More Related Content
Similar to ท้องถิ่นกับหน่วยบริการสุขภาพทำงานร่วมกันที่ตำบลนาบัว
Similar to ท้องถิ่นกับหน่วยบริการสุขภาพทำงานร่วมกันที่ตำบลนาบัว (20)
ท้องถิ่นกับหน่วยบริการสุขภาพทำงานร่วมกันที่ตำบลนาบัว
- 1. “ ท้ องถินกับหน่ วยบริการสุขภาพ
่
ทํางานร่ วมกัน ที่ตาบลนาบัว ”
ํ
เพือร่วมกัน…สร้างความมั่นคงทางสุขภาพ
่
นํามาสู่...
ความมันคงของท้องถิ่น...
่
โดย..สุวรรณา เมืองพระฝาง
นักวิชาการสาธารณสุขชํานาญการ
- 2. บทบาท ท้ องถิน บทบาทหน่ วยบริการสุ ขภาพ
่
ทํางานร่ วมกันภายใต้ วฒนธรรมและวิถชุมชน
ั ี
สร้ างระบบสุขภาพชุมชน ของคนตําบลนาบัว
อําเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
- 3. แนวคิดคนทํางานต้องเปลี่ยน
สุขภาพ เป็ นเรื่ องที่ครอบคลุมต่อเนื่องทุกช่วงชีวิต ตังแต่ เกิด
้
จนตาย และหลังตาย ครอบคลุมวิถีการดําเนินชีวิต เพื่อสร้ างเสริ ม
สุขภาพ ปองกันการเจ็บป่ วย การรักษาโรค และการฟื นฟูสภาพ
้ ้
ดังนัน สุขภาพจึงมิได้ มีความหมายจํากัดอยูเ่ พียงการไม่เจ็บป่ วย
้
หรื อพิการเท่านัน หากยังครอบคลุมถึงการดําเนินชีวิตที่ยืนยาว
้
ของทุกคน ซึงมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับปั จจัยต่างๆ มากมาย
่
โดยกระบวนการพัฒนาทักษะเพื่อส่งเสริ ม ให้ คนมีสขภาพดีุ
- 4. เหตุทมาของการพัฒนา
ี่
เมือ 16 ปี ทีผ่านมา ตําบลนาบัวถูกมองจากภาครัฐ เป็ นชุ มชนล้ าหลัง ไม่
่ ่
พัฒนา ซึ่งคนนาบัวมองการพัฒนาของภาครัฐ ว่ า
• การพัฒนาทีไม่ ตรงกับความต้ องการของคนในชุ มชน
่
• ชาวบ้ านเป็ นเพียงตัวประกอบการพัฒนา
• การพัฒนาทีไม่ สร้ างความยังยืนให้ กบคนในชุ มชนขาดความรู้สึกเป็ น
่ ่ ั
เจ้ าของ
- 5. ฐานคิดของการพัฒนาระบบสุ ขภาพชุ มชน
ตําบลนาบัว
- การปลูกฝังวัฒนธรรมลงแรง
- สร้ างการมีส่วนร่ วมจากทุกภาคส่ วน
- ผู้นําต้ องทําเป็ นแบบอย่ าง
- การสร้ างทีม สร้ างเครือข่ ายในการพัฒนาตําบล
- 6. จากปัญหาของสั งคมคนนาบัว
• พืนที่สาธารณะหรือพืนที่กลาง ชาวบ้านไม่เคยมีพ้ืนที่กลาง ในการแสดงความ
้ ้
คิดเห็นหรื อสะท้อนการทํางานของหน่วยงานรัฐและท้องถิ่น เป็ นแค่ตวประกอบใน
ั
การพัฒนา ไม่ใช่เจ้าของ พื้นที่ที่ทุกคนเป็ นเจ้าของและสามารถพบปะแลกเปลี่ยน
พูดคุยหรื อทํากิจกรรมต่างๆ โดยการสร้าง สนับสนุนหรื อกระตุนให้เกิดในระดับ
้
หมู่บานและตําบล
้
• การมีส่วนร่ วมในการบริหารจัดการท้ องถิ่น การมีส่วนร่ วม มักเป็ นแค่ผเู ้ ข้าร่ วม
ไม่ใช้เจ้าของร่ วม
• ขาดความเป็ นเจ้ าของกระบวนการพัฒนา คนในชุมชนไม่มีเวทีที่จะสะท้อนหรื อ
บอกเล่าการทําดีแก่ผอื่นให้ได้รับรู ้ จึงไม่รู้สึกเป็ นเจ้าของกระบวนการพัฒนาของ
ู้
หมู่บานและตําบล
้
- 7. กระบวนการทํางานใช้ วฒนธรรมและวิถชุมชน
ั ี
เป็ นเครื่องมือในการทํางาน
• ทํางานแบบเอาแรงกันโดยเปลี่ยนกันเป็ นเจ้ าภาพ
• โดยให้ มการช่ วยเหลือกันในการทํากิจกรรมหมุนเวียนเปลียนกันเป็ น
ี ่
เจ้ าภาพในแต่ ละปี หรือการทํากิจกรรมในแต่ ละเรื่อง
- 8. การรวมคน ใช้ รูปแบบพิธีกรรม แทนพิธีการ
• โดยใช้พิธีกรรม(การทําบุญ การเลี้ยง
ผี)ใครทราบก็มา ปากต่อปาก แทน
พิธีการ คือการจัดกิจกรรมมีหนังสื อ
เชิญเป็ นรายบุคคลรายตําแหน่ง
•การใช้ วฒนธรรมและสิ่ งแวดล้ อม เป็ น
ั
เครื่ องมือในการทํากิจกรรมการพัฒนาแทนการ
มุ่งใช้เงินหรื องบประมาณจากหน่วยงาน
- 9. กระบวนการสร้ างคน สร้ างงานแบบมีส่วนร่ วม
•การพัฒนาสร้ างผู้นํารุ่นใหม่ ผ่านกติกาที่ผนาที่จะมีโอกาสขึ้นนําเสนอต้องเป็ นคนใหม่ในหมู่บาน
ู้ ํ ้
และไม่ซ้ าคนเดิม และคนนั้นต้องเข้าร่ วมกระบวนการพัฒนาตลอดปี
ํ
•สร้ างการเรียนรู้ และการมีส่วนร่ วม โดยให้เรี ยนรู ้จากการทํางานที่แกนนําและคนในหมู่บานหรื อกลุ่ม
้
ต้องร่ วมกันคิดร่ วมกําหนดทิศทางวางแผน ร่ วมลงมือทํา เมื่อทําในรอบ1 ปี ระหว่างทําร่ วมตรวจสอบ
เมื่อทําเสร็ จสิ้ นแล้วประเมินผล แล้วร่ วมกันสรุ ปผลการดําเนินงานแล้วคัดเลือก เรื่ องที่จะต้องนําเสนอ
คือ เรื่ องที่ดี และเด่น ของหมู่บาน 1-2 เรื่ อง และเรื่ องที่เป็ นปัญหาที่ตองการให้หน่วยงานหรื อคนอื่น
้ ้
ช่วยเหลือสนับสนุน
- 10. กระบวนการค้ นหาสร้ างแกนนําและหาเครือข่ ายทํางานร่ วมกัน
• การหาคนที่ทางานพัฒนาด้ านต่ างๆในชุมชน
ํ
• ชักชวนผู้นําทางการและไม่ เป็ นทางการ (เอาใจมารวมกันภายใต้ ความเป็ น)
• การสร้ างแกนนํารุ่ นใหม่ (คนนําเสนอไม่ ซาคนเดิม)
ํ้
• แกนนําไม่ เลือกเฉพาะคนเก่ ง คนเด่ น แต่ เลือกคนที่สมัครใจเข้ าร่ วม
• มีกระบวนการพัฒนาแกนนําโดยค้ นหาความเก่ ง ความถนัด ความชอบของ
แกนนําหรื อเครื อข่ ายแล้ วให้ รับผิดชอบงานที่ตนเองถนัด
- 11. ใช้ “ศักดิ์ศรี ” เป็ นตัวกระตุ้นให้ เกิดความต่อเนื่อง
ด้ วยการแข่ งขันการทําดี เช่ น เจ้ าภาพในแต่ ละปี
- 12. การเลือกทํากิจกรรมต่ อยอดจากเรื่องดีๆ
• ที่เป็ นทุนเดิม สามารถทําแล้ว
สําเร็ จด้วยระยะเวลาสั้นๆ
(เพื่อตักตวงกําลังใจ ชัยชนะ
ให้คนทํางาน) แทนการเลือก
ทํากิจกรรมที่เริ่ มต้นจาก
ปัญหาที่ทายาก
ํ
• เห็นผลสําเร็ จช้า (คนทําจะ
ท้อถอย)
- 13. “ กระบวนการมีส่วนร่ วม”
ทีทุกภาคีเครือข่ าย “เรียนรู้ ร่วมกัน”
่
ผ่านการทํางานแบบมีส่วนร่ วม ที่ร่วมคิด ร่ วมวางแผน ร่ วมลงมือทํา
ร่ วมประเมินผล ร่ วมตรวจสอบ และร่ วมนําเสนอ
เพื่อสร้างความเป็ นเจ้าของตําบล
- 14. เวทีวชาการชาวบ้ าน
ิ
เป็ นกระบวนการที่ทํามาแล้ ว 14 ปี ให้ คนในชุมชนในหมูบ้านมา ร่ วมกันคิด ร่ วมวางแผน ร่ วม
่
ลงมือทํา ร่ วมรั บผิดชอบ ร่ วมประเมินผล ร่ วมนําเสนอผลงาน จากการพัฒนาหมูบ้านในเรื่ อง ่
ของสุขภาพแบบองค์ รวม ที่ครอบคลุมในเรื่องของสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม การเมืองการ
ปกครอง สิ่งแวดล้ อม วัฒนธรรม หรื อ เรื่ องของปากท้ อง และเรื่ องอื่นๆที่ชมชนเห็นว่า ส่งผล
ุ
กระทบต่อคนในชุมชนในรอบ 1 ปี จากกิจกรรมต่างๆที่ทําร่วมกัน หรื อจากผลการทําประชาคมใน
หมูบ้านและตําบล แล้ วนําผลงานที่คนในชุมชนภาคภูมิใจหรื อปั ญหา มานําเสนอ เพื่อให้ เป็ นเวที
่
แลกเปลี่ยน เรียนรู้ หาแนวทางการแก้ ปัญหาและพัฒนาสังคม ชุมชน ร่ วมกัน เป็ นเวทีสร้ าง
แกนนํารุ่นใหม่ของตําบลเพราะทุกคนที่จะนําเสนอต้ องเป็ นคนใหม่ที่ไม่เคยขึ ้นเวทีนี ้ ทุกคนเป็ น
เจ้ าของ เพราะร่ วมกันลงทุนในการจัดงานโดย อบต.ร่วมลงขันเพิมเติมในการจัดงานปี ละ 20,000
่
บาทตังแต่ปี2547 สถานที่และเจ้ าภาพจะหมุนเวียนไปในแต่ละหมูบ้าน การเป็ น
้ ่
เจ้ าภาพชาวบ้ านทังหมูบ้านต้ องทํางานอย่างมีสวนร่วมเพราะเป็ นงานใหญ่ที่ทกคน
้ ่ ่ ุ
ต้ องเป็ นเจ้ าภาพ ในปี 2554 จัดที่บ้านไร่ พฒนา หมู่ท่ ี 13 วันที่ 8 มกราคม 2554
ั
- 15. เวทีวชาการชาวบ้ านปี ที1 วันที่ 5 มกราคม 2541
ิ ่
จัดที่หมู่ที่ 2 บ้านบุ่งสี เสี ยด วาระชุมชน”ค้นหาตนเอง”
ผลลัพธ์ ท่ ได้
ี
1) การเรียนรูความเป็ นมาของชุมชน รูจักตนเอง
้ ้
2) มีทมทํางานดานสุขภาพในระดับหมูบาน/ตําบล
ี ้ ่ ้
3) มีกระบวนการเรียนรูเรืองของหมูบานเกณท ์
้ ่ ่ ้
หมูบานสุขภาพดีถวนหน้า
่ ้ ้
4)เกิดพืนทีกลางหรือพืนทีสาธารณะทีทกคนรวมกัน
้ ่ ้ ่ ่ ุ ่
สรางและเป็ นเจ้าของ
้
คือ ศสมช.ทีเป็ นอาคารหลังเล็กๆในหมูบาน
่ ่ ้
5) เกิดกติกาและกฎของชุมชนทีทกคนตกลงรวมกัน ่ ุ ่
เรืองการจัดงานเวที เช่น การลงขันช่วยงาน
่
การหมุนเวียนเปลี่ยนกันเป็ นเจ้าภาพ
6) การกําหนดวาระร่ วมในการพัฒนาของตําบล
7)กติกาในเรื่ องของการชื่นชมเจ้าภาพ ทุกคนที่ไปร่ วมงานต้องช่วยเพิมกําลังใจ
่
ให้แก่เจ้าภาพ โดยการชมและยกย่องมากกว่าจับผิดในสิ่ งบกพร่ องเล็กน้อย
- 16. ปี ที่ 2 วันที่ 6 มกราคม 2542
จัดที่หมู่ที่ 3 บ้านโนนวาระชุมชน“การพัฒนาจากสิ่ งดี ดีที่คนพบ ”
้
ผลลัพธ์
เกิดกลุ่มแปรรู ปสมุนไพรเป็ นยา เช่น ยาหม่อง
สมุนไพร ทิงเจอร์เสลดพังพอน ยาสมุนไพร
ที่มาจากพืชที่มีในตําบล เช่นฟ้ าทะลายโจร
ขมิ้นชัน เพชรสังฆาต เป็ นต้น
- 17. ปี ที่ 3 วันที่ 8 มกราคม 2543
จัดที่หมู่ที่ 4 บ้านนาบัว วาระชุมชน“การแสวงหาเครื อข่าย หาเพื่อนทํางาน”
ผลลัพธ์ - เปลี่ยนชื่องานจากงานสัมมนาชาวบ้าน เป็ นเวทีวชาการชาวบ้าน
ิ
- มีเครื อข่ายภาควิชาการมาเข้าร่ วมเวทีเป็ นครั้งแรก คือ ศูนย์สสม.
ภาคเหนือนครสวรรค์ในขณะนั้น
้่
- มีหน่วยงานปกครอง คือรองผูวาราชการจังหวัดมาร่ วมรับฟังการ
นําเสนอ
- เกิดทีมควบคุมโรคไข้เลือดออกของภาคชาวบ้านที่มีการดําเนินงานใน
ลักษณะของเครื อข่ายการเชื่อมโยง
- เกิดการอนุรักษ์ปลูกพืชสมุนไพรของชมรมผูปลูกพืชสมุนไพรที่เขา
้
แดงบ้านไร่ พฒนาโดยใครมีสมุนไพรอะไรก็นามาจากบ้านแล้วพากัน
ั ํ
ขึ้นไปปลูกบนเขา
- การนําเสนอผลงานครบ 15 หมู่บานทั้งตําบล
้
- 18. ปี ที่ 4 วันที่ 8 มกราคม 2544
จัดที่หมู่ที่ 6 บ้านนํ้าทวน วาระชุมชน”การสร้างเยาวชนเป็ นแกนนํารุ่ นใหม่
ผลลัพธ์
-การเรี ยนรู ้เรื่ องเกษตรปลอดสารร่ วมกับ
สํานักวิจยพันธ์พืช ที่ 2 พิษณุโลกโดยเรี ยนรู ้
ั
เรื่ องนาปลอดสาร ผักปลอดสาร
-ค่ายเยาวชนคนรักษ์ป่า โดยคนในชุมชนเป็ น
วิทยากรเพื่อให้เด็กเรี ยนรู ้เรื่ องของบ้านตนเอง
และปลูกจิตสํานึกการอนุรักษ์
-เครื อข่ายอนุรักษ์ป่าชุมชน ป่ าต้นนํ้า อนุรักษ์วง
ั
ปลาเครื อข่ายเยาวชน
- 19. ปี่ ที่ 5 วันที่ 8 มกราคม 2545
จัดที่ หมู่ที่ 9 บ้านนํ้าลอม วาระชุมชน”การพัฒนาตําบลด้วยแผนชุมชน”
ผลลัพธ์
- ศูนย์เรี ยนรู ้ชุมชนหมู่บาน หนึ่งหมู่บานหนึ่งศูนย์เรี ยนรู ้
้ ้
ได้รับงบสนับสนุนจากกองทุนเพื่อสังคม โดยให้แต่ละ
หมู่บานคัดเลือกสิ่ งดีๆที่เป็ นองค์ความรู ้หรื อผลิตภัณฑ์ชุมชน
้
มาจัดเป็ นแหล่งเรี ยนรู ้
- ทุกหมู่บานมีผลิตภัณฑ์ชุมชนนํามาจัดแสดงในเวทีวชาการ
้ ิ
ชาวบ้านเป็ นจุดเกิดของการจัดนิทรรศการผลงานหมู่บานใน ้
ปี ต่อไป
-ศูนย์เรี ยนรู ้ชุมชนตําบลที่ได้รับงบสนับสนุนจากกองทุนเพื่อ
สังคม
- การจัดทําแผนแม่บทชุมชนตําบลนาบัวโดยให้เยาวชนทํา
การสํารวจข้อมูล ตรวจทานข้อมูล
- 20. ปี ที่ 6 หมู่ที่ วันที่ 8 มกราคม 2546
จัดที่ หมู่ที่ 7 บ้านนาไก่เขี่ย วาระชุมชน”รวมพลคนสร้างสุ ข”
-การทํากิจกรรมตามแผนแม่บทชุมชนเพื่อการ
พึ่งตนเอง
- การระดมทุนในชุมชนมาเป็ นทุนในการดําเนินงาน
ทุกรู ปแบบ
-การท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ การประกวดบ้าน การ
ประกวดการออกกําลังกาย
-การพัฒนาคุณภาพการแปรรู ปให้ได้มาตรฐานคือ นํ้า
ดื่มสมุนไพรได้รับ อย
-เปลี่ยนพื้นที่จดงานใช้โรงเรี ยน คนเข้าร่ วมงานมาจาก
ั
ทุกกลุ่มในตําบล
- 21. ปี ที่ 7 วันที่ 8 มกราคม 2547
จัดที่ หมู่ที่ 5 บ้านนาจานวาระชุมชน”ชุมชนเป็ นสุ ข”
- ทุนจากภายนอกเข้ามาสนับสนุนกระบวนการทํางาน
การแบ่งการพัฒนาเป็ น 9 ยุทธศาสตร์เพื่อนําไปสู่ ภาวะชุมชนเป็ นสุ ข
สู่สุขภาวะ ดังนี้
1) ยุทธศาสตร์ สุขภาพ 2) ยุทธศาสตร์ สิ่งแวดล้อม 3)
ยุทธศาสตร์การเกษตรปลอดสาร4)ยุทธศาสตร์สงคม 5)ั
ยุทธศาสตร์การศึกษา วัฒนธรรม ประเพณี 6) ยุทธศาสตร์การเมือง
การปกครอง 7) ยุทธศาสตร์การเงินชุมชน 8) ยุทธศาสตร์การ
ท่องเที่ยว และ 9)ยุทธศาสตร์ธุรกิจชุมชน
โดยได้รับงบสนับสนุนจาก
-สสส โครงการภาวะชุมชนเป็ นสุ ข
-ปปส.โครงการแก้ไขปั ญหายาเสพติด
- พอช แผนแม่บทชุมชน
- 22. ปี ที่ 8 วันที่ 8 มกราคม 2548
จัดที่หมู่ที่ 8 บ้านโนนบึงวาระชุมชน”เรี ยนรู ้เศรษฐกิจพอเพียง”
ผลลัพธ์
-ส่ งเสริ มการเรี ยนรู ้เรื่ องการใช้ชีวตแบบเศรษฐกิจพอเพียง
ิ
เกิดกติกา แต่ละครัวเรื อนต้องปลูกผักอย่างน้อย 5 ชนิด
- สนับสนุนการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ให้ครบทุกหมู่บาน ้
- ลานวัฒนธรรมคู่กบเวทีวชาการ
ั ิ
- 23. ปี ที่ 9 วันที่ 8 มกราคม 2549
จัดที่หมู่ที่ 14 บ้านนํ้าตอนวาระชุมชน” ชุมชนปลอดภัย หน่วยกูชีพ กูภย”
้ ้ ั
ผลลัพธ์
- เครื อข่ายลดเหล้าวันพระ
- ชุมชนปลอดบุหรี่ ได้รับรางวัลจากกระทรวง
สาธารณสุ ข
้ ้ ั
-หน่วยกูชีพ-กูภยในตําบลนาบัวที่มีชาวบ้านเป็ น
เจ้าของ
- 24. เวทีปี่ที่ 10 วันที่ 8 มกราคม 2550
จัดที่หมู่ 11 บ้านร้องกอก“วาระสร้างสุ ขภาพบนวิถีความพอเพียง”
ผลลัพธ์
- การร่ วมกันปฏิญาณตนงดเหล้าวันพระร่ วมกันทั้งตําบล
ทุกเครื อข่าย
- กองทุนสวัสดิการออมวันละบาท
- 25. เวทีปี่ที่ 11 วันที่ 8 มกราคม 2551
“วาระสร้างชุมชนตามแนวปรัชญาชีวตเศรษฐกิจพอเพียง”
ิ
ผลลัพธ์
- เครื อข่ายพระสงฆ์เข้าร่ วมเวทีให้ขอเสนอแนะ
้
นายอําเภอมาร่ วมรับฟังการประกาศนโยบายสาธารณะ
-กลุ่มปุ๋ ยอินทรี ยอดเม็ด
์ั
-กลุ่มทํานาโยน
-หมู่บานต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง
้
-ธนาคารต้นไม้
- 26. ปี ที่ 12 จัดทีหมู่ที่ 12 บ้ านบุ่งหอย วันที่ 8 มกราคม 2552
่
“วาระการสร้ างสุ ขและการสานสั มพันธ์ ของคนในชุมชน”
ผลลัพธ์
- การยกระดับความสําคัญของเวทีเรื่ องการ
ยอมรับฟังความคิดเห็นการให้ขอเสนอแนะต่อ
้
หน่วยงาน เมื่อผูบริ หารท้องถิ่นไม่รับฟังความ
้
คิดเห็นของชาวบ้านโต้ตอบชี้แจงในเวที จึงเกิด
กระแสการไม่ยอมรับส่ งผลต่อการเลือกตั้ง
-กิจกรรมสร้างสุ ขสามัคคี “ผูกเสี่ ยว”
-กลุ่มจักรยานเพื่อสุ ขภาพ
ู้ ื
- มีกองทุนจักรยานให้กยมซื้อจักรยานแบบไม่มี
ดอกเบี้ย
- 27. ปี ที่ 13 จัดที่โรงเรียนบ้ านนาคล้ าย วันที่ 8 มกราคม 2553
หมู่ท่ ี 1 บ้ านนาคล้ ายวาระการลดโลกร้ อนและอนุรักษ์ ทรัพยากรดิน นํา ป่ า
้
ผลลัพธ์
- กลุ่มผูสูงอายุร่วมกันทําอุปกรณ์ฟ้ื นฟูสภาพ
้
ให้คนพิการ
-กิจกรรมประหยัดพลังงาน เช่น การรณรงค์ใช้
จักรยาน
-ลดการใช้พลังงาน เช่น การทําเตาเศรษฐกิจ
เตาถังเผาถ่านจากเศษไม้
- 28. เวทีปีที่ 14 จัดทีพระธาตุนาบัว(วัดเขาแดง)
่
วันที่ 8 มกราคม 2554
หมู่ที่ 13 บ้ านไร่ พฒนา เป็ นเจ้ าภาพประเด็นรวมพลังสร้ างตําบลน่ าอยู่
ั
ผลลัพธ์
-การเปิ ดลานวัฒนธรรมเพื่อฟื้ นฟูเพลงพื้นบ้าน การละเล่น
พื้นบ้าน
- การเข้าร่ วมแสดงผลงานและองค์ความรู ้ท้ งในชุมชน โรงเรี ยน
ั
การแสดงจากกลุ่มแม่บานและอสม.สลับการแสดงของเด็ก
้
- เจ้าภาพปี ที่ 15 กําหนดการเปลี่ยนแปลงวันจัดงานปี ต่อไป
เป็ นช่วงเทศกาลปี ใหม่มง ้
- 34. สร้างความสุข สานสายใยความสัมพันธ์ของผูใหญ่กบเด็ก
้ ั
โดยกิจกรรมบายศรีส่ขวัญและกระบวนการกลุ่ม
ู
บายศรี สู่ขวัญ ให้เด็กที่อายุน้อยที่สดผูกข้อมือให้ประธานเพื่อลดช่องว่างระหว่างวัยและผูใหญ่
ุ ้
จะผูกให้กบเด็กโดยทุกคนจะเวียนผูกให้กนจนครบทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรม
ั ั
- 36. วงดนตรีของปู่ ตา วงดนตรีของหลาน
การถ่ายทอดคุณค่าทางวัฒนธรรมสู่คนรุ่นใหม่ผานทางดนตรี
่
เพื่อปลูกจิตสํานึ กการรักษ์ท้องถิ่นให้กบเด็ก
ั
- 40. กระบวนการค่ายกับการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์
ทําพัง (หัวโจก) เป็ นพลัง
1 ค่ายอนุรกษ์ป่าชุมชนเขาแก้วมณี ม.11
ั
2 ค่ายอนุรกษ์ป่าต้นนํ้าและพันธุปลาบ้าน
ั ์
นํ้าตอน ม.14
3 ค่ายเยาวชนคนรักษ์ป่าห้วยกบหอน ม.2
4 ค่ายอนุรกษ์ป่าต้นนํ้าบ้านนํ้าลอม
ั
5 ค่ายผูนําธรรมชาติต้านยาเสพติด
้
6 ค่ายธรรมชาติชนะยาเสพติด
- 44. สร้ างกระแสร่ วม ของคนทั้งตําบลปี ละ 1-2 ครั้ง
รวมพลังทีมสร้ างสุ ขภาวะส่ งเสริมการออกกําลังกาย
- 50. ร่ วมกับครู ฝึ กทักษะการตรวจหา สารปนเปื้ อน
ในอาหารทีมาจากนอกชุมชน
่
ให้เยาวชนเรียนรู้เรื่องของอาหารปลอดภัยและการตรวจสอบ
- 52. ้ ้ ั
หน่วยกูชีพ – กูภย คนตําบลนาบัวร่ วมใจ
รู ปธรรมของการมีจิตสาธารณะของคนนาบัว
- 53. ทุกวันพุธ
้ ้ ั
รถกูชีพ-กูภยพาเจ้าหน้าที่และแกนนําเรี ยนรู ้
การฟื้ นฟูสภาพผูป่วย ผูพิการ ผูสูงอายุผยากไร้ถึงบ้าน
้ ้ ้ ู้
นักกายภาพบําบัด จาก รพร.นครไทยออกทํางานที่ รพสต.นาบัวในวันพุธ
- 57. “ศูนย์กลางการบริการด้านอาชีพ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว มุ่งมั่นพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพ
เพื่อให้เปนตําบลมีบริการที่หลากหลาย”
“สังคม อยู่เย็น เปนสุข” คนกินดี อยู่ดี มีสุขไม่มหนี้”
ี
เน้นการออม ระดมเงิน ช่วยเหลือเกื้อกูล
เรียนรู้เต็มศักยภาพ ใช้ทุนทาง
สังคม ถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่น
ทําอาชีพเสริม ลดหนีสิน รวมกลุ่มเพื่อใช้ทรัพยากรในตําบล
้
พึ่งตนเอง ลดรายจ่าย เพิ่ม
คนอยู่กับปา ร่วมกันอย่างพึ่งพา รายได้ ลดต้นทุนการผลิต
จิตสาธารณะ หวงแหน อนุรักษ์
สร้าง สร้างทีม
ปลูกฝง ผู้นําต้องทํา
กระบวน สร้าง
วัฒนธรรม เปน
การร่วมคิด เครือข่าย
การลงแรง แบบอย่าง
ร่วมทํา การทํางาน
- 58. การขยายเครื อข่ายจากตําบลสู่อาเภอ
ํ
จากอําเภอสู่จงหวัด
ั
• เครื อข่ ายลดอุบตเหตุอาเภอนครไทย
ั ิ ํ
• แกนนําเยาวชน ของแต่ ละโรงเรี ยนร่ วมเป็ นเครื อข่ าย
รณรงค์ ลดเหล้ าบุหรี่ และอุบตเหตุ ั ิ
• เครื อข่ ายผู้ป่วยโรคเรื อรั งตําบลเนินเพิ่ม ยางโกลน
้
• เครื อข่ ายครู ในการปรั บเปลี่ยนพฤติกรรมและปลูก
จิตสํานึกเรื่ องทักษะการปฏิเสธเหล้ า บุหรี่ การดูแลให้
เด็กมีสุขนิสัย
- 59. การประเมินผลโดยชุมชน
พบว่า
• ชุมชนสามารถสร้ างตัวชี ้วัดความสุขของตนเองได้ และร่วมกันกําหนด
ทิศทางไปให้ ถงเปาหมาย
ึ ้
• 70 % ของคนในทุกหมูบ้าน ของตําบลนาบัวเป็ นเครื อข่ายการทํางานสร้ าง
่
สุขภาพและรู้จก สสส.
ั
• ตําบลนาบัวได้ รับการประกาศให้ เป็ นตําบลที่มีผลการดําเนินงานเรื่ องของ
การดําเนินกิจกรรมเรื่ องของการควบคุมปองกันเหล้ า บุหรี่ ดีเด่นจาก
้
กระทรวงสาธารณสุข
• มีกิจกรรมรณรงค์เรื่ องงดเหล้ าวันพระและงดเหล้ าเข้ าพรรษา และมีจํานวนผ้
ที่ลดละเลิกเหล้ าและบุหรี่ เพิ่มขึ ้น ร้ อยละ 15
- 60. ปัจจุบนคนตําบลนาบัว
ั
• ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ จากการที่มีพฤติกรรมเสียงต่อสุขภาพมาเป็ นพฤติกรรมที่เอื ้อต่อ
่
การมีสขภาพดี เช่น
ุ
- การสร้ างเครื อข่ายลดอุบติเหตุ รณรงค์ดื่มไม่ขบ ขับขี่ปลอดภัย ตําบลต้ นแบบลดอุบติเหตุ
ั ั ั
- เครื อข่ายลดละเลิกเหล้ าวันพระและเข้ าพรรษา
- การลดละเลิกบุหรี่
- การออกกําลังกาย ร้ อยละ 90 ของประชาชน
+ การปรับเปลี่ยนแนวคิดของคนในชุมชนให้ มีจิตสาธารณะและรักษ์ สขภาพของตนเองและชุมชน
ุ
เกิดเป็ นวิถีการดูแลสุขภาพแบบพอเพียงและช่วยเหลือกัน
- 61. การประเมินผลโดยชุมชน
พบว่า
• ชุมชนสามารถสร้ างตัวชี ้วัดความสุขของตนเองได้
• 80 % ของคนในทุกหมูบ้าน ของตําบลนาบัวเป็ นเครื อข่ายการทํางาน
่
สร้ างสุขภาพ
• ตําบลนาบัวได้ รับการประกาศให้ เป็ นตําบลที่มีผลการดําเนินงานเรื่ อง
ของการดําเนินกิจกรรมเรื่ องของการควบคุมปองกันเหล้ า บุหรี่ ดีเด่นจาก
้
กระทรวงสาธารณสุข
• มีกิจกรรมรณรงค์เรื่ องงดเหล้ าวันพระและงดเหล้ าเข้ าพรรษา