More Related Content
Similar to งานนำเสนอ (20)
งานนำเสนอ
- 1. การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
จัดทาโดย
1. ด.ช. กริชรัตน์ เสธา เลขที่ 1 ชั้น ม.3/1
2. ด.ช. จักรพงษ์ นาผัด เลขที่ 2 ชั้น ม.3/1
3. ด.ช. ณัฐพงศ์ บัวเทศ เลขที่ 3 ชั้น ม.3/1
4. ด.ญ. กิตติยาภรณ์ พันธ์ปัญญา เลขที่ 15 ชั้น ม.3/1
5. ด.ญ. นันทกานต์ ใจเย็น เลขที่ 21 ชั้น ม.3/1
6. ด.ญ. วนิดา วิชัยโน เลขที่ 31 ชั้น ม.3/1
- 2. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานความร้อน
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานความร้อน เป็นเครื่องใช้ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า
เป็นพลังงานความร้อน โดยใช้หลักการคือ เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดตัวนาที่มี
ความต้านทานสูงๆ ลวดตัวนานั้นจะร้อนจนสามารถนาความร้อนออกไปใช้ประโยชน์
ได้ เนื่องจากเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานความร้อนมาก จึงสิ้นเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า
มากเมื่อเปรียบกับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ เมื่อใช้ในเวลาที่เท่ากัน ฉะนั้นขณะ
ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้พลังงานความร้อนจึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ตัวอย่าง
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานความร้อน เช่น เตารีด หม้อหุงข้าว กระทะไฟฟ้า กาต้มน้า
เครื่องต้มกาแฟ เตาไฟฟ้า ฯลฯ
- 3. เตารีดไฟฟ้า
วิธีใช้เตารีดไฟฟ้าให้ประหยัดพลังงาน
1.ควรรีดผ้าคราวละมากๆ ติดต่อกันจนเสร็จ และควรเริ่มรีดผ้าบางๆ ก่อนในขณะเตารีด
ยังไม่ร้อน และก่อนรีดเสร็จประมาณ 2-3 นาทีให้ถอดปลั๊กออก
2.เมื่อไม่ได้ใช้งานควรถอดปลั๊กออก และก่อนจะเก็บควรทิ้งให้เตารีดเย็นก่อน
- 4. หลักการทางานของเตารีดไฟฟ้า
โดย ทั่วไปเตารีดไฟฟ้าเมื่อใช้เต้าเสียบเสียบเต้ารับแล้ว กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่าน
ขดลวดให้ความร้อน คือแถบลวดนิโครม หรือขดลวดความร้อน และจะถ่ายเทความ
ร้อนให้กับแผ่นทับผ้า ทาให้แผ่นทับผ้าร้อน การตั้งอุณหภูมิให้มีความร้อนมากหรือ
น้อยเท่าไร ขึ้นอยู่ชนิดของผ้าที่จะรีด เช่นผ้าไนลอนหรือผ้าแพรต้องใช้อุณหภูมิไม่สูง
มากนัก แต่ถ้าเป็นผ้าหนาต้องใช้อุณหภูมิสูง การตั้งความร้อนมีปุ่มปรับความร้อน ซึ่ง
จะไปกดแผ่นโลหะคู่ให้ตัดไฟตามอุณหภูมิที่ต้องการ
- 5. คาแนะนาด้านความปลอดภัยของเตารีด
1.ควรระวังไม่ให้ความร้อนจากเตารีดสัมผัสสายไฟฟ้าเพราะจะทาให้เปลือกสาย
(ฉนวน) เสียหายได้
2.สายปลั๊กของเตารีด เปลือกสาย (ฉนวน) ต้องไม่เสื่อมสภาพหรือฉีกขาด
3.ต้องคอยหมั่นตรวจสอบฉนวนยางที่หุ้มสายเข้าเตารีด หากพบว่าเปื่อยหรือฉีกขาด
ควรรีบเปลี่ยนใหม่โดยช่างผู้มีความรู้ เพราะหากไม่รีบเปลี่ยนสายไฟบริเวณนั้นอาจ
ชารุดและถูกไฟดูดได้
4.ขณะใช้งาน เมื่อหยุดรีดต้องวางบนวัสดุที่ไม่ติดไฟง่าย
5.เตารีดที่ใช้ควรมีสายดินและต่อลงดินผ่านทางเต้าเสียบ – เต้ารับที่มี
สายดินด้วย และหมั่นตรวจสอบไฟรั่วด้วยไขควงลองไฟเสมอ
6. ดูข้อควรปฏิบัติในการใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย
- 6. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
หม้อหุงข้าวไฟฟ้าเป็นเครื่องใช้ที่สาคัญและจาเป็นในชีวิตประจาวันเนื่องจาก
หม้อหุงข้าวไฟฟ้ามีระบบการทางานอย่างอัตโนมัติจึงอานวยสะดวกแลประหยัดเวลา
ในการหุงต้มเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีบริษัทหม้อหุงข้าวเป็นจานวนมาก
ก็ตาม แต่หม้อหุงข้าวไฟฟ้ามีหลักการทางานเหมือนกัน
ส่วนประกอบของหม้อหุงข้าวไฟฟ้า
- 8. 3 . หม้อข้าวชั้นใน ส่วนนี้มีความสาคัญมากทาด้วยอลูมิเนียมหรือโลหะผสม และ
ต้องไม่บุบเบี้ยวง่าย มิฉะนั้นแล้วจะทาให้บริเวณก้นหม้อสัมผัสกับความร้อนได้
4. หม้อข้าวชั้นนอก ส่วนนี้ทาด้วยโลหะที่พ่นสีให้มีลวดลายที่สวยงาม และมีหูจับ
สองด้าน บริเวณด้านล่างติดกับแผ่นความร้อน
มีสวิตซ์ติดอยู่และมีเต้าเสียบที่ใช้กับเต้ารับวงจรไฟฟ้าในบ้าน ม่ดี
5. เทอร์โมสตัท เป็นอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิความร้อนอัตโนมัติ การทางานของ
เทอร์โมสตัทหม้อหุงข้าวไฟฟ้าต่างจากอุปกรณ์ชนิดอื่นๆ
เพราะไม่สามารถใช้แผ่นโลหะคู่ได้
เทอร์โมสตัส
- 9. หลักการทางานของหม้อหุงข้าวไฟฟ้า
.เมื่อผู้ใช้ใส่ข้าวและน้าในหม้อชั้นในตามสัดส่วนที่กาหนดและวางหม้อ
ชั้นในลงในที่แล้วก้นหม้อจะกดเทอร์โมสตัทที่อยู่ตรงกลางของแผ่น
ความร้อน พร้อมที่จะทางานเมื่อเรากดสวิตซ์ ON แล้ว คันกระเดื่องจะดันให้แท่ง
แม่เหล็กเลื่อนขึ้นไปดูดกับแท่งแม่เหล็กอันบนที่อยู่ในทรงกระบอก ทาให้คันโยก
ปล่อยให้หน้าสัมผัสเตะกัน กระแสไฟฟ้าไหลผ่านจุดสัมผัสผ่านลวดความร้อน ทา
ให้แผ่นความร้อนมีอุณหภูมิสูงขึ้น
- 11. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้แสงสว่าง
หลอดไฟฟ้า เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีใช้ในทุกบ้านที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้า
เป็นเครื่องใช้ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า ไปเป็นพลังงานแสง หลอดไฟฟ้าที่ใช้ทั่วไป
มี 3 ชนิด คือ
1. หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา
2. หลอดเรื่องแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp)
3. หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน
- 12. หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา
หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดา มีการเปลี่ยนรูปพลังงานจากพลังงานไฟฟ้าเป็น
พลังงานความร้อน แล้วจึงเปลี่ยนเป็นพลังงานแสง หลอดไฟฟ้าแบบธรรมดามี 2
แบบ คือแบบเกลียวและแบบเขี้ยว มีส่วนประกอบดังนี้
1. ไส้หลอด ทาด้วยโลหะที่มีจุดหลอดเหลวสูง ทนความร้อนได้มาก มีความ
ทานสูง เช่น ทังสเตน
2. หลอดแก้วทาจากแก้วที่ทนความร้อนได้ดี ไม่แตกง่าย สูบอากาศออกจน
หมดภายในบรรจุก๊าซไนโตรเจนและอาร์กอนเล็กน้อย ก๊าซชนิดนี้ทาปฏิกิริยา
ยาก ช่วยป้องกันไม่ให้ไส้หลอดระเหิดไปจับที่หลอดแก้ว และช่วยไม่ให้ไส้
หลอดไม่ขาดง่าย ถ้าบรรจุก๊าซออกซิเจนจะทาปฏิกิริยากับไส้หลอด ซึ่งทาให้ไส้
หลอดขาดง่าย
- 13. หลอดไฟฟ้า
รูปส่วนประกอบของหลอดไฟฟ้า
( ที่มา http://www.electron.rmutphysics.com/news/index.php?option=com )
- 14. หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์(Fluorescent Lamp)
หลอดเรืองแสงหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) ทาด้วยหลอดแก้ว
ที่สูบอากาศออกจนหมดแล้วบรรจุไอปรอทไว้เล็กน้อย มีไส้ที่ปลายหลอดทั้งสองข้าง
หลอดเรืองแสงอาจทาเป็นหลอดตรง หรือครึ่งวงกลมก็ได้ ส่วนประกอบและการทางาน
ของหลอดเรืองแสง
( ที่มา http://www.electron.rmutphysics.com/news/index.php?option=com )
- 16. หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน
หลอดไฟโฆษณาหรือหลอดนีออน เป็นหลอดแก้วที่ถูกลนไฟแล้ว
ดัดให้เป็นรูปหรือตัวอักษร ไม่มีไส้หลอดแต่ที่ปลายทั้งสองข้างจะมีขั้วไฟฟ้า
ทาด้วยโลหะ ต่อกับแหล่งกาเนิดไฟฟ้า ที่มีความต่างศักย์สูงประมาณ 10,000
โวลต์ ภายในหลอดสูบอากาศออกจนหมดแล้วใส่ก๊าซบางชนิดที่ให้แสงสี
ต่างๆออกมาเมื่อมีกระแสไฟฟ้าผ่าน เช่นก๊าซนีออนให้แสงสีแดงหรือส้ม
ก๊าซฮีเลียมให้แสงสีชมพู ความต่างศักย์ที่สูงมากๆ จะทาให้ก๊าซที่บรรจุไว้ใน
หลอดเกิดการแตกตัวเป็นอิออน และนาไฟฟ้าได้ เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านก๊าซ
เหล่านี้จะทาให้ก๊าซร้อนติดไฟให้แสงสีต่างๆได้
- 17. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานเสียง
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียง ได้แก่ เครื่องรับวิทยุ
เครื่องขยายเสียง เครื่องบันทึกเสียง ฯลฯ
เครื่องรับวิทยุ เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียง โดย
รับคลื่นวิทยุ จากสถานีส่งแล้วใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขยายสัญญาณเสียงที่มีอยู่ในรูป
ของสัญญาณไฟฟ้าให้แรงขึ้นเมื่อผ่านสัญญาณไฟฟ้านี้ไปยังลาโพงจะทาให้ลาโพง
สั่นสะเทือนเปลี่ยนเป็นเสียงที่สามารถรับฟังได้ ดังแผนผัง
เสาอากาศ - ขยายสัญญาณ - ลาโพง - เสียง
(รับคลื่นวิทยุ)
แผนผังการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียงของเครื่องรับวิทยุ
- 21. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานกล
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานกล มีการเปลี่ยนรูปพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงาน
กล โดยอาศัยหลักการเหนี่ยวนาแม่เหล็กไฟฟ้า ด้วยอุปกรณ์ ที่เรียกว่า มอเตอร์ และ
เครื่องควบคุมความเร็ว ซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานกล ตัวอย่าง
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้พลังงานกล เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องดูดฝุ่น พัดลม เครื่อง
ซักผ้า เครื่องปั่นน้าผลไม้ ฯลฯ
- 22. พัดลมไฟฟ้า
พัดลมที่ใช้กันทั่วมีหลายประเภท สามารถแบ่งตามลัก ษ ะการใช้งานได้ดังนี้
พัดลมตั้งพื้น พัดลมตั้งโต๊ะ พัดลมติดเพดาน พัดลมติดผนัง และพัดลมดูดอากาศ
แม้ว่าพัดลมที่มีหลายประเภทแต่ก็มีหลักการทางานเหมือนกัน พัดลมโดยทั่วไปใช้
มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ชนิด คือ
1.ยูนเิ วอร์ซัลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ชนิดที่ใช้ได้ทั้งไฟฟ้ากระแสตรงและ
กระแสสลับ
2.มอเตอร์แบบบังขั้ว
3.สปลิตเฟสมอเตอร์ มอเตอร์ทั้งสองชนิดเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเหนี่ยวนาที่ใช้
กับกระแสสลับ
- 23. การดูแลรักษา
1. หมั่นทาความสะอาดตามจุดต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใบพัด และตะแกรงครอบ
ใบพัด
2. อย่า ให้ฝุ่นละอองเกาะจับ และ ต้องดูแลให้มีสภาพดีอยู่เสมออย่าให้แตกหักหรือ
ชารุด หรือโค้งงอผิดส่วนจะทาให้ลมที่ออกมามีความแรงหรือความเร็วลดลง
3. หมั่น ทาความสะอาดช่องลมตรงฝาครอบมอเตอร์ของพัดลม ซึ่งเป็นช่องระบาย
ความร้อนของมอเตอร์ อย่าให้มีคราบน้ามันหรือฝุ่นละอองเกาะจับ เพราะจะทาให้
ประสิทธิภาพของมอเตอร์ลดลง และสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น
- 24. มอเตอร์
มอเตอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงาน
กล ประกอบด้วยขดลวดที่พันรอบแกนโลหะที่วางอยู่ระหว่างขั้วแม่เหล็ก โดย
เมื่อผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปยังขดลวดที่อยู่ระหว่างขั้วแม่เหล็ก จะทาให้ขดลวด
หมุนไปรอบแกน และเมื่อสลับขั้วไฟฟ้า การหมุนของขดลวดจะหมุนกลับ
ทิศทางเดิม
มอเตอร์ มี 2 ประเภท คือ มอเตอร์กระแสตรง และมอเตอร์
กระแสสลับ
- 26. เครื่องปั่น
เครื่องปั่น - บดอาหาร เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยให้ส่วนผสมของ
อาหารแหลกละเอียดด้วยตัวเครื่อง ประกอบด้วยสองส่วนคือ ส่วนที่เป็น
ฐานล่างกับส่วนที่เป็นโถใส่อาหาร ในส่วนของฐานล่างจะมีมอเตอร์
ชนิดยูนิเวอร์ซัลมอเตอร์ติดอยู่ เพราะให้กาลังหมุนเร็วมาก แกนมอเตอร์
ของมอเตอร์ตั้งขึ้น มีสวิตซ์ปิด-เปิดมอเตอร์ติดอยู่ที่ฐานล่างด้วย สาหรับ
ส่วนที่เป็นโถใส่อาหารนั้น ในโถตอนล่างจะมีใบมีดเป็นแฉกๆ
เหมือนกับมีใบมีดติดอยู่แกนใบมีดต่อออกไปด้านล่างของโถและที่ปลาย
แกนมีที่ สาหรับเดือยของ มอเตอร์ เมื่อต้องการใช้ให้สวมเดือยให้ติดกัน
เปิดสวิตซ์ มอเตอร์จะหมุนแกนใบมีด ทาให้ใบมีดหมุนอย่างรวดเร็วตัด
อาหารที่ต้องการปั่นให้ละเอียด อาหารที่มีชิ้นใหญ่และน้าหนักมากจะตก
ลงมาอยู่ในตาแหน่งที่ใบมีดตัดได้ทั่วถึง
- 30. เครื่องสูบน้า
วิธีใช้เครื่องสูบน้าให้ประหยัดพลังงานและปลอดภัย
1. เครื่องสูบน้าชนิดมีถังความดัน (pressure tank) ควรเลือกซื้อให้มีขนาด
ใหญ่พอควร
2. บ่อพักควรสร้างไว้ระดับพื้นดินหรือใต้ดิน
3. ใช้สวิตช์อัตโนมัติช่วยการทางาน
4. ประหยัดการใช้และลดการสูญเปล่าของน้า
5. ควรตรวจสอบและบารุงรักษาอยู่เป็นประจา
6. ต้องติดตั้งสายดินพร้อมทั้งมีเครื่องตัดไฟฟ้ารั่วด้วย
7. ดูข้อควรปฏิบัติในการใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย