SlideShare a Scribd company logo
1 of 55
แสง          การแผ่ร ัง สีแ ม่เ หล็ก ไฟฟ้า ในช่ว งความยาวคลืน ที่ ่
 สายตามนุษ ย์ม องเห็น รวมถึง การแผ่ร ัง สีแ ม่เ หล็ก ไฟฟ้า ในช่ว ง
   ความยาวคลื่น ตั้ง แต่ รัง สีอ ัล ตร้า ไวโอเลต , รัง สีเ อ๊ก ซ์ ที่ม ี
ความยาวคลื่น สั้น กว่า หรือ คลื่น วิท ยุ,คลื่น โทรทัศ น์แ ละพลัง งาน
 ไฟฟ้า ที่ม ีช ่ว งความยาวคลื่น ยาวกว่า ความเร็ว ของแสงอยู่ท ี่
                     300,000 กิโ ลเมตรต่อ วิน าที
สีแ ละความยาวคลื่น
     ความยาวคลื่น ที่แ ตกต่า งกัน นั้น จะถูก ตรวจจับ ได้
  ด้ว ยดวงตาของมนุษ ย์ ซึ่ง จะแปลผลด้ว ยสมองของ
มนุษ ย์ใ ห้เ ป็น สีต ่า งๆ ในช่ว ง สีแ ดงซึ่ง มีค วามยาวคลื่น
ยาวสุด (ความถี่ต ำ่า สุด ) ที่ม นุษ ย์ม องเห็น ได้ ถึง สีม ่ว ง ซึ่ง
มีค วามยาวคลื่น สั้น สุด (ความถี่ส ูง สุด ) ที่ม นุษ ย์ม องเห็น
 ได้ ความถี่ท ี่อ ยู่ใ นช่ว งนี้ จะมีส ีส ้ม , สีเ หลือ ง, สีเ ขีย ว,
                      สีน ำ้า เงิน และ สีค ราม
แสงมีค ุณ สมบัต ิท วิภ าวะ
       1. แสงเป็น คลื่น : แสงเป็น คลื่น แม่เ หล็ก ไฟฟ้า
2. แสงเป็น อนุภ าค : แสงเป็น ก้อ นพลัง งานเรีย กอนุภ าคแสง
                          ว่า โฟตอน
พฤติก รรมต่า ง ๆ ของแสง
1. การสะท้อ น (Reflection) เป็น พฤติก รรมที่แ สงตกกระทบ
บนตัว กลางและสะท้อ นตัว ออก ถ้า ตัว กลางเป็น วัต ถุผ ิว
เรีย บขัด มัน จะทำา ให้ม ุม ของแสงที่ต กกระทบจะมีค ่า
เท่า กับ มุม สะท้อ น
3. การกระจาย (Diffusion) เป็น พฤติก รรมที่แ สงจะ
 กระจายตัว ออกเมื่อ กระทบถูก ผิว ของตัว กลาง เราใช้
 ประโยชน์จ ากการกระจายตัว ของลำา แสง เมื่อ กระทบ
ตัว กลางนี้ เช่น ใช้แ ผ่น พลาสติก ใสปิด ดวงโคม เพื่อ ลด
                  ความจ้า จากหลอดไฟ
พฤติก รรมต่า ง ๆ ของแสง
4. การดูด กลืน (Absorbtion) เป็น พฤติก รรมที่แ สงถูก ดูด
กลืน หลายเข้า ไปในตัว กลาง โดยทั่ว ไปเมื่อ พลัง งาน
 แสงถูก ดูด กลืน หายเข้า ไปในวัต ถุใ ด ๆ มัน จะเปลี่ย น
                เป็น พลัง งานความร้อ น
พฤติก รรมต่า ง ๆ ของแสง
5. การทะลุผ ่า น (Transmission) เป็น พฤติก รรมที่แ สงพุ่ง
    ชนตัว กลางแล้ว ทะลุผ ่า นมัน ออกไปอีก ด้า นหนึ่ง
                         6
พฤติก รรมต่า ง ๆ ของแสง
6. การส่อ งสว่า ง (Illumination) ปริม าณแห่ง การส่อ งสว่า ง
 บนพื้น ผิว ใด ๆ จะแปรตามโดยตรงกับ ความเข้ม แห่ง
การส่อ งสว่า ง ระหว่า งพื้น ผิว นั้น กับ แหล่ง กำา เนิด แสง
พฤติก รรมต่า ง ๆ ของแสง
 7. ความจ้า (Brighten) ความจ้า เป็น ผลซึ่ง เกิด จากการที่
แสงถูก สะท้อ นออกจากผิว วัต ถุ หรือ พุ่ง ออกจากแหล่ง
                  กำา เนิด แสงเข้า สู่ต า
หน่ว ยที่ใ ช้ใ นการวัด แสง
ปริมาณ               หน่วย                 ตัวย่อ            หมายเหตุ
พลังงานของการส่อง
                  จูล (joule)                       J
สว่าง
                  ลูเมน (lumen) หรือ
                                                             อาจเรียกว่า กำาลังของ
ฟลักซ์ส่องสว่าง   แคนเดลา · สเตอ                    lm       ความสว่าง (Luminous
(Luminous flux)   เรเดียน (candela ·                         power)
                     steradian)
ความเข้มของการ
ส่องสว่าง (Luminous แคนเดลา (candela)               cd
intensity)
                                                             อาจเรียกว่า ความหนา
ความเข้มของความ แคนเดลา/ตาราง
                  เมตร (candela/square         cd/m      2
                                                             แน่นของความเข้มการ
สว่าง (Luminance)
                     metre)                                  ส่องสว่าง
ความสว่าง            ลักซ์ (lux) หรือ ลู
                                                    lx
(Illuminance)        เมน/ตารางเมตร
ประสิทธิภาพการ
                    ลูเมน ต่อ วัตต์
ส่องสว่าง (Luminous (lumens per watt)          lm/W
efficiency)
การมองเห็น
         เป็น ระบบรับ ความรู้ส ึก ที่ป ระกอบด้ว ย ลูก ตา
 ประสาทตาและสมอง (ส่ว น Visual Cortex) โดยแสงสะท้อ น
  จากวัต ถุผ ่า นตาดำา ไปยัง แก้ว ตา จากนั้น จะหัก เหไป
ตกกระทบบริเ วณจอตา (Retina) เซลล์ป ระสาทบริเ วณจอตา
  จะปรับ สัญ ญาณที่ไ ด้ร ับ ส่ง ไปทางประสาทตา เพื่อ ให้
        สมองได้ร ับ ทราบและแปลสิ่ง ที่ม องเห็น
การมองเห็น
        กระบวนการทางเคมีเ กิด ขึ้น ที่ใ บและลำา ต้น คลอโร
 ฟิล ล์ (chlorophyll) ที่ใ บและลำา ต้น จะดูด กลืน แสงสีแ ดงไว้
แสงที่เ หลือ ส่ว นใหญ่ คือ แสงสีเ ขีย ว ซึ่ง จะถูก สะท้อ นออก
             ไป ทำา ให้เ รามองเห็น ใบเป็น สีเ ขีย ว
สำำ หรับ งำนพิม พ์ จะมี 4 สี คือ สีบ ำนเย็น (Magenta-สี
ออกไปทำงแดง) สีเ หลือ ง สีฟ ้ำ (Cyan) และ สีด ำำ และเพื่อ ให้
 ภำพพิม พ์เ หมือ นธรรมชำติซ ึ่ง จะมีก ำรไล่ร ะดับ สีท ี่แ ตก
     ต่ำ งกัน จึง มีก ำรพิม พ์ส ีใ นลัก ษณะเป็น จุด ๆ
แหล่ง กำำ เนิด แสง
1. แสงธรรมชำติ (Natural Light) แสงที่ไ ด้จ ำกพลัง งำน
      ตำมธรรมชำติ เช่น ดวงอำทิต ย์
แหล่ง กำำ เนิด แสง
    1. แสงประดิษ ฐ์ (Artificial Light) แสงที่ไ ด้จ ำกกำรที่
มนุษ ย์ป ระดิษ ฐ์ค ิด ค้น ขึ้น โดยอำศัย ธรรมชำติแ ละ
     เทคโนโลยี่ เช่น แสงจำกดวงโคมต่ำ งๆ
กำรกำำ เนิด แสงสำมำรถแบ่ง ได้อ อกเป็น 2 ลัก ษณะคือ
       1. แบบอิน แคนเดสเซนต์ ( INCANDESCENCE) กำรกำำ เนิด
แสงที่เ กิด จำกกำรเผำหรือ กำรให้พ ลัง งำนควำมร้อ น เช่น
           กำรเผำแท่ง เหล็ก ที่ค วำมร้อ นสูง มำกๆ
กำรกำำ เนิด แสงสำมำรถแบ่ง ได้อ อกเป็น 2 ลัก ษณะคือ
       2. แบบลูม ิเ นสเซนต์ ( LUMINESCENCE ) แสงที่ไ ม่ไ ด้
เกิด จำกกำรเปลี่ย นพลัง งำนควำมร้อ นให้เ ป็น พลัง งำน
แสง เช่น แสงจำกตัว แมลง ,แสงที่เ กิด จำกปฏิก ิร ิย ำเคมี,
   รวมไปถึง แสงที่เ กิด จำกกำรปล่อ ยประจุข องก๊ำ ซ
ทฤษฎีส ีแ สง (Light Color)
         ทฤษฎีส ีท ี่เ กี่ย วข้อ งกับ
     งำนออกแบบทัศ นศิล ป์
สำมำรถแบ่ง ได้เ ป็น 2 แบบคือ
 • ทฤษฎีส ีแ สง (Light Color) กำร
ผสมของสีป ระเภทนี้ เป็น กำร
  ผสมสีแ สง เรีย กว่ำ กำรผสม
    แบบบวก (Additive Mixing)
  • ทฤษฎีส ีว ัต ถุธ ำตุ(Pigmentary
Color) กำรผสมของสีป ระเภทนี้
   เป็น กำรผสมของรงควัต ถุ
 (Pigment) เรีย กว่ำ กำรผสมแบบ
ลบ (Subtractive Mixing) ซึ่ง จะได้
กล่ำ วถึง ตำมลำำ ดับ ดัง ต่อ ไปนี้
ทฤษฎีส ีแ สง (Light Color)
       แสงอำทิต ย์ม ีส ีต ่ำ ง ๆ รวมกัน อยู่ เมื่อ ให้แ สงอำทิต ย์
ส่อ งผ่ำ นแท่ง แก้ว รูป สำมเหลี่ย ม (Prism) แสงที่ผ ่ำ นออกมำ
อีก ด้ำ นหนึ่ง จะมี 7 สี คือ ม่ว ง ครำม นำ้ำ เงิน เขีย ว เหลือ ง
  แสด แดง และถ้ำ นำำ สีท ั้ง 7 รวมกัน เป็น สีข ำว แสงใน
 ธรรมชำติน ั้น มีอ ยู่ถ ึง 7 สี แต่ร วมกัน อยู่ เรีย กว่ำ Spectrum
ทฤษฎีส ีแ สง (Light Color)
แม่ส ีบ วก (Additive Color) หรือ แม่ส ีว ิท ยำศำสตร์ มี 3 สี คือ
                        1. สีแ ดง (Red, R)
                      2. สีเ ขีย ว (Green, G)
                       3. นำ้ำ เงิน (Blue, B)
กำรผสมสีแ บบบวก (Additive Color Mixing)
       กำรผสมของแสงสีข ำวด้ว ยลำำ แสงที่ม ีส ีต ่ำ ง ๆ ตำม
 ควำมยำวคลื่น แสง ควำมยำวคลื่น แสงพื้น ฐำนได้แ ก่ สี
 แดง เขีย ว และ นำ้ำ เงิน เมื่อ มีก ำรซ้อ นทับ กัน ก็จ ะก่อ ให้
เกิด กำรบวก และรวมตัว กัน ของควำมยำวคลื่น แสง ”แสง
หรือ แม่ส ีท ั้ง สำมนี้ เป็น สีข ั้น ต้น เมื่อ ผสมเข้ำ ด้ว ยกัน เป็น คู่
                         จะได้ส ีข ั้น ที่ส อง
1. หลอดไส้
          รำคำถูก สีข องแสงดี ติด ตั้ง ง่ำ ย ให้แ สงสว่ำ งทัน ที
เมื่อ เปิด ประสิท ธิภ ำพตำ่ำ มำก อำยุ กำรใช้ง ำนสั้น ไฟฟ้ำ ที่
 ป้อ นให้ห ลอดจะถูก เปลี่ย นเป็น ควำมร้อ นกว่ำ ร้อ ยละ 90
  จึง ไม่ป ระหยัด พลัง งำน แต่เ หมำะสมกับ งำนประเภทที่
  ต้อ งกำรหรี่แ สง เช่น ห้อ งจัด เลี้ย งตำมโรงแรม หรือ ใช้
     กับ โคมระย้ำ ที่ป ระกอบด้ว ยผลึก แก้ว เพื่อ เน้น ควำม
                             สวยงำม
2. หลอดฟลูอ อเรสเซนต์
      เป็น หลอดที่ม ีป ระสิท ธิภ ำพแสงและอำยุก ำรใช้ง ำน
มำกกว่ำ หลอดไส้ หลอดฟลูอ อเรสเซนต์แ ท่ง ยำวที่ใ ช้แ พร่
หลำยมีข นำด 36 วัต ต์ แต่ก ็ย ัง มีห ลอดไฟประสิท ธิภ ำพ สูง
 (หลอดซุป เปอร์ล ัก ซ์) ซึ่ง มีร ำคำต่อ หลอดแพงกว่ำ หลอด
ไฟ 36 วัต ต์ธ รรมดำ แต่ใ ห้ป ริม ำณ แสงมำกกว่ำ ร้อ ยละ 20
              ในขนำดกำรใช้ไ ฟฟ้ำ ที่เ ท่ำ กัน
3. หลอดคอมแพคฟลูอ อเรสเซนต์ (CFL)
          หลอดตะเกีย บชนิด ที่ใ ห้ส ีข องแสงออกมำเทีย บ
เท่ำ ร้อ ยละ 85 ของหลอดไส้ (ให้ส ีข องแสงดีท ี่ส ุด ) สำำ หรับ
 ใช้แ ทนหลอดไส้เ พื่อ ช่ว ยประหยัด ไฟ และอำยุก ำรใช้
งำนนำนกว่ำ 8 เท่ำ ของหลอดไส้ มี 2 ประเภท คือ แบบขั้ว
                 เกลีย วและแบบ ขั้ว เสีย บ
4. หลอดแสงจัน ทร์
       ประสิท ธิภ าพแสงตำ่า กว่า หลอดฟลูอ อเรสเซนต์เ ล็ก
 น้อ ยแต่อ ายุก ารใช้ง าน นานกว่า เหมาะสมเป็น ไฟสนาม
ตามสวนสาธารณะ แต่เ มื่อ ใช้ไ ปนานๆคุณ ภาพ แสงจะลด
                           ลง
5. หลอดเมทัล ฮาไลด์
    ประสิท ธิภ าพสูง คุณ ภาพแสงดีแ ต่ต ้อ งใช้เ วลาอุ่น
หลอดเมื่อ เปิด เหมาะ สำา หรับ การใช้ส ่อ งสิน ค้า ในห้า ง
                     สรรพสิน ค้า
6. หลอดโซเดีย มความดัน สูง
     ประสิท ธิภ าพสูง แต่ค ุณ ภาพแสงไม่ด ี มัก ใช้ก ับ ไฟ
ถนน คลัง สิน ค้า ไฟส่อ งบริเ วณที่เ ปลี่ย นหลอดยาก พื้น ที่
                     นอกอาคาร
พ.ร.บ.
             พื้น ที่ส ำา นัก งาน , โรงแรม, สถานศึก ษา และ โรง
  พยาบาล/สถานพัก ฟื้น ค่า กำา ลัง ไฟฟ้า แสงสว่า งสูง สุด
  (วัต ต์ต ่อ ตารางเมตรของพื้น ที่ใ ช้ง าน ) ไม่เ กิน 16 W/M2
     หรือ กรณีพ ื้น ที่ร ้า นขายของ , ซูเ ปอร์ม าร์เ ก็ต และ
ศูน ย์ก ารค้า ไม่เ กิน 23 W/M2 ทั้ง นี้ใ ห้ส ามารถคิด คำา นวณ
พื้น ที่ท ั้ง อาคารเฉลี่ย ได้ โดยไม่ร วมพื้น ที่จ อดรถ แต่ร วม
  ถึง ไฟฟ้า แสงสว่า งทั่ว ไปที่ใ ช้ใ นการโฆษณาเผยแพร่
สิน ค้า ยกเว้น แสงสว่า งที่ใ ช้ใ นตู้ก ระจกแสดงสิน ค้า หน้า
                                     ร้า น
ประเภทของโคมไฟ
          1. โคมไฟส่อ งสว่า งทั่ว ไป ( AMBIENT LIGHT ) นิย ม
 ใช้เ ป็น โคมไฟดาวน์ไ ลท์เ ป็น ส่ว นใหญ่ โดยทั่ว ไปจะใช้
 ในห้อ งรับ แขกหรือ ห้อ งนั่ง เล่น จะติด ตั้ง โคมไฟในระยะ
ห่า งกัน ประมาณไม่เ กิน 2.40 เมตร และต้อ งเป็น ชนิด ที่ใ ห้
                  แสงสว่า งสมำ่า เสมอ
ประเภทของโคมไฟ
       2. โคมไฟชนิด ตั้ง พื้น (TORCHIERE) เป็น โคมไฟที่
ให้แ สงนุ่ม นวลสมำ่า เสมอ เหมาะสมกับ พื้น ที่ท ี่จ ะให้ค วาม
              สว่า งไม่เ กิน 35 ตารางเมตร
ประเภทของโคมไฟ
      3. โคมตั้ง โต๊ะ ชนิด ตกแต่ง ( DECORATIVE TABLE LAMP)
โดยส่ว นใหญ่ม ัก จะนำา มาตกแต่ง มากกว่า ที่จ ะใช้ง านให้
      แสงสว่า งจึง ค่อ นข้า งมีร ูป แบบหลากหลาย
ประเภทของโคมไฟ
  4. โคมไฟห้อ ย ( CHANDELIER ) ใช้ส ่อ งเฉพาะเจาะจง
บนพื้น ที่เ พื่อ สร้า งให้เ กิด ความรู้ส ึก เป็น ที่ร วมกลุ่ม
ประเภทของโคมไฟ
      5. โคมไฟโต๊ะ ทำา งาน ( TASK LIGTH ) เป็น โคมไฟที่ถ ูก
  ออกแบบมาเพื่อ การใช้ง านบนโต๊ะ ทำา งาน จึง ต้อ ง
สามารถปรับ มุม หรือ ทิศ ทางได้ง ่า ย และสามารถเคลื่อ น
 ย้า ยได้ง ่า ยช่ว ยลดแสงสะท้อ นจากโคมไฟชนิด อื่น ๆ
                   ภายในห้อ งได้อ ีก ด้ว ย
· ระบบการให้แ สงสว่า ง
  หลัก ระบบแสงสว่า ง
 หลัก ที่ม ีค วามส่อ งสว่า ง
 เพีย งพอต่อ การใช้ง าน
  ในแต่ล ะพื้น ที่น ั้น ๆ
· ระบบการให้แ สงสว่า ง
รอง ระบบมีแ สงสว่า งให้
    เกิด ความสวยงาม
  หรือ เน้น เพื่อ ให้เ กิด
  ความสนใจ สบายตา
       และ อารมณ์
· การให้แ สงสว่า งที่ด ี มี
 ทั้ง ระบบการแสงสว่า ง
 หลัก และแสงสว่า งรอง
การส่อ งสว่า งภายในบ้า นอยู่อ าศัย อพารต์เ มนต์ และ
                               โรงแรม
· หลอดที่ใ ห้แ สงสีเ หลือ งดูน ่า อบอุ่น มีค ่า ความส่อ งสว่า ง
                พื้น ที่ท ั่ว ไป 100 - 200 ลัก ซ์
การส่อ งสว่า งภายในบ้า นอยู่อ าศัย อพารต์เ มนต์ และ
                            โรงแรม
   · ไม่ค วรใช้ไ ฟเกิน กว่า 80 % ของอัต ราสวิต ช์ห รี่ไ ฟ
   · มีโ คมไฟชนิด อื่น ช่ว ยให้แ สงหลัก เพื่อ ลดเงาที่เ กิด
                    เนื่อ งจากโคมหลัก
· โคมระย้า ใช้ 20 -25 วัต ต์/ตารางเมตร/ 100 ลัก ซ์ และควร
                  ติด ตั้ง สวิต ช์ไ ฟหรี่ด ้ว ย
การส่อ งสว่า งภายในบ้า นอยู่อ าศัย อพารต์เ มนต์ และ
                         โรงแรม
· โคมระย้า ใช้ข นาดประมาณ 1/12 ของเส้น ทะแยงมุม ห้อ ง
 · ช่อ งเปิด ไฟหรืบ ควรมีข นาดอย่า งน้อ ย 1/10 ของขนาด
                           เบ้า
   · การให้แ สงสว่า งจากหรืบ เพื่อ ส่อ งสว่า งพืน ที่ค วรมี
                  เพดานสีข าวหรือ สีอ ่อ น
การส่อ งสว่า งในสำา นัก งาน
· สำา นัก งานทั่ว ไปมัก ใช้โ คมไฟตัว สะท้อ นแสงอะลูม ิเ นีย ม
 ห้อ งหรือ บริเ วณสำา คัญ ที่ไ ม่ต ้อ งการแสงบาดตาก็ค วรใช้
โคมแบบมีต ัว กรองแสงขาวขุ่น หรือ แบบเกล็ด แก้ว ( Prismatic
                          Diffuser)
ความส่อ งสว่า ง
· การใช้ห ลอดปรอทความดัน สูง อาจมีป ัญ หาในเรื่อ งแสง
 สีน ำ้า เงิน ที่ ออกมามากในช่ว งติด ตั้ง เริ่ม แรก แต่จ ะจางลง
                    เมื่อ ติด ตั้ง ไปหลายเดือ นแล้ว
  · การใช้ห ลอดโซเดีย มในโรงงานอุต สาหกรรมใช้ใ น
                        กรณีไ ม่พ ิถ ีพ ิถ ัน เรื่อ งสี
ความส่อ งสว่า งในโรงพยาบาล
· หลอดที่เ หมาะสมสำา หรับ การตรวจรัก ษาโรคทั่ว ไปคือ
                    หลอดคูล ไวท์
  · ควรใช้ห ลอดเหมือ นกัน ทั้ง หมด เพื่อ ไม่ใ ห้ห ลอกตา
ความส่อ งสว่า งในโรงพยาบาล
   · โคมที่เ หมาะสำา หรับ งานโรงพยาบาลในบริเ วณที่ม ี
คนไข้ คือ โคมที่ม ีแ ผ่น กรองแสงขาวขุ่น หรือ เกล็ด แก้ว แต่
    มีป ัญ หาเรื่อ งประสิท ธิภ าพของโคมที่ใ ช้ไ ฟฟ้า มาก
· แสงสว่า งในห้อ งผ่า ตัด ควรสว่า งมากเพื่อ ไม่ใ ห้ต ่า งมาก
                    จากไฟแสงสว่า งผ่า ตัด
ความส่อ งสว่า งในพิพ ิธ ภัณ ฑ์
  · วัต ถุท ี่ไ วต่อ UV ไม่ค วรให้แ สงมากกว่า 120000 ลัก ซ์-
                               ชม./ปี
· วัต ถุท ี่ไ ม่ไ วต่อ UV ไม่ค วรให้แ สงมากกว่า 180000 ลัก ซ์-
                               ชม./ปี
ความส่อ งสว่า งในร้า นค้า และ ศูน ย์ก ารค้า
· หลอดให้แ สงทั่ว ไปที่เ หมาะกับ ศูน ย์ก ารค้า ควรให้แ สงที่
                        ส่อ งทุก สีเ ด่น
  · บริเ วณที่ต ้อ งการให้เ ห็น วัส ดุส ีข าว เช่น เครื่อ งเขีย น
                    ควรใช้ห ลอดแสงสีข าว
    · การส่อ งเน้น สิน ค้า ไม่ค วรใช้แ สงสว่า งสมำา เสมอ
แสงอูล ตร้า ไวโอเล็ต
Invisible cloak
31 January – 1 February 2012

More Related Content

What's hot

เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าwattanakub00
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0834799610
 
การสะท้อนของแสง
การสะท้อนของแสงการสะท้อนของแสง
การสะท้อนของแสงPonpirun Homsuwan
 
กลุ่ม 7 ม.303
กลุ่ม 7 ม.303กลุ่ม 7 ม.303
กลุ่ม 7 ม.303Atjimayall
 
Waterรวมวารีดุริยางค์
Waterรวมวารีดุริยางค์Waterรวมวารีดุริยางค์
Waterรวมวารีดุริยางค์maerimwittayakom school
 
บทที่ 2 แสง ม.2
บทที่ 2 แสง ม.2บทที่ 2 แสง ม.2
บทที่ 2 แสง ม.2Wichai Likitponrak
 
แสงกับการมองเห็น 11
แสงกับการมองเห็น 11แสงกับการมองเห็น 11
แสงกับการมองเห็น 11Wilailak Luck
 

What's hot (9)

Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
แสงและการมองเห็น
แสงและการมองเห็นแสงและการมองเห็น
แสงและการมองเห็น
 
การสะท้อนของแสง
การสะท้อนของแสงการสะท้อนของแสง
การสะท้อนของแสง
 
กลุ่ม 7 ม.303
กลุ่ม 7 ม.303กลุ่ม 7 ม.303
กลุ่ม 7 ม.303
 
Waterรวมวารีดุริยางค์
Waterรวมวารีดุริยางค์Waterรวมวารีดุริยางค์
Waterรวมวารีดุริยางค์
 
บทที่ 2 แสง ม.2
บทที่ 2 แสง ม.2บทที่ 2 แสง ม.2
บทที่ 2 แสง ม.2
 
แสงกับการมองเห็น 11
แสงกับการมองเห็น 11แสงกับการมองเห็น 11
แสงกับการมองเห็น 11
 

Similar to System lighting

เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305คณากรณ์ อุปปิง
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305คณากรณ์ อุปปิง
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0887946598532
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0887946598532
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า0286983445
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSiwush Pormchai
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSiwush Pormchai
 
ดงมะไฟพิทยาคม แสง
ดงมะไฟพิทยาคม แสงดงมะไฟพิทยาคม แสง
ดงมะไฟพิทยาคม แสงnang_phy29
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วjaturong2012
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วjaturong20155
 
อินฟาเรด(ธัชนนท์+ธีม)403
อินฟาเรด(ธัชนนท์+ธีม)403อินฟาเรด(ธัชนนท์+ธีม)403
อินฟาเรด(ธัชนนท์+ธีม)403Theem N. Veokeki
 
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้านvisavavit Phonthioua
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าI'am Jeed
 
เครื่องใชเไฟฟ้า302
เครื่องใชเไฟฟ้า302เครื่องใชเไฟฟ้า302
เครื่องใชเไฟฟ้า302chindekthai01
 

Similar to System lighting (20)

เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
 
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มที่ 3 305
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ดงมะไฟพิทยาคม แสง
ดงมะไฟพิทยาคม แสงดงมะไฟพิทยาคม แสง
ดงมะไฟพิทยาคม แสง
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
แสง และการมองเห็น
แสง และการมองเห็นแสง และการมองเห็น
แสง และการมองเห็น
 
วิทย์1
วิทย์1วิทย์1
วิทย์1
 
อินฟาเรด(ธัชนนท์+ธีม)403
อินฟาเรด(ธัชนนท์+ธีม)403อินฟาเรด(ธัชนนท์+ธีม)403
อินฟาเรด(ธัชนนท์+ธีม)403
 
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
1 รูปแบบของวงจรไฟฟ้าภายในบ้าน
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใชเไฟฟ้า302
เครื่องใชเไฟฟ้า302เครื่องใชเไฟฟ้า302
เครื่องใชเไฟฟ้า302
 

More from Kongrat Suntornrojpattana (20)

Sanitary ware
Sanitary wareSanitary ware
Sanitary ware
 
Drainage
DrainageDrainage
Drainage
 
Plumbling
PlumblingPlumbling
Plumbling
 
Drawing
DrawingDrawing
Drawing
 
Aircondition part02 2013
Aircondition part02 2013Aircondition part02 2013
Aircondition part02 2013
 
Aircon part01 2013
Aircon part01 2013Aircon part01 2013
Aircon part01 2013
 
Electricity acessories
Electricity acessoriesElectricity acessories
Electricity acessories
 
Electricity introl global
Electricity introl globalElectricity introl global
Electricity introl global
 
Sound2
Sound2Sound2
Sound2
 
Electricity acessories final3
Electricity acessories final3Electricity acessories final3
Electricity acessories final3
 
Electricity atom energys
Electricity atom energysElectricity atom energys
Electricity atom energys
 
Plumbling water
Plumbling waterPlumbling water
Plumbling water
 
Plumbling
PlumblingPlumbling
Plumbling
 
Sanitary
SanitarySanitary
Sanitary
 
Sound
SoundSound
Sound
 
Electricity atom energys
Electricity atom energysElectricity atom energys
Electricity atom energys
 
Sanitary
SanitarySanitary
Sanitary
 
Drainage finallecture
Drainage finallectureDrainage finallecture
Drainage finallecture
 
Electricity acessories final
Electricity acessories finalElectricity acessories final
Electricity acessories final
 
Electricity lecture 2012 Week01
Electricity lecture 2012  Week01Electricity lecture 2012  Week01
Electricity lecture 2012 Week01
 

System lighting

  • 1.
  • 2.
  • 3. แสง การแผ่ร ัง สีแ ม่เ หล็ก ไฟฟ้า ในช่ว งความยาวคลืน ที่ ่ สายตามนุษ ย์ม องเห็น รวมถึง การแผ่ร ัง สีแ ม่เ หล็ก ไฟฟ้า ในช่ว ง ความยาวคลื่น ตั้ง แต่ รัง สีอ ัล ตร้า ไวโอเลต , รัง สีเ อ๊ก ซ์ ที่ม ี ความยาวคลื่น สั้น กว่า หรือ คลื่น วิท ยุ,คลื่น โทรทัศ น์แ ละพลัง งาน ไฟฟ้า ที่ม ีช ่ว งความยาวคลื่น ยาวกว่า ความเร็ว ของแสงอยู่ท ี่ 300,000 กิโ ลเมตรต่อ วิน าที
  • 4. สีแ ละความยาวคลื่น ความยาวคลื่น ที่แ ตกต่า งกัน นั้น จะถูก ตรวจจับ ได้ ด้ว ยดวงตาของมนุษ ย์ ซึ่ง จะแปลผลด้ว ยสมองของ มนุษ ย์ใ ห้เ ป็น สีต ่า งๆ ในช่ว ง สีแ ดงซึ่ง มีค วามยาวคลื่น ยาวสุด (ความถี่ต ำ่า สุด ) ที่ม นุษ ย์ม องเห็น ได้ ถึง สีม ่ว ง ซึ่ง มีค วามยาวคลื่น สั้น สุด (ความถี่ส ูง สุด ) ที่ม นุษ ย์ม องเห็น ได้ ความถี่ท ี่อ ยู่ใ นช่ว งนี้ จะมีส ีส ้ม , สีเ หลือ ง, สีเ ขีย ว, สีน ำ้า เงิน และ สีค ราม
  • 5. แสงมีค ุณ สมบัต ิท วิภ าวะ 1. แสงเป็น คลื่น : แสงเป็น คลื่น แม่เ หล็ก ไฟฟ้า 2. แสงเป็น อนุภ าค : แสงเป็น ก้อ นพลัง งานเรีย กอนุภ าคแสง ว่า โฟตอน
  • 6. พฤติก รรมต่า ง ๆ ของแสง 1. การสะท้อ น (Reflection) เป็น พฤติก รรมที่แ สงตกกระทบ บนตัว กลางและสะท้อ นตัว ออก ถ้า ตัว กลางเป็น วัต ถุผ ิว เรีย บขัด มัน จะทำา ให้ม ุม ของแสงที่ต กกระทบจะมีค ่า เท่า กับ มุม สะท้อ น
  • 7. 3. การกระจาย (Diffusion) เป็น พฤติก รรมที่แ สงจะ กระจายตัว ออกเมื่อ กระทบถูก ผิว ของตัว กลาง เราใช้ ประโยชน์จ ากการกระจายตัว ของลำา แสง เมื่อ กระทบ ตัว กลางนี้ เช่น ใช้แ ผ่น พลาสติก ใสปิด ดวงโคม เพื่อ ลด ความจ้า จากหลอดไฟ
  • 8. พฤติก รรมต่า ง ๆ ของแสง 4. การดูด กลืน (Absorbtion) เป็น พฤติก รรมที่แ สงถูก ดูด กลืน หลายเข้า ไปในตัว กลาง โดยทั่ว ไปเมื่อ พลัง งาน แสงถูก ดูด กลืน หายเข้า ไปในวัต ถุใ ด ๆ มัน จะเปลี่ย น เป็น พลัง งานความร้อ น
  • 9. พฤติก รรมต่า ง ๆ ของแสง 5. การทะลุผ ่า น (Transmission) เป็น พฤติก รรมที่แ สงพุ่ง ชนตัว กลางแล้ว ทะลุผ ่า นมัน ออกไปอีก ด้า นหนึ่ง 6
  • 10. พฤติก รรมต่า ง ๆ ของแสง 6. การส่อ งสว่า ง (Illumination) ปริม าณแห่ง การส่อ งสว่า ง บนพื้น ผิว ใด ๆ จะแปรตามโดยตรงกับ ความเข้ม แห่ง การส่อ งสว่า ง ระหว่า งพื้น ผิว นั้น กับ แหล่ง กำา เนิด แสง
  • 11. พฤติก รรมต่า ง ๆ ของแสง 7. ความจ้า (Brighten) ความจ้า เป็น ผลซึ่ง เกิด จากการที่ แสงถูก สะท้อ นออกจากผิว วัต ถุ หรือ พุ่ง ออกจากแหล่ง กำา เนิด แสงเข้า สู่ต า
  • 12. หน่ว ยที่ใ ช้ใ นการวัด แสง ปริมาณ หน่วย ตัวย่อ หมายเหตุ พลังงานของการส่อง จูล (joule) J สว่าง ลูเมน (lumen) หรือ อาจเรียกว่า กำาลังของ ฟลักซ์ส่องสว่าง แคนเดลา · สเตอ lm ความสว่าง (Luminous (Luminous flux) เรเดียน (candela · power) steradian) ความเข้มของการ ส่องสว่าง (Luminous แคนเดลา (candela) cd intensity) อาจเรียกว่า ความหนา ความเข้มของความ แคนเดลา/ตาราง เมตร (candela/square cd/m 2 แน่นของความเข้มการ สว่าง (Luminance) metre) ส่องสว่าง ความสว่าง ลักซ์ (lux) หรือ ลู lx (Illuminance) เมน/ตารางเมตร ประสิทธิภาพการ ลูเมน ต่อ วัตต์ ส่องสว่าง (Luminous (lumens per watt) lm/W efficiency)
  • 13. การมองเห็น เป็น ระบบรับ ความรู้ส ึก ที่ป ระกอบด้ว ย ลูก ตา ประสาทตาและสมอง (ส่ว น Visual Cortex) โดยแสงสะท้อ น จากวัต ถุผ ่า นตาดำา ไปยัง แก้ว ตา จากนั้น จะหัก เหไป ตกกระทบบริเ วณจอตา (Retina) เซลล์ป ระสาทบริเ วณจอตา จะปรับ สัญ ญาณที่ไ ด้ร ับ ส่ง ไปทางประสาทตา เพื่อ ให้ สมองได้ร ับ ทราบและแปลสิ่ง ที่ม องเห็น
  • 14. การมองเห็น กระบวนการทางเคมีเ กิด ขึ้น ที่ใ บและลำา ต้น คลอโร ฟิล ล์ (chlorophyll) ที่ใ บและลำา ต้น จะดูด กลืน แสงสีแ ดงไว้ แสงที่เ หลือ ส่ว นใหญ่ คือ แสงสีเ ขีย ว ซึ่ง จะถูก สะท้อ นออก ไป ทำา ให้เ รามองเห็น ใบเป็น สีเ ขีย ว
  • 15. สำำ หรับ งำนพิม พ์ จะมี 4 สี คือ สีบ ำนเย็น (Magenta-สี ออกไปทำงแดง) สีเ หลือ ง สีฟ ้ำ (Cyan) และ สีด ำำ และเพื่อ ให้ ภำพพิม พ์เ หมือ นธรรมชำติซ ึ่ง จะมีก ำรไล่ร ะดับ สีท ี่แ ตก ต่ำ งกัน จึง มีก ำรพิม พ์ส ีใ นลัก ษณะเป็น จุด ๆ
  • 16. แหล่ง กำำ เนิด แสง 1. แสงธรรมชำติ (Natural Light) แสงที่ไ ด้จ ำกพลัง งำน ตำมธรรมชำติ เช่น ดวงอำทิต ย์
  • 17. แหล่ง กำำ เนิด แสง 1. แสงประดิษ ฐ์ (Artificial Light) แสงที่ไ ด้จ ำกกำรที่ มนุษ ย์ป ระดิษ ฐ์ค ิด ค้น ขึ้น โดยอำศัย ธรรมชำติแ ละ เทคโนโลยี่ เช่น แสงจำกดวงโคมต่ำ งๆ
  • 18. กำรกำำ เนิด แสงสำมำรถแบ่ง ได้อ อกเป็น 2 ลัก ษณะคือ 1. แบบอิน แคนเดสเซนต์ ( INCANDESCENCE) กำรกำำ เนิด แสงที่เ กิด จำกกำรเผำหรือ กำรให้พ ลัง งำนควำมร้อ น เช่น กำรเผำแท่ง เหล็ก ที่ค วำมร้อ นสูง มำกๆ
  • 19. กำรกำำ เนิด แสงสำมำรถแบ่ง ได้อ อกเป็น 2 ลัก ษณะคือ 2. แบบลูม ิเ นสเซนต์ ( LUMINESCENCE ) แสงที่ไ ม่ไ ด้ เกิด จำกกำรเปลี่ย นพลัง งำนควำมร้อ นให้เ ป็น พลัง งำน แสง เช่น แสงจำกตัว แมลง ,แสงที่เ กิด จำกปฏิก ิร ิย ำเคมี, รวมไปถึง แสงที่เ กิด จำกกำรปล่อ ยประจุข องก๊ำ ซ
  • 20.
  • 21. ทฤษฎีส ีแ สง (Light Color) ทฤษฎีส ีท ี่เ กี่ย วข้อ งกับ งำนออกแบบทัศ นศิล ป์ สำมำรถแบ่ง ได้เ ป็น 2 แบบคือ • ทฤษฎีส ีแ สง (Light Color) กำร ผสมของสีป ระเภทนี้ เป็น กำร ผสมสีแ สง เรีย กว่ำ กำรผสม แบบบวก (Additive Mixing) • ทฤษฎีส ีว ัต ถุธ ำตุ(Pigmentary Color) กำรผสมของสีป ระเภทนี้ เป็น กำรผสมของรงควัต ถุ (Pigment) เรีย กว่ำ กำรผสมแบบ ลบ (Subtractive Mixing) ซึ่ง จะได้ กล่ำ วถึง ตำมลำำ ดับ ดัง ต่อ ไปนี้
  • 22. ทฤษฎีส ีแ สง (Light Color) แสงอำทิต ย์ม ีส ีต ่ำ ง ๆ รวมกัน อยู่ เมื่อ ให้แ สงอำทิต ย์ ส่อ งผ่ำ นแท่ง แก้ว รูป สำมเหลี่ย ม (Prism) แสงที่ผ ่ำ นออกมำ อีก ด้ำ นหนึ่ง จะมี 7 สี คือ ม่ว ง ครำม นำ้ำ เงิน เขีย ว เหลือ ง แสด แดง และถ้ำ นำำ สีท ั้ง 7 รวมกัน เป็น สีข ำว แสงใน ธรรมชำติน ั้น มีอ ยู่ถ ึง 7 สี แต่ร วมกัน อยู่ เรีย กว่ำ Spectrum
  • 23. ทฤษฎีส ีแ สง (Light Color) แม่ส ีบ วก (Additive Color) หรือ แม่ส ีว ิท ยำศำสตร์ มี 3 สี คือ 1. สีแ ดง (Red, R) 2. สีเ ขีย ว (Green, G) 3. นำ้ำ เงิน (Blue, B)
  • 24. กำรผสมสีแ บบบวก (Additive Color Mixing) กำรผสมของแสงสีข ำวด้ว ยลำำ แสงที่ม ีส ีต ่ำ ง ๆ ตำม ควำมยำวคลื่น แสง ควำมยำวคลื่น แสงพื้น ฐำนได้แ ก่ สี แดง เขีย ว และ นำ้ำ เงิน เมื่อ มีก ำรซ้อ นทับ กัน ก็จ ะก่อ ให้ เกิด กำรบวก และรวมตัว กัน ของควำมยำวคลื่น แสง ”แสง หรือ แม่ส ีท ั้ง สำมนี้ เป็น สีข ั้น ต้น เมื่อ ผสมเข้ำ ด้ว ยกัน เป็น คู่ จะได้ส ีข ั้น ที่ส อง
  • 25.
  • 26. 1. หลอดไส้ รำคำถูก สีข องแสงดี ติด ตั้ง ง่ำ ย ให้แ สงสว่ำ งทัน ที เมื่อ เปิด ประสิท ธิภ ำพตำ่ำ มำก อำยุ กำรใช้ง ำนสั้น ไฟฟ้ำ ที่ ป้อ นให้ห ลอดจะถูก เปลี่ย นเป็น ควำมร้อ นกว่ำ ร้อ ยละ 90 จึง ไม่ป ระหยัด พลัง งำน แต่เ หมำะสมกับ งำนประเภทที่ ต้อ งกำรหรี่แ สง เช่น ห้อ งจัด เลี้ย งตำมโรงแรม หรือ ใช้ กับ โคมระย้ำ ที่ป ระกอบด้ว ยผลึก แก้ว เพื่อ เน้น ควำม สวยงำม
  • 27. 2. หลอดฟลูอ อเรสเซนต์ เป็น หลอดที่ม ีป ระสิท ธิภ ำพแสงและอำยุก ำรใช้ง ำน มำกกว่ำ หลอดไส้ หลอดฟลูอ อเรสเซนต์แ ท่ง ยำวที่ใ ช้แ พร่ หลำยมีข นำด 36 วัต ต์ แต่ก ็ย ัง มีห ลอดไฟประสิท ธิภ ำพ สูง (หลอดซุป เปอร์ล ัก ซ์) ซึ่ง มีร ำคำต่อ หลอดแพงกว่ำ หลอด ไฟ 36 วัต ต์ธ รรมดำ แต่ใ ห้ป ริม ำณ แสงมำกกว่ำ ร้อ ยละ 20 ในขนำดกำรใช้ไ ฟฟ้ำ ที่เ ท่ำ กัน
  • 28. 3. หลอดคอมแพคฟลูอ อเรสเซนต์ (CFL) หลอดตะเกีย บชนิด ที่ใ ห้ส ีข องแสงออกมำเทีย บ เท่ำ ร้อ ยละ 85 ของหลอดไส้ (ให้ส ีข องแสงดีท ี่ส ุด ) สำำ หรับ ใช้แ ทนหลอดไส้เ พื่อ ช่ว ยประหยัด ไฟ และอำยุก ำรใช้ งำนนำนกว่ำ 8 เท่ำ ของหลอดไส้ มี 2 ประเภท คือ แบบขั้ว เกลีย วและแบบ ขั้ว เสีย บ
  • 29. 4. หลอดแสงจัน ทร์ ประสิท ธิภ าพแสงตำ่า กว่า หลอดฟลูอ อเรสเซนต์เ ล็ก น้อ ยแต่อ ายุก ารใช้ง าน นานกว่า เหมาะสมเป็น ไฟสนาม ตามสวนสาธารณะ แต่เ มื่อ ใช้ไ ปนานๆคุณ ภาพ แสงจะลด ลง
  • 30. 5. หลอดเมทัล ฮาไลด์ ประสิท ธิภ าพสูง คุณ ภาพแสงดีแ ต่ต ้อ งใช้เ วลาอุ่น หลอดเมื่อ เปิด เหมาะ สำา หรับ การใช้ส ่อ งสิน ค้า ในห้า ง สรรพสิน ค้า
  • 31. 6. หลอดโซเดีย มความดัน สูง ประสิท ธิภ าพสูง แต่ค ุณ ภาพแสงไม่ด ี มัก ใช้ก ับ ไฟ ถนน คลัง สิน ค้า ไฟส่อ งบริเ วณที่เ ปลี่ย นหลอดยาก พื้น ที่ นอกอาคาร
  • 32.
  • 33. พ.ร.บ. พื้น ที่ส ำา นัก งาน , โรงแรม, สถานศึก ษา และ โรง พยาบาล/สถานพัก ฟื้น ค่า กำา ลัง ไฟฟ้า แสงสว่า งสูง สุด (วัต ต์ต ่อ ตารางเมตรของพื้น ที่ใ ช้ง าน ) ไม่เ กิน 16 W/M2 หรือ กรณีพ ื้น ที่ร ้า นขายของ , ซูเ ปอร์ม าร์เ ก็ต และ ศูน ย์ก ารค้า ไม่เ กิน 23 W/M2 ทั้ง นี้ใ ห้ส ามารถคิด คำา นวณ พื้น ที่ท ั้ง อาคารเฉลี่ย ได้ โดยไม่ร วมพื้น ที่จ อดรถ แต่ร วม ถึง ไฟฟ้า แสงสว่า งทั่ว ไปที่ใ ช้ใ นการโฆษณาเผยแพร่ สิน ค้า ยกเว้น แสงสว่า งที่ใ ช้ใ นตู้ก ระจกแสดงสิน ค้า หน้า ร้า น
  • 34. ประเภทของโคมไฟ 1. โคมไฟส่อ งสว่า งทั่ว ไป ( AMBIENT LIGHT ) นิย ม ใช้เ ป็น โคมไฟดาวน์ไ ลท์เ ป็น ส่ว นใหญ่ โดยทั่ว ไปจะใช้ ในห้อ งรับ แขกหรือ ห้อ งนั่ง เล่น จะติด ตั้ง โคมไฟในระยะ ห่า งกัน ประมาณไม่เ กิน 2.40 เมตร และต้อ งเป็น ชนิด ที่ใ ห้ แสงสว่า งสมำ่า เสมอ
  • 35. ประเภทของโคมไฟ 2. โคมไฟชนิด ตั้ง พื้น (TORCHIERE) เป็น โคมไฟที่ ให้แ สงนุ่ม นวลสมำ่า เสมอ เหมาะสมกับ พื้น ที่ท ี่จ ะให้ค วาม สว่า งไม่เ กิน 35 ตารางเมตร
  • 36. ประเภทของโคมไฟ 3. โคมตั้ง โต๊ะ ชนิด ตกแต่ง ( DECORATIVE TABLE LAMP) โดยส่ว นใหญ่ม ัก จะนำา มาตกแต่ง มากกว่า ที่จ ะใช้ง านให้ แสงสว่า งจึง ค่อ นข้า งมีร ูป แบบหลากหลาย
  • 37. ประเภทของโคมไฟ 4. โคมไฟห้อ ย ( CHANDELIER ) ใช้ส ่อ งเฉพาะเจาะจง บนพื้น ที่เ พื่อ สร้า งให้เ กิด ความรู้ส ึก เป็น ที่ร วมกลุ่ม
  • 38. ประเภทของโคมไฟ 5. โคมไฟโต๊ะ ทำา งาน ( TASK LIGTH ) เป็น โคมไฟที่ถ ูก ออกแบบมาเพื่อ การใช้ง านบนโต๊ะ ทำา งาน จึง ต้อ ง สามารถปรับ มุม หรือ ทิศ ทางได้ง ่า ย และสามารถเคลื่อ น ย้า ยได้ง ่า ยช่ว ยลดแสงสะท้อ นจากโคมไฟชนิด อื่น ๆ ภายในห้อ งได้อ ีก ด้ว ย
  • 39. · ระบบการให้แ สงสว่า ง หลัก ระบบแสงสว่า ง หลัก ที่ม ีค วามส่อ งสว่า ง เพีย งพอต่อ การใช้ง าน ในแต่ล ะพื้น ที่น ั้น ๆ · ระบบการให้แ สงสว่า ง รอง ระบบมีแ สงสว่า งให้ เกิด ความสวยงาม หรือ เน้น เพื่อ ให้เ กิด ความสนใจ สบายตา และ อารมณ์ · การให้แ สงสว่า งที่ด ี มี ทั้ง ระบบการแสงสว่า ง หลัก และแสงสว่า งรอง
  • 40. การส่อ งสว่า งภายในบ้า นอยู่อ าศัย อพารต์เ มนต์ และ โรงแรม · หลอดที่ใ ห้แ สงสีเ หลือ งดูน ่า อบอุ่น มีค ่า ความส่อ งสว่า ง พื้น ที่ท ั่ว ไป 100 - 200 ลัก ซ์
  • 41. การส่อ งสว่า งภายในบ้า นอยู่อ าศัย อพารต์เ มนต์ และ โรงแรม · ไม่ค วรใช้ไ ฟเกิน กว่า 80 % ของอัต ราสวิต ช์ห รี่ไ ฟ · มีโ คมไฟชนิด อื่น ช่ว ยให้แ สงหลัก เพื่อ ลดเงาที่เ กิด เนื่อ งจากโคมหลัก · โคมระย้า ใช้ 20 -25 วัต ต์/ตารางเมตร/ 100 ลัก ซ์ และควร ติด ตั้ง สวิต ช์ไ ฟหรี่ด ้ว ย
  • 42. การส่อ งสว่า งภายในบ้า นอยู่อ าศัย อพารต์เ มนต์ และ โรงแรม · โคมระย้า ใช้ข นาดประมาณ 1/12 ของเส้น ทะแยงมุม ห้อ ง · ช่อ งเปิด ไฟหรืบ ควรมีข นาดอย่า งน้อ ย 1/10 ของขนาด เบ้า · การให้แ สงสว่า งจากหรืบ เพื่อ ส่อ งสว่า งพืน ที่ค วรมี เพดานสีข าวหรือ สีอ ่อ น
  • 43. การส่อ งสว่า งในสำา นัก งาน · สำา นัก งานทั่ว ไปมัก ใช้โ คมไฟตัว สะท้อ นแสงอะลูม ิเ นีย ม ห้อ งหรือ บริเ วณสำา คัญ ที่ไ ม่ต ้อ งการแสงบาดตาก็ค วรใช้ โคมแบบมีต ัว กรองแสงขาวขุ่น หรือ แบบเกล็ด แก้ว ( Prismatic Diffuser)
  • 44. ความส่อ งสว่า ง · การใช้ห ลอดปรอทความดัน สูง อาจมีป ัญ หาในเรื่อ งแสง สีน ำ้า เงิน ที่ ออกมามากในช่ว งติด ตั้ง เริ่ม แรก แต่จ ะจางลง เมื่อ ติด ตั้ง ไปหลายเดือ นแล้ว · การใช้ห ลอดโซเดีย มในโรงงานอุต สาหกรรมใช้ใ น กรณีไ ม่พ ิถ ีพ ิถ ัน เรื่อ งสี
  • 45. ความส่อ งสว่า งในโรงพยาบาล · หลอดที่เ หมาะสมสำา หรับ การตรวจรัก ษาโรคทั่ว ไปคือ หลอดคูล ไวท์ · ควรใช้ห ลอดเหมือ นกัน ทั้ง หมด เพื่อ ไม่ใ ห้ห ลอกตา
  • 46. ความส่อ งสว่า งในโรงพยาบาล · โคมที่เ หมาะสำา หรับ งานโรงพยาบาลในบริเ วณที่ม ี คนไข้ คือ โคมที่ม ีแ ผ่น กรองแสงขาวขุ่น หรือ เกล็ด แก้ว แต่ มีป ัญ หาเรื่อ งประสิท ธิภ าพของโคมที่ใ ช้ไ ฟฟ้า มาก · แสงสว่า งในห้อ งผ่า ตัด ควรสว่า งมากเพื่อ ไม่ใ ห้ต ่า งมาก จากไฟแสงสว่า งผ่า ตัด
  • 47. ความส่อ งสว่า งในพิพ ิธ ภัณ ฑ์ · วัต ถุท ี่ไ วต่อ UV ไม่ค วรให้แ สงมากกว่า 120000 ลัก ซ์- ชม./ปี · วัต ถุท ี่ไ ม่ไ วต่อ UV ไม่ค วรให้แ สงมากกว่า 180000 ลัก ซ์- ชม./ปี
  • 48. ความส่อ งสว่า งในร้า นค้า และ ศูน ย์ก ารค้า · หลอดให้แ สงทั่ว ไปที่เ หมาะกับ ศูน ย์ก ารค้า ควรให้แ สงที่ ส่อ งทุก สีเ ด่น · บริเ วณที่ต ้อ งการให้เ ห็น วัส ดุส ีข าว เช่น เครื่อ งเขีย น ควรใช้ห ลอดแสงสีข าว · การส่อ งเน้น สิน ค้า ไม่ค วรใช้แ สงสว่า งสมำา เสมอ
  • 49.
  • 50.
  • 53.
  • 54.
  • 55. 31 January – 1 February 2012