More Related Content
Similar to มัทนะพาธา (20)
มัทนะพาธา
- 1. ทนะพาธา เป็ นบทละครพูดคาฉันท์ 5 องก์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยูหวทรงพระราชนิพนธ์ข้ ึน เมื่อ พ.ศ. 2466
่ ั
เล่าเรื่ องว่าด้วยตานานเกี่ยวกับดอกกุหลาบ
เนื้อเรื่อง
นางมัทนาไปจุติเป็ นกุหลาบงามอยูในป่ าหิมะวัน บรรดาศิษย์ของฤาษีนามกาละทรรศินมาพบเข้า จึงนาความไปบอกพระ
่
อาจารย์ กาละทรรศินจึงให้ขดไปปลูกในบริ เวณอาศรมของตน ในขณะที่จะทาการขุดก็มีเสี ยงผูหญิงร้อง กาละทรรศินเล็ง
ุ ้
ญาณดูกรู้ว่าเป็ นเทพธิดามาจุติ จึงได้เอ่ยเชิญและสัญญาว่าจะคอยดูแลปกป้ องสื บไป พอถึงอาศรมพระฤาษีจึงถามว่า ทาไม
็
เทพธิดาจึงมาเกิดเป็ นดอกไม้ในโลกมนุษย์ นางมัทนาจึงตอบว่า เดิมแล้วนางชื่อ มัทนา ถูกสาปให้มาเกิดในโลกมุษย์ เพราะ
จอมเทพสุ เทษณ์เป็ นเทพผูใหญ่บนสรวงสวรรค์ เป็ นทุกข์อยูดวยความลุ่มหลงเทพธิดามัทนา แม้จิตระรถผูสารถีคู่บารมีจะ
้ ่ ้ ้
นารู ปของเทพเทวีผเู ้ ลอโฉมหลายต่อหลายองค์มา ถวายให้เลือกชม สุ เทษณ์กมิสนใจใยดี จิตระรถจึงนามายาวินวิทยาธรมา
็
เฝ้ า สุ เทษณ์ให้มายาวินใช้เวทมนตร์ เรี ยกนางมัทนามาหา เมื่อมาแล้วนางมัทนาก็เหม่อลอยมิมีสติสมบูรณ์เพราะตกอยูใน
่
ฤทธิ์มนตรา สุ เทษณ์มิตองการได้นางด้วยวิธีเยียงนั้น จึงให้มายาวินคลายมนตร์ แต่ครั้นได้สติแล้ว นางมัทนาก็ปฏิเสธว่ามิมี
้ ่
จิตเสน่หาตอบด้วยมิว่าสุ เทษณ์จะเกี้ยวพาและราพันรัก อย่างไร สุ เทษณ์โกรธนักจึงจะสาปมัทนาให้ไปเกิดในโลกมนุษย์จึง
ถามมัทนาว่าจะให้ไปเกิด เป็ นอะไรในโลกมนุษย์ มัทนาจึงตอบว่า ให้นางไปเกิดเป็ นดอกไม้ไม่มีในโลกมนุษย์ จอมสุ เทษณ์
จึงคิดว่าน่าจะเกิดเป็ นดอกกุหลาบ เพราะดอกกุหลาบไม่มีในโลกมนุษย์ และมีสีสันสวยงาม กลิ่นหอม และเหมาะสมกับนาง
มัทนามาก โดยที่ในทุกๆ 1 เดือน นางมัทนาจะกลายร่ างเป็ นคนได้ชว 1 วัน 1 คืน ในเฉพาะวันเพ็ญของแต่ละเดือนเท่านั้น
ั่
และถ้านางมีความรักเมื่อใด นางก็จะมิตองคืนรู ปเป็ นกุหลาบอีก แต่นางจะได้รับความทุกข์ทรมานเพราะความรักจนมิอาจ
้
ทนอยูได้ และเมือนั้นถ้านางอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ ตนจึงจะงดโทษทัณฑ์น้ ีให้แก่นาง วันเพ็ญในเดือนหนึ่งท้าวชัยเสน
่
กษัตริ ยแห่งหัสตินาปุระได้เสด็จออกล่าสัตว์ ในป่ าหิมะวันและได้แวะมาพักที่อาศรมพระฤๅษี ครั้นท้าวชัยเสนได้เห็นว่าฟ้ า
์
ั ั ี ่
นั้นมืดแล้ว และได้เห็นพื้นที่ของพระฤาษีน้ นสงบ จึงขอพระฤาษีมาพักที่น้ น พระฤาาีจึงสังให้มทนาไปเตรี ยมเรื่ องอาหาร
ั
พอมัทนาเตรี ยมอาหารเสร็ จจึงไปบอกพระฤาษี ขณะนั้นท้าวชัยเสนได้เห็นนางมัทนา ท้าวชัยเสนจึงตกตะลึงในความงาม
ของมัทนา จึงตรัสถาพระฤาษี พระฤาษีจึงเล่าคความจริ งทุกอย่างให้ทาวชัยเสนฟัง
้
ท้าวชัยเสนก็นึกสงสารนางมัทนา และราพันถึงความรักที่มีต่อนางมัทนา ครั้นเมื่อนางมัทนาออกมาที่ลานหน้าอาศรมก็มเิ ห็น
ผูใด ด้วยเพราะท้าวชัยเสนหลบไปแฝงอยูหลังต้นไม้ใหญ่ นางมัทนาได้พรรณาถึงความรักที่เกิดขึ้นในใจอย่างท่วมท้น ท้าว
้ ่
ชัยเสนได้สดับฟังทุกถ้อยความจึงเผยตัวออกมาทั้งสองจึงกล่าวถึงความ รู ้สึกอันล้ าลึกในใจที่ตรงกันจนเข้าใจในรักที่มีต่อ
กัน จากค่าคืนถึงยามรุ่ งอรุ ณ ท้าวชัยเสนจึงทรงประกาศหมั้นและคาสัญญารัก ณ ริ มฝั่งลาธารใกล้อาศรมนั้น
เมื่อมีความรักแล้ว นางมัทนาก็ยงคงรู ปเป็ นนารี ผงดงาม มิตองกลายรู ปเป็ นกุหลาบอีก ท้าวชัยเสนได้ทูลขอนางมัทนา พระ
ั ู้ ้
ฤาษีกยกให้โดยให้จดพิธีบูชาทวยเทพและพิธีวิวาหมงคลในป่ านั้นเสี ยก่อน
็ ั
ท้าวชัยเสนเสด็จกลับวังหลายเพลาแล้วแต่กมิได้เสด็จไปยังพระตาหนักข้างใน ด้วยว่ายังทรงประทับอยูแต่ในอุทยาน พระ
็ ่
นางจัณฑี มเหสี ให้นางกานัลมาสื บดูจนรู ้ว่าพระสวามีนาสาวชาวป่ ามาด้วย จึงตามมาพบท้าวชัยเสนกาลังอยูกบนางมัทนา
่ ั
พอดี เมื่อพระนางจัณฑีเจรจาค่อนขอดดูหมิ่นนางมัทนา ท้าวชัยเสนก็กริ้ วและทรงดุด่าว่าเป็ นมเหสี ผูริษยา
้
พระนางจัณฑีแค้นใจนัก ให้คนไปทูลฟ้ องพระบิดาผูเ้ ป็ นเจ้าแห่งมคธนครให้ยกทัพมาทาศึกกับท้าวชัยเสน โดยก่อนที่พระ
นางจัณฑีจะส่ งหนังสื อให้แก่พระบิดาของพระนางจัณฑีทาวชัยเสน รู ้ล่วงหน้าแล้ว จึงสั่งให้ไพร่ พลทหารเตรี ยมตัวฝึ กซ้อม
้
- 2. เพื่อที่จะไปรบกับพระบิดาของพระนางจัณ ฑี ส่ วนพระบิดาของพระนางจัณฑีพอได้รับหนังสื อจากพระนางจัณฑีแล้วก็ได้
สังให้ ออกรบทันที พอถึงการรบฝ่ ายพระบิดาของพระนางจัณฑีน้ นเสี ยเปรี ยบอย่างเห็นได้ชด เพราะ ทหารของพระบิดา
่ ั ั
ของพระนางจัณฑีไม่ได้ฝึกซ้อมกันมาก่อนและไม่ได้ออกรบมานาน พระนางจัณฑีพอรู ้ดงนั้นก็คิดแผนกับนางค่อมอราลี
ั
และวิทูรพราหมณ์หมอเสน่ห์ ทาอุบายกลันแกล้งนางมัทนาโดยส่ งหนังสื อไปทูลท้าวชัยเสนว่านางมัทนาป่ วย ครั้นเมื่อท้าว
่
ชัยเสนรี บเสด็จกลับมาเยียมนางมัทนา ก็กลับพบหมอพราหมณ์กาลังทาพิธีอยูใกล้ๆต้นกุหลาบ วิทูรกับนางเกศินีขาหลวง
่ ่ ้
ของนางจัณฑีจึงทูลใส่ ความว่านางมัทนาให้ทาเสน่ห์ เพื่อให้ได้ร่วมชื่นชูสมสู่ กบศุภางค์ ท้าวชัยเสนกริ้ วนัก รับสังให้ศุภางค์
ั ่
ประหารนางมัทนาแต่ศุภางค์ไม่ยอม เพราะตนรู ้ดอยูแล้วว่าทั้งหมดเป็ นแผนของพระนางจัณฑี จึงพยายามเล่าความจริ งให้
ี ่
ท้าวชัยเสนฟัง แต่ทาวชัยเสนนั้นไม่มีสติดวยความโกรธและโทสะ ศุภางค์หมดปัญญาที่จะเล่าความจริ งให้ทาวชัยเสนฟัง
้ ้ ้
พระนางจัณฑีได้ช่องรี บเข้ามาทูลว่าตนจะอาสาออกไปห้ามศึกพระบิดาซึ่ งคง เข้าใจผิดว่านางกับท้าวชัยเสนนั้นบาดหมาง
กัน แต่ทาวชัยเสนตรัสว่าทรงรู ้ทนอุบายของนางที่คิดก่อศึกแล้วจะห้ามศึกเอง พระองค์จะขอออกทาศึกอีกคราแล้วตัดหัว
้ ั
กษัตริ ยมคธพ่อตาเอามาให้นางผูขบถต่อ สวามีตนเอง
์ ้
ขณะตั้งค่ายรบอยูท่นอกเมือง วิทูรพรหมณ์เฒ่าได้มาขอเข้าเฝ้ าท้าวชัยเสนเพื่อสารภาพความทั้งปวงว่าพระนาง จัณฑีเป็ นผู ้
่ ี
วางแผนการร้าย ซึ่ งในที่สุดแล้วตนสานึกผิดและละอายต่อบาปที่เป้ นเหตุให้คนบริ สุทธิ์ตองได้ รับโทษประหาร ท้าวชัยเสน
้
ทราบความจริ งแล้วคังแค้นจนดาริ จะแทงตนเองให้ตาย แต่อามาตย์นนทิวรรธนะเข้าห้ามไว้ทนและสารภาพว่าในคืนเกิดเหตุ
่ ั ั
นั้นตนละเมิด คาสั่ง มิได้ประหารศุภางค์และนางมัทนา หากแต่ได้ปล่อยเข้าป่ าไป ซึ่ งนางมัทนานั้นได้โสมะทัตศิษญ์เอกของ
ฤษีกาละทรรศินนาพากลับสู่ อาศรมเดิม แต่ศุภางค์น้ นแฝงกลับเข้าไปร่ วมกับกองทัพแล้วออกต่อสู กบข้าสึ กจนตัวตาย ท้าว
ั ้ ั
ชัยเสนจึงรับสังให้ประหารท้าวมคธที่ถูกจับมาเป็ นเชลยไว้ก่อนหน้านั้น แล้ว ส่ วนพระนางจัณฑีมเหสี น้ นทรงให้เนรเทศ
่ ั
ออกนอกพระนคร ด้วยทรงเห็นว่าอันนารี ผมีใจมุ่งร้ายต่อผูเ้ ป็ นสามีกคงต้องแพ้ภยตนเอง มิอาจอยูเ่ ป็ นสุ ขได้นานแน่
ู้ ็ ั
ฝ่ ายนางมัทนานั้นได้ทาพิธีบูชาเทพและวอนขอร้องให้สุเทษณ์จอมเทพช่วยนาง ด้วย สุ เทษณ์น้ นก็ยนดีจะแก้คาสาปและรับ
ั ิ
นางเป็ นมเหสี แต่นางมัทนาก็ยงคงปฏิเสธและว่าอันนารี จะมีสองสามีได้อย่างไร สุ เทษณ์เห็นว่านางมัทนายังคงปฏิเสธความ
ั
รักของตนจึงกริ้ วนักสาปส่ งให้นางมัท นาเป็ นดอกกุหลาบไปตลอดกาล มิอาจกลายร่ างเป็ นมนุษย์ได้อีกต่อไป
เมื่อท้าวชัยเสนตามมาถึงในป่ า นางปริ ยมวะทาที่ตามมาปรนนิบตดูแลนางมัทนาด้วยก็ทูลเล่าความทั้งสิ้ นให้ ทรงทราบ ท้าว
ั ัิ
ชัยเสนจึงร้องร่ าให้ดวยความอาลัยรักแล้วขอให้พระฤษีช่วย โดยใช้มนตราและกล่าวเชิญนางมัทนาให้ยนยอมกลับเข้าไปยัง
้ ิ
เวียงวังกับตนอีกครา
เมื่อพระฤษีทาพิธีแล้ว ท้าวชัยเสนก็ราพันถึงความหลงผิดและความรักที่มีต่อนางมัทนาให้ตนกุหลาบได้ รับรู ้ จากนั้นจึง
้
สามารถขุดต้นกุหลาบได้สาเร็ จ ท้าวชัยเสนได้นาต้นกุหลาบขึ้นวอทองเพื่อนากลับไปปลูกในอุทยาน และขอให้ฤๅษีกา
ละทรรศินให้พรวิเศษว่ากุหลาบจะยังคงงดงามมิโรยราตราบจนกว่า ตัวพระองค์เองจะสิ้ นอายุขย พระฤษีกอวยพรให้ดงใจ
ั ็ ั
และประสิ ทธิประสาทพรให้กุหลาบนั้นดารงอยูคู่โลกนี้มิมีสูญพันธ์ อีกทั้งยังเป็ นไม้ดอกที่กลิ่นอันหอมหวานสามารถช่วย
่
ดับทุกข์ในใจคนและดล บันดาลให้จิตใจเบิกบานเป็ นสุ ขได้ ชาย-หญิงเมื่อมีรักก็จกใช้ดอกกุหลาบเป็ นสัญญลักษณ์แห่ง
ั
ความรักแท้สืบต่อไป
มัทนะพาธาในวัฒนธรรมร่ วมสมัย
- 3. สมเถา สุ จริ ตกุลได้ประพันธ์อุปรากรเรื่ อง มัทนา ตามเนื้อเรื่ องของพระราชนิพนธ์เรื่ องมัทนะพาธา
อ้ างอิง