58210401215 งาน 1ss
- 1. นาย วิศรุต พัฒนชัย สาขา คอมพิวเตอร์ศึกษา คณะครุศาสตร์
รหัสนักศึกษา 58210401215
เสนอ
อาจารย์ธีรนาถ สุวรรณเรือง
*
- 3. *
*พริกไทย เป็นต้นไม้อายุยืน เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง มีรากฝอยตามข้อ
เถา เอาไว้ยึดเกาะ มีขนาดความยาวประมาณ 5 เมตร ใบใหญ่
คล้ายใบโพธิ์ แต่จะมีดอกขนาดเล็ก เมล็ดพริกไทยจะมีลักษณะ
กลม เม็ดเล็กเป็นพวง ตรงข้อของลาต้น โดยนิยมปลูกพริกไทย
กันมาก ในจังหวัดจันทบุรี ตราด และระยอง โดยสายพันธ์ุุที่
นิยมปลูกกัน มีด้วยกัน 6 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ใบหนา พันธุ์บ้าน
แก้ว พันธุ์ปรางถี่ธรรมดา พันธุ์ปรางถี่หยิก พันธุ์ควายขวิด และ
สายพันธุ์คุชชิ่ง
- 4. *
*มีน้ามันหอมระเหย 2 – 4% มีแอลคาลอยด์หลัก คือ ไพเพอร์รีน 5 – 9% ซึ่งเป็น
ตัวทาให้เผ็ดร้อน มี Piperidine และ Pipercanine เป็นตัวทาให้มีกลิ่นฉุน
พริกไทยอ่อนนั้น จะมีกลิ่นฉุนน้อยกว่าพริกไทยดา และมีโปรตีน 11 %
คาร์โบไฮเดรต 65 % แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตานบี
2 ไนอาซิน และวิตามินซี
*พริกไทย แบ่งตามวิธีการเก็บ และเตรียมได้เป็น 2 ชนิด คือ
*1. พริกไทยดา ได้จากการนาเอาพริกไทย ที่แก่เต็มที่ แต่ยังไม่สุก มาตากแดดให้
แห้ง จนออกเป็นสีดา และไม่ต้องปลอกเปลือก
2. พริกไทยขาว หรือพริกไทยล่อน ได้มาจากการนา เอาพริกไทยที่สุกเต็มที่ มา
แช่ในน้าเพื่อลอกเปลือกออก แล้วนาไปตากให้แห้ง
- 5. *
*พริกไทยดา มีประโยชน์ ในการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคกระเพาะ
ลาไส้ แก้ปวด แก้อักเสบ เป็นต้น ทางตาราจีน จะใช้พริกไทยดา ในการ
รักษา โรคท้องเดินจากอหิวาต์ โรคมาลาเรีย และแก้ไข้น้ามันใน
พริกไทยดา ( สารพิเพอรีน ) ก็นามาเจือจางกับน้า เอามาสูดดม หรือทา
ถูผิวหนัง เพื่อลดอาการไข้หนาวสั่น ทาให้หายใจโล่งขึ้น และฆ่าเชื้อ
โรคได้ดี สามารถนามาผสมกับน้ามัน แล้วนวดบริเวณ ที่ปวดกล้ามเนื้อ
นอกจากนี้กลิ่นของพริกไทย ยังเข้าไปกระตุ้นสมอง ให้รู้สึกตื่นตัวอยู่
เสมอ ส่วนในตาราไทย จะนาพริกไทยดา มาทาเป็นสมุนไพร เพื่อแก้
อาการ จุกเสียด แน่นเฟ้อจากอาหารไม่ย่อย แก้อ่อนเพลีย และลดอาการ
อยากบุหรี่ ในรายที่ต้องการเลิกบุหรี่
- 6. *
*1. นาพริกไทยดา มาแช่ในน้าร้อน (1 พวงเมล็ด) นานประมาณ 15 – 20
นาที แล้วกรองเอาแต่น้าร้อน (ทาคล้าย ๆ แช่ชา) ผสมกับน้าผึ้ง 1 – 2
ช้อนชา แล้วค่อย ๆ จิบ เมื่ออาการไอแบบมีเสมหะ
*2. เมื่อมีอาการอยากบุหรี่ ระหว่างวัน ให้นาน้ามันสกัด จากพริกไทยดา
มาชุบสาลี แล้วเอามาสูดดมทุกครั้งที่มีอาการ เพราะกลิ่นของน้ามัน
พริกไทยดา จะคล้าย ๆ กับกลิ่นของบุหรี่
*3. ในพริกไทยดา มีสารเคมีชนิดหนึ่ง ที่สามารถทาให้เยื่อบุจมูกระคาย
เคือง จนน้ามูกไหลออกมาทันที ฉะนั้นจมูกก็จะโล่งมากขึ้น นาน้ามัน
สกัด จากพริกไทยดา 3 หยด ไปต้มในน้า 1 ถ้วยตวง แล้วผสมน้ามันยูคา
ลิปตัส ลงไปเล็กน้อย ต้มจนไอร้อนพุ่งตัวออกมา แล้วจึงนาน้าต้มนั้น มา
สูดดมเพื่อรักษาอาการ
- 7. *4. นาน้ามันสกัด จากพริกไทยดา 2 หยด มาผสมกับน้ามันมะกอก ประมาณ
4 – 5 หยด แล้วผสมให้เข้ากัน แล้วนาไปทาบริเวณ ที่เคล็ดขัดยอก แล้วนวด
วน ๆ สักพัก อาการก็จะดีขึ้น
*5.เมื่อรู้ท้องอืด แน่นท้อง ให้เติมพริกไทยดา ( แบบเม็ด ) ลงในมื้ออาหาร
หรือโรยบนเนื้อสัตว์ เพราะพริกไทยดาจะไปกระตุ้น ให้ร่างกายหลั่งกรด ”
ไฮโดรคลอริก “ ซึ่งเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ที่มีหน้าที่ปรับสมดุล การ
ย่อยของอาหาร ทาให้กระเพาะ และลาไส้ทางานเป็นปกติมากขึ้น
*6. นาพริกไทยดา มาตาหยาบ ผสมกับน้ามันมะกอก แล้วนามาขัดผิว เพราะ
ในพริกไทยดา มีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารต้านเชื้อแบคทีเรียค่อนข้าง
สูง อีกทั้งคึวามร้อนของพริกไทย ยังช่วยเปิดรูขุมขน ช่วยทาให้กาจัดสิ่ง
สกปรก ที่ฝังลึกได้อย่างดี และสามารถนาไปผสมกับครีม เพื่อทาตัวได้อีก
ด้วย
- 8. *
*นอกจากสรรพคุณทางยาแล้ว ที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้ก็คือการเป็น
เครื่องเทศ ปรุงอาหาร ที่ขาดไม่ได้ในหลาย ๆ เมนู เพราะมี
รสชาติที่จัดจ้านถึงใจ สามารถเอามาตัดความเลี่ยน ความคาวใน
อาหารได้อย่างลงตัว พริกไทย ยังมีคุณสมบัติ ในการกาจัด
เชื้อจุลินทรีย์หลายชนิด จึงนิยมนามาถนอมอาหาร จาพวก
เนื้อสัตว์เช่น ไส้กรอก กุนเชียง หมูยอ ซึ่งจะมีพริกไทยเป็น
ส่วนผสม หรือเพียงแค่โรยหน้าแกงต่าง ๆ ก็เพิ่มรสชาติได้อย่าง
หน้าอัศจรรย์