SlideShare a Scribd company logo
1 of 19
โครงงานคอมพิวเตอร์ การเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ 
เรื่องระบบปฏิบัติการ 
ผู้จัดทา 
นางสาว ภาวินี คา ภักดี เลขที่ 16 
นางสาว สุดารัตน์ ชิณวัง เลขที่ 21 
นางสาว ปราณปรียา นามแดง เลขที่ 11 
สอนโดย 
อาจารย์ ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ 
รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ระบบปฏิบัติการ รหัสวิชา 2204-2002 
ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ 
สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น 
ปีการศึกษา 2557
เรื่อง ระบบปฏิบัติการ 
ประเภทโครงงาน โครงงานสื่อการศึกษา 
ระดับชั้น ประกาศนียบัตรวิชาชีพ 
โดย นางสาว ภาวินี คา ภักดี เลขที่ 16 
นางสาว สุดารัตน์ ชิณวงั เลขที่ 21 
นางสาว ปราณปรียา นามแดง เลขที่ 11 
สถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแกน่ 
สังกัด สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 
ครูทปี่รึกษา นาง ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ 
ปีการศึกษา 2557 
บทคัดย่อ 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของราย วิชาระบบปฏิบัติการ รหัสวิชา 2204-2002 
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ โดยมีจุดประสงค์ เพื่อศึกษาการใช้ระบบปฏิบัติการ เพื่อใช้เป็นสื่อในการศึกษา ให้กบัผู้ที่สนใจ 
เรื่องระบบปฏิบัติการ 
ผลการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ ใน www.blogger.com ประกอบด้วย วิชาระบบปฏิบัติการ 
วิชาประมวลผลคา วิชาคอมพิวเตอร์สารสนเทศ และผลการประเมินของการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ 
มีคา่เฉลี่ยรวมอยูใ่นระดับดี (คา่เฉลี่ย = 3.92)
กิตติกรรมประกาศ 
โครงงานนี้สาเร็จลุลว่งได้ด้วยความกรุณาจากอาจารย์ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ 
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานที่ได้ให้คา เสนอแนะ แนวคิด ตลอดจนแกไ้ขข้อบกพร่องตา่งๆ มาโดยตลอด 
จนโครงงานเลม่นี้เสร็จสมบูรณ์ ผู้ศึกษาจึงขอขอบพระคุณเป็นอยา่งสูง ขอขอบคุณอาจารย์ธิดารัตน์ 
คุณครูที่ปรึกษาในการแกไ้ขและปรับปรุงโครงงานให้สาเร็จลุลว่ง ไปด้วยดี ขอขอบคุณผู้ปกครองที่ให้คา ปรึกษา 
และสนับสนุน ในเรื่องตา่งๆ รวมทั้งเป็นกา ลังใจที่ดีเสมอ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ห้องสมุด 
ที่ให้คา ปรึกษาและสนับสนุนในการหาข้อมูลเพื่อประกอบการทา โครงงานนี้ สุดท้ายขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ชว่ยให้คา แนะนาดี 
ๆ เกยี่วกบัการทา 
นางสาว ภาวินี คา ภักดี 
นางสาว สุดารัตน์ ชิณวงั 
นางสาว ปราณปรียา นามแดง
สารบัญ 
เรื่อง หน้า 
กิตติกรรมประกาศ ก 
บทคัดยอ่ ข 
สารบัญ ค 
บทที่ 1 บทนา 1 
ที่มาและความสาคัญ 1 
วตัถุประสงค์ 1 
ขอบเขตการศึกษา 1 
ผลที่คาดวา่จะได้รับ 1 
บทที่ 2 เอกสารที่เกยี่วข้อง 2 
ความสาคัญของระบบปฏิบัติการ 2 
ข้อมูลเกยี่วกบัระบบปฏิบัติการ 2 
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ 5 
บทที่ 3 อุปกรณ์และการดา เนินการ 7 
วสัดุอุปกรณ์ เครื่องมือการใช้ระบบปฏิบัติการ 7 
บทที่ 4 ผลการดา เนินโครงงาน 12 
ผลการใช้ระบบปฏิบัติการ 13 
บทที่ 5สรุปผลการดา เนินงานและข้อเสนอแนะ 17
บทที่ 1 บทนา 
ที่มาและความสาคัญ 
ถ้ามีรถยนต์อยูแ่ตขั่บรถยนต์ไมเ่ป็น รถยนต์คันดังกลา่วก็จะไมมี่ประโยชน์อะไรเลย คอมพิวเตอร์ก็เชน่เดียวกนั 
ถึงแมว้า่จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพมากเพียงใดก็ตาม 
ถ้าหากเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกลา่วไมมี่ระบบปฏิบัติการคอยควบคุมการทา งาน ซึ่งเปรียบได้กบัรถยนต์ที่ไมมี่คนขับ 
เครื่องคอมพิวเตอร์ดังกลา่วก็จะไมมี่ประโยชน์เลย 
ดังนั้นระบบปฏิบัติการจึงมีความสาคัญเปรียบเสมือนกับคนขับรถยนต์ที่จะต้องคอยควบคุมรถให้เดินทางไปถึงที่หมายอยา่งถู 
กต้อง และปลอดภัย ระบบปฏิบัติการก็จะต้องควบคุมการทา งานของคอมพิวเตอร์ให้ทา งานตามที่ต้องการ 
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง 
ในปัจจุบันระบบปฏิบัติการไมไ่ด้นามาใช้งานกบัคอมพิวเตอร์เทา่นั้น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์สมยัใหมต่า่ง ๆ เชน่ 
โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องเลน่เกม หรือแมก้ระทั่งเครื่องซักผ้า ก็มีระบบปฏิบัติการในการควบคุมการทางานเชน่กนั 
แตจ่ะเป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาสาหรับอุปกรณ์นั้น ๆ โดยเฉพาะความเป็นมาของระบบปฏิบัติการ OS 
วัตถุประสงค์ 
1.เพื่อศึกษาการใช้ระบบปฏิบัติการ 
2.เพื่อใช้เป็นสื่อในการศึกษา ให้กบัผู้ที่สนใจ เรื่องระบบปฏิบัติการ 
ขอบเขตการศึกษา 
1.ขอบเขตด้านเนื้อหา เรื่องระบบปฏิบัติการ ซึ่งประกอบด้วย หน่วยประมวลผลคา และคอมพิวเตอร์สารสนเทศ 
2.โปรแกรมที่ใช้ในการดา เนินงาน 
2.1โปรแกรม Microsoft Word 
ผลทคี่าดว่าจะได้รับ 
1.ได้เรียนรู้เกยี่วกบัระบบปฏิบัติการ 
2.ได้นาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 
3.สามารถนาความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ ไปใช้ในการศึกษา
บทที่ 2 
เอกสารที่เกี่ยวข้อง 
การจักทา โครงงานคอมพิวเตอร์ การศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ นี้ผู้จัดทา ได้ศึกษาเอกสารที่เกยี่วข้องดังต่อไปนี้ 
1.ความหมายระบบปฏิบัติการ 
2.ข้อมูลเกยี่วกบัระบบปฏิบัติการ 
3.องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ 
4.การเผยแพร่ทางออนไลน์ 
ความหมายของระบบปฏิบัติการ 
โปรแกรมระบบปฏิบัติการ หรือ Operating System เรียกสั้น ๆ วา่ OS เป็นโปรแกรม 
ควบคุมการทา งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ทา หน้าที่ควบคุมการทา งานตา่ง ๆ เชน่ การแสดงผล ข้อมูลการติดตอ่กับผู้ใช้ 
โดยทา หน้าที่เป็นสื่อกลาง ระหวา่งผู้ใช้กบัเครื่องให้สามารถสื่อสารกนัได้ควบคุมและจัดสรรทรัพยากรให้กับโปรแกรมตา่ง 
ๆโดยทั่วไประบบคอมพิวเตอร์แบง่เป็น 4 ส่วน คือ ฮาร์ดแวร์ ระบบปฏิบัติการ โปรแกรมประประยุกต์ และผู้ใช้ 
ดังนั้นการศึกษาเกี่ยวกบัเรื่องระบบปฏิบัติการ 
จึงเป็นเรื่องจา เป็นอยา่งยิ่งเพราะจะทา ให้เราสามารถที่จะคัดเลือกระบบปฏิบัติการ 
เพื่ออประยุกต์ใช้กบังานได้อยา่งมีประสิทธิภาพ 
ระบบปฏิบัติการ(Operating System)ระบบต่างๆ 
การทา งานของคอมพิวเตอร์จะไมส่ามารถทา งานด้วยตัวเองได้ 
แตจ่ะต้องอาศัยโปรแกรมสั่งให้คอมพิวเตอร์ทา งานซึ่งเรียกวา่“ซอฟต์แวร์” (Software) โดยทั่วไปซอฟต์แวร์จะแบง่เป็น 2 
ประเภท คือ โปรแกรมสาเร็จรูป และโปรแกรมระบบปฏิบัติการซึ่งระบบปฏิบัติการนี้จะมีหน้าที่ 
ในการจัดการและควบคุมการทา งานและอุปกรณ์ตา่งๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เชน่ 
การจัดการเกยี่วกบัการแสดงผลบนจอภาพ รับข้อมูลทางแป้นพิมพ์หรือเมาส์ การจัดการเกยี่วกบัแฟ้มข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูลลงแฟ้มการติดตั้งโปรแกรม นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการยังชว่ยสร้างส่วนติดตอ่ ระหวา่งผู้ใช้กบัคอมพิวเตอร์ 
(User interface) ให้ง่ายตอ่การใช้งาน ระบบปฏิบัติการมีอยูห่ลาย ระบบ ซึ่งมีการพัฒนาจากผู้ผลิตหลายบริษัท แตที่่สาคัญ ๆ 
มีดังนี้ 
1.ระบบปฏิบัติการDOS(Disk Operating System) 
ระบบ DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท IBM เพื่อให้เป็ระบบปฏิบัติการสาหรับเครื่องพีซี 
ซึ่งตัวโปรแกรมDOS จะถูก Load หรืออา่นจากแผน่ดิสก์เข้าไปเก็บไวใ้นหน่วยความจา กอ่น จากนั้น DOS จะไปทา หน้าที่เป็น 
ผู้ประสานงานตา่ง ๆระหวา่งผู้ใช้กบัอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหลายโดยอัตโนมัติ โดยที่ DOS 
จะรับคา สั่งจากผู้ใช้หรือโปรแกรมแล้วนาไปปฏิบัติตามโดยการทา งานจะเป็นแบบ Text mode 
สั่งงานโดยการกดคา สั่งเข้าไปที่ซีพร็อม (C:>)ดังนั้น ผู้ใช้ระบบนี้จึงต้องจา คา สั่งตา่ง ๆในการใช้งานจึงจะสามารถใช้งานได้ 
ระบบปฏิบัติการ DOS ถือได้วา่เป็นระบบปฏิบัติการที่เกา่แก่และปัจจุบันนี้มีการใช้งานน้อยมาก 
2.ระบบปฏิบัติการ(Microsoft Windows) 
Windowsเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท Microsoft ซึ่งจะมีส่วนติดตอ่กบั ผู้ใช้ (User interface) 
เป็นแบบกราฟิก หรือเป็นระบบที่ใช้รูปภาพแทนคา สั่ง เรียกวา่ GUI (Graphic User Interface) 
โดยสามารถสั่งให้เครื่องทา งานได้โดยใช้เมาส์คลิกที่สัญลักษณ์หรือคลิกที่คา สั่งที่ต้องการ 
ระบบนี้อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมได้มากกวา่ 1 โปรแกรมในขณะเดียวกนัซึ่งถ้าเป็นระบบ DOS 
หากต้องการเปลี่ยนไปทา งานโปรแกรมอื่น ๆ จะต้องออกจาก โปรแกรมเดิมกอ่นจึงจะสามารถไปใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ได้ 
ในลักษณะการทา งานของ Windows จะมีส่วนที่เรียกวา่ “หน้าตา่ง” โดยแตล่ะโปรแกรมจะถือเป็นหน้าตา่งหนึ่งหน้าตา่ง 
ผู้ใช้สามารถ สลับไปมาระหวา่งแตล่ะหน้าตา่งได้ นอกจากนี้ระบบ Windows ยังให้โปรแกรมตา่ง ๆ 
สามารถแชร์ข้อมูลระหวา่งกนัได้ผา่นทางคลิปบอ์ด (Clipboard) ระบบ Windows ทา ให้ผู้ใช้ ทั่ว ๆไปสามารถทา ความเข้าใจ 
เรียนรู้และใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น 
3.ระบบปฏิบัติการ(Unix) 
Unixเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้บนเครื่อง SUN ของบริษัท SUN Microsystems แตไ่มไ่ด้เป็นคูแ่ขง่กบับริษัท Microsoft 
ในเรื่องของระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PCแตอ่ยา่งใด แตU่nix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้เทคโนโลยีแบบเปิด (Open system) 
ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผู้ใช้ไมต่้อง ผูกติดกบัระบบใดระบบหนึ่งหรืออุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกนั นอกจากนี้ Unix ยังถูกออกแบบมาเพื่อ 
ตอบสนองการใช้งานในลักษณะให้มีผู้ใช้ได้หลายคนในเวลาเดียวกนั เรียกวา่ ระบบหลายผู้ใช้ (Multiuser system) 
และสามารถทา งานได้หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกนั ในลักษณะที่เรียกวา่ ระบบหลายภารกิจ (Multitasking system) 
4.ระบบปฏิบัติการ(Linux) 
Linuxเป็นระบบปฏิบัติการเชน่เดียวกบั DOS, Windows หรือ Unix โดยLinuxนั้นจัด วา่เป็นระบบปฏิบัติการ Unix
ประเภทหนึ่งการที่Linuxเป็นที่กลา่วขานกนัมากในชว่งปี 1999 – 2000 เนื่องจากความสามารถของตัวระบบปฏิบัติ 
การและโปรแกรมประยุกต์ที่ทา งานบนระบบ Linux โดยเฉพาะอยา่งยิ่งโปรแกรมในตระกูลของ GNU (GNU’s Not UNIX) 
และสิ่งที่สาคัญที่สุดก็ คือระบบ Linux เป็นระบบปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ (Free ware) คือไมเ่สียคา่ใช้จา่ยในการซื้อ 
โปรแกรม Linux นั้นมี นักพัฒนาโปรแกรมจากทั่วโลกช่วยกนัแกไ้ข ทา ให้การขยายตัวของ Linux เป็นไปอยา่งรวดเร็ว 
โดยในส่วนของใจกลางระบบปฏิบัติการหรือ Kernel นั้นจะมีการพัฒนาเป็น รุ่นที่ 2.2 (Linux Kernel 2.2) 
ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถและสนับสนุนการทา งานแบบหลายซีพียู หรือ SMP (Symmetrical Multi Processors) 
ซึ่งทา ให้ระบบLinux 
สามารถนาไปใช้สาหรับทา งาน เป็น Saver ขนาดใหญไ่ด้ระบบ Linux ตั้งแตรุ่่น 4 นั้น สามารถทา งานได้บนซีพียูทั้ง 3 ตระกูล 
คือ บนซีพียูของ อินเทล (PC Intel) ดิจิทัลอัลฟาคอมพิวเตอร์ (Digital Alpha Computer และซันสปาร์ค (SUN SPARC) 
เนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่เรียกวา่ RPM (Red Hat Package Management) 
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ 
คอมพิวเตอร์ทา งานอยา่งเป็นระบบ (System) หมายถึงภายในระบบงานคอมพิวเตอร์ 
ประกอบด้วยองค์ประกอบย่อยที่มีหน้าที่เฉพาะ ทา งานประสานสัมพันธ์กนั เพื่อให้งานบรรลุตามเป้าหมาย 
ในระบบงานคอมพิวเตอร์ 
การที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงอยา่งเดียว จะยังไมส่ามารถทา งานได้ด้วยตัวเอง 
ซึ่งหากจะให้คอมพิวเตอร์ทา งานได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพแล้ว 
ระบบคอมพิวเตอร์ควรจะประกอบไปด้วยองค์ประกอบคือ บุคลากร (Peopleware) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ 
(Software) ข้อมูล(Data) 
1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบของตัวเครื่องที่สามารถจับต้องได้ ได้แก่วงจรไฟฟ้า ตัวเครื่อง 
จอภาพ เครื่องพิมพ์ คีย์บอร์ด เป็นต้นซึ่งสามารถแบง่ส่วนพื้นฐานของฮาร์ดแวร์เป็น 4 หน่วยสาคัญ 
1.1 หน่วยรับข้อมูลหรืออินพุต ( Input Unit) ทา หน้าที่รับข้อมูลและโปรแกรมเข้า ได้แก่คีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์ เมาส์ 
เครื่องสแกน เป็นต้น 
1.2 ระบบประมวลผลกลางหรือซีพียู (CPU : Central Processing Unit) 
ทา หน้าที่ในการทา งานตามคา สั่งที่ปรากฏอยูใ่นโปรแกรม ปัจจุบันซีพียูของเครื่องพีซี รู้จักในนามไมโครโปรเซสเซอร์ 
( Micro Processor) หรือ Chip เชน่บริษัท Intel คือ Pentium 
1.3 หน่วยเก็บข้อมูล ( Storage ) ซึ่งสามารถแยกตามหน้าที่ได้เป็น 2 ลักษณะ คือ 
1.3.1 หน่วยเก็บข้อมูลหลักหรือความจา หลัก ( Primary Storage หรือ Main Memory ) 
ทา หน้าที่เก็บโปรแกรมหรือข้อมูลที่รับมาจากหน่วยรับข้อมูลเพื่อเตรียมส่งให้หน่วยประมวลผลกลางทา การประมวลผล 
และรับผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลเพื่อส่งออกหน่วยแสดงข้อมูลต่อไป 
1.3.2 หน่วยเก็บข้อมูลสารอง ( Secondary Storage ) เป็นหน่วยที่ทา หน้าที่เก็บข้อมูล 
หรือโปรแกรมที่จะป้อนเข้าสู่หน่วยความจา หลักภายในเครื่องกอ่นทาการประมวลผลโดยซีพียู 
รวมทั้งเป็นที่เก็บผลลัพธ์จากการประมวลผลด้วย ปัจจุบันรู้จักในนามฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) หรือแผน่ฟร็อปปีดิสก์ (Floppy 
Disk) ซึ่งเมอื่ปิดเครื่องข้อมูลจะยังคงเก็บอยู่
1.4 หน่วยแสดงข้อมูลหรือเอาต์พุต ( Output Unit ) ทา หน้าที่ในการแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล ได้แก่ 
จอภาพ และเครื่องพิมพ์ เป็นต้น ทั้ง 4 ส่วนจะเชื่อมตอ่กนัด้วยบัส ( Bus ) 
2 ซอฟต์แวร์ ( Software ) 
ซอฟต์แวร์ คือโปรแกรมหรือชุดคา สั่ง ที่สั่งให้ฮาร์ดแวร์ทา งาน รวมไปถึงการควบคุมการทา งาน 
ของอุปกรณ์แวดล้อมตา่งๆ เชน่ ฮาร์ดดิสก์ ดิสก์ไดร์ฟ ซีดีรอม การ์ดอินเตอร์เฟสตา่ง ๆ เป็นต้น ซอฟต์แวร์ 
เป็นสิ่งที่มองไมเ่ห็นจับต้องไมไ่ด้ แตรั่บรู้การทา งานของมนัได้ ซึ่งตา่งกบั ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่สามารถจับต้องได้ 
ซึ่งแบง่เป็น 2 ประเภทคือ 
2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ ( System Software ) คือโปรแกรม ที่ใช้ในการควบคุมระบบการ ทา งานของ 
เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เชน่ การบูดเครื่อง การสาเนาข้อมูล การจัดการระบบของดิสก์ 
ชุดคา สั่งที่เขียนเป็นคา สั่งสาเร็จรูป 
2.1.1 โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (Operating System) เป็นโปรแกรมที่ใช้ควบคุม และติดตอ่กบัอุปกรณ์ตา่ง ๆ 
ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการจัดการระบบของดิสก์ การบริหารหน่วยความจา ของระบบ 
2.1.2 ตัวแปลภาษา (Translator) จาก Source Code ให้เป็น Object Code (แปลจากภาษาที่มนุษย์เข้าใจ 
ให้เป็นภาษาที่เครื่องเข้าใจ เปรียบเสมือนลา่มแปลภาษา) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแปลภาษาระดับสูง ซึ่ง 
เป็นภาษาใกล้เคียงภาษามนุษย์ ให้เป็นภาษาเครื่องกอ่นที่จะนาไปประมวลผล ตัวแปลภาษาแบง่ออกเป็นสองประเภทคือ 
คอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเตอร์พีทเตอร์ (Interpeter) 
2.1.3 ยูติลิตี้ โปรแกรม (Utility Program) คือซอฟต์แวร์เสริมชว่ยให้เครื่องทา งานมีประสิทธิภาพ มากขึ้น เชน่ 
ชว่ยในการตรวจสอบดิสก์ ชว่ยในการจัดเก็บข้อมูลในดิสก์ ชว่ยสาเนาข้อมูล ชว่ยซอ่มอาการชา รุดของดิสก์ 
ชว่ยค้นหาและกา จัดไวรัส ฯลฯ เป็นต้นโปรแกรมในกลุม่นี้ได้แก่โปรแกรม Norton Winzip Scan virus Sidekick Scandisk 
Screen Saver เป็นต้น 
2.1.4 ติดตั้งและปรับปรุงระบบ (Diagonostic Program) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการติดตั้งระบบ 
เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อและใช้งานอุปกรณ์ตา่ง ๆ ที่นามาติดตั้งระบบ ได้แก่โปรแกรม Setupและ Driver ตา่ง ๆ 
เชน่ โปรแกรม Setup Microsoft Office โปรแกรม Driver Sound , Driver Printer , Driver Scanner เป็นต้น 
2.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) 
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ทา ให้คอมพิวเตอร์ทา งานตา่งๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ 
ไมว่า่จะด้านเอกสาร บัญชี การจัดเก็บข้อมูล เป็นต้น ซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถจา แนก 
ได้เป็น 2 ประเภท คือ 
2.2.1 ซอฟต์แวร์สาหรับงานเฉพาะด้าน (Special Purpose Software) คือ 
โปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทา งานเฉพาะอยา่งที่เราต้องการ บางที่เรียกวา่ User’s Program เชน่ 
โปรแกรมการทา บัญชีจ่ายเงินเดือน โปรแกรมระบบเชา่ซื้อ โปรแกรมการทา สินค้าคงคลัง เป็นต้น 
2.2.2 ซอฟต์แวร์สาหรับงานทั่วไป (General Purpose Software) เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่มีผู้จัดทา ไว้ 
เพื่อใช้ในการทา งานประเภทตา่งๆ ทั่วไป 
3 บุคลากร ( Peopleware ) 
บุคลากรจะเป็นสิ่งสาคัญที่จะเป็นตัวกา หนดถึงประสิทธิภาพถึงความสาเร็จและความคุ้มคา่ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ 
ซึ่งสามารถแบง่บุคลากรตามหน้าที่เกี่ยวข้องตามลักษณะงานได้ 6 ด้าน ดังนี้
3.1 นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (Systems Analyst and Designer : SA ) 
ทา หน้าที่ศึกษาและรวบรวมความต้องการของผู้ใช้ระบบ และทา หน้าที่เป็นสื่อกลางระหวา่งผู้ใช้ระบบและนักเขียนโปรแกรม 
(Programmer) หรือปรับปรุงคุณภาพงานเดิม นักวิเคราะห์ระบบต้องมีความรู้เกยี่วกับระบบคอมพิวเตอร์ 
พื้นฐานการเขียนโปรแกรม และควรจะเป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี 
3.2 โปรแกรมเมอร์ ( Programmer ) 
คือบุคคลที่ทา หน้าที่เขียนซอฟต์แวร์ตา่งๆ(Software )หรือเขียนโปรแกรมเพื่อสั่งงานให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทา งานตามความต้ 
องการของผู้ใช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้ 
3.3 ผู้ใช้ ( User ) เป็นผู้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ 
ซึ่งจะเป็นผู้ปฏิบัติหรือกา หนดความต้องการในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์วา่ทา งานอะไรได้บ้าง ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป 
จะต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยูส่ามารถทา งานได้ตามที่ต้องการ 
3.4 ผู้ปฏิบัติการ (Operator ) สาหรับระบบขนาดใหญ่ เชน่ เมนเฟรม 
จะต้องมีเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ที่คอยปิดและเปิดเครื่อง และเฝ้าดูจอภาพเมอื่มีปัญหาซึ่งอาจเกิดขัดข้อง จะต้องแจ้ง System 
Programmer ซึ่งเป็นผู้ดูแลตรวจสอบแกไ้ขโปรแกรมระบบควบคุมเครื่อง (System Software) อีกทีหนึ่ง 
3.5 ผู้บริหารฐานข้อมูล ( Database Administrator : DBA ) 
กลุม่บุคคลที่ทา หน้าที่ดูแลข้อมูลผา่นระบบจัดการฐานข้อมูล ซึ่งจะควบคุมให้การทา งานเป็นไปอยา่งราบรื่น 
3.6 ผู้จัดการระบบ (System Manager) คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน 
เป็นผู้ที่มีความหมายตอ่ความสาเร็จหรือล้มเหลวของการนาระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งานเป็นอยา่งมาก 
4. ข้อมูล 
ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วใช้ตัวเลขตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ ตา่งๆ 
ทา ความหมายแทนสิ่งเหลา่นั้น 
ข้อมูล คือคา่ของตัวแปรในเชิงคุณภาพหรือเชิงปริมาณ ที่อยูใ่นความควบคุมของกลุ่มของสิ่งตา่ง ๆ 
ข้อมูลในเรื่องการคอมพิวเตอร์ (หรือการประมวลผลข้อมูล) จะแสดงแทนด้วยโครงสร้างอยา่งหนึ่ง 
ซึ่งมกัจะเป็นโครงสร้างตาราง 
การเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ 
โครงการเผยแพร่ความรู้ผา่นสื่อเน็ตเวิร์ค 
ในปัจจุบันเทคโนโลยีมีบทบาทสาคัญต่อการดา รงชีวิตของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะระบบอินเตอร์เน็ต 
ซึ่งส่งผลดีตอ่การเรียนรู้ของเยาวชนไทยใน ปัจจุบันระบบปฏิบัติการไมไ่ด้นามาใช้งานกบัคอมพิวเตอร์เทา่นั้น 
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์สมัยใหมต่า่ง ๆ เชน่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องเลน่เกมส์ หรือแมก้ระทั่งเครื่องซักผ้า 
ก็มีระบบปฏิบัติการในการควบคุมการทา งานเชน่กนั แตจ่ะเป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาสาหรับอุปกรณ์นั้น ๆ 
โดยเฉพาะ
1. ข้อมูลทเี่กี่ยวกับการ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ 
สื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) หมายถึง 
สื่อหรือชอ่งทางในการติดตอ่ในลักษณะของการสื่อสารแบบสองทางผา่นระบบเครือ ขา่ยอินเทอร์เน็ต เป็นสื่อรูปแบบใหม่ 
(new media) ที่บุคคลทั่วไปสามารถนาเสนอและเผยแพร่ข้อมูลขา่วสารได้ด้วยตนเองออกสู่ 
สาธารณะโดยใช้อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารประเภทตา่งๆ 
ในปัจจุบันมีแหลง่ให้บริการเครือขา่ยทางสังคมเกิด ขึ้นบนระบบเครือขา่ยอิน เทอร์เน็ตเป็นจา นวนมาก ตัวอยา่งเชน่ 
Facebook, Twitter และกระดานขา่ว(webboard) เป็นต้นเนื่อง จากสื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) 
เป็นเครื่องมือที่มีทั้ง ประโยชน์และโทษที่ควรระวงั 
โดยเฉพาะข้อมูลขา่วสารบางอยา่งที่เผยแพร่ออกสู่สาธารณะไปแล้ว อาจไมส่ามารถ เรียกกลับคืนได้ 
และอาจกอ่ให้เกิดความเสียหายทั้งตอ่ตนเอง ตอ่ผู้อื่น และตอ่องค์กร 
2. โปรแกรมทใี่ช้ในการดาเนินงาน 
2.1. โปรแกรม Microsoft Word 
ไมโครซอฟท์เวิร์ด (Microsoft Word) คือโปรแกรมประเภท word processor ที่ใช้เหมาะสาหรับการพิมพ์รายงาน 
พิมพ์จดหมาย หรือจะใช้ สาหรับแตง่นิยายก็ยังได้ เป็นหนึ่งในโปรแกรม ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ ซึ่งมีพัฒนาการอยา่งตอ่เนื่อง 
หลากหลายเวอร์ชัน แตอ่ยา่งไรก็ตาม โดยหลักการ ถ้าเราศึกษาไมโครซอฟท์เวิร์ดเวอร์ชันใดเวอร์ชันหนึ่ง 
เราก็จะสามารถเรียนรู้เวอร์ชันอื่นๆ ได้คอ่นข้างง่ายเพราะส่วนใหญเ่วอร์ชันใหมๆ่ 
ก็จะการเปลี่ยนแปลงในลักษณะเพิ่มเติมเสียมากกวา่การลบออกไป 
2.2. โปรแกรม Google chrome 
กูเกิล โครม (อังกฤษ: Google Chrome) เป็นซอฟต์แวร์เว็บเบราว์เซอร์แบบโอเพนซอร์ซ พัฒนาโดยกูเกิล 
ใช้เว็บคิตเป็นเรนเดอริงเอนจินสาหรับวาดหน้าจอ และนาบางส่วนจากเว็บเบราว์เซอร์ไฟร์ฟอกซ์มาพัฒนาต่อ
โครมมีให้ดาวน์โหลดเพื่อทดสอบใช้งานสาหรับวินโดวส์ และมีภาษาที่ให้ใช้ได้มากกวา่50 ภาษารวมถึงภาษาไทย รุ่นสาหรับ 
แมคโอเอส และ ลินุกซ์ นั้นกา ลังอยูร่ะหวา่งการพัฒนา ซึ่งจะเปิดให้ทดสอบในอนาคต โครม 
เป็นตัวพัฒนาจากโค้ดของซอฟต์แวร์ โครเมียม ซึ่งใช้สัญลักษณ์เดียวกนั แตค่นละสี 
2.3. โปรแกรม blogger 
โปรแกรม blogger หมายถึง เว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ที่เจ้าของ หรือ Blogger 
สามารถบันทึกเรื่องราวของตนเองลงในเว็บได้ตลอดเวลา นอกจากนี้แล้ว Blog ยังเป็นพื้นที่ให้ Blogger โพสต์ข้อมูล 
หรือใส่ความรู้ประสบการณ์ เพื่อเป็นวิทยาทานให้คนอื่นๆ เชน่ คุณหมอ เปิด บล็อกแนะนาเรื่องสุขภาพ 
เป็นต้น การสร้างเว็บบล็อกสามารถทา ได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ไมซั่บซ้อน ไมจ่า เป็นต้องรู้ภาษา HTML 
อยา่งน้อยขอให้มีความรู้พื้นฐานเกยี่วกบัอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ ภายในเว็บบล็อก 
จะมีระบบบริหารจัดการเว็บไซต์พื้นฐานให้แล้ว โดยการสร้างเครื่องมือสาหรับ เขียนเรื่อง โพสรูป จัดหมวดหมู่ 
และลูกเลน่อื่นๆ ที่ผู้จัดทา พยายามสร้างเพื่อดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก ให้เข้าไปใช้บริการ 
เสน่ห์ของบล็อกอยูที่่ผู้อา่นและผู้เขียนสามารถโต้ตอบกนัได้ (Interactive) 
โดยการแสดงความคิดเห็นตอ่ท้ายที่เรื่องนั้นๆ ข้อแตกตา่งของบล็อกกบัเว็บไซต์ทั่วไป คือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอา่นข้อมูล 
สามารถแสดงความคิดเห็นตอ่ท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน 
ซึ่งทา ให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันทีในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ 
ไมว่า่จะเป็นการประกาศขา่วสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ฯลฯ และกา ลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ 
โดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรี และเสียคา่ใช้จา่ย ตัวอยา่งผู้ให้บริการ Blog เชน่ Blogger 
บทที่ 3 
อุปกรณ์และวิธีการดาเนินการ 
การจัดทา โครงงานคอมพิวเตอร์ การศึกษาระบบปฏิบัติการ มีวิธีการดา เนินโครงงานตามขั้นตอนต่อไปนี้ 
1.วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมทใี่ช้ในการศึกษาระบบปฏิบัติการ 
1.1เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมตอ่ระบบเครือขา่ยอินเตอร์เน็ต 
1.2โปรแกรมที่ใช้ในการดา เนินงาน 
1.3โปรแกรม Microsoft Word
2.ขั้นตอนการดาเนินงาน 
2.1คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนาเสนออาจารย์ 
2.2ศึกษาและค้นควา้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจ คือเรื่องระบบปฏิบัติการ 
และศึกษาค้นควา้เพิ่มเติมเพียงใดจากเว็บไซต์ตา่ง ๆ และจัดเก็บข้อมูลเพื่อจักทา เนื้อหาดังตอ่ไป 
2.3ศึกษาการใช้ระบบปฏิบัติการ 
2.4จักทา โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อนาเสนออาจารย์ 
2.5จักทา โครงงานคอมพิวเตอร์การศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ โดยสร้างบทเรียนที่สนใจตามแบบเสนอโครงร่างที่เสนอ 
2.6นาเสนอรายงานความกา้วหน้าให้อาจารย์ได้ตรวจสอบ ซึ่งอาจารย์จะให้ข้อเสนอตา่ง ๆ 
เพื่อให้จัดทา เนื้อหาและการนาเสนอที่น่าสนใจ ทั้งนี้เมื่อได้รับแนะนาก็จะนามาปรับปรุงแกไ้ขให้เป็นที่น่าสนใจ 
2.7จัดทา เอกสารรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ 
2.8ประเมินผลงานโดยให้อาจารย์ประเมินผลงานและให้เพื่อนผู้ที่สนใจร่วมประเมิน 
บทที่ 4 
ผลการดาเนินโครงงาน 
ในการศึกษางานครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงสารวจเพื่อศึกษา”ความพึงพอใจในการเพื่อเผยแพร่ บทความรู้ออนล์ไลน์ 
เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (Operating System)” ซึ่งประกอบไปด้วย 
1.วิชา ระบบปฏิบัติการเบื้องต้น (2204-2002) 
2.วิชา โปรแกรมประมวลผลคา (2204-2108) 
3.วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ(2001-2001) 
รวม 3 รายวิชาดังกลา่ว โดยการบูรณาการร่วมกนั เป็นการเก็บข้อมูลจากกลุ้มนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ห้อง พณ. 1/12 ผู้จัดทา ขอนาเสนองาน รวม Blogspot ทุกชั้นเรียน ระดับ ปวช. แผนกคอมพิวเตอร์ ผู้จัดทา ได้จัดทา ของครู 
ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ http://kvcthidarat.blogspot.com/ ซึ่งรวมทุก Blogspot ในระดับชั้น ปวช.1 แผนก 
สาขาคอมพิวเตอร์ผู้จัดทา ได้จัดทา Blogspot เพื่อเผยแพร่ ความรู้ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (Operating System) 
http://kvcthidarat.blogspot.com/ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยจา แนกรายละเอียด ตามวิธีการศึกษาข้อมูลดังนี้ 
Blogspot ของครูธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ รวมทุก Blogspot ของ นักเรียน ระดับ ปวช. แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
Blogspot http://kvcthidarat.blogspot.com/ ซึ่งเป็นของ คณะผู้จัดทา ได้ทา บทความรู้ออนล์ไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ 
(Operating System) 
และใน Blogspot ได้นาเอาบทความรู้ออนล์ไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ(Operating System) ลงในบทความ 
โดยการแปลง File จาก โปรแกรม Microting Word เป็น Pdf file เพื่อ Upload ลงใน Website : slideshare.net 
ผลการประเมินประสิทธิภาพ 
ผลการประเมินประสิทธิภาพของ การเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (OS: Operating System) 
แสดงค่าคะแนนเฉลี่ย ( x ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าระดับประสิทธิภาพของกลุ่มตัวอย่างของผู้ใช้งานจานวน 34 
มีดังตอ่ไปนี้ 
ตารางที่1 แบบประเมินเพื่อหาการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่องระบบปฏิบัติการ (OS: Operating System) 
รายการประเมิน x S.D. ความหมาย 
1.ความชัดเจนของข้อความที่แสดงบนจอภาพ 4.21 0.419 ดี 
2.ความเหมาะสมของการใช้สีตัวอักษรพื้นหลังและรูปภาพ 4.05 0.524 ดี 
3.ความเหมาะสมของตาแหน่งการจัดวางส่วนตา่งๆบนจอภาพ 3.95 0.405 ดี
4.คา สั่งบนหน้าจอใช้สื่อสารกบัผู้ใช้ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ 3.68 0.820 ดี 
5.การใช้งานง่าย 4.21 0.419 ดี 
6.ความเหมาะสมของปริมาณข้อมูลที่นาเสนอในแต่ละจอภาพ 3.47 0.513 พอใช้ 
รวมเฉลี่ย 3.92 0.353 ดี 
จากตาราง แบบประเมินเพื่อหาการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่องระบบปฏิบัติการ (OS: Operating System) 
มีคา่เฉลี่ยรวมอยูใ่นระดับดี ( x = 3.92) 
บทที่ 5 
สรุปผลการดาเนินงานและข้อเสนอแนะ 
การจักทา โครงงานคอมพิวเตอร์ การศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ นี้สรุปผลการดา เนินงานโครงงานและข้อเสนอแนะ 
ได้ดังนี้ 
1.สรุปผลการศึกษาระบบปฏิบัติการ 
ผู้จักทา ได้ศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 
1.1แบบบทสอบกอ่นเรียน
1.2เนื้อหาบทเรียน 
1.3แบบทดสอบหลังเรียน 
1.4ใบความรู้ 
บรรณานุกรม 
ความสาคัญของคอมพิวเตอร์ https://sites.google.com/site/operatingsystemeng1/khwam-hmay-khxng-rabb-ptibati-kar 
หนังสือวิชาระบบปฏิบัติการเบื้องต้น 
หนังสือวิชาประมวลผลคา 
หนังสือวิชาคอมสารสนเทศเพื่องานอาชีพ
ภาคผนวก
รูปที่ 1 
รูปที่ 2

More Related Content

What's hot

ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานSiriporn Kusolpiamsuk
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงานpam123145
 
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียน
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียนโครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียน
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียนyudohappyday
 
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์Pimrada Seehanam
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานChamp Wachwittayakhang
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Sarocha Makranit
 
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5Aungkana Na Na
 
ส่วนที่ 3 โครงการ (ตัวอย่างจากปี 53)
ส่วนที่ 3 โครงการ (ตัวอย่างจากปี 53)ส่วนที่ 3 โครงการ (ตัวอย่างจากปี 53)
ส่วนที่ 3 โครงการ (ตัวอย่างจากปี 53)Alongkorn WP
 
การใช้งานแป้นพิมพ์ Keyboard
การใช้งานแป้นพิมพ์ Keyboardการใช้งานแป้นพิมพ์ Keyboard
การใช้งานแป้นพิมพ์ KeyboardDuangnapa Inyayot
 
ทฤษฎีการออกแบบเว็บไซต์
ทฤษฎีการออกแบบเว็บไซต์ทฤษฎีการออกแบบเว็บไซต์
ทฤษฎีการออกแบบเว็บไซต์Bank Sangsudta
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ jamiezaa123
 
05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ
05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ
05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะTanyarad Chansawang
 
เรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการเรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการพัน พัน
 
ปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกในปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกในamixdouble
 
หลักการเขียนวิสัยทัศน์ที่ดี
หลักการเขียนวิสัยทัศน์ที่ดีหลักการเขียนวิสัยทัศน์ที่ดี
หลักการเขียนวิสัยทัศน์ที่ดีDr.Choen Krainara
 

What's hot (20)

ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงาน
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียน
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียนโครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียน
โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง แอปพลิเคชั่นตัดคะแนนนักเรียน
 
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงานบทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน
บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน
 
รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์รายงานคอมพิวเตอร์
รายงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
 
9บทที่5
9บทที่5 9บทที่5
9บทที่5
 
แผนการสอนคอมพิวเตอร์ ม.1-3
แผนการสอนคอมพิวเตอร์ ม.1-3แผนการสอนคอมพิวเตอร์ ม.1-3
แผนการสอนคอมพิวเตอร์ ม.1-3
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ 5
 
ส่วนที่ 3 โครงการ (ตัวอย่างจากปี 53)
ส่วนที่ 3 โครงการ (ตัวอย่างจากปี 53)ส่วนที่ 3 โครงการ (ตัวอย่างจากปี 53)
ส่วนที่ 3 โครงการ (ตัวอย่างจากปี 53)
 
การใช้งานแป้นพิมพ์ Keyboard
การใช้งานแป้นพิมพ์ Keyboardการใช้งานแป้นพิมพ์ Keyboard
การใช้งานแป้นพิมพ์ Keyboard
 
ทฤษฎีการออกแบบเว็บไซต์
ทฤษฎีการออกแบบเว็บไซต์ทฤษฎีการออกแบบเว็บไซต์
ทฤษฎีการออกแบบเว็บไซต์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ
 
05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ
05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ
05 บทที่ 5-สรุปผล ข้อเสนอแนะ
 
เรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการเรื่องระบบปฏิบัติการ
เรื่องระบบปฏิบัติการ
 
ปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกในปกนอก ปกใน
ปกนอก ปกใน
 
หลักการเขียนวิสัยทัศน์ที่ดี
หลักการเขียนวิสัยทัศน์ที่ดีหลักการเขียนวิสัยทัศน์ที่ดี
หลักการเขียนวิสัยทัศน์ที่ดี
 

Viewers also liked

แบบเสนอโครงร่างโครงงาน(คู่)
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน(คู่)แบบเสนอโครงร่างโครงงาน(คู่)
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน(คู่)Nuttanicha Ardharn
 
โครงร่างโครงงาน-จิตวิทยา
โครงร่างโครงงาน-จิตวิทยาโครงร่างโครงงาน-จิตวิทยา
โครงร่างโครงงาน-จิตวิทยาPeerapong Densatan
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง "อาชีพในอาเซียน"
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง "อาชีพในอาเซียน"โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง "อาชีพในอาเซียน"
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง "อาชีพในอาเซียน"S'kae Nfc
 
โครงงานอาชีพ
โครงงานอาชีพโครงงานอาชีพ
โครงงานอาชีพratchadaphun
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Nichakan Panput
 

Viewers also liked (7)

แบบเสนอโครงร่างโครงงาน(คู่)
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน(คู่)แบบเสนอโครงร่างโครงงาน(คู่)
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน(คู่)
 
ตัวอย่าง 5 บท โครงงานคอมฯ
ตัวอย่าง 5 บท โครงงานคอมฯตัวอย่าง 5 บท โครงงานคอมฯ
ตัวอย่าง 5 บท โครงงานคอมฯ
 
โครงร่างโครงงาน-จิตวิทยา
โครงร่างโครงงาน-จิตวิทยาโครงร่างโครงงาน-จิตวิทยา
โครงร่างโครงงาน-จิตวิทยา
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง "อาชีพในอาเซียน"
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง "อาชีพในอาเซียน"โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง "อาชีพในอาเซียน"
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง "อาชีพในอาเซียน"
 
โครงงานขนมอบ
โครงงานขนมอบโครงงานขนมอบ
โครงงานขนมอบ
 
โครงงานอาชีพ
โครงงานอาชีพโครงงานอาชีพ
โครงงานอาชีพ
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 

Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง2558

โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas55
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการkarakas14
 
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างpranpreya258
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมkaakvc
 
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างpranpreya258
 
โครงงานเผยแพร่
โครงงานเผยแพร่โครงงานเผยแพร่
โครงงานเผยแพร่Teerapath Best
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการBuslike Year
 
โครงงาน
โครงงาน โครงงาน
โครงงาน kanoksuk
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์NeNo Srimueagbun
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์NeNo Srimueagbun
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์NeNo Srimueagbun
 

Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง2558 (20)

โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง
 
โครงงานเผยแพร่
โครงงานเผยแพร่โครงงานเผยแพร่
โครงงานเผยแพร่
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงาน
โครงานโครงาน
โครงาน
 
โครงงาน
โครงงาน โครงงาน
โครงงาน
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
 

โครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่าง2558

  • 1. โครงงานคอมพิวเตอร์ การเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่องระบบปฏิบัติการ ผู้จัดทา นางสาว ภาวินี คา ภักดี เลขที่ 16 นางสาว สุดารัตน์ ชิณวัง เลขที่ 21 นางสาว ปราณปรียา นามแดง เลขที่ 11 สอนโดย อาจารย์ ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ระบบปฏิบัติการ รหัสวิชา 2204-2002 ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น ปีการศึกษา 2557
  • 2. เรื่อง ระบบปฏิบัติการ ประเภทโครงงาน โครงงานสื่อการศึกษา ระดับชั้น ประกาศนียบัตรวิชาชีพ โดย นางสาว ภาวินี คา ภักดี เลขที่ 16 นางสาว สุดารัตน์ ชิณวงั เลขที่ 21 นางสาว ปราณปรียา นามแดง เลขที่ 11 สถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแกน่ สังกัด สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ครูทปี่รึกษา นาง ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ ปีการศึกษา 2557 บทคัดย่อ โครงงานคอมพิวเตอร์ ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของราย วิชาระบบปฏิบัติการ รหัสวิชา 2204-2002 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ โดยมีจุดประสงค์ เพื่อศึกษาการใช้ระบบปฏิบัติการ เพื่อใช้เป็นสื่อในการศึกษา ให้กบัผู้ที่สนใจ เรื่องระบบปฏิบัติการ ผลการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ ใน www.blogger.com ประกอบด้วย วิชาระบบปฏิบัติการ วิชาประมวลผลคา วิชาคอมพิวเตอร์สารสนเทศ และผลการประเมินของการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ มีคา่เฉลี่ยรวมอยูใ่นระดับดี (คา่เฉลี่ย = 3.92)
  • 3. กิตติกรรมประกาศ โครงงานนี้สาเร็จลุลว่งได้ด้วยความกรุณาจากอาจารย์ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานที่ได้ให้คา เสนอแนะ แนวคิด ตลอดจนแกไ้ขข้อบกพร่องตา่งๆ มาโดยตลอด จนโครงงานเลม่นี้เสร็จสมบูรณ์ ผู้ศึกษาจึงขอขอบพระคุณเป็นอยา่งสูง ขอขอบคุณอาจารย์ธิดารัตน์ คุณครูที่ปรึกษาในการแกไ้ขและปรับปรุงโครงงานให้สาเร็จลุลว่ง ไปด้วยดี ขอขอบคุณผู้ปกครองที่ให้คา ปรึกษา และสนับสนุน ในเรื่องตา่งๆ รวมทั้งเป็นกา ลังใจที่ดีเสมอ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ห้องสมุด ที่ให้คา ปรึกษาและสนับสนุนในการหาข้อมูลเพื่อประกอบการทา โครงงานนี้ สุดท้ายขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ชว่ยให้คา แนะนาดี ๆ เกยี่วกบัการทา นางสาว ภาวินี คา ภักดี นางสาว สุดารัตน์ ชิณวงั นางสาว ปราณปรียา นามแดง
  • 4. สารบัญ เรื่อง หน้า กิตติกรรมประกาศ ก บทคัดยอ่ ข สารบัญ ค บทที่ 1 บทนา 1 ที่มาและความสาคัญ 1 วตัถุประสงค์ 1 ขอบเขตการศึกษา 1 ผลที่คาดวา่จะได้รับ 1 บทที่ 2 เอกสารที่เกยี่วข้อง 2 ความสาคัญของระบบปฏิบัติการ 2 ข้อมูลเกยี่วกบัระบบปฏิบัติการ 2 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ 5 บทที่ 3 อุปกรณ์และการดา เนินการ 7 วสัดุอุปกรณ์ เครื่องมือการใช้ระบบปฏิบัติการ 7 บทที่ 4 ผลการดา เนินโครงงาน 12 ผลการใช้ระบบปฏิบัติการ 13 บทที่ 5สรุปผลการดา เนินงานและข้อเสนอแนะ 17
  • 5. บทที่ 1 บทนา ที่มาและความสาคัญ ถ้ามีรถยนต์อยูแ่ตขั่บรถยนต์ไมเ่ป็น รถยนต์คันดังกลา่วก็จะไมมี่ประโยชน์อะไรเลย คอมพิวเตอร์ก็เชน่เดียวกนั ถึงแมว้า่จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพมากเพียงใดก็ตาม ถ้าหากเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกลา่วไมมี่ระบบปฏิบัติการคอยควบคุมการทา งาน ซึ่งเปรียบได้กบัรถยนต์ที่ไมมี่คนขับ เครื่องคอมพิวเตอร์ดังกลา่วก็จะไมมี่ประโยชน์เลย ดังนั้นระบบปฏิบัติการจึงมีความสาคัญเปรียบเสมือนกับคนขับรถยนต์ที่จะต้องคอยควบคุมรถให้เดินทางไปถึงที่หมายอยา่งถู กต้อง และปลอดภัย ระบบปฏิบัติการก็จะต้องควบคุมการทา งานของคอมพิวเตอร์ให้ทา งานตามที่ต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง ในปัจจุบันระบบปฏิบัติการไมไ่ด้นามาใช้งานกบัคอมพิวเตอร์เทา่นั้น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์สมยัใหมต่า่ง ๆ เชน่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องเลน่เกม หรือแมก้ระทั่งเครื่องซักผ้า ก็มีระบบปฏิบัติการในการควบคุมการทางานเชน่กนั แตจ่ะเป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาสาหรับอุปกรณ์นั้น ๆ โดยเฉพาะความเป็นมาของระบบปฏิบัติการ OS วัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาการใช้ระบบปฏิบัติการ 2.เพื่อใช้เป็นสื่อในการศึกษา ให้กบัผู้ที่สนใจ เรื่องระบบปฏิบัติการ ขอบเขตการศึกษา 1.ขอบเขตด้านเนื้อหา เรื่องระบบปฏิบัติการ ซึ่งประกอบด้วย หน่วยประมวลผลคา และคอมพิวเตอร์สารสนเทศ 2.โปรแกรมที่ใช้ในการดา เนินงาน 2.1โปรแกรม Microsoft Word ผลทคี่าดว่าจะได้รับ 1.ได้เรียนรู้เกยี่วกบัระบบปฏิบัติการ 2.ได้นาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 3.สามารถนาความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ ไปใช้ในการศึกษา
  • 6. บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง การจักทา โครงงานคอมพิวเตอร์ การศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ นี้ผู้จัดทา ได้ศึกษาเอกสารที่เกยี่วข้องดังต่อไปนี้ 1.ความหมายระบบปฏิบัติการ 2.ข้อมูลเกยี่วกบัระบบปฏิบัติการ 3.องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ 4.การเผยแพร่ทางออนไลน์ ความหมายของระบบปฏิบัติการ โปรแกรมระบบปฏิบัติการ หรือ Operating System เรียกสั้น ๆ วา่ OS เป็นโปรแกรม ควบคุมการทา งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ทา หน้าที่ควบคุมการทา งานตา่ง ๆ เชน่ การแสดงผล ข้อมูลการติดตอ่กับผู้ใช้ โดยทา หน้าที่เป็นสื่อกลาง ระหวา่งผู้ใช้กบัเครื่องให้สามารถสื่อสารกนัได้ควบคุมและจัดสรรทรัพยากรให้กับโปรแกรมตา่ง ๆโดยทั่วไประบบคอมพิวเตอร์แบง่เป็น 4 ส่วน คือ ฮาร์ดแวร์ ระบบปฏิบัติการ โปรแกรมประประยุกต์ และผู้ใช้ ดังนั้นการศึกษาเกี่ยวกบัเรื่องระบบปฏิบัติการ จึงเป็นเรื่องจา เป็นอยา่งยิ่งเพราะจะทา ให้เราสามารถที่จะคัดเลือกระบบปฏิบัติการ เพื่ออประยุกต์ใช้กบังานได้อยา่งมีประสิทธิภาพ ระบบปฏิบัติการ(Operating System)ระบบต่างๆ การทา งานของคอมพิวเตอร์จะไมส่ามารถทา งานด้วยตัวเองได้ แตจ่ะต้องอาศัยโปรแกรมสั่งให้คอมพิวเตอร์ทา งานซึ่งเรียกวา่“ซอฟต์แวร์” (Software) โดยทั่วไปซอฟต์แวร์จะแบง่เป็น 2 ประเภท คือ โปรแกรมสาเร็จรูป และโปรแกรมระบบปฏิบัติการซึ่งระบบปฏิบัติการนี้จะมีหน้าที่ ในการจัดการและควบคุมการทา งานและอุปกรณ์ตา่งๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เชน่ การจัดการเกยี่วกบัการแสดงผลบนจอภาพ รับข้อมูลทางแป้นพิมพ์หรือเมาส์ การจัดการเกยี่วกบัแฟ้มข้อมูล
  • 7. การจัดเก็บข้อมูลลงแฟ้มการติดตั้งโปรแกรม นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการยังชว่ยสร้างส่วนติดตอ่ ระหวา่งผู้ใช้กบัคอมพิวเตอร์ (User interface) ให้ง่ายตอ่การใช้งาน ระบบปฏิบัติการมีอยูห่ลาย ระบบ ซึ่งมีการพัฒนาจากผู้ผลิตหลายบริษัท แตที่่สาคัญ ๆ มีดังนี้ 1.ระบบปฏิบัติการDOS(Disk Operating System) ระบบ DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท IBM เพื่อให้เป็ระบบปฏิบัติการสาหรับเครื่องพีซี ซึ่งตัวโปรแกรมDOS จะถูก Load หรืออา่นจากแผน่ดิสก์เข้าไปเก็บไวใ้นหน่วยความจา กอ่น จากนั้น DOS จะไปทา หน้าที่เป็น ผู้ประสานงานตา่ง ๆระหวา่งผู้ใช้กบัอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหลายโดยอัตโนมัติ โดยที่ DOS จะรับคา สั่งจากผู้ใช้หรือโปรแกรมแล้วนาไปปฏิบัติตามโดยการทา งานจะเป็นแบบ Text mode สั่งงานโดยการกดคา สั่งเข้าไปที่ซีพร็อม (C:>)ดังนั้น ผู้ใช้ระบบนี้จึงต้องจา คา สั่งตา่ง ๆในการใช้งานจึงจะสามารถใช้งานได้ ระบบปฏิบัติการ DOS ถือได้วา่เป็นระบบปฏิบัติการที่เกา่แก่และปัจจุบันนี้มีการใช้งานน้อยมาก 2.ระบบปฏิบัติการ(Microsoft Windows) Windowsเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท Microsoft ซึ่งจะมีส่วนติดตอ่กบั ผู้ใช้ (User interface) เป็นแบบกราฟิก หรือเป็นระบบที่ใช้รูปภาพแทนคา สั่ง เรียกวา่ GUI (Graphic User Interface) โดยสามารถสั่งให้เครื่องทา งานได้โดยใช้เมาส์คลิกที่สัญลักษณ์หรือคลิกที่คา สั่งที่ต้องการ ระบบนี้อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมได้มากกวา่ 1 โปรแกรมในขณะเดียวกนัซึ่งถ้าเป็นระบบ DOS หากต้องการเปลี่ยนไปทา งานโปรแกรมอื่น ๆ จะต้องออกจาก โปรแกรมเดิมกอ่นจึงจะสามารถไปใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ได้ ในลักษณะการทา งานของ Windows จะมีส่วนที่เรียกวา่ “หน้าตา่ง” โดยแตล่ะโปรแกรมจะถือเป็นหน้าตา่งหนึ่งหน้าตา่ง ผู้ใช้สามารถ สลับไปมาระหวา่งแตล่ะหน้าตา่งได้ นอกจากนี้ระบบ Windows ยังให้โปรแกรมตา่ง ๆ สามารถแชร์ข้อมูลระหวา่งกนัได้ผา่นทางคลิปบอ์ด (Clipboard) ระบบ Windows ทา ให้ผู้ใช้ ทั่ว ๆไปสามารถทา ความเข้าใจ เรียนรู้และใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น 3.ระบบปฏิบัติการ(Unix) Unixเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้บนเครื่อง SUN ของบริษัท SUN Microsystems แตไ่มไ่ด้เป็นคูแ่ขง่กบับริษัท Microsoft ในเรื่องของระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PCแตอ่ยา่งใด แตU่nix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้เทคโนโลยีแบบเปิด (Open system) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผู้ใช้ไมต่้อง ผูกติดกบัระบบใดระบบหนึ่งหรืออุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกนั นอกจากนี้ Unix ยังถูกออกแบบมาเพื่อ ตอบสนองการใช้งานในลักษณะให้มีผู้ใช้ได้หลายคนในเวลาเดียวกนั เรียกวา่ ระบบหลายผู้ใช้ (Multiuser system) และสามารถทา งานได้หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกนั ในลักษณะที่เรียกวา่ ระบบหลายภารกิจ (Multitasking system) 4.ระบบปฏิบัติการ(Linux) Linuxเป็นระบบปฏิบัติการเชน่เดียวกบั DOS, Windows หรือ Unix โดยLinuxนั้นจัด วา่เป็นระบบปฏิบัติการ Unix
  • 8. ประเภทหนึ่งการที่Linuxเป็นที่กลา่วขานกนัมากในชว่งปี 1999 – 2000 เนื่องจากความสามารถของตัวระบบปฏิบัติ การและโปรแกรมประยุกต์ที่ทา งานบนระบบ Linux โดยเฉพาะอยา่งยิ่งโปรแกรมในตระกูลของ GNU (GNU’s Not UNIX) และสิ่งที่สาคัญที่สุดก็ คือระบบ Linux เป็นระบบปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ (Free ware) คือไมเ่สียคา่ใช้จา่ยในการซื้อ โปรแกรม Linux นั้นมี นักพัฒนาโปรแกรมจากทั่วโลกช่วยกนัแกไ้ข ทา ให้การขยายตัวของ Linux เป็นไปอยา่งรวดเร็ว โดยในส่วนของใจกลางระบบปฏิบัติการหรือ Kernel นั้นจะมีการพัฒนาเป็น รุ่นที่ 2.2 (Linux Kernel 2.2) ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถและสนับสนุนการทา งานแบบหลายซีพียู หรือ SMP (Symmetrical Multi Processors) ซึ่งทา ให้ระบบLinux สามารถนาไปใช้สาหรับทา งาน เป็น Saver ขนาดใหญไ่ด้ระบบ Linux ตั้งแตรุ่่น 4 นั้น สามารถทา งานได้บนซีพียูทั้ง 3 ตระกูล คือ บนซีพียูของ อินเทล (PC Intel) ดิจิทัลอัลฟาคอมพิวเตอร์ (Digital Alpha Computer และซันสปาร์ค (SUN SPARC) เนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่เรียกวา่ RPM (Red Hat Package Management) องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ทา งานอยา่งเป็นระบบ (System) หมายถึงภายในระบบงานคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยองค์ประกอบย่อยที่มีหน้าที่เฉพาะ ทา งานประสานสัมพันธ์กนั เพื่อให้งานบรรลุตามเป้าหมาย ในระบบงานคอมพิวเตอร์ การที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงอยา่งเดียว จะยังไมส่ามารถทา งานได้ด้วยตัวเอง ซึ่งหากจะให้คอมพิวเตอร์ทา งานได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพแล้ว ระบบคอมพิวเตอร์ควรจะประกอบไปด้วยองค์ประกอบคือ บุคลากร (Peopleware) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ (Software) ข้อมูล(Data) 1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบของตัวเครื่องที่สามารถจับต้องได้ ได้แก่วงจรไฟฟ้า ตัวเครื่อง จอภาพ เครื่องพิมพ์ คีย์บอร์ด เป็นต้นซึ่งสามารถแบง่ส่วนพื้นฐานของฮาร์ดแวร์เป็น 4 หน่วยสาคัญ 1.1 หน่วยรับข้อมูลหรืออินพุต ( Input Unit) ทา หน้าที่รับข้อมูลและโปรแกรมเข้า ได้แก่คีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์ เมาส์ เครื่องสแกน เป็นต้น 1.2 ระบบประมวลผลกลางหรือซีพียู (CPU : Central Processing Unit) ทา หน้าที่ในการทา งานตามคา สั่งที่ปรากฏอยูใ่นโปรแกรม ปัจจุบันซีพียูของเครื่องพีซี รู้จักในนามไมโครโปรเซสเซอร์ ( Micro Processor) หรือ Chip เชน่บริษัท Intel คือ Pentium 1.3 หน่วยเก็บข้อมูล ( Storage ) ซึ่งสามารถแยกตามหน้าที่ได้เป็น 2 ลักษณะ คือ 1.3.1 หน่วยเก็บข้อมูลหลักหรือความจา หลัก ( Primary Storage หรือ Main Memory ) ทา หน้าที่เก็บโปรแกรมหรือข้อมูลที่รับมาจากหน่วยรับข้อมูลเพื่อเตรียมส่งให้หน่วยประมวลผลกลางทา การประมวลผล และรับผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลเพื่อส่งออกหน่วยแสดงข้อมูลต่อไป 1.3.2 หน่วยเก็บข้อมูลสารอง ( Secondary Storage ) เป็นหน่วยที่ทา หน้าที่เก็บข้อมูล หรือโปรแกรมที่จะป้อนเข้าสู่หน่วยความจา หลักภายในเครื่องกอ่นทาการประมวลผลโดยซีพียู รวมทั้งเป็นที่เก็บผลลัพธ์จากการประมวลผลด้วย ปัจจุบันรู้จักในนามฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) หรือแผน่ฟร็อปปีดิสก์ (Floppy Disk) ซึ่งเมอื่ปิดเครื่องข้อมูลจะยังคงเก็บอยู่
  • 9. 1.4 หน่วยแสดงข้อมูลหรือเอาต์พุต ( Output Unit ) ทา หน้าที่ในการแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล ได้แก่ จอภาพ และเครื่องพิมพ์ เป็นต้น ทั้ง 4 ส่วนจะเชื่อมตอ่กนัด้วยบัส ( Bus ) 2 ซอฟต์แวร์ ( Software ) ซอฟต์แวร์ คือโปรแกรมหรือชุดคา สั่ง ที่สั่งให้ฮาร์ดแวร์ทา งาน รวมไปถึงการควบคุมการทา งาน ของอุปกรณ์แวดล้อมตา่งๆ เชน่ ฮาร์ดดิสก์ ดิสก์ไดร์ฟ ซีดีรอม การ์ดอินเตอร์เฟสตา่ง ๆ เป็นต้น ซอฟต์แวร์ เป็นสิ่งที่มองไมเ่ห็นจับต้องไมไ่ด้ แตรั่บรู้การทา งานของมนัได้ ซึ่งตา่งกบั ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ที่สามารถจับต้องได้ ซึ่งแบง่เป็น 2 ประเภทคือ 2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ ( System Software ) คือโปรแกรม ที่ใช้ในการควบคุมระบบการ ทา งานของ เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เชน่ การบูดเครื่อง การสาเนาข้อมูล การจัดการระบบของดิสก์ ชุดคา สั่งที่เขียนเป็นคา สั่งสาเร็จรูป 2.1.1 โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (Operating System) เป็นโปรแกรมที่ใช้ควบคุม และติดตอ่กบัอุปกรณ์ตา่ง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการจัดการระบบของดิสก์ การบริหารหน่วยความจา ของระบบ 2.1.2 ตัวแปลภาษา (Translator) จาก Source Code ให้เป็น Object Code (แปลจากภาษาที่มนุษย์เข้าใจ ให้เป็นภาษาที่เครื่องเข้าใจ เปรียบเสมือนลา่มแปลภาษา) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแปลภาษาระดับสูง ซึ่ง เป็นภาษาใกล้เคียงภาษามนุษย์ ให้เป็นภาษาเครื่องกอ่นที่จะนาไปประมวลผล ตัวแปลภาษาแบง่ออกเป็นสองประเภทคือ คอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเตอร์พีทเตอร์ (Interpeter) 2.1.3 ยูติลิตี้ โปรแกรม (Utility Program) คือซอฟต์แวร์เสริมชว่ยให้เครื่องทา งานมีประสิทธิภาพ มากขึ้น เชน่ ชว่ยในการตรวจสอบดิสก์ ชว่ยในการจัดเก็บข้อมูลในดิสก์ ชว่ยสาเนาข้อมูล ชว่ยซอ่มอาการชา รุดของดิสก์ ชว่ยค้นหาและกา จัดไวรัส ฯลฯ เป็นต้นโปรแกรมในกลุม่นี้ได้แก่โปรแกรม Norton Winzip Scan virus Sidekick Scandisk Screen Saver เป็นต้น 2.1.4 ติดตั้งและปรับปรุงระบบ (Diagonostic Program) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการติดตั้งระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อและใช้งานอุปกรณ์ตา่ง ๆ ที่นามาติดตั้งระบบ ได้แก่โปรแกรม Setupและ Driver ตา่ง ๆ เชน่ โปรแกรม Setup Microsoft Office โปรแกรม Driver Sound , Driver Printer , Driver Scanner เป็นต้น 2.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ทา ให้คอมพิวเตอร์ทา งานตา่งๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ไมว่า่จะด้านเอกสาร บัญชี การจัดเก็บข้อมูล เป็นต้น ซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถจา แนก ได้เป็น 2 ประเภท คือ 2.2.1 ซอฟต์แวร์สาหรับงานเฉพาะด้าน (Special Purpose Software) คือ โปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทา งานเฉพาะอยา่งที่เราต้องการ บางที่เรียกวา่ User’s Program เชน่ โปรแกรมการทา บัญชีจ่ายเงินเดือน โปรแกรมระบบเชา่ซื้อ โปรแกรมการทา สินค้าคงคลัง เป็นต้น 2.2.2 ซอฟต์แวร์สาหรับงานทั่วไป (General Purpose Software) เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่มีผู้จัดทา ไว้ เพื่อใช้ในการทา งานประเภทตา่งๆ ทั่วไป 3 บุคลากร ( Peopleware ) บุคลากรจะเป็นสิ่งสาคัญที่จะเป็นตัวกา หนดถึงประสิทธิภาพถึงความสาเร็จและความคุ้มคา่ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถแบง่บุคลากรตามหน้าที่เกี่ยวข้องตามลักษณะงานได้ 6 ด้าน ดังนี้
  • 10. 3.1 นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (Systems Analyst and Designer : SA ) ทา หน้าที่ศึกษาและรวบรวมความต้องการของผู้ใช้ระบบ และทา หน้าที่เป็นสื่อกลางระหวา่งผู้ใช้ระบบและนักเขียนโปรแกรม (Programmer) หรือปรับปรุงคุณภาพงานเดิม นักวิเคราะห์ระบบต้องมีความรู้เกยี่วกับระบบคอมพิวเตอร์ พื้นฐานการเขียนโปรแกรม และควรจะเป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี 3.2 โปรแกรมเมอร์ ( Programmer ) คือบุคคลที่ทา หน้าที่เขียนซอฟต์แวร์ตา่งๆ(Software )หรือเขียนโปรแกรมเพื่อสั่งงานให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทา งานตามความต้ องการของผู้ใช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้ 3.3 ผู้ใช้ ( User ) เป็นผู้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะเป็นผู้ปฏิบัติหรือกา หนดความต้องการในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์วา่ทา งานอะไรได้บ้าง ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป จะต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยูส่ามารถทา งานได้ตามที่ต้องการ 3.4 ผู้ปฏิบัติการ (Operator ) สาหรับระบบขนาดใหญ่ เชน่ เมนเฟรม จะต้องมีเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ที่คอยปิดและเปิดเครื่อง และเฝ้าดูจอภาพเมอื่มีปัญหาซึ่งอาจเกิดขัดข้อง จะต้องแจ้ง System Programmer ซึ่งเป็นผู้ดูแลตรวจสอบแกไ้ขโปรแกรมระบบควบคุมเครื่อง (System Software) อีกทีหนึ่ง 3.5 ผู้บริหารฐานข้อมูล ( Database Administrator : DBA ) กลุม่บุคคลที่ทา หน้าที่ดูแลข้อมูลผา่นระบบจัดการฐานข้อมูล ซึ่งจะควบคุมให้การทา งานเป็นไปอยา่งราบรื่น 3.6 ผู้จัดการระบบ (System Manager) คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน เป็นผู้ที่มีความหมายตอ่ความสาเร็จหรือล้มเหลวของการนาระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งานเป็นอยา่งมาก 4. ข้อมูล ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วใช้ตัวเลขตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ ตา่งๆ ทา ความหมายแทนสิ่งเหลา่นั้น ข้อมูล คือคา่ของตัวแปรในเชิงคุณภาพหรือเชิงปริมาณ ที่อยูใ่นความควบคุมของกลุ่มของสิ่งตา่ง ๆ ข้อมูลในเรื่องการคอมพิวเตอร์ (หรือการประมวลผลข้อมูล) จะแสดงแทนด้วยโครงสร้างอยา่งหนึ่ง ซึ่งมกัจะเป็นโครงสร้างตาราง การเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ โครงการเผยแพร่ความรู้ผา่นสื่อเน็ตเวิร์ค ในปัจจุบันเทคโนโลยีมีบทบาทสาคัญต่อการดา รงชีวิตของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งส่งผลดีตอ่การเรียนรู้ของเยาวชนไทยใน ปัจจุบันระบบปฏิบัติการไมไ่ด้นามาใช้งานกบัคอมพิวเตอร์เทา่นั้น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์สมัยใหมต่า่ง ๆ เชน่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องเลน่เกมส์ หรือแมก้ระทั่งเครื่องซักผ้า ก็มีระบบปฏิบัติการในการควบคุมการทา งานเชน่กนั แตจ่ะเป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาสาหรับอุปกรณ์นั้น ๆ โดยเฉพาะ
  • 11. 1. ข้อมูลทเี่กี่ยวกับการ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) หมายถึง สื่อหรือชอ่งทางในการติดตอ่ในลักษณะของการสื่อสารแบบสองทางผา่นระบบเครือ ขา่ยอินเทอร์เน็ต เป็นสื่อรูปแบบใหม่ (new media) ที่บุคคลทั่วไปสามารถนาเสนอและเผยแพร่ข้อมูลขา่วสารได้ด้วยตนเองออกสู่ สาธารณะโดยใช้อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารประเภทตา่งๆ ในปัจจุบันมีแหลง่ให้บริการเครือขา่ยทางสังคมเกิด ขึ้นบนระบบเครือขา่ยอิน เทอร์เน็ตเป็นจา นวนมาก ตัวอยา่งเชน่ Facebook, Twitter และกระดานขา่ว(webboard) เป็นต้นเนื่อง จากสื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) เป็นเครื่องมือที่มีทั้ง ประโยชน์และโทษที่ควรระวงั โดยเฉพาะข้อมูลขา่วสารบางอยา่งที่เผยแพร่ออกสู่สาธารณะไปแล้ว อาจไมส่ามารถ เรียกกลับคืนได้ และอาจกอ่ให้เกิดความเสียหายทั้งตอ่ตนเอง ตอ่ผู้อื่น และตอ่องค์กร 2. โปรแกรมทใี่ช้ในการดาเนินงาน 2.1. โปรแกรม Microsoft Word ไมโครซอฟท์เวิร์ด (Microsoft Word) คือโปรแกรมประเภท word processor ที่ใช้เหมาะสาหรับการพิมพ์รายงาน พิมพ์จดหมาย หรือจะใช้ สาหรับแตง่นิยายก็ยังได้ เป็นหนึ่งในโปรแกรม ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ ซึ่งมีพัฒนาการอยา่งตอ่เนื่อง หลากหลายเวอร์ชัน แตอ่ยา่งไรก็ตาม โดยหลักการ ถ้าเราศึกษาไมโครซอฟท์เวิร์ดเวอร์ชันใดเวอร์ชันหนึ่ง เราก็จะสามารถเรียนรู้เวอร์ชันอื่นๆ ได้คอ่นข้างง่ายเพราะส่วนใหญเ่วอร์ชันใหมๆ่ ก็จะการเปลี่ยนแปลงในลักษณะเพิ่มเติมเสียมากกวา่การลบออกไป 2.2. โปรแกรม Google chrome กูเกิล โครม (อังกฤษ: Google Chrome) เป็นซอฟต์แวร์เว็บเบราว์เซอร์แบบโอเพนซอร์ซ พัฒนาโดยกูเกิล ใช้เว็บคิตเป็นเรนเดอริงเอนจินสาหรับวาดหน้าจอ และนาบางส่วนจากเว็บเบราว์เซอร์ไฟร์ฟอกซ์มาพัฒนาต่อ
  • 12. โครมมีให้ดาวน์โหลดเพื่อทดสอบใช้งานสาหรับวินโดวส์ และมีภาษาที่ให้ใช้ได้มากกวา่50 ภาษารวมถึงภาษาไทย รุ่นสาหรับ แมคโอเอส และ ลินุกซ์ นั้นกา ลังอยูร่ะหวา่งการพัฒนา ซึ่งจะเปิดให้ทดสอบในอนาคต โครม เป็นตัวพัฒนาจากโค้ดของซอฟต์แวร์ โครเมียม ซึ่งใช้สัญลักษณ์เดียวกนั แตค่นละสี 2.3. โปรแกรม blogger โปรแกรม blogger หมายถึง เว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ที่เจ้าของ หรือ Blogger สามารถบันทึกเรื่องราวของตนเองลงในเว็บได้ตลอดเวลา นอกจากนี้แล้ว Blog ยังเป็นพื้นที่ให้ Blogger โพสต์ข้อมูล หรือใส่ความรู้ประสบการณ์ เพื่อเป็นวิทยาทานให้คนอื่นๆ เชน่ คุณหมอ เปิด บล็อกแนะนาเรื่องสุขภาพ เป็นต้น การสร้างเว็บบล็อกสามารถทา ได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ไมซั่บซ้อน ไมจ่า เป็นต้องรู้ภาษา HTML อยา่งน้อยขอให้มีความรู้พื้นฐานเกยี่วกบัอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ ภายในเว็บบล็อก จะมีระบบบริหารจัดการเว็บไซต์พื้นฐานให้แล้ว โดยการสร้างเครื่องมือสาหรับ เขียนเรื่อง โพสรูป จัดหมวดหมู่ และลูกเลน่อื่นๆ ที่ผู้จัดทา พยายามสร้างเพื่อดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก ให้เข้าไปใช้บริการ เสน่ห์ของบล็อกอยูที่่ผู้อา่นและผู้เขียนสามารถโต้ตอบกนัได้ (Interactive) โดยการแสดงความคิดเห็นตอ่ท้ายที่เรื่องนั้นๆ ข้อแตกตา่งของบล็อกกบัเว็บไซต์ทั่วไป คือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอา่นข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นตอ่ท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทา ให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันทีในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ไมว่า่จะเป็นการประกาศขา่วสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ฯลฯ และกา ลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรี และเสียคา่ใช้จา่ย ตัวอยา่งผู้ให้บริการ Blog เชน่ Blogger บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีการดาเนินการ การจัดทา โครงงานคอมพิวเตอร์ การศึกษาระบบปฏิบัติการ มีวิธีการดา เนินโครงงานตามขั้นตอนต่อไปนี้ 1.วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมทใี่ช้ในการศึกษาระบบปฏิบัติการ 1.1เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมตอ่ระบบเครือขา่ยอินเตอร์เน็ต 1.2โปรแกรมที่ใช้ในการดา เนินงาน 1.3โปรแกรม Microsoft Word
  • 13. 2.ขั้นตอนการดาเนินงาน 2.1คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนาเสนออาจารย์ 2.2ศึกษาและค้นควา้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจ คือเรื่องระบบปฏิบัติการ และศึกษาค้นควา้เพิ่มเติมเพียงใดจากเว็บไซต์ตา่ง ๆ และจัดเก็บข้อมูลเพื่อจักทา เนื้อหาดังตอ่ไป 2.3ศึกษาการใช้ระบบปฏิบัติการ 2.4จักทา โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อนาเสนออาจารย์ 2.5จักทา โครงงานคอมพิวเตอร์การศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ โดยสร้างบทเรียนที่สนใจตามแบบเสนอโครงร่างที่เสนอ 2.6นาเสนอรายงานความกา้วหน้าให้อาจารย์ได้ตรวจสอบ ซึ่งอาจารย์จะให้ข้อเสนอตา่ง ๆ เพื่อให้จัดทา เนื้อหาและการนาเสนอที่น่าสนใจ ทั้งนี้เมื่อได้รับแนะนาก็จะนามาปรับปรุงแกไ้ขให้เป็นที่น่าสนใจ 2.7จัดทา เอกสารรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ 2.8ประเมินผลงานโดยให้อาจารย์ประเมินผลงานและให้เพื่อนผู้ที่สนใจร่วมประเมิน บทที่ 4 ผลการดาเนินโครงงาน ในการศึกษางานครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงสารวจเพื่อศึกษา”ความพึงพอใจในการเพื่อเผยแพร่ บทความรู้ออนล์ไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (Operating System)” ซึ่งประกอบไปด้วย 1.วิชา ระบบปฏิบัติการเบื้องต้น (2204-2002) 2.วิชา โปรแกรมประมวลผลคา (2204-2108) 3.วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ(2001-2001) รวม 3 รายวิชาดังกลา่ว โดยการบูรณาการร่วมกนั เป็นการเก็บข้อมูลจากกลุ้มนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
  • 14. ห้อง พณ. 1/12 ผู้จัดทา ขอนาเสนองาน รวม Blogspot ทุกชั้นเรียน ระดับ ปวช. แผนกคอมพิวเตอร์ ผู้จัดทา ได้จัดทา ของครู ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ http://kvcthidarat.blogspot.com/ ซึ่งรวมทุก Blogspot ในระดับชั้น ปวช.1 แผนก สาขาคอมพิวเตอร์ผู้จัดทา ได้จัดทา Blogspot เพื่อเผยแพร่ ความรู้ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (Operating System) http://kvcthidarat.blogspot.com/ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยจา แนกรายละเอียด ตามวิธีการศึกษาข้อมูลดังนี้ Blogspot ของครูธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ รวมทุก Blogspot ของ นักเรียน ระดับ ปวช. แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
  • 15. Blogspot http://kvcthidarat.blogspot.com/ ซึ่งเป็นของ คณะผู้จัดทา ได้ทา บทความรู้ออนล์ไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (Operating System) และใน Blogspot ได้นาเอาบทความรู้ออนล์ไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ(Operating System) ลงในบทความ โดยการแปลง File จาก โปรแกรม Microting Word เป็น Pdf file เพื่อ Upload ลงใน Website : slideshare.net ผลการประเมินประสิทธิภาพ ผลการประเมินประสิทธิภาพของ การเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่อง ระบบปฏิบัติการ (OS: Operating System) แสดงค่าคะแนนเฉลี่ย ( x ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าระดับประสิทธิภาพของกลุ่มตัวอย่างของผู้ใช้งานจานวน 34 มีดังตอ่ไปนี้ ตารางที่1 แบบประเมินเพื่อหาการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่องระบบปฏิบัติการ (OS: Operating System) รายการประเมิน x S.D. ความหมาย 1.ความชัดเจนของข้อความที่แสดงบนจอภาพ 4.21 0.419 ดี 2.ความเหมาะสมของการใช้สีตัวอักษรพื้นหลังและรูปภาพ 4.05 0.524 ดี 3.ความเหมาะสมของตาแหน่งการจัดวางส่วนตา่งๆบนจอภาพ 3.95 0.405 ดี
  • 16. 4.คา สั่งบนหน้าจอใช้สื่อสารกบัผู้ใช้ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ 3.68 0.820 ดี 5.การใช้งานง่าย 4.21 0.419 ดี 6.ความเหมาะสมของปริมาณข้อมูลที่นาเสนอในแต่ละจอภาพ 3.47 0.513 พอใช้ รวมเฉลี่ย 3.92 0.353 ดี จากตาราง แบบประเมินเพื่อหาการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรื่องระบบปฏิบัติการ (OS: Operating System) มีคา่เฉลี่ยรวมอยูใ่นระดับดี ( x = 3.92) บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินงานและข้อเสนอแนะ การจักทา โครงงานคอมพิวเตอร์ การศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ นี้สรุปผลการดา เนินงานโครงงานและข้อเสนอแนะ ได้ดังนี้ 1.สรุปผลการศึกษาระบบปฏิบัติการ ผู้จักทา ได้ศึกษาเรื่องระบบปฏิบัติการ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1.1แบบบทสอบกอ่นเรียน
  • 17. 1.2เนื้อหาบทเรียน 1.3แบบทดสอบหลังเรียน 1.4ใบความรู้ บรรณานุกรม ความสาคัญของคอมพิวเตอร์ https://sites.google.com/site/operatingsystemeng1/khwam-hmay-khxng-rabb-ptibati-kar หนังสือวิชาระบบปฏิบัติการเบื้องต้น หนังสือวิชาประมวลผลคา หนังสือวิชาคอมสารสนเทศเพื่องานอาชีพ