SlideShare a Scribd company logo
1 of 35
Download to read offline
เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานความร้อน เป็ น
เครื่ องใช้ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานความร้อน
โดยใช้หลักการคือ เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้ าผ่านขดลวด
ตัวนาที่มีความต้าน ทานสูงๆ ลวดตัวนานั้นจะร้อนจน
สามารถนาความร้อนออก ไปใช้ประโยชน์ได้ เนื่องจาก
เป็ นเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลัง งานความร้อนมาก จึงสิ้ น
เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ ามากเมื่อเปรี ยบกับการใช้ เครื่ อง ใช้
ไฟฟ้ าประเภทอื่นๆ เมื่อใช้ในเวลาที่เท่ากัน ฉะนั้นขณะ
ใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ าให้พลังงานความร้อนจึงควร ใช้ดวย  ้
ความระมัดระวัง
ตัวอย่าง เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานความร้อน เช่น
เตารี ด หม้อหุ งข้าว กระทะไฟฟ้ า กาต้มน้ า เครื่ องต้ม
กาแฟ เตาไฟฟ้ า ฯลฯ
ส่ วนประกอบในเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานความร้อน มี
ดังนี้
1.ขดลวดความร้อน หรื อแผ่นความร้อน มักทาจาก
โลหะผสมระหว่างนิเกิลกับโครเมียมเรี ยกว่า นิโครม
ซึ่งมีสมบัติคือมีจุดหลอมเหลวสูงมากจึงทนความร้อน
ได้สูงเมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นมากๆจึงไม่ขาด และมี
ความ ต้าน ทานสูงมาก
2. เทอร์โมสตาร์ท หรื อสวิตซ์ความร้อนอัตโนมัติ ทาหน้าที่
ควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ร้อนเกินไป มีส่วนประกอบเป็ นโลหะต่าง
ชนิดกัน 2 แผ่นมาประกบกัน เมื่อได้รับความร้อนจะขยายตัวได้ไม่
เท่ากัน เช่น เหล็กกับทองเหลือง โดยให้แผ่นโลหะที่ขยายตัวได้
น้อย(เหล็ก)อยูดานบน ส่ วนโลหะที่จะขยายตัวได้มาก(ทองเหลือง)
               ่้
อยูดานล่าง เมื่อกระแสไฟฟ้ าไหลผ่านแผ่นโลหะทั้งสองมากขึ้น จะ
    ่้
ทาให้มีอุณหภูมิสูงจนแผ่นโลหะทั้งสองซึ่งขยายตัวได้ต่างกัน
โลหะที่ขยายตัวได้มากจะขยายตัวโค้งงอ เป็ นเหตุให้จุดสัมผัสแยก
ออกจากกัน เกิดเป็ นวงจรเปิ ด กระแสไฟฟ้ าจึงไหลผ่านไม่ได้ และ
เมื่อแผ่นโลหะทั้งสองเย็นลงก็จะสัมผัสกันเหมือนเดิม เกิดเป็ น
วงจรปิ ด กระแสไฟฟ้ าจึงไหลผ่านได้อีกครั้งหนึ่ง
3. แผ่นไมกา หรื อ แผ่นใยหิน ซึ่งเป็ นฉนวนไฟฟ้ า ใน
เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงาน ความร้อนบางชนิด เช่น เตารี ด
หม้อหุงข้าว เตาไฟฟ้ า จะมีแผ่นไมกา หรื อใยหิน เพื่อป้ องกัน
ไม่ให้ขดลวดหลอมละลาย และป้ องกันไฟฟ้ ารัวขณะใช้งาน
                                               ่
เนื่องจากเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานความร้อนจะมีกระแส
ไฟฟ้ าปริ มาณมากไหลผ่าน มากกว่าเครื่ องใช้ประเภทอื่นๆ จึ งควรใช้
ด้วยความระมัดระวังดังนี้
  1. หมันตรวจสอบดูแลสายไฟ เต้ารับ เต้าเสี ยบ ให้อยูในสภาพเรี ยบร้อยไม่
           ่                                                    ่
ชารุ ด
   2. เมื่อเลิกใช้งานต้องถอดเต้าเสี ยบออกจากเต้ารับทุกครั้งไม่ควรเสี ยบทิงไว้    ้
      ในการเลือกเครื่ องใช้ไฟฟ้ าทุกชนิดต้องพิจารณาถึงคุณภาพของ
เครื่ องใช้ไฟฟ้ า รู ้จกวิธีใช้ที่ถูกต้อง รู ้จกวิธีป้องก ันอันตรายจากไฟฟ้ ารั่วและ
                       ั                       ั
ไฟฟ้ าลักวงจรและตรวจดู แลอุปกรณ์อยูเ่ สมอ
เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานกล มีการเปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟ้ าเป็ น
พลังงานกล โดยอาศัยหลักการเหนี่ ยวนาแม่เหล็กไฟฟ้ า ด้วยอุปกรณ์ ที่
เรี ยกว่า มอเตอร ์์ และ เครื่ องควบคุมความเร็ว ซึ่งเป็ นอุปกรณ์หลักใน
เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานกล ตัวอย่าง เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานกล
เช่น เครื่ องปรับอากาศ ตูเ้ ย็น เครื่ องดูดฝุ่ น พัดลม เครื่ องซักผ้า
เครื่ องปั่นน้ าผลไม้ ฯลฯ
มอเตอร์ เป็ นเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ น
พลังงานกล ประกอบด้วยขดลวดที่พนรอบแกนโลหะที่วางอยู่
                                         ั
ระหว่างขั้วแม่เหล็ก โดยเมื่อผ่านกระแสไฟฟ้ าเข้าไปยังขดลวด
ที่อยูระหว่างขั้วแม่เหล็ก จะทาให้ขดลวดหมุนไปรอบแกน
      ่
และเมื่อสลับขั้วไฟฟ้ า การหมุนของขดลวดจะหมุนกลับ
ทิศทางเดิม
         มอเตอร์ มี 2 ประเภท คือ มอเตอร์กระแสตรง และ
มอเตอร์กระแสสลับ
มอเตอร์กระแสตรง เป็ นมอเตอร์ที่ตองใช้ไฟฟ้ ากระแสตรงผ่านเข้า
                                        ้
ไปในขดลวดอาร์มเมเจอร์เพื่อทาให้เกิดการดูดและผลักกันของแม่เหล็ก
ถาวรกับแม่เหล็กไฟฟ้ าที่เกิดจากขดลวดมอเตอร์จึงหมุนได้
       มอเตอร์กระแสสลับ เป็ นมอเตอร์ที่ตองใช้กบไฟฟ้ ากระแสสลับ
                                          ้    ั
โดยใช้หลักการดูดและผลักกันของแม่เหล็กถาวรกับแม่เหล็กไฟฟ้ าจาก
ขดลวดมาทาให้เกิดการหมุนของมอเตอร์
ข้อควรระวังในการใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่มีมอเตอรเป็ น
ส่ วนประกอบ คือ ห้ามใช้เครื่ องใช้ประเภทนี้ในช่วงที่ไฟตก หรื อ
แรงดันไฟฟ้ าไม่ถึง 220 โวลต์ เนื่องจากมอเตอร์จะไม่หมุนและทาให้
เกิดกระแสไฟฟ้ าดันกลับ จะทาให้ขดลวดร้อนจัดจนเกิดไหม้เสี ยหาย
ได้
       ขณะที่มอเตอร์กาลังหมุนจะเกิดการเหนี่ยวนาไฟฟ้ าขึ้นทาให้
เกิดกระแสไฟฟ้ าซ้อนขึ้นภายในขดลวด แต่มทิศทางการไหลสวนทาง
                                           ี
กับกระแสไฟฟ้ าที่มาจากแหล่งกาเนิดพลังงานไฟฟ้ าเดิม ทาให้ขดลวด
ของมอเตอร์ไม่ร้อนจนเกิดไฟไหม้ได้
ทาได้โดย การเพิ่มหรื อลดความต้านทานให้กระแสไฟฟ้ าผ่านได้
มากหรื อน้อยภาพในเครื่ องใช้ไฟฟ้ านั้น ซึ่งเป็ นผลให้ความเร็วของการ
หมุนมอเตอร์เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น เมื่อต้องการให้พดลมหมุนช้าลง
                                                      ั
ก็ให้เพิ่มความต้านทานเพื่อให้กระแสไฟฟ้ าเข้าได้นอยลงเป็ นผลให้พด
                                                   ้              ั
ลมหมุนช้าลง ฉะนั้นในเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานกลจะต้องมี
เครื่ องควบคุมความเร็วของมอเตอร์เสมอ
การเลือก เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานกล จะต้องพิจารณาดู
ข้อกาหนดในการใช้ เช่น ใช้กบความต่างศักย์ไฟฟ้ าเท่าใด ทั้งนี้เพื่อ
                                 ั
ความปลอดภัยในการใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ า และไม่ให้เกิดความเสี ยหายแก่
เครื่ องใช้ไฟฟ้ านั้น และเพื่อเป็ นการประหยัดพลังงานไฟฟ้ า ควร
พิจารณากาลังไฟฟ้ าของเครื่ องใช้ไฟฟ้ านั้นๆด้วย
เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานเสี ยง
ได้แก่ เครื่ องรับวิทยุ เครื่ องขยายเสี ยง ์ุ เครื่ องบันทึกเสี ยง ฯลฯ
เครื่ อง รับวิทยุ เป็ นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงาน
เสี ยง โดยรับคลื่นวิทยุ จากสถานีส่งแล้วใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ขยายสัญญาณเสี ยงที่มีอยูในรูปของสัญญาณไฟฟ้ าให้แรงขึ้นเมื่อ
                              ่
ผ่านสัญญาณไฟฟ้ านี้ไปยังลาโพงจะทาให้ลาโพงสั่นสะเทือน
เปลี่ยนเป็ นเสี ยงที่สามารถรับฟังได้ ดังแผนผัง
เสาอากาศ        ขยายสัญญาณ           ลาโพง               เสี ยง
    (รับคลื่นวิทยุ)

แผนผังการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานเสี ยงของเครื่ องรับวิทยุ
คือ เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานเสี ยงโดยรับ
สัญญาณไฟฟ้ าจากไมโครโฟน หัวเทป หรื อจาก เครื่ องกาเนิดสัญญาณ
ไฟฟ้ าจากเสี ยงต่างๆ มาขยายสัญญาณไฟฟ้ าจนมีกาลังมากพอจึงส่ งออกสู่
ลาโพงเสี ยง
                   เครื่ องขยายเสี ยงจะต้องมีส่วนประกอบดังนี้

    1. ไมโครโฟน เปลี่ ยนพลังงานเสี ยงให้เป็ นสัญญาณไฟฟ้ า
    2. เครื่ องขยายสัญญาณไฟฟ้ า ขยายสัญญาณไฟฟ้ าให้แรงขึ้น
    3. ลาโพง เปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้ าให้เป็ นพลังงานเสี ยง
เครื่ องบันทึกเสี ยง ขณะบันทึกด้วยการพูดผ่านไมโครโฟน ซึ่งจะ
เปลี่ยนพลังงานเสี ยงเป็ นสัญญาณไฟฟ้ า แล้วบันทึกลงในแถบบันทึกเสี ยง
ซึ่งฉาบด้วยสารแม่เหล็กในรูปของสัญญาณแม่เหล็ก ดังแผนผัง

เสี ยง         ไมโครโฟน         สัญญาณไฟฟ้ า       บันทึกเป็ นสัญญาณ
                                                   แม่เหล็ก
            ลงบนแถบบันทึกเสี ยง

         แผนผังการเปลี่ยนพลังงานของเครื่ องบันทึกเสี ยงขณะบันทึก
เมื่อนาแถบบันทึกเสี ยงที่บนทึกได้มาเล่น สัญญาณแม่เหล็กจะถูกเปลี่ยน
                             ั
กลับเป็ นสัญญาณไฟฟ้ า และสัญญาณนี้จะถูกขยายให้แรงขึ้นด้วยอุปกรณ์
ไฟฟ้ าจนทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ นเสี ยงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ดังแผนผัง
                      ่
          สัญญาณแม่เหล็กจาก                      สัญญาณไฟฟ้ า            ขยาย
สัญญาณ           ลาโพง         เสี ยง        แถบบันทึกเสี ยง
   แผนผังการเปลี่ยนพลังงานของเครื่ องบันทึกเสี ยงขณะเล่น
           ในการใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานเสี ยง พวก วิทยุ หรื อเครื่ อง
เสี ยงประเภทต่างๆ ส่ วนใหญ่ส้ิ นเปลืองพลังงานไฟฟ้ าไม่มาก แต่ท้ งนี้   ั
ขึ้นอยูกบ กาลังไฟฟ้ า ของเครื่ องเสี ยงนั้นๆ และขึ้นอยูกบความดังของเสี ยง
       ่ ั                                               ่ ั
ในการเปิ ดฟังด้วย
หลอดไฟฟ้ า เป็ นเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่มีใช้ในทุกบ้านที่มีการใช้
พลังงานไฟฟ้ า เป็ นเครื่ องใช้ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ า ไปเป็ นพลังงานแสง
หลอดไฟฟ้ าที่ใช้ทวไป มี 3 ชนิด คือ
                   ั่
      1. หลอดไฟฟ้ าแบบธรรมดา
      2. หลอดเรื่ องแสงหรื อหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp)
     3. หลอดไฟโฆษณาหรื อหลอดนีออน
มีการเปลี่ยนรูปพลังงานจากพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานความร้อน
แล้วจึงเปลี่ยนเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟ้ าแบบธรรมดามี 2 แบบ คือแบบ
เกลียวและแบบเขี้ยว มีส่วนประกอบดังนี้
   1. ไส้หลอด ทาด้วยโลหะที่มีจุดหลอดเหลวสูง ทนความร้อนได้มาก มี
ความทนทานสูง เช่น ทังสเตน
    2. หลอดแก้วทาจากแก้วที่ทนความร้อนได้ดี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออก
จนหมดภายในบรรจุกาซไนโตรเจนและอาร์กอนเล็กน้อย ก๊าซชนิ ดนี้ทา
                       ๊
ปฏิกริยายาก ช่วยป้ องกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิดไปจับที่หลอดแก้ว และช่วย
     ิ
ไม่ให้ไส้หลอดไม่ขาดง่าย ถ้าบรรจุกาซออกซิเจนจะทาปฏิกริยากับไส้
                                   ๊                    ิ
หลอด ซึ่งทาให้ไส้หลอดขาดง่าย
3. ขั้วหลอดไฟ เป็ นจุดต่อวงจรไฟฟ้ า มี 2 แบบ คือ แบบเขี้ยวและ
 แบบเกลียว

      เนื่องจากหลอดไฟฟ้ าประเภทนี้ให้แสงสว่างได้ดวยการเปลี่ยน
                                                  ้
พลังงาน ไฟฟ้ า เป็ นพลังงานความร้อนก่อนที่จะให้แสงสว่างออกมา
จึงทาให้สิ้นเปลือง พลังงานไฟฟ้ า มากกว่าหลอดชนิดอื่น ในขนาด
กาลังไฟฟ้ า ของหลอดไฟซึ่งจะกาหนดไว้ที่หลอดไฟทุกดวง เช่น หลอด
ไฟฟ้ าขนาด 100 วัตต์ เป็ นต้น
หลอดเรื องแสงหรื อหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทาด้วย
หลอดแก้วที่สูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย มีไส้ที่
ปลายหลอดทั้งสองข้าง หลอดเรื องแสงอาจทาเป็ นหลอดตรง หรื อครึ่ ง
วงกลมก็ได้ ส่ วนประกอบและการทางานของหลอดเรื องแสง มีดงนี้       ั
1. ตัวหลอด ภายในสูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทและก๊าซ
อาร์กอน เล็กน้อย ผิวด้านในของหลอดเรื องแสงฉาบด้วยสารเรื องแสง
ชนิดต่างๆ แล้วแต่ความต้องการให้เรื องแสงเป็ นสี ใด เช่น ถ้าต้องการให้
เรื องแสงสี เขียว ต้องฉาบด้วยสารซิงค์ซิลิเคต แสงสี ขาวแกมฟ้ าฉาบด้วย
มักเนเซียมทังสเตน แสงสี ชมพูฉาบด้วยแคดเนียมบอเรต เป็ นต้น
2. ไส้หลอด ทาด้วยทังสเตนหรื อวุลแฟรมอยูที่ปลายทั้งสองข้าง เมื่อ
                                             ่
กระแสไฟฟ้ าผ่านไส้หลอดจะทาให้ไส้หลอดร้อนขึ้น ความร้อนที่เกิดขึ้นจะ
ทาให้ไอปรอทที่บรรจุไว้ในหลอดกลายเป็ นไอมากขึ้น แต่ขณะนั้น
กระแสไฟฟ้ ายังผ่านไอปรอทไม่สะดวก เพราะปรอทยังเป็ นไอน้อยทาให้
ความต้านทานของหลอดสูง
  3. สตาร์ตเตอร์ ทาหน้าที่เป็ นสวิตซ์ไฟฟ้ าอัตโนมัติของวงจรโดยต่อขนาน
กับหลอด ทาด้วยหลอดแก้วภายในบรรจุกาซนีออนและแผ่นโลหะคู่ที่งอ
                                           ๊
ตัวได้ เมื่อได้รับความร้อน เมื่อกระแสไฟฟ้ าผ่านก๊าซนีออน ก๊าซนีออนจะ
ติดไฟเกิดความร้อนขึ้น ทาให้แผ่นโลหะคู่งอจนแตะติดกันทาให้กลายเป็ น
วงจรปิ ดทาให้กระแสไฟฟ้ าผ่านแผ่นโลหะได้ครบวงจร
ก๊าซนีออนที่ติดไฟอยูจะดับและเย็นลง แผ่นโลหะคู่จะแยกออกจากกัน
                        ่
ทาให้เกิดความต้านทานสูงขึ้นอย่างทันทีซ่ ึงขณะเดียวกันกระแสไฟฟ้ าจะ
ผ่านไส้หลอดได้มากขึ้นทาให้ไส้หลอดร้อนขึ้นมาก ปรอทก็จะเป็ นไอมาก
ขึ้นจนพอที่นากระแสไฟฟ้ าได้

      4. แบลลัสต์ เป็ นขดลวดที่พนอยูบนแกนเหล็ก ขณะกระแสไฟฟ้ า
                                 ั ่
ไหลผ่านจะเกิดการเหนี่ยวนาแม่เหล็กไฟฟ้ าทาให้เกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้ า
เหนี่ยวนาขึ้น เมื่อแผ่นโลหะคู่ในสตาร์ตเตอร์แยกตัวออกจากกันนั้นจะเกิด
วงจรเปิ ดชัวขณะ แรงเคลื่อนไฟฟ้ าเหนี่ ยวนาที่เกิดขึ้นในแบลลัสต์จึงทา
           ่
ให้เกิดกระแสไฟฟ้ าเหนี่ยวนาไหลสวนทางกับกระแสไฟฟ้ าจากวงจรไฟฟ้ า
ในบ้าน ทาให้กระแส ไฟฟ้ าที่จะเข้าสู่วงจรของหลอดเรื องแสงลดลง
เมื่อกระแสไฟฟ้ าผ่านไอปรอทจะคายพลังงานไฟฟ้ าให้อะตอมไอ
ปรอท ทาให้อะตอมของไอปรอทอยูในสภาวะถูกกระตุน (excited state)
                                  ่               ้
และอะตอมของปรอทจะคายพลังงานออกมาเพื่อลดระดับพลังงาน ในรูป
ของรังสี อลตราไวโอเลต ซึ่งอยูในช่วงของแสงที่มองไม่เห็น เมื่อรังสี น้ ี
          ั                 ่
กระทบสารเรื องแสงที่ฉาบไว้ที่ผิวหลอด สารเรื องแสงจะเปล่งแสงสี ต่างๆ
ตามชนิดของสารเรื องแสงที่ฉาบไว้ในหลอดนั้น
ข้อดีของหลอดเรื องแสง
        1. เมื่อให้พลังงานไฟฟ้ าเท่ากันจะให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟฟ้ า
แบบธรรมดาประมาณ 4 เท่า และมีอายุการใช้งานนานกว่าหลอดไฟฟ้ า
ธรรมดาประมาณ 8 เท่า
        2. อุณหภูมิของหลอดไม่สูงเท่ากับหลอดไฟฟ้ าแบบธรรมดา
        3. ถ้าต้องการแสงสว่างเท่ากับหลอดไฟฟ้ าธรรมดา จะใช้วตต์ที่ต่ากว่า
                                                                ั
จึงเสี ยค่าไฟฟ้ าน้อยกว่า
                  ข้อเสี ยของหลอดเรื องแสง
        1. เมื่อติดตั้งจะเสี ยค่าใช้จ่ายสูงกว่าหลอดไฟฟ้ าแบบธรรมดา เพราะ
ต้องใช้แบลลัสต์และสตาร์ตเตอร์ เสมอ
        2. หลอดเรื องแสงมักระพริ บเล็กน้อยไม่เหมาะในการใช้อ่านหนังสื อ
ตัวเลขที่ปรากฏบนหลอดไฟฟ้ าธรรมดาและหลอดเรื องแสงซึ่งบอก
กาลังไฟฟ้ าเป็ นวัตต์(W) เป็ นการบอกถึงปริ มาณพลังงานไฟฟ้ าที่ใช้ไปใน 1
วินาที เช่น 20 W หมายถึง หลอดไฟฟ้ านี้จะใช้พลังงานไป 20 จูนในเวลา 1
วินาที ดังนั้นหลอดไฟฟ้ าและหลอดเรื องแสงที่มีกาลังไฟฟ้ ามาก เมื่อใช้งาน
ก็ยงสิ้ นเปลืองกระแสไฟฟ้ ามาก ทาให้เสี ยค่าใช้จ่ายมากขึ้นด้วย ปัจจุบนมี
   ิ่                                                               ั
การผลิตหลอดไฟพร้อมอุปกรณ์ประกอบ เช่น บัลลาสต์ แบบประหยัด
พลังงานขึ้นมาใช้หลายชนิด เช่น หลอดตะเกียบ หลอดผอม บัลลาสต์เบอร์
5 เป็ นต้น
หลอดไฟโฆษณาหรื อหลอดนีออน เป็ นหลอดแก้วที่ถูกลนไฟแล้วดัด
ให้เป็ นรูปหรื อตัวอักษร ไม่มไส้หลอดแต่ท่ีปลายทั้งสองข้างจะมีข้วไฟฟ้ า
                             ี                                  ั
ทาด้วยโลหะ ต่อกับแหล่ งกาเนิดไฟฟ้ า ที่มีความต่างศักย์สูงประมาณ
10,000 โวลต์ ภายในหลอดสูบอากาศออกจนหมดแล้วใส่ กาซบางชนิดที่ให้
                                                        ๊
แสงสี ต่างๆออกมาเมื่อมีกระแสไฟฟ้ าผ่าน เช่นก๊าซนีออนให้แสงสี แดงหรื อ
ส้ม ก๊าซฮีเลียมให้แสงสี ชมพู ความต่างศักย์ที่สูงมากๆ จะทาให้กาซที่บรรจุ
                                                              ๊
ไว้ในหลอดเกิดการแตกตัวเป็ นนิออนและนาไฟฟ้ าได้ เมื่อกระแสไฟฟ้ า
ผ่านก๊าซเหล่านี้จะทาให้กาซร้อนติดไฟให้แสงสี ตางๆได้
                          ๊                      ่
เครื่ องใช้ไฟฟ้ าบางชนิดขณะใช้งานจะมีการเปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟ้ าเป็ น
พลังงานอื่นได้พร้อมกันหลายรูปแบบ เช่น
        โทรทัศน์ จะเปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟ้ าเป็ น พลังงานแสง และ
พลังงานเสี ยง
        ไดร์เป่ าผม จะเปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานกล และพลังงาน
ความร้อน
         วิทยุเทป จะเปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานกลและพลังงาน
เสี ยง เป็ นต้น
บนเครื่ องใช้ไฟฟ้ าทุกชนิดจะมีตวเลขกากับไว้เสมอ เกียวกับ
                                             ั                     ่
กาลังไฟฟ้ า และความต่างศักย์ไฟฟ้ าที่ใช้กบเครื่ องใช้ไฟฟ้ าชนิดนั้นๆ เช่น
                                               ั
หม้อหุงข้าว ขนาด "220 V 800 W" 200 V หมายถึง หม้อหุงข้าวใบนี้ใช้กบ             ั
ไฟที่มีความต่างศักย์ 220 โวลต์ ส่ วน 800 W หมายถึง ค่าพลังงานที่หม้อ
หุงข้าวนี้ใช้ใน เวลา 1 วินาที หรื อ เรี ยกว่ากาลังไฟฟ้ า ดังนั้นพลังงานไฟฟ้ า
ที่เครื่ องใช้ไฟฟ้ าใช้ไปในเวลา 1 วินาที เช่น เตารี ด 1,000 วัตต์ คือ เมื่อใช้
เตารี ดนี้จะสิ้ นเปลืองพลังงานไฟฟ้ า 1,000 จูลต่อวินาที หรื อวัตต์
กาลังไฟฟ้ า จะมีค่าขึ้นอยูกบปริ มาณกระแสที่ไหลผ่าน
                                    ่ ั
เครื่ องใช้ไฟฟ้ าโดยกาลังไฟฟ้ ามีค่าเท่ากับผลคูณระหว่างความต่างศักย์กบ
                                                                     ั
กระแสไฟฟ้ า เขียนสมการได้ดงนี้   ั

                      P = VI
      เมื่อกาหนดให้ P แทน กาลังไฟฟ้ า มีหน่วยเป็ น วัตต์
                   V แทน ความต่างศักย์ที่ต่อกับเครื่ องใช้ไฟฟ้ ามี
หน่วยเป็ นโวลต์
                    I แทนกระแสไฟฟ้ าที่ไหลผ่านเครื่ องใช้ไฟฟ้ ามี
หน่วยเป็ นแอมแปร์
พลังงานไฟฟ้ า(จูน)     =      กาลังไฟฟ้ า(วัตต์) X เวลา(วินาที)
       เมื่อกาหนดให้ P      แทน กาลังไฟฟ้ า มี หน่วยเป็ น วัตต์
                      W    แทน พลังงานไฟฟ้ า มีหน่วยเป็ นจูน
                       t   แทน เวลา มีหน่วยเป็ น วินาที
      หรื อ        W        = P Xt

       ดังนั้นเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ใช้กาลังไฟฟ้ าสู งๆ ถ้าใช้เป็ นเวลานานจะ
สิ้ นเปลืองพลังงานไฟฟ้ ามาก ซึ่ งในการคิดค่าพลังงานไฟฟ้ าจะคิดเป็ นหน่วยที่
ใหญ่กว่าจูน คือกิโลวัตต์ และคิดเวลาเวลาเป็ นชัวโมง ดังนั้น หน่วยของพลังงาน
                                                     ่
ไฟฟ้ าจึงเป็ น กิโลวัตต์-ชัวโมง หรื อ หน่วย หรื อยูนิต ซึ่ งเขียนเป็ นสมการได้
                           ่
ดังนี้
         พลังงานไฟฟ้ า(หน่วย) = กาลังไฟฟ้ า(กิโลวัตต์) X เวลา (ชัวโมง)     ่
พลังงานไฟฟ้ าที่ใช้ในบ้านอ่านได้จากเครื่ องมือวัดพลังงานไฟฟ้ าที่
เรี ยกว่า มาตรไฟฟ้ า ซึ่งวัดพลังงานไฟฟ้ าเป็ นกิโลวัตต์ -ชัวโมง หรื อหน่วย
                                                           ่
  มาตรไฟฟ้ ามีหลายขนาดกาหนดตามปริ มาณกระแสไฟฟ้ าสูงสุ ดที่ผ่าน
                                มาตรไฟฟ้ า
Vvv

More Related Content

What's hot

งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8
งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8
งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8lacknaja1
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วjaturong2012
 
งาน Sideshare
งาน Sideshareงาน Sideshare
งาน SideshareThananop
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าSiriporn Somkrue
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าPanatsaya
 
ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์jee2002
 
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้างานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้าPhachakorn Khrueapuk
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าkritsana08724
 
กลุ่มที่ 5 ห้อง 3
กลุ่มที่ 5 ห้อง 3กลุ่มที่ 5 ห้อง 3
กลุ่มที่ 5 ห้อง 3Kunthida Kik
 
กลุ่มที่ 5 (1)
กลุ่มที่ 5 (1)กลุ่มที่ 5 (1)
กลุ่มที่ 5 (1)Kunthida Kik
 

What's hot (12)

G8injv'.=hwaahk
G8injv'.=hwaahkG8injv'.=hwaahk
G8injv'.=hwaahk
 
งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8
งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8
งานเครื่องไฟฟ้า ม.302 กลุ่ม 8
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
งาน Sideshare
งาน Sideshareงาน Sideshare
งาน Sideshare
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ความรู้เบื้องต้นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
 
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้างานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
งานนำเสนอ1 ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
กลุ่มที่ 5 ห้อง 3
กลุ่มที่ 5 ห้อง 3กลุ่มที่ 5 ห้อง 3
กลุ่มที่ 5 ห้อง 3
 
กลุ่มที่ 5 (1)
กลุ่มที่ 5 (1)กลุ่มที่ 5 (1)
กลุ่มที่ 5 (1)
 

Viewers also liked

School for the Future - School van de toekomst
School for the Future - School van de toekomst School for the Future - School van de toekomst
School for the Future - School van de toekomst EduSkills OECD
 
La Classe Eco Sostenibile
La Classe Eco SostenibileLa Classe Eco Sostenibile
La Classe Eco Sostenibilesilviamagli
 
3-27-12 Preservation & Archiving Highlights from ADR - Presentation Slides
3-27-12 Preservation & Archiving Highlights from ADR - Presentation Slides3-27-12 Preservation & Archiving Highlights from ADR - Presentation Slides
3-27-12 Preservation & Archiving Highlights from ADR - Presentation SlidesDuraSpace
 
Tο τέλος της πλεονεξίας και του καταναλωτισμού
Tο τέλος της πλεονεξίας και του καταναλωτισμούTο τέλος της πλεονεξίας και του καταναλωτισμού
Tο τέλος της πλεονεξίας και του καταναλωτισμούkatpapado
 
Interim meeting jan11
Interim meeting jan11Interim meeting jan11
Interim meeting jan11loumcgill
 
Basic Excel Training in Chennai, Guindy
Basic Excel Training in Chennai, GuindyBasic Excel Training in Chennai, Guindy
Basic Excel Training in Chennai, GuindyPriyanka Menon
 
misija KwaSizabantu 2005. gads prezentācija
misija KwaSizabantu 2005. gads prezentācijamisija KwaSizabantu 2005. gads prezentācija
misija KwaSizabantu 2005. gads prezentācijaVerners Šteinbergs
 
Presentatie pws 1
Presentatie pws 1Presentatie pws 1
Presentatie pws 1jorisgalama
 

Viewers also liked (18)

School for the Future - School van de toekomst
School for the Future - School van de toekomst School for the Future - School van de toekomst
School for the Future - School van de toekomst
 
Stefan Gradmann - Scholarly Modelling
Stefan Gradmann - Scholarly ModellingStefan Gradmann - Scholarly Modelling
Stefan Gradmann - Scholarly Modelling
 
Guia usuario oecd
Guia usuario oecdGuia usuario oecd
Guia usuario oecd
 
La Classe Eco Sostenibile
La Classe Eco SostenibileLa Classe Eco Sostenibile
La Classe Eco Sostenibile
 
Línea de tiempo.
Línea de tiempo.Línea de tiempo.
Línea de tiempo.
 
Aplicación del inglés
Aplicación del inglésAplicación del inglés
Aplicación del inglés
 
Osservazioni vas sint 02
Osservazioni vas sint 02Osservazioni vas sint 02
Osservazioni vas sint 02
 
3-27-12 Preservation & Archiving Highlights from ADR - Presentation Slides
3-27-12 Preservation & Archiving Highlights from ADR - Presentation Slides3-27-12 Preservation & Archiving Highlights from ADR - Presentation Slides
3-27-12 Preservation & Archiving Highlights from ADR - Presentation Slides
 
proyecto de vida
proyecto de vidaproyecto de vida
proyecto de vida
 
Tο τέλος της πλεονεξίας και του καταναλωτισμού
Tο τέλος της πλεονεξίας και του καταναλωτισμούTο τέλος της πλεονεξίας και του καταναλωτισμού
Tο τέλος της πλεονεξίας και του καταναλωτισμού
 
Interim meeting jan11
Interim meeting jan11Interim meeting jan11
Interim meeting jan11
 
혁신대학 100플랜 정책발표 최종
혁신대학 100플랜 정책발표 최종혁신대학 100플랜 정책발표 최종
혁신대학 100플랜 정책발표 최종
 
Blog handout
Blog handoutBlog handout
Blog handout
 
Basic Excel Training in Chennai, Guindy
Basic Excel Training in Chennai, GuindyBasic Excel Training in Chennai, Guindy
Basic Excel Training in Chennai, Guindy
 
misija KwaSizabantu 2005. gads prezentācija
misija KwaSizabantu 2005. gads prezentācijamisija KwaSizabantu 2005. gads prezentācija
misija KwaSizabantu 2005. gads prezentācija
 
Convenzione Eco store
Convenzione Eco store Convenzione Eco store
Convenzione Eco store
 
Presentatie pws 1
Presentatie pws 1Presentatie pws 1
Presentatie pws 1
 
Family members
Family membersFamily members
Family members
 

Similar to Vvv

เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วjaturong20155
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)
เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)
เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)ying08932
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..Powergift_vip
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าtwosoraya25
 
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdfเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf0841766393
 
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdfเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.PdfKanoknat Kaosim
 
งานคูแหวว.Pdf
งานคูแหวว.Pdfงานคูแหวว.Pdf
งานคูแหวว.PdfPanatsaya
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าteerawat2012
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า1560100453451
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1kob08263
 
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้างานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้าSarun Boonwong
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าUp To You's Toey
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าUp To You's Toey
 
งานไฟฟ้า
งานไฟฟ้างานไฟฟ้า
งานไฟฟ้าNatdanai Kumpao
 
งานไฟฟ้า
งานไฟฟ้างานไฟฟ้า
งานไฟฟ้าNatdanai Kumpao
 

Similar to Vvv (20)

เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้วเรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
เรื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าเส็จแล้ว
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)
เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)
เครื่องใช้ไฟฟ้า (2)
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
ไฟฟ้ากลุ..
 ไฟฟ้ากลุ.. ไฟฟ้ากลุ..
ไฟฟ้ากลุ..
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdfเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
 
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdfเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน.Pdf
 
งานคูแหวว.Pdf
งานคูแหวว.Pdfงานคูแหวว.Pdf
งานคูแหวว.Pdf
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
G8injv'.=hwaahk
G8injv'.=hwaahkG8injv'.=hwaahk
G8injv'.=hwaahk
 
ไฟฟ้า
ไฟฟ้าไฟฟ้า
ไฟฟ้า
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้างานเครื่องใช้ไฟฟ้า
งานเครื่องใช้ไฟฟ้า
 
งาน Sideshare
งาน Sideshareงาน Sideshare
งาน Sideshare
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า
 
งานไฟฟ้า
งานไฟฟ้างานไฟฟ้า
งานไฟฟ้า
 
งานไฟฟ้า
งานไฟฟ้างานไฟฟ้า
งานไฟฟ้า
 

More from orohimaro

งานครูแหวว444
งานครูแหวว444งานครูแหวว444
งานครูแหวว444orohimaro
 
งานครูแหวว444
งานครูแหวว444งานครูแหวว444
งานครูแหวว444orohimaro
 
งานครูแหวว444
งานครูแหวว444งานครูแหวว444
งานครูแหวว444orohimaro
 
งานครูแหว..
งานครูแหว..งานครูแหว..
งานครูแหว..orohimaro
 
งานครูแหว..
งานครูแหว..งานครูแหว..
งานครูแหว..orohimaro
 
M 303 group 6
M 303 group 6M 303 group 6
M 303 group 6orohimaro
 
M 303 group 6
M 303 group 6M 303 group 6
M 303 group 6orohimaro
 
M 3/3 Group 6
M 3/3 Group 6M 3/3 Group 6
M 3/3 Group 6orohimaro
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอorohimaro
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอorohimaro
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอorohimaro
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอorohimaro
 
งานนำเสนอ 11
งานนำเสนอ 11งานนำเสนอ 11
งานนำเสนอ 11orohimaro
 
งานนำเสนอ 11
งานนำเสนอ 11งานนำเสนอ 11
งานนำเสนอ 11orohimaro
 
งานนำเสนอ 1
งานนำเสนอ 1งานนำเสนอ 1
งานนำเสนอ 1orohimaro
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอorohimaro
 
งาน กลุ่ม 6 ม. 3/3
งาน กลุ่ม 6 ม. 3/3งาน กลุ่ม 6 ม. 3/3
งาน กลุ่ม 6 ม. 3/3orohimaro
 
งานกลุ่ม 6 ม. 3/3
งานกลุ่ม 6 ม. 3/3งานกลุ่ม 6 ม. 3/3
งานกลุ่ม 6 ม. 3/3orohimaro
 

More from orohimaro (20)

งานครูแหวว444
งานครูแหวว444งานครูแหวว444
งานครูแหวว444
 
งานครูแหวว444
งานครูแหวว444งานครูแหวว444
งานครูแหวว444
 
งานครูแหวว444
งานครูแหวว444งานครูแหวว444
งานครูแหวว444
 
งานครูแหว..
งานครูแหว..งานครูแหว..
งานครูแหว..
 
งานครูแหว..
งานครูแหว..งานครูแหว..
งานครูแหว..
 
M 303 group 6
M 303 group 6M 303 group 6
M 303 group 6
 
M 303 group 6
M 303 group 6M 303 group 6
M 303 group 6
 
M 3/3 Group 6
M 3/3 Group 6M 3/3 Group 6
M 3/3 Group 6
 
lo
lolo
lo
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอ
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอ
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอ
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอ
 
Vvv
VvvVvv
Vvv
 
งานนำเสนอ 11
งานนำเสนอ 11งานนำเสนอ 11
งานนำเสนอ 11
 
งานนำเสนอ 11
งานนำเสนอ 11งานนำเสนอ 11
งานนำเสนอ 11
 
งานนำเสนอ 1
งานนำเสนอ 1งานนำเสนอ 1
งานนำเสนอ 1
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอ
 
งาน กลุ่ม 6 ม. 3/3
งาน กลุ่ม 6 ม. 3/3งาน กลุ่ม 6 ม. 3/3
งาน กลุ่ม 6 ม. 3/3
 
งานกลุ่ม 6 ม. 3/3
งานกลุ่ม 6 ม. 3/3งานกลุ่ม 6 ม. 3/3
งานกลุ่ม 6 ม. 3/3
 

Vvv

  • 1.
  • 2.
  • 3. เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานความร้อน เป็ น เครื่ องใช้ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานความร้อน โดยใช้หลักการคือ เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้ าผ่านขดลวด ตัวนาที่มีความต้าน ทานสูงๆ ลวดตัวนานั้นจะร้อนจน สามารถนาความร้อนออก ไปใช้ประโยชน์ได้ เนื่องจาก เป็ นเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลัง งานความร้อนมาก จึงสิ้ น เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ ามากเมื่อเปรี ยบกับการใช้ เครื่ อง ใช้ ไฟฟ้ าประเภทอื่นๆ เมื่อใช้ในเวลาที่เท่ากัน ฉะนั้นขณะ ใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ าให้พลังงานความร้อนจึงควร ใช้ดวย ้ ความระมัดระวัง
  • 4. ตัวอย่าง เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานความร้อน เช่น เตารี ด หม้อหุ งข้าว กระทะไฟฟ้ า กาต้มน้ า เครื่ องต้ม กาแฟ เตาไฟฟ้ า ฯลฯ
  • 5. ส่ วนประกอบในเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานความร้อน มี ดังนี้ 1.ขดลวดความร้อน หรื อแผ่นความร้อน มักทาจาก โลหะผสมระหว่างนิเกิลกับโครเมียมเรี ยกว่า นิโครม ซึ่งมีสมบัติคือมีจุดหลอมเหลวสูงมากจึงทนความร้อน ได้สูงเมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นมากๆจึงไม่ขาด และมี ความ ต้าน ทานสูงมาก
  • 6. 2. เทอร์โมสตาร์ท หรื อสวิตซ์ความร้อนอัตโนมัติ ทาหน้าที่ ควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ร้อนเกินไป มีส่วนประกอบเป็ นโลหะต่าง ชนิดกัน 2 แผ่นมาประกบกัน เมื่อได้รับความร้อนจะขยายตัวได้ไม่ เท่ากัน เช่น เหล็กกับทองเหลือง โดยให้แผ่นโลหะที่ขยายตัวได้ น้อย(เหล็ก)อยูดานบน ส่ วนโลหะที่จะขยายตัวได้มาก(ทองเหลือง) ่้ อยูดานล่าง เมื่อกระแสไฟฟ้ าไหลผ่านแผ่นโลหะทั้งสองมากขึ้น จะ ่้ ทาให้มีอุณหภูมิสูงจนแผ่นโลหะทั้งสองซึ่งขยายตัวได้ต่างกัน โลหะที่ขยายตัวได้มากจะขยายตัวโค้งงอ เป็ นเหตุให้จุดสัมผัสแยก ออกจากกัน เกิดเป็ นวงจรเปิ ด กระแสไฟฟ้ าจึงไหลผ่านไม่ได้ และ เมื่อแผ่นโลหะทั้งสองเย็นลงก็จะสัมผัสกันเหมือนเดิม เกิดเป็ น วงจรปิ ด กระแสไฟฟ้ าจึงไหลผ่านได้อีกครั้งหนึ่ง
  • 7. 3. แผ่นไมกา หรื อ แผ่นใยหิน ซึ่งเป็ นฉนวนไฟฟ้ า ใน เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงาน ความร้อนบางชนิด เช่น เตารี ด หม้อหุงข้าว เตาไฟฟ้ า จะมีแผ่นไมกา หรื อใยหิน เพื่อป้ องกัน ไม่ให้ขดลวดหลอมละลาย และป้ องกันไฟฟ้ ารัวขณะใช้งาน ่
  • 8. เนื่องจากเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานความร้อนจะมีกระแส ไฟฟ้ าปริ มาณมากไหลผ่าน มากกว่าเครื่ องใช้ประเภทอื่นๆ จึ งควรใช้ ด้วยความระมัดระวังดังนี้ 1. หมันตรวจสอบดูแลสายไฟ เต้ารับ เต้าเสี ยบ ให้อยูในสภาพเรี ยบร้อยไม่ ่ ่ ชารุ ด 2. เมื่อเลิกใช้งานต้องถอดเต้าเสี ยบออกจากเต้ารับทุกครั้งไม่ควรเสี ยบทิงไว้ ้ ในการเลือกเครื่ องใช้ไฟฟ้ าทุกชนิดต้องพิจารณาถึงคุณภาพของ เครื่ องใช้ไฟฟ้ า รู ้จกวิธีใช้ที่ถูกต้อง รู ้จกวิธีป้องก ันอันตรายจากไฟฟ้ ารั่วและ ั ั ไฟฟ้ าลักวงจรและตรวจดู แลอุปกรณ์อยูเ่ สมอ
  • 9. เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานกล มีการเปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟ้ าเป็ น พลังงานกล โดยอาศัยหลักการเหนี่ ยวนาแม่เหล็กไฟฟ้ า ด้วยอุปกรณ์ ที่ เรี ยกว่า มอเตอร ์์ และ เครื่ องควบคุมความเร็ว ซึ่งเป็ นอุปกรณ์หลักใน เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานกล ตัวอย่าง เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานกล เช่น เครื่ องปรับอากาศ ตูเ้ ย็น เครื่ องดูดฝุ่ น พัดลม เครื่ องซักผ้า เครื่ องปั่นน้ าผลไม้ ฯลฯ
  • 10. มอเตอร์ เป็ นเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ น พลังงานกล ประกอบด้วยขดลวดที่พนรอบแกนโลหะที่วางอยู่ ั ระหว่างขั้วแม่เหล็ก โดยเมื่อผ่านกระแสไฟฟ้ าเข้าไปยังขดลวด ที่อยูระหว่างขั้วแม่เหล็ก จะทาให้ขดลวดหมุนไปรอบแกน ่ และเมื่อสลับขั้วไฟฟ้ า การหมุนของขดลวดจะหมุนกลับ ทิศทางเดิม มอเตอร์ มี 2 ประเภท คือ มอเตอร์กระแสตรง และ มอเตอร์กระแสสลับ
  • 11. มอเตอร์กระแสตรง เป็ นมอเตอร์ที่ตองใช้ไฟฟ้ ากระแสตรงผ่านเข้า ้ ไปในขดลวดอาร์มเมเจอร์เพื่อทาให้เกิดการดูดและผลักกันของแม่เหล็ก ถาวรกับแม่เหล็กไฟฟ้ าที่เกิดจากขดลวดมอเตอร์จึงหมุนได้ มอเตอร์กระแสสลับ เป็ นมอเตอร์ที่ตองใช้กบไฟฟ้ ากระแสสลับ ้ ั โดยใช้หลักการดูดและผลักกันของแม่เหล็กถาวรกับแม่เหล็กไฟฟ้ าจาก ขดลวดมาทาให้เกิดการหมุนของมอเตอร์
  • 12. ข้อควรระวังในการใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่มีมอเตอรเป็ น ส่ วนประกอบ คือ ห้ามใช้เครื่ องใช้ประเภทนี้ในช่วงที่ไฟตก หรื อ แรงดันไฟฟ้ าไม่ถึง 220 โวลต์ เนื่องจากมอเตอร์จะไม่หมุนและทาให้ เกิดกระแสไฟฟ้ าดันกลับ จะทาให้ขดลวดร้อนจัดจนเกิดไหม้เสี ยหาย ได้ ขณะที่มอเตอร์กาลังหมุนจะเกิดการเหนี่ยวนาไฟฟ้ าขึ้นทาให้ เกิดกระแสไฟฟ้ าซ้อนขึ้นภายในขดลวด แต่มทิศทางการไหลสวนทาง ี กับกระแสไฟฟ้ าที่มาจากแหล่งกาเนิดพลังงานไฟฟ้ าเดิม ทาให้ขดลวด ของมอเตอร์ไม่ร้อนจนเกิดไฟไหม้ได้
  • 13. ทาได้โดย การเพิ่มหรื อลดความต้านทานให้กระแสไฟฟ้ าผ่านได้ มากหรื อน้อยภาพในเครื่ องใช้ไฟฟ้ านั้น ซึ่งเป็ นผลให้ความเร็วของการ หมุนมอเตอร์เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น เมื่อต้องการให้พดลมหมุนช้าลง ั ก็ให้เพิ่มความต้านทานเพื่อให้กระแสไฟฟ้ าเข้าได้นอยลงเป็ นผลให้พด ้ ั ลมหมุนช้าลง ฉะนั้นในเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานกลจะต้องมี เครื่ องควบคุมความเร็วของมอเตอร์เสมอ
  • 14. การเลือก เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานกล จะต้องพิจารณาดู ข้อกาหนดในการใช้ เช่น ใช้กบความต่างศักย์ไฟฟ้ าเท่าใด ทั้งนี้เพื่อ ั ความปลอดภัยในการใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ า และไม่ให้เกิดความเสี ยหายแก่ เครื่ องใช้ไฟฟ้ านั้น และเพื่อเป็ นการประหยัดพลังงานไฟฟ้ า ควร พิจารณากาลังไฟฟ้ าของเครื่ องใช้ไฟฟ้ านั้นๆด้วย
  • 15. เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานเสี ยง ได้แก่ เครื่ องรับวิทยุ เครื่ องขยายเสี ยง ์ุ เครื่ องบันทึกเสี ยง ฯลฯ เครื่ อง รับวิทยุ เป็ นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงาน เสี ยง โดยรับคลื่นวิทยุ จากสถานีส่งแล้วใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขยายสัญญาณเสี ยงที่มีอยูในรูปของสัญญาณไฟฟ้ าให้แรงขึ้นเมื่อ ่ ผ่านสัญญาณไฟฟ้ านี้ไปยังลาโพงจะทาให้ลาโพงสั่นสะเทือน เปลี่ยนเป็ นเสี ยงที่สามารถรับฟังได้ ดังแผนผัง
  • 16. เสาอากาศ ขยายสัญญาณ ลาโพง เสี ยง (รับคลื่นวิทยุ) แผนผังการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานเสี ยงของเครื่ องรับวิทยุ
  • 17. คือ เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานเสี ยงโดยรับ สัญญาณไฟฟ้ าจากไมโครโฟน หัวเทป หรื อจาก เครื่ องกาเนิดสัญญาณ ไฟฟ้ าจากเสี ยงต่างๆ มาขยายสัญญาณไฟฟ้ าจนมีกาลังมากพอจึงส่ งออกสู่ ลาโพงเสี ยง เครื่ องขยายเสี ยงจะต้องมีส่วนประกอบดังนี้ 1. ไมโครโฟน เปลี่ ยนพลังงานเสี ยงให้เป็ นสัญญาณไฟฟ้ า 2. เครื่ องขยายสัญญาณไฟฟ้ า ขยายสัญญาณไฟฟ้ าให้แรงขึ้น 3. ลาโพง เปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้ าให้เป็ นพลังงานเสี ยง
  • 18. เครื่ องบันทึกเสี ยง ขณะบันทึกด้วยการพูดผ่านไมโครโฟน ซึ่งจะ เปลี่ยนพลังงานเสี ยงเป็ นสัญญาณไฟฟ้ า แล้วบันทึกลงในแถบบันทึกเสี ยง ซึ่งฉาบด้วยสารแม่เหล็กในรูปของสัญญาณแม่เหล็ก ดังแผนผัง เสี ยง ไมโครโฟน สัญญาณไฟฟ้ า บันทึกเป็ นสัญญาณ แม่เหล็ก ลงบนแถบบันทึกเสี ยง แผนผังการเปลี่ยนพลังงานของเครื่ องบันทึกเสี ยงขณะบันทึก
  • 19. เมื่อนาแถบบันทึกเสี ยงที่บนทึกได้มาเล่น สัญญาณแม่เหล็กจะถูกเปลี่ยน ั กลับเป็ นสัญญาณไฟฟ้ า และสัญญาณนี้จะถูกขยายให้แรงขึ้นด้วยอุปกรณ์ ไฟฟ้ าจนทาให้ลาโพงสันสะเทือนเป็ นเสี ยงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ดังแผนผัง ่ สัญญาณแม่เหล็กจาก สัญญาณไฟฟ้ า ขยาย สัญญาณ ลาโพง เสี ยง แถบบันทึกเสี ยง แผนผังการเปลี่ยนพลังงานของเครื่ องบันทึกเสี ยงขณะเล่น ในการใช้เครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ให้พลังงานเสี ยง พวก วิทยุ หรื อเครื่ อง เสี ยงประเภทต่างๆ ส่ วนใหญ่ส้ิ นเปลืองพลังงานไฟฟ้ าไม่มาก แต่ท้ งนี้ ั ขึ้นอยูกบ กาลังไฟฟ้ า ของเครื่ องเสี ยงนั้นๆ และขึ้นอยูกบความดังของเสี ยง ่ ั ่ ั ในการเปิ ดฟังด้วย
  • 20. หลอดไฟฟ้ า เป็ นเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่มีใช้ในทุกบ้านที่มีการใช้ พลังงานไฟฟ้ า เป็ นเครื่ องใช้ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ า ไปเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟ้ าที่ใช้ทวไป มี 3 ชนิด คือ ั่ 1. หลอดไฟฟ้ าแบบธรรมดา 2. หลอดเรื่ องแสงหรื อหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) 3. หลอดไฟโฆษณาหรื อหลอดนีออน
  • 21. มีการเปลี่ยนรูปพลังงานจากพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานความร้อน แล้วจึงเปลี่ยนเป็ นพลังงานแสง หลอดไฟฟ้ าแบบธรรมดามี 2 แบบ คือแบบ เกลียวและแบบเขี้ยว มีส่วนประกอบดังนี้ 1. ไส้หลอด ทาด้วยโลหะที่มีจุดหลอดเหลวสูง ทนความร้อนได้มาก มี ความทนทานสูง เช่น ทังสเตน 2. หลอดแก้วทาจากแก้วที่ทนความร้อนได้ดี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออก จนหมดภายในบรรจุกาซไนโตรเจนและอาร์กอนเล็กน้อย ก๊าซชนิ ดนี้ทา ๊ ปฏิกริยายาก ช่วยป้ องกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิดไปจับที่หลอดแก้ว และช่วย ิ ไม่ให้ไส้หลอดไม่ขาดง่าย ถ้าบรรจุกาซออกซิเจนจะทาปฏิกริยากับไส้ ๊ ิ หลอด ซึ่งทาให้ไส้หลอดขาดง่าย
  • 22. 3. ขั้วหลอดไฟ เป็ นจุดต่อวงจรไฟฟ้ า มี 2 แบบ คือ แบบเขี้ยวและ แบบเกลียว เนื่องจากหลอดไฟฟ้ าประเภทนี้ให้แสงสว่างได้ดวยการเปลี่ยน ้ พลังงาน ไฟฟ้ า เป็ นพลังงานความร้อนก่อนที่จะให้แสงสว่างออกมา จึงทาให้สิ้นเปลือง พลังงานไฟฟ้ า มากกว่าหลอดชนิดอื่น ในขนาด กาลังไฟฟ้ า ของหลอดไฟซึ่งจะกาหนดไว้ที่หลอดไฟทุกดวง เช่น หลอด ไฟฟ้ าขนาด 100 วัตต์ เป็ นต้น
  • 23. หลอดเรื องแสงหรื อหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทาด้วย หลอดแก้วที่สูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย มีไส้ที่ ปลายหลอดทั้งสองข้าง หลอดเรื องแสงอาจทาเป็ นหลอดตรง หรื อครึ่ ง วงกลมก็ได้ ส่ วนประกอบและการทางานของหลอดเรื องแสง มีดงนี้ ั 1. ตัวหลอด ภายในสูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทและก๊าซ อาร์กอน เล็กน้อย ผิวด้านในของหลอดเรื องแสงฉาบด้วยสารเรื องแสง ชนิดต่างๆ แล้วแต่ความต้องการให้เรื องแสงเป็ นสี ใด เช่น ถ้าต้องการให้ เรื องแสงสี เขียว ต้องฉาบด้วยสารซิงค์ซิลิเคต แสงสี ขาวแกมฟ้ าฉาบด้วย มักเนเซียมทังสเตน แสงสี ชมพูฉาบด้วยแคดเนียมบอเรต เป็ นต้น
  • 24. 2. ไส้หลอด ทาด้วยทังสเตนหรื อวุลแฟรมอยูที่ปลายทั้งสองข้าง เมื่อ ่ กระแสไฟฟ้ าผ่านไส้หลอดจะทาให้ไส้หลอดร้อนขึ้น ความร้อนที่เกิดขึ้นจะ ทาให้ไอปรอทที่บรรจุไว้ในหลอดกลายเป็ นไอมากขึ้น แต่ขณะนั้น กระแสไฟฟ้ ายังผ่านไอปรอทไม่สะดวก เพราะปรอทยังเป็ นไอน้อยทาให้ ความต้านทานของหลอดสูง 3. สตาร์ตเตอร์ ทาหน้าที่เป็ นสวิตซ์ไฟฟ้ าอัตโนมัติของวงจรโดยต่อขนาน กับหลอด ทาด้วยหลอดแก้วภายในบรรจุกาซนีออนและแผ่นโลหะคู่ที่งอ ๊ ตัวได้ เมื่อได้รับความร้อน เมื่อกระแสไฟฟ้ าผ่านก๊าซนีออน ก๊าซนีออนจะ ติดไฟเกิดความร้อนขึ้น ทาให้แผ่นโลหะคู่งอจนแตะติดกันทาให้กลายเป็ น วงจรปิ ดทาให้กระแสไฟฟ้ าผ่านแผ่นโลหะได้ครบวงจร
  • 25. ก๊าซนีออนที่ติดไฟอยูจะดับและเย็นลง แผ่นโลหะคู่จะแยกออกจากกัน ่ ทาให้เกิดความต้านทานสูงขึ้นอย่างทันทีซ่ ึงขณะเดียวกันกระแสไฟฟ้ าจะ ผ่านไส้หลอดได้มากขึ้นทาให้ไส้หลอดร้อนขึ้นมาก ปรอทก็จะเป็ นไอมาก ขึ้นจนพอที่นากระแสไฟฟ้ าได้ 4. แบลลัสต์ เป็ นขดลวดที่พนอยูบนแกนเหล็ก ขณะกระแสไฟฟ้ า ั ่ ไหลผ่านจะเกิดการเหนี่ยวนาแม่เหล็กไฟฟ้ าทาให้เกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้ า เหนี่ยวนาขึ้น เมื่อแผ่นโลหะคู่ในสตาร์ตเตอร์แยกตัวออกจากกันนั้นจะเกิด วงจรเปิ ดชัวขณะ แรงเคลื่อนไฟฟ้ าเหนี่ ยวนาที่เกิดขึ้นในแบลลัสต์จึงทา ่ ให้เกิดกระแสไฟฟ้ าเหนี่ยวนาไหลสวนทางกับกระแสไฟฟ้ าจากวงจรไฟฟ้ า ในบ้าน ทาให้กระแส ไฟฟ้ าที่จะเข้าสู่วงจรของหลอดเรื องแสงลดลง
  • 26. เมื่อกระแสไฟฟ้ าผ่านไอปรอทจะคายพลังงานไฟฟ้ าให้อะตอมไอ ปรอท ทาให้อะตอมของไอปรอทอยูในสภาวะถูกกระตุน (excited state) ่ ้ และอะตอมของปรอทจะคายพลังงานออกมาเพื่อลดระดับพลังงาน ในรูป ของรังสี อลตราไวโอเลต ซึ่งอยูในช่วงของแสงที่มองไม่เห็น เมื่อรังสี น้ ี ั ่ กระทบสารเรื องแสงที่ฉาบไว้ที่ผิวหลอด สารเรื องแสงจะเปล่งแสงสี ต่างๆ ตามชนิดของสารเรื องแสงที่ฉาบไว้ในหลอดนั้น
  • 27. ข้อดีของหลอดเรื องแสง 1. เมื่อให้พลังงานไฟฟ้ าเท่ากันจะให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟฟ้ า แบบธรรมดาประมาณ 4 เท่า และมีอายุการใช้งานนานกว่าหลอดไฟฟ้ า ธรรมดาประมาณ 8 เท่า 2. อุณหภูมิของหลอดไม่สูงเท่ากับหลอดไฟฟ้ าแบบธรรมดา 3. ถ้าต้องการแสงสว่างเท่ากับหลอดไฟฟ้ าธรรมดา จะใช้วตต์ที่ต่ากว่า ั จึงเสี ยค่าไฟฟ้ าน้อยกว่า ข้อเสี ยของหลอดเรื องแสง 1. เมื่อติดตั้งจะเสี ยค่าใช้จ่ายสูงกว่าหลอดไฟฟ้ าแบบธรรมดา เพราะ ต้องใช้แบลลัสต์และสตาร์ตเตอร์ เสมอ 2. หลอดเรื องแสงมักระพริ บเล็กน้อยไม่เหมาะในการใช้อ่านหนังสื อ
  • 28. ตัวเลขที่ปรากฏบนหลอดไฟฟ้ าธรรมดาและหลอดเรื องแสงซึ่งบอก กาลังไฟฟ้ าเป็ นวัตต์(W) เป็ นการบอกถึงปริ มาณพลังงานไฟฟ้ าที่ใช้ไปใน 1 วินาที เช่น 20 W หมายถึง หลอดไฟฟ้ านี้จะใช้พลังงานไป 20 จูนในเวลา 1 วินาที ดังนั้นหลอดไฟฟ้ าและหลอดเรื องแสงที่มีกาลังไฟฟ้ ามาก เมื่อใช้งาน ก็ยงสิ้ นเปลืองกระแสไฟฟ้ ามาก ทาให้เสี ยค่าใช้จ่ายมากขึ้นด้วย ปัจจุบนมี ิ่ ั การผลิตหลอดไฟพร้อมอุปกรณ์ประกอบ เช่น บัลลาสต์ แบบประหยัด พลังงานขึ้นมาใช้หลายชนิด เช่น หลอดตะเกียบ หลอดผอม บัลลาสต์เบอร์ 5 เป็ นต้น
  • 29. หลอดไฟโฆษณาหรื อหลอดนีออน เป็ นหลอดแก้วที่ถูกลนไฟแล้วดัด ให้เป็ นรูปหรื อตัวอักษร ไม่มไส้หลอดแต่ท่ีปลายทั้งสองข้างจะมีข้วไฟฟ้ า ี ั ทาด้วยโลหะ ต่อกับแหล่ งกาเนิดไฟฟ้ า ที่มีความต่างศักย์สูงประมาณ 10,000 โวลต์ ภายในหลอดสูบอากาศออกจนหมดแล้วใส่ กาซบางชนิดที่ให้ ๊ แสงสี ต่างๆออกมาเมื่อมีกระแสไฟฟ้ าผ่าน เช่นก๊าซนีออนให้แสงสี แดงหรื อ ส้ม ก๊าซฮีเลียมให้แสงสี ชมพู ความต่างศักย์ที่สูงมากๆ จะทาให้กาซที่บรรจุ ๊ ไว้ในหลอดเกิดการแตกตัวเป็ นนิออนและนาไฟฟ้ าได้ เมื่อกระแสไฟฟ้ า ผ่านก๊าซเหล่านี้จะทาให้กาซร้อนติดไฟให้แสงสี ตางๆได้ ๊ ่
  • 30. เครื่ องใช้ไฟฟ้ าบางชนิดขณะใช้งานจะมีการเปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟ้ าเป็ น พลังงานอื่นได้พร้อมกันหลายรูปแบบ เช่น โทรทัศน์ จะเปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟ้ าเป็ น พลังงานแสง และ พลังงานเสี ยง ไดร์เป่ าผม จะเปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานกล และพลังงาน ความร้อน วิทยุเทป จะเปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานกลและพลังงาน เสี ยง เป็ นต้น
  • 31. บนเครื่ องใช้ไฟฟ้ าทุกชนิดจะมีตวเลขกากับไว้เสมอ เกียวกับ ั ่ กาลังไฟฟ้ า และความต่างศักย์ไฟฟ้ าที่ใช้กบเครื่ องใช้ไฟฟ้ าชนิดนั้นๆ เช่น ั หม้อหุงข้าว ขนาด "220 V 800 W" 200 V หมายถึง หม้อหุงข้าวใบนี้ใช้กบ ั ไฟที่มีความต่างศักย์ 220 โวลต์ ส่ วน 800 W หมายถึง ค่าพลังงานที่หม้อ หุงข้าวนี้ใช้ใน เวลา 1 วินาที หรื อ เรี ยกว่ากาลังไฟฟ้ า ดังนั้นพลังงานไฟฟ้ า ที่เครื่ องใช้ไฟฟ้ าใช้ไปในเวลา 1 วินาที เช่น เตารี ด 1,000 วัตต์ คือ เมื่อใช้ เตารี ดนี้จะสิ้ นเปลืองพลังงานไฟฟ้ า 1,000 จูลต่อวินาที หรื อวัตต์
  • 32. กาลังไฟฟ้ า จะมีค่าขึ้นอยูกบปริ มาณกระแสที่ไหลผ่าน ่ ั เครื่ องใช้ไฟฟ้ าโดยกาลังไฟฟ้ ามีค่าเท่ากับผลคูณระหว่างความต่างศักย์กบ ั กระแสไฟฟ้ า เขียนสมการได้ดงนี้ ั P = VI เมื่อกาหนดให้ P แทน กาลังไฟฟ้ า มีหน่วยเป็ น วัตต์ V แทน ความต่างศักย์ที่ต่อกับเครื่ องใช้ไฟฟ้ ามี หน่วยเป็ นโวลต์ I แทนกระแสไฟฟ้ าที่ไหลผ่านเครื่ องใช้ไฟฟ้ ามี หน่วยเป็ นแอมแปร์
  • 33. พลังงานไฟฟ้ า(จูน) = กาลังไฟฟ้ า(วัตต์) X เวลา(วินาที) เมื่อกาหนดให้ P แทน กาลังไฟฟ้ า มี หน่วยเป็ น วัตต์ W แทน พลังงานไฟฟ้ า มีหน่วยเป็ นจูน t แทน เวลา มีหน่วยเป็ น วินาที หรื อ W = P Xt ดังนั้นเครื่ องใช้ไฟฟ้ าที่ใช้กาลังไฟฟ้ าสู งๆ ถ้าใช้เป็ นเวลานานจะ สิ้ นเปลืองพลังงานไฟฟ้ ามาก ซึ่ งในการคิดค่าพลังงานไฟฟ้ าจะคิดเป็ นหน่วยที่ ใหญ่กว่าจูน คือกิโลวัตต์ และคิดเวลาเวลาเป็ นชัวโมง ดังนั้น หน่วยของพลังงาน ่ ไฟฟ้ าจึงเป็ น กิโลวัตต์-ชัวโมง หรื อ หน่วย หรื อยูนิต ซึ่ งเขียนเป็ นสมการได้ ่ ดังนี้ พลังงานไฟฟ้ า(หน่วย) = กาลังไฟฟ้ า(กิโลวัตต์) X เวลา (ชัวโมง) ่
  • 34. พลังงานไฟฟ้ าที่ใช้ในบ้านอ่านได้จากเครื่ องมือวัดพลังงานไฟฟ้ าที่ เรี ยกว่า มาตรไฟฟ้ า ซึ่งวัดพลังงานไฟฟ้ าเป็ นกิโลวัตต์ -ชัวโมง หรื อหน่วย ่ มาตรไฟฟ้ ามีหลายขนาดกาหนดตามปริ มาณกระแสไฟฟ้ าสูงสุ ดที่ผ่าน มาตรไฟฟ้ า