SlideShare a Scribd company logo
1 of 18
Download to read offline
รายงาน
                                     เรื อง

                    การเขียนคําสังควบคุมมีทางเลือก



                                   จัดทําโดย



            นายศิวกร โสมจันทร์                ม. /! เลขที "

             นายสุ ปวีณ์ เนืองวงษ์            ม. /! เลขที

             นายภาณุพงษ์ ทรัพย์สมบัติ ม. /! เลขที )

             นายมิตรพันธ์ ชาญธัญการ ม. /! เลขที --

             นายชวกร รู ้ทน
                          ั               ม. /! เลขที -"

             นายธนพล ถาวรวงษ์                 ม. /! เลขที -

                                     เสนอ

                   ครู ทรงศักดิ1              โพธิ1เอียม

                     ภาคเรี ยนที -       การศึกษา 3""

รายงานเล่มนี5เป็ นส่ วนหนึงของวิชาการเขียนโปรแกรมเพืองานอาชีพ (ง!:3-3)

            โรงเรี ยนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรี นคริ นทร์

                                   กาญจนบุรี
คํานํา

      รายงานฉบับนี5ได้จดทําขึ5น เพือประกอบการศึกษาการเขียนคําสังมีทางเลือก ของวิชาการ
                       ั
เขียนโปรแกรมเพืองานอาชีพ (ง!:3-3) ซึงคณะผูจดทําได้ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลจาก
                                          ้ั
แหล่งข้อมูลต่างๆ เพือให้ผทีสนใจได้ประโยชน์จากการศึกษารายงานฉบับนี5 โดยมี อาจารย์
                         ู้
วสันต์ ภัทรอธิคม เป็ นผูให้คาปรึ กษาแนะนําประกอบการทํารายงานนี5
                        ้ ํ

      หากผิดพลาดประการใด ทางคณะผูจดทําต้องขออภัยมา ณ ทีนี5ดวย
                                 ้ั                        ้




                                                                    คณะผูจดทํา
                                                                         ้ั
สารบัญ
เรือง                                                                  หน้ า

คําสังจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจํา                                      -
 - กฎเกณฑ์การกําหนดชือ                                                 1
 - ชนิ ดข้อมูล                                                         1
การเขียนนิพจน์เชิงตรรกะ                                                        !
  - ตัวดําเนินการทางคณิ ตศาสตร์                                        !
 - ตัวดําเนิ นการความสัมพันธ์                                          4
  - ตัวดําเนินการเชิงตรรกะ
คําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ลักษณะ if                                    4
  -กรณี ใช้ประโยคคําสังแบบ if                                          4
คําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ลักษณะ switch                                7

  -แนวทางการใช้ คําสั งswitch                                          7
กรณี ศึกษาการใช้คาสังควบคุมแบบมีทางเลือก
                 ํ
  -กรณี ศึกษาการใช้คาสังควบคุมแบบมีทางเลือก กรณี มี 3 ทางเลือก
                       ํ                                               7
  -กรณี ศึกษาการใช้คาสังควบคุมแบบมีทางเลือก กรณี มีมากว่า 3 ทางเลือก
                     ํ                                                 8

  -กรณี ศึกษาการใช้คาํ สังควบคุมแบบมีทางเลือก กรณี ใช้คาํ สัง switch           8
สรุปเนือหา
       !                                                               9



อ้ างอิง
Mind map

ข้อสอบ
1.   คําสังจัดเก็บข้ อมูลลงหน่ วยความจํา
                            การเขียนคําสังกําหนดลักษณะการจัดการข้อมูล ให้หน่วยความจําซึงมีดวยกัน / ประเภท คือ
                                                                                           ้
      ประเภทตัวแปร และค่าคงที            สําหรับบทนี5มีรายละเอียดทีสําคัญทีต้องทราบ เพือนําไปเขียนคําสังกําหนด
      คุณสมบัติหน่วยความจําได้ถูกต้อง              มีประสิ ทธิ1ภาพมากขึ5น นันคือกฎเกณฑ์การกําหนดชือหน่วยความจํา ชนิด
      ข้อมูลพื5นฐานทั5งหมดในภาษาซี

      การเขียนคําสังกําหนดค่าคงทีอีกรู ปแบบหนึง



1.1   กฎเกณ์ การกําหนดชือ
                       ชือ (ldentifier) หมายถึง ชือหน่วยความจําประเภทตัวแปร ชือหน่วยความจําประเภทตัวแปรค่าคงที
                                       ้                  ้ํ
      หรื อ ชือในส่วนใดๆ ของโปรแกรมทีผูสร้างโปรแกรมเป็ นผูกาหนดด้วยตนเอง มีกฎเกณ์ดงนี5
                                                                                  ั

                           -.อักขระแรกต้องเป็ นอักษร หรื อเครื องหมายขีดล่าง ( _ ) ตัวถัดไปเป็ นอักษร หรื อตัวเลข หรื อ
      เครื องหมายขีดล่าง ( _ ) ก็ได้

                           3.ภาษาซีมีความแตกต่างของชือทีกําหนดคือ ชือทีใช้อกษรตัวพิมพ์ใหย๋ หรื อตัวพิมเล็ก จะจดเก็บ
                                                                           ั
      ข้อมูลในหน่วยความจําตําแหน่งต่างกัน

                           !.ห้ามใช้อกขระพิเศษ เช่น $ @ และห้ามมีช่องว่างระหว่างอักขระโดยเด็ดขาด
                                     ั

                           _.ควรตั5งชือให้สือความหมายสอดคล้องกับงาน

                           ".ต้องไม่ซ5 ากับคําสงวนของภาษาซี (Reserved Word)
                                       ํ
1.2 ชนิดข้ อมูล

                          ภาษาซีมีชนิดข้อมูลพื5นฐานให้เลือกใช้งาน ! กลุ่มหลักคือ อักขระ ตัวเลขจํานวนเต็ม เลขทศนิยม
        ผูสร้างงานโปรแกรมควรเลือกใช้ชนิดข้อมูล ทีมีขอบเขตเหมาะสมกับข้อมูลจริ งในระบบงาน เพือใช้หน่วยความจําได้
          ้
        อย่างมีประสิ ทธิภาพ เพราะข้อมูลทีมีขอบเขตมากต้องใช้เนื5อทีความจากเช่นกัน



           ชนิดข้อมูล                   ขอบเขตของข้อมูล                         การเก็บข้อมูล

Char                          --3e ถึง -3f                      เก็บแบบอักขระ

Unsigned char                 0 ถึง 3""                         เก็บแบบอักขระ ไม่คิดเครื องหมาย

Int                           -32768 ถึง !3f     f              เก็บแบบจํานวนเต็ม

Unsigned int                  0 ถึง   ""!"                      เก็บแบบจํานวนเต็ม ไม่คิดเครื องหมาย

Short                         -128 ถึง -3f                      เก็บแบบจํานวนเต็มแบบสัน

Unsigned short                0 ถึง 3""                         เก็บแบบจํานวนเต็มแบบสัน ไม่คิด
                                                                เครื องหมาย

Long                          -2147483648 ถึง 2147483649        เก็บแบบจํานวนเต็มแบบยาว

Unsigned long                 0 ถึง _3)_)     f3)               เก็บแบบจํานวนเต็มแบบยาว ไม่คิด
                                                                เครื องหมาย

Float                         3.4 x -:-!e ถึง !._ x 1038        เก็บตัวเลขแบบทศนิยม ตัวเลขหลังจุด หลัก

Double                        !._ x 10-308 ถึง !._x -:!:e       เก็บตัวเลขแบบทศนิยม ตัวเลขหลังจุด -3 หลัก

Long double                   3.4 x 10-4032ถึง !._ x 104032     เก็บตัวเลขแบบทศนิยม ตัวเลขหลังจุด 24 หลัก



        อธิบาย หากต้องการใช้ขอมูลแบบข้อความ ต้องใช้ขอมูลประเภทตัวแปรชุด เช่น
                             ้                      ้

char a[20] ;




        7.8 คําสังกําหนดข้อมูลแบค่าคงที
คําสังกําหนดลักษณะข้อมูลให้เป็ นค่าคงทีมี ! ลักษณะ คือ

7.8.7 แบบที 7 ไม่ตองกําหนดชือหน่วยความจํารองรับข้อมูล
                  ้

ตัวอย่ างคําสัง พิมพ์ค่าคงทีโดยไม่ผานการใช้หน่วยความจํา
                                   ่

printf ( “ 2 x 2 = %d  n “ , 4) ;

printf ( “ c => %c%c  n “ , ‘c’) ;

อธิบาย เลข _ กับ ‘c’ คือข้อมูลแบบค่าคงที ไม่ตองจัดเก็บในหน่วยความจํา
                                             ้




7.8./ แบบที / เขียนบริ เวณส่วนหัว ในโครงสร้างภาษาซี

รู ปแบบ #define macro_name data ;



อธิบาย macro_name คือชือของแมโคร ต้องใช้อกษรตัวพิมพ์ใหญ่
                                         ั

         data           คือข้อมูลทีกําหนดเป็ นค่าคงที

ตัวอย่ างคําสัง กําหนดค่าคงทีชือ MAX เพือเก็บค่า -:

#define MAX -: ;

1.3.3 แบบที 8 เขียนบริ เวณส่ วนฟังก์ชนหลัก main ()
                                     ั

รู ปแบบ const variable = data ;

อธิบาย variable คือชือของตัวแปร

       Data         คือข้อมูลทีกําหนดเป็ นค่าคงที

ตัวอย่างคําสัง กําหนดค่าคงทีพร้อมให้จดเก็บข้อมูล
                                     ั

Const pi !.-_ ;

Const ans = ‘n’ ;

Const words = “ computer “
2     การเขียนนิพจน์ เชิงตรรกะ
                        การเขียนนิพจน์คณิ ตศาสตร์ ต้องใช้ตวดําเนินดารคณิ ตศาสตร์ เขียนคําสังควบคุมการประมาณผล
                                                          ั
      ข้อมูล สําหรับการเขียนประโยคคําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ต้องกําหนดเงือนไขการทํางาน ให้ระบบวิเคราะห์ขอมูล
                                                                                                        ้
      เพือตัดสิ นใจเลิอกทางประมวลผลได้อตโนมัติ ทางใดทางหนึงนั5น จึงต้องเขียนนิพจน์เชิงตรรกะ โดยใช้ตวดําเนินการ
                                       ั                                                           ั
      ความสัมพันธ์ และตัวดําเนินงานทางตรรกะ

2.1     ตัวดําเนินการทางคณิตศาสตร์
      ภาษาซีมีสญลักษณ์ ดังนี5
                 ั

เครืองหมาย                ความหมาย ตัวอย่ าง

+                         บวก           !+3 การบวกเลข ! บวกกับ 3 ได้ผลลัพธ์คือ "

-                         ลบ ! - 3 การลบเลข ! ลบกับ 3 ได้ผลลัพธ์คือ -

*                         คูณ 3*! การคูณเลข ! บวกกับ 3 ได้ผลลัพธ์คือ

/                         หาร -"/3 การหาร -" หารกับ 3 ได้ผลลัพธ์คือ f

%                         หารเอาเศษ -"%3การหารเอาเศษ -" หารกับ 3 ได้ผลลัพธ์คือ -

2.2       ตัวดําเนินการความสัมพันธ์
                          ใช้เขียนประโยคคําสังแบบมีเงือนไข - ประโยค ใช้สญลักษณ์ตวดําเนินการ ดังนี5
                                                                        ั       ั

ตัวดําเนินการความสัมพันธ์ หรือการเปรียบเทียบ

สัญลักษณ์                 การดําเนินการ           ตัวอย่ าง

<                         น้อยกว่า      3<! ผลลัพธ์ จริ ง(-)

>                         มากกว่า       3>! ผลลัพธ์ เท็จ(false)(:)

<=                        น้อยกว่าหรื อเท่ากับ    3<= ! ผลลัพธ์ จริ ง(true)

>=                        มากกว่าหรื อเท่ากับ     3>= ! ผลลัพธ์ เท็จ(false)

==                        เท่ากับ       _==_ ผลลัพธ์ จริ ง(true)

!=                        ไม่เท่ากับ    3!= 3 ผลลัพธ์ เท็จ(false)
2.3   ตัวดําเนินการเชิงตรรกะ
                 เป็ นสัญลักษณ์ใช้เชือมประโยคคําสังแบบมีเงือนไข 3 ประโยคขึ5นไป การสรุ ปค่าความจริ งทีได้ ฝห้ศึกษาจาก
  ตารางความจริ ง ใช้สญลักษณ์ตวดําเนินการ ดังนี5
                     ั       ั

                                ่
  ตรรกะ คือการคิดเชิงเหตุผลทีมีคาความจริ งค่าใดค่าหนึงคือ จริ ง (true : 1) หรื อเท็จ (false : 0 )



  ตัวดําเนินการตรรกะ (logical operators)

  สัญลักษณ์               การดําเนินการ               ตัวอย่าง

  &&                      และ(AND)         (3<!)&&(!>-) ผลลัพธ์ จริ ง

  ||                      หรื อ(OR)        (3>!)||(_<-) ผลลัพธ์ เท็จ(false)

  !                       ไม่(NOT)         !(3> !) ผลลัพธ์ จริ ง(true)

อธิบาย การสรุ ปค่าความจริ งของ 3 ประโยคเงือนไขนี5 ให้ศึกษาวิธีสรุ ปค่าความจริ งจากตารางต้ายล่าง โดยที x คือประโยค
เงือนไขที - และ Y คือประโยคเงือนไขที 2



ตัวอย่ างคําสัง การเขียนนิพจน์ทางตรรกะ

( a > 0 ) && (a < 10)

หาก a มีค่า -: ได้ค่าความจริ งอย่างไร

อธิบาย ขึ5นตอนความคิด

          1. วิเคราะห์ประโยคที - ( a > 0 ) มีค่า T
          2. วิเคราะห์ประโยคที 2 (a < 10) มีค่า F
          3. สรุ ปประโยค - กับประโยค 3 คือ T && F
          4. จากตารางค่าความจริ ง T && F ได้ F
8. คําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ลักษณะ if

           การเขียนคําสังควบคุมการทํางานลักษณะให้ระบบตัดสิ นใจเลือกการทํางานคําสัง หรื อกลุ่มคําสังใดได้อย่าง
อัตโนมัตินน ภาษาซีมีคาสังใช้ในงานด้านนี5คือ คําสัง if และมีแนวทางการเขียนคําสังควบคุมงาน ! ลักษณะคือ ทางเลือก
          ั          ํ
แบบ if ทางเลือกแบบ if-else และทางเลือกแบบ if-else         if-else

8.7 กรณีใช้ ประโยคคําสังแบบ if
ประสิทธิภาพของคําสัง : ควบคุมการทํางานแบบมีทางเลือก ลักษณะ หากประโยคเงือนไขตรรกะได้ขอสรุ ปค่า
                                                                                              ้
ความจริ ง ให้ไปทํางานตามคําสัง (กลุ่มคําสัง) ต่อจากเงือนไข แล้วไปตําแหน่งบรรทัดคําสังชุดต่อไป แต่หากเงือนไขเป็ น
เท็จไม่ตองทําคําสังใดให้ไปทํางานทีตําแหน่งคําสังชุดต่อไป
        ้



8.7.7 รู ปแบบการเขียนคําสังและแนวทางผังงานแบบ if

รู ปแบบ 7 กรณี หลังเงือนไข if มี - คําสัง

          If (เงือนไข)

                    คําสัง ; (กรณี เงือนไขเป็ นจริ ง)

          คําสังชุดต่อไป ; (กรณี เงือนไขเป็ นเท็จ)



รู ปแบบ / กรณี หลังเงือนไข if มีมากกว่า - คําสัง

          If (เงือนไข)

          {

                    กลุ่มคําสัง ; (กรณี เงือนไขเป็ นจริ ง)

} ;

คําสังชุดต่อไป ; (กรณี เงือนไขเป็ นเท็จ)



3.1.2 แนวทางการใช้ คาสั ง if แบบ / ทางเลือก ทางเลือกละ 7 คําสั ง
                    ํ

วัตถุประสงค์ จงเขียนงานเพือป้ อนตัวเลข 3 จํานวน แล้วตรวจสอบเงือนไข ดังนี5

          หากตัวคูณไม่ใช่ : ให้นาตัวเลข 3 จํานวนคูณกัน
                                ํ

          นอกเหนือจากนนี5ไม่ตองประมวลผลสมการใด ให้ไปตําแหน่งคําสังถัดไป
                             ้

!.-.! แนวทางการใช้คาสัง if แบบ 3 ทางเลือกละมากกว่า 1 คําสัง
                   ํ

วัตถุประสงค์ จงเขียนงานเพือป้ อนตัวเลข 3 จํานวน แล้วเลือกทางประมวลผลตามเงือนไขดังนี5

*หากเงือนไขเป็ นจริ ง คือ Y> 0 ให้ระบบทํางานกลุ่มคําสัง
z = x /y ;

printf ( “  n * Result = % .2f “ ,z ) ;

และ    printf (“n Good bye….. n”) ;

หากเงือนไขเป็ นเท็จ คือ y <= 0 ไม่ตองประมวลผลสมการใด ให้ระบบทํางานคําสัง
                                   ้

printf (“n Good bye….. n”) ;




!.3 กรณี ใช้ประโยคคําสังแบบ if – else

ประสิ ทธิภาพของคําสัง : ใช้กรณี ควบคุมการทํางานในลักษณะ หากประโยคเงือนไขตรรกะได้ขอสรุ ปค่าความจริ งเป็ นจริ ง
                                                                                 ้
ให้ทางานตามคําสัง (กลุ่มคําสัง) ชุดที - แล้วไปทีคําสังชุดต่อไป แต่หากเงือนไขตรรกะเป็ นเท็จ ให้ทางานตามคําสัง (กลุ่ม
    ํ                                                                                          ํ
คําสัง) ชุดที 3 แล้วไปทํางานทีตําแหน่งคําสังชุดต่อไป



8./.7 แนวทางการใช้ คาสัง if – else แบบ / ทางเลือกละ 7 คําสัง
                    ํ

วัตถุประสงค์ จงเขียนงานเพือป้ อนเลข 3 จํานวน แล้วประมวลผลตามเงือนไขดังนี5

หากค่า x > y ให้ประมวลผลสมการ z = y/ x และพิมพ์ขอความ y / x
                                                ้

3.3.2 แนวทางการใช้ คาสั ง if – else if – else
                    ํ                           แบบมากกว่ ามากกว่ า / ทางเลิอก

วัตถุประสงค์ จงเขียนงานป้ อนข้ อมูลเงินเดือน เพือคํานวณอัตราภาษีตามเงือนไขดังนี!

             ถ้าเงินเดือน > 10000 บาท ให้หกภาษีอตรา -: % ของเงินเดือน
                                          ั     ั

             ถ้าเงินเดือนอยู๋ในช่วง "::- – -:::: บาท            ให้หกอัตรา " % ของเงินเดือน
                                                                    ั

นอกเหนือจากนีไม่หกภาษี
                 ั

P.คําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ลักษณะ switch

             การควบคุมการทํางานเชิงตรรกะในภาษาซี                 นอกจากคําสัง if แล้วยังมีคาสัง switch
                                                                                           ํ

ทีให้เลือกนําไปใช้ควบคุมการทํางานแบบมีทางเลือก กรณี ทีทางเลือกการทํางานมีเป็ นจํานวนมาก ตัวอย่างเช่นงานตัดสิ น
ผลการเรี ยนแบบ e ระดับ หากใช้คาสัง if รู ปแบบการเขียนประโยคคําสังจะมีจานวนบรรทัดคําสังจํานวนมาก ทําให้อ่าน
                              ํ                                       ํ
คําสังได้ยาก ภาษาซีออกแบบคําสัง switch
่
ให้ทางานลักษณะวิเคราะห์ตรวจสอบค่าของตัวแปร หรื อนิพจน์วาตรงกับค่าภายในคําสัง case ใด จะทํางานตามคําสังภายใต้
    ํ
การควบคุมของคําสัง case นั5นแต่หากตรวจสอบแล้วไม่ตรงกับคําสังใดเลย จะทํางานภายใต้คาสัง default
                                                                                 ํ

         4.1  แนวทางการใช้ คาสังswitch
                             ํ
         วัตถุประสงค์ จงเขียนงานเพือแปลงค่าผลการเรี ยนดังนี5 หากเกรดมีค่า A ให้พิมพ์เลข _ หากเกรดมีค่า B ให้พิมพ์เลข
         ! หากเกรดมีค่า C ให้พิมพ์เลข 3 หากเกรดมีค่า D ให้พิมพ์เลข - หากเกรดมีค่า F ให้พิมพ์เลข : นอกเหนือจากค่าที
         กําหนดให้พิมพ์ data error

5.กรณีศึกษาการใช้ คาสั งควบคุมแบบมีทางเลือก
                   ํ

T.7กรณีศึกษาการใช้ คาสังควบคุมแบบมีทางเลือก กรณีมี / ทางเลือก
                    ํ

          เขียนเฉพาะบางส่วนเป็ นแนวทางดําเนินงานดังนี5

บริ ษท OK ต้องการคํานวณเงินโบนัสพนักงาน กําหนดเกณฑ์พิจารณาตามเงือนไขนี5
     ั

*ถ้ายอดขายมากกว่า 50000 บาท ให้โบนัส !: % ของยอดขาย

*นอกเหนือจากนี5ให้โบนัส -:% ของยอดขาย

ขั5นตอนการพัฒนางานโปรแกรม

    1.   วิเคราะห์ระบบงานเบื5องต้น
     2. ลําดับการทํางานด้วยผังงานโปรแกรม
     3. ควบคุมการทํางาน
T./ กรณีศึกษาการใช้ คาสังควบคุมแบบมีทางเลือก กรณีมมากว่ า / ทางเลือก
                     ํ                            ี

ขั5นตอนการพัฒนางานโปรแกรม

    1.วิเคราะห์ระบบงานเบื5องต้น

    3.ลําดับการทํางานด้วยผังงานโปรแกรม

    3.คําสังควบคุมการทํางาน

T.8 กรณีศึกษาการใช้ คาสังควบคุมแบบมีทางเลือก กรณีใช้ คาสัง switch
                     ํ                                ํ

    1.วิเคราะห์ระบบงานเบื5องต้น

    3.ลําดับการทํางานด้วยผังงานโปรแกรม

    3.คําสังควบคุมการทํางาน
สรุ ปเนือหา
        !
    การสร้างโปรแกรมระบบงานลักษณะมีทางเลือกประมวลผล มีจุดประสงค์ควบคุมให้ระบบสามารถทํางาน
วิเคราะห์เลือกทางประมวลผลทางใดทางหนึงโดย อัตโนมัติ เพือให้คล้ายกับระบบการประมวลผลของสมองมนุษย์ใน
เรื องการตัดสิ นใจ ภาษาคอมพิวเตอร์จึงใช้ประโยชน์จากประสิ ทธิภาพการทํางานของคอมพิวเตอร์ทีเหนือกว่าเครื อง
คํานวณชนิดอืน ตรงทีประมวลผลเปรี ยบเทียบแบบตรรกะทางคณิตศาสตร์ได้ ทั5งนี5ระบบวิเคราะห์เปรี ยบเทียบของ
คอมพิวเตอร์กาหนดว่า หากตรรกะเป็ นจริ งจะให้ค่า - แต่หากตรรกะเป็ นเท็จจะให้ค่า : สําหรับภาษาซีมีคาสังให้
            ํ                                                                                   ํ
เลือกใช้ควบคุมการทํางานแบบมีทางเลือก 3 รู ปแบบ คือ คําสัง if และคําสัง switch

    การเขียนคําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ผูสร้างงานโปรแกรมระบบงานจําเป็ นต้องมีความรู ้ความเข้าใจในเรื องของ
                                        ้
รู ปแบบและประสิ ทธิภาพการทํางานของสัญลักษณ์ทีใช้ในการเขียนประโยคคําสังแบบนิพจน์ตรรกะ การสรุ ปค่าความ
จริ งของนิพจน์ตรรกะ ซึงใช้หลักการเดียวกันกับตรรกศาสตร์วธีเขียนนิพจน์ตรรกะ กฎเกณ์ไวยากรณ์การเขียนคําสัง
                                                       ิ
ควบคุมมีทางเลือก และประสิ ทธิภาพการทํางานของคําสัง

                             ั
    ประโยคคําสังแบบ if จะใช้กบงานกรณี ประโยคนิพจน์ตรรกะเป็ นเงือนไขซ้อนมากกว่า - ประโยค และต้องใช้
สัญลักษณ์เชือมประโยคเงือนไข เช่น พนักงานเป็ นเพศชายและสถานะภาพโสด ไม่มีขอจํากัดในประโยคคําสัง switch
                                                                        ้
จะใช้ในกรณี ทางเลือกการทํางานหลายทางเลือก แต่ควรเป็ นประโยคเงือนไขเดียว ไม่ใช่ประโยคนิพจน์ตรรกะทีเป็ น
เงือนไขซ้อน และข้อมูลทีนํามาเปรี ยบเทียบเพือให้ระบบตัดสิ นใจนั5นต้องเป็ นตัวเลขจํานวนเต็มหรื ออักขระ
อ้ างอิง

รายงานเล่มนีอ้างอิงจาก
            !


หนังสื อ : คู่มือเรี ยนรู้ภาษาซี
ผูแต่ง : พศ. รุ่ งทิวา เสาร์สิงห์
  ้

เว็บไซต์ อ้างอิง.

   http://computerpasac54.blogspot.com/p/6_3263.html
1.1    กฎเกณ์ การกําหนดชือ
                                             ชือ (ldentifier) หมายถึง ชือหน่ วยความจําประเภทตัวแปร
                           ชือหน่ วยความจําประเภทตัวแปรค่ าคงที หรือ ชือในส่ วนใดๆ ของโปรแกรมที
                           ผู้สร้ างโปรแกรมเป็ นผู้กาหนดด้ วยตนเอง
                                                    ํ


                                                                                    การสร้ างโปรแกรม
                                                                                    ระบบงานลักษณะมี
                                       ประโยคคําสังแบบ if จะใช้ กับงานกรณี
                                                                                    ทางเลือกประมวลผล
                                ประโยคนิพจน์ ตรรกะเป็ นเงือนไขซ้ อนมากกว่ า /
                                                                                    มีจุดประสงค์ ควบคุมให้
                                ประโยค และต้ องใช้ สัญลักษณ์ เชือมประโยค
                                                                                    ระบบสามารถทํางาน
                                                                                    วิเคราะห์ เลือกทาง
                                                                                    ประมวลผลทางใดทาง
                                                                                    หนึงโดย อัตโนมัติ
                                                                                    เพือให้ คล้ ายกับระบบ
                                                                                    การประมวลผลของ
                                       การเขียนคําสังควบคุมมี                       สมองมนุษย์ ในเรืองการ
                                              ทางเลือก
ภาษาคอมพิวเตอร์ จึง
ใช้ ประโยชน์จาก
ประสิทธิภาพการ
ทํางานของ
คอมพิวเตอร์ ที
เหนือกว่าเครื อง
คํานวณชนิดอืน ตรงที
ประมวลผล                                     การเขียนคําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ผู้สร้ างงาน
เปรี ยบเทียบแบบ                       โปรแกรมระบบงานจําเป็ นต้ องมีความรู้ความเข้ าใจในเรืองของ
                                      รูปแบบและประสิทธิภาพการทํางานของสัญลักษณ์ ทีใช้ ในการ
ตรรกะทางคณิตศาสตร์
                                      เขียนประโยคคําสังแบบนิพจน์ ตรรกะ การสรุ ปค่ าความจริงของ
ได้ ทังนี .ระบบวิเคราะห์
      .
เปรี ยบเทียบของ
คอมพิวเตอร์ กําหนดว่า
คําถาม

-.การเขียนคําสังกําหนดลักษณะการจัดการข้อมูล ให้หน่วยความจําซึ งมีดวยกันกีประเภท?
                                                                  ้

ก.-                                                  ข.3

ค.!                                                  ง._



3.กฎเกณฑ์การกําหนดชื อมีกฎเกณฑ์ใดบ้าง?

ก.อักขระแรกต้องเป็ นอักษร                ข.ภาษาซี มีความแตกต่างของชือ

ค.ห้ามใช้อกขระพิเศษ เช่น $ @ ง.ถูกทุกข้อ
          ั



3.ภาษาซี มีชนิดข้อมูลพื5นฐานให้เลือกใช้งานกีกลุ่ม?

ก.-                              ข.!

ค._                              ง."



_.คําสังกําหนดลักษณะข้อมูลให้เป็ นค่าคงทีมี ! ลักษณะ เช่น?

ก.ไม่ตองกําหนดชื อหน่วยความจํารองรับข้อมูล
      ้                                                    ข.กําหนดชือหน่วยความจํารองรับข้อมูล

ค.เขียนบริ เวณส่ วนท้าย ในโครงสร้างภาษาซี                  ง.เขียนบริ เวณส่ วนโดเมนต์หลัก main ()



5.ภาษาซี ไม่มีสัญลักษณ์ใด?

ก.+                              ข.-
ค.*                                  ง.^




6.ตัวดําเนินการความสั มพันธ์ หรือการเปรียบเทียบไม่ มีสัญลักษณ์ ใด?

 ก.<                                 ข.>

 ค.<=                                ง.;p



7.สัญลักษณ์ใช้เชือมประโยคคําสังแบบมีเงือนไข กีโมงประโยคขึ5นไป?

ก.3                 ค.)

ค._                 ง.f




e.ตัวดําเนินการตรรกะมีสัญลักษณ์ แบบไหนบ้ าง?

ก.&&                ข.||

ค.!                 ง.%



9.การควบคุมการทํางานเชิงตรรกะในภาษาซี นอกจากคําสัง if แล้วยังมีคาสังอะไรอีก?
                                                                ํ

ก. switch                  ข.open

ค.sever                    ง.start
10.ขั5นตอนการพัฒนางานโปรแกรมไม่มีโปรแกรมข้อใด

ก.วิเคราะห์ระบบงานเบื5องต้น                          ข.ลําดับการทํางานด้วยผังงานโปรแกรม

ค.คําสังควบคุมการทํางาน                                     ง.ลําดับตัวเลข

.........................................................
เฉลย

-. ค

3. ง

3. ข.

4. ก

". ง

6. ง

f. ก

8. ง

9. ง

-:. ง

More Related Content

Similar to การเขียนคำสั่งควบคุมมีทางเลือก

การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3
KEk YourJust'one
 
ใบความรู้ที่ 5
ใบความรู้ที่  5ใบความรู้ที่  5
ใบความรู้ที่ 5
SubLt Masu
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
Thank Chiro
 
1 คำอธิบายรายวิชา
1 คำอธิบายรายวิชา1 คำอธิบายรายวิชา
1 คำอธิบายรายวิชา
Nichaphon Tasombat
 
ชุดฝึกทักษะ 54
ชุดฝึกทักษะ 54ชุดฝึกทักษะ 54
ชุดฝึกทักษะ 54
Orapan Chamnan
 
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐานการเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
KEk YourJust'one
 

Similar to การเขียนคำสั่งควบคุมมีทางเลือก (20)

งานที่ #1 ตัวรายงานการเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
งานที่ #1 ตัวรายงานการเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือกงานที่ #1 ตัวรายงานการเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
งานที่ #1 ตัวรายงานการเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
 
กลุ่ม3การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
กลุ่ม3การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือกกลุ่ม3การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
กลุ่ม3การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
 
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3
 
ใบความรู้ที่ 5
ใบความรู้ที่  5ใบความรู้ที่  5
ใบความรู้ที่ 5
 
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือกการเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
 
บทที่ 3 พื้นฐานภาษา Java
บทที่ 3 พื้นฐานภาษา Javaบทที่ 3 พื้นฐานภาษา Java
บทที่ 3 พื้นฐานภาษา Java
 
บทที่ 3 พื้นฐานภาษา Java
บทที่ 3 พื้นฐานภาษา Javaบทที่ 3 พื้นฐานภาษา Java
บทที่ 3 พื้นฐานภาษา Java
 
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก ม.4/5 กลุ่ม 3
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก ม.4/5 กลุ่ม 3การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก ม.4/5 กลุ่ม 3
การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก ม.4/5 กลุ่ม 3
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐานการเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
 
1 คำอธิบายรายวิชา
1 คำอธิบายรายวิชา1 คำอธิบายรายวิชา
1 คำอธิบายรายวิชา
 
Powerpointการเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
Powerpointการเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือกPowerpointการเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
Powerpointการเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก
 
ตัวแปรกับชนิดของข้อมูล
ตัวแปรกับชนิดของข้อมูลตัวแปรกับชนิดของข้อมูล
ตัวแปรกับชนิดของข้อมูล
 
งานทำ Blog บทที่ 2
งานทำ Blog บทที่ 2งานทำ Blog บทที่ 2
งานทำ Blog บทที่ 2
 
ชุดฝึกทักษะ 54
ชุดฝึกทักษะ 54ชุดฝึกทักษะ 54
ชุดฝึกทักษะ 54
 
ภาษา C#
ภาษา C#ภาษา C#
ภาษา C#
 
Record
RecordRecord
Record
 
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐานการเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
 
งาน
งานงาน
งาน
 
66 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่1_การนับเบื้องต้น
66 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่1_การนับเบื้องต้น66 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่1_การนับเบื้องต้น
66 การนับและความน่าจะเป็น ตอนที่1_การนับเบื้องต้น
 

More from KEk YourJust'one

งานย่อยภาณุพงศ์
งานย่อยภาณุพงศ์งานย่อยภาณุพงศ์
งานย่อยภาณุพงศ์
KEk YourJust'one
 
งานย่อยที่ 1 การแข่งขัน
งานย่อยที่ 1 การแข่งขันงานย่อยที่ 1 การแข่งขัน
งานย่อยที่ 1 การแข่งขัน
KEk YourJust'one
 
อ.ทรงศักดิ์งานกลุ่ม
อ.ทรงศักดิ์งานกลุ่มอ.ทรงศักดิ์งานกลุ่ม
อ.ทรงศักดิ์งานกลุ่ม
KEk YourJust'one
 
Canon เรียกคืนกล้อง PowerShot S100
Canon เรียกคืนกล้อง PowerShot S100Canon เรียกคืนกล้อง PowerShot S100
Canon เรียกคืนกล้อง PowerShot S100
KEk YourJust'one
 

More from KEk YourJust'one (6)

งานย่อยภาณุพงศ์
งานย่อยภาณุพงศ์งานย่อยภาณุพงศ์
งานย่อยภาณุพงศ์
 
งานย่อย 6
งานย่อย 6งานย่อย 6
งานย่อย 6
 
งานย่อย1
งานย่อย1งานย่อย1
งานย่อย1
 
งานย่อยที่ 1 การแข่งขัน
งานย่อยที่ 1 การแข่งขันงานย่อยที่ 1 การแข่งขัน
งานย่อยที่ 1 การแข่งขัน
 
อ.ทรงศักดิ์งานกลุ่ม
อ.ทรงศักดิ์งานกลุ่มอ.ทรงศักดิ์งานกลุ่ม
อ.ทรงศักดิ์งานกลุ่ม
 
Canon เรียกคืนกล้อง PowerShot S100
Canon เรียกคืนกล้อง PowerShot S100Canon เรียกคืนกล้อง PowerShot S100
Canon เรียกคืนกล้อง PowerShot S100
 

การเขียนคำสั่งควบคุมมีทางเลือก

  • 1. รายงาน เรื อง การเขียนคําสังควบคุมมีทางเลือก จัดทําโดย นายศิวกร โสมจันทร์ ม. /! เลขที " นายสุ ปวีณ์ เนืองวงษ์ ม. /! เลขที นายภาณุพงษ์ ทรัพย์สมบัติ ม. /! เลขที ) นายมิตรพันธ์ ชาญธัญการ ม. /! เลขที -- นายชวกร รู ้ทน ั ม. /! เลขที -" นายธนพล ถาวรวงษ์ ม. /! เลขที - เสนอ ครู ทรงศักดิ1 โพธิ1เอียม ภาคเรี ยนที - การศึกษา 3"" รายงานเล่มนี5เป็ นส่ วนหนึงของวิชาการเขียนโปรแกรมเพืองานอาชีพ (ง!:3-3) โรงเรี ยนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรี นคริ นทร์ กาญจนบุรี
  • 2. คํานํา รายงานฉบับนี5ได้จดทําขึ5น เพือประกอบการศึกษาการเขียนคําสังมีทางเลือก ของวิชาการ ั เขียนโปรแกรมเพืองานอาชีพ (ง!:3-3) ซึงคณะผูจดทําได้ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลจาก ้ั แหล่งข้อมูลต่างๆ เพือให้ผทีสนใจได้ประโยชน์จากการศึกษารายงานฉบับนี5 โดยมี อาจารย์ ู้ วสันต์ ภัทรอธิคม เป็ นผูให้คาปรึ กษาแนะนําประกอบการทํารายงานนี5 ้ ํ หากผิดพลาดประการใด ทางคณะผูจดทําต้องขออภัยมา ณ ทีนี5ดวย ้ั ้ คณะผูจดทํา ้ั
  • 3. สารบัญ เรือง หน้ า คําสังจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจํา - - กฎเกณฑ์การกําหนดชือ 1 - ชนิ ดข้อมูล 1 การเขียนนิพจน์เชิงตรรกะ ! - ตัวดําเนินการทางคณิ ตศาสตร์ ! - ตัวดําเนิ นการความสัมพันธ์ 4 - ตัวดําเนินการเชิงตรรกะ คําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ลักษณะ if 4 -กรณี ใช้ประโยคคําสังแบบ if 4 คําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ลักษณะ switch 7 -แนวทางการใช้ คําสั งswitch 7 กรณี ศึกษาการใช้คาสังควบคุมแบบมีทางเลือก ํ -กรณี ศึกษาการใช้คาสังควบคุมแบบมีทางเลือก กรณี มี 3 ทางเลือก ํ 7 -กรณี ศึกษาการใช้คาสังควบคุมแบบมีทางเลือก กรณี มีมากว่า 3 ทางเลือก ํ 8 -กรณี ศึกษาการใช้คาํ สังควบคุมแบบมีทางเลือก กรณี ใช้คาํ สัง switch 8 สรุปเนือหา ! 9 อ้ างอิง Mind map ข้อสอบ
  • 4. 1. คําสังจัดเก็บข้ อมูลลงหน่ วยความจํา การเขียนคําสังกําหนดลักษณะการจัดการข้อมูล ให้หน่วยความจําซึงมีดวยกัน / ประเภท คือ ้ ประเภทตัวแปร และค่าคงที สําหรับบทนี5มีรายละเอียดทีสําคัญทีต้องทราบ เพือนําไปเขียนคําสังกําหนด คุณสมบัติหน่วยความจําได้ถูกต้อง มีประสิ ทธิ1ภาพมากขึ5น นันคือกฎเกณฑ์การกําหนดชือหน่วยความจํา ชนิด ข้อมูลพื5นฐานทั5งหมดในภาษาซี การเขียนคําสังกําหนดค่าคงทีอีกรู ปแบบหนึง 1.1 กฎเกณ์ การกําหนดชือ ชือ (ldentifier) หมายถึง ชือหน่วยความจําประเภทตัวแปร ชือหน่วยความจําประเภทตัวแปรค่าคงที ้ ้ํ หรื อ ชือในส่วนใดๆ ของโปรแกรมทีผูสร้างโปรแกรมเป็ นผูกาหนดด้วยตนเอง มีกฎเกณ์ดงนี5 ั -.อักขระแรกต้องเป็ นอักษร หรื อเครื องหมายขีดล่าง ( _ ) ตัวถัดไปเป็ นอักษร หรื อตัวเลข หรื อ เครื องหมายขีดล่าง ( _ ) ก็ได้ 3.ภาษาซีมีความแตกต่างของชือทีกําหนดคือ ชือทีใช้อกษรตัวพิมพ์ใหย๋ หรื อตัวพิมเล็ก จะจดเก็บ ั ข้อมูลในหน่วยความจําตําแหน่งต่างกัน !.ห้ามใช้อกขระพิเศษ เช่น $ @ และห้ามมีช่องว่างระหว่างอักขระโดยเด็ดขาด ั _.ควรตั5งชือให้สือความหมายสอดคล้องกับงาน ".ต้องไม่ซ5 ากับคําสงวนของภาษาซี (Reserved Word) ํ
  • 5. 1.2 ชนิดข้ อมูล ภาษาซีมีชนิดข้อมูลพื5นฐานให้เลือกใช้งาน ! กลุ่มหลักคือ อักขระ ตัวเลขจํานวนเต็ม เลขทศนิยม ผูสร้างงานโปรแกรมควรเลือกใช้ชนิดข้อมูล ทีมีขอบเขตเหมาะสมกับข้อมูลจริ งในระบบงาน เพือใช้หน่วยความจําได้ ้ อย่างมีประสิ ทธิภาพ เพราะข้อมูลทีมีขอบเขตมากต้องใช้เนื5อทีความจากเช่นกัน ชนิดข้อมูล ขอบเขตของข้อมูล การเก็บข้อมูล Char --3e ถึง -3f เก็บแบบอักขระ Unsigned char 0 ถึง 3"" เก็บแบบอักขระ ไม่คิดเครื องหมาย Int -32768 ถึง !3f f เก็บแบบจํานวนเต็ม Unsigned int 0 ถึง ""!" เก็บแบบจํานวนเต็ม ไม่คิดเครื องหมาย Short -128 ถึง -3f เก็บแบบจํานวนเต็มแบบสัน Unsigned short 0 ถึง 3"" เก็บแบบจํานวนเต็มแบบสัน ไม่คิด เครื องหมาย Long -2147483648 ถึง 2147483649 เก็บแบบจํานวนเต็มแบบยาว Unsigned long 0 ถึง _3)_) f3) เก็บแบบจํานวนเต็มแบบยาว ไม่คิด เครื องหมาย Float 3.4 x -:-!e ถึง !._ x 1038 เก็บตัวเลขแบบทศนิยม ตัวเลขหลังจุด หลัก Double !._ x 10-308 ถึง !._x -:!:e เก็บตัวเลขแบบทศนิยม ตัวเลขหลังจุด -3 หลัก Long double 3.4 x 10-4032ถึง !._ x 104032 เก็บตัวเลขแบบทศนิยม ตัวเลขหลังจุด 24 หลัก อธิบาย หากต้องการใช้ขอมูลแบบข้อความ ต้องใช้ขอมูลประเภทตัวแปรชุด เช่น ้ ้ char a[20] ; 7.8 คําสังกําหนดข้อมูลแบค่าคงที
  • 6. คําสังกําหนดลักษณะข้อมูลให้เป็ นค่าคงทีมี ! ลักษณะ คือ 7.8.7 แบบที 7 ไม่ตองกําหนดชือหน่วยความจํารองรับข้อมูล ้ ตัวอย่ างคําสัง พิมพ์ค่าคงทีโดยไม่ผานการใช้หน่วยความจํา ่ printf ( “ 2 x 2 = %d n “ , 4) ; printf ( “ c => %c%c n “ , ‘c’) ; อธิบาย เลข _ กับ ‘c’ คือข้อมูลแบบค่าคงที ไม่ตองจัดเก็บในหน่วยความจํา ้ 7.8./ แบบที / เขียนบริ เวณส่วนหัว ในโครงสร้างภาษาซี รู ปแบบ #define macro_name data ; อธิบาย macro_name คือชือของแมโคร ต้องใช้อกษรตัวพิมพ์ใหญ่ ั data คือข้อมูลทีกําหนดเป็ นค่าคงที ตัวอย่ างคําสัง กําหนดค่าคงทีชือ MAX เพือเก็บค่า -: #define MAX -: ; 1.3.3 แบบที 8 เขียนบริ เวณส่ วนฟังก์ชนหลัก main () ั รู ปแบบ const variable = data ; อธิบาย variable คือชือของตัวแปร Data คือข้อมูลทีกําหนดเป็ นค่าคงที ตัวอย่างคําสัง กําหนดค่าคงทีพร้อมให้จดเก็บข้อมูล ั Const pi !.-_ ; Const ans = ‘n’ ; Const words = “ computer “
  • 7. 2 การเขียนนิพจน์ เชิงตรรกะ การเขียนนิพจน์คณิ ตศาสตร์ ต้องใช้ตวดําเนินดารคณิ ตศาสตร์ เขียนคําสังควบคุมการประมาณผล ั ข้อมูล สําหรับการเขียนประโยคคําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ต้องกําหนดเงือนไขการทํางาน ให้ระบบวิเคราะห์ขอมูล ้ เพือตัดสิ นใจเลิอกทางประมวลผลได้อตโนมัติ ทางใดทางหนึงนั5น จึงต้องเขียนนิพจน์เชิงตรรกะ โดยใช้ตวดําเนินการ ั ั ความสัมพันธ์ และตัวดําเนินงานทางตรรกะ 2.1 ตัวดําเนินการทางคณิตศาสตร์ ภาษาซีมีสญลักษณ์ ดังนี5 ั เครืองหมาย ความหมาย ตัวอย่ าง + บวก !+3 การบวกเลข ! บวกกับ 3 ได้ผลลัพธ์คือ " - ลบ ! - 3 การลบเลข ! ลบกับ 3 ได้ผลลัพธ์คือ - * คูณ 3*! การคูณเลข ! บวกกับ 3 ได้ผลลัพธ์คือ / หาร -"/3 การหาร -" หารกับ 3 ได้ผลลัพธ์คือ f % หารเอาเศษ -"%3การหารเอาเศษ -" หารกับ 3 ได้ผลลัพธ์คือ - 2.2 ตัวดําเนินการความสัมพันธ์ ใช้เขียนประโยคคําสังแบบมีเงือนไข - ประโยค ใช้สญลักษณ์ตวดําเนินการ ดังนี5 ั ั ตัวดําเนินการความสัมพันธ์ หรือการเปรียบเทียบ สัญลักษณ์ การดําเนินการ ตัวอย่ าง < น้อยกว่า 3<! ผลลัพธ์ จริ ง(-) > มากกว่า 3>! ผลลัพธ์ เท็จ(false)(:) <= น้อยกว่าหรื อเท่ากับ 3<= ! ผลลัพธ์ จริ ง(true) >= มากกว่าหรื อเท่ากับ 3>= ! ผลลัพธ์ เท็จ(false) == เท่ากับ _==_ ผลลัพธ์ จริ ง(true) != ไม่เท่ากับ 3!= 3 ผลลัพธ์ เท็จ(false)
  • 8. 2.3 ตัวดําเนินการเชิงตรรกะ เป็ นสัญลักษณ์ใช้เชือมประโยคคําสังแบบมีเงือนไข 3 ประโยคขึ5นไป การสรุ ปค่าความจริ งทีได้ ฝห้ศึกษาจาก ตารางความจริ ง ใช้สญลักษณ์ตวดําเนินการ ดังนี5 ั ั ่ ตรรกะ คือการคิดเชิงเหตุผลทีมีคาความจริ งค่าใดค่าหนึงคือ จริ ง (true : 1) หรื อเท็จ (false : 0 ) ตัวดําเนินการตรรกะ (logical operators) สัญลักษณ์ การดําเนินการ ตัวอย่าง && และ(AND) (3<!)&&(!>-) ผลลัพธ์ จริ ง || หรื อ(OR) (3>!)||(_<-) ผลลัพธ์ เท็จ(false) ! ไม่(NOT) !(3> !) ผลลัพธ์ จริ ง(true) อธิบาย การสรุ ปค่าความจริ งของ 3 ประโยคเงือนไขนี5 ให้ศึกษาวิธีสรุ ปค่าความจริ งจากตารางต้ายล่าง โดยที x คือประโยค เงือนไขที - และ Y คือประโยคเงือนไขที 2 ตัวอย่ างคําสัง การเขียนนิพจน์ทางตรรกะ ( a > 0 ) && (a < 10) หาก a มีค่า -: ได้ค่าความจริ งอย่างไร อธิบาย ขึ5นตอนความคิด 1. วิเคราะห์ประโยคที - ( a > 0 ) มีค่า T 2. วิเคราะห์ประโยคที 2 (a < 10) มีค่า F 3. สรุ ปประโยค - กับประโยค 3 คือ T && F 4. จากตารางค่าความจริ ง T && F ได้ F 8. คําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ลักษณะ if การเขียนคําสังควบคุมการทํางานลักษณะให้ระบบตัดสิ นใจเลือกการทํางานคําสัง หรื อกลุ่มคําสังใดได้อย่าง อัตโนมัตินน ภาษาซีมีคาสังใช้ในงานด้านนี5คือ คําสัง if และมีแนวทางการเขียนคําสังควบคุมงาน ! ลักษณะคือ ทางเลือก ั ํ แบบ if ทางเลือกแบบ if-else และทางเลือกแบบ if-else if-else 8.7 กรณีใช้ ประโยคคําสังแบบ if
  • 9. ประสิทธิภาพของคําสัง : ควบคุมการทํางานแบบมีทางเลือก ลักษณะ หากประโยคเงือนไขตรรกะได้ขอสรุ ปค่า ้ ความจริ ง ให้ไปทํางานตามคําสัง (กลุ่มคําสัง) ต่อจากเงือนไข แล้วไปตําแหน่งบรรทัดคําสังชุดต่อไป แต่หากเงือนไขเป็ น เท็จไม่ตองทําคําสังใดให้ไปทํางานทีตําแหน่งคําสังชุดต่อไป ้ 8.7.7 รู ปแบบการเขียนคําสังและแนวทางผังงานแบบ if รู ปแบบ 7 กรณี หลังเงือนไข if มี - คําสัง If (เงือนไข) คําสัง ; (กรณี เงือนไขเป็ นจริ ง) คําสังชุดต่อไป ; (กรณี เงือนไขเป็ นเท็จ) รู ปแบบ / กรณี หลังเงือนไข if มีมากกว่า - คําสัง If (เงือนไข) { กลุ่มคําสัง ; (กรณี เงือนไขเป็ นจริ ง) } ; คําสังชุดต่อไป ; (กรณี เงือนไขเป็ นเท็จ) 3.1.2 แนวทางการใช้ คาสั ง if แบบ / ทางเลือก ทางเลือกละ 7 คําสั ง ํ วัตถุประสงค์ จงเขียนงานเพือป้ อนตัวเลข 3 จํานวน แล้วตรวจสอบเงือนไข ดังนี5 หากตัวคูณไม่ใช่ : ให้นาตัวเลข 3 จํานวนคูณกัน ํ นอกเหนือจากนนี5ไม่ตองประมวลผลสมการใด ให้ไปตําแหน่งคําสังถัดไป ้ !.-.! แนวทางการใช้คาสัง if แบบ 3 ทางเลือกละมากกว่า 1 คําสัง ํ วัตถุประสงค์ จงเขียนงานเพือป้ อนตัวเลข 3 จํานวน แล้วเลือกทางประมวลผลตามเงือนไขดังนี5 *หากเงือนไขเป็ นจริ ง คือ Y> 0 ให้ระบบทํางานกลุ่มคําสัง
  • 10. z = x /y ; printf ( “ n * Result = % .2f “ ,z ) ; และ printf (“n Good bye….. n”) ; หากเงือนไขเป็ นเท็จ คือ y <= 0 ไม่ตองประมวลผลสมการใด ให้ระบบทํางานคําสัง ้ printf (“n Good bye….. n”) ; !.3 กรณี ใช้ประโยคคําสังแบบ if – else ประสิ ทธิภาพของคําสัง : ใช้กรณี ควบคุมการทํางานในลักษณะ หากประโยคเงือนไขตรรกะได้ขอสรุ ปค่าความจริ งเป็ นจริ ง ้ ให้ทางานตามคําสัง (กลุ่มคําสัง) ชุดที - แล้วไปทีคําสังชุดต่อไป แต่หากเงือนไขตรรกะเป็ นเท็จ ให้ทางานตามคําสัง (กลุ่ม ํ ํ คําสัง) ชุดที 3 แล้วไปทํางานทีตําแหน่งคําสังชุดต่อไป 8./.7 แนวทางการใช้ คาสัง if – else แบบ / ทางเลือกละ 7 คําสัง ํ วัตถุประสงค์ จงเขียนงานเพือป้ อนเลข 3 จํานวน แล้วประมวลผลตามเงือนไขดังนี5 หากค่า x > y ให้ประมวลผลสมการ z = y/ x และพิมพ์ขอความ y / x ้ 3.3.2 แนวทางการใช้ คาสั ง if – else if – else ํ แบบมากกว่ ามากกว่ า / ทางเลิอก วัตถุประสงค์ จงเขียนงานป้ อนข้ อมูลเงินเดือน เพือคํานวณอัตราภาษีตามเงือนไขดังนี! ถ้าเงินเดือน > 10000 บาท ให้หกภาษีอตรา -: % ของเงินเดือน ั ั ถ้าเงินเดือนอยู๋ในช่วง "::- – -:::: บาท ให้หกอัตรา " % ของเงินเดือน ั นอกเหนือจากนีไม่หกภาษี ั P.คําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ลักษณะ switch การควบคุมการทํางานเชิงตรรกะในภาษาซี นอกจากคําสัง if แล้วยังมีคาสัง switch ํ ทีให้เลือกนําไปใช้ควบคุมการทํางานแบบมีทางเลือก กรณี ทีทางเลือกการทํางานมีเป็ นจํานวนมาก ตัวอย่างเช่นงานตัดสิ น ผลการเรี ยนแบบ e ระดับ หากใช้คาสัง if รู ปแบบการเขียนประโยคคําสังจะมีจานวนบรรทัดคําสังจํานวนมาก ทําให้อ่าน ํ ํ คําสังได้ยาก ภาษาซีออกแบบคําสัง switch
  • 11. ่ ให้ทางานลักษณะวิเคราะห์ตรวจสอบค่าของตัวแปร หรื อนิพจน์วาตรงกับค่าภายในคําสัง case ใด จะทํางานตามคําสังภายใต้ ํ การควบคุมของคําสัง case นั5นแต่หากตรวจสอบแล้วไม่ตรงกับคําสังใดเลย จะทํางานภายใต้คาสัง default ํ 4.1 แนวทางการใช้ คาสังswitch ํ วัตถุประสงค์ จงเขียนงานเพือแปลงค่าผลการเรี ยนดังนี5 หากเกรดมีค่า A ให้พิมพ์เลข _ หากเกรดมีค่า B ให้พิมพ์เลข ! หากเกรดมีค่า C ให้พิมพ์เลข 3 หากเกรดมีค่า D ให้พิมพ์เลข - หากเกรดมีค่า F ให้พิมพ์เลข : นอกเหนือจากค่าที กําหนดให้พิมพ์ data error 5.กรณีศึกษาการใช้ คาสั งควบคุมแบบมีทางเลือก ํ T.7กรณีศึกษาการใช้ คาสังควบคุมแบบมีทางเลือก กรณีมี / ทางเลือก ํ เขียนเฉพาะบางส่วนเป็ นแนวทางดําเนินงานดังนี5 บริ ษท OK ต้องการคํานวณเงินโบนัสพนักงาน กําหนดเกณฑ์พิจารณาตามเงือนไขนี5 ั *ถ้ายอดขายมากกว่า 50000 บาท ให้โบนัส !: % ของยอดขาย *นอกเหนือจากนี5ให้โบนัส -:% ของยอดขาย ขั5นตอนการพัฒนางานโปรแกรม 1. วิเคราะห์ระบบงานเบื5องต้น 2. ลําดับการทํางานด้วยผังงานโปรแกรม 3. ควบคุมการทํางาน T./ กรณีศึกษาการใช้ คาสังควบคุมแบบมีทางเลือก กรณีมมากว่ า / ทางเลือก ํ ี ขั5นตอนการพัฒนางานโปรแกรม 1.วิเคราะห์ระบบงานเบื5องต้น 3.ลําดับการทํางานด้วยผังงานโปรแกรม 3.คําสังควบคุมการทํางาน T.8 กรณีศึกษาการใช้ คาสังควบคุมแบบมีทางเลือก กรณีใช้ คาสัง switch ํ ํ 1.วิเคราะห์ระบบงานเบื5องต้น 3.ลําดับการทํางานด้วยผังงานโปรแกรม 3.คําสังควบคุมการทํางาน
  • 12. สรุ ปเนือหา ! การสร้างโปรแกรมระบบงานลักษณะมีทางเลือกประมวลผล มีจุดประสงค์ควบคุมให้ระบบสามารถทํางาน วิเคราะห์เลือกทางประมวลผลทางใดทางหนึงโดย อัตโนมัติ เพือให้คล้ายกับระบบการประมวลผลของสมองมนุษย์ใน เรื องการตัดสิ นใจ ภาษาคอมพิวเตอร์จึงใช้ประโยชน์จากประสิ ทธิภาพการทํางานของคอมพิวเตอร์ทีเหนือกว่าเครื อง คํานวณชนิดอืน ตรงทีประมวลผลเปรี ยบเทียบแบบตรรกะทางคณิตศาสตร์ได้ ทั5งนี5ระบบวิเคราะห์เปรี ยบเทียบของ คอมพิวเตอร์กาหนดว่า หากตรรกะเป็ นจริ งจะให้ค่า - แต่หากตรรกะเป็ นเท็จจะให้ค่า : สําหรับภาษาซีมีคาสังให้ ํ ํ เลือกใช้ควบคุมการทํางานแบบมีทางเลือก 3 รู ปแบบ คือ คําสัง if และคําสัง switch การเขียนคําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ผูสร้างงานโปรแกรมระบบงานจําเป็ นต้องมีความรู ้ความเข้าใจในเรื องของ ้ รู ปแบบและประสิ ทธิภาพการทํางานของสัญลักษณ์ทีใช้ในการเขียนประโยคคําสังแบบนิพจน์ตรรกะ การสรุ ปค่าความ จริ งของนิพจน์ตรรกะ ซึงใช้หลักการเดียวกันกับตรรกศาสตร์วธีเขียนนิพจน์ตรรกะ กฎเกณ์ไวยากรณ์การเขียนคําสัง ิ ควบคุมมีทางเลือก และประสิ ทธิภาพการทํางานของคําสัง ั ประโยคคําสังแบบ if จะใช้กบงานกรณี ประโยคนิพจน์ตรรกะเป็ นเงือนไขซ้อนมากกว่า - ประโยค และต้องใช้ สัญลักษณ์เชือมประโยคเงือนไข เช่น พนักงานเป็ นเพศชายและสถานะภาพโสด ไม่มีขอจํากัดในประโยคคําสัง switch ้ จะใช้ในกรณี ทางเลือกการทํางานหลายทางเลือก แต่ควรเป็ นประโยคเงือนไขเดียว ไม่ใช่ประโยคนิพจน์ตรรกะทีเป็ น เงือนไขซ้อน และข้อมูลทีนํามาเปรี ยบเทียบเพือให้ระบบตัดสิ นใจนั5นต้องเป็ นตัวเลขจํานวนเต็มหรื ออักขระ
  • 13. อ้ างอิง รายงานเล่มนีอ้างอิงจาก ! หนังสื อ : คู่มือเรี ยนรู้ภาษาซี ผูแต่ง : พศ. รุ่ งทิวา เสาร์สิงห์ ้ เว็บไซต์ อ้างอิง. http://computerpasac54.blogspot.com/p/6_3263.html
  • 14. 1.1 กฎเกณ์ การกําหนดชือ ชือ (ldentifier) หมายถึง ชือหน่ วยความจําประเภทตัวแปร ชือหน่ วยความจําประเภทตัวแปรค่ าคงที หรือ ชือในส่ วนใดๆ ของโปรแกรมที ผู้สร้ างโปรแกรมเป็ นผู้กาหนดด้ วยตนเอง ํ การสร้ างโปรแกรม ระบบงานลักษณะมี ประโยคคําสังแบบ if จะใช้ กับงานกรณี ทางเลือกประมวลผล ประโยคนิพจน์ ตรรกะเป็ นเงือนไขซ้ อนมากกว่ า / มีจุดประสงค์ ควบคุมให้ ประโยค และต้ องใช้ สัญลักษณ์ เชือมประโยค ระบบสามารถทํางาน วิเคราะห์ เลือกทาง ประมวลผลทางใดทาง หนึงโดย อัตโนมัติ เพือให้ คล้ ายกับระบบ การประมวลผลของ การเขียนคําสังควบคุมมี สมองมนุษย์ ในเรืองการ ทางเลือก ภาษาคอมพิวเตอร์ จึง ใช้ ประโยชน์จาก ประสิทธิภาพการ ทํางานของ คอมพิวเตอร์ ที เหนือกว่าเครื อง คํานวณชนิดอืน ตรงที ประมวลผล การเขียนคําสังควบคุมแบบมีทางเลือก ผู้สร้ างงาน เปรี ยบเทียบแบบ โปรแกรมระบบงานจําเป็ นต้ องมีความรู้ความเข้ าใจในเรืองของ รูปแบบและประสิทธิภาพการทํางานของสัญลักษณ์ ทีใช้ ในการ ตรรกะทางคณิตศาสตร์ เขียนประโยคคําสังแบบนิพจน์ ตรรกะ การสรุ ปค่ าความจริงของ ได้ ทังนี .ระบบวิเคราะห์ . เปรี ยบเทียบของ คอมพิวเตอร์ กําหนดว่า
  • 15. คําถาม -.การเขียนคําสังกําหนดลักษณะการจัดการข้อมูล ให้หน่วยความจําซึ งมีดวยกันกีประเภท? ้ ก.- ข.3 ค.! ง._ 3.กฎเกณฑ์การกําหนดชื อมีกฎเกณฑ์ใดบ้าง? ก.อักขระแรกต้องเป็ นอักษร ข.ภาษาซี มีความแตกต่างของชือ ค.ห้ามใช้อกขระพิเศษ เช่น $ @ ง.ถูกทุกข้อ ั 3.ภาษาซี มีชนิดข้อมูลพื5นฐานให้เลือกใช้งานกีกลุ่ม? ก.- ข.! ค._ ง." _.คําสังกําหนดลักษณะข้อมูลให้เป็ นค่าคงทีมี ! ลักษณะ เช่น? ก.ไม่ตองกําหนดชื อหน่วยความจํารองรับข้อมูล ้ ข.กําหนดชือหน่วยความจํารองรับข้อมูล ค.เขียนบริ เวณส่ วนท้าย ในโครงสร้างภาษาซี ง.เขียนบริ เวณส่ วนโดเมนต์หลัก main () 5.ภาษาซี ไม่มีสัญลักษณ์ใด? ก.+ ข.-
  • 16. ค.* ง.^ 6.ตัวดําเนินการความสั มพันธ์ หรือการเปรียบเทียบไม่ มีสัญลักษณ์ ใด? ก.< ข.> ค.<= ง.;p 7.สัญลักษณ์ใช้เชือมประโยคคําสังแบบมีเงือนไข กีโมงประโยคขึ5นไป? ก.3 ค.) ค._ ง.f e.ตัวดําเนินการตรรกะมีสัญลักษณ์ แบบไหนบ้ าง? ก.&& ข.|| ค.! ง.% 9.การควบคุมการทํางานเชิงตรรกะในภาษาซี นอกจากคําสัง if แล้วยังมีคาสังอะไรอีก? ํ ก. switch ข.open ค.sever ง.start
  • 17. 10.ขั5นตอนการพัฒนางานโปรแกรมไม่มีโปรแกรมข้อใด ก.วิเคราะห์ระบบงานเบื5องต้น ข.ลําดับการทํางานด้วยผังงานโปรแกรม ค.คําสังควบคุมการทํางาน ง.ลําดับตัวเลข .........................................................
  • 18. เฉลย -. ค 3. ง 3. ข. 4. ก ". ง 6. ง f. ก 8. ง 9. ง -:. ง