SlideShare a Scribd company logo
1 of 35
โครงการ
เรื่อง Up And Down
เสนอ
คุณครู ทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม
จัดทาโดย
1.นายภานุ เวียนสันเทียะ เลขที่ 4
2.นายอังกูร กาญจนพิสิฐ เลขที่ 5
3.นางสาววราภรณ์ ช้างเขียว เลขที่ 25
4.นางสาววิชญาพร ปลีบุตร เลขที่ 26
5.นางสาวไอญาดา อาชวพิสิฐ เลขที่ 27
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา IS 3
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
ก
คานา
รายงาน เล่มนี้ เป็ น โ ครงง าน ที่ คณ ะ ผู้จัดทาได้ต่อยอดจากโครง งาน เรื่ อง
สารวจนักเรียนที่เข้าข่ายโรคอ้วน ได้รู้ผลว่านักเรียนไม่มีเวลาออกกาลังกายใช้เวลาอยู่กับการเรียน
ขี้ เกี ย จ อ อ ก ก าลั ง ก า ย ค ณ ะ ผู้ จัด ท า จึ ง ไ ด้ ท าโ ค ร ง ง าน เรื่ อ ง Up And Down
ขึ้นเพื่อสอนให้น้องเต้นแอโรบิกภายในโรงเรียนและน้องๆที่เข้าข่ายโรคอ้วนก็จะได้มีสุขภาพที่แข็ง
แรงและห่างไกลโรค
คณะผู้จัดทา
ข
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานนี้สาเร็จขึ้นได้ด้วยความอนุเคราะห์จากคุณครูทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม
ซึ่งเป็นครูผู้สอนที่ได้ให้ ความรู้ คาแนะนาตรวจงานให้ข้าพเจ้า เทคนิคการนาเสนอ
และแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ
ด้วยความเอาใจใส่ทุกขั้นตอนเพื่อให้โครงงานและการเขียนโครงงานออกมาดี
คณะผู้จัดทาขอขอบคุณเป็นอย่างสูง
ขอบคุณนักเรียนโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ กาญจนบุรี
ที่ให้ความร่วมมือในการเต้นแอโรบิกเพื่อสุขภาพ ตลอดจนผู้ที่ไม่ได้กล่าวนาม ณ ที่นี้
สุดท้ายนี้คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
โครงงานนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาของผู้ที่สนใจต่อไป
คณะผู้จัดทา
ค
สารบัญ
เรื่อง หน้า
คานา ก
กิตติกรรมประกาศ ข
สารบัญ ค-ง
สารบัญภาพ จ
บทที่ 1 1
-ที่มาและความสาคัญ 1
-หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1
-วัตถุประสงค์ 2
-สถานที่ดาเนินงาน 2
-ระยะเวลาในการดาเนินงาน 2
-ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3-17
บทที่ 3 วิธีการดาเนินงาน 18
-วัสดุอุปกรณ์ 18
-วิธีการดาเนินงาน 18
ง
สารบัญ (ต่อ)
บทที่ 4 ผลการศึกษา 19
บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ 20
-ข้อเสนอแนะ 20
-บรรณานุกรม 21
ภาคผนวก 22-27
จ
สารบัญภาพ
ภาพที่ หน้า
ภาพที่ 2.1 DR. Kenneth H.Cooper 3
ภาพที่ 2.2 แอโรบิกดานซ์ในประเทศไทย 5
ภาพที่ 2.3 การออกกาลังกาย 9
ภาพที่ 2.4 จุดมุ่งหมายของการออกกาลังกาย 10
ภาพที่ 2.5 การออกกาลังโดยใช้อุปกรณ์ 11
ภาพที่ 2.6 รองเท้า 11
ภาพที่ 2.7 ชุดออกกาลังกาย 13
1
บทที่ 1
บทนา
1.1 ที่มาและความสาคัญ
ปัจจุบันผู้คนต่างใส่ใจกับการดูแลสุขภาพกันมากขึ้นหันมาออกกาลังกายกันเป็นกิจกรรมยา
มว่างกันแต่สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษานั้นทุกๆวันมีแต่การเรียนจันทร์ถึงศุกร์ก็เรียนที่โรงเรียนเ
สาร์อาทิตย์ก็เรียนพิเศษจึงไม่ค่อยมีเวลาออกกาลังกายซึ่งนั้นเป็นการดีของเด็กที่อ้วนที่ไม่ชอบออก
กาลังกายได้มีข้อแก้ตัวว่าไม่มีเวลาว่างทาให้เกิดโรคอ้วนในเด็กมากขึ้นทุกๆปี
กลุ่มของข้าพเจ้าจึงจะจัดกิจกรรมให้ผู้ที่เป็นโรคอ้วนหรือเข้าข่ายโรคอ้วนในโรงเรียนได้ออ
กกาลังกายโดยกิจกรรมที่จะทาคือการสอนเต้นแอโรบิก
1.2 หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1.2.1 หลักปรัชญา คือทางสายกลาง ประกอบไปด้วย ดังนี้
ป รั ช ญ า ที่ 1 คื อ พ อ ป ร ะ ม า ณ
คือการจัดกิจกรรมที่เราสามารถทาได้โดยที่เราไม่ต้องเดือดร้อน
ป รั ช ญ า ที่ 2 คื อ มี เ ห ตุ ผ ล คื อ
การที่เราเลือกที่จะทากิจกรรมนี้เพราะเป็นกิจกรรมที่ใกล้ตัวและเป็นการต่อยอดจากโครงการสารวจ
นักเรียนที่เข้าข่ายโรคอ้วน
ป รั ช ญ า ที่ 3 คื อ มี ภู มิ คุ้ ม กั น ที่ ดี ใ น ตั ว เ อ ง คื อ
การทากิจกรรมอะไรนั้นต้องทาอย่างระมัดระวังไม่ประมาทถึงจะศึกษามาดีอย่างไรก็ควรมีการซ้อม
กันก่อนที่นาไปเผยแพร่แก่คนอื่น
1.2.2 เงื่อนไข 2 เงื่อนไข ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่
2
เ งื่ อ น ไ ข ที่ 1 เ งื่ อ น ไ ข ค ว า ม รู้ คื อ คื อ
เราได้ศึกษาเกี่ยวกับการเต้นแอโรบิกว่ามีท่าพื้นฐานอะไรบ้างและมีวิธีเต้นอย่างไรเพื่อที่จะไปสอนค
นอื่นๆได้
เ งื่ อ น ไ ข ที่ 2 เ งื่ อ น ไ ข คุ ณ ธ ร ร ม คื อ
การที่เราอาสาช่วยให้ผู้ที่ไม่มีเวลาออกกาลังกายได้มีกิจกรรมที่จะช่วยพวกเขาและทาให้พวกเขามีสุ
ขภาพที่ดีขึ้น
1.3 วัตถุประสงค์
ช่วยใ ห้คน ที่อ้วน ที่ ไม่มีเวลาออกกาลัง กายได้ออกกาลัง ที่ไม่น่าเบื่อ สนุ ก
และยังได้สุขภาพที่ดีด้วย
1.4 สถานที่ดาเนินงาน
โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
1.5 ระยะเวลาในการดาเนินงาน
เดือน พฤษภาคม ถึง กันยายน พ.ศ.2558
1.6 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
คนอ้วนได้มีเวลาออกกาลังกายที่ไม่น่าเบื่อ และยังได้สุขภาพที่ดีด้วย
3
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
2.1 ประวัติความเป็นมาของแอโรบิก
ภาพที่ 2.1 DR. Kenneth H.Cooper
แอโรบิก เกิดขึ้นเมื่อ 26 ปี มาแล้ว โดย DR. KennethH.Cooper ได้เขียนเป็ นตาราเรื่อง
AEROBICS กล่าวไว้ว่า แอโรบิกเป็นการออกกาลังกายชนิดหนึ่งชื่อว่า AEROBICS EXERCISE
ห ม า ย ถึ ง
การออกกาลังกายที่เพิ่มประสิทธิภาพการทางานให้สัมพันธ์กันระหว่างระบบไหลเวียนโลหิตกับปอ
ด ใ ช้ อ อ ก ซิ เ จ น อ ย่ า ง ส ม่ า เ ส ม อ
ทาให้เกิดการเผาผลาญพลังงานอย่างเต็มที่กระตุ้นให้ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นทาหน้าที่
4
เป็ น ภู มิ คุ้ม กัน โ ร ค ต่าง ๆ ได้ ดัง นั้ น ก าร เต้น แ อ โ ร บิ ก ( AREOBIC DANCING)
จึงนับเป็นการออกกาลังกายประเภทแอโรบิกอีกชนิดหนึ่ง
ใ น ปี ค . ศ . 1 9 6 9 จู ดี้ เ ช ฟ ฟ า ร์ ด
มิส เซตต์ได้น าการออกกาลังกายแบบ แอโรบิกมาประ ยุกต์โดยทาการเต้น เเจส
ม า ผ ส ม ผ ส า น กั บ ก า ร อ อ ก ก า ลั ง ก า ย แ บ บ แ อ โ ร บิ ก
เอกเซอร์ไซด์ใส่จังหวะการเต้นราของจังหวะเเจสเข้าไปทาให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนชาวอเมริกันกั
นอย่างแพร่หลาย
ต่ อ ม า ใ น ปี ค . ศ . 1 9 7 9 แ จ๊ ค กี้ โ ซ เ ร น สั น
ได้พัฒนาการออกกาลังกายแบบแอโรบิกเอกเซอร์ไซด์มาประยุกต์ให้เข้ากับจังหวะดนตรีที่สนุกสนา
น เ ร้ า ใ จ ร ว ม ทั้ ง มี ก า ร เ ค ลื่ อ น ไ ห ว
ซึ่งนาหลักการของวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้าประกอบการออกกาลังกายจึงเป็นที่นิยมและรู้จักกันโดย
ทั่วไปในชื่อว่า แอโรบิกดานซ์ (Aerobics Dance)
ในปี ค.ศ.1984 มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 23 ที่รัฐลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา
ใ น พิ ธี เปิ ด ก ารแ ข่ง ขัน ได้ท าก ารเต้น แ อ โ รบิ ก ด าน ซ์ มาแ ส ด ง ใ น พิ ธี เปิ ด
ทาให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลก
เบื้องหลังความสาเร็จของการเต้นแอโรบิกได้รับการกล่าวถึงเป็นหนังสือชื่อ Aerobic Dancing โดย
JackiSorensen ว่า กีฬ าเต้น แอโรบิก ได้รับความนิ ยมสู งสุ ดที่ประเทศสห รัฐอเมริกา
จัดให้มีการเต้นแอโรบิกภายในสตูดิโอหรือโรงยิมโดยรับเอาต้นแบบการเต้นแอโรบิกประ กอบ
ดนตรีแบบอาหรับ จากนั้นกีฬาการเต้นแอโรบิกปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยเข้ากับจังหวะดนตรี
ในปัจจุบันด้วยวิธีนับจังหวะบีทเพลงจึงทาให้การออกกาลังกายแบบเต้นแอโรบิกทันสมัยและสนุกส
น า น อ ยู่ เ ส ม อ
ประสิทธิภาพจากการเต้นแอโรบิกเป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ทั่วโลกเกี่ยวกับทางด้านพัฒนาสุขภา
พเกี่ยวกับการพัฒนากล้ามเนื้อ,หัวใจ, ปอด เทียบเท่ากับการเล่นกีฬาวิ่งจ๊อกกิง, ว่ายน้ า,
หรือการเดินขึ้นบันไดจึงไม่น่าแปลกเมื่อกีฬาเต้นแอโรบิกเป็นที่ยอมรับในประเทศต่างๆ เช่น
อั ง ก ฤ ษ ญี่ ปุ่ น อ อ ส เ ต ร เ ลี ย ฝ รั่ ง เ ศ ส ร ว ม ทั้ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย
5
ความแรงของกีฬาเต้นแอโรบิกได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลกนี่เองทาให้การเต้นแอโรบิกไม่มีท่าเ
ฉ พ าะ ที่ แ น่ น อ น แ ต่ห ลั ก ม าต ร าฐ าน ส า ก ล นั้ น ก าห น ด ใ ห้ ท่า เต้น ต้อ ง
นับให้เข้ากับจังหวะบีทเพลงห รือตัวโน้ตดนตรี ส่วนกีฬาเต้นแอโรบิกที่ประเทศไทย
นั้ น เ ลื อ ก ใ ช้ ท่ าเต้ น ที่ นั บ ต า ม จัง ห ว ะ 1 - 2 - 3 - 4 - 5 - 6 - 7 - 8 - 9 - 1 0
เท่านั้นเพราะจะช่วยให้การเต้นแอโรบิกเป็นไปได้ง่ายกว่า
2.2 แอโรบิกแดนซ์ในประเทศไทย
2.2.1 แอโรบิกดานซ์ในประเทศไทย
ภาพที่ 2.2 แอโรบิกดานซ์ในประเทศไทย
ป ร ะ ม า ณ ปี พ . ศ . 2518
ประชาชนชาวไทยได้มีการตื่นตัวในการออกกาลังกายมากขึ้นทั้งนี้เพราะชาวไทยมีความเข้าใจในเรื่
อ ง ข อ ง ก า ร ศึ ก ษ า ม า ก ขึ้ น
และเข้าใจถึงประโยชน์ของการออกกาลังกายว่าสามารถลดโรคภัยไข้เจ็บได้
6
ในระหว่างปี พ. ศ.2518 ได้มีกลุ่มนักธุรกิจเปิดสถานบริหารร่างกายขึ้น ซึ่งบริหารโดยคนไทย
ซึ่งสืบสานและนาตัวอย่างมาจากสถานบริหารร่างกายโดยชาวอเมริกากันซึ่งเป็นนักธุรกิจมาทางานใ
นกรุงเทพ ฯ ในระยะแรกวิธีการสอนการออกกาลังกายสาหรับประชาชนที่เข้าไปร่วมกิจกรรมนั้น
เป็ น วิธี การบริ ห ารร่าง ห ายดัง กล่าว ได้มีวิทยากรชื่ ออาจารย์สุ กัญ ยา มุสิ กวัน
ไ ด้ เ ข้ า ไ ป เ ป็ น วิ ท ย า ก ร แ ล ะ เ ล็ ง เ ห็ น ว่ า
กิจกรรมที่จัดให้กับสมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรมบริหารร่างกายนั้นไม่เพียงพอกับการเสริมสร้างสมรรถ
ภาพเท่าใดนัก
ในปี พ.ศ.2519 อาจารย์สุกัญยา มุสิกวัน จึงได้จัดกิจกรรมชื่อว่า Slimnastic ซึ่งมาจากคาว่า Slim +
Gymnastic ซึ่ ง เ ป็ น กิ จ ก ร ร ม บ ริ ห า ร ร่ า ง ก า ย ป ร ะ ก อ บ เ พ ล ง
เป็นเครื่องมือในการออกกาลังกายสาหรับสมาชิก อันทาให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินมากขึ้น
กิ จ ก ร ร ม ดั ง ก ล่ า ว
ได้เน้นการเคลื่อนไหวร่างกายเบื้องต้นประกอบจังหวะดนตรีเป็นกิจกรรมบริหารร่างกายเพื่อลดสัด
ส่วนของร่างกาย
ในปี พ.ศ.2522 อาจารย์สุกัญยา มุสิกวัน (พานิชเจริญนาม) ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น
และได้เดินทางกลับมา
ใ น ปี พ .ศ . 2526 ไ ด้ เ ล็ ง เ ห็ น กิ จ ก ร ร ม ก า ร เ ค ลื่ อ น ไ ห ว แ บ บ Slimnastic
ค ว ร เ ป็ น ไ ป ใ น รู ป แ บ บ แ อ โ ร บิ ก ด า น ซ์ เ ห มื อ น ส า ก ล
จึงได้เริ่มสอนและได้จัดอบรมให้ผู้ที่สน ใจและลูกศิษย์ ให้น าไปเผยแพร่ทั่วประเทศ
โดยจัดในรูปสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ณ สนามกีฬาแห่งชาติ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจานวน 130คน
จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ และนับจากปี 2526 เป็นต้น
ม า จ น ถึ ง ปั จ จุ บั น แ อ โ ร บิ ก ด า น ซ์ จึ ง เ ป็ น กิ จ ก ร ร ม ที่ แ พ ร่ ห ล า ย
และมีการจัดการเรียนการสอนใ นหลักสูตรพลศึกษา ระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา
แ ล ะ ด้ า น เ อ ก ช น
ก็เปิดบริการให้ประชาชนทั่วไปฝึกร่างกายเพื่อให้ร่างกายมีความอดทนและได้มาซึ่งรูปร่างที่ดี
ก า ร อ อ ก ก า ลั ง ก า ย แ บ บ แ อ โ ร บิ ก ด า น ซ์
7
ได้มีการพัฒ น าและ มีวิวัฒ น าการเป็ น การออกกาลัง กายได้ห ลายรูป แบบ เช่น
แ อ โ ร บิ ก ด า น ซ์ แ บ บ แ จ ซ เ ซ อ ร์ ไ ซ ด์ แ อ โ ร บิ ก ใ น น้ า เ ส ต็ ป แ อ โ ร บิ ก
เ พื่ อ ใ ห้ มี ค ว า ม ห ล า ก ห ล า ย ม า ก ขึ้ น
มีความสนุ กสน าน จากการออกกาลัง กายและ คงการออกกาลังกายให้ น าน ที่สุ ด
ที่ ส า คั ญ ก็ เพื่ อ ป ร ะ โ ย ช น์ จ า ก ก า ร อ อ ก ก าลั ง ก า ย แ บ บ แ อ โ ร บิ ก ด า น ซ์
และเป็นการออกกาลังกายที่สนุกสนานและได้ประโยชน์มากที่สุดนั่นเอง
แ อ โ ร บิ ก ด า น ซ์ ( Aerobic Dance) ห ม า ย ถึ ง
วิธีการออกกาลังกายชนิดหนึ่งที่นาเอาท่าบริหารกายต่างๆผสมผสานกับทักษะการเคลื่อนไหวเบื้องต้
น และจัง หวะเต้น ราที่จะกระตุ้น ให้หัวใจและ ปอดต้องทางาน มากขึ้ น ถึงจุดห นึ่ ง
ด้วยระยะเวลาที่นานเพียงพอที่จะทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ เป็ นประโยชน์ต่อร่างกาย
เป็นการสร้างบรรยากาศในการออกกาลังกายที่สนุกสนานรื่นเริงลืมความเหน็ดเหนื่อยและเบื่อหน่าย
ได้ ทั้งยังสร้างความแข็งแรง ความทน ทาน ของระบบกล้ามเนื้อ ระบบไหลเวียน เลือด
หัวใจและปอดได้ดีขึ้น ทาให้รูปร่างสมส่วนมีบุคลิกภาพที่ดี
2.2.2 ท่าเต้นพื้นฐาน
1)การย่าเท้า Marching คือ การย่าเท้าอยู่กับที่ ส่วนใหญ่แล้วจะย่าเท้า 2 แบบคือ
แบบกว้าง (Marching Out) และแบบแคบ (Marching In)
2)ก ารเดิ น ( Walking ) คื อ ก ารก้าวเท้ าไป ยัง ทิ ศท าง ที่ เค ลื่ อ น ที่ ไ ป
มีการถ่ายน้าหนักตัวจากเท้าหนึ่งไปยังอีกเท้าหนึ่ง การเดินนั้นสามารถเดินไปข้างหน้า ข้างหลัง
หรือเฉียง หรือเดินเป็นรูป
8
3)ก้าวรูปสี่เหลี่ยม ( Easy Walk) คือ การก้าวเดินไปข้าง 1ก้าว ถอยหลัง 1 ก้าว
ลักษณะคล้าย V-step แต่วางเท้าเป็นรูปสี่เหลี่ยม หรืการก้าวเดิน
4) ก า ร ก้ า ว แ ต ะ ( Step Touch ส เ ต็ ป ทั ช ) คื อ
การยกเท้าห นึ่ งไปด้าน ข้างแล้วยกเท้าอีกข้างห นึ่ ง ไป แตะ แล้วทาสลับกัน
ทิศทางการเคลื่อน ไห วจะ เป็ น การก้าวแตะที่อยู่กับที่ ห รือทาเป็ น รูปตัวแอล ห รื อ
ก้าวแตะหมุนรอบตัวเองก็ได้
5)ส้น เท้าแตะ ( HellTouch ฮีลทัช ) คือการแตะด้วยส้น เท้าข้างใดข้างห นึ่ ง
โดยแตะข้างหน้าหรือด้านหลังก็ได้
6) ป ล า ย เ ท้ า แ ต ะ ด้ า น ข้ า ง ( Side Tap ไ ซ ด์ แ ท บ )
คือการแตะด้วยปลายเท้าข้างใดข้างหนึ่งโดยแตะด้านข้างหน้าซ้าย-ขวา สลับกัน
7)การยกส้นเท้า ( LekCurl เล็คเคอ) คือการยกส้นเท้าขึ้นไปที่สะโพกด้านหลัง
ห รื อการพับ ส้น เท้าไป ด้าน ห ลัง การทา Hamstring Curl ห รื อ Hamstring CurlLek Curl
นั้นทาได้ทั้งที่อยู่กับที่หรือหมุนรอบตัวเอง (แฮมสตริงเคอ)
8) ก้า ว ไ ข ว้ก้ าว แ ต ะ ( Grapevine เ ก ร พ ว าย ) ก้า ว ไ ข ว้ก้า ว แ ต ะ
ห รื อ เ ก ร พ ว า ย คื อ ก า ร ท า ก้ า ว ไ ข ว้ ข า ไ ป ห ลั ง ห รื อ ห น้ า ก็ ไ ด้
การ ท าเก ร พ วาย นั้ น ส าม ารถ ท าได้ห ล ายรู ป แ บ บ เช่น เก ร พ วาย ธ รร ม ด า
หรือเกรพวายเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือเกรพวายหมุน 180องศา
9) แ ม ม โ บ้ ( Membo )
คือการก้าวเท้าใดเท้าหนึ่ งไปข้างหน้าแล้วย่อเข่าลงแล้วนากลับสู่ที่เดิม และเปลี่ยนข้างทา
การทาแมมโบ้สามารถทาได้ทั้งข้างหน้าและด้านข้างก็ได้
10) ย ก เ ข่ า ( Knee Up นี อั พ )
เป็นท่าการเคลื่อนไหวพื้นฐานในการพัฒนากล้ามเนื้อขาหรือ KneeLift ได้อย่างดีดังนั้นแอโรบิก
ด๊านซ์ทุกประเภทจึงมีท่าการยกเข่าทั้งการยกเข่าด้านหน้า(FrontKneeLift) หรือ นีลีฟ ด้านข้าง
(Side Knee Lift) การยกเข่าเฉียง (Knee Cross)
9
11)ก าร แ ต ะ ข า ( Kick คิ ก ) ก าร แ ต ะ ข า ไ ป ใ ช้ ใ น ทิ ศ ท า ง ต่า ง ๆ
ทั้งการแตะไปด้าน ห น้า(foreward) เฉี ยง ( cross ) ห ลัง ( backward )และข้าง( sideward )
การแตะขาที่ถูกต้องควรเป็นการแตะขาไม่ใช่การสะบัดเข่า
12)ก้าวชิ ด ก้าว แต ะ ( Two Step ทู ส เต็ ป ) คือ ก าร ท าก้าวชิ ด ก้าวแ ต ะ
หรือการทาก้าวแตะ 2 ครั้ง
13) ส ค ว อ ท ( Squats ) คื อ ก า ร นั่ ง ย อ ง ๆ ห รื อ ย่ อ ยื ด
ค ว ร นั่ ง ใ ห้ มุ ม ส ะ โ พ ก แ ล ะ เ ท้ า เ ป็ น มุ ม 90 % เ ท่ า นั้ น
ไม่ควรนั่งให้สะโพกชิดส้นเท้าเพราะจะทาให้เอ็นหรือกระดูกอ่อนที่หัวเข่ายืดมากเกินไปซึ่งเป็นสาเ
หตุหนึ่งทาให้เข่าเจ็บ
14)ช่า ช่า ช่า( ChaCha Cha) คือการก้าวใดเท้าหนึ่งไขว้ไปด้านหน้า ย่าเท้าหลัง
แล้วนาเท้ากลับที่ก้าวไปข้างหน้ากลับมา ย่าย่า ย่า สลับเท้า
15)ส่ายสะโพก ( Twis ) คือการส่ายสะโพกซ้าย –ขวา สลับกัน
16)Step Knee คือการย่าเท้า 1-2ก้าวขึ้นบน 3 แล้วยกเข่า
2.3 ประเภทของการเต้นแอโรบิก
ก า ร เ ต้ น แ อ โ ร บิ ก ใ น ปั จ จุ บั น มี ห ล า ย แ บ บ ด้ ว ย กั น
ถ้านาลักษณะการเคลื่อนไหวเป็นเกณฑ์ในการแบ่งประเภทจะสามารถแบ่งได้ 4 ประเภท ดังนี้
2.3.1การเต้นที่มีแรงกระแทกต่า (Low–impact aerobicsdance) การเต้นที่มีแรงกระแทกต่า
เป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะของการกระแทกระหว่างร่างกายกับพื้นที่มีบ้างเล็กน้อยหรือเกือบจะไ
ม่มีเลยเช่น สปริงข้อเท่า การย่อเข่าการเดิน เป็นต้น
2.3.2ก า ร เ ต้ น ที่ มี แ ร ง ก ร ะ แ ท ก สู ง ( High – impact aerobics dance)
ก า ร เ ต้ น ที่ มี แ ร ง ก ร ะ แ ท ก สู ง
เป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะของการกระแทกระหว่างร่างกายกับพื้นที่ค่อนข้างจะรุนแรง เช่น
การกระโดดลอยตัวและลงสู่พื้นด้วยเท้าข้างใดข้างหนึ่งหรือด้วยเท้าทั้งสองข้าง
10
2.3.3ก าร เต้น ที่ มีแ รง ก ร ะ แ ท ก ห ล าก ห ล าย ( Multi – impact aerobics dance)
การเต้นที่มีแรงกระแทกหลากหลายเป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะของแรงกระแทกต่าและแรงกระแ
ทกสูงผสมกัน ซึ่ งผู้เต้น จะใช้แรงกระแทกต่าห รือแรงกระแทกสู งมากน้อยเพียงใด
ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับสมรรถภาพของผู้เต้นและจังหวะเพลง
2.3.4ก า ร เ ต้ น ที่ ป ร า ศ จ า ก แ ร ง ก ร ะ แ ท ก ( No – impact aerobics dance)
ก า ร เ ต้ น แ อ โ ร บิ ก ที่ ป ร า ศ จ า ก แ ร ง ก ร ะ แ ท ก
เป็ น การเคลื่อน ไห วของร่างกายที่ไม่มีแรงกระ แทกระ ห ว่าง ร่างกายกับพื้น เช่น
การเต้นแอโรบิกในน้า เป็นต้น
2.4 หลักการและวัตถุประสงค์ของแอโรบิก
2.4.1 หลักการออกกาลังกายแบบแอโรบิคแดนซ์
ภาพที่ 2.3 การออกกาลังกาย
เป็ น การออกกาลังกายที่ได้รับความนิ ยมกัน อย่าง กว้าง ขวางทุกเพ ศ ทุกวัย
ที่เป็ นเช่นนี้เพราะเป็ นการออกกาลังกายที่สนุกสนาน สามารถออกกาลังกายได้ทุกสถานที่
ทาได้ไม่ยากนัก ขอให้มีเพียงเสี ยงหรือจังห วะประกอบการออกกาลังกายก็พ อแล้ว
ผู้ที่ทาให้การออกกาลังกายแอโรบิกดานซ์เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายของคนทั้งในยุโรป
และเอเชียก็คือแจ๊คกี้โซเรนสัน เป็นชาวอเมริกัน ที่ทาให้รูปแบบการออกกาลังกายเป็นที่น่าสนใจ
และสนุกสนาน โดยนาท่าออกกาลังกายและท่าเต้นรามาเต้นให้เข้ากับจังหวะดนตรีแอโรบิกดานซ์
11
คือ การนาเอาท่าบริหารแบบต่างๆมาบวกกับการเคลื่อนไหวพื้นฐาน บวกกับทักษะการเต้นรา
และน ามาผสมผสาน กัน อย่างกลมกลืน แล้วนามาประกอบจังห วะห รือเสียงดน ตรี
เพื่อนามาเป็นกิจกรรมการออกกาลังกาย จุดเด่นของการออกกาลังกายแบบแอโรบิกดานซ์ คือ
มุ่ง ฝึ ก ร ะ บ บ ก า ร ห า ย ใ จ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร จับ อ อ ก ซิ เจ น สู ง สุ ด
ซึ่งเป็นผลดีในการสร้างความอดทนให้แก่ร่างกายอีกด้วย ประโยชน์ที่ได้รับอีกอย่างหนึ่ง คือ
ทาให้รูปร่างและทรวดทรงดีขึ้น ส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมได้รับความสนุ กสน าน ร่าเริง
หายจากความตึงเครียด
2.4.2 วัตถุประสงค์ของการออกกาลังกายแบบแอโรบิกดานซ์
ภาพที่ 2.4 จุดมุ่งหมายของการออกกาลังกาย
จุดมุ่งหมายสาคัญของการออกกาลังกายแบบแอโรบิกดานซ์อยู่ที่เน้นการเคลื่อนไหวส่วนต่า
งๆของร่างกาย ให้มีการเต้น อัตราการเต้น ของชีพ จรให้ถึงเป้ าห มาย คือ 70 -80 %
ข อ ง อัต ร า ก า ร เต้ น ชี พ จ ร สู ง สุ ด แ ล ะ ต้ อ ง เต้ น ติ ด ต่อ กัน ป ร ะ ม าณ 2 5 -
30นาทีจึงจะช่วยพัฒนาสมรรถภาพทางร่างกายให้ดีขึ้น (สมรรถภาพทางร่างกาย หมายถึง
ค ว ามส ามา รถ ใ น ก าร ป ร ะ ก อ บ กิจ ก าร ท าง ก าย ไ ด้อ ย่าง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ
ซึ่ ง ประ กอบไปด้วยความแข็ง แรงของ กล้ามเนื้ อ ความทน ทาน ของ กล้ามเนื้ อ
และระบบไหลเวียนโลหิต ปอด หัวใจ ความเร็วในการทางานของกล้ามเนื้อ ความอ่อนตัว
12
ความคล่อง ตัว) ควรจะ เต้น ให้ ห นั ก พ อ แ ละ ติดต่อกัน ประ มาณ 25 -30 น าที
ควรจะเต้นประมาณสัปดาห์ละ 3วัน
2.5 อุปกรณ์และขั้นตอนการเต้นแอโรบิก
2.5.1 อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการเต้นแอโรบิกดานซ์
ภาพที่ 2.5 การออกกาลังโดยใช้อุปกรณ์
1)รองเท้าและถุงเท้า เป็ นอุปกรณ์ที่จาเป็ น ที่สุด เพื่อช่วยป้ องกันการบาดเจ็บ
ค ว ร ใ ช้ ร อ ง เ ท้ า ที่ อ อ ก แ บ บ ไ ว้ ส า ห รั บ ก า ร เ ต้ น แ อ โ ร บิ ก
ซึ่ ง ช่วยลด แรง ก ระ แท ก ใ น แน วดิ่ ง แรง ก ดบิ ส่วน ต่าง ๆ ข อง เท้าแล ะ ข้อเท้า
ซึ่งเกิดจาการเคลื่อนที่ในแนวราบทุกทิศทางผู้เต้นไม่ควรเสี่ยงกับรองเท้าเก่าหมดอายุแล้ว
รองเท้าสาหรับการเต้นแอโรบิกควรมีลักษณะโดยสรุป ดังนี้
ภาพที่ 2.6 รองเท้า
13
1 . 1 บ ริ เ ว ณ ส่ ว น บ น ข อ ง หุ้ ม ส้ น
จ ะ ต้ อ ง สู ง ขึ้ น แ ล ะ มี แ ผ่น นุ่ ม ร อ ง รั บ บ ริ เว ณ ต ร ง กับ เ อ็ น ร้ อ ย ห ว า ย
เพื่อป้องกันไม่ให้ระคายเคืองต่อเอ็น
1.2ด้าน ข้า ง ข อ ง บ ริ เว ณ หุ้ ม ส้ น ทั้ ง ส อ ง ด้าน จะ ต้อ ง แ ข็ ง แ ร ง
เพื่อป้องกันการบิดหมุนของส้นเท้า ทาให้บริเวณส้นเกิดความมั่นคง
1.3 บ ริ เ ว ณ ป ล า ย เท้ า จ ะ ต้ อ ง ห นุ น ขึ้ น ( อ ย่าง น้ อ ย ค รึ่ ง นิ้ ว )
เพื่ อ ป้ อง กัน ไม่ใ ห้ นิ้ วแล ะ เล็บ ถูก เบียด ซึ่ ง จะ ท าใ ห้ เกิด เลื อดค ลั่ง ใ น เล็ บ ได้
และช่วยยืดอายุการใช้งานของรองเท้าจากการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว
1.4ลิ้น รองเท้าจะ ต้อง บุให้ นิ่ ม และปิ ดส่วน บน ของ ฝ่ าเท้าได้ห มด
เพื่อป้องกันเอ็นและกล้ามเนื้อกระดูก ถูกเสียดสีและระคายเคืองจนอักเสบได้
1 .5 บ ริ เ ว ณ เ ส้ น ร อ ง เ ท้ า จ ะ ต้ อ ง ฝ า น ใ ห้ เ ป็ น รู ป ม น
เพื่อช่วยในการเคลื่อนไหวจังหวะต่อไป เป็นไปได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น
1 .6 ที่ ส้ น ร อ ง เ ท้ า จ ะ ย ก สู ง ขึ้ น แ ล ะ มี ค ว า ม ยื ด ห ยุ่น ดี พ อ
เพื่อจะรับแรงกระแทกของส้นเท้าได้
1 .7 พื้ น ร อ ง เ ท้ า บ ริ เ ว ณ กึ่ ง ก ล า ง จ ะ ต้ อ ง พั บ ง อ ไ ด้
เพื่อการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวและป้องกันการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย
1.8พื้นรองเท้าควรมีลายที่ช่วยลดแรงกระแทกและยึดเกาะพื้นไม่ให้เลื่อน
1 .9 ที่ ร อ ง พื้ น ร อ ง เท้ าด้ า น ใ น ค ว ร มี ฟ อ ง น้ า เส ริ ม อุ้ง เท้ า
เพื่อช่วยป้ องกัน การบาดเจ็บบริเวณ ส้น เท้า การอักเสบของพังผืดยึดกระดูกฝ่ าเท้า
ผู้เล่นไม่ควรเสี่ยงกับรองเท้าเก่าหรือหมดอายุแล้ว
14
ภาพที่ 2.7 ชุดออกกาลังกาย
2)ชุดออกกาลังกาย ควรลักกุม ง่ายต่อการเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างเต็มที่
เนื้อผ้าระบายความร้อนและซับเหงื่อได้ดีไม่จาเป็นต้องราคาแพง ควรเป็นผ้ายืด การสวมชุดรัดรูป
ห รื อ เ ป็ น ชุ ด อ อ ก ก า ลั ง ก า ย ที่ เ ป็ น ชุ ด ก า ง เก ง ติ ด กั บ เ สื้ อ ( Leotard )
จะช่วยให้ผู้สวมใส่มีความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆของร่างกายขณะบริหาร
เสื้ อจะ ไม่เลื่อน ห ลุดขึ้ น มาเห นื อเอว อีกทั้งช่วยให้ผู้สวมใ ส่มองเห็ น ท่าทาง การ
เคลื่อน ไห วของร่าง กายของตน เองได้ชัดเจน ห รื อทาใ ห้ เห็ น รูป ทรงส่วน เกิน
ส่วนขาดที่จาเป็นต้องปรับเปลี่ยน ให้เข้าที่เข้าทาง
3)เสื้อชั้นใน ให้รัดพอดี รอบ ๆ ส่วนที่เป็น cup ถ้าเป็นชนิดไม่มีตะเข็บ (seamless)
ที่ผลิตออกมาโดยปั้ มจากพิมพ์ ไม่ควรใส่ เพราะยกทรงแบบเต็มตัว เมื่อออกกาลังกายแล้ว
จะทาให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังและใต้อกเคลื่อนไหวได้ยาก
4 ) ก า ง เก ง ชั้ น ใ น ไ ม่ค ว ร ใ ส่ แ บ บ ที่ รั ด ม า ก ที่ เ รี ย ก ว่า ส เ ต ย์
เพ ร าะ เว ล า อ อ ก ก า ลัง ก า ย ก ล้ า ม เ นื้ อ ส่ ว น นั้ น จ ะ เค ลื่ อ น ไ ห ว ไ ด้ ย า ก
ทาให้โลหิตบริเวณนั้นไหลเวียนไม่สะดวก เกิดผลเสียแก่อวัยวะสืบพันธุ์ในอุ้ง เชิงก้านด้วย
ควรเลือกใช้กางเกงชั้นในที่มีความกระชับพอดี ถ้าเป็นผ้าที่ผสมฝ้ายมากยิ่งดี
5)เพลงประกอบการเต้นหรือดนตรี เพลงที่ใช้ควรเป็นเพลงที่ชื่นชอบของผู้ออกกาลังกาย
มีจังหวะชัดเจน มีความเร็วพอดีกับการเปลี่ยนไปตามขั้นตอนของการออกกาลังกายช่วงต่าง ๆ
15
เพลงที่ใช้ประกอบมักมีหลายเพลง ซึ่งควรต่อเนื่องกันตลอดระยะเวลาการเต้น (Non-Stop) หรือ
(Medley)
6)ส ถาน ที่ อาจเป็ น กล าง แจ้งห รื อใ น ร่ม ควรมีการระ บ ายอากาศที่ ดี
มีเนื้ อ ที่ ว่าง พ อ ส ม ค ว ร ไ ม่มี สิ่ ง เก ะ ก ะ เกี ย ด ข ว าง พื้ น ที่ เ รี ย บ แ ต่ไ ม่ลื่ น
และควรมีคุณสมบัติผ่อนแรงกระแทก เช่นพื้นไม้เนื้อแข็งที่โปร่งด้านล่าง พื้นกระเบื้องยาง
ไม่ควรเต้นพื้นคอนกรีตหรือพื้นคอนกรีตปูทับด้วยพรม
7)เครื่องมืออื่น ๆ ได้แก่ Step Band, Hand weight, Elastic tubing, Elastic band ฯลฯ
2.5.2 ขั้นตอนของการออกกาลังแบบแอโรบิกดานซ์
1 ) ขั้ น อ บ อุ่ น ร่ า ง ก า ย ห รื อ ว อ ม อั พ ( Warming
Up)เ ป็ น ก า ร เ ต รี ย ม ค ว า ม พ ร้ อ ม ข อ ง ก ล้ า ม เ นื้ อ หั ว ใ จ ข้ อ ต่ อ
และอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวให้พร้อมที่จะทางาน ช่วงนี้จะใช้เวลาบริหารประมาณ 15-
25% ของเวลาฝึ กทั้งห มด ท่าที่ใ ช้ฝึ กใน ขณ ะ นี้ จะเป็ น การฝึ กเพื่อความอ่อน ตัว
โดยการพับตัวไปด้านหน้า ด้านหลังและด้านข้าง อาจจะทาการยืด เอน ข้อต่อร่างกาย(Stretching
Exercise) ซึ่งจะช่วยป้องกัน และลดการบาดเจ็บจากการออกกาลังกาย อย่ายืดกล้ามเนื้ออย่างรุนเเรง
หรือทาด้วยจังหวะที่รวดเร็วจนกลายเป็นการกระตุก ซึ่งจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บได้
2)ขั้น ปฏิ บัติงาน ห รื อ ระ ยะแอโรบิก (Training Heart Rate)ระยะ แอโรบิ ก
ในช่วงแรกเป็นการบริหารท่าเร็วและหนักติดต่อกันส่วนมากจะเน้นการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง
สะโพกลาตัวด้านข้าง แขน หัวไหล่ซึ่งจังหวะดนตรีในช่วงนี้จะอยู่ระหว่าง 140-160จังหวะต่อนาที
จะเน้นให้บุคคลแต่ละคนสามารถพัฒนาการออกกาลังกายให้ถึงอัตราการเต้นหัวใจที่เป้ าหมายได้
ช่วงหลังจะเป็นการเบาเครื่องลงเรื่อยๆเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อเวลาที่ใช้ในช่วงนี้ จะแบ่งออกเป็น 2
แบบ คือ
2 . 1 แ บ บ Aerobic Dance Routine
เป็นการสร้างแบบแล้วเต้นตามรูปแบบและเวลาที่กาหนดจะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที
16
2.2 แบ บ Group Aerobic Dance เป็ น แ บบ มีผู้น า ผู้ที่ เข้าร่วมกิจก รรม
จะต้องทาตามผู้นา จะใช้เวลาประมาณ 30-45นาที
3 .ขั้ น ค ลู ด า ว น์ ( Cool Down) ส่ ว น ม า ก นิ ย ม ท า Floor Exercise
โดยการเคลื่อนไหวช้าๆด้วยการเดิน และจบลงด้วยการทา StretchingExercise ยืดกล้ามเนื้อน่อง
และอาจทาการยืดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ทั่วร่างกายเพื่อให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัวอีกครั้งหนึ่ ง
ป ร ะ โ ย ช น์ อี ก อ ย่า ง ห นึ่ ง คื อ ก า ร น า เ อ า ข อ ง เสี ย ห รื อ ก ร ด แ ล ก ติ ก
ที่เกิดขึ้น ใน ขณะที่ออกกาลังกายอยู่นั้น ออกไปจากกล้ามเนื้ อได้ดีกว่าการหยุดเฉยๆ
ในช่วงนี้จะใช้เวลาออกกาลังกาย 5-10นาที
2.6 ประโยชน์ของการออกกาลังกายแบบแอโรบิกแดนซ์
การเต้นแอโรบิคนอกจากจะช่วยเผาผลาญไขมัน ลดน้ าหนัก กระชับสัดส่วนแล้ว
คุณรู้ไหมว่า มันยังช่วยอะไรกับเราอีก... นอกจากผอมแล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกด้วย
ก่อนอื่นต้องมาทาความเข้าใจก่อนว่าการเต้นแอโรบิคคืออะไร.. มันก็คือการขยับร่างกาย
ให้กล้ามเนื้ อมีการท างาน ต่อเนื่ องทุกสัดส่วน เมื่อกล้ามเนื้ อมีการทาง าน ตลอด
มันก็จะเป็นการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ไม่หย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลกก่อนวัยอันควร
แต่สิ่งที่ได้เพิ่มเติมมาก็คือ
2.6.1ทาให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น• เวลาเราออกกาลังกาย โดยเฉพาะแอโรบิคนั้น
จะเป็ น การออกกาลังกายเกือบจะทุกสัดส่วน เพ ราะ ว่ามัน ต้องเคลื่อน ไห วตลอด
เ มื่ อ เ ค ลื่ อ น ไ ห ว ร่ า ง ก า ย จ ะ สู บ ฉี ด เ ลื อ ด ท า ใ ห้ หั ว ใ จ ท า ง า น
( บ ริ ห า ร หั ว ใ จ ก ล้ า ม เ นื้ อ หั ว ใ จ ใ ห้ แ ข็ ง แ ร ง ไ ป ด้ ว ย ) •
ช่วยเพิ่มเส้นเลือดฝอยมาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจมากขึ้น ทาให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น •
ลดอัตราการเต้นของหัวใจ เมื่ออยู่ในภาวะการออกกาลังกาย เมื่อกล้ามเนื้อเราแข็งแรง
เราจะ ออกกาลัง กายได้ดี ไม่ค่อยเห นื่ อย ลอง นึ กถึงแรกๆ เราไปเต้น แอโรบิ ค
เหนื่อยมากเต้นตามไม่ทันอีกต่างหากพอเต้นไปสัก 1 อาทิตย์ร่างกายเริ่มเข้าที่ เริ่มเหนื่อยช้าลง •
17
เมื่อกล้ามเนื้ อหัวใจแข็ง แรง ก็ลดความเสี่ ยง ของ การเกิดโรคความดัน โลหิ ตสู ง
เพราะว่าหัวใจเราสูบฉีดแรงอยู่แล้ว เส้นเลือดต่างๆ ก็ไม่อุดตัน ความดันเลยปกติ
2.6.2ระ บบห ายใจดีขึ้ น • ป อดมีการรับออกซิ เจน มากขึ้ น ห ายใ จได้ลึกขึ้ น
ปอดมีการขยายมากขึ้น •เมื่อปอดขยาย และรับออกซิเจนมากขึ้น ร่างกายก็รับออกซิเจนมากขึ้น
ทาให้การไห ลเวียน ของอากาศใ น ปอดทางาน ได้ดีขึ้ น • เมื่อมีออกซิ เจน มากขึ้ น
การแล กเป ลี่ยน ก๊าซ ที่ป อด ก็จะ มีป ระ สิ ท ธิ ภ าพ มากขึ้ น ยิ่ง เราออ กกาลัง กาย
ใน สถาน ที่มีออกซิเจน มากๆ เช่น ตามสวน สาธารณ ะที่มีออกซิเจน บริสุ ทธิ มากๆ
ปอดก็จะได้รับออกซิเจนที่มีคุณภาพมากขึ้นด้วย
2.6.3ระ บบ เคมีใ น เลือดดีขึ้ น • การออกกาลัง กายเป็ น การเผาผลาญ ไขมัน
เมื่ อ ไ ข มัน ใ น ร่ า ง ก า ย ( ใ น เ ส้ น เ ลื อ ด ค น เ ร า ก็ มี ไ ข มัน ) ถู ก ใ ช้ ไ ป
เลือดของเราก็เดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ทาให้ปริมาณไขมันในเลือด (คอเลสเตอรอล) ลดลง
และไตรกลีเซอไรด์ ลดลงเช่น กัน ทาให้ลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
และโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน • เพิ่ม HDL(คอเลสเตอรอล ตัวดี ที่ร่างกายต้องการมาก
และจะเพิ่มได้ด้วยการออกกาลังกายเท่านั้น) ซึ่งเป็นตัวช่วยลดการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน •
ลด น้ าตาลส่วน เกิน ป้ อง กัน โรค เบ าห วาน เพ ร าะ ว่าเวล าเราออ ก กาลัง ก าย
ร่าง กายจะ ต้องใช้พ ลังงาน มาก ร่างกายจะไปดึง เอาน้ าตาลมาแปลงเป็ น พ ลัง งาน
ทาให้ระดับน้าตาลส่วนเกินในเลือดต่าลง ลดความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานได้
2.6.4ด้านระบบประสาทและจิตใจ• ลดความเครียดได้ดี เพราะว่าการออกกาลังกายนั้น
คุณจะไม่ค่อยได้คิดเรื่องที่เครียด ใจจะจดจ่อกับการเต้น (แต่บางทีเต้นไม่ทัน ก็เครียดเหมือนกันนะ)
• เว ล าเห งื่ อ อ อ ก จน ถึ ง ร ะ ดับ นึ ง ร่าง ก ายจ ะ ห ลั่ง ส าร Endorphin จาก ส มอ ง
เป็ น สารที่ทาให้ร่างกายรู้สึ กสบาย รู้สึ กปลอดโปร่ง (ต้องลองเอง บรรยายไม่ถูก)
จะเห็นว่าการออกกาลังกายด้วย แอโรบิคเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก
หมายเหตุ ก่อนเต้นและหลังเต้นต้องวอร์มร่างกายก่อน โดยอาจจะอุ่นเครื่องด้วยการเดินสัก
3-5นาที แกว่งแขน สะบัดขาไปมา
18
2.7 ข้อแนะนาในการเล่นแอโรบิก
2.7.1ต้องเล่นให้แรงพอสมควร มัน ถึงจะสามารถเรียกไขมันอย่างได้ผล นั่น คือ
จะต้องแรงจนกระทั่งหัวใจเต้นเร็วขึ้นไปเป็น 60 –80 เปอร์เซ็นต์ ของอัตราการเต้นสูงสุดของมัน
ซึ่งคุณจะห าได้จากการเอา 220 ลบด้วยอายุของคุณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอายุ 30 ปี
อัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจคุณก็จะเป็น 220 –30 = 190 ครั้งต่อนาที และ 60 –80 เปอร์เซ็นต์
ของมัน ก็จะเท่ากับ 114 – 152ครั้งต่อนาที (มาจาก 190 x0.6 กับ 190 x0.8 ตามลาดับ)
2.7.2ต้อง ทาใ ห้ น าน พ อส มควร คือ ประ ม าณ 20 น าที ถึง 1 ชั่วโมง ด้วย
ซึ่ ง อัน นี้ จ ะ ขึ้ น อ ยู่กับ ค ว า ม แ ร ง ห รื อ ค ว า ม เ ข้ม ข้น ที่ คุ ณ เ ล่น อ ย่า ง เช่ น
น้ าห นั ก ม าก จ น ก ระ ทั่ง หั วใ จข อ ง คุณ เต้น เร็ วขึ้ น ไ ป เป็ น 80 เป อ ร์ เซ็ น ต์
ของอัตราการเต้น สูงสุดของมัน ก็เล่น แค่ 20 นาที ก็พ อ แต่ถ้ามัน เป็ น 60 เ ปอร์เซ็น ต์
ก็ต้องเล่นให้นานกว่านี้
2.7.3ลองจับชีพจร(ตรงข้อมือหรือข้างลาคอก็ได้) หลังจากที่เล่นเสร็จ เพื่อตรวจสอบดูว่า
อัตราการเต้นของหัวใจคุณเป็นเท่าไร ถ้ายังไม่ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ของอัตราการเต้นสูงสุดของมัน
คุณก็ต้องเพิ่มความเข้มในการเล่นให้มันมากขึ้นในคราวต่อไป
2.7.4หลังจากที่เล่นเสร็จ ก็ไม่ควรนั่งพัก แต่จะต้องเดินไปเดินมาสักนาที สองนาที
เพราะการหยุดทันที ในขณะที่หัวใจเต้นเร็วมากๆ นั้น มันอาจจะเป็นอันตรายกับหัวใจของคุณได้
2.7.5สาหรับความถี่ในการออกกาลังกายแบบแอโรบิก ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าดีที่สุด
ก็คืออย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน
19
บทที่ 3
วิธีการดาเนินงาน
3.1 วัสดุอุปกรณ์
3.1.1 ลาโพง
3.1.2 ไมโครโฟน
3.2 วิธีการดาเนินงาน
3.2.1 ปรึกษาหาเรื่องหรือปัญหาที่ต้องการจะจัดทาโครงการ
3.2.2 หาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ศึกษา
3.2.3 ทาป้ายประชาสัมพันธ์ว่าจะมีการจัดกิจกรรมเต้นแอโรบิก
20
3.2.4 เชิญชวนน้องๆที่มีรูปร่างอ้วนหรืออวบมาเต้น
บทที่ 4
ผลการศึกษา
-
กลุ่มของข้าพเจ้าเลือกสถานที่ในการจัดกิจกรรมเต้นแอโรบิกเพื่อให้คนที่มีน้าหนักมากและไม่มีเวลา
ออกกาลังกายได้ออกกาลังกาย คือ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
-กลุ่มของข้าพเจ้าได้ติดป้ ายประกาศเชิญชวนนักเรียนทั่วโรงเรียน
และมีน้องๆให้ความสนใจเป็นจานวนมาก
-
กลุ่มของข้าพเจ้าได้ศึกษาท่าเต้นแอโรบิกมาตราฐานและฝึกซ้อมจนสามารถนาเต้นแอโรบิกให้กับน้
องๆและเพื่อนๆ ในโรงเรียนได้
-กลุ่มของข้าพเจ้าได้หาเพลงที่ใช้สาหรับการเต้นแอโรบิกได้
21
-ในวันที่ 18กันยายน พ.ศ.2558 เวลา 16.00 น. กลุ่มของข้าพเจ้าทากิจกรรมเต้นแอโรบิก
มีผู้ที่สนใจมาร่วมกิจกรรม
บทที่ 5
สรุปผลและข้อเสนอแนะ
จากผลการดาเนินงานสามารถสรุปได้ว่า กลุ่มของข้าพเจ้าได้จัดตั้งกิจกรรม Up AndDown
ขึ้น ได้จัดทาป้ายเพื่อเชิญชวนเพื่อนๆและน้องๆภายในโรงเรียน
กลุ่มของข้าพเจ้าได้ศึกษาท่าเต้นแอโรบิกมาตราฐานและฝึกซ้อมจนสามารถเต้นแอโรบิกได้
เมื่อถึงวันทากิจกรรมก็มีคนมาร่วมกิจกรรมจนทาให้สาเร็จลุล่วงไปด้วยดี
กลุ่มของข้าพเจ้าคิดว่าการที่ได้สอนน้องๆเต้นแอโรบิกจะทาให้น้องๆได้ความสนุกสนานได้ออกกา
ลังกายและนากลับไปออกกาลังกายที่บ้านต่อในเวลาที่ว่างจากภาระงาน
ข้อเสนอแนะ
22
จากกิจกรรม upand down กลุ่มของข้าพเจ้าได้พบปัญหาคือ
เวลาที่จัดกิจกรรมเป็นตอนหลังเลิกเรียน จึงทาให้มีคนร่วมกิจกรรมบางส่วน
เพราะต้องกลับบ้านด้วยรถประจาทาง จึงเสนอแนะให้จัดกิจกรรมในช่วงพักกลางวันแทน
บรรณานุกรม
ปิติพร อุบล: แอโรบิกดานซ์(2556)
แหล่งที่มา:http://5502746ning.blogspot.com/2013/09/blog-post_8997.html
มะลิวัลย์ บรรณกิจ:ประวัติความเป็นมาของแอโรบิกแหล่งที่มา:https://sites.google.com/site/ohaero
bics2536/prawati-khwam-pen-ma-khxng-xae-ro-bik
ศักดิ์ดา จันทะสิงห์:ประว้ติแอโรบิกแดนซ์
แหล่งที่มา:http://tonsakda_ss.igetweb.com/articles/479700/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B
8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A7%E
0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A
23
1%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%
B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%81.html/
สานักข่าวมุสลิมไทยโพส:ประวัติความเป็นมาของแอโรบิกในประเทศไทย
แหล่งที่มา:http://info.muslimthaipost.com/main/index.php?page=sub&category=25&id=18473
ภาคผนวก
24
ภาพที่ 1 ป้ายเชิญชวน
ภาพที่ 2 ติดป้ายเชิญชวน
25
ภาพที่ 3 สอนน้องๆ เพื่อนๆเต้นแอโรบิก
ภาพที่ 4 สอนน้องๆ เพื่อนๆเต้นแอโรบิก
ภาพที่ 5 สอนน้องๆ เพื่อนๆเต้นแอโรบิก
26
ภาพที่ 6 การประชุมกลุ่ม
ภาพที่ 7 การประชุมกลุ่ม
ภาพที่ 8 การนาเสนอหน้าห้อง
27
ภาพที่ 9 การนาเสนอหน้าห้อง
PPT นาเสนอโครงงาน
28
PPT สรุปผลโครงงาน
29
เว็บไซต์นาเสนองาน
https://sites.google.com/site/khorngkarupanddown/home

More Related Content

Similar to โครงการ1

โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2nidkybynew
 
โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2nidkybynew
 
โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2nidkybynew
 
โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2nidkybynew
 
โครงร่าง 4 ภายหลังสอบ แขนง
โครงร่าง 4 ภายหลังสอบ แขนงโครงร่าง 4 ภายหลังสอบ แขนง
โครงร่าง 4 ภายหลังสอบ แขนงSusaree Prakhinkit
 
ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพpenpun
 
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Cbi
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Cbiแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Cbi
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ CbiWanida Keawprompakdee
 
Tittaya suton1
Tittaya suton1Tittaya suton1
Tittaya suton1mayzahh
 
คู่มือออกกำลังกายและโภชนาการเพื่อสุขภาพ
คู่มือออกกำลังกายและโภชนาการเพื่อสุขภาพคู่มือออกกำลังกายและโภชนาการเพื่อสุขภาพ
คู่มือออกกำลังกายและโภชนาการเพื่อสุขภาพThiti Wongpong
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1Pond23
 
Task-based Language Teaching (TBL)
Task-based Language Teaching (TBL)Task-based Language Teaching (TBL)
Task-based Language Teaching (TBL)Areeya Hongsuwan
 
คู่มือการใช้แบบฝึกสำหรับครู
คู่มือการใช้แบบฝึกสำหรับครูคู่มือการใช้แบบฝึกสำหรับครู
คู่มือการใช้แบบฝึกสำหรับครูArt Nan
 

Similar to โครงการ1 (20)

โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2
 
โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2
 
โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2
 
โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2โยคะเพื่อสุขภาพ2
โยคะเพื่อสุขภาพ2
 
Up and-down
Up and-downUp and-down
Up and-down
 
Act20
Act20Act20
Act20
 
Up and-down
Up and-downUp and-down
Up and-down
 
โครงร่าง 4 ภายหลังสอบ แขนง
โครงร่าง 4 ภายหลังสอบ แขนงโครงร่าง 4 ภายหลังสอบ แขนง
โครงร่าง 4 ภายหลังสอบ แขนง
 
แอโรบิกในทับแก้ว
แอโรบิกในทับแก้วแอโรบิกในทับแก้ว
แอโรบิกในทับแก้ว
 
แอโรบิกในทับแก้ว
แอโรบิกในทับแก้วแอโรบิกในทับแก้ว
แอโรบิกในทับแก้ว
 
ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
 
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Cbi
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Cbiแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Cbi
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Cbi
 
Tittaya suton1
Tittaya suton1Tittaya suton1
Tittaya suton1
 
คู่มือออกกำลังกายและโภชนาการเพื่อสุขภาพ
คู่มือออกกำลังกายและโภชนาการเพื่อสุขภาพคู่มือออกกำลังกายและโภชนาการเพื่อสุขภาพ
คู่มือออกกำลังกายและโภชนาการเพื่อสุขภาพ
 
Exercise For Life
Exercise For LifeExercise For Life
Exercise For Life
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
Task-based Language Teaching (TBL)
Task-based Language Teaching (TBL)Task-based Language Teaching (TBL)
Task-based Language Teaching (TBL)
 
จุดเน้นที่ 4
จุดเน้นที่ 4จุดเน้นที่ 4
จุดเน้นที่ 4
 
คู่มือการใช้แบบฝึกสำหรับครู
คู่มือการใช้แบบฝึกสำหรับครูคู่มือการใช้แบบฝึกสำหรับครู
คู่มือการใช้แบบฝึกสำหรับครู
 
Demo-โยคะ
Demo-โยคะDemo-โยคะ
Demo-โยคะ
 

More from Wityaporn Pleeboot

ที่มาและความสำคัญ
ที่มาและความสำคัญที่มาและความสำคัญ
ที่มาและความสำคัญWityaporn Pleeboot
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์Wityaporn Pleeboot
 
San disk เปิดตัว microsd ความจุ 128gb
San disk เปิดตัว microsd ความจุ 128gbSan disk เปิดตัว microsd ความจุ 128gb
San disk เปิดตัว microsd ความจุ 128gbWityaporn Pleeboot
 

More from Wityaporn Pleeboot (8)

บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
wityaporn
wityapornwityaporn
wityaporn
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
งานนำเสนอ2
งานนำเสนอ2งานนำเสนอ2
งานนำเสนอ2
 
ที่มาและความสำคัญ
ที่มาและความสำคัญที่มาและความสำคัญ
ที่มาและความสำคัญ
 
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
 
San disk เปิดตัว microsd ความจุ 128gb
San disk เปิดตัว microsd ความจุ 128gbSan disk เปิดตัว microsd ความจุ 128gb
San disk เปิดตัว microsd ความจุ 128gb
 

โครงการ1

  • 1. โครงการ เรื่อง Up And Down เสนอ คุณครู ทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม จัดทาโดย 1.นายภานุ เวียนสันเทียะ เลขที่ 4 2.นายอังกูร กาญจนพิสิฐ เลขที่ 5 3.นางสาววราภรณ์ ช้างเขียว เลขที่ 25 4.นางสาววิชญาพร ปลีบุตร เลขที่ 26 5.นางสาวไอญาดา อาชวพิสิฐ เลขที่ 27 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา IS 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี
  • 2. ก คานา รายงาน เล่มนี้ เป็ น โ ครงง าน ที่ คณ ะ ผู้จัดทาได้ต่อยอดจากโครง งาน เรื่ อง สารวจนักเรียนที่เข้าข่ายโรคอ้วน ได้รู้ผลว่านักเรียนไม่มีเวลาออกกาลังกายใช้เวลาอยู่กับการเรียน ขี้ เกี ย จ อ อ ก ก าลั ง ก า ย ค ณ ะ ผู้ จัด ท า จึ ง ไ ด้ ท าโ ค ร ง ง าน เรื่ อ ง Up And Down ขึ้นเพื่อสอนให้น้องเต้นแอโรบิกภายในโรงเรียนและน้องๆที่เข้าข่ายโรคอ้วนก็จะได้มีสุขภาพที่แข็ง แรงและห่างไกลโรค คณะผู้จัดทา
  • 3. ข กิตติกรรมประกาศ โครงงานนี้สาเร็จขึ้นได้ด้วยความอนุเคราะห์จากคุณครูทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม ซึ่งเป็นครูผู้สอนที่ได้ให้ ความรู้ คาแนะนาตรวจงานให้ข้าพเจ้า เทคนิคการนาเสนอ และแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ด้วยความเอาใจใส่ทุกขั้นตอนเพื่อให้โครงงานและการเขียนโครงงานออกมาดี คณะผู้จัดทาขอขอบคุณเป็นอย่างสูง ขอบคุณนักเรียนโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ กาญจนบุรี ที่ให้ความร่วมมือในการเต้นแอโรบิกเพื่อสุขภาพ ตลอดจนผู้ที่ไม่ได้กล่าวนาม ณ ที่นี้ สุดท้ายนี้คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงงานนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาของผู้ที่สนใจต่อไป คณะผู้จัดทา
  • 4. ค สารบัญ เรื่อง หน้า คานา ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค-ง สารบัญภาพ จ บทที่ 1 1 -ที่มาและความสาคัญ 1 -หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1 -วัตถุประสงค์ 2 -สถานที่ดาเนินงาน 2 -ระยะเวลาในการดาเนินงาน 2 -ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3-17 บทที่ 3 วิธีการดาเนินงาน 18 -วัสดุอุปกรณ์ 18 -วิธีการดาเนินงาน 18
  • 5. ง สารบัญ (ต่อ) บทที่ 4 ผลการศึกษา 19 บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ 20 -ข้อเสนอแนะ 20 -บรรณานุกรม 21 ภาคผนวก 22-27
  • 6. จ สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า ภาพที่ 2.1 DR. Kenneth H.Cooper 3 ภาพที่ 2.2 แอโรบิกดานซ์ในประเทศไทย 5 ภาพที่ 2.3 การออกกาลังกาย 9 ภาพที่ 2.4 จุดมุ่งหมายของการออกกาลังกาย 10 ภาพที่ 2.5 การออกกาลังโดยใช้อุปกรณ์ 11 ภาพที่ 2.6 รองเท้า 11 ภาพที่ 2.7 ชุดออกกาลังกาย 13
  • 7. 1 บทที่ 1 บทนา 1.1 ที่มาและความสาคัญ ปัจจุบันผู้คนต่างใส่ใจกับการดูแลสุขภาพกันมากขึ้นหันมาออกกาลังกายกันเป็นกิจกรรมยา มว่างกันแต่สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษานั้นทุกๆวันมีแต่การเรียนจันทร์ถึงศุกร์ก็เรียนที่โรงเรียนเ สาร์อาทิตย์ก็เรียนพิเศษจึงไม่ค่อยมีเวลาออกกาลังกายซึ่งนั้นเป็นการดีของเด็กที่อ้วนที่ไม่ชอบออก กาลังกายได้มีข้อแก้ตัวว่าไม่มีเวลาว่างทาให้เกิดโรคอ้วนในเด็กมากขึ้นทุกๆปี กลุ่มของข้าพเจ้าจึงจะจัดกิจกรรมให้ผู้ที่เป็นโรคอ้วนหรือเข้าข่ายโรคอ้วนในโรงเรียนได้ออ กกาลังกายโดยกิจกรรมที่จะทาคือการสอนเต้นแอโรบิก 1.2 หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1.2.1 หลักปรัชญา คือทางสายกลาง ประกอบไปด้วย ดังนี้ ป รั ช ญ า ที่ 1 คื อ พ อ ป ร ะ ม า ณ คือการจัดกิจกรรมที่เราสามารถทาได้โดยที่เราไม่ต้องเดือดร้อน ป รั ช ญ า ที่ 2 คื อ มี เ ห ตุ ผ ล คื อ การที่เราเลือกที่จะทากิจกรรมนี้เพราะเป็นกิจกรรมที่ใกล้ตัวและเป็นการต่อยอดจากโครงการสารวจ นักเรียนที่เข้าข่ายโรคอ้วน ป รั ช ญ า ที่ 3 คื อ มี ภู มิ คุ้ ม กั น ที่ ดี ใ น ตั ว เ อ ง คื อ การทากิจกรรมอะไรนั้นต้องทาอย่างระมัดระวังไม่ประมาทถึงจะศึกษามาดีอย่างไรก็ควรมีการซ้อม กันก่อนที่นาไปเผยแพร่แก่คนอื่น 1.2.2 เงื่อนไข 2 เงื่อนไข ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่
  • 8. 2 เ งื่ อ น ไ ข ที่ 1 เ งื่ อ น ไ ข ค ว า ม รู้ คื อ คื อ เราได้ศึกษาเกี่ยวกับการเต้นแอโรบิกว่ามีท่าพื้นฐานอะไรบ้างและมีวิธีเต้นอย่างไรเพื่อที่จะไปสอนค นอื่นๆได้ เ งื่ อ น ไ ข ที่ 2 เ งื่ อ น ไ ข คุ ณ ธ ร ร ม คื อ การที่เราอาสาช่วยให้ผู้ที่ไม่มีเวลาออกกาลังกายได้มีกิจกรรมที่จะช่วยพวกเขาและทาให้พวกเขามีสุ ขภาพที่ดีขึ้น 1.3 วัตถุประสงค์ ช่วยใ ห้คน ที่อ้วน ที่ ไม่มีเวลาออกกาลัง กายได้ออกกาลัง ที่ไม่น่าเบื่อ สนุ ก และยังได้สุขภาพที่ดีด้วย 1.4 สถานที่ดาเนินงาน โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี 1.5 ระยะเวลาในการดาเนินงาน เดือน พฤษภาคม ถึง กันยายน พ.ศ.2558 1.6 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ คนอ้วนได้มีเวลาออกกาลังกายที่ไม่น่าเบื่อ และยังได้สุขภาพที่ดีด้วย
  • 9. 3 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 2.1 ประวัติความเป็นมาของแอโรบิก ภาพที่ 2.1 DR. Kenneth H.Cooper แอโรบิก เกิดขึ้นเมื่อ 26 ปี มาแล้ว โดย DR. KennethH.Cooper ได้เขียนเป็ นตาราเรื่อง AEROBICS กล่าวไว้ว่า แอโรบิกเป็นการออกกาลังกายชนิดหนึ่งชื่อว่า AEROBICS EXERCISE ห ม า ย ถึ ง การออกกาลังกายที่เพิ่มประสิทธิภาพการทางานให้สัมพันธ์กันระหว่างระบบไหลเวียนโลหิตกับปอ ด ใ ช้ อ อ ก ซิ เ จ น อ ย่ า ง ส ม่ า เ ส ม อ ทาให้เกิดการเผาผลาญพลังงานอย่างเต็มที่กระตุ้นให้ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นทาหน้าที่
  • 10. 4 เป็ น ภู มิ คุ้ม กัน โ ร ค ต่าง ๆ ได้ ดัง นั้ น ก าร เต้น แ อ โ ร บิ ก ( AREOBIC DANCING) จึงนับเป็นการออกกาลังกายประเภทแอโรบิกอีกชนิดหนึ่ง ใ น ปี ค . ศ . 1 9 6 9 จู ดี้ เ ช ฟ ฟ า ร์ ด มิส เซตต์ได้น าการออกกาลังกายแบบ แอโรบิกมาประ ยุกต์โดยทาการเต้น เเจส ม า ผ ส ม ผ ส า น กั บ ก า ร อ อ ก ก า ลั ง ก า ย แ บ บ แ อ โ ร บิ ก เอกเซอร์ไซด์ใส่จังหวะการเต้นราของจังหวะเเจสเข้าไปทาให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนชาวอเมริกันกั นอย่างแพร่หลาย ต่ อ ม า ใ น ปี ค . ศ . 1 9 7 9 แ จ๊ ค กี้ โ ซ เ ร น สั น ได้พัฒนาการออกกาลังกายแบบแอโรบิกเอกเซอร์ไซด์มาประยุกต์ให้เข้ากับจังหวะดนตรีที่สนุกสนา น เ ร้ า ใ จ ร ว ม ทั้ ง มี ก า ร เ ค ลื่ อ น ไ ห ว ซึ่งนาหลักการของวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้าประกอบการออกกาลังกายจึงเป็นที่นิยมและรู้จักกันโดย ทั่วไปในชื่อว่า แอโรบิกดานซ์ (Aerobics Dance) ในปี ค.ศ.1984 มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 23 ที่รัฐลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ใ น พิ ธี เปิ ด ก ารแ ข่ง ขัน ได้ท าก ารเต้น แ อ โ รบิ ก ด าน ซ์ มาแ ส ด ง ใ น พิ ธี เปิ ด ทาให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลก เบื้องหลังความสาเร็จของการเต้นแอโรบิกได้รับการกล่าวถึงเป็นหนังสือชื่อ Aerobic Dancing โดย JackiSorensen ว่า กีฬ าเต้น แอโรบิก ได้รับความนิ ยมสู งสุ ดที่ประเทศสห รัฐอเมริกา จัดให้มีการเต้นแอโรบิกภายในสตูดิโอหรือโรงยิมโดยรับเอาต้นแบบการเต้นแอโรบิกประ กอบ ดนตรีแบบอาหรับ จากนั้นกีฬาการเต้นแอโรบิกปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยเข้ากับจังหวะดนตรี ในปัจจุบันด้วยวิธีนับจังหวะบีทเพลงจึงทาให้การออกกาลังกายแบบเต้นแอโรบิกทันสมัยและสนุกส น า น อ ยู่ เ ส ม อ ประสิทธิภาพจากการเต้นแอโรบิกเป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ทั่วโลกเกี่ยวกับทางด้านพัฒนาสุขภา พเกี่ยวกับการพัฒนากล้ามเนื้อ,หัวใจ, ปอด เทียบเท่ากับการเล่นกีฬาวิ่งจ๊อกกิง, ว่ายน้ า, หรือการเดินขึ้นบันไดจึงไม่น่าแปลกเมื่อกีฬาเต้นแอโรบิกเป็นที่ยอมรับในประเทศต่างๆ เช่น อั ง ก ฤ ษ ญี่ ปุ่ น อ อ ส เ ต ร เ ลี ย ฝ รั่ ง เ ศ ส ร ว ม ทั้ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย
  • 11. 5 ความแรงของกีฬาเต้นแอโรบิกได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลกนี่เองทาให้การเต้นแอโรบิกไม่มีท่าเ ฉ พ าะ ที่ แ น่ น อ น แ ต่ห ลั ก ม าต ร าฐ าน ส า ก ล นั้ น ก าห น ด ใ ห้ ท่า เต้น ต้อ ง นับให้เข้ากับจังหวะบีทเพลงห รือตัวโน้ตดนตรี ส่วนกีฬาเต้นแอโรบิกที่ประเทศไทย นั้ น เ ลื อ ก ใ ช้ ท่ าเต้ น ที่ นั บ ต า ม จัง ห ว ะ 1 - 2 - 3 - 4 - 5 - 6 - 7 - 8 - 9 - 1 0 เท่านั้นเพราะจะช่วยให้การเต้นแอโรบิกเป็นไปได้ง่ายกว่า 2.2 แอโรบิกแดนซ์ในประเทศไทย 2.2.1 แอโรบิกดานซ์ในประเทศไทย ภาพที่ 2.2 แอโรบิกดานซ์ในประเทศไทย ป ร ะ ม า ณ ปี พ . ศ . 2518 ประชาชนชาวไทยได้มีการตื่นตัวในการออกกาลังกายมากขึ้นทั้งนี้เพราะชาวไทยมีความเข้าใจในเรื่ อ ง ข อ ง ก า ร ศึ ก ษ า ม า ก ขึ้ น และเข้าใจถึงประโยชน์ของการออกกาลังกายว่าสามารถลดโรคภัยไข้เจ็บได้
  • 12. 6 ในระหว่างปี พ. ศ.2518 ได้มีกลุ่มนักธุรกิจเปิดสถานบริหารร่างกายขึ้น ซึ่งบริหารโดยคนไทย ซึ่งสืบสานและนาตัวอย่างมาจากสถานบริหารร่างกายโดยชาวอเมริกากันซึ่งเป็นนักธุรกิจมาทางานใ นกรุงเทพ ฯ ในระยะแรกวิธีการสอนการออกกาลังกายสาหรับประชาชนที่เข้าไปร่วมกิจกรรมนั้น เป็ น วิธี การบริ ห ารร่าง ห ายดัง กล่าว ได้มีวิทยากรชื่ ออาจารย์สุ กัญ ยา มุสิ กวัน ไ ด้ เ ข้ า ไ ป เ ป็ น วิ ท ย า ก ร แ ล ะ เ ล็ ง เ ห็ น ว่ า กิจกรรมที่จัดให้กับสมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรมบริหารร่างกายนั้นไม่เพียงพอกับการเสริมสร้างสมรรถ ภาพเท่าใดนัก ในปี พ.ศ.2519 อาจารย์สุกัญยา มุสิกวัน จึงได้จัดกิจกรรมชื่อว่า Slimnastic ซึ่งมาจากคาว่า Slim + Gymnastic ซึ่ ง เ ป็ น กิ จ ก ร ร ม บ ริ ห า ร ร่ า ง ก า ย ป ร ะ ก อ บ เ พ ล ง เป็นเครื่องมือในการออกกาลังกายสาหรับสมาชิก อันทาให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินมากขึ้น กิ จ ก ร ร ม ดั ง ก ล่ า ว ได้เน้นการเคลื่อนไหวร่างกายเบื้องต้นประกอบจังหวะดนตรีเป็นกิจกรรมบริหารร่างกายเพื่อลดสัด ส่วนของร่างกาย ในปี พ.ศ.2522 อาจารย์สุกัญยา มุสิกวัน (พานิชเจริญนาม) ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น และได้เดินทางกลับมา ใ น ปี พ .ศ . 2526 ไ ด้ เ ล็ ง เ ห็ น กิ จ ก ร ร ม ก า ร เ ค ลื่ อ น ไ ห ว แ บ บ Slimnastic ค ว ร เ ป็ น ไ ป ใ น รู ป แ บ บ แ อ โ ร บิ ก ด า น ซ์ เ ห มื อ น ส า ก ล จึงได้เริ่มสอนและได้จัดอบรมให้ผู้ที่สน ใจและลูกศิษย์ ให้น าไปเผยแพร่ทั่วประเทศ โดยจัดในรูปสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ณ สนามกีฬาแห่งชาติ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจานวน 130คน จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ และนับจากปี 2526 เป็นต้น ม า จ น ถึ ง ปั จ จุ บั น แ อ โ ร บิ ก ด า น ซ์ จึ ง เ ป็ น กิ จ ก ร ร ม ที่ แ พ ร่ ห ล า ย และมีการจัดการเรียนการสอนใ นหลักสูตรพลศึกษา ระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา แ ล ะ ด้ า น เ อ ก ช น ก็เปิดบริการให้ประชาชนทั่วไปฝึกร่างกายเพื่อให้ร่างกายมีความอดทนและได้มาซึ่งรูปร่างที่ดี ก า ร อ อ ก ก า ลั ง ก า ย แ บ บ แ อ โ ร บิ ก ด า น ซ์
  • 13. 7 ได้มีการพัฒ น าและ มีวิวัฒ น าการเป็ น การออกกาลัง กายได้ห ลายรูป แบบ เช่น แ อ โ ร บิ ก ด า น ซ์ แ บ บ แ จ ซ เ ซ อ ร์ ไ ซ ด์ แ อ โ ร บิ ก ใ น น้ า เ ส ต็ ป แ อ โ ร บิ ก เ พื่ อ ใ ห้ มี ค ว า ม ห ล า ก ห ล า ย ม า ก ขึ้ น มีความสนุ กสน าน จากการออกกาลัง กายและ คงการออกกาลังกายให้ น าน ที่สุ ด ที่ ส า คั ญ ก็ เพื่ อ ป ร ะ โ ย ช น์ จ า ก ก า ร อ อ ก ก าลั ง ก า ย แ บ บ แ อ โ ร บิ ก ด า น ซ์ และเป็นการออกกาลังกายที่สนุกสนานและได้ประโยชน์มากที่สุดนั่นเอง แ อ โ ร บิ ก ด า น ซ์ ( Aerobic Dance) ห ม า ย ถึ ง วิธีการออกกาลังกายชนิดหนึ่งที่นาเอาท่าบริหารกายต่างๆผสมผสานกับทักษะการเคลื่อนไหวเบื้องต้ น และจัง หวะเต้น ราที่จะกระตุ้น ให้หัวใจและ ปอดต้องทางาน มากขึ้ น ถึงจุดห นึ่ ง ด้วยระยะเวลาที่นานเพียงพอที่จะทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ เป็ นประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นการสร้างบรรยากาศในการออกกาลังกายที่สนุกสนานรื่นเริงลืมความเหน็ดเหนื่อยและเบื่อหน่าย ได้ ทั้งยังสร้างความแข็งแรง ความทน ทาน ของระบบกล้ามเนื้อ ระบบไหลเวียน เลือด หัวใจและปอดได้ดีขึ้น ทาให้รูปร่างสมส่วนมีบุคลิกภาพที่ดี 2.2.2 ท่าเต้นพื้นฐาน 1)การย่าเท้า Marching คือ การย่าเท้าอยู่กับที่ ส่วนใหญ่แล้วจะย่าเท้า 2 แบบคือ แบบกว้าง (Marching Out) และแบบแคบ (Marching In) 2)ก ารเดิ น ( Walking ) คื อ ก ารก้าวเท้ าไป ยัง ทิ ศท าง ที่ เค ลื่ อ น ที่ ไ ป มีการถ่ายน้าหนักตัวจากเท้าหนึ่งไปยังอีกเท้าหนึ่ง การเดินนั้นสามารถเดินไปข้างหน้า ข้างหลัง หรือเฉียง หรือเดินเป็นรูป
  • 14. 8 3)ก้าวรูปสี่เหลี่ยม ( Easy Walk) คือ การก้าวเดินไปข้าง 1ก้าว ถอยหลัง 1 ก้าว ลักษณะคล้าย V-step แต่วางเท้าเป็นรูปสี่เหลี่ยม หรืการก้าวเดิน 4) ก า ร ก้ า ว แ ต ะ ( Step Touch ส เ ต็ ป ทั ช ) คื อ การยกเท้าห นึ่ งไปด้าน ข้างแล้วยกเท้าอีกข้างห นึ่ ง ไป แตะ แล้วทาสลับกัน ทิศทางการเคลื่อน ไห วจะ เป็ น การก้าวแตะที่อยู่กับที่ ห รือทาเป็ น รูปตัวแอล ห รื อ ก้าวแตะหมุนรอบตัวเองก็ได้ 5)ส้น เท้าแตะ ( HellTouch ฮีลทัช ) คือการแตะด้วยส้น เท้าข้างใดข้างห นึ่ ง โดยแตะข้างหน้าหรือด้านหลังก็ได้ 6) ป ล า ย เ ท้ า แ ต ะ ด้ า น ข้ า ง ( Side Tap ไ ซ ด์ แ ท บ ) คือการแตะด้วยปลายเท้าข้างใดข้างหนึ่งโดยแตะด้านข้างหน้าซ้าย-ขวา สลับกัน 7)การยกส้นเท้า ( LekCurl เล็คเคอ) คือการยกส้นเท้าขึ้นไปที่สะโพกด้านหลัง ห รื อการพับ ส้น เท้าไป ด้าน ห ลัง การทา Hamstring Curl ห รื อ Hamstring CurlLek Curl นั้นทาได้ทั้งที่อยู่กับที่หรือหมุนรอบตัวเอง (แฮมสตริงเคอ) 8) ก้า ว ไ ข ว้ก้ าว แ ต ะ ( Grapevine เ ก ร พ ว าย ) ก้า ว ไ ข ว้ก้า ว แ ต ะ ห รื อ เ ก ร พ ว า ย คื อ ก า ร ท า ก้ า ว ไ ข ว้ ข า ไ ป ห ลั ง ห รื อ ห น้ า ก็ ไ ด้ การ ท าเก ร พ วาย นั้ น ส าม ารถ ท าได้ห ล ายรู ป แ บ บ เช่น เก ร พ วาย ธ รร ม ด า หรือเกรพวายเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือเกรพวายหมุน 180องศา 9) แ ม ม โ บ้ ( Membo ) คือการก้าวเท้าใดเท้าหนึ่ งไปข้างหน้าแล้วย่อเข่าลงแล้วนากลับสู่ที่เดิม และเปลี่ยนข้างทา การทาแมมโบ้สามารถทาได้ทั้งข้างหน้าและด้านข้างก็ได้ 10) ย ก เ ข่ า ( Knee Up นี อั พ ) เป็นท่าการเคลื่อนไหวพื้นฐานในการพัฒนากล้ามเนื้อขาหรือ KneeLift ได้อย่างดีดังนั้นแอโรบิก ด๊านซ์ทุกประเภทจึงมีท่าการยกเข่าทั้งการยกเข่าด้านหน้า(FrontKneeLift) หรือ นีลีฟ ด้านข้าง (Side Knee Lift) การยกเข่าเฉียง (Knee Cross)
  • 15. 9 11)ก าร แ ต ะ ข า ( Kick คิ ก ) ก าร แ ต ะ ข า ไ ป ใ ช้ ใ น ทิ ศ ท า ง ต่า ง ๆ ทั้งการแตะไปด้าน ห น้า(foreward) เฉี ยง ( cross ) ห ลัง ( backward )และข้าง( sideward ) การแตะขาที่ถูกต้องควรเป็นการแตะขาไม่ใช่การสะบัดเข่า 12)ก้าวชิ ด ก้าว แต ะ ( Two Step ทู ส เต็ ป ) คือ ก าร ท าก้าวชิ ด ก้าวแ ต ะ หรือการทาก้าวแตะ 2 ครั้ง 13) ส ค ว อ ท ( Squats ) คื อ ก า ร นั่ ง ย อ ง ๆ ห รื อ ย่ อ ยื ด ค ว ร นั่ ง ใ ห้ มุ ม ส ะ โ พ ก แ ล ะ เ ท้ า เ ป็ น มุ ม 90 % เ ท่ า นั้ น ไม่ควรนั่งให้สะโพกชิดส้นเท้าเพราะจะทาให้เอ็นหรือกระดูกอ่อนที่หัวเข่ายืดมากเกินไปซึ่งเป็นสาเ หตุหนึ่งทาให้เข่าเจ็บ 14)ช่า ช่า ช่า( ChaCha Cha) คือการก้าวใดเท้าหนึ่งไขว้ไปด้านหน้า ย่าเท้าหลัง แล้วนาเท้ากลับที่ก้าวไปข้างหน้ากลับมา ย่าย่า ย่า สลับเท้า 15)ส่ายสะโพก ( Twis ) คือการส่ายสะโพกซ้าย –ขวา สลับกัน 16)Step Knee คือการย่าเท้า 1-2ก้าวขึ้นบน 3 แล้วยกเข่า 2.3 ประเภทของการเต้นแอโรบิก ก า ร เ ต้ น แ อ โ ร บิ ก ใ น ปั จ จุ บั น มี ห ล า ย แ บ บ ด้ ว ย กั น ถ้านาลักษณะการเคลื่อนไหวเป็นเกณฑ์ในการแบ่งประเภทจะสามารถแบ่งได้ 4 ประเภท ดังนี้ 2.3.1การเต้นที่มีแรงกระแทกต่า (Low–impact aerobicsdance) การเต้นที่มีแรงกระแทกต่า เป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะของการกระแทกระหว่างร่างกายกับพื้นที่มีบ้างเล็กน้อยหรือเกือบจะไ ม่มีเลยเช่น สปริงข้อเท่า การย่อเข่าการเดิน เป็นต้น 2.3.2ก า ร เ ต้ น ที่ มี แ ร ง ก ร ะ แ ท ก สู ง ( High – impact aerobics dance) ก า ร เ ต้ น ที่ มี แ ร ง ก ร ะ แ ท ก สู ง เป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะของการกระแทกระหว่างร่างกายกับพื้นที่ค่อนข้างจะรุนแรง เช่น การกระโดดลอยตัวและลงสู่พื้นด้วยเท้าข้างใดข้างหนึ่งหรือด้วยเท้าทั้งสองข้าง
  • 16. 10 2.3.3ก าร เต้น ที่ มีแ รง ก ร ะ แ ท ก ห ล าก ห ล าย ( Multi – impact aerobics dance) การเต้นที่มีแรงกระแทกหลากหลายเป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะของแรงกระแทกต่าและแรงกระแ ทกสูงผสมกัน ซึ่ งผู้เต้น จะใช้แรงกระแทกต่าห รือแรงกระแทกสู งมากน้อยเพียงใด ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับสมรรถภาพของผู้เต้นและจังหวะเพลง 2.3.4ก า ร เ ต้ น ที่ ป ร า ศ จ า ก แ ร ง ก ร ะ แ ท ก ( No – impact aerobics dance) ก า ร เ ต้ น แ อ โ ร บิ ก ที่ ป ร า ศ จ า ก แ ร ง ก ร ะ แ ท ก เป็ น การเคลื่อน ไห วของร่างกายที่ไม่มีแรงกระ แทกระ ห ว่าง ร่างกายกับพื้น เช่น การเต้นแอโรบิกในน้า เป็นต้น 2.4 หลักการและวัตถุประสงค์ของแอโรบิก 2.4.1 หลักการออกกาลังกายแบบแอโรบิคแดนซ์ ภาพที่ 2.3 การออกกาลังกาย เป็ น การออกกาลังกายที่ได้รับความนิ ยมกัน อย่าง กว้าง ขวางทุกเพ ศ ทุกวัย ที่เป็ นเช่นนี้เพราะเป็ นการออกกาลังกายที่สนุกสนาน สามารถออกกาลังกายได้ทุกสถานที่ ทาได้ไม่ยากนัก ขอให้มีเพียงเสี ยงหรือจังห วะประกอบการออกกาลังกายก็พ อแล้ว ผู้ที่ทาให้การออกกาลังกายแอโรบิกดานซ์เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายของคนทั้งในยุโรป และเอเชียก็คือแจ๊คกี้โซเรนสัน เป็นชาวอเมริกัน ที่ทาให้รูปแบบการออกกาลังกายเป็นที่น่าสนใจ และสนุกสนาน โดยนาท่าออกกาลังกายและท่าเต้นรามาเต้นให้เข้ากับจังหวะดนตรีแอโรบิกดานซ์
  • 17. 11 คือ การนาเอาท่าบริหารแบบต่างๆมาบวกกับการเคลื่อนไหวพื้นฐาน บวกกับทักษะการเต้นรา และน ามาผสมผสาน กัน อย่างกลมกลืน แล้วนามาประกอบจังห วะห รือเสียงดน ตรี เพื่อนามาเป็นกิจกรรมการออกกาลังกาย จุดเด่นของการออกกาลังกายแบบแอโรบิกดานซ์ คือ มุ่ง ฝึ ก ร ะ บ บ ก า ร ห า ย ใ จ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร จับ อ อ ก ซิ เจ น สู ง สุ ด ซึ่งเป็นผลดีในการสร้างความอดทนให้แก่ร่างกายอีกด้วย ประโยชน์ที่ได้รับอีกอย่างหนึ่ง คือ ทาให้รูปร่างและทรวดทรงดีขึ้น ส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมได้รับความสนุ กสน าน ร่าเริง หายจากความตึงเครียด 2.4.2 วัตถุประสงค์ของการออกกาลังกายแบบแอโรบิกดานซ์ ภาพที่ 2.4 จุดมุ่งหมายของการออกกาลังกาย จุดมุ่งหมายสาคัญของการออกกาลังกายแบบแอโรบิกดานซ์อยู่ที่เน้นการเคลื่อนไหวส่วนต่า งๆของร่างกาย ให้มีการเต้น อัตราการเต้น ของชีพ จรให้ถึงเป้ าห มาย คือ 70 -80 % ข อ ง อัต ร า ก า ร เต้ น ชี พ จ ร สู ง สุ ด แ ล ะ ต้ อ ง เต้ น ติ ด ต่อ กัน ป ร ะ ม าณ 2 5 - 30นาทีจึงจะช่วยพัฒนาสมรรถภาพทางร่างกายให้ดีขึ้น (สมรรถภาพทางร่างกาย หมายถึง ค ว ามส ามา รถ ใ น ก าร ป ร ะ ก อ บ กิจ ก าร ท าง ก าย ไ ด้อ ย่าง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ซึ่ ง ประ กอบไปด้วยความแข็ง แรงของ กล้ามเนื้ อ ความทน ทาน ของ กล้ามเนื้ อ และระบบไหลเวียนโลหิต ปอด หัวใจ ความเร็วในการทางานของกล้ามเนื้อ ความอ่อนตัว
  • 18. 12 ความคล่อง ตัว) ควรจะ เต้น ให้ ห นั ก พ อ แ ละ ติดต่อกัน ประ มาณ 25 -30 น าที ควรจะเต้นประมาณสัปดาห์ละ 3วัน 2.5 อุปกรณ์และขั้นตอนการเต้นแอโรบิก 2.5.1 อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการเต้นแอโรบิกดานซ์ ภาพที่ 2.5 การออกกาลังโดยใช้อุปกรณ์ 1)รองเท้าและถุงเท้า เป็ นอุปกรณ์ที่จาเป็ น ที่สุด เพื่อช่วยป้ องกันการบาดเจ็บ ค ว ร ใ ช้ ร อ ง เ ท้ า ที่ อ อ ก แ บ บ ไ ว้ ส า ห รั บ ก า ร เ ต้ น แ อ โ ร บิ ก ซึ่ ง ช่วยลด แรง ก ระ แท ก ใ น แน วดิ่ ง แรง ก ดบิ ส่วน ต่าง ๆ ข อง เท้าแล ะ ข้อเท้า ซึ่งเกิดจาการเคลื่อนที่ในแนวราบทุกทิศทางผู้เต้นไม่ควรเสี่ยงกับรองเท้าเก่าหมดอายุแล้ว รองเท้าสาหรับการเต้นแอโรบิกควรมีลักษณะโดยสรุป ดังนี้ ภาพที่ 2.6 รองเท้า
  • 19. 13 1 . 1 บ ริ เ ว ณ ส่ ว น บ น ข อ ง หุ้ ม ส้ น จ ะ ต้ อ ง สู ง ขึ้ น แ ล ะ มี แ ผ่น นุ่ ม ร อ ง รั บ บ ริ เว ณ ต ร ง กับ เ อ็ น ร้ อ ย ห ว า ย เพื่อป้องกันไม่ให้ระคายเคืองต่อเอ็น 1.2ด้าน ข้า ง ข อ ง บ ริ เว ณ หุ้ ม ส้ น ทั้ ง ส อ ง ด้าน จะ ต้อ ง แ ข็ ง แ ร ง เพื่อป้องกันการบิดหมุนของส้นเท้า ทาให้บริเวณส้นเกิดความมั่นคง 1.3 บ ริ เ ว ณ ป ล า ย เท้ า จ ะ ต้ อ ง ห นุ น ขึ้ น ( อ ย่าง น้ อ ย ค รึ่ ง นิ้ ว ) เพื่ อ ป้ อง กัน ไม่ใ ห้ นิ้ วแล ะ เล็บ ถูก เบียด ซึ่ ง จะ ท าใ ห้ เกิด เลื อดค ลั่ง ใ น เล็ บ ได้ และช่วยยืดอายุการใช้งานของรองเท้าจากการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว 1.4ลิ้น รองเท้าจะ ต้อง บุให้ นิ่ ม และปิ ดส่วน บน ของ ฝ่ าเท้าได้ห มด เพื่อป้องกันเอ็นและกล้ามเนื้อกระดูก ถูกเสียดสีและระคายเคืองจนอักเสบได้ 1 .5 บ ริ เ ว ณ เ ส้ น ร อ ง เ ท้ า จ ะ ต้ อ ง ฝ า น ใ ห้ เ ป็ น รู ป ม น เพื่อช่วยในการเคลื่อนไหวจังหวะต่อไป เป็นไปได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น 1 .6 ที่ ส้ น ร อ ง เ ท้ า จ ะ ย ก สู ง ขึ้ น แ ล ะ มี ค ว า ม ยื ด ห ยุ่น ดี พ อ เพื่อจะรับแรงกระแทกของส้นเท้าได้ 1 .7 พื้ น ร อ ง เ ท้ า บ ริ เ ว ณ กึ่ ง ก ล า ง จ ะ ต้ อ ง พั บ ง อ ไ ด้ เพื่อการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวและป้องกันการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย 1.8พื้นรองเท้าควรมีลายที่ช่วยลดแรงกระแทกและยึดเกาะพื้นไม่ให้เลื่อน 1 .9 ที่ ร อ ง พื้ น ร อ ง เท้ าด้ า น ใ น ค ว ร มี ฟ อ ง น้ า เส ริ ม อุ้ง เท้ า เพื่อช่วยป้ องกัน การบาดเจ็บบริเวณ ส้น เท้า การอักเสบของพังผืดยึดกระดูกฝ่ าเท้า ผู้เล่นไม่ควรเสี่ยงกับรองเท้าเก่าหรือหมดอายุแล้ว
  • 20. 14 ภาพที่ 2.7 ชุดออกกาลังกาย 2)ชุดออกกาลังกาย ควรลักกุม ง่ายต่อการเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างเต็มที่ เนื้อผ้าระบายความร้อนและซับเหงื่อได้ดีไม่จาเป็นต้องราคาแพง ควรเป็นผ้ายืด การสวมชุดรัดรูป ห รื อ เ ป็ น ชุ ด อ อ ก ก า ลั ง ก า ย ที่ เ ป็ น ชุ ด ก า ง เก ง ติ ด กั บ เ สื้ อ ( Leotard ) จะช่วยให้ผู้สวมใส่มีความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆของร่างกายขณะบริหาร เสื้ อจะ ไม่เลื่อน ห ลุดขึ้ น มาเห นื อเอว อีกทั้งช่วยให้ผู้สวมใ ส่มองเห็ น ท่าทาง การ เคลื่อน ไห วของร่าง กายของตน เองได้ชัดเจน ห รื อทาใ ห้ เห็ น รูป ทรงส่วน เกิน ส่วนขาดที่จาเป็นต้องปรับเปลี่ยน ให้เข้าที่เข้าทาง 3)เสื้อชั้นใน ให้รัดพอดี รอบ ๆ ส่วนที่เป็น cup ถ้าเป็นชนิดไม่มีตะเข็บ (seamless) ที่ผลิตออกมาโดยปั้ มจากพิมพ์ ไม่ควรใส่ เพราะยกทรงแบบเต็มตัว เมื่อออกกาลังกายแล้ว จะทาให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังและใต้อกเคลื่อนไหวได้ยาก 4 ) ก า ง เก ง ชั้ น ใ น ไ ม่ค ว ร ใ ส่ แ บ บ ที่ รั ด ม า ก ที่ เ รี ย ก ว่า ส เ ต ย์ เพ ร าะ เว ล า อ อ ก ก า ลัง ก า ย ก ล้ า ม เ นื้ อ ส่ ว น นั้ น จ ะ เค ลื่ อ น ไ ห ว ไ ด้ ย า ก ทาให้โลหิตบริเวณนั้นไหลเวียนไม่สะดวก เกิดผลเสียแก่อวัยวะสืบพันธุ์ในอุ้ง เชิงก้านด้วย ควรเลือกใช้กางเกงชั้นในที่มีความกระชับพอดี ถ้าเป็นผ้าที่ผสมฝ้ายมากยิ่งดี 5)เพลงประกอบการเต้นหรือดนตรี เพลงที่ใช้ควรเป็นเพลงที่ชื่นชอบของผู้ออกกาลังกาย มีจังหวะชัดเจน มีความเร็วพอดีกับการเปลี่ยนไปตามขั้นตอนของการออกกาลังกายช่วงต่าง ๆ
  • 21. 15 เพลงที่ใช้ประกอบมักมีหลายเพลง ซึ่งควรต่อเนื่องกันตลอดระยะเวลาการเต้น (Non-Stop) หรือ (Medley) 6)ส ถาน ที่ อาจเป็ น กล าง แจ้งห รื อใ น ร่ม ควรมีการระ บ ายอากาศที่ ดี มีเนื้ อ ที่ ว่าง พ อ ส ม ค ว ร ไ ม่มี สิ่ ง เก ะ ก ะ เกี ย ด ข ว าง พื้ น ที่ เ รี ย บ แ ต่ไ ม่ลื่ น และควรมีคุณสมบัติผ่อนแรงกระแทก เช่นพื้นไม้เนื้อแข็งที่โปร่งด้านล่าง พื้นกระเบื้องยาง ไม่ควรเต้นพื้นคอนกรีตหรือพื้นคอนกรีตปูทับด้วยพรม 7)เครื่องมืออื่น ๆ ได้แก่ Step Band, Hand weight, Elastic tubing, Elastic band ฯลฯ 2.5.2 ขั้นตอนของการออกกาลังแบบแอโรบิกดานซ์ 1 ) ขั้ น อ บ อุ่ น ร่ า ง ก า ย ห รื อ ว อ ม อั พ ( Warming Up)เ ป็ น ก า ร เ ต รี ย ม ค ว า ม พ ร้ อ ม ข อ ง ก ล้ า ม เ นื้ อ หั ว ใ จ ข้ อ ต่ อ และอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวให้พร้อมที่จะทางาน ช่วงนี้จะใช้เวลาบริหารประมาณ 15- 25% ของเวลาฝึ กทั้งห มด ท่าที่ใ ช้ฝึ กใน ขณ ะ นี้ จะเป็ น การฝึ กเพื่อความอ่อน ตัว โดยการพับตัวไปด้านหน้า ด้านหลังและด้านข้าง อาจจะทาการยืด เอน ข้อต่อร่างกาย(Stretching Exercise) ซึ่งจะช่วยป้องกัน และลดการบาดเจ็บจากการออกกาลังกาย อย่ายืดกล้ามเนื้ออย่างรุนเเรง หรือทาด้วยจังหวะที่รวดเร็วจนกลายเป็นการกระตุก ซึ่งจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บได้ 2)ขั้น ปฏิ บัติงาน ห รื อ ระ ยะแอโรบิก (Training Heart Rate)ระยะ แอโรบิ ก ในช่วงแรกเป็นการบริหารท่าเร็วและหนักติดต่อกันส่วนมากจะเน้นการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง สะโพกลาตัวด้านข้าง แขน หัวไหล่ซึ่งจังหวะดนตรีในช่วงนี้จะอยู่ระหว่าง 140-160จังหวะต่อนาที จะเน้นให้บุคคลแต่ละคนสามารถพัฒนาการออกกาลังกายให้ถึงอัตราการเต้นหัวใจที่เป้ าหมายได้ ช่วงหลังจะเป็นการเบาเครื่องลงเรื่อยๆเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อเวลาที่ใช้ในช่วงนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ 2 . 1 แ บ บ Aerobic Dance Routine เป็นการสร้างแบบแล้วเต้นตามรูปแบบและเวลาที่กาหนดจะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที
  • 22. 16 2.2 แบ บ Group Aerobic Dance เป็ น แ บบ มีผู้น า ผู้ที่ เข้าร่วมกิจก รรม จะต้องทาตามผู้นา จะใช้เวลาประมาณ 30-45นาที 3 .ขั้ น ค ลู ด า ว น์ ( Cool Down) ส่ ว น ม า ก นิ ย ม ท า Floor Exercise โดยการเคลื่อนไหวช้าๆด้วยการเดิน และจบลงด้วยการทา StretchingExercise ยืดกล้ามเนื้อน่อง และอาจทาการยืดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ทั่วร่างกายเพื่อให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัวอีกครั้งหนึ่ ง ป ร ะ โ ย ช น์ อี ก อ ย่า ง ห นึ่ ง คื อ ก า ร น า เ อ า ข อ ง เสี ย ห รื อ ก ร ด แ ล ก ติ ก ที่เกิดขึ้น ใน ขณะที่ออกกาลังกายอยู่นั้น ออกไปจากกล้ามเนื้ อได้ดีกว่าการหยุดเฉยๆ ในช่วงนี้จะใช้เวลาออกกาลังกาย 5-10นาที 2.6 ประโยชน์ของการออกกาลังกายแบบแอโรบิกแดนซ์ การเต้นแอโรบิคนอกจากจะช่วยเผาผลาญไขมัน ลดน้ าหนัก กระชับสัดส่วนแล้ว คุณรู้ไหมว่า มันยังช่วยอะไรกับเราอีก... นอกจากผอมแล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกด้วย ก่อนอื่นต้องมาทาความเข้าใจก่อนว่าการเต้นแอโรบิคคืออะไร.. มันก็คือการขยับร่างกาย ให้กล้ามเนื้ อมีการท างาน ต่อเนื่ องทุกสัดส่วน เมื่อกล้ามเนื้ อมีการทาง าน ตลอด มันก็จะเป็นการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ไม่หย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลกก่อนวัยอันควร แต่สิ่งที่ได้เพิ่มเติมมาก็คือ 2.6.1ทาให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น• เวลาเราออกกาลังกาย โดยเฉพาะแอโรบิคนั้น จะเป็ น การออกกาลังกายเกือบจะทุกสัดส่วน เพ ราะ ว่ามัน ต้องเคลื่อน ไห วตลอด เ มื่ อ เ ค ลื่ อ น ไ ห ว ร่ า ง ก า ย จ ะ สู บ ฉี ด เ ลื อ ด ท า ใ ห้ หั ว ใ จ ท า ง า น ( บ ริ ห า ร หั ว ใ จ ก ล้ า ม เ นื้ อ หั ว ใ จ ใ ห้ แ ข็ ง แ ร ง ไ ป ด้ ว ย ) • ช่วยเพิ่มเส้นเลือดฝอยมาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจมากขึ้น ทาให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น • ลดอัตราการเต้นของหัวใจ เมื่ออยู่ในภาวะการออกกาลังกาย เมื่อกล้ามเนื้อเราแข็งแรง เราจะ ออกกาลัง กายได้ดี ไม่ค่อยเห นื่ อย ลอง นึ กถึงแรกๆ เราไปเต้น แอโรบิ ค เหนื่อยมากเต้นตามไม่ทันอีกต่างหากพอเต้นไปสัก 1 อาทิตย์ร่างกายเริ่มเข้าที่ เริ่มเหนื่อยช้าลง •
  • 23. 17 เมื่อกล้ามเนื้ อหัวใจแข็ง แรง ก็ลดความเสี่ ยง ของ การเกิดโรคความดัน โลหิ ตสู ง เพราะว่าหัวใจเราสูบฉีดแรงอยู่แล้ว เส้นเลือดต่างๆ ก็ไม่อุดตัน ความดันเลยปกติ 2.6.2ระ บบห ายใจดีขึ้ น • ป อดมีการรับออกซิ เจน มากขึ้ น ห ายใ จได้ลึกขึ้ น ปอดมีการขยายมากขึ้น •เมื่อปอดขยาย และรับออกซิเจนมากขึ้น ร่างกายก็รับออกซิเจนมากขึ้น ทาให้การไห ลเวียน ของอากาศใ น ปอดทางาน ได้ดีขึ้ น • เมื่อมีออกซิ เจน มากขึ้ น การแล กเป ลี่ยน ก๊าซ ที่ป อด ก็จะ มีป ระ สิ ท ธิ ภ าพ มากขึ้ น ยิ่ง เราออ กกาลัง กาย ใน สถาน ที่มีออกซิเจน มากๆ เช่น ตามสวน สาธารณ ะที่มีออกซิเจน บริสุ ทธิ มากๆ ปอดก็จะได้รับออกซิเจนที่มีคุณภาพมากขึ้นด้วย 2.6.3ระ บบ เคมีใ น เลือดดีขึ้ น • การออกกาลัง กายเป็ น การเผาผลาญ ไขมัน เมื่ อ ไ ข มัน ใ น ร่ า ง ก า ย ( ใ น เ ส้ น เ ลื อ ด ค น เ ร า ก็ มี ไ ข มัน ) ถู ก ใ ช้ ไ ป เลือดของเราก็เดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ทาให้ปริมาณไขมันในเลือด (คอเลสเตอรอล) ลดลง และไตรกลีเซอไรด์ ลดลงเช่น กัน ทาให้ลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน • เพิ่ม HDL(คอเลสเตอรอล ตัวดี ที่ร่างกายต้องการมาก และจะเพิ่มได้ด้วยการออกกาลังกายเท่านั้น) ซึ่งเป็นตัวช่วยลดการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน • ลด น้ าตาลส่วน เกิน ป้ อง กัน โรค เบ าห วาน เพ ร าะ ว่าเวล าเราออ ก กาลัง ก าย ร่าง กายจะ ต้องใช้พ ลังงาน มาก ร่างกายจะไปดึง เอาน้ าตาลมาแปลงเป็ น พ ลัง งาน ทาให้ระดับน้าตาลส่วนเกินในเลือดต่าลง ลดความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานได้ 2.6.4ด้านระบบประสาทและจิตใจ• ลดความเครียดได้ดี เพราะว่าการออกกาลังกายนั้น คุณจะไม่ค่อยได้คิดเรื่องที่เครียด ใจจะจดจ่อกับการเต้น (แต่บางทีเต้นไม่ทัน ก็เครียดเหมือนกันนะ) • เว ล าเห งื่ อ อ อ ก จน ถึ ง ร ะ ดับ นึ ง ร่าง ก ายจ ะ ห ลั่ง ส าร Endorphin จาก ส มอ ง เป็ น สารที่ทาให้ร่างกายรู้สึ กสบาย รู้สึ กปลอดโปร่ง (ต้องลองเอง บรรยายไม่ถูก) จะเห็นว่าการออกกาลังกายด้วย แอโรบิคเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก หมายเหตุ ก่อนเต้นและหลังเต้นต้องวอร์มร่างกายก่อน โดยอาจจะอุ่นเครื่องด้วยการเดินสัก 3-5นาที แกว่งแขน สะบัดขาไปมา
  • 24. 18 2.7 ข้อแนะนาในการเล่นแอโรบิก 2.7.1ต้องเล่นให้แรงพอสมควร มัน ถึงจะสามารถเรียกไขมันอย่างได้ผล นั่น คือ จะต้องแรงจนกระทั่งหัวใจเต้นเร็วขึ้นไปเป็น 60 –80 เปอร์เซ็นต์ ของอัตราการเต้นสูงสุดของมัน ซึ่งคุณจะห าได้จากการเอา 220 ลบด้วยอายุของคุณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอายุ 30 ปี อัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจคุณก็จะเป็น 220 –30 = 190 ครั้งต่อนาที และ 60 –80 เปอร์เซ็นต์ ของมัน ก็จะเท่ากับ 114 – 152ครั้งต่อนาที (มาจาก 190 x0.6 กับ 190 x0.8 ตามลาดับ) 2.7.2ต้อง ทาใ ห้ น าน พ อส มควร คือ ประ ม าณ 20 น าที ถึง 1 ชั่วโมง ด้วย ซึ่ ง อัน นี้ จ ะ ขึ้ น อ ยู่กับ ค ว า ม แ ร ง ห รื อ ค ว า ม เ ข้ม ข้น ที่ คุ ณ เ ล่น อ ย่า ง เช่ น น้ าห นั ก ม าก จ น ก ระ ทั่ง หั วใ จข อ ง คุณ เต้น เร็ วขึ้ น ไ ป เป็ น 80 เป อ ร์ เซ็ น ต์ ของอัตราการเต้น สูงสุดของมัน ก็เล่น แค่ 20 นาที ก็พ อ แต่ถ้ามัน เป็ น 60 เ ปอร์เซ็น ต์ ก็ต้องเล่นให้นานกว่านี้ 2.7.3ลองจับชีพจร(ตรงข้อมือหรือข้างลาคอก็ได้) หลังจากที่เล่นเสร็จ เพื่อตรวจสอบดูว่า อัตราการเต้นของหัวใจคุณเป็นเท่าไร ถ้ายังไม่ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ของอัตราการเต้นสูงสุดของมัน คุณก็ต้องเพิ่มความเข้มในการเล่นให้มันมากขึ้นในคราวต่อไป 2.7.4หลังจากที่เล่นเสร็จ ก็ไม่ควรนั่งพัก แต่จะต้องเดินไปเดินมาสักนาที สองนาที เพราะการหยุดทันที ในขณะที่หัวใจเต้นเร็วมากๆ นั้น มันอาจจะเป็นอันตรายกับหัวใจของคุณได้ 2.7.5สาหรับความถี่ในการออกกาลังกายแบบแอโรบิก ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าดีที่สุด ก็คืออย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน
  • 25. 19 บทที่ 3 วิธีการดาเนินงาน 3.1 วัสดุอุปกรณ์ 3.1.1 ลาโพง 3.1.2 ไมโครโฟน 3.2 วิธีการดาเนินงาน 3.2.1 ปรึกษาหาเรื่องหรือปัญหาที่ต้องการจะจัดทาโครงการ 3.2.2 หาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ศึกษา 3.2.3 ทาป้ายประชาสัมพันธ์ว่าจะมีการจัดกิจกรรมเต้นแอโรบิก
  • 26. 20 3.2.4 เชิญชวนน้องๆที่มีรูปร่างอ้วนหรืออวบมาเต้น บทที่ 4 ผลการศึกษา - กลุ่มของข้าพเจ้าเลือกสถานที่ในการจัดกิจกรรมเต้นแอโรบิกเพื่อให้คนที่มีน้าหนักมากและไม่มีเวลา ออกกาลังกายได้ออกกาลังกาย คือ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี -กลุ่มของข้าพเจ้าได้ติดป้ ายประกาศเชิญชวนนักเรียนทั่วโรงเรียน และมีน้องๆให้ความสนใจเป็นจานวนมาก - กลุ่มของข้าพเจ้าได้ศึกษาท่าเต้นแอโรบิกมาตราฐานและฝึกซ้อมจนสามารถนาเต้นแอโรบิกให้กับน้ องๆและเพื่อนๆ ในโรงเรียนได้ -กลุ่มของข้าพเจ้าได้หาเพลงที่ใช้สาหรับการเต้นแอโรบิกได้
  • 27. 21 -ในวันที่ 18กันยายน พ.ศ.2558 เวลา 16.00 น. กลุ่มของข้าพเจ้าทากิจกรรมเต้นแอโรบิก มีผู้ที่สนใจมาร่วมกิจกรรม บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ จากผลการดาเนินงานสามารถสรุปได้ว่า กลุ่มของข้าพเจ้าได้จัดตั้งกิจกรรม Up AndDown ขึ้น ได้จัดทาป้ายเพื่อเชิญชวนเพื่อนๆและน้องๆภายในโรงเรียน กลุ่มของข้าพเจ้าได้ศึกษาท่าเต้นแอโรบิกมาตราฐานและฝึกซ้อมจนสามารถเต้นแอโรบิกได้ เมื่อถึงวันทากิจกรรมก็มีคนมาร่วมกิจกรรมจนทาให้สาเร็จลุล่วงไปด้วยดี กลุ่มของข้าพเจ้าคิดว่าการที่ได้สอนน้องๆเต้นแอโรบิกจะทาให้น้องๆได้ความสนุกสนานได้ออกกา ลังกายและนากลับไปออกกาลังกายที่บ้านต่อในเวลาที่ว่างจากภาระงาน ข้อเสนอแนะ
  • 28. 22 จากกิจกรรม upand down กลุ่มของข้าพเจ้าได้พบปัญหาคือ เวลาที่จัดกิจกรรมเป็นตอนหลังเลิกเรียน จึงทาให้มีคนร่วมกิจกรรมบางส่วน เพราะต้องกลับบ้านด้วยรถประจาทาง จึงเสนอแนะให้จัดกิจกรรมในช่วงพักกลางวันแทน บรรณานุกรม ปิติพร อุบล: แอโรบิกดานซ์(2556) แหล่งที่มา:http://5502746ning.blogspot.com/2013/09/blog-post_8997.html มะลิวัลย์ บรรณกิจ:ประวัติความเป็นมาของแอโรบิกแหล่งที่มา:https://sites.google.com/site/ohaero bics2536/prawati-khwam-pen-ma-khxng-xae-ro-bik ศักดิ์ดา จันทะสิงห์:ประว้ติแอโรบิกแดนซ์ แหล่งที่มา:http://tonsakda_ss.igetweb.com/articles/479700/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B 8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A7%E 0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A
  • 31. 25 ภาพที่ 3 สอนน้องๆ เพื่อนๆเต้นแอโรบิก ภาพที่ 4 สอนน้องๆ เพื่อนๆเต้นแอโรบิก ภาพที่ 5 สอนน้องๆ เพื่อนๆเต้นแอโรบิก
  • 32. 26 ภาพที่ 6 การประชุมกลุ่ม ภาพที่ 7 การประชุมกลุ่ม ภาพที่ 8 การนาเสนอหน้าห้อง