SlideShare a Scribd company logo
1 of 9
Download to read offline
ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา”

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
       ให้นักเรียนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วค้นหาความหมายและตัวอย่างหัวข้อโครงงานประเภท
การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา จากแหล่งข้อมูล (ห้องสมุด / อินเทอร์เน็ต) อย่างน้อย 5 โครงงาน แล้ว
บันทึกลงกระดาษขนาด A4 ที่เตรียมมาพร้อมเขียน แหล่งที่มา หรือ Address ของ website ที่
นักเรียนค้นหาข้อมูลเหล่านั้นด้วย



» ความหมาย โครงงานประเภทการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
          เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือ
หน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียน
สามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์
เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็
ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เ รียนอาจคัดเลือก
เนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์
ระบบสุริยจักรวาล หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนา
เว็บไซต์ วิถีชีวิตของคนไทยพวน โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม ความหลากหลายของ
สิ่งมีชีวิต โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้
คณิตศาสตร์
ขอบคุณที่มาจาก : http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7
สืบค้นเมื่อ : 27 กรกฎาคม 2555
» ตัวอย่าง หัวข้อโครงงานประเภทการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
   1. โครงงานคอมพิวเตอร์ ปืนอินฟราเรด แสนกล มหัศจรรย์แห่งกลไกแสงและเสียง
มหัศจรรย์แห่งกลไกแสงและเสียง อีกแบบหนึ่งที่สามารถ
สร้างปืนกลแบบใหม่ได้ทั้ง
ความรู้และความสนุก ทั้งผู้สร้างและผู้เล่น
ปืนอินฟราเรดแสนกล
      ปืนอินฟราเรดแสนกล
             ปืนอินฟราเรด แสนกล
แนวการออกแบบ
จากนิตยสาร Hobby Electronics ปีที่ 11 ฉบับที่ 127 ม.ค. 2546
       โครงงานที่นาเสนอนี้ ท่านผู้อ่านอย่าพึ่งกลัวนะครับ เพราะสิ่งประดิษฐ์ที่ผมทาขึ้นมานี้เป็นเพียง
ของเล่นครับ ระบบต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นก็ใช้แบบจาลองหรือใช้วัตดุอื่นแทนทั้งหมดเช่น ระบบของ
การยิงซึ่งจะแสดงผลเป็นหลอดไฟสีแดงหรือเรียกตามภาษาช่างว่า แอลอีดี (LED) ส่วนในระบบเลเซอร์
นั้น ผมขอใช้เป็นหลอดไฟสีแดง แต่เป็นหลอดสีแดงแบบที่เรียกกันว่า หลอดแอลอีดีซุปเปอร์ไบต์ และ
ในระบบนาวิถีก็ใช้เป็นหลอดภาครับ ภาคส่งที่เป็นแบบอินฟาเรดครับ
ในแนวทางการออกแบบของผมเกิดจากการนาเอาระบบแสงเสียงและระบบการขับมอเตอร์มารวมกัน
โดยที่ในระบบของการยิงนี้จะมีการขยับซ้ายขวาได้ เมื่อวัตถุใด ๆ เข้ามาสู่วิถีของการตรวจจับ ระบบจะ
ทาการหยุดและยิงโดยการยิงจะแสดงผลออกมาทางแอลอีดี 2 หลอด โดยกระพริบแบบสลับกันและมี
เสียงออกมาทางลาโพงแบบบัตเซอร์ เมื่อวัตถุได้หลุดออกจากวิถีการตรวจจับระบบก็จะหยุดยิงทันที
และทาให้ภาคขับมอเตอร์มีการเคลื่อนที่สลับซ้ายขวาทันที
ต่อไปมาดูการทางานของบล็อกไดอะแกรมของโครงงานนี้กันเลยนะครับ โดยผมขอเริ่มจากที่เราจะทา
การส่งแสงอินฟาเรดออกมาโดยใช้การแพร่เสมือนการหยดหมึกลงในน้า ซึ่งภาครับแสงอินฟาเรดจะทา
หน้าที่เป็นประตูด่านแรกถ้าไม่มีวัตถุใด ๆ มากระทบส่วนควบคุมการทางานก็จะสั่งขับมอเตอร์ให้มีการ
หมุนซ้ายขวาสลับกันไป เมื่อวัตถุเคลื่อนที่เข้ามาในระยะที่แสงอินฟาเรดสามารถตรวจจับได้ โดยตัว
ตรวจจับที่ออกแบบไว้ได้ไกลประมาณ 10 เซนติเมตร ภาครับจะทาให้หลอดแอดอีดีที่ใช้เป็นระบบนา
ทางดับและส่งข้อมูลให้กับส่วนควบคุมการทางาน
เมื่อในส่วนควบคุมการทางานได้รับข้อมูลแล้ว จะสั่งให้ระบบการขับมอเตอร์หยุดการทางานทันที
พร้อมกันนั้นจะทาให้ระบบการยิงแสงออกมาทางแอลอีดี และระบบการสร้างเสียงการยิงจะทางาน
ทันทีเช่นกัน และจะทางานเช่นนี้จนกระทั่งวัตถุที่ตรวจจับได้ ได้หายไป ส่วนบล็อกการทางานอีก 2
บล็อกที่เหลือใช้ในการปรับความเร็วของมอเตอร์ การกระพริบของแอลอีดีและเสียง
ขอบคุณที่มาจาก : http://www.basiclite.com/robot/project/gun/gun.htm
สืบค้นเมื่อ : 27 กรกฎาคม 2555


   2. โครงงานคอมพิวเตอร์ หุ่นยนต์แมลงดิ้นได้ 4 ขา สร้างหุ่นยนต์เลียนแบบแมลง 4 ขา จาก
      มอเตอร์


                                            ดุ๊ก ดิ๊ก กระดุกกระดิก
                                                        ดุ๊ก ดิ๊ก กระดุกกระดิก
                                                                    ดุ๊ก ดิ๊ก กระดุกกระดิก




        สวัสดีครับ ดุ๊ก ดิ๊ก กระดุกกระดิก เป็นโครงงานหุ่นยนต์แมลง 4 ขา พร้อมการบังคับด้วยวิทยุ
รับส่ง เป็นการเรียนรู้ลักษณะการเดิน การควบคุม การออกแบบ การวิเคราะห์ การทางานของเจ้าตัว
แมลง 4 ขา เป็นโครงงานต้อนรับปิดเทอมสาหรับ น้องๆที่ต้องการ การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

ลักษณะการทางานของตัวหุ่นยนต์
     ในลักษณะการทางานของหุ่นยนต์แมลงตัวนี้ ผมขอกล่าวโดยรวมเสียก่อนครับ เพื่อจะได้รู้
หลักการคร่าวๆ ของการออกแบบ เจ้าตัว ดุ๊ก ดิ๊ก กระดุกกระดิกตัวนี้ครับ
ก่อนการตัดสินใจในการสร้างเจ้าตัวหุ่นยนต์ตัวนี้ ลองมาดูลักษณะการทางานคร่าวๆเสียก่อน โดย
มีลักษณะการทางานดังนี้
       1. สามารถบังคับให้เดินหน้า
       2. สามารถบังคับในการเลี้ยวซ้าย
       3. สามารถบังคับในการเลี้ยวขวา
       4. มีการแสดงผลการรับสัญญาณวิทยุ
       5. มีการแสดงผลการเลี้ยวซ้าย
       6. มีการแสดงผลการเลี้ยวขวา
       ในรูปที่ 1 เป็นบล็อกการแสดงการทางานโดยรวมของระบบหุ่นยนต์ โดยสามารถอธิบายได้ดังนี้
โดยต้องเริ่มจาก วงจรรับสัญญาณวิทยุ ในวงจรส่วนนี้ผมไม่ได้ทาการออกแบบเอง เพื่อความง่ายผมได้
นามาจากวงจรรถกระป๋องที่ไม่ได้ใช้แล้วมาทาการดัดแปลง ในวงจรรถกระป๋องที่นามาใช้งานใน
บทความนี้ สามารถหาอ่านอย่างละเอียดได้ใน หนังสือ Hobby Electronic ฉบับที่ 116 สัญญาณที่
เกิดขึ้นจากวิทยุรับส่งเราจะนามาใช้งานอยู่ 3 เส้น คือ สัญญาณเดินหน้า สัญญาณเลี้ยวซ้าย สัญญาณ
เลี้ยวขวา ส่วนสัญญาณถอยหลังเราไม่นามาใช้เพราะโครงสร้างของตัวหุ่นยนต์ไม่ได้ออกแบบมาให้มี
การถอยหลังได้ สัญญาณทั้ง 3 เส้นจะวิ่งเข้าสู่บล็อกหน่วยการควบคุมหลัก
       ในบล็อกการทางานหน่วยการควบคุมหลักนี้ มีความสาคัญในระดับที่สูงมากเพราะถูกใช้เป็นวงจร
ที่ใช้ประมวลผลและควบคุมระบบทั้งหมด โดยในบล็อกนี้จะใช้ตัวไมโครคอนโทรเลอร์เบอร์
ST7FLITE09B ซึ่งการโปรแกรม การสร้างเครื่องโปรแกรมและการเรียนรู้สามารถหาอ่านได้จาก
Hobby Electronic ฉบับที่ 139 ,140
       ในบล็อกการแสดงผล จะใช้ในการบอกลักษณะของทางานของหุ่นยนต์ทั้งในการรับสัญญาณวิทยุ
การเลี้ยวซ้าย การเลี้ยวขวา ในส่วนนี้จะประกอบโดยหลอด แอลอีดี สีแดงขนาด 3 มิลลิเมตรจานวน 2
ตัว ในบล็อกการทางานการตรวจจับสัญญาณอินพุท ในบล็อกนี้เป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นจากสวิตช์ที่ติดอยู่
ที่บริเวณขาของตัวหุ่นยนต์ ในตัวหุ่นยนต์ตัวนี้ไม่ได้ใช้เชอร์โวมอเตอร์ แต่ใช้มอเตอร์ดีซีแบบทดรอบ จึง
ไม่สามารถควบคุมตาแหน่งที่แน่นอนได้ สวิทช์ที่ใช้ติดบริเวณขาของตัวหุ่นยนต์ก็จะใช้ในการตรวจสอบ
ตาแหน่งของขาหุ่นยนต์ให้มีความถูกต้องในการเดิน
http://www.basiclite.com/robot/project/robot1/robot1.htm
ขอบคุณที่มาจาก : http://www.basiclite.com/robot/project/robot1/robot1.htm
สืบค้นเมื่อ : 27 กรกฎาคม 2555


   3. โครงงานคอมพิวเตอร์นาเสนอแนวคิด การ
      เรียนรู้ดิจิตอลแบบใหม่
      โดยใช้ระบบกลไกและวงจรอิเล็กทรอนิกส์ง่าย ๆ
      เพื่อให้เข้าใจถึงการทางานของวงจรดิจิตอล
      เบื้องต้น
      พร้อมกับความสนุกเพลิดเพลินในการเรียนรู้

วงล้อ มหัศจรรย์
       วงล้อ มหัศจรรย์
               วงล้อ มหัศจรรย์


แนวคิดในการใช้กลไกกับวงจรดิจิตอล จากนิตยสาร Hobby Electronics ปีที่ 11 ฉบับที่ 126
ธ.ค. 2545
       ในการทดลองดิจิตอล สิ่งที่จาเป็นในอดีตและปัจจุบัน คือต้องมีบอร์ดทดลอง ภาคจ่ายไฟ เกต
ต่าง ๆ แถมยังต้องมีสายไฟที่ใช้ในการเชื่อมต่อวงจรบนโฟโต้บอร์ด แต่ถ้าใครทันสมัยหน่อยอาจะหา
คอมพิวเตอร์สักเครื่องบวกกับโปรแกรมที่ใช้ตรวจสอบการทางานของวงจรดิจิตอลที่เราออกแบบไว้
(ขอแนะนาโปรแกรมมีชื่อว่า MAXPULS2 ) เมื่อเราใช้โปรแกรมเขียนวงจรและวิเคราะห์การทางานได้
ตามที่เราออกแบบไว้แล้วก็นาไปทาส่วนของชิ้นงานจริง ๆ ได้เลย อาจต่อวงจรโดยการหาเกตมาต่อรวม
ๆ กันหรือใช้แบบทันสมัย แต่ก็มาคู่กับค่าใช้จ่ายที่มากอยู่สักหน่อยคือใช้ชิพที่เรียกว่า FPGA ซึ่งเริ่มมี
ออกมาจาหน่ายกันแล้วตามท้องตลาดแต่ในส่วนของโครงงานนี้จะเหมาะสมกับการเรียนดิจิตอล
เบื้องต้นจริง ๆ
ในการออกแบบโครงงานชุดนี้ได้แบ่งการออกแบบออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นระบบกลไกและวงจร
อิเล็กทรอนิกส์ แต่ก่อนอื่นจะขอกล่าวถึงระบบกลไกเสียก่อนครับ โดยเริ่มจากแนวคิดการสะท้อนและ
ดูดกลืนของแสง
ในที่นี้จะใช้แสงอินฟาเรด ซึ่งเจ้าตัวแสงอินฟาเรดนี้มีคุณสมบัติคือ เมื่อตัวแสงวิ่งมากระทบวั ตถุใด ๆ ที่
มีสีแตกต่างกัน แสงที่วิ่งตกกระทบนั้นจะถูกวัตถุดูดกลืนหรือพูดกันง่าย ๆ ก็คือมีการสะท้อนแสงอิน
ฟาเรดกลับมาสู่ตัวรับแสงอินฟาเรดได้แตกต่างกันนั้นเอง จากคุณสมบัติในข้อนี้ผมจึงได้ทาการทดลองดู
และสรุปได้ว่า เมื่อแสงอินฟาเรดมากระทบกับวัตถุที่มีสีขาวจะมีการสะท้อนแสงกลับมาสู่ตัวรับแสงอิน
ฟาเรดได้มาก แต่ในทางกลับกันจะเกิดการสะท้องกลับได้น้อยมากเมื่อแสงอินฟาเรดมีการกระทบกับ
วัตถุสีดา ดังนั้นเราจึงได้ออกแบบระบบกลไกขึ้นมาเพื่อทางานตามสิ่งที่ได้ทดลองก่อนหน้านี้ ซึ่งก็จะได้
วงกลมที่มีช่องเป็นช่วง ๆ ตามรูปที่เห็นในโครงงาน ซึ่งต้องมีการระบายสีสลับกันระหว่างสีดาหรือสีขาว
ตามที่เราต้องการ ซึ่งการทาหรือระบายสีดาหรือสีขาวนั้นจะขึ้นอยู่กับความต้องการเรียนรู้ในวงจรส่วน
ใด โดยจะขอกล่าวในส่วนต่อไปนะครับ ต่อไปมาดูกันในส่วนที่ 2 ก็คือ ส่วนของตัววงจรได้เสนอแนวคิด
การทดลองออกเป็น 3 ส่วน โดยมีส่วนของการถอดรหัส BCD เป็นเลขฐาน 16, การถอดรหัสเลขฐาน 7
เป็น ฐาน 10, การทดลองการควบคุมการทางานของสเต็ปปิ้งมอเตอร์ ซึ่งผมได้ทาการเสนอเพียงการ
ทดลองแบบง่าย ๆ ถ้าใครต้องการที่จะทาเพิ่มก็ลองทากันดูนะครับ โดยเราจะใช้ภาคส่งแสงและรับแสง
อินฟาเรดมาเป็นตัวจับแสง ซึ่งอาจจะลองทาเพิ่มเป็นวงจรขับมอเตอร์ดีซีกลับซ้ายขวา, วงจรขับ
มอเตอร์ดีซีแบบเป็นจังหวะ, วงจรการควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้า, วงจรทาไฟกระพริบ ซึ่งก็ลองคิดเพิ่มเติม
กันดูนะครับ
ขอบคุณที่มาจาก : http://www.basiclite.com/robot/project/wheel/wheel.htm
สืบค้นเมื่อ : 27 กรกฎาคม 2555
4. โครงงานคอมพิวเตอร์ โปรแกรมประยุกต์ธนาคารความดี




      ที่มารูปภาพ :
      http://www.preeyadaedu.com
      /?paged=8
        โครงงานโปรแกรมธนาคารความดีนี้ได้จัดทาขึ้นเพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูลนักเรียน เพิ่มคะแนน
ความดี หักคะแนนความประพฤติของนักเรียน และผลของการใช้โปรแกรมบันทึกข้อมูลนี้กับธนาคาร
ความดี ก็เป็นที่น่าพอใจมากกว่าการบันทึกความดีที่เป็นสมุดรูปเล่ม ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งต้องใช้
กระดาษเป็นจานวนมากในการทาเป็นสมุดบันทึกคะแนนความดีให้นักเรียนทุกคนในโรงเรียนซึ่งมี
จานวน 1431 คน อีกทั้งการพกพาสมุดนั้นทาให้เกิดการสูญหายได้ และเกิดการชารุดได้ง่าย การหาวิธี
ที่จะใช้กระดาษให้น้อยลงจึงเป็นทางเลือกที่ดี ดังนั้นโปรแกรมธนาคารความดีนี้ จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่
ดีกว่ารูปเล่มบันทึกแบบเดิม ความคิดในการพัฒนาโปรแกรมธนาคารความดีนี้ได้ถูกคิดต่อยอดจาก
โปรแกรมเดิมที่มีคุณสมบัติไม่ดีเท่าโปรแกรมตัวใหม่ ทางคณะผู้จัดทาได้นาโปรแกรมมาศึกษาและ
ดัดแปลง ปรับปรุง เพิ่มเติมในส่วนที่นักเรียนกลุ่มก่อนได้ทาไว้แต่ยั งไม่ดีนัก โดยเริ่มจากการวางแผน
เค้าโครงโปรแกรม คิดหาสูตรที่ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมธนาคารความดี ออกแบบฐานข้อมูลโดยใช้
โปรแกรม Microsoft Access 2003 ออกแบบเมนูหลักต่างๆที่จาเป็นต่อการใช้งาน เช่น รายการเพิ่ม
คะแนนความดี รายการหักคะแนนความประพฤติ รายงานคะแนนแบบห้อง หรือแม้แต่ระดับบุคคล
และยังสามารถมีประโยชน์ในการใช้งานจริง แล้วจึงมาสร้างในโปรแกรม Microsoft Visual Basic 6.0
โดยเริ่มจากการสร้างเมนูหลัก เพิ่มเมนูย่อยอีกหลายรายการเพื่อสะดวกแก่การเก็บหลักฐานพฤติกรรม
ของนักเรียนที่เป็นสมาชิกภายในโรงเรียน ข้อมูลภายในโปรแกรมธนาคารความดียังสามารถ เพิ่ม ลบ
หรือแก้ไข ข้อมูลสมาชิกหรือข้อมูลต่างๆภายในโปรแกรมได้ ข้อมูลและหลักฐานต่างๆที่ถูกบันทึกใน
โปรแกรมยังสามารถเก็บเป็นหลักฐาน และรายงานเพื่อส่งต่อให้ฝ่ายปกครองพิจารณาต่อไปได้อีกด้วย
โปรแกรมธนาคารความดีนี้จึงเป็นโปรแกรมที่สามารถลดภาระของครูผู้บริหารเกี่ยวกับการควบคุม
ดูแลความประพฤติของนักเรียนได้โดยไม่ต้องเพิ่งการตรวจสอบที่ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อน ลดขั้นตอนการ
ดูแลได้ในโปรแกรมเดียว และยังสามารถประยุกต์พัฒนาโปรแกรมนี้เพื่อประโยชน์แก่กิจกรรมทางการ
เรียนของนักเรียนได้อีกด้วย
ขอบคุณที่มาจาก : http://www.vcharkarn.com/project/view/689
สืบค้นเมื่อ : 27 กรกฎาคม 2555



   5. ตัวอย่างบทเรียน e-Learning โครงการ 1 จานวน 25 วิชา
โครงงาน CS456 Software Engineering
วิศวกรรมซอฟต์แวร์
ขอบคุณที่มาจาก : http://e-learning.tu.ac.th/demoLMS/lms/E25/CS456/CS456.html
สืบค้นเมื่อ : 27 กรกฎาคม 2555

More Related Content

Viewers also liked

ใบงานคอมม
ใบงานคอมมใบงานคอมม
ใบงานคอมมkonosor
 
ใบงานที่ 9 - 16 ใบงานคู่
ใบงานที่ 9 - 16 ใบงานคู่ใบงานที่ 9 - 16 ใบงานคู่
ใบงานที่ 9 - 16 ใบงานคู่Burasakorn Srithanakij
 
แบบฟอร์มใบความรู้ใบงาน
แบบฟอร์มใบความรู้ใบงานแบบฟอร์มใบความรู้ใบงาน
แบบฟอร์มใบความรู้ใบงานTotsaporn Inthanin
 
แผนการจัดประสบการณ์(ต่าง)
แผนการจัดประสบการณ์(ต่าง)แผนการจัดประสบการณ์(ต่าง)
แผนการจัดประสบการณ์(ต่าง)Slitip Pimkad
 
แบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานแบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานpacharawalee
 
เฉลยแบบฝึกหัดคณิต ม.1ภาคเรียนที่ 2
เฉลยแบบฝึกหัดคณิต ม.1ภาคเรียนที่ 2เฉลยแบบฝึกหัดคณิต ม.1ภาคเรียนที่ 2
เฉลยแบบฝึกหัดคณิต ม.1ภาคเรียนที่ 2kanjana2536
 

Viewers also liked (8)

ใบงานคอมม
ใบงานคอมมใบงานคอมม
ใบงานคอมม
 
ใบงานที่ 9 - 16 ใบงานคู่
ใบงานที่ 9 - 16 ใบงานคู่ใบงานที่ 9 - 16 ใบงานคู่
ใบงานที่ 9 - 16 ใบงานคู่
 
ใบงานไทย
ใบงานไทยใบงานไทย
ใบงานไทย
 
ใบงานที่ 4
ใบงานที่ 4ใบงานที่ 4
ใบงานที่ 4
 
แบบฟอร์มใบความรู้ใบงาน
แบบฟอร์มใบความรู้ใบงานแบบฟอร์มใบความรู้ใบงาน
แบบฟอร์มใบความรู้ใบงาน
 
แผนการจัดประสบการณ์(ต่าง)
แผนการจัดประสบการณ์(ต่าง)แผนการจัดประสบการณ์(ต่าง)
แผนการจัดประสบการณ์(ต่าง)
 
แบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานแบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงาน
 
เฉลยแบบฝึกหัดคณิต ม.1ภาคเรียนที่ 2
เฉลยแบบฝึกหัดคณิต ม.1ภาคเรียนที่ 2เฉลยแบบฝึกหัดคณิต ม.1ภาคเรียนที่ 2
เฉลยแบบฝึกหัดคณิต ม.1ภาคเรียนที่ 2
 

Similar to ใบงานที่ 4 (1)

Similar to ใบงานที่ 4 (1) (20)

ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภทใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท
 
K9
K9K9
K9
 
K9
K9K9
K9
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
K8
K8K8
K8
 
K8
K8K8
K8
 
K3
K3K3
K3
 
K3.1
K3.1K3.1
K3.1
 
K3
K3K3
K3
 
K3.1
K3.1K3.1
K3.1
 
K3
K3K3
K3
 
ใบความรู้ที่3
ใบความรู้ที่3ใบความรู้ที่3
ใบความรู้ที่3
 
ใบงานที่9-16
ใบงานที่9-16ใบงานที่9-16
ใบงานที่9-16
 
ใบงานท 9-16.2
ใบงานท   9-16.2ใบงานท   9-16.2
ใบงานท 9-16.2
 
K7
K7K7
K7
 
K7
K7K7
K7
 
K3
K3K3
K3
 
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Computer 3
Computer 3Computer 3
Computer 3
 
3
33
3
 

More from KaRn Tik Tok

ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์KaRn Tik Tok
 
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานKaRn Tik Tok
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอมKaRn Tik Tok
 
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือKaRn Tik Tok
 
ใบงานที่ 4
ใบงานที่ 4ใบงานที่ 4
ใบงานที่ 4KaRn Tik Tok
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3KaRn Tik Tok
 

More from KaRn Tik Tok (6)

ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
 
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
ใบงานที่ 5 โครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ
 
ใบงานที่ 4
ใบงานที่ 4ใบงานที่ 4
ใบงานที่ 4
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 

ใบงานที่ 4 (1)

  • 1. ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา” ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ให้นักเรียนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วค้นหาความหมายและตัวอย่างหัวข้อโครงงานประเภท การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา จากแหล่งข้อมูล (ห้องสมุด / อินเทอร์เน็ต) อย่างน้อย 5 โครงงาน แล้ว บันทึกลงกระดาษขนาด A4 ที่เตรียมมาพร้อมเขียน แหล่งที่มา หรือ Address ของ website ที่ นักเรียนค้นหาข้อมูลเหล่านั้นด้วย » ความหมาย โครงงานประเภทการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือ หน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียน สามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เ รียนอาจคัดเลือก เนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนา เว็บไซต์ วิถีชีวิตของคนไทยพวน โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม ความหลากหลายของ สิ่งมีชีวิต โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ขอบคุณที่มาจาก : http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7 สืบค้นเมื่อ : 27 กรกฎาคม 2555
  • 2. » ตัวอย่าง หัวข้อโครงงานประเภทการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา 1. โครงงานคอมพิวเตอร์ ปืนอินฟราเรด แสนกล มหัศจรรย์แห่งกลไกแสงและเสียง มหัศจรรย์แห่งกลไกแสงและเสียง อีกแบบหนึ่งที่สามารถ สร้างปืนกลแบบใหม่ได้ทั้ง ความรู้และความสนุก ทั้งผู้สร้างและผู้เล่น ปืนอินฟราเรดแสนกล ปืนอินฟราเรดแสนกล ปืนอินฟราเรด แสนกล แนวการออกแบบ จากนิตยสาร Hobby Electronics ปีที่ 11 ฉบับที่ 127 ม.ค. 2546 โครงงานที่นาเสนอนี้ ท่านผู้อ่านอย่าพึ่งกลัวนะครับ เพราะสิ่งประดิษฐ์ที่ผมทาขึ้นมานี้เป็นเพียง ของเล่นครับ ระบบต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นก็ใช้แบบจาลองหรือใช้วัตดุอื่นแทนทั้งหมดเช่น ระบบของ การยิงซึ่งจะแสดงผลเป็นหลอดไฟสีแดงหรือเรียกตามภาษาช่างว่า แอลอีดี (LED) ส่วนในระบบเลเซอร์ นั้น ผมขอใช้เป็นหลอดไฟสีแดง แต่เป็นหลอดสีแดงแบบที่เรียกกันว่า หลอดแอลอีดีซุปเปอร์ไบต์ และ ในระบบนาวิถีก็ใช้เป็นหลอดภาครับ ภาคส่งที่เป็นแบบอินฟาเรดครับ ในแนวทางการออกแบบของผมเกิดจากการนาเอาระบบแสงเสียงและระบบการขับมอเตอร์มารวมกัน โดยที่ในระบบของการยิงนี้จะมีการขยับซ้ายขวาได้ เมื่อวัตถุใด ๆ เข้ามาสู่วิถีของการตรวจจับ ระบบจะ ทาการหยุดและยิงโดยการยิงจะแสดงผลออกมาทางแอลอีดี 2 หลอด โดยกระพริบแบบสลับกันและมี เสียงออกมาทางลาโพงแบบบัตเซอร์ เมื่อวัตถุได้หลุดออกจากวิถีการตรวจจับระบบก็จะหยุดยิงทันที และทาให้ภาคขับมอเตอร์มีการเคลื่อนที่สลับซ้ายขวาทันที ต่อไปมาดูการทางานของบล็อกไดอะแกรมของโครงงานนี้กันเลยนะครับ โดยผมขอเริ่มจากที่เราจะทา การส่งแสงอินฟาเรดออกมาโดยใช้การแพร่เสมือนการหยดหมึกลงในน้า ซึ่งภาครับแสงอินฟาเรดจะทา หน้าที่เป็นประตูด่านแรกถ้าไม่มีวัตถุใด ๆ มากระทบส่วนควบคุมการทางานก็จะสั่งขับมอเตอร์ให้มีการ หมุนซ้ายขวาสลับกันไป เมื่อวัตถุเคลื่อนที่เข้ามาในระยะที่แสงอินฟาเรดสามารถตรวจจับได้ โดยตัว
  • 3. ตรวจจับที่ออกแบบไว้ได้ไกลประมาณ 10 เซนติเมตร ภาครับจะทาให้หลอดแอดอีดีที่ใช้เป็นระบบนา ทางดับและส่งข้อมูลให้กับส่วนควบคุมการทางาน เมื่อในส่วนควบคุมการทางานได้รับข้อมูลแล้ว จะสั่งให้ระบบการขับมอเตอร์หยุดการทางานทันที พร้อมกันนั้นจะทาให้ระบบการยิงแสงออกมาทางแอลอีดี และระบบการสร้างเสียงการยิงจะทางาน ทันทีเช่นกัน และจะทางานเช่นนี้จนกระทั่งวัตถุที่ตรวจจับได้ ได้หายไป ส่วนบล็อกการทางานอีก 2 บล็อกที่เหลือใช้ในการปรับความเร็วของมอเตอร์ การกระพริบของแอลอีดีและเสียง ขอบคุณที่มาจาก : http://www.basiclite.com/robot/project/gun/gun.htm สืบค้นเมื่อ : 27 กรกฎาคม 2555 2. โครงงานคอมพิวเตอร์ หุ่นยนต์แมลงดิ้นได้ 4 ขา สร้างหุ่นยนต์เลียนแบบแมลง 4 ขา จาก มอเตอร์ ดุ๊ก ดิ๊ก กระดุกกระดิก ดุ๊ก ดิ๊ก กระดุกกระดิก ดุ๊ก ดิ๊ก กระดุกกระดิก สวัสดีครับ ดุ๊ก ดิ๊ก กระดุกกระดิก เป็นโครงงานหุ่นยนต์แมลง 4 ขา พร้อมการบังคับด้วยวิทยุ รับส่ง เป็นการเรียนรู้ลักษณะการเดิน การควบคุม การออกแบบ การวิเคราะห์ การทางานของเจ้าตัว แมลง 4 ขา เป็นโครงงานต้อนรับปิดเทอมสาหรับ น้องๆที่ต้องการ การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ลักษณะการทางานของตัวหุ่นยนต์ ในลักษณะการทางานของหุ่นยนต์แมลงตัวนี้ ผมขอกล่าวโดยรวมเสียก่อนครับ เพื่อจะได้รู้ หลักการคร่าวๆ ของการออกแบบ เจ้าตัว ดุ๊ก ดิ๊ก กระดุกกระดิกตัวนี้ครับ
  • 4. ก่อนการตัดสินใจในการสร้างเจ้าตัวหุ่นยนต์ตัวนี้ ลองมาดูลักษณะการทางานคร่าวๆเสียก่อน โดย มีลักษณะการทางานดังนี้ 1. สามารถบังคับให้เดินหน้า 2. สามารถบังคับในการเลี้ยวซ้าย 3. สามารถบังคับในการเลี้ยวขวา 4. มีการแสดงผลการรับสัญญาณวิทยุ 5. มีการแสดงผลการเลี้ยวซ้าย 6. มีการแสดงผลการเลี้ยวขวา ในรูปที่ 1 เป็นบล็อกการแสดงการทางานโดยรวมของระบบหุ่นยนต์ โดยสามารถอธิบายได้ดังนี้ โดยต้องเริ่มจาก วงจรรับสัญญาณวิทยุ ในวงจรส่วนนี้ผมไม่ได้ทาการออกแบบเอง เพื่อความง่ายผมได้ นามาจากวงจรรถกระป๋องที่ไม่ได้ใช้แล้วมาทาการดัดแปลง ในวงจรรถกระป๋องที่นามาใช้งานใน บทความนี้ สามารถหาอ่านอย่างละเอียดได้ใน หนังสือ Hobby Electronic ฉบับที่ 116 สัญญาณที่ เกิดขึ้นจากวิทยุรับส่งเราจะนามาใช้งานอยู่ 3 เส้น คือ สัญญาณเดินหน้า สัญญาณเลี้ยวซ้าย สัญญาณ เลี้ยวขวา ส่วนสัญญาณถอยหลังเราไม่นามาใช้เพราะโครงสร้างของตัวหุ่นยนต์ไม่ได้ออกแบบมาให้มี การถอยหลังได้ สัญญาณทั้ง 3 เส้นจะวิ่งเข้าสู่บล็อกหน่วยการควบคุมหลัก ในบล็อกการทางานหน่วยการควบคุมหลักนี้ มีความสาคัญในระดับที่สูงมากเพราะถูกใช้เป็นวงจร ที่ใช้ประมวลผลและควบคุมระบบทั้งหมด โดยในบล็อกนี้จะใช้ตัวไมโครคอนโทรเลอร์เบอร์ ST7FLITE09B ซึ่งการโปรแกรม การสร้างเครื่องโปรแกรมและการเรียนรู้สามารถหาอ่านได้จาก Hobby Electronic ฉบับที่ 139 ,140 ในบล็อกการแสดงผล จะใช้ในการบอกลักษณะของทางานของหุ่นยนต์ทั้งในการรับสัญญาณวิทยุ การเลี้ยวซ้าย การเลี้ยวขวา ในส่วนนี้จะประกอบโดยหลอด แอลอีดี สีแดงขนาด 3 มิลลิเมตรจานวน 2 ตัว ในบล็อกการทางานการตรวจจับสัญญาณอินพุท ในบล็อกนี้เป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นจากสวิตช์ที่ติดอยู่ ที่บริเวณขาของตัวหุ่นยนต์ ในตัวหุ่นยนต์ตัวนี้ไม่ได้ใช้เชอร์โวมอเตอร์ แต่ใช้มอเตอร์ดีซีแบบทดรอบ จึง
  • 5. ไม่สามารถควบคุมตาแหน่งที่แน่นอนได้ สวิทช์ที่ใช้ติดบริเวณขาของตัวหุ่นยนต์ก็จะใช้ในการตรวจสอบ ตาแหน่งของขาหุ่นยนต์ให้มีความถูกต้องในการเดิน http://www.basiclite.com/robot/project/robot1/robot1.htm ขอบคุณที่มาจาก : http://www.basiclite.com/robot/project/robot1/robot1.htm สืบค้นเมื่อ : 27 กรกฎาคม 2555 3. โครงงานคอมพิวเตอร์นาเสนอแนวคิด การ เรียนรู้ดิจิตอลแบบใหม่ โดยใช้ระบบกลไกและวงจรอิเล็กทรอนิกส์ง่าย ๆ เพื่อให้เข้าใจถึงการทางานของวงจรดิจิตอล เบื้องต้น พร้อมกับความสนุกเพลิดเพลินในการเรียนรู้ วงล้อ มหัศจรรย์ วงล้อ มหัศจรรย์ วงล้อ มหัศจรรย์ แนวคิดในการใช้กลไกกับวงจรดิจิตอล จากนิตยสาร Hobby Electronics ปีที่ 11 ฉบับที่ 126 ธ.ค. 2545 ในการทดลองดิจิตอล สิ่งที่จาเป็นในอดีตและปัจจุบัน คือต้องมีบอร์ดทดลอง ภาคจ่ายไฟ เกต ต่าง ๆ แถมยังต้องมีสายไฟที่ใช้ในการเชื่อมต่อวงจรบนโฟโต้บอร์ด แต่ถ้าใครทันสมัยหน่อยอาจะหา คอมพิวเตอร์สักเครื่องบวกกับโปรแกรมที่ใช้ตรวจสอบการทางานของวงจรดิจิตอลที่เราออกแบบไว้ (ขอแนะนาโปรแกรมมีชื่อว่า MAXPULS2 ) เมื่อเราใช้โปรแกรมเขียนวงจรและวิเคราะห์การทางานได้ ตามที่เราออกแบบไว้แล้วก็นาไปทาส่วนของชิ้นงานจริง ๆ ได้เลย อาจต่อวงจรโดยการหาเกตมาต่อรวม ๆ กันหรือใช้แบบทันสมัย แต่ก็มาคู่กับค่าใช้จ่ายที่มากอยู่สักหน่อยคือใช้ชิพที่เรียกว่า FPGA ซึ่งเริ่มมี
  • 6. ออกมาจาหน่ายกันแล้วตามท้องตลาดแต่ในส่วนของโครงงานนี้จะเหมาะสมกับการเรียนดิจิตอล เบื้องต้นจริง ๆ ในการออกแบบโครงงานชุดนี้ได้แบ่งการออกแบบออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นระบบกลไกและวงจร อิเล็กทรอนิกส์ แต่ก่อนอื่นจะขอกล่าวถึงระบบกลไกเสียก่อนครับ โดยเริ่มจากแนวคิดการสะท้อนและ ดูดกลืนของแสง ในที่นี้จะใช้แสงอินฟาเรด ซึ่งเจ้าตัวแสงอินฟาเรดนี้มีคุณสมบัติคือ เมื่อตัวแสงวิ่งมากระทบวั ตถุใด ๆ ที่ มีสีแตกต่างกัน แสงที่วิ่งตกกระทบนั้นจะถูกวัตถุดูดกลืนหรือพูดกันง่าย ๆ ก็คือมีการสะท้อนแสงอิน ฟาเรดกลับมาสู่ตัวรับแสงอินฟาเรดได้แตกต่างกันนั้นเอง จากคุณสมบัติในข้อนี้ผมจึงได้ทาการทดลองดู และสรุปได้ว่า เมื่อแสงอินฟาเรดมากระทบกับวัตถุที่มีสีขาวจะมีการสะท้อนแสงกลับมาสู่ตัวรับแสงอิน ฟาเรดได้มาก แต่ในทางกลับกันจะเกิดการสะท้องกลับได้น้อยมากเมื่อแสงอินฟาเรดมีการกระทบกับ วัตถุสีดา ดังนั้นเราจึงได้ออกแบบระบบกลไกขึ้นมาเพื่อทางานตามสิ่งที่ได้ทดลองก่อนหน้านี้ ซึ่งก็จะได้ วงกลมที่มีช่องเป็นช่วง ๆ ตามรูปที่เห็นในโครงงาน ซึ่งต้องมีการระบายสีสลับกันระหว่างสีดาหรือสีขาว ตามที่เราต้องการ ซึ่งการทาหรือระบายสีดาหรือสีขาวนั้นจะขึ้นอยู่กับความต้องการเรียนรู้ในวงจรส่วน ใด โดยจะขอกล่าวในส่วนต่อไปนะครับ ต่อไปมาดูกันในส่วนที่ 2 ก็คือ ส่วนของตัววงจรได้เสนอแนวคิด การทดลองออกเป็น 3 ส่วน โดยมีส่วนของการถอดรหัส BCD เป็นเลขฐาน 16, การถอดรหัสเลขฐาน 7 เป็น ฐาน 10, การทดลองการควบคุมการทางานของสเต็ปปิ้งมอเตอร์ ซึ่งผมได้ทาการเสนอเพียงการ ทดลองแบบง่าย ๆ ถ้าใครต้องการที่จะทาเพิ่มก็ลองทากันดูนะครับ โดยเราจะใช้ภาคส่งแสงและรับแสง อินฟาเรดมาเป็นตัวจับแสง ซึ่งอาจจะลองทาเพิ่มเป็นวงจรขับมอเตอร์ดีซีกลับซ้ายขวา, วงจรขับ มอเตอร์ดีซีแบบเป็นจังหวะ, วงจรการควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้า, วงจรทาไฟกระพริบ ซึ่งก็ลองคิดเพิ่มเติม กันดูนะครับ ขอบคุณที่มาจาก : http://www.basiclite.com/robot/project/wheel/wheel.htm สืบค้นเมื่อ : 27 กรกฎาคม 2555
  • 7. 4. โครงงานคอมพิวเตอร์ โปรแกรมประยุกต์ธนาคารความดี ที่มารูปภาพ : http://www.preeyadaedu.com /?paged=8 โครงงานโปรแกรมธนาคารความดีนี้ได้จัดทาขึ้นเพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูลนักเรียน เพิ่มคะแนน ความดี หักคะแนนความประพฤติของนักเรียน และผลของการใช้โปรแกรมบันทึกข้อมูลนี้กับธนาคาร ความดี ก็เป็นที่น่าพอใจมากกว่าการบันทึกความดีที่เป็นสมุดรูปเล่ม ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งต้องใช้ กระดาษเป็นจานวนมากในการทาเป็นสมุดบันทึกคะแนนความดีให้นักเรียนทุกคนในโรงเรียนซึ่งมี จานวน 1431 คน อีกทั้งการพกพาสมุดนั้นทาให้เกิดการสูญหายได้ และเกิดการชารุดได้ง่าย การหาวิธี ที่จะใช้กระดาษให้น้อยลงจึงเป็นทางเลือกที่ดี ดังนั้นโปรแกรมธนาคารความดีนี้ จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ ดีกว่ารูปเล่มบันทึกแบบเดิม ความคิดในการพัฒนาโปรแกรมธนาคารความดีนี้ได้ถูกคิดต่อยอดจาก โปรแกรมเดิมที่มีคุณสมบัติไม่ดีเท่าโปรแกรมตัวใหม่ ทางคณะผู้จัดทาได้นาโปรแกรมมาศึกษาและ ดัดแปลง ปรับปรุง เพิ่มเติมในส่วนที่นักเรียนกลุ่มก่อนได้ทาไว้แต่ยั งไม่ดีนัก โดยเริ่มจากการวางแผน เค้าโครงโปรแกรม คิดหาสูตรที่ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมธนาคารความดี ออกแบบฐานข้อมูลโดยใช้ โปรแกรม Microsoft Access 2003 ออกแบบเมนูหลักต่างๆที่จาเป็นต่อการใช้งาน เช่น รายการเพิ่ม คะแนนความดี รายการหักคะแนนความประพฤติ รายงานคะแนนแบบห้อง หรือแม้แต่ระดับบุคคล และยังสามารถมีประโยชน์ในการใช้งานจริง แล้วจึงมาสร้างในโปรแกรม Microsoft Visual Basic 6.0 โดยเริ่มจากการสร้างเมนูหลัก เพิ่มเมนูย่อยอีกหลายรายการเพื่อสะดวกแก่การเก็บหลักฐานพฤติกรรม ของนักเรียนที่เป็นสมาชิกภายในโรงเรียน ข้อมูลภายในโปรแกรมธนาคารความดียังสามารถ เพิ่ม ลบ
  • 8. หรือแก้ไข ข้อมูลสมาชิกหรือข้อมูลต่างๆภายในโปรแกรมได้ ข้อมูลและหลักฐานต่างๆที่ถูกบันทึกใน โปรแกรมยังสามารถเก็บเป็นหลักฐาน และรายงานเพื่อส่งต่อให้ฝ่ายปกครองพิจารณาต่อไปได้อีกด้วย โปรแกรมธนาคารความดีนี้จึงเป็นโปรแกรมที่สามารถลดภาระของครูผู้บริหารเกี่ยวกับการควบคุม ดูแลความประพฤติของนักเรียนได้โดยไม่ต้องเพิ่งการตรวจสอบที่ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อน ลดขั้นตอนการ ดูแลได้ในโปรแกรมเดียว และยังสามารถประยุกต์พัฒนาโปรแกรมนี้เพื่อประโยชน์แก่กิจกรรมทางการ เรียนของนักเรียนได้อีกด้วย ขอบคุณที่มาจาก : http://www.vcharkarn.com/project/view/689 สืบค้นเมื่อ : 27 กรกฎาคม 2555 5. ตัวอย่างบทเรียน e-Learning โครงการ 1 จานวน 25 วิชา โครงงาน CS456 Software Engineering วิศวกรรมซอฟต์แวร์