาณาจักร.......สู่ตานานเมืองทองคา ”
  • 22. ๑๖ กาลตานานเล่านั้น เมืองทอง เฮาเฮย ขอมมุ่งหมายเมียงมอง ซ่อนไว้ เพราะหวังว่าครอบครอง คงบ่ สูญนา วันหนึ่งสมบัติไซร้ ค่าล้านาคืน พํอรูป กุลด๎วง ปราชญ๑ชาวบ๎านเลําวํา ภูผามํานมีเรื่องราวเลําสืบตํอกันมาวํา ในชํวงที่พระมหา ธรรมราชาธิราชที่ ๑ (พระยาลิไท/พระยาเลอไท) ทรงปกครองอาณาจักรสุโขทัย นั้น ขอมเริ่มแผํอํานาจ อีกครั้ง ซึ่งในสมัยกํอน อาณาจักรตํางๆก็จะแยํงชิงอํานาจกันโดยใครมีกําลังทหาร มีนักรบเกํงกล๎าก็จะยก ทัพไปตีเมืองตําง ๆ เพื่อมาเป็นเมืองขึ้นของตนเอง ซึ่งเมืองที่ตกเป็นเมืองขึ้นก็จะทําหน๎าที่สํงสํวย (สํวย เป็นคํานาม หมายถึง ของที่เรียกเก็บจากพื้นเมืองสํงเป็นภาคหลวงตามวิถีเรียกเก็บภาษีอากรในสมัย โบราณ) มีขอมกลุํมหนึ่งได๎อพยพมาอาศัยอยูํในเขตพื้นที่ทางทิศตะวันตกของบ๎านโนนสวําง อําเภอภูผามําน ซึ่งบริเวณเหลํานั้นชาวบ๎านเรียกติดปากกันมานาน และก็ยังเรียกกันอยูํจนถึงป๓จจุบัน วํา “กุดเขมร”(ขอม) ขณะที่ขอมแผํอํานาจเข๎ามา พระองค๑ก็ไมํได๎นิ่งนอนพระหฤทัย ได๎สํงกําลังทหารมา ปราบขอม กองทัพทหารได๎มาตั้งฐานทัพ และสร๎างปูอมปราการโดยขุดรํองคูคลองเพื่อปูองกันศัตรูไว๎ โดยรอบ (บริเวณปุาช๎าข๎างวัดราษฎร๑ศรัทธาธรรม บ๎านโนนสวําง ในป๓จจุบัน) เขมรและสุโขทัยได๎ตํอสู๎กัน เป็นระยะเวลาเกือบ ๒ ปี เขมรรู๎ดีวํา กําลังตนเองน๎อยกวําเห็นทีจะสู๎กับ สุโขทัยไมํได๎ จึงนําเอาสิ่งของที่มี คําบางสํวนฝ๓งไว๎ในดิน และอีกสํวนหนึ่งนําไปซํอนไว๎ในถ้ําหํางจากกุดเขมรประมาณ ๓ กิโลเมตร ซึ่ง ป๓จจุบันอยูํบริเวณเทือกเขาภูผามําน มีถ้ําอยูํเป็นจํานวนมาก แตํถ้ําที่มีรํองรอยหลักฐานที่สืบทอดมาเป็น ประเพณีตั้งแตํโบราณ คือ “ถ้ําพระ” ในอดีตคนเฒําคนแกํ ผู๎อาวุโสเลําวํา บริเวณ ถ้ําพระ ได๎ค๎นพบ พระพุทธรูปเป็นจํานวนมาก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีคํา ทําด๎วยทองสัมฤทธิ์ ทองคําแท๎ แกะสลักด๎วยไม๎ก็มี แตํป๓จจุบันสูญหายไปมาก เพราะไมํมีใครเห็นความสําคัญ มีการลักขโมยไปบ๎าง คงเหลือเพียงพระพุทธรูป ที่แกะสลักจากไม๎เทํานั้น ที่พอเป็นรํองรอยหลักฐานได๎วําเป็นสมบัติสํวนหนึ่งของขอม อาจจะเป็นเพราะมี พระพุทธรูปเหลืออยูํให๎เห็น ณ ถ้ําแหํงนี้ จึงทําให๎ชาวบ๎านเรียกชื่อถ้ําวํา “ถ้ําพระ” เพราะเป็นชื่อที่เรียก กันมาตั้งแตํอดีตกาล ด๎วยความศรัทธา และความเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ บุคคลที่ลํวงล้ํานําของมีคํา ดังกลําวไป มักพบกับภัยพิบัติอันหาสาเหตุไมํได๎ ผู๎เฒํา ผู๎แกํ ผู๎อาวุโส ได๎ยึดถือปฏิบัติด๎วยศรัทธาอันแรง กล๎า ตลอดจนคุณธรรมที่ถูกปลูกฝ๓งในกรอบของพุทธศาสนา ทําให๎ชาวบ๎านมีความงดงามด๎านจิตใจ ซื่อสัตย๑ สุจริต เสียสละ มีความมักน๎อย สันโดษ พร๎อมกับความเชื่อทางไสยศาสตร๑ รู๎จักบาปบุญคุณโทษ ดังนั้นจะห๎ามญาติพี่น๎องไมํให๎เข๎าไปลํวงล้ําในบริเวณนั้นเป็นอันขาด และก็จะนําพาบุตรหลานไปสรงน้ํา พระพุทธรูปในถ้ําทุกปี ถือเป็นประเพณีปฏิบัติ เรียกวํา “ประเพณีสรงน้ําพระ”(จะทําหลังประเพณีตรุษ สงกรานต๑ประมาณ ๑๕ วัน ซึ่งก็ยังยึดถือปฏิบัติมาจนถึงป๓จจุบัน แตํจะเลือกวันที่สะดวกในระยะ จากอาณาจักร...สู่ตานานเมืองทองคา
  • 23. ๑๗ ๑-๑๕ วัน ) ทํานผู๎รู๎เลําวํา เขมร(ขอม)มีสิ่งของที่เป็นสมบัติล้ําคํามากมาย เชํน พระพุทธรูปทองคํา วัตถุ โบราณ เครื่องไม๎เครื่องมือ ซึ่งเขมรได๎นําพระพุทธรูปไปเก็บไว๎ในถ้ําพระ และถ้ําอื่นๆ ทั้งนี้อาจจะมีสมบัติ ล้ําคําสิ่งอื่น ซึ่งคงอยูํตามถ้ําภายในบริเวณเทือกเขาภูผามําน เมื่อนําสิ่งของมีคําเข๎าไปซํอนพร๎อมปิดปาก ถ้ําไว๎ แล๎วอาจจะทําสัญลักษณ๑ซึ่งเป็นลายแทงขุมทรัพย๑โบราณ ด๎วยหวังเอาไว๎วํา สักวันหนึ่งจะกลับมา เอาสมบัติล้ําคํานั้นกลับคืน “ ทรัพย์สมบัติคือของนอกกาย ไม่ตายหาได้ แต่อะไรเล่าที่ มนุษย์พึงคิด พึงทา เพื่อเพื่อนมนุษย์” (เรียงร้อยถ้อยภาษา สืบค้นจากภูมิปัญญา ปราชญ์ชาวบ้าน พ่อรูป กุลด้วง, พ่อสง่า นาดมั่น, แม่พู่ หนูทัศน์) ถ้้าพระ ถ้้าพิศ ถ้้าเพริศ ถ้้าลอด ถ้้าเลิศ ถ้้าล้้า ถ้้าเก่า ถ้้าเกิด ถ้้ากรรม ถ้้าค้า ถ้้าค้้า ถ้้าคูณ ถ้าพระคือที่มาพาให้คิด ถ้าพระคือลิขิตตานานล้า ถ้าพระคือคาบอกเล่าจงจดจา ถ้าพระคือเขมรนาซ่อนทองคา ถ้าพระ.......สถานที่ที่เล่าต่อๆ กันมาว่า เป็นที่เก็บซ่อนสมบัติโบราณอันล้าค่า จากอาณาจักร...สู่ตานานเมืองทองคา จึงเกิดสถานที่ชี้ชัดให้เห็น “กุดเขมร.......... ที่มาแห่งตานาน”
  • 24. ๑๘ กุดเขมร ชื่อนี้ มีมา นานเนา ในหมู่ขอมศรัทธา ก่อไว้ คงเหลือร่องรอยพา สืบส่ง เรื่องราว โนนสว่าง จดจาได้ ถิ่นนี้บ้านเฮา คําวํา “กุด” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานปี พ. ศ. ๒๕๔๒ อธิบายไว๎วํา กุด (ถิ่นอีสาน) น. บึง ลําน้ําที่ปลายด๎วน พํอรูป กุลด๎วง และแมํพูํ หนูทัศน๑ ปราชญ๑ชาวบ๎านได๎ให๎ความหมายเพิ่มเติม วํา “กุด” เป็นภาษาเขียนที่สะกดตามหลักคําไทยแท๎ ซึ่งชาวขอม(เขมร) ได๎ขุดรํองคูคลองเพื่อเก็บกักน้ํา เอาไว๎ใช๎ในฤดูแล๎งหรือยามขาดแคลน เพราะชาวบ๎านในสมัยกํอนจะอาศัยแมํน้ําเป็นหลักในการดํารงชีวิต กุดเขมร เป็นรํองคูคลองที่อาศัยน้ําจากลําน้ําเซิน มีน้ําไหลตลอดทั้งปี อีกนัยหนึ่ง ได๎อธิบายไว๎วํา ขอม ได๎ ขุดหลุมเพาะไว๎เพื่อปูองกันศัตรู ณ บริเวณดังกลําวมีรํองรอยฐานสถูปเจดีย๑ที่ขอม(เขมร) สร๎างขึ้นเพื่อไว๎ เคารพบูชา มีขนาดไมํใหญํนัก แสดงวําอาจเป็นเพียงชุมชนเล็กๆ พบรํองรอยซากอิฐที่หักพังเป็นก๎อนเล็ก ก๎อนน๎อย ก๎อนอิฐมีลักษณะเป็นหินทราย จากการไปสืบค๎นพบวํา ลักษณะหินคล๎ายหินทรายที่สร๎าง ปราสาทหินพิมาย จ.นครราชสีมา ปราสาทหินพนมรุ๎ง จ.บุรีรัมย๑ ซึ่งเป็นศิลปกรรมการกํอสร๎างตามแบบ ฉบับของขอมโบราณ และในสมัยตํอมาบริเวณดังกลําวอยูํในอาณาเขตของธรณีสงฆ๑ เพราะมีการสร๎างวัด สร๎างกุฏิให๎เป็นที่อยูํของภิกษุสงฆ๑ เป็นวัดเกํา ชาวบ๎านบางคนจึงเข๎าใจผิดคิดวํา กุด คือ กุฏิ (อํานวํา กุ-ติ แตํชาวบ๎านจะอํานวํา กุด เพียงพยางค๑เดียว) แตํความจริงจากตํานานความเป็นมา จากการบอกเลํา คําวํา “กุดเขมร” ลําน้ําที่มีลักษณะเป็นบึง เป็นแอํงน้ํา ที่มนุษย๑ใช๎ภูมิป๓ญญาเก็บกักน้ําไว๎ให๎มีน้ําใช๎ได๎ตลอด ทั้งปี หรืออาจจะเป็นหลุมเพาะที่ทําไว๎ปูองกันศัตรู ซึ่ง ป๓จจุบันวัดดังกลําวได๎ย๎ายออกมา ตั้งอยูํทางทิศ ตะวันออกของหมูํบ๎านคือ วัดราษฏร๑ศรัทธาธรรม บ๎านโนนสวําง อําเภอภูผามําน จังหวัดขอนแกํน แตํ เนื่องจากวํา ป๓จจุบันมีชาวบ๎านบางกลุํมที่ขาดแคลนที่ทํากิน ได๎ขอเชําพื้นที่ดังกลําว เพื่อขุดไถํที่ดินทําไรํ ซึ่งบริเวณนั้นนิยมทําไรํพริก ไรํมะเขือ ไรํข๎าวโพด ไรํอ๎อย ชาวบ๎านที่ทําไรํเคยขุดพบไหโบราณ ภายในไห มีกระดูก ขุดพบพระพุทธรูป ขวาน มีด วัตถุโบราณ และสิ่งของมีคําอื่นๆ ตกเย็นหลับฝ๓นไปวํา เจ๎าที่เจ๎า ทางมาทวงทรัพย๑สมบัติคืน ชาวบ๎านบางคนตกใจกลัวจนจับไข๎หัวโกร๐น เมื่อมีการบอกเลําปากตํอปาก ถึง เรื่องเร๎นลับที่ไมํนําเชื่อ แตํห๎ามลบหลูํ จึงทําให๎ไมํมีใครกล๎าไปขุดหาสิ่งของและวัตถุโบราณที่บริเวณนั้นอีก เพราะยังมีสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ ความเชื่อเรื่องไสยศาสตร๑ของชาวบ๎านซึ่งยากจะหาบทพิสูจน๑ได๎ เลํากัน วํา เจ๎าที่เจ๎าทาง ณ บริเวณนั้นแรงมาก ซึ่งแตํเดิมหมูํบ๎านที่เป็นที่ตั้งของ กุดเขมร เรียกวํา บ๎านโคก ขวาง (โคก หมายถึง ที่ราบที่มีลักษณะโนนสูง ภาษาเขมร เรียก โคก เชํนกัน หมายความวํา ที่ไมํมีน้ํา กุดเขมร.......... ที่มาแห่งตานาน
  • 25. ๑๙ ,แห๎ง) เพราะตั้งหมูํบ๎านขวางพระอาทิตย๑ จึงเรียกตามลักษณะดังกลําว ตํอมาเห็นวําชื่อหมูํบ๎านไมํเป็นสิริ มงคล เพราะคําวํา”ขวาง” มีความหมายวํา กีดขวาง จึงเปลี่ยนชื่อใหมํ เป็น บ๎านโนนสวําง ซึ่งก็เรียกตาม ทําเลที่ตั้งเพราะพื้นที่หมูํบ๎าน บริเวณหมูํบ๎านในอดีตสํวนมากตั้งอยูํริมแมํน้ําเซิน ซึ่งเป็นแมํน้ําสายหลัก ของชุมชนเพื่อความสะดวกในการทํามาหากิน ถึงฤดูน้ําหลาก น้ําทํวมบ๎านเรือน ทําให๎ยุํงยากในการขนย๎าย ข๎าวของ ชาวบ๎านบางกลุํมทนไมํไหวจึงอพยพครอบครัวมาอยูํบริเวณที่โนนสูง และบริเวณดังกลําวมีพระ อาทิตย๑สํองสวํางแจํมจ๎า จึงเรียกชื่อวํา “บ๎านโนนสวําง” มาจนถึงป๓จจุบันนี้ ชุมชนดั้งเดิมที่ไมํยอมย๎ายมา เชํน บ๎านเซินเหนือ บ๎านเซินใต๎ บ๎านทํากระบือ ก็ยังมีน้ําทํวมขังในฤดูน้ําหลาก ในเดือน สิงหาคม- ตุลาคม ของทุกปี (น้ําทํวม ชาวบ๎านเรียกวํา น้ําออก) ถ๎าปีไหนน้ําไมํออกหรือน้ําไมํทํวมจะไมํใชํภูผามําน ชาวบ๎านยังกังวลใจ ถ๎าน้ําออกเมื่อไหรํทุกคนจะรับรู๎และรับทราบรํวมกันวํา เสร็จสิ้นแหํงฤดูกาล เริ่มยําง เข๎าสูํฤดูแหํงการเก็บเกี่ยวซึ่งคาบเกี่ยวกับวันเวลา ปลายฝนต๎นหนาว กําลังมาเยือน อีกครั้งแหํงปี จากวันนั้น ไมํมีใครพบเห็นขอม(เขมร)กลับมาขุดค๎นหาสมบัติใดใด (มีเพียงคําบอกเลําวําเคยมีคน บางกลุํมมาสอบถามถึงสมบัติล้ําคํา แตํไมํมีใครให๎คําตอบได๎) จวบจนถึงวันนี้ ไมํมีใครกล๎าลํวงล้ําเข๎าไปยัง เขตแหํงขุนเขาลําเนาปุา ไมํมีใครกล๎าขุดหาขุมทรัพย๑มหาศาล ไมํมีใครกล๎าสํารวจถ้ําภายในเทือกเขา ภูผามํานอยํางจริงจัง เพราะยังมีสิ่งเร๎นลับเหนือธรรมชาติที่ยากจะหาใครท๎าพิสูจน๑ได๎ ตลอดจนความสูงชัน มั่นคง แข็งแกรํงของภูเขาหินปูนทั้งลูก มีหน๎าผาที่เปรียบเหมือนผ๎ามําน ตั้งตระหงํานโดดเดํน ท๎าลม แดด ฝน มาหลายชั่วอายุขัย พร๎อมกับความเชื่อเรื่องเจ๎าที่เจ๎าทางสมบัติโบราณ และ ป๓จจุบันพื้นที่ดังกลําวอยูํ ในเขตอุทยานแหํงชาติภูผามําน จึงไมํมีใครกล๎าไปรุกล้ํา คงเหลือไว๎แตํความทรงจํา ที่กลั่นออกมาเป็น บทผญาลายแทงตํานานเมืองทองคํา อําเภอภูผามําน จังหวัดขอนแกํน “บางเรื่องจะเชื่อหรือไม่ อย่าลบหลู่ เพราะการหลบลู่ไม่ใช่สิ่งดีงาม” (เรียงร๎อยถ๎อยภาษา สืบค๎นจากภูมิป๓ญญา ปราชญ๑ชาวบ๎าน พํอรูป กุลด๎วง, พํอสงํา นาดมั่น, แมํพูํ หนูทัศน๑)
  • 27. ๒๑ ผญาคาแน่แท้ ปรัชญา ปัญญาเฮย คุณค่างามภาษา เด่นล้า อีสานบ่งบอกมา ยายย่า สอนสั่ง อีกปูุตาคอยค้า ร่วมฟื้นผญาเฮา ผญา เป็นวัฒนธรรมทางภาษาของไทยอีสาน ป๓จจุบัน ผญา หาฟ๓งจากคนรุํนใหมํได๎ยากยิ่งนัก เพราะในสังคมอีสานถูกกลืนด๎วยวัฒนธรรมหลายหลาก สืบเนื่องจากความเจริญก๎าวหน๎าด๎านการคมนาคม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ด๎านวิทยาการ การสื่อสารตํางๆ รวมทั้งภาษา ซึ่งภูผามํานก็เป็นอีกชุมชน หนึ่งที่มีภาษาเป็นของตนเอง ภาษาซึ่งเป็นวรรณกรรมอันสําคัญในการสืบค๎นรํองรอยในอดีต ทั้งนี้ยังคง พอมีอยูํบ๎างที่มองเห็นเป็นรูปธรรมที่ได๎ให๎ความสําคัญนําเอาผญา มาใช๎เป็นภาษาในการประกอบการแสดง หมอลํา ทั้งการดําเนินเรื่อง การสนทนา การเจรจาตํางๆ ผญาจะประกอบไปด๎วยคําคม คําปริศนา และ คํากลอนที่ไพเราะกินใจ ในสมัยกํอนคําพูดที่พํอแมํ ปูุยํา ตายายใช๎สอนบุตรหลานนั้นจะบรรจุไว๎ใน ผญา ทุกวันนี้เรื่องการสอนจะฝากไว๎ให๎กับทางโรงเรียน ทั้งๆที่คํอนชีวิตของคนเราอยูํกับครอบครัว เด็กๆถูก กําหนดบทบาท กิริยามารยาทจากการดูทีวี วีซีดี ภาพยนตร๑ อินเตอร๑เน็ต ความก๎าวหน๎าของระบบสื่อสาร ที่ไร๎พรมแดนเสียเป็นสํวนใหญํ แล๎วความงดงามทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษอุตสําห๑สั่งสมเป็นแบบอยํางของ ความงามทางภาษา ซึ่งไมํต๎องลงทุน เป็นทรัพย๑สินทางป๓ญญาที่ทรงคุณคํา จะหลงเหลือไว๎ให๎ได๎ชื่นชม ซาบซึ้ง สักเทําไหรํ เพราะ เพลานี้ เด็กไขวํคว๎าหาวัตถุ หาใชํจิตใจไมํ ทํานผู๎รู๎อีกทํานหนึ่ง คือ นายทรงเกียรติ บัวพา อดีตสมาชิกสภาองค๑การบริหารสํวนจังหวัด ขอนแกํน เขตอําเภอภูผามําน ขณะที่ทํานกําลังศึกษาตํอในระดับปริญญาโท สาขาไทยศึกษาเพื่อการ พัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย อําเภอเมือง จังหวัดเลย ข๎าพเจ๎าได๎มีโอกาสอํานผลงานของทํานที่ตีพิมพ๑ ในวารสาร “คูณแคน” ของ นายพงษ๑ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ๑ นายกองค๑การบริหารสํวนจังหวัดขอนแกํน ทํานเขียนไว๎วํา ผญา เป็นคําประพันธ๑ชนิดหนึ่งของชาวอีสาน ที่ควรรํวมกันฟื้นฟู สืบทอด อนุรักษ๑ให๎เป็น มรดกแกํคนรุํนใหมํ เพราะ ผญา เป็นจุดเริ่มต๎นที่สําคัญที่สุดที่จะเกิดวรรณกรรมอีสานประเภทคํากลอน คําสอน ทํานผู๎รู๎หลายทําน เชํน อาจารย๑เจริญชัย ชนไพโรจน๑ อาจารย๑พรชัย ศรีสารคาม อาจารย๑อุดม ศรีบัว อาจารย๑จารุบุตร เรืองสุวรรณ และอีกหลายทํานที่มารํวมสัมมนาเพลงพื้นบ๎านที่มหาวิทยาลัยศรี นครินทรวิโรฒมหาสารคาม อําเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม จัดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ทุกคนมี ความเห็นสรุปวํา “ ผญา” มาจากคําวํา “ ป๓ญญา” หรือ “ ปรัชญา” ในวิทยานิพนธ๑ของทํานผู๎รู๎หลาย ทํานก็สรุปออกมาเชํนเดียวกัน ผญา ปรัชญา ปัญญา
  • 28. ๒๒ ผญา จึงถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร๑อยํางหนึ่งซึ่งมีรํองรอยสามารถใช๎เป็นข๎อมูลในการ สืบค๎นความเป็นมาของเรื่องราวในอดีตได๎ ซึ่งคําวํา ผญา เป็นรากศัพท๑ที่ถูกกําหนดขึ้นในคนยุคใหมํของ ชาวอีสาน ในอดีต อาจจะเป็นคํากลําวที่พ๎องคํา พ๎องเสียง พ๎องความหมาย เพื่อให๎งํายตํอการจดจํา อาทิ ในสมัยพํอขุนรามคําแหงมหาราช กษัตริย๑แหํงกรุงสุโขทัย ที่ทรงประดิษฐ๑อักษรไทย ยังมีคํากลําววํา “ใคร ใครํค๎าม๎าค๎า ใครใครํคําช๎างค๎า” ซึ่งแสดงให๎เห็นวิถีชีวิตของคนสมัยสุโขทัยที่มีความอุดมสมบูรณ๑มีการ แลกเปลี่ยนซื้อขายอยํางเสรี ดังนั้นบทผญาลายแทงภูผามํานตํานานเมืองทองคํา ที่เป็นรํองรอยหลักฐานที่ เหลือไว๎ให๎ลูกหลานได๎ยินได๎ฟ๓ง เป็นแรงบันดาลใจที่ผลักดันในการสืบค๎นประวัติภูผามํานในครั้งนี้ และผญาบทนี้เป็นคํากลําวที่มีมาปากตํอปาก จากรุํนสูํรุํน รุํนแล๎ว รุํนเลํา และจะยังคงกลําวถึงในหมูํชนคน ผู๎รู๎ ซึ่งทํานผู๎รู๎อีกทํานหนึ่ง คือ ครูเสนํห๑ หนูทัศน๑ อายุ ๕๓ ปี หลานชายของกํานันเบอร๑ หนูทัศน๑ ป๓จจุบันเป็นข๎าราชการครูโรงเรียนบ๎านโนนคอม ตําบลโนนคอม อําเภอภูผามําน ทํานเป็นคนภูผามํานโดย กําเนิด ทํานเลําวําขณะทํานเป็นเด็ก มีคนกลุํมหนึ่งประมาณ ๑๕ - ๒๐ คน ได๎มาสอบถามถึงเรื่องราว ตํางๆ แตํสื่อสารกันไมํรู๎เรื่อง เพราะใช๎ภาษาคนละภาษา มีชาวบ๎านคนหนึ่งพอรู๎ภาษาอยูํบ๎าง จึงได๎ สอบถาม รู๎วําเป็นชาวขอม(เขมร) ได๎มาสอบถามถึงบริเวณตํางๆในเขตเทือกเขาภูผามําน มีเอกสารซึ่งเป็น เหมือนแผนที่ลายแทงอะไรสักอยําง แตํไมํมีใครรู๎วํามาเสาะสืบหาอะไร ทํานเองเป็นเด็กก็ได๎แตํยืนมองดู เหตุการณ๑ จึงเป็นเรื่องเลําบอกตํอๆกันมาถึงเหตุการณ๑ครั้งนั้น จากการบอกเลําดังกลําว จึงได๎มีบุคคลใน ยุคใหมํ ซึ่งไมํใชํคนภูผามําน ทราบวําเป็นข๎าราชการที่เคยมาทํางานที่ภูผามําน ได๎ยินได๎ฟ๓งความเป็นมา ของภูผามําน จึงได๎คิดบทผญาไว๎ จึงขอนําเสนอเรื่องราวในบทผญา ที่ทํานซึ่งไมํทราบแนํชัดวําเป็นใคร รู๎แตํเพียงวําทํานเป็น ข๎าราชการที่มาปฏิบัติงานอยูํที่ภูผามําน ทํานได๎ถํายทอดองค๑ความรู๎โดยใช๎ภูมิป๓ญญาทางภาษาบันทึก เรื่องราว ทําให๎ชาวภูผามํานมีรํองรอยในการสืบค๎นรากเหง๎าแหํงอดีตที่นําภาคภูมิใจ ขอกราบขอบพระคุณ ทําน แทนชาวอําเภอภูผามําน และขออนุญาต นําบทผญา มากลําวอ๎าง เพื่อนํามาบันทึกเป็นตํานานอ๎างอิง สูํประวัติศาสตร๑ ของชาวภูผามําน ค่าของคนคือผลแห่งการงาน ค่าของกาลเวลาพาเปลี่ยนหมุน ค่าชีวิตเพ่งพินิจคิดการุณย์ ค่าแห่งบุญเป็นผู้ให้ใจเบิกบาน “ผญา ปรัชญา หรือ ปัญญา สร้างศรัทธาด้วยสติ” (เรียงร๎อยถ๎อยภาษา สืบค๎นจากทํานผู๎รู๎ นายทรงเกียรติ บัวพา) ผญา ปรัชญา ปัญญา คือที่มา “คาผญา ลายแทงขุมทรัพย์โบราณ”
  • 29. ๒๓ คาผญาว่าไว้ จดจา อย่าลืม เพื่อสื่อสารลานา แม่นหมั้น ขุมทรัพย์แห่งทองคา คนไปุ- รู้นา มีค่าแสนโกฏินั้น อาจค้นสืบเจอ คาผญา ออกเสียงแบบภาษาถิ่นอีสาน “แตํกํอนกี้พันแปดปีปลาย มีเมืองทองอยูํภูผามําน ไฟไหม๎ม๎างเมืองทองมุดมอด หมดมอดเมี้ยนซุมเซื้อเผําพันธุ๑ มีดาบสเฒํานําทองลี้ซํอนในถ้ํากว๎างกลางด๎าวหนํวยภูเป็นทอง แท๎ราคาแสนโกฏิ บุญบํมาวาสนาบํให๎ แสนสิค๎นกะบํเห็น” คาผญา ออกเสียงแบบภาษาภูผาม่าน “แตกํอนกี๊พันแปูดปีปลาย หมี่เมืองทองหยูํภูํผ๎าม๏าน ใฝุไหม๎หม๎างเมืองทองหมุดหม๎อด หมดหม๎อดเหมื้อนซุํมเซื้อเผําผั๊น มีดาบสเฒ๎านําทองหลี้ซ๎อนในถ้ํากว๏างกลางด๎าวหนวยภูํ เป็นทองแท๏ราคาแส๏นโก๎ฏิ บุญบํหมําว๎าสหนาบํให๎ แซนสิค๎นกะบํเฮ๎น” กาลครั้งหนึ่งเมื่อ ๑,๘๐๐ ปีเศษ (สันนิษฐานวําเป็นปี พ.ศ. ๑,๘๐๐) ผํานมาแล๎ว ได๎มีเมืองๆ หนึ่งที่บ๎านเรือนสร๎างขึ้นด๎วยทองคําอยูํภูผามําน (ตําบลภูผามําน หรือชื่อ อําเภอภูผามํานในป๓จจุบัน) ตํอมาได๎ถูกเผาผลาญทั้งบ๎านเรือนและผู๎คนล๎มตายไปสิ้น หากแตํมีผู๎ทรงศีลรูปหนึ่งได๎รอดชีวิตจาก เหตุการณ๑ครั้งนั้น เพราะทํานจําศีลภาวนาอยูํในถ้ําลึกจึงได๎รอดพ๎นจากความตาย ทํานจึงเก็บรวบรวม ทองคําลําเลียงเข๎าไปซํอนไว๎ในถ้ําใหญํใจกลางภูเขา ราคาทองคําแท๎ทั้งหมดที่เก็บซํอนไว๎นับได๎แสนโกฎิ (๑ โกฏิ มีคําเทํากับ ๑๐ ล๎าน) ตํอมาแม๎จะมีผู๎คนมากมายอยากจะได๎มาครอบครอง แตํหากผู๎คนเหลํานั้น มิมีบุญญาธิการและแรงบุญบารหนุนสํงแล๎ว ถึงจะเพียรพยายามค๎นหาอยํางไรก็ไมํสามารถพบเห็นได๎ นี่ เป็นผญาลายแทงขุมสมบัติภูผามํานโบราณ ผญาลายแทงตํานานเมืองทองคํา ได๎เลําสืบตํอกันมาหลายชั่ว อายุคนจากบรรพบุรุษสูํลูกหลาน ซึ่งทํานปราชญ๑ของหมูํบ๎านได๎บอกเลําวํา ไมํมีหลักฐานยืนยันวํา แนํนอนวํามีมากี่พันปีแล๎ว แตํเชื่อวําจากคําผญา กลําวไว๎ พันแปดปีปลาย( ปี พ.ศ. ๑,๘๐๐ ปีเศษ) นําจะอยูํในชํวงสมัยอาณาจักรสุโขทัย ซึ่งอยูํใชํวงพระมาหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไทย) ซึ่งตรงกับคํา บอกเลําของคุณตารูป กุลด้วง ปราชญ๑ชาวบ๎าน ผญาลายแทงตํานานเมืองทองคํา อาจจะเป็นเพียงตํานานที่สืบค๎นจากข๎อมูลคติชนวิทยาเกี่ยวกับ มุขปาฐะ(ความเชื่อ) ซึ่งผู๎อาวุโส ปราชญ๑ของหมูํบ๎านได๎ให๎ข๎อมูลไว๎เป็นหลักฐาน ล๎วนแตํเป็นข๎อมูลที่มี คาผญา ลายแทงขุมทรัพย์โบราณ
  • 30. ๒๔ ความนําเชื่อถือ แตํยังไมํมีหนํวยงานใดหรือใครจะรับอาสาพิสูจน๑ความจริงตามตํานานนั้น เนื่องจาก สาเหตุที่กลําวมาแล๎วข๎างต๎น แตํสิ่งที่คงเหลือไว๎ก็คือ ความภาคภูมิใจในตํานานเรื่องราวบ๎านเกิดเมืองนอน ของชาวภูผามําน พร๎อมด๎วยธรรมชาติที่สวยสดงดงามคงความเป็นธรรมชาติยากที่จะหาที่ใดเปรียบได๎ สมควรอยํางยิ่งที่จะต๎องรํวมกันอนุรักษ๑ไว๎ให๎เป็นสมบัติของลูกหลานสืบตํอไป ไมํแนํในอนาคตอันใกล๎นี้ อาจจะมีลูกหลานชาวภูผามํานเป็นผู๎มีบุญญาภิสมภารค๎นพบลายแทงตํานานเมืองทองคําที่กลําวไว๎ใน บทผญา ก็เป็นได๎ ใครจะไปรู๎ “ความยากง่ายของการได้มาไม่สาคัญ สาคัญอยู่ว่า ใครจะเห็นคุณค่าและรักษาได้ยั่งยืน” (เรียงร๎อยถ๎อยภาษา สืบค๎นจากภูมิป๓ญญาปราชญ๑ชาวบ๎าน พํอรูป กุลด๎วง, แมํพูํ หนูทัศน๑, นายทรงเกียรติ บัวพา) หากมีทรัพย์เป็นทองกองเต็มหน้า ไร้จรรยามารยาทวาดแต่งเสริม คงหมดงามหมดค่าราคาเดิม จงคิดเพิ่มให้เหมือนทองมองที่ใจ คาผญา ลายแทงขุมทรัพย์โบราณ ทํานผู๎รู๎ขอฝากมุมมอง...เพื่อ “วิเคราะห์เจาะลึก ผนึกเมืองทองคา”