More Related Content
More from Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
More from Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand (20)
กลุ่มก่อการร้ายอิสลาม
- 2. มูจาฮิดินทาลีบัน
ทาลิบัน กระบวนการอิสลามหัวรุนแรงในอัฟกานิสถาน ซึ่งมีอิทธิพลควบคุม
พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ กระบวนการทาลิบันจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 1994
โดยมูลลาห์ (พระอิสลาม) อาวุโส โมฮัมหมัด โอมาร์ ในเมืองกันดาฮาร์ทางภาคใต้ของ
อัฟกานิสถาน คาว่าทาลิบันหมายความว่า “ นักศึ กษา ” ซึ่ง คงจะหมายความถึง
นักศึกษาผู้ก่อกาเหนิดกระบวนการนี้ แม้ว่าในความเป็นจริงชั่วชีวิตของพวกทาลิบัน
ส่วนใหญ่จะรู้จักแต่สงครามและเคยเป็นนักศึกษาเพียงแค่การฝึกหัดทางศาสนาขั้น
พื้นฐานเท่านั้น
- 3. มูจาฮิดินทาลีบัน
ในปลายปี 1994 และ 1995 ทาลิบันได้เคลื่อนกาลังไปทั่วภาคใต้และตะวันตก
ของประเทศ ยึดครองเมืองกันดาฮาร์และเมืองอื่น ๆ อีกหลายเมืองที่มี ชาวปัชตูนส์
เป็นชนกลุ่มใหญ่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 1995 ทาลิบันได้เข้าประชิดกรุงคาบูล แต่ได้ถูก
ขับไล่ โดยกาลังของรัฐบาลในเดือนมีนาคม ต่อมาในเดือนตุลาคม พวกทาลิบันก็ได้รุก
คืบหน้าเข้าสู่เมืองหลวงอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการใช้จรวดและระเบิดถล่มกรุงคาบูลอย่าง
ต่อเนื่อง ทหารทาลิบันก็สามารถบุกเข้ายึดพื้นที่ทางตะวันออกและพื้นที่ตอนกลางของ
ประเทศเอาไว้ได้
- 4. มูจาฮิดินทาลีบัน
ตลอดปี 1996 พวกทาลิบันได้ปิดล้อมเมืองกรุงคาบูล จนกระทั่งสามารถบุกเข้า
เมืองและยึดเอาไว้ได้ในที่สุดในเดือนกันยายน กองทัพและเจ้าหน้าฝ่ายรัฐบาลรวมทั้ง
ประธานาธิบดี บูรานุดดิน รับ บานี และนายกรัฐมนตรี กัลบุดดิน เฮกมาทยาร์ ได้
หลบหนีไปทางภาคเหนือของประเทศ ภายหลังจากที่เมืองหลวงตกอยู่ภายใต้การยึด
ครองของทาลิบันได้ไม่นาน นายโมฮัมหมัด นาจิบูลลาห์ ประธานาธิบดีคนสุดท้าย ซึ่ง
ได้ รั บ การหนุ น หลัง จากโซเวี ย ด และนายซาห์ ปูร อาหมาดซาย น้ อ ยชายซึ่ง เป็ น
หัวหน้ารักษาความปลอดภัย ก็ถูกจับและแขวนคอในที่สาธารณะ
- 5. มูจาฮิดินทาลีบัน
หลังจากยึดกรุงคาบูลได้แล้วพวกทาลิบันก็ได้ตั้งตัวเป็นรัฐบาล รัฐมนตรีรักษา
ระเบียบแบบแผน ได้บังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดให้ประชาชนปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง
และห้ามในสิ่งผิดพวกทาลิบันลงโทษผู้กระทาความผิดในคดีฆาตกรรม ชู้สาว และค้า
ยาเสพติด ถึงตาย และอนุญาตให้มีการทาประชาทัณฑ์ด้วยการใช้ก้อนหินขว้างใส่
ผู้กระทาผิด กฎหมายหลายข้อได้รับการทักท้วงจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน และเป็นที่
ตาหนิไปทั่วโลก
- 6. มูจาฮิดินทาลีบัน
การยึดครองกรุงคาบูลของทาลิบันเมื่อปี 1996 ทาให้ทาลิบันสามารถ
ครอบครองดินแดนได้มากขึ้น และทหารทาลิบันก็ได้รุกคืบหน้าเข้าสู่ฐานที่มั่นของกลุ่ม
ทาจิกส์, อุซเบกส์ และฮาซาราส์ ทางภาคเหนือ ในปลายทศวรรษที่ 1990 กลุ่มทาลิ
บันสามารถยึดพื้นที่อัฟกานิสถานได้เกือบทั้งหมด รัฐบาลทาลิบันได้ให้ความปกป้อง
คุ้มครองแก่โอซามา บิน ลาเด็น ( Osama bin Laden) ผู้นาอิสลามหัวรุนแรง ซึ่ง
สหรัฐระบุว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายโจมตีสถานทูตสหรัฐ ในอัฟริกาเมื่อปี
1998 และโจมตีตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ผู้นาทาลิบันได้ปฏิเสธ ข้อเรียกร้องของสหรัฐที่
ให้ส่งมอบบินลาเด็น และในเดือนตุลาคม สหรัฐก็ได้เริ่มการโจมตีทางอากาศต่อ
เป้าหมายทาลิบัน ในขณะเดียวกันกองกาลังภาคพื้นดินของกลุ่มพันธมิตรฝ่ายเหนือก็
ได้ปฏิบัติการรุกเข้าสู่กรุงคาบูลและพื้นที่ยุทธศาสตร์สาคัญอื่น ๆ โดยมุ่งที่จะล้มล้าง
รัฐบาล ทาลิบัน ลงให้ได้
- 7. อัลกออิดะฮ์
อัลกออิดะฮ์ หรือ อัลเกดาห์ เป็นกลุ่มก่อการร้ายสากลชาวอิสลาม ก่อตั้งขึ้น
เมื่อ พ.ศ. 2531 มีนายอุซามะฮ์ บิน ลาดิน และนายอัยมัน อัซเซาะวาฮิรี เป็นหัวหน้า
อัลกออิดะฮ์เป็นองค์กรทางทหารของมุสลิมนิกายซุนนี มีเป้าหมายเพื่อขับไล่
อิทธิพลของต่างชาติออกไปจากประเทศมุสลิม สมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้นับถือลัทธิวะฮา
บีย์หรือซาฟาอีย์ อัลกออิดะฮ์เป็นที่รู้จักจากการก่อวินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ.
2544
- 8. อัลกออิดะฮ์ : ญิฮาดในอัฟกานิสถาน
จุดกาเนิดของกลุ่มเริ่มขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์หลังโซเวียตรุกรานอัฟกานิสถาน
ใน พ.ศ. 2522 โดยการบริหารของชาวอาหรับจากต่างประเทศในชื่อมุญาฮิดีน
สนับสนุนทางการเงินโดยบิน ลาดินและการบริจาคของชาวมุสลิม สหรัฐมองว่าการ
รุกรานอัฟกานิสถานของโซเวียตเป็นส่วนหนึ่งของสงครามเย็น หน่วยสืบราชการลับได้
ให้ความช่วยเหลือกลุ่มดังกล่าวผ่านทางปากีสถาน อัลกออิดะฮ์พัฒนาจากกลุ่ม
Maktab al-Khadamat ที่เป็นส่วนหนึ่งของมุญาฮิดีน สมาชิกส่วนใหญ่เป็นทหารชาว
ปาเลสไตน์ และได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐเช่นเดียวกับมุญาฮิดีนกลุ่มอื่นๆ การสู้รบ
ดาเนินไป 9 ปี จนสหภาพโซเวียตถอนตัวออกจากอัฟกานิสถานใน พ.ศ. 2532
รัฐบาลสังคมนิยมของ โมฮัมเหม็ด นาจิบุลลอห์ ถูกมุญาฮิดีนล้มล้าง แต่เนื่องจากผูนา้
กลุ่มมุญาฮิดีนไม่สามารถตกลงกันได้ ความวุ่นวายจากการแย่งชิงอานาจจึงตามมา
- 9. อัลกออิดะฮ์ : สงครามอ่าวเปอร์เซียและเริ่มต้นต่อต้านสหรัฐ
เมื่อสงครามในอัฟกานิสถานสิ้นสุดลง บิน ลาดินเดินทางกลับสู่
ซาอุดีอาระเบีย เมื่อเกิดการรุกรานคูเวตของอิรักใน พ.ศ. 2533 บิน ลาดินได้เสนอให้
ใช้นักรบมุญาฮิดีนของเขาร่วมมือกับกษัตริย์ฟาฮัด เพื่อปกป้องซาอุดีอาระเบียจากการ
รุกรานของอิรักที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ราชวงศ์ซาอุดีอาระเบียปฏิเสธและหันไปอนุญาต
ให้สหรัฐเข้ามาตั้งฐานทัพในซาอุดีอาระเบีย ทาให่บิน ลาดินไม่พอใจ เพราะเขาไม่
ต้องการให้มีกองทหารต่างชาติในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม (คือเมกกะและ
เมดีนา) การที่เขาออกมาต่อต้านทาให้เขาถูกบีบให้ไปซูดานและถูกถอนสัญชาติ
ซาอุดีอาระเบีย
- 10. อัลกออิดะฮ์ : บอสเนีย
การประกาศเอกราชของบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนาออกจากยูโกสลาเวียในเดือน
ตุลาคม พ.ศ. 2534 ทาให้เกิดความขัดแย้งทางเชื้อชาติและศาสนาแห่งใหม่ในยุโรปใน
บอสเนีย ชนส่วนใหญ่เป็นมุสลิมแต่ก็มีชาวเซิร์บที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายกรีกออร์
ทอดอกซ์และชาวโครแอตนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ทาให้เกิดความ
ขัดแย้งที่เป็นสามเส้าขึ้น โดยเซอร์เบียและโครเอเชียหนุนหลังชาวเซิร์บและชาวโคร
แอตที่มีเชื้อชาติเดียวกันตามลาดับ เหล่านักรบอาหรับในอัฟกานิสถานเห็นว่าสงคราม
ในบอสเนียเป็นโอกาสอันดีที่จะปกป้องศาสนาอิสลาม ทาให้กลุ่มต่างๆเหล่านี้
รวมทั้งอัลกออิดะฮ์เข้าร่วมในสงคราม ตั้งเป็นกลุ่มมุญาฮิดีนบอสเนีย โดยนักรบส่วน
ใหญ่เป็นชาวอาหรับไม่ใช่ชาวบอสเนีย
- 11. อัลกออิดะฮ์ : ผู้ลี้ภัยในอัฟกานิสถาน
หลังจากการถอนตัวของสหภาพโซเวียต อัฟกานิสถานอยูในสภาพวุ่นวายถึง 7 ปี
่
จากการสู้รบของกลุ่มที่เคยเป็นพันธมิตรกัน ในช่วง พ.ศ. 2533 มีกลุ่มใหม่เกิดขึ้นคือกลุ่มตา
ลีบันหรือตอลิบาน
หลังจากซูดานได้บีบให้บิน ลาดินและกลุมของเขาออกนอกประเทศ เป็นเวลา
่
เดียวกับทีตอลิบานมีอานาจในอัฟกานิสถาน บิน ลาดินจึงเข้าไปตั้งมั่นในเขตจะลาลาบาด ใน
่
เวลานั้นมีเพียงปากีสถาน ซาอุดอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เท่านั้นที่ยอมรับว่าตอลิ
ี
บานเป็นรัฐบาลของอัฟกานิสถาน บิน ลาดินพานักในอัฟกานิสถาน จัดตังค่ายฝึกนักรบ
้
มุสลิมจากทั่วโลก จนกระทังรัฐบาลตอลิบานถูกขับไล่โดยกองกาลังผสมภายในประเทศ
่
ร่วมกับกองทหารสหรัฐใน พ.ศ. 2544 หลังจากนันเชือกันว่า บิน ลาดินยังคงพานักกับกลุม
้ ่ ่
ตอลิบานในบริเวณชายแดนปากีสถาน
- 12. อัลกออิดะฮ์ : วินาศกรรม 11 กันยายน และปฏิกิริยาของสหรัฐ
การก่อวินาศกรรม 11 กันยายน ทาให้สหรัฐและนาโตออกมาต่อต้านอัลกออิ
ดะฮ์ และฟัตวาห์ พ.ศ. 2541 หลังจากนั้น สหรัฐได้มีปฏิบัติการทางทหารโต้ตอบ
เรียกร้องให้ มุลลาห์ โอมาร์ ผู้นาตอลิบานส่งตัว บิน ลาดินมาให้ แต่ตอลิบานเลือกที่
จะส่งตัว บิน ลาดินให้ประเทศที่เป็นกลาง สหรัฐจึงส่งกองทัพอากาศทิ้งระเบิดทาลาย
ที่มั่นที่เชื่อว่าเป็นแหล่งกบดานของอัลกออิดะฮ์ และส่งปฏิบัติการทางทหาร
ภาคพื้นดินร่วมกับพันธมิตรฝ่ายเหนือเพื่อล้มล้างรัฐบาลตอลิบาน
หลังจากถูกกวาดล้าง กลุ่มอัลกออิดะฮ์พยายามรวมตัวอีกครั้งในเขต Gardez
แต่ยังคงถูกโจมตีจากฝ่ายสหรัฐ ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2545 กองทัพอัลกออิดะฮ์ถูกทาลาย
จนลดประสิทธิภาพลงมาก ซึ่งเป็นความสาเร็จในขั้นต้นของการรุกรานอัฟกานิสถาน
- 13. อัลกออิดะฮ์ :กิจกรรมในอิรัก
บิน ลาดิน เริ่มให้ความสนใจอิรักตั้งแต่สงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.
2533 หน่วยทหารของอัลกออิดะฮ์เริ่มวางระเบิดกองบัญชาการของสหประชาชาติ
และกาชาดสากล พ.ศ. 2547 ฐานที่มั่นของอัลกออิดะฮ์ในเมืองฟาลูยะห์ ถูกโจมตีและ
ปิดล้อมด้วยกองทหารสหรัฐ แต่อัลกออิดะฮ์ยังคงโจมตีทั่วอิรัก
Abu Musab al-Zarqawi ทหารชาวจอร์แดนเป็นผู้จัดตั้งองค์กร "Jama'at al-
Tawhid wal-Jihad" เมื่อ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2547 และประกาศเป็นตัวแทนของอัล
กออิดะฮ์ในอิรัก หลังจากเขาถูกฆ่าจากการโจมตีทางอากาศโดยสหรัฐเมื่อ 7 มิถุนายน
พ.ศ. 2549 ที่ Baqubah เชื่อกันว่า Abu Ayyub al-Masri ขึ้นเป็นผู้นาอัลกออิดะฮ์ใน
อิรักแทน
- 14. ญะมาอะห์ อิสลามียะห์
ญะมาอะห์ อิสลามียะห์ เป็นกลุมก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาด
่
ว่าก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2533 การมีอยู่ขององค์กรนี้ยังไม่แน่ชัด แต่ก็มีนักวิชาการเชื่อว่า
มีศูนย์กลางอยู่ในอินโดนีเซีย เป้าหมายหลักขององค์กรคืดก่อตั้งรัฐอิสลามในเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้โดยครอบคลุมพื้นที่ของมาเลเซีย อินโดนีเซีย ภาคใต้ของ
ฟิลิปปินส์ และจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย เครือข่ายของเจไอเชื่อมโยงกับอัลกออิ
ดะฮ์ แนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร และกลุ่มกัมปูลัน มุญาฮืดีนในมาเลเซีย
- 15. ญะมาอะห์ อิสลามียะห์ : ประวัติ
กลุ่มเจไอมีวิวัฒนาการมาจากกลุมดารุลอิสลามในอินโดนีเซียซึ่งต้องการ
่
สถาปนารัฐอิสลามในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมี เซกามัดยี มาริดจัน กาโตสุ
วิรโจเป็นผู้นาในขณะนั้น อย่างไรก็ตามกลุ่มชาตินิยมของซูการ์โนเป็นกลุ่มที่ได้ก่อตั้ง
ประเทศอินโดนีเซียสาเร็จ กลุ่มดารุลอิสลามเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และถูกฝ่ายรัฐบาล
ปราบปราม
อับดุลลา อาหมัด ซุงกาและเพื่อนของเขาคือ นายอาบูบาการ์ บาชีร์ หรือ นาย
อาบู บาการ์ บาเชียร์ เป็นผู้เลื่อมใสแนวคิดดารุลอิสลามและเป็นผูก่อตั้งขบวนการเจ
้
ไอในเวลาต่อมา ทั้งคู่ได้ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2514 และได้ตั้ง
เครือข่ายเยาวชนขึ้นดาเนินการ จนกระทั่งเกิดเหตุระเบิดที่เมืองตันหยงปริอ็อกเมื่อ
พ.ศ. 2527 ที่ทั้งคู่อยู่เบื้องหลัง ทั้งซุงกาและบาชีรหนีไปมาเลเซียเมื่อ พ.ศ. 2528 และ
์
ได้ตั้งขบวนการเจไอเต็มรูปแบบขึ้นที่นี่
- 16. ญะมาอะห์ อิสลามียะห์ : ประวัติ
เริ่มแรกทั้งคู่เปิดโรงเรียนสอนศาสนาชื่ออัลตาบิยะห์ ลุกมานุลอาดัมในรัฐยะ
โฮร์เพื่อเป็นศูนย์บัญชาการ ซุงกาเปลี่ยนชื่อเป็นอับดุล ฮาลิม ส่วนบาชีร์เปลี่ยนชื่อเป็น
อับดุล ซามัด โดยมีกลุ่มมวลชนเป็นแรงงานชาวอินโดนีเซียและชาวมาเลเซียบางส่วน
โรงเรียนนี้เป็นสถานที่ฝึกและคัดเลือกเยาวชนไปฝึกวิชาทหารที่เมืองการาจี ประเทศ
ปากีสถาน รวมทั้งเข้ารบในสมรภูมิจริงในอัฟกานิสถานด้วย
เมื่อยุคของรัฐบาลซูฮาร์โตสิ้นสุดลงใน พ.ศ. 2541 ซุงกาและบาชีร์เดินทางกลับ
อินโดนีเซีย ซุงกาถึงแก่กรรมแล้วด้วยโรคชราส่วนบาชีร์ยังเป็นผู้นาทางจิตวิญญาณ
ต่อไป
- 17. ญะมาอะห์ อิสลามียะห์ : จุดมุ่งหมาย
ขบวนการเจไอต้องการให้มีการบังคับใช้กฎหมายอิสลาม (ชาริอะห์) เป็น
กฎหมายประจารัฐ และตั้งรัฐอิสลามบริสุทธิ์ที่เรียกว่า “ดอเลาะ อิสลามิยาห์ นุสันตา
รา” โดยมีกลยุทธที่สาคัญคือ พลังศรัทธา พลังภราดรภาพ และพลังการทหาร
- 18. ญะมาอะห์ อิสลามียะห์ : การบังคับบัญชา
นายอาบู บาการ์ บาเชียร์ ครูสอนศาสนาชาวอินโดนีเซีย คือบุคคลที่เชื่อว่าเป็น
ผู้นาทางศาสนาของกลุ่มญะมาอะห์ อิสลามียะห์ หรือ เจมาห์ อิสลามิยาห์ นายบา
เชียร์เข้าร่วมกับกลุ่มดารุล อิสลาม ในช่วงทศวรรษที่ 1970 และถูกทางการ
อินโดนีเซียจับกุมไปขังเนื่องจากการเคลื่อนไหวทางศาสนา แต่ได้รับการปล่อยตัว
ออกมาระยะหนึ่ง และได้หลบหนีไปยังประเทศมาเลเซียเมื่อปี พ.ศ. 2528 หลังจากที่
ศาลอินโดนีเซียมีคาสั่งให้จับกุมตัวนายบาเชียร์ไปคุมขังอีกครั้งหนึ่ง ระหว่างที่พานัก
อยู่ในมาเลเซีย นายบาเชียร์ได้รวบรวมอาสาสมัครเพื่อไปร่วมทาสงครามต่อต้าน
กองทัพรัสเซียที่บุกยึดประเทศอาฟกานิสถาน โดยได้รับเงินสนับสนุนจาก
ซาอุดิอาระเบีย ขณะเดียวกันนายบาเชียร์ก็ยังคงติดต่อกับพวกพ้องที่มีแนวคิด
เดียวกันในอินโดนีเซียอย่างสม่าเสมอ
- 19. ญะมาอะห์ อิสลามียะห์ : การบังคับบัญชา
หลังจากที่ระบอบเผด็จการของอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต้ยุติลงเมื่อปี พ.ศ.
2541 นายบาเชียร์ เดินทางกลับไปยังประเทศอินโดนีเซีย และเปิดโรงเรียนสอน
ศาสนาขึ้นที่เมืองโซโล บนเกาะชวา ซึ่งประชนชนส่วนใหญ่บนเกาะนี้ เป็นชาวมุสลิม
พร้อมก้าวขึ้นดารงตาแหน่งประธานสภานักรบมุสลิมแห่งอินโดนีเซีย (Indonesia
Mujahedeen Council) ซึ่งเป็นแกนนาเครือข่ายนักรบมุสลิมในอินโดนีเซีย
นายบาเชียร์ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย และหลังจากเกิด
เหตุลอบวางระเบิดที่เกาะบาหลี เมื่อเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2545 ทางการอินโดนีเซีย ได้
เรียกตัวนายบาเชียร์มาให้ปากคาเกี่ยวกับกรณีการลอบโจมตีที่เคยเกิดขึ้นหลายครั้ง
ก่อนหน้านั้น ปัจจุบันนายบาเชียร์ถูกดาเนินคดีในข้อหากบฏต่อแผ่นดิน โดยมีสาเหตุ
มาจากพฤติกรรมและความเกี่ยวพันกับการก่อการร้ายที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
- 20. ญะมาอะห์ อิสลามียะห์ : ปฏิบัติการ
กลุ่มเจไอออกมาประกาศความรับผิดชอบการลอบวางระเบิดโรงแรมเจ ดับเบิล
ยู แมริออต ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2543 และ
คาดว่าอยู่เบื้องหลังกรวางระเบิดในสถานบันเทิงที่เกาะบาหลีเมื่อ 12 ตุลาคม พ.ศ.
2545 ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2546 เจ้าหน้าที่ไทยจับกุมตัวนายฮัมบาลีที่เป็นแกนนา
ของกลุ่มเจไอ และคาดว่ามีส่วนพัวพันการลอบวางระเบิดในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
หลายครั้ง
- 21. ญะมาอะห์ อิสลามียะห์ : ปฏิบัติการ
พื้นที่ปฏิบัติการของกลุ่มเจไอ อยู่ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งใน
อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และอาจจะเคลื่อนไหวอยู่ในฟิลิปปินส์ และไทย
โดยเฉพาะพื้นที่ที่อานาจของรัฐบาลเข้าไปไม่ถึง, พื้นที่ที่ขาดแคลนเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
หรือมีการทุจริตคอร์รัปชั่นในหมู่เจ้าหน้าที่ และพื้นที่ติดทะเลที่มีเขตน่านน้าที่เปิด
กว้างของหลายประเทศ ทาให้กลุ่มเจไออาศัยข้อจากัดเหล่านี้ เป็นช่องทางในการ
ปฏิบัติการได้อย่างในหลายประเทศได้โดยสะดวก
- 22. เอกสารอ้างอิง
http://www.taharn.net/y/44k1.html
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A5%
E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0
%B8%B0%E0%B8%AE%E0%B9%8C
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8D%E0%B8%B0%E0%B8%A1%
E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C_%E0
%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B
8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%
8C