จัดทำโดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

3. วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ดูแลสุขภาพเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำ�คัญของ
ประเทศไทย และมีโอกาสที่จะพัฒนาให้เป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการแข่งขันได้ เพื่อรองรับ
กับความต้องการในประเทศที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่าร้อยละ9 ต่อปี โดยในปี 2553
ประเทศไทยมีการนำ�เข้ากว่า 21,299 ล้านบาท ขณะเดียวกันไทยก็มีความสามารถในการส่งออก
วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์กว่าปีละ 17,197 ล้านบาทด้วยเช่นกัน ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบาย
สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลางสุขภาพของเอเชีย (Medical Hub)” อย่างไรก็ตามวัสดุ
อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไทยผลิตส่วนใหญ่เป็นการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีในระดับไม่สูงมากนัก โดย
เน้นการผลิตที่ใช้วัตถุดิบ (ยางและพลาสติก) ที่มีในประเทศเป็นหลัก ดังนั้นจึงจำ�เป็นที่จะต้องมีการ
พัฒนาอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และสุขภาพในประเทศให้มีขีดความสามารถในการ
ผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น เพื่อลดการนำ�เข้าจากต่างประเทศและเพิ่มการส่งออกให้มากขึ้น
การพัฒนาอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และสุขภาพให้เป็นอุตสาหกรรมเพื่อ
อนาคต (New Wave Industry) เพื่อให้ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์และพร้อมที่จะนำ�ออกวาง
จำ�หน่ายจะมีขั้นตอนในการดำ�เนินงานหลัก เริ่มตั้งแต่การวิจัยพัฒนาและออกแบบวัสดุอุปกรณ์
การนำ�วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์มาทำ�การทดสอบทางคลีนิก (clinical trial) เพื่อให้ได้ผลการ
ทดสอบทางการแพทย์และมีการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการทางการแพทย์ การพัฒนาวัสดุอุปกรณ์
ทางการแพทย์ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล เช่น CE Mark (EU) หรือ UL (US) ซึ่งปัจจุบัน
ผู้ประกอบการยังขาดความรู้ความเข้าใจในกระบวนการพัฒนาวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เป็นที่
ยอมรับในวงการแพทย์ ส่งผลให้ผู้ประกอบบางรายไม่สามารถจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์ของตนได้
เนื่องจากไม่ได้การดำ�เนินการในขั้นตอนที่สำ�คัญ หรือผู้ประกอบการบางรายต้องเสียค่าใช้จ่ายใน
การทดสอบและเพื่อขอรับมาตรฐานต่างๆ เกินกว่าความจำ�เป็น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจน
ไม่สามารถแข่งขันได้
สำ�นักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สนช.) จึงได้ร่วมกับสำ�นักงานเศรษฐกิจ
อุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ดำ�เนินโครงการ “การวิจัยพัฒนาและออกแบบวัสดุ
อุปกรณ์ทางการแพทย์และสุขภาพ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์ทางการ
แพทย์ไทยให้มีขีดความสามารถในการผลิตหรือการออกแบบวัสดุอุปกรณ์โดยใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น
และมีรูปแบบที่ทันสมัยเหมาะสมกับผู้ใช้มากขึ้น รวมทั้งมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์และ
ได้มาตรฐานสากล ซึ่งในโครงการดังกล่าว สนช. ได้ดำ�เนินการพัฒนาและให้การสนับสนุนโครงการ
ในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้จำ�นวนทั้งสิ้น 27 โครงการ จำ�นวนเงินสนับสนุน 18,084,455 บาท ก่อให้
เกิดการลงทุนในโครงการรวม 224,300,000 บาท โดยภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการมีการสนับสนุน
เงินลงทุนให้กับโครงการนี้ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับจำ�นวนเงินที่ได้รับการสนับสนุน
ผลการดำ�เนินงานโครงการ “การวิจัยพัฒนาและออกแบบวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์
และสุขภาพ” แบ่งออกเป็นโครงการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่จำ�นวน 17 โครงการ โครงการทดสอบ
ทางคลีนิกจำ�นวน 4 โครงการ และโครงการขอรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์สากลจำ�นวน 6 โครงการ
ซึ่งครอบคลุมกลุ่มประเภทผลิตภัณฑ์ต่างๆ ใน 3 ด้านได้แก่ อุปกรณ์ตรวจสอบทางการแพทย์
(Diagnostic Device) การรักษาการแพทย์ทางไกล (Tele-Medicine) และวัสดุอุปกรณ์ทางการ
แพทย์ (Medical Device) โครงการความร่วมมือระหว่าง สนช. และ สศอ. ในครั้งนี้จะเป็นก้าว
สำ�คัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมวัสดุอุปกรณทางการแพทย์ไปสู่ภาคการผลิตในระดับ
อุตสาหกรรม และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของเอกชนไทยเพื่อรองรับกับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจ
อาเซียนในปี พ.ศ. 2558 ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศเพื่อให้เป็นที่
ยอมรับในระดับนานาชาติ

4. 4
“อีชัวร์” ชุดตรวจคัดกรองโรคธาลัสซีเมียชนิดรวดเร็ว
“E-sure” Rapid Test Kit for Thalassemia HbE
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์และกระบวนการตรวจคัดกรองพาหะธาลัสซีเมีย ฮีโมโกลบินอี โดยการใช้น้ำ�ยาปรับสภาพเพื่อเปลี่ยน
ฮีโมโกลบินอีเป็นโปรตีนไร้ประจุ แล้วทำ�การดักจับฮีโมโกลบินอื่นๆ ด้วยเทคโนโลยี column anion exchanger chromatography ทั้งนี้
ชุดตรวจสอบดังกล่าวจะให้ผลการตรวจที่ชัดเจน มีความถูกต้อง ความไวและความจำ�เพาะสูง และมีความสะดวกในการแปลผล ตลอดจน
สามารถแก้ปัญหาการตรวจได้ผลบวกไม่จริง (false positive) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. 5
ที่มาของโครงการ
โรคธาลัสซีเมียเป็นโรคทางพันธุกรรมที่สามารถถ่ายทอดสู่ลูกหลานได้
ผู้ที่มียีนผิดปกติของธาลัสซีเมียมีทั้งผู้ที่เป็นโรคและเป็นพาหะจะมีอาการ
โลหิตจางซึ่งมีความรุนแรงแตกต่างกันขึ้นกับชนิดของยีนที่ผิดปกติ โดย
สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มชนิดตามความผิดปกติของสายพันธุกรรม
ได้แก่ 1) ยีนกลุ่มอัลฟ่าธาลัสซีเมีย (α-thalassemia) เช่น α-thalassemia 1,
α-thalassemia 2 และ Hb Constant Spring และ 2) ยีนกลุ่มเบต้าธาลัสซีเมีย
(β-thalassemia) เช่น β-thalassemia และ Hb E ผู้ป่วยธาลัสซีเมียที่มี
อาการหนักจะมีความทุกข์ทรมานมากจากการมีโลหิตจางเรื้อรัง ความผิดปกติ
ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย
บริษัท มิตร เมดดิคอล จำ�กัด จึงได้พัฒนาชุดตรวจคัดกรองพาหะธาลัสซีเมีย
ฮีโมโกลบินอี ที่แก้ปัญหาชุดตรวจคัดกรองพาหะธาลัสซีเมียฮีโมโกลบินอี
แบบเก่า ทำ�ให้ตรวจสอบผู้ป่วยที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียได้อย่างแม่นยำ�
มีความถูกต้องความไวและความจำ�เพาะสูง มีขั้นตอนการทดสอบที่ง่ายและ
สะดวกมากขึ้น โดยได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีจากงานวิจัยของศาสตราจารย์
ดร. นพ. ต่อพงษ์ สงวนเสริมศรี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รูปแบบการสนับสนุน:
โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”
.............................................................
ดำ�เนินการ:
คุณศักดิชัย ยินดีฉัตร
บริษัท มิตร เมดดิคอล จำ�กัด
35/21 ซอยกรุงเทพ-นนท์ 8 ถนนกรุงเทพ-นนท์
อำ�เภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
โทศัพท์: 02-525 4575
โทรสาร: 02-525 4576
.............................................................
มูลค่าการลงทุนเริ่มต้น:
5,300,000 บาท
.............................................................
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
อยู่ระหว่างดำ�เนินการ
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
ชุดตรวจอีชัวร์นี้เป็นการนำ�ผลงานวิจัยมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ซึ่งทำ�ให้
เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มการ
โรงพยาบาลและกลุ่มพัฒนาชุดตรวจโรค เป็นการใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อสร้าง
ชุดตรวจภายในประเทศที่มีคุณภาพ โดยชุดตรวจนี้มีราคาเทียบเท่ากับ
ชุดตรวจปัจจุบัน แต่มีขั้นตอนที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากกว่า ทำ�ให้การ
ตรวจพาหะธาลัสซีเมียสามารถเข้าถึงประชาชนได้มากยิ่งขึ้น ทำ�ให้แพทย์
มีชุดตรวจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดการผิดพลาด

6. 6
การรักษาแบบบรรเทาผู้ป่วยโรคมะเร็งทางเดินน้ำ�ดี
ด้วยคิลเลอร์เซลล์ที่กระตุ้นด้วยไซโตคายน์
Paliative Treatment of Advanced Cholanggiocarcinoma
Using Cytokine-Induced Killer Cells
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านการบริการรักษาโดยเป็นการนำ�โลหิตของผู้ป่วยมาทำ�การคัดแยกเซลล์เม็ดเลือดขาว แล้วนำ�มาผ่านการ
กระตุ้นด้วยไซไตคายน์ (cytokine) เพื่อชักนำ�ให้กลายเป็นคิลเลอร์เซลล์ (cytokine-induced killer cell; CIK) ที่มีคุณสมบัติในการลด
ขนาดของเซลล์มะเร็งและเสริมภูมิคุ้มกัน จากนั้นจึงนำ�คิงเลอร์เซลล์ ที่ได้นี้ไปฉีดกลับให้ผู้ป่วยเอง (autologous) เพื่อเป็นทางเลือกใหม่
ของการรักษาผู้ป่วยมะเร็งทางเดินน้ำ�ดี

7. 7
ที่มาของโครงการ
โรคมะเร็งทางเดินน้ำ�ดี (cholangiocarcinoma) เป็นโรคมะเร็งที่ก่อตัวขึ้น
จากเซลล์เยื่อบุของผนังทางเดินน้ำ�ดี (cholangiocyte) ในอดีตโรคมะเร็ง
ทางเดินน้ำ�ดีเป็นโรคที่เกิดเฉพาะถิ่น (local disease) แต่ปัจจุบันอุบัติการณ์
ของโรคมะเร็งทางเดินน้ำ�ดีทั่วทั้งโลกกำ�ลังเพิ่มสูงขึ้น ในประเทศไทยพบว่า
โรคมะเร็งตับและมะเร็งทางเดินน้ำ�ดีถูกจัดอยู่ใน 5 อันดับแรกของสาเหตุ
การตายทั้งหมด โดยในปี พ.ศ. 2547 พบผู้ป่วยเสียชีวิตถึง 28,000 ราย
ปัจจุบัน มีรายงานถึงการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Immu-
notherapy) โดยใช้เซลล์ Cytokine - induced killer (CIK) ซึ่งเป็นเซลล์
เม็ดเลือดขาวที่ผ่านการกระตุ้นด้วยไซโตคายน์ชนิดต่างๆ เช่น anti-CD3
IL-2 IL-1 และ IFN-r เป็นต้น จากรายงานพบว่าเซลล์ CIK ออกฤทธิ์ทำ�ลาย
เซลล์มะเร็งได้ดีทั้งในหลอดทดลอง (in vitro) และในสัตว์ทดลอง (in vivo)
จนถึงปัจจุบันมีการวิจัยทางคลินิก (clinical trial) ถึงการใช้เซลล์ CIK ใน
ผู้ป่วยโรคมะเร็งหลายชนิด ได้แก่ ผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำ�เหลืองทั้งชนิด
Hodgkin และ non-Hodgkin โรคมะเร็งตับชนิด hepatocellular carci-
noma โรคมะเร็งปอดชนิด non-small cell lung cancer ซึ่งจากงานวิจัย
ต่างๆ พบว่าการฉีดเซลล์ CIK มีความปลอดภัยในการใช้ มีประโยชน์ในการ
เพิ่มภูมิคุ้มกัน และลดการเป็นซ้ำ�ในผู้ป่วย ไม่พบผลแทรกซ้อนหลังการให้
ยาเคมีบำ�บัดร่วมกับการใช้เซลล์ CIK
สำ�หรับโรคมะเร็งทางเดินน้ำ�ดีนั้น ปัจจุบันมีการศึกษาทางคลินิกในสัตว์
ทดลองเกี่ยวกับการใช้เซลล์ CIK เพื่อการรักษาโรคมะเร็งทางเดินน้ำ�ดีแล้ว
ซึ่งบริษัท วินเซลล์ รีเซิร์ซ จำ�กัด ได้ดำ�เนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์และ
กระบวนการผลิตเซลล์ CIK cell ด้วยการกระตุ้นด้วยสาร cytokines หลาย
ชนิดสำ�หรับการรักษาโรคมะเร็งต่างๆ โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการทดสอบ
ทางคลินิกของการรักษาด้วยเซลล์ CIK ร่วมกับโรงพยาบาลราชวิถี
รูปแบบการสนับสนุน:
โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”
.............................................................
ดำ�เนินการ:
นพ. โอฬาร เปี่ยมกุลวนิช
บริษัท วินเซลล์ รีเซิร์ซ จำ�กัด
195 อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ 2 ชั้น 29
ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร
กรุงเทพฯ 10120
โทศัพท์: 02-670 0731
โทรสาร: 02-670 0733
.............................................................
มูลค่าการลงทุนเริ่มต้น:
14,700,000 บาท
.............................................................
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
อยู่ระหว่างดำ�เนินการ
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
ในทางเศรษฐกิจ การพัฒนาการตรวจนี้จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการรักษา
ทั้งของผู้ป่วยและโรงพยาบาลจากการนำ�เข้ายาจากต่างประเทศ หรือการ
ผ่าตัดซ้ำ�ได้ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงภายใน
ประเทศและสนับสนุนให้เกิดโอกาสทางธุรกิจในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์
(medical tourism) อีกด้วย นอกจากนี้ การรักษานี้ก่อให้เกิดการพัฒนา
ทางการแพทย์โดยเฉพาะการรักษาโรคมะเร็ง ทำ�ให้ประชาชนมีทางเลือก
ในการรักษามากขึ้น

8. 8
PolGene ชุดตรวจสอบการดื้อยาในผู้ป่วยโรคเอดส์
Genotypic HIV-1 Drug Resistance Assay Kit
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านผลิตภัณฑ์และกระบวนการตรวจการดื้อยาในระดับยีนในผู้ป่วยโรคเอดส์ โดยเป็นการสังเคราะห์สายไพรเมอร์
(primers) ร่วมกับสารต่างๆ ที่มีความจำ�เพาะของยีน protease และ reverse transcriptase ของเชื้อเอชไอวีที่มีการกลายพันธุ์ หลังจากนั้น
จึงใช้วิธีตรวจลำ�ดับเบส (nucleotide sequencing) เพื่อค้นหาและเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของสายพันธุ์เอชไอวีที่มีการดื้อต่อยา เป็นการ
ช่วยแพทย์ในการตัดสินใจเลือกใช้ยารักษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

9. 9
ที่มาของโครงการ
แม้ว่ายาต้านไวรัสเอชไอวี (HIV) ที่ใช้กันในปัจจุบันจะสามารถลดปริมาณ
เชื้อไวรัสเอชไอวีในร่ายกายผู้ติดเชื้อลงอย่างได้ผล แต่ผลข้างเคียงที่ตามมา
จากการใช้ยาอย่างแพร่หลายก็คือ การแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีที่ดื้อต่อ
ยาต้านไวรัส ส่งผลให้มีผู้ป่วยที่มีเชื้อเอชไอวีที่ดื้อต่อยาต้านไวรัสเพิ่มสูงขึ้น
ถึงร้อยละ 20
ประเทศไทยนั้นมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 369,885 ราย มีผู้ป่วยเอดส์ที่ติดเชื้อเอชไอวี
สายพันธุ์ไทยดื้อยาประมาณร้อยละ 10 เป็นผลมาจากการที่เชื้อพัฒนาจน
ดื้อยา สำ�นักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้มีการสนับสนุน
โครงการตรวจการดื้อยาต้านไวรัสเอชไอวีสำ�หรับผู้ป่วยติดเชื้อ เพื่อเป็นข้อมูล
สำ�หรับแพทย์เพื่อตัดสินใจเปลี่ยนการรักษาได้อย่างถูกต้องทันเวลา
การพัฒนาชุดตรวจการดื้อยาแบบจีโนไทป์ (genotype testing) นี้ ได้รับ
ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากงานวิจัยของศาสตราจารย์ นพ. เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม
และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งพัฒนาชุดตรวจสำ�หรับ
การตรวจหายีนดื้อยาของเชื้อเอชไอวีไทป์ 1 แบบ genotype assay
(Genotypic HIV-1 Drug Resistance Assay kit) ที่มีความจำ�เพาะกับเชื้อ
เอชไอวีมานานกว่า 10 ปี
รูปแบบการสนับสนุน:
โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”
.............................................................
ดำ�เนินการ:
คุณเสาวลักษณ์ ด่านสกุล
บริษัท แปคซิฟิค ไบโอเทค จำ�กัด
6 ซอยสนธิวัฒนา 3 ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา
เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทศัพท์: 02-530 2760
โทรสาร: 02-530 4619
.............................................................
มูลค่าการลงทุนเริ่มต้น:
3,300,000 บาท
.............................................................
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
อยู่ระหว่างดำ�เนินการ
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
ชุดตรวจนี้ทำ�ให้การตรวจการดื้อยาสามารถเข้าถึงประชาชนได้มากยิ่งขึ้น
ทำ�ให้แพทย์สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้คุณภาพชีวิต
ของผู้ป่วยดีขึ้น ในด้านเศรษฐกิจจะเป็นการลดการนำ�เข้าชุดตรวจจากต่าง
ประเทศและสร้างอุปกรณ์ภายในประเทศที่มีคุณภาพ โดยชุดตรวจนี้มีราคา
ถูกกว่าการนำ�เข้ามากกว่าร้อยละ 50 ต่อชุด

10. 10
การตรวจพันธุกรรมเพื่อกำ�หนดการใช้ยาในผู้ป่วย
ที่ตอบสนองต่อกลุ่มยาโรคหัวใจ
Clinical Testing for Cardio Drug Response Genes
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านการตรวจรหัสพันธุกรรม โดยใช้เซลล์จากเยื่อบุกระพุ้งแก้ม เพื่อตรวจหารหัสพันธุกรรมที่มีความสัมพันธ์
กับการตอบสนองต่อยายับยั้งการแข็งตัวของเลือด (warfarin) โดยจะดำ�เนินการศึกษาในตัวอย่างผู้ป่วยโรคหัวใจที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาล
เพื่อให้สามารถทราบถึงกระบวนการกำ�หนดการใช้ยา wafarin ในผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดเปรียบเทียบกับวิธีมาตรฐาน

11. 11
ที่มาของโครงการ
ผู้ป่วยโรคหัวใจในประเทศไทยมีประมาณ 520,000 คน (สำ�นักงานปลัด
กระทรวงสาธารณสุข) ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้ต้องได้รับยารักษา 3 กลุ่ม ได้แก่
1) ยาต้านเกล็ดเลือด (clopidogrel) 2) ยาลดไขมัน (statins) 3) ยายับยั้ง
การแข็งตัวของเลือด (warfarin) อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้ง 3 อย่างนี้อย่าง
ต่อเนื่อง จากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับยายับยั้งการแข็งตัวของเลือด (warfarin)
รายงานว่าขนาดเริ่มต้นของยา warfarin จะขึ้นอยู่กับการแปรผันของยีน
CYP2C9 และ VKORC1 ซึ่งการได้ทราบขนาดของยาที่เหมาะสมจะช่วย
ลดอาการเลือดออกมากผิดปกติจากการใช้ยาตัวนี้ซึ่งมีผู้ป่วยประมาณร้อยละ
20 ที่ต้องเข้ารักษาซ้ำ�ในโรงพยาบาลภายใน 6 เดือนแรกของการใช้ยา
เนื่องจากเกิดอาการเลือดออกมากผิดปกติ ส่วนขนาดยาที่เหมาะสมนั้นจะ
แตกต่างกันถึง 10 เท่า ระหว่างยีนหรือลักษณะของพันธุกรรมต่างๆ ในคน
แต่ละคน
บริษัท ไทย สเตมไลฟ์ เล็งเห็นความสำ�คัญ จึงได้พัฒนาชุดตรวจพันธุกรรม
“Cardio Drug Gene Insight” ชุดตรวจสำ�หรับทดสอบเพื่อระบุว่ากลุ่ม
ยารักษาโรคหัวใจใดที่เหมาะสมที่สุดสำ�หรับคนไข้ โดยเป็นการตรวจหายีน
CPY2C19 และ VKORC1 ในแต่ละบุคคล ซึ่งผลการตรวจนี้จะเป็นข้อมูล
สำ�คัญในการกำ�หนดปริมาณของยา warfarin และคาดการณ์สถานการณ์
ฉุกเฉินได้ในอนาคต ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาในผู้ป่วยโรคหัวใจร่วมกับ
โรงพยาบาลศิริราช เพื่อให้สามารถทราบถึงกระบวนการกำ�หนดการใช้ยา
Warfarin ในผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดเปรียบเทียบกับวิธีมาตรฐาน
รูปแบบการสนับสนุน:
โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”
.............................................................
ดำ�เนินการ:
ดร. มณีรัตน์ เอกพงศ์ไพสิฐ
บริษัท ไทย สเตมไลฟ์ จำ�กัด
5/3 ซอยชิดลม ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี
เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทศัพท์: 02-655 5757
โทรสาร: 02-655 5756
.............................................................
มูลค่าการลงทุนเริ่มต้น:
6,750,000 บาท
.............................................................
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
อยู่ระหว่างดำ�เนินการ
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
การตรวจทางพันธุกรรมนี้ทำ�ให้การรักษาโรคหัวใจด้วยกลุ่มยาหลอดเลือด
มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดอันตรายที่เกิดจากการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม
ให้น้อยลง และก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งในกลุ่มการโรงพยาบาลและกลุ่มพัฒนาการตรวจโรคซึ่งประเทศไทย
ยังมีอยู่น้อย เป็นการใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อสร้างชุดตรวจภายในประเทศ
ที่มีคุณภาพ

12. 12
“Health Tab” ระบบให้คำ�ปรึกษาด้านการดูแลรักษา
สุขภาพทางไกลสำ�หรับผู้สูงอายุ
Remote Healthcare Consultation System for Elderly People
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านระบบให้คำ�ปรึกษาด้านการดูแลรักษาสุขภาพทางไกลสำ�หรับผู้สูงอายุ โดยอาศัยระบบสื่อสารที่สามารถ
เชื่อมโยงผู้ใช้และแพทย์ให้สามารถให้คำ�แนะนำ�ผู้สูงอายุในการดูแลรักษาสุขภาพด้วยตัวเองตลอดจนการออกแบบโดยให้ผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง
และมีการใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน

13. 13
ที่มาของโครงการ
ปัจจุบันผู้สูงอายุ (ที่มีอายุเกิน 60 ปี) ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีจำ�นวน
มากและมีแนวโน้มสูงขึ้นกว่า 3 เท่าในระยะเวลา 30 ปีข้างหน้านี้ โดยใน
ประเทศไทยมีผู้สูงอายุมากกว่า 7 ล้านคนหรือประมาณร้อยละ 11 ของ
ประชากรไทย และผู้สูงอายุทั่วโลกมากกว่า 542 ล้านคน และแนวโน้มการ
เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 26 ในปี พ.ศ. 2580 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากกว่าเด็กอายุ
ต่ำ�กว่า 15 ปี ในปี พ.ศ. 2580 ข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ชัดเจนว่าทุกประเทศ
ทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะมีผู้สูงอายุมากขึ้น
การสื่อสารและให้การวินิจฉัยผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุนั้น หากสามารถทำ�การ
ติดตามและเฝ้าระวังทั้งจากบ้านพักอาศัยได้ จะสามารถสร้างให้เกิดระบบ
ข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยง อันจะทำ�ให้การดูแลและการวางแผนการรักษา
สามารถทำ�ได้ดีขึ้น ดังนั้น บริษัทจึงได้พัฒนาระบบดังกล่าวเพื่อนำ�มาใช้
ช่วยเหลือแพทย์และพยาบาล ให้สามารถสื่อสารและตอบสนองความ
ต้องการของผู้ป่วยได้ทันที
รูปแบบการสนับสนุน:
โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”
.............................................................
ดำ�เนินการ:
รองศาสตราจารย์ ดร. ธีรณี อจลากุล
บริษัท โนวิแท็ต จำ�กัด
729/150-152 ถนนรัชดาภิเษก แขวงบางโพงพาง
เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
โทศัพท์: 02-683 7322
โทรสาร: 02-683 7529
.............................................................
มูลค่าการลงทุนเริ่มต้น:
3,000,000 บาท
.............................................................
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
อยู่ระหว่างดำ�เนินการ
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ สามารถนำ�ไปใช้ในโรงพยาบาล
เอกชนให้พร้อมรักษาชาวต่างชาติ และสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการ
เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแห่งใหม่ในภูมิภาคเอเชียในอนาคต

14. 14
“iPensook” ข้อมูลสุขภาพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออนไลน์
“iPensook” Online Health Information for Patients and Aging Population
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านรูปแบบธุรกิจบริการทางการแพทย์ภายใต้ระบบ “iPensook” ของหน่วยบริการที่ทำ�หน้าที่เชื่อมโยงและ
รักษาความปลอดภัยของข้อมูลสารสนเทศสุขภาพด้วยสถาปัตยกรรมแบบ model-view-controller ในการพัฒนา web-application
ในการใช้งานของผู้ป่วยและผู้สูงอายุครอบครัวและแพทย์เพื่อสร้างให้เป็นไปตามมาตรฐานการจัดการข้อมูลทางการแพทย์ให้เกิดประสิทธิภาพ
ถูกต้องและมีความเหมาะสม

15. 15
ที่มาของโครงการ
ในประเทศไทยมีการคาดการณ์จำ�นวนผู้สูงอายุที่ดูแลตนเองได้และผู้สูงอายุ
ในภาวะพึ่งพิงรวมเป็น 7,639,000 คน และการเข้ารับการรักษาของผู้สูงอายุ
จะมีฐานข้อมูลอยู่ในหลายโรงพยาบาลและคลินิก ซึ่งยากต่อการเข้าถึงข้อมูล
จึงทำ�ให้ไม่สามารถค้นหาและทำ�การวินิจฉัยภาวะเสี่ยงต่างๆ ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ เพื่อรองรับกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ กระบวนการติดตามและ
วินิจฉัยผู้สูงอายุจึงจำ�เป็นต้องสร้างรูปแบบเฉพาะเพื่อทำ�หน้าที่เชื่อมโยง
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการรักษาทั้งจากโรงพยาบาลและบ้านพักอาศัย
ซึ่งจะช่วยให้เกิดการรักษาและดูแลผู้สูงอายุเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการ iPensook เป็นระบบและกระบวนการที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น
ระบบที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลการรักษา ข้อมูลยา ผลวินิจฉัยที่เกิดขึ้นใน
หน่วยบริการต่างๆ ผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial- Intelligence: AI)
ที่มีกระบวนการคิดและใช้หลักตรรกศาสตร์ในการคิดหาคำ�ตอบอย่างมีเหตุผล
(systems that think rationally) จากการประมวลองค์ความรู้ทั้งหมดที่มี
อยู่ในระบบ (knowledge base management) มาตอบสนองต่อผู้ใช้งาน
ในแต่ละสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รูปแบบการสนับสนุน:
โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”
.............................................................
ดำ�เนินการ:
นพ. ก้องเกียรติ เกษเพ็ชร์
บริษัท สุขสาธารณะ จำ�กัด
18/34 ซอยอารีย์ 2 ถนนพหลโยธิน
แขวงสามเสนใน เขตพญาไท
กรุงเทพฯ 10400
โทศัพท์: 02-683 7324
โทรสาร: 02-683 7324
.............................................................
มูลค่าการลงทุนเริ่มต้น:
20,000,000 บาท
.............................................................
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
อยู่ระหว่างดำ�เนินการ
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
สามารถสร้างให้เกิดเครือข่ายฐานข้อมูลสารสนเทศสุขภาพของคนไทย
เพื่อใช้ในการวางแผนสุขภาพได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ยังเป็นการสร้างระบบ
การบริการและดูแลสุขภาพในสังคมแบบครบวงจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายเพื่อสังคมโดยรวม

16. 16
“Meds-Pearl” ระบบสื่อสารข้อมูลการแพทย์ทางไกล
“Meds-Pearl” Tele-Medicine for Patients with Gastrointestinal/
Digestive Disease
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านระบบสื่อสารข้อมูลทางการแพทย์ (tele-medicine) เพื่อใช้สำ�หรับการตรวจวิเคราะห์ผู้ป่วยที่มีปัญหา
ในระบบทางเดินอาหาร ใช้ในการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นสำ�หรับผู้ป่วยที่มีอาการใกล้เคียงกับโรคลำ�ไส้อักเสบ หลอดอาหารอักเสบ มะเร็ง
หลอดอาหาร เนื้องอกและมะเร็งลำ�ไส้เล็ก

17. 17
ที่มาของโครงการ
Meds-Pearl: ระบบสื่อสารข้อมูลการแพทย์ทางไกล เป็นเทคโนโลยีที่ถูก
พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการตรวจวิเคราะห์ผู้ป่วยที่มีปัญหาในระบบทางเดิน
อาหาร โดยใช้ในการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นในผู้ป่วยที่มีอาการใกล้เคียงกับ
โรคลำ�ไส้อักเสบ หลอดอาหารอักเสบ มะเร็งหลอดอาหาร เนื้องอกและมะเร็ง
ลำ�ไส้เล็ก
เทคโนโลยีดังกล่าวประกอบไปด้วยแคปซูลเอนโดสโคป (capsule endo-
scope) กล้องถ่ายภาพขนาดเล็ก เซนเซอร์บอกตำ�แหน่ง และส่วนส่งข้อมูล
ภาพมายังตัวรับข้อมูลที่ถูกติดไว้ที่ท้องคนไข้ด้านนอก ผู้ป่วยจะกลืนแคปซูล
เอนโดสโคปเข้าไปทางปาก แคปซูลนี้จะใช้เวลาในการเคลื่อนที่ผ่านระบบ
ทางเดินอาหารประมาณ 8-11 ชั่วโมง ก่อนจะผ่านออกมาทางทวารหนัก
โดยกล้องจะถ่ายภาพไว้ตลอดเวลา ในการตรวจแบบเดิมจะต้องใช้กล้อง
ขนาดใหญ่สอดเข้าทางปาก ต้องวางยาสลบ และอาจเกิดความเจ็บปวด เสี่ยง
ต่อการติดเชื้อและอาการแทรกซ้อนที่จะตามมาได้ ซึ่งการใช้แคปซูลเอนโด
สโคปจะไม่ก่อให้เกิดการเจ็บปวดแก่ผู้ป่วยและไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการอ่านและวิเคราะห์ข้อมูลจำ�นวนมากจะต้องอาศัย
แพทย์ผู้มีความชำ�นาญและใช้เวลานาน จึงทำ�ให้การวินิจฉัยดัวยวิธีดังกล่าว
มีราคาสูง บริษัทจึงได้พัฒนา Meds-Pearl ซึ่งเป็นระบบ tele-medicine
เพื่อส่งภาพที่ได้มาอ่านผลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการอบรมมาเป็น
พิเศษ ส่งผลให้เกิดการจ้างงาน นำ�รายได้เข้าสู่ประเทศ และก่อให้เกิดการ
พัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ภายในประเทศอีกด้วย
รูปแบบการสนับสนุน :
โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”
.............................................................
ดำ�เนินการ :
คุณวาเลนท์ ส้อยสุวรรณ
บริษัท จี.ไอ.แคปซูล ไดแอ็คโนสติกส์ จำ�กัด
คอลัมน์ทาวเวอร์ ชั้น 26
199 ถนนรัชดาภิเษก เขตคลองเตย
กรุงเทพฯ 10110
โทศัพท์: 02-302 2598
โทรสาร: 02-302 2547
.............................................................
มูลค่าการลงทุนเริ่มต้น:
150,000,000 บาท
.............................................................
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
อยู่ระหว่างดำ�เนินการ
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
เกิดการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารและการแปลผลข้อมูล ซึ่งประเทศไทย
มีศักยภาพเพียงพอที่จะถูกพัฒนาให้เป็นผู้นำ�ทางด้านการเอาท์ซอสซ์
ทางการแพทย์ระดับโลก ส่งผลให้เกิดการจ้างงาน นำ�รายได้เข้าสู่ประเทศ
เพิ่มโอกาสที่จะพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ระดับ
ภูมิภาค

18. 18
ระบบบริหารจัดการข้อมูลสุขภาวะอาชีวอนามัย
Occupational Medical Software for Health, Safety, Environment
and Human Resource
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ระดับประเทศด้านซอฟต์แวร์ช่วยในการบริหารจัดการข้อมูลเชิงสุขภาวะอาชีวเวชศาสตร์และสิ่งแวดล้อมที่เป็น
มาตรฐานกลาง และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อการจัดการข้อมูลสุขภาวะอาชีวอนามัยอย่างมีประสิทธิภาพ และรวมถึงการถ่ายทอด
องค์ความรู้ของกลุ่มอุตสาหกรรมในเครือข่าย

19. 19
ที่มาของโครงการ
อาชีวอนามัยเป็นพื้นฐานสำ�คัญที่สถานประกอบการควรให้ความเอาใจใส่
และคำ�นึงถึง ทั้งนี้งานอาชีวอนามัยเป็นงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ปฏิบัติ
งานมีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ โดยทำ�งานในสถานประกอบการที่
ปราศจากโรคและอันตราย ทำ�ให้เกิดการทำ�งานที่มีประสิทธิภาพ สภาพ
แวดล้อมในการทำ�งานและสถานประกอบการ เช่น สภาพแวดล้อมในการ
ทำ�งาน กระบวนการทำ�งาน สารที่ใช้ในการผลิต ท่าทางการทำ�งาน สิ่งเหล่า
นี้ล้วนมีส่วนสำ�คัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน เนื่องจากผู้ปฏิบัติ
งานส่วนใหญ่จะใช้เวลานานเกือบทั้งวันกับสภาพแวดล้อมเหล่านั้น
การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจำ�เป็นต้องอาศัยข้อมูลทางระบาดวิทยาของโรค
จากการทำ�งาน ระบบการค้นหาโรคจากการเจ็บป่วยของผู้ปฏิบัติงาน และ
ระบบเฝ้าระวังผู้ที่มีอาชีพเดียวกันที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น
เครื่องมือสำ�คัญที่จะช่วยให้การสร้างสุขภาวะอาชีวอนามัยที่ดีขึ้นในสถาน
ประกอบการและในพื้นที่อุตสาหกรรม ดังนั้น บริษัท เมดดิคัลซอฟท์ จำ�กัด
โดยนายแพทย์ คมกฤช สุวรรณกูฎ ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านอาชีวเวชศาสตร์
และมีประสบการณ์ในการออกแบบพัฒนาระบบซอฟท์แวร์เพื่อบริหารจัดการ
งานโรงพยาบาลและงานทางการแพทย์ จึงได้คิดริเริ่มพัฒนาระบบบริหาร
จัดการข้อมูลสุขภาวะอาชีวอนามัย ในลักษณะ web-based application
เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลที่เป็นมาตรฐานกลางและสื่อสารกันได้ทุกส่วน
งานที่เกี่ยวข้อง โดยการพัฒนาจะเริ่มจากการศึกษารูปแบบการจัดการข้อมูล
ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ความปลอดภัยและ
สิ่งแวดล้อม เพื่อหาตัวแปรและเงื่อนไขในการจัดการและการตัดสินใจของ
ผู้บริหาร จากนั้นนำ�ข้อมูลไปออกแบบระบบเชื่อมต่อเพื่อการพัฒนา web
service data interface ด้วย middleware ที่เป็นมาตรฐานกลาง สามารถ
สื่อสารได้กับทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องจนได้ระบบการทำ�งานที่วางอยู่บนส่วน
กลางด้วย web-based application ที่มีข้อมูลทั้งด้าน human resource,
health, safety environment management นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับ
การทำ�งานตามมาตรฐาน ISO 9000 ISO 14000 และ ISO 18000 เพื่อ
ให้เกิดผลสัมฤทธิด้านสุขภาวะอาชีวอนามัยอย่างแท้จริง
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
ช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการทำ�งานในสถานประกอบการ อันนำ�ไปสู่การ
เจ็บป่วย บาดเจ็บ พิการหรือตาย และการหยุดกระบวนการผลิต ซึ่งก่อให้
เกิดความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ รวมถึงช่วยสร้างความเชื่อมั่นเรื่อง
ความปลอดภัยให้กับพนักงาน รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของสถาน
ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กให้มีเครื่องมือบริหารจัดการด้านสุข
ภาวะอาชีวอนามัยที่มีคุณภาพ เพื่อนำ�ไปใช้ในการป้องกันและควบคุม
อันตรายและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการทำ�งาน
รูปแบบการสนับสนุน :
โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”
.............................................................
ดำ�เนินการ :
นายแพทย์ คมกฤช สุวรรณกูฎ
บริษัท เมดดิคัลซอฟท์ จำ�กัด
อาคารชินวัตรเทาเวอร์3 ชั้น3 เลขที่ 1010
ถนนวิภาวดี แขวงจตุจักร กทม.
โทศัพท์: 02-966 2631
โทรสาร: -
.............................................................
มูลค่าการลงทุนเริ่มต้น:
800,000 บาท
.............................................................
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
อยู่ระหว่างดำ�เนินการ

20. 20
ระบบเชื่อมต่อข้อมูลรังสีวิทยาทางไกล
Telediag Solution
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านบริการระบบเชื่อมต่อข้อมูลรังสีวิทยาทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบเว็บแอพพลิเคชัน โดย
ใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการข้อมูลภาพถ่ายรังสีให้ได้มาตรฐานการส่งผ่านข้อมูลทางการแพทย์ DICOM เพื่อให้บริการส่งข้อมูลภาพถ่าย
รังสีแบบครบวงจรจากโรงพยาบาลหนึ่งไปสู่รังสีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งอยู่อีกที่ให้สามารถวินิจฉัยโรคได้ทันท่วงที

21. 21
ที่มาของโครงการ
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีสารสนเทศเจริญก้าวหน้าไปอย่างไร้ขีดจำ�กัด ระบบ
บริหารจัดการงานภายในและระหว่างองค์กรทุกรูปแบบเลือกที่จะหันมาใช้
ประโยชน์จากระบบสารสนเทศบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการจัดการระบบ
การติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อให้เกิดความถูกต้องแม่นยำ�
รวดเร็ว ตรวจสอบได้ และเกิดความสอดคล้องกันภายในระบบสารสนเทศ
นอกจากนี้ในประเทศชั้นนำ�หลายประเทศทั่วโลกมุ่งเน้นที่จะพัฒนาระบบ
สารสนเทศในการบริหารจัดการข้อมูลที่มีความสำ�คัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในระบบการติดต่อสื่อสารข้อมูลทางการแพทย์
การส่งข้อมูลทางรังสีวิทยาได้มีการกำ�หนดมาตรฐานสากลของข้อมูล
ภาพถ่ายรังสีวิทยาให้อยู่ในรูปแบบของ DICOM (Digital Imaging and
Communications in Medicine) หรือมาตรฐาน ISO12052 กำ�หนดขึ้น
โดย NEMA (National Electrical Manufacturers Association) ซึ่งเป็น
หน่วยงานของสหรัฐอเมริกาที่มีหน้าที่ในการกำ�หนดมาตรฐานต่างๆ ของ
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลากหลายประเภท เมื่อมีการกำ�หนดมาตรฐานของ
ข้อมูลทางรังสีวิทยาแล้ว จึงทำ�ให้เกิดแนวคิดในการพัฒนาระบบสารสนเทศ
สำ�หรับข้อมูลทางรังสีวิทยา (RIS: Radiology Information System) ให้
สามารถส่งต่อข้อมูลทางรังสีวิทยาให้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถวินิจฉัย
โรคจากภายถ่ายรังสีได้ ซึ่งในประเทศชั้นนำ�หลายประเทศได้มีการพัฒนา
ระบบสารสนเทศสำ�หรับการส่งผ่านข้อมูลทางรังสีวิทยาขึ้นเองที่เรียกว่า
ระบบ PACS (Picture Archiving and Communication System) แต่
สำ�หรับประเทศไทยนั้นยังไม่มีการพัฒนาระบบ PACS ขึ้นเอง จึงยังต้อง
อาศัยการนำ�เข้าระบบ PACS มาติดตั้ง ซึ่งราคาของระบบ PACS นั้นสูง
มาก ระบบ PACS จึงมีใช้งานเฉพาะในโรงพยาบาลชั้นนำ�เท่านั้น ทำ�ให้โรง
พยาบาลชุมชนทั่วไปส่วนมากจึงยังไม่มีระบบการจัดการข้อมูลทาง
รังสีวิทยา และยังคงใช้วิธีการส่งข้อมูลแบบดั้งเดิมคือการจัดส่งแผ่นฟิลม์
ภายถ่ายทางรังสีวิทยาโดยตรงหรือฝากให้กับผู้ป่วยเป็นคนจัดส่งเอง
รูปแบบการสนับสนุน :
โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”
.............................................................
ดำ�เนินการ :
คุณสุรชน กัณวิจิตร์
บริษัท โปรดิจิส์ จำ�กัด
22 ซอยสามัคคี 49 ถนนสามัคคี ตำ�บลท่าทราย
อำ�เภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
โทศัพท์: 02-589 6316
โทรสาร: -
.............................................................
มูลค่าการลงทุนเริ่มต้น:
1,010,000 บาท
.............................................................
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
อยู่ระหว่างดำ�เนินการ
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
เป็นการลดการนำ�เข้าระบบ PACS ซึ่งต้องทำ�การสั่งซื้อเครื่องเซิฟเวอร์
เฉพาะทางจากต่างประเทศและทำ�การติดตั้งให้กับโรงพยาบาล ซึ่งมีราคา
สูงกว่าการใช้งานผ่านเว็บไซต์มาก ทำ�ให้เกิดโอกาสและช่องทางให้กับ
โรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศในการเชื่อมต่อกับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มี
ความพร้อมและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสำ�หรับช่วยเหลือด้านการ
วินิจฉัยโรคจากภาพถ่ายรังสีได้อย่างทันท่วงที เนื่องจากในประเทศไทยยัง
มีรังสีแพทย์ไม่เพียงพอกับความต้องการทั่วทั้งประเทศ

22. 22
วัสดุดามกระดูกสันหลังส่วนคอและอก
Pedicle Screw and Cervical Plate System for Spinal
and Rib Fixation
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านวัสดุดามกระดูกสันหลังส่วนคอและอกในเด็กที่มีกระดูกสันหลังคดและซี่โครงติดกัน โดยเป็นการออกแบบ
ชุดอุปกรณ์ pedicle screw system, cervical plate system และ Si-ARSD rib bar ซึ่งจะทำ�ให้แพทย์สามารถขยับและปรับเคลื่อน
กระดูกซี่โครงได้อย่างสะดวกมากขึ้น วัสดุที่ใช้เป็นไทเทเทียมและสแตนเลสที่มีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อในร่างกาย (biocompatible)

23. 23
ที่มาของโครงการ
ปัจจุบันในการรักษาผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุหรือมีความผิดปกติด้านกระดูก
สันหลังส่วนคอและอก วัสดุที่ใช้มีต้นทุนราคาต่อหน่วยที่สูงมาก และต้อง
พึ่งพาการนำ�เข้าวัสดุที่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศ ซึ่งวัสดุอุปกรณ์ชนิดนี้
ยังไม่มีการผลิตในประเทศจึงต้องนำ�เข้าจากต่างประเทศทั้งสิ้น ทำ�ให้ประเทศ
ต้องสูญเสียเงินและงบประมาณเป็นจำ�นวนมาก
โครงการ “วัสดุดามกระดูกสันหลังส่วนคอและอก” เป็นการออกแบบและ
พัฒนาวัสดุ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการดามกระดูกสันหลังส่วนคอและอก ให้มีราคา
ที่ถูกกว่าเพื่อเป็นการทดแทนการนำ�เข้าจากต่างประเทศ พร้อมทั้งช่วยแพทย์
ผ่าตัดได้ง่ายขึ้น ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อยลง และบาดแผลในการผ่าตัดเล็กลง
หรือน้อยลงโดยอุปกรณ์ที่ใช้ในการดามกระดูกสันหลังส่วนคอและอกที่บริษัท
พัฒนาขึ้น ได้แก่ pedicle screw system, cervical plate system และ
Si-ARSD rib bar ซึ่งการพัฒนาโครงการดังกล่าวขึ้นเองภายในประเทศ
นอกจากจะสามารถลดการนำ�เข้าอุปกรณ์ด้านออร์โธปิดิกส์ ที่มีราคาแพง
จากต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังมีศักยภาพและโอกาสทางการตลาด
สำ�หรับการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประชาคม
เศรษฐกิจอาเซียน
รูปแบบการสนับสนุน:
โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”
.............................................................
ดำ�เนินการ:
คุณวินิจ ฤทธิ์ฉิ้ม
บริษัท เซอร์วิสเอ็นจิเนียริ่ง (1987) จำ�กัด
33/11-12 ถนนเทพารักษ์ ตำ�บลบางปลา
อำ�เภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
โทศัพท์: 02-312 5135
โทรสาร: 02-312 3310
.............................................................
มูลค่าการลงทุนเริ่มต้น:
38,000,000 บาท
.............................................................
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
อยู่ระหว่างดำ�เนินการ
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
วัสดุดามกระดูกสันหลังส่วนคอและอกถือเป็นโครงการนวัตกรรมที่สามารถ
ลดการนำ�เข้าสินค้าจากต่างประเทศ ด้วยมาตรฐานรองรับในระดับสากล
และส่วนประกอบบางส่วนที่สามารถผลิตได้เองภายในประเทศ ทำ�ให้มีความ
สามารถในการแข่งขันในตลาดภูมิภาคสูงขึ้น สามารถขยายฐานลูกค้าไปยัง
ต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น อันจะส่งผลให้ธุรกิจมีอัตราการเติบโต ซึ่งจะเกิด
ผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและทำ�ให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อ
ประเทศ ในทางสังคมนั้นวัสดุดามกระดูกสันหลังส่วนคอและอกเป็นการ
พัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อการเพิ่มโอกาสของผู้ประสบอุบัติเหตุ
ให้สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ที่มีคุณภาพในราคาไม่แพง

24. 24
“ซิกม่า พลัส” หลอดไมโครคาพิลลารีพลาสติก
ชนิดใส่สารกันเลือดแข็งตัว
“Zigma Plus” Plastic Micro-Capillary Tube Coated
with Anti-Coagulant
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตหลอดไมโครคาพิลลารีพลาสติกชนิดเคลือบสารกันเลือดแข็งตัว โดยพัฒนา
กระบวนการรีด (extrusion) หลอดไมโครคาพิลลารีจากพลาสติกให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านใน (d) 0.90 mm มีพื้นผิวเรียบและทนทาน
ต่อการปั่นเหวี่ยง พร้อมทั้งการใช้ระบบอัลตราโซนิค (ultrasonic) เพื่อฉีดสารกันเลือดแข็งตัวโซเดียม เฮปพาริน (sodium heparin)
เคลือบภายในหลอดไมโครคาพิลลารี ทำ�ให้หลอดคาพิลลารีชนิดนี้สามารถใช้เก็บตัวอย่างเลือดโดยตรงจากผู้ป่วย

25. 25
ที่มาของโครงการ
หลอดไมโครคาพิลลารีนับเป็นวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กันอย่างแพร่หลายใน
โรงพยาบาล ห้องปฏิบัติการทางเทคนิคการแพทย์ ห้องปฏิบัติการวิจัย
ห้องปฏิบัติการทางเภสัชกรรม ปศุสัตว์ โรงงานอุตสาหกรรมอุปกรณ์
มาตรฐานในการตรวจวินิจฉัยพื้นฐาน ตัวอย่างการใช้ ได้แก่ การใช้ร่วมกับ
เครื่อง hematocrit centrifuge เพื่อวัดปริมาณเม็ดเลือดแดงอัดแน่น
การใช้ร่วมกับเครื่อง bilirubin meter และการใช้ในการเก็บเลือดจากคนไข้
ที่เจาะเลือดได้ในปริมาณน้อย
ปัจจุบันหลอดไมโครคาพิลลารีที่นิยมใช้นั้นผลิตจากวัสดุที่เป็นแก้ว ซึ่งอาจ
ทำ�ให้เกิดอันตรายจากการที่หลอดหลอดไมโครคาพิลลารีดังกล่าวแตก ทำ�ให้
ผู้ปฏิบัติงานสัมผัสถูกเลือดผู้ป่วย ซึ่งมีภาวะเสียงต่อการติดเชื้อโรคร้ายต่างๆ
เช่น เอชไอวี ไวรัสตับอักเสบ ฯลฯ ทำ�ให้สูญเสียปริมาณตัวอย่างเลือดสำ�คัญ
ที่เจาะเก็บจากผู้ป่วยได้ในปริมาณน้อย และมีความเสียหายต่อเครื่องมือ
ที่ใช้ในตรวจวัด
จากความสำ�คัญดังกล่าว บริษัทจึงเริ่มคิดค้นกระบวนการผลิตหลอดไมโคร
คาพิลลารีขึ้น โดยใช้พลาสติกเป็นวัสดุทดแทนการใช้แก้ว เพื่อลดอันตราย
ที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้งาน ป้องกันการสูญเสียปริมาณตัวอย่างเลือดสำ�คัญที่เก็บได้
ในปริมาณน้อย และลดความเสี่ยงต่างๆ ได้ ซึ่งเป็นการพัฒนาอุปกรณ์
ทางการแพทย์ให้ครอบคลุมการใช้งานและมีมาตรฐาน โดยมุ่งหวังที่จะเพิ่ม
ความเชื่อมั่นในอุปกรณ์ทางการแพทย์ของประเทศไทยและลดการนำ�เข้า
จากต่างประเทศ
รูปแบบการสนับสนุน:
โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”
.............................................................
ดำ�เนินการ:
คุณนพณัฐ นิลนาม
ห้างหุ้นส่วนจำ�กัด ซิกม่า ไบโอเทค
231 ซอยรังสิต-นครนายก14
ตำ�บลคลองประชาธิปัตย์ อำ�เภอธัญบุรี
จังหวัดปทุมธานี 12110
โทศัพท์: 02-992 9890
โทรสาร: 02-992 9890
.............................................................
มูลค่าการลงทุนเริ่มต้น:
1,200,000 บาท
.............................................................
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
อยู่ระหว่างดำ�เนินการ
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
การใช้หลอดไมโครคาพิลลารีจากพลาสติกนั้นช่วยลดความเสี่ยงของผู้ใช้งาน
มีความปลอดภัยและใช้ง่ายกว่ากว่าหลอดหลอดไมโครคาพิลลารีที่เป็นแก้ว
ซึ่งแตกง่ายทั้งตอนใช้งานและจัดเก็บ ซึ่งจะเป็นการลดการนำ�เข้าอุปกรณ์
สิ้นเปลืองจากต่างประเทศ และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอุปกรณ์ทางการ
แพทย์ของประเทศไทยที่ได้มาตรฐานและเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับ
ผู้ใช้ภายในประเทศ

26. 26
“Smile Feet” แผ่นรองเท้าและส้นเท้าเพื่อสุขภาพ
ด้วยคุณสมบัติ PPRI และ MAFI
The Innovation of Healthy Insole with PPRI
and MAFI Technology
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านผลิตภัณฑ์แผ่นรองส้นเท้าที่มีคุณสมบัติการกระจายแรงกด (PPRI: Physical Pressure Release
Innovation) และการสามารถจำ�รูปทรงของเท้า (MAFI: Memory Anatomical Foot-Print Innovation) โดยใช้วัสดุแตกต่างกัน 4 ชั้น
ในแผ่นรองส้นเท้า ทำ�ให้แผ่นรองส้นเท้าจดจำ�ลักษณะรูปเท้าของผู้ใช้ในครั้งแรกที่สวมใส่ นอกจากนี้ยังใช้ระบบการขึ้นลายแบบกระจาย
แรงกดตามสรีระที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับการใช้งานในแต่ละบุคคล

27. 27
ที่มาของโครงการ
โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ (plantar fasciitis) คือ ภาวะที่มีการอักเสบบริเวณจุด
เกาะของเอ็นฝ่าเท้าและเนื้อเยื่อในส่วนที่ใกล้เคียง พบได้ถึงร้อยละ 10-16
ของประชากรทั้งหมด ปัจจุบันสาเหตุการเกิดของโรคยังไม่ทราบแน่ชัด
ในปัจจุบันแพทย์ออร์โธปิดิกส์ส่วนใหญ่ใช้วิธีการรักษาหลายวิธีเพื่อลดสาเหตุ
และบรรเทาอาการ ซึ่งการรักษาแต่ละวิธีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย อีกทั้งค่าใช้
จ่ายค่อนข้างสูง ส่วนการใช้ “พื้นรองส้นเท้า” หรือ heel cushion เป็นวิธีที่
นิยมเนื่องจากเป็นวิธีที่ง่าย ปลอดภัย และสามารถลดสาเหตุการก่อโรคได้
(preventive)
นวัตกรรมแผ่นรองส้นเท้า Smile Feet เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำ�แนวคิดจาก
ผลวิจัยจากวิธีการรักษาด้วยแผ่นรองส้นเท้าเพื่อพัฒนามาเป็นผลิตภัณฑ์
สำ�หรับให้เกิดการใช้งานที่ง่ายด้วยตนเอง และได้เพิ่มเทคโนโลยีทางการ
แพทย์อย่างการกระจายแรงกด (PPRI: Physical Pressure Release
Innovation) และการสามารถจำ�รูปทรงของเท้าของแต่ละบุคคลได้เพื่อให้
สวมใส่อย่างพอดี (MAFI: Memory Anatomical Foot-Print Innovation)
ซึ่งแผ่นรองเท้า Smile Feet นี้ได้รับการออกแบบให้ถูกต้องตามสรีระจาก
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงใช้ได้กับบุคคลทั่วไป ผู้ป่วยเจ็บส้นเท้า นักกีฬา ผู้หญิง
ตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีน้ำ�หนักมากทำ�ให้ผู้ใช้รู้สึกสบายเมื่อสวมใส่ ลดแรงกระแทก
เมื่อเคลื่อนไหว เช่น เดิน วิ่งกระโดด ในผู้ป่วยที่มีส้นเท้าและเท้าอักเสบ
สามารถลดอาการเจ็บปวดเวลาเดิน และช่วยลดการบาดเจ็บ อักเสบของ
เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ข้อต่อ ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ ยังช่วย
ลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อซึ่งเป็นสาเหตุของการปวดและเมื่อยล้าของ
เท้าและขา
รูปแบบการสนับสนุน:
โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”
.............................................................
ดำ�เนินการ:
คุณจันทิมา วงษ์ศิริ
ห้างหุ้นส่วนจำ�กัด เฮลท์ อินโนเวชั่น แอนด์ ดีไซน์
140/18 หมู่ 8 ตำ�บลคอหงส์
อำ�เภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110
โทศัพท์: 081-737 1877
โทรสาร: -
.............................................................
มูลค่าการลงทุนเริ่มต้น:
4,600,000 บาท
.............................................................
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
อยู่ระหว่างดำ�เนินการ
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
แผ่นรองส้นเท้านี้ช่วยให้ประชากรมีสุขภาพที่ดีขึ้น สามารถใช้ได้กับบุคคล
หลายกลุ่ม เช่น บุคคลทั่วไป ผู้ป่วยเจ็บส้นเท้า นักกีฬา ผู้หญิงตั้งครรภ์
หรือผู้ที่มีน้ำ�หนักมากทำ�ให้ผู้ใช้รู้สึกสบายเมื่อสวมใส่และลดแรงกระแทก
เมื่อเคลื่อนไหว ในผู้ป่วยที่มีส้นเท้าและเท้าอักเสบสามารถลดอาการเจ็บปวด
เวลาเดิน และช่วยลดการบาดเจ็บ อักเสบของเส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ข้อต่อ
ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ การพัฒนาแผ่นรองส้นเท้า Smile
Feet เป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนานวัตกรรมภายในองค์กร
อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ

28. 28
ชุดอุปกรณ์ผ่าตัดดามกระดูกสันหลังหลายระดับแบบเนื้อเยื่อ
บาดเจ็บเล็กน้อย
Pedicle Screw and Cervical Plate System for Spinal and Rib Fixation
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมระดับโลกด้านอุปกรณ์ผ่าตัดดามกระดูกสันหลังหลายระดับแบบเนื้อเยื่อบาดเจ็บน้อยชนิดเจาะผ่านผิวหนังชนิดเจาะผิวหนัง
โดยการออกแบบอุปกรณ์ผ่าตัดกว่า 90 ชิ้นเพื่อให้แพทย์สามารถผ่าตัดดามกระดูกสันหลังในส่วนเอวได้หลายระดับโดยไม่ต้องเปิดแผล
ใหญ่ แต่ใช้การเจาะผ่านผิวหนังเพื่อสอดใส่เกลียวชนิดพิเศษ (pedicle screw) ที่มีความแข็งแรงและสามารถยึดดามกระดูกได้ ทำ�ให้ผู้
ป่วยมีบาดแผลในการผ่าตัดเล็กลงและหายเร็วขั้นไม่ต้องอยู่โรงพยาบาลนาน

29. 29
ที่มาของโครงการ
ปัจจุบันในการรักษาผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุหรือมีความผิดปกติด้านกระดูก
สันหลังส่วนอกและเอว วัสดุที่ใช้มีต้นทุนราคาต่อหน่วยที่สูงมาก และต้อง
พึ่งพาการนำ�เข้าวัสดุที่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศ ซึ่งวัสดุอุปกรณ์ชนิดนี้
ยังไม่มีการผลิตในประเทศจึงต้องนำ�เข้าจากต่างประเทศทั้งสิ้น ทำ�ให้
ประเทศต้องสูญเสียเงินและงบประมาณเป็นจำ�นวนมาก
โครงการ “วัสดุดามกระดูกสันหลังส่วนอกและเอว” เป็นการออกแบบและ
พัฒนาวัสดุ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการดามกระดูกสันหลังส่วนอกและเอว ให้มีราคา
ที่ถูกกว่าเพื่อเป็นการทดแทนการนำ�เข้าจากต่างประเทศ พร้อมทั้งช่วย
แพทย์ผ่าตัดได้ง่ายขึ้น ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อยลง และบาดแผลในการ
ผ่าตัดเล็กลงหรือน้อยลง โดยอุปกรณ์ที่ใช้ในการดามกระดูกสันหลังส่วนอก
และเอวที่บริษัทพัฒนาขึ้น ได้แก่ pedicle screw system และ MIS
pedicle screw system ซึ่งการพัฒนาโครงการดังกล่าวขึ้นเองภายใน
ประเทศนอกจากจะสามารถลดการนำ�เข้าอุปกรณ์ด้านออโธปิดิกส์ ที่มีราคา
แพงจากต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังมีศักยภาพและโอกาสทางการ
ตลาด สำ�หรับการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประชาคม
เศรษฐกิจอาเซียน
รูปแบบการสนับสนุน:
โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน”
.............................................................
ดำ�เนินการ:
คุณวินิจ ฤทธิ์ฉิ้ม
บริษัท เซอร์วิสเอ็นจิเนียริ่ง (1987) จำ�กัด
33/11-12 ถนนเทพารักษ์ ตำ�บลบางปลา
อำ�เภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
โทศัพท์: 02-312 5135
โทรสาร: 02-312 3310
.............................................................
มูลค่าการลงทุนเริ่มต้น:
38,000,000 บาท
.............................................................
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา:
อยู่ระหว่างดำ�เนินการ
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
วัสดุดามกระดูกสันหลังส่วนอกและเอวถือเป็นโครงการนวัตกรรมที่สามารถ
ลดการนำ�เข้าสินค้าจากต่างประเทศ ด้วยมาตรฐานรองรับในระดับสากล
และส่วนประกอบบางส่วนที่สามารถผลิตได้เองภายในประเทศ ทำ�ให้มีความ
สามารถในการแข่งขันในตลาดภูมิภาคสูงขึ้น สามารถขยายฐานลูกค้าไปยัง
ต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น อันจะส่งผลให้ธุรกิจมีอัตราการเติบโต ซึ่งจะส่ง
ผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และทำ�ให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อ
ประเทศ ในทางสังคมนั้นวัสดุดามกระดูกสันหลังส่วนคอและอกเป็นการ
พัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อการเพิ่มโอกาสของผู้ประสบอุบัติเหตุ
ให้สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ที่มีคุณภาพในราคาไม่แพง

30. 30
PSU-Carpal Tunnel Retractor สำ�หรับผ่าตัด
ผู้ป่วยโรคพังผืดกดรัดเส้นประสาทข้อมือ
Carpal Tunnel Retractor for Carpal Tunnel Syndrome
ความเป็นนวัตกรรม
เป็นนวัตกรรมระดับโลกด้านอุปกรณ์การแพทย์สำ�หรับงานผ่าตัดเพื่อรักษาโรคพังผืดกดรัดเส้นประสาทข้อมือแบบใช้แล้วทิ้ง (disposible)
เป็นอุปกรณ์พิเศษที่มีส่วนอุปกรณ์มีส่วนประกอบหลัก คือ ส่วนนำ�ทาง (navigator tip) ส่วนกั้น (guard) ด้ามจับ (handle) ส่วนช่องมอง
(visual tube) ทั้งนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถช่วยสร้างช่องว่างระหว่างเส้นประสาท เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ ทำ�ให้แพทย์ผู้ผ่าตัดมีมุมมอง
ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยให้แพทย์มองสามารถตัดพังผืดได้ง่ายขึ้นผ่านแผลขนาดเล็กเพียง 1.5-1.8 เซนติเมตร และใช้เวลาในการผ่าตัด
พังผืดเพียง 8-10 นาที