ไอทีกับแนวโน้มโลก น . ส . พัชรพร  ฉายตั้น เลขที่ 40  ม .6/1
ไอทีกับแนวโน้มโลก 1 Digital Library          ความเป็นมาของระบบดิจิตอลไลบราลี                เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของสื่อที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลและความต้องการของผู้ใช้ในการใช้ข้อมูลร่วมกันผ่านเครือข่ายที่จะได้รับความสะดวกและรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการ เป็นการอนุรักษ์ความรู้ และแหล่งความรู้ทางปัญญาเพื่อประโยชน์ของการอนุรักษ์คุณค่าทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์หากห้องสมุดของไทยมีโครงการความร่วมมือในการพัฒนาห้องสมุดดิจิตอลมากขึ้นก็จะเป็นประโยชน์มากในทุกด้าน
1. เทคโนโลยีที่ใช้กับห้องสมุด 1   บาร์โค้ด “  ประเภทของบาร์โค้ด o Smart Barcode o Dumb Barcode “  บาร์โค้ดกับงานห้องสมุด o  บัตรประจำตัวสมาชิก  ( Patron /  User Card ) o  เลขประจำหนังสือ  ( Item Barcode ) 2 .  RFID  :  Radio Frequency Identification “  ป้ายระบุข้อมูลของวัตถุ  ( Tag ) “  เครื่องอ่านสัญญาณความถี่วิทยุ -            บริการรับคืนวัสดุสารสนเทศ -            เรียงวัสดุสารสนเทศ -            เครื่องบริการยืม - คืน วัสดุสารสนเทศอัตโนมัติ
3 . โทรสารหรือแฟกซ์ 4 .  อินเทอร์เน็ต  
2   มาตรฐานการพิมพ์หนังสือดิจิตอล   การจัดเก็บข้อมูลลงบนแผ่นซีดีรอมกำลังได้รับความนิยม ซีดีรอมหนึ่งแผ่นมีความจุในการเก็บข้อมูลได้มากกว่าหกร้อยล้านตัวอักษร ซีดีรอมจึงเป็นตัวกลางที่สามารถเก็บเอกสารหรือหนังสือขนาดเล่มโตหลายเล่มไว้ได้ประจวบกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดสถานีบริการข้อมูลข่าวสาร มีการเก็บเอกสารหรือสิ่งพิมพ์ไว้บนเครือข่าย  www  ข้อมูลที่จัดเก็บมีลักษณะเป็นแบบสื่อประสม ทั้งภาพ เสียง และวิดิโอ สิ่งพิมพ์ที่เก็บในรูปสื่อดิจิตอลสมัยใหม่ จึงเก็บข้อมูลแบบมีชีวิตชีวา เป็นทั้งเอกสาร สิ่งพิมพ์ที่มีสีสรร มีเสียง มีภาพเคลื่อนไหว ดังที่เราเห็นในชุดสารานุกรมของบริษัทไมโครซอฟต์ที่เก็บไว้บนแผ่นซีดีรอม หรือที่พบเห็นบนโฮมเพจต่าง ๆ ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซอฟต์แวร์ที่ใช้เรียกข้อมูลสิ่งพิมพ์ดิจิตอลมาดูหรือแสดงผล เราเรียกว่า บราวเซอร์ บราวเซอร์จึงเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ดึงข้อมูลสิ่งพิมพ์ดิจิตอลนี้มาแสดงผล ในลักษณะที่สวยงาม น่าดู
ในกรณีของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ข้อมูลสิ่งพิมพ์เก็บไว้ในเครื่องให้บริการที่เรียกว่า เซิร์ฟเวอร์ ถ้าเป็นสถานีบริการที่ให้บราวเซอร์เรียกดู เราก็เรียกว่า เว็บเซิร์ฟเวอร์ ข้อมูลที่เก็บในเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือเก็บลงในแผ่นซีดีรอมเพื่อให้บราวเซอร์เรียกดูได้จึงต้องมีมาตรฐานกลาง มาตรฐานเพื่อให้ผู้สร้างสิ่งพิมพ์ดิจิตอลใช้ได้ง่าย วิธีการสร้างที่ชัดเจน โดยไม่ต้องพัฒนาโปรแกรมเรียกอ่านขึ้นเอง เหมือนการสร้างเว็บไซส์ในปัจจุบันที่ใครมีบราวเซอร์ก็เรียกดูได้ เบอร์เนอร์ลี หนึ่งในนักวิจัยฟิสิกส์ที่สวิตเซอร์แลนด์เสนอรูปแบบมาตรฐานที่เรียกว่า  HTML – Hyper Text Markup Language   กลุ่มบริษัทไมโครซอฟต์ก็เสนอรูปแบบมาตรฐานที่ชื่อ  SGML – Standard Generarize Markup Language  HTML  ได้รับการนำมาประยุกต์ใช้บนอินเทอร์เน็ต และแพร่หลายอย่างรวดเร็ว มีการพัฒนามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบันถึงรุ่นที่  4 HTML  เป็นวิธีการกำหนดรูปแบบสิ่งพิมพ์ดิจิตอล โดยอาศัยป้าย  ( tag )  กำกับ เช่นถ้าบริเวณใดต้องการให้เป็นหัวข้อ ตัวอักษรเล็กใหญ่ ต้องการใส่รูปภาพ เสียง ต้องการสร้างตัวเชื่อมโยงไปยังเอกสารอื่น ฯลฯ ก็กำหนดไว้ด้วยป้าย มาตรฐานของป้ายที่ใช้กำหนดเอกสารมีความชัดเจนที่      บราวเซอร์ทุก
HTML  เป็นวิธีการกำหนดรูปแบบสิ่งพิมพ์ดิจิตอล โดยอาศัยป้าย  ( tag )  กำกับ เช่นถ้าบริเวณใดต้องการให้เป็นหัวข้อ ตัวอักษรเล็กใหญ่ ต้องการใส่รูปภาพ เสียง ต้องการสร้างตัวเชื่อมโยงไปยังเอกสารอื่น ฯลฯ ก็กำหนดไว้ด้วยป้าย มาตรฐานของป้ายที่ใช้กำหนดเอกสารมีความชัดเจนที่      บราวเซอร์ทุกตัวนำไปแปลความหมายได้ถูกต้อง เมื่ออยู่บนอินเทอร์เน็ต จึงมีการพัฒนาวิธีการรับส่งข้อมูลระหว่างบราวเซอร์ซึ่งเป็นเครื่องสำหรับเรียกดู กับ เว็บเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้เก็บเอกสารในรูปแบบ  HTML  วิธีการรับส่งข้อมูลนี้มีชื่อว่า  http  หรือ  Hyper Text Transfer Protocol  ดังเราจะเห็นวิธีการเรียกดูข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ต้องมีข้อความ  http  นำหน้าการสร้างเอกสารสิ่งพิมพ์ด้วยมาตรฐาน  HTML  ไม่ใช่เรื่องยาก ผู้ที่เคยใช้เวิร์ดโปรเซสเซอร์แล้ว เรียนรู้การใส่ป้ายประกาศเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยก็สามารถสร้างสิ่งพิมพ์ในรูปดิจิตอลนี้ได้ และเพื่อให้การพัฒนาสื่อสิ่งพิมพ์ดิจิตอลก้าวหน้าไปเร็วขึ้น บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์จำนวนมาก จึงเรียงหน้ากันผลิตเครื่องมือเพื่อช่วยในการจัดพิมพ์สิ่งพิมพ์ดิจิตอลตามมาตรฐาน  HTML  นี้
เชื่อกันว่าห้องสมุดในยุคต่อจากนี้ไป จะเป็นห้องสมุดที่เก็บสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิตอล สิ่งพิมพ์อาจอยู่ในเครือข่าย  www หรือเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ เก็บไว้ในซีดีรอม ที่เรียกดูได้ทันที แนวคิดของการรวบรวมหนังสือแบบใหม่จึงกลายเป็นดิจิตอลไลบรารี่  เพื๋อให้การเก็บเอกสารในรูปแบบดิจิตอลมีลักษณะกระทัดรัด บริษัท อะโดบี  ( Adobe )  จึงได้พัฒนาวิธีการบีบอัดข้อมูล และเก็บเอกสารหนังสือที่มีลักษณะเหมือนหนังสือจริงไว้เป็นแฟ้มได้ และให้ชื่อมาตรฐานใหม่ของตนเองว่า อะโครแบต  ( Acrobat )  รูปแบบแฟ้มที่เก็บมีชื่อชนิดของแฟ้มว่า  . PDF แฟ้มแบบอะโครแบตกำลังมีแนวโน้มที่ดี ปัจจุบันมีผู้เก็บหนังสือ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ไว้ในรูปแบบแฟ้มอะโครแบตกันมากเพิ่มขึ้น ผู้ที่ท่องไปในอินเทอร์เน็ตจะพบเห็นข้อมูลมีลักษณะของหนังสือเป็นเล่มเก็บไว้ด้วยแฟ้ม  . PDF  หากต้องการอ่านก็ต้องดาวน์โหลดมา เพื่อเปิดอ่านได้ สิ่งพิมพ์ที่เก็บในรูปดิจิตอลเป็นความหวังที่จะลดการใช้กระดาษ    โดยเฉพาะในยุคที่จะต้องมีสิ่งพิมพ์เกิดขึ้นมากมาย เชื่อว่าในไม่ช้าการรับหนังสือพิมพ์
3 โกลบอล - คอมมิวนิเคชันบนฐานอินเทอร์เน็ต        ปี  1997   น่าจะเป็นปีทองของผู้ที่อยู่ในแวดวงอินเทอร์เน็ต เพราะได้มีการมอบรางวัลที่ถือว่าเป็นเกียรติประวัติอันสูงสุดให้แก่สองบุคคล ซึ่งมีส่วนบุกเบิกอินเทอร์เน็ต นั่นก็คือรางวัลที่เรียกว่า  The National Medal of Technology  ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นผู้มอบให้ปีละครั้ง ซึ่งมีอยู่  4   สาขา สำหรับปี  1997  ( audio, medical scanning aerospace  และ  network communications )  ผู้ได้รับรางวัลในสาขาสื่อสารคือ วินตัน จี เซิร์ฟ  ( Vinton G .  Cerf )  จากบริษัท  MCI Communication  และ โรเบิร์ต อี กาน  ( Rebert E .  Kahn )  จากบริษัท  Research Initiatives  อันเป็นสถาบันค้นคว้าที่ไม่หวังผลกำไร  Kahn  เข้าร่วมงานกับ  DARPA  ( Defense Advanced Research Project Agency )  ในปี  1972   ส่วน  Cerf  ได้เข้าร่วมงานกับ  DARPA  เมื่อปี  1996   เพื่อช่วยกันวางรากฐาน  Arponet  จนกลายเป็นอินเทอร์เน็ตในเวลาต่อมา
ตำแหน่งหลังสุดของ  Cerf  ก็คือการก้าวเข้าสู่ภาคเอกชน  ( MCI )  เมื่อปี  1994   ส่วน  Kahn  ได้เข้ามารับตำแหน่งประธานของ  Research Initiatives  เมื่อได้ลาออกจาก  DARPA  ระหว่างที่ทำงานกับ  DARPA  บุคคลทั้งสองได้ร่วมกันพิสูจน์ว่าเน็ตเวอร์กสื่อสารชนิดต่าง ๆ ที่มีใช้ในโลกของโทรคมนาคมสามารถเชื่อมโยงกันได้ รวมทั้งได้ร่วมกันกำหนดสถาปัตยกรรมอันเป็นที่มาของโหนด  ( nodes )  หรือเกตเวย์  ( gateways )  ที่ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลที่มาจากเน็ตเวอร์กชนิดต่าง ๆ โดยอาศัยโปรโตคอลแบบร่วมกัน  ( common protocols )  นอกจากนี้  Cerf  และ  Kahn  มีอยู่ในใจตั้งแต่เมื่อยังทำงานกับ  DARPA  จนในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นฐานของอุตสาหกรรมการค้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วในแง่ของการเป็นเน็ตเวอร์กระดับโลกที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในกิจกรรมอันนับไม่ถ้วนสาขา  ( เช่นโทรศัพท์อินเทอร์เน็ต ฯลฯ )
เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทุกผู้ทุกนามได้มีทางออกมากขึ้นสำหรับในการสื่อสารโทรคมนาคมที่สิ้นค่าใช้จ่ายต่ำ ก้าวไปสู่การรวมเน็ตเวอร์กของเสียง ข้อมูล ฯลฯ เข้าด้วยกัน   กิจการที่เป็นโทรศัพท์อินเทอร์เน็ต  ( Internet Telephony )  ได้เริ่มปรากฏโฉมหน้าในท้องตลาดเมื่อราวสองปีมาแล้ว  ( 1995 )  ในรูปของบริษัท  ( VocalTec )  ของชาวอิสเรลที่ตั้งอยู่ที่นิวเจอร์ซี่ ซึ่งได้ค้นคิดประดิษฐ์ซอฟต์แวร์เพื่อให้ผู้ใช้ที่มีพีซี ซึ่งมีไมโครโฟนติดอยู่ และมีซอฟต์แวร์ดังกล่าวสามารถที่จะติดต่อกับผู้อื่นที่มีพีซีด้วยกันได้ในราคาค่าใช้จ่ายอันแสนประหยัด เช่น ใครสักคนอาจโทรจากเมืองเทร็นตันในนิวเจอร์ซี่ไปยังเทล เอวิฟได้ในราคาเดียวกันกับที่โทร .  ในสหรัฐฯ หากไม่รังเกียจเรื่องคุณภาพของเสียงที่จัดว่าแย่มาก ๆ สำหรับในขณะนั้น
การเรียกโทรศัพท์ทางไกลโดยผ่านอินเทอร์เน็ตมีหลักในการทำงานอย่างง่าย ๆ ว่าในขั้นแรกผู้ใช้หมุนไปยังชุมสายโทรศัพท์แบบต่อผ่าน หรือจุดที่อยู่ใกล้กับเกตเวย์เซอร์ฟเวอร์ที่สุด โดยเซอร์ฟเวอร์ดังกล่าวจะอยู่ติดกับชุมสายที่เรียกว่า  central office switches  เพื่อส่งทราฟิกที่เป็นเสียงไปยังผู้ประกอบการด้านสื่อสาร  ( ถ้าเป็นกรณีของสหรัฐฯ ผู้ประกอบการในภาคเอกชนที่ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตข้ามโลกก็จะมี เช่น  AT&T, MCI  และ  Sprint )  เพื่อทำการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการหรือผู้ให้บริการในด้านนี้ของประเทศอื่นต่อไป
สถาปัตยกรรมที่เรียกว่า  Vault  ของ  MCI  นั้นถือได้ว่าเป็น  network architecture code  รุ่นใหม่ล่าสุดในวงการโทรศัพท์ที่รวมเน็ตเวอร์กสองชนิดเข้าด้วยกัน คือ แพคเกจสวิตช์ ดาต้า เน็ตเวอร์ก  ( packet switched data network )  กับเซอร์กิต สวิตช์ ว้อยซ์ เน็ตเวอร์ก  ( circuit switched voice network )  เข้าด้วยกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้หรือลูกค้าที่ใช้คอนเน็กชันเพียงอันเดียว  ( one connection )  แต่สามารถทำอะไรให้ได้หลาย ๆ อย่างในแง่ของเสียง ข้อมูล ฯลฯ รวมทั้งเทคโนโลยีที่สามารถหาเส้นทางที่ประหยัดที่สุดในเน็ตเวอร์ก เพื่อให้ทราฟิกเดินทางจากต้นทางไปยังปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีที่เป็นแก่นของโทรศัพท์สำหรับในขณะนี้จึงดูเหมือนว่าได้ก้าวมาถึงจุดอิ่มตัวที่เป็นของสามัญ พร้อมทั้งการทำหน้าที่เป็นฐานสำหรับให้เทคโนโลยีใหม่ ๆ  ( เช่น  Web based call centers )  มาวางซ้อนทับเป็นขั้น ๆ
4 ระบบสำนักงานเสมียนและการทำทางไกล - Virtual Office   คืออะไร Virtual Office  คือการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินกิจการในพื้นที่ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป หรือแม้แต่ในต่างประเทศได้โดยไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานไปตั้งอยู่ ณ ที่นั้นจริง ๆ  Virtual Office  อาจเป็นเพียงเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวที่อยู่กับอินเทอร์เน็ต หรืออาจเป็นเพียงพื้นที่บนเว็บเซอร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก็ได้ ค่าใช้จ่ายสำหรับ  Virtual Office  อาจเป็นเงินจำนวนเพียงแค่ไม่กี่ร้อยหรือไม่กี่พันบาทต่อเดือน ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่ามาก เหมาะกับการลงทุนในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันเป็นอย่างยิ่งและด้วยข้อดีของอินเทอร์เน็ตที่ไม่เคยหลับและมีขอบข่ายครอบคลุมทั่วทั้งโลก ยังช่วยให้  Virtual Office  ของคุณเปิดได้ตลอด  24   ชั่วโมง แม้ในขณะที่คุณหลับ อีกทั้งยังสามารถทำธุรกิจในระดับนานาชาติได้อีกด้วย
- Teleworking  กับ  Virtual Office ด้วยความก้าวหน้า และราคาที่นับวันจะถูกลงเรื่อย ๆ ของเทคโนโลยีสำนักงานอัตโนมัติ  ( Office Automation )  ทั้งทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมสมัยใหม่ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โทรสาร การประมวลผล ข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์  ( Electronic Data Processing, EDP )  การสื่อสารข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต หรือการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ  ( Video Conferencing  หรือ  Teleconferencing )  ที่สามารถสื่อได้ทั้งเสียงภาพเคลื่อนไหว ส่งเอกสารแลกเปลี่ยนกัน และยังสามารถพูดคุยแบบเห็นหน้าตาท่าทางกันได้ ฯลฯ ต่างช่วยอำนวยความสะดวกให้ สามารถทำ  Teleworking  ได้อย่างง่ายดายและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
- เทคโนโลยีที่นำมาใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมหลายอย่งได้ถูกนำมาใช้กับ  Virtual Office  เพื่อการเชื่อมโยง  Teleworkers  กับสำนักงานจริงเข้าด้วยกันและการบริการลูกค้า เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และวิทยุติดตามตัว  ( Pager ) โมเด็ม โทรศัพท์และโทรสาร อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ต  ( Internet,Intranet and Extranet ) พนักงานต้อนรับเสมือน  ( Virtual Agent ) การประชุมทางไกลผ่านจอภาพ  ( Video Conferencing )  เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การสื่อสารสมจริงมากขึ้น โดยสามารถรับรู้อวัจนภาษา อันได้แก่ สีหน้า อากัปกิริยาต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กับเสียงพูดได้ ตู้สาสนเทศ  ( Information Kiosk
ผลกระทบต่อสังคม   ด้วยข้อจำกัดบางประการในการสื่อสาร  Virtual Office  และ  Teleworking  อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดกันระหว่างผู้ร่วมงาน อาจทำให้พนักงานมีความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานลดลงอาจทำให้พนักงานรู้สึก โดดเดี่ยว ขาดการติดต่อกับสังคม ขาดมนุษยสัมพันธ์ จนไปถึงอาจขาดความตระหนักในปัญหาของสังคมส่วนรวมที่ทุกคนควรช่วยกันแก้ไข จึงได้มีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นมา เพื่อลดข้อจำกัดดังกล่าว เช่น โทรศัพท์แบบมีจอภาพ หรือการประชุมจากทางไกลผ่านจอภาพ เป็นต้น อย่างไรก็ดีเทคโนโลยีดังกล่าวยังคงมีราคาค่อนข้างสูงอยู่ การป้องกันปัญหาด้วยวิธีอื่นจึงอาจทำได้ง่ายกว่า เช่น การจัดงานกีฬาสีประจำให้พนักงานได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกันต่อหน้าจริง ๆ หรือการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ เพื่อแจ้งให้พนักงานทุกคนทราบความเป็นไปขององค์กร ทำให้พนักงานคงความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และรักษาความผูกพันกับองค์กรเอาไว้ได้

ไอที

  • 1.
    ไอทีกับแนวโน้มโลก น .ส . พัชรพร ฉายตั้น เลขที่ 40 ม .6/1
  • 2.
    ไอทีกับแนวโน้มโลก 1 DigitalLibrary         ความเป็นมาของระบบดิจิตอลไลบราลี               เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของสื่อที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลและความต้องการของผู้ใช้ในการใช้ข้อมูลร่วมกันผ่านเครือข่ายที่จะได้รับความสะดวกและรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการ เป็นการอนุรักษ์ความรู้ และแหล่งความรู้ทางปัญญาเพื่อประโยชน์ของการอนุรักษ์คุณค่าทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์หากห้องสมุดของไทยมีโครงการความร่วมมือในการพัฒนาห้องสมุดดิจิตอลมากขึ้นก็จะเป็นประโยชน์มากในทุกด้าน
  • 3.
    1. เทคโนโลยีที่ใช้กับห้องสมุด 1 บาร์โค้ด “  ประเภทของบาร์โค้ด o Smart Barcode o Dumb Barcode “  บาร์โค้ดกับงานห้องสมุด o  บัตรประจำตัวสมาชิก ( Patron / User Card ) o  เลขประจำหนังสือ ( Item Barcode ) 2 . RFID : Radio Frequency Identification “  ป้ายระบุข้อมูลของวัตถุ ( Tag ) “  เครื่องอ่านสัญญาณความถี่วิทยุ -           บริการรับคืนวัสดุสารสนเทศ -           เรียงวัสดุสารสนเทศ -           เครื่องบริการยืม - คืน วัสดุสารสนเทศอัตโนมัติ
  • 4.
    3 . โทรสารหรือแฟกซ์4 . อินเทอร์เน็ต  
  • 5.
    2 มาตรฐานการพิมพ์หนังสือดิจิตอล การจัดเก็บข้อมูลลงบนแผ่นซีดีรอมกำลังได้รับความนิยม ซีดีรอมหนึ่งแผ่นมีความจุในการเก็บข้อมูลได้มากกว่าหกร้อยล้านตัวอักษร ซีดีรอมจึงเป็นตัวกลางที่สามารถเก็บเอกสารหรือหนังสือขนาดเล่มโตหลายเล่มไว้ได้ประจวบกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดสถานีบริการข้อมูลข่าวสาร มีการเก็บเอกสารหรือสิ่งพิมพ์ไว้บนเครือข่าย www ข้อมูลที่จัดเก็บมีลักษณะเป็นแบบสื่อประสม ทั้งภาพ เสียง และวิดิโอ สิ่งพิมพ์ที่เก็บในรูปสื่อดิจิตอลสมัยใหม่ จึงเก็บข้อมูลแบบมีชีวิตชีวา เป็นทั้งเอกสาร สิ่งพิมพ์ที่มีสีสรร มีเสียง มีภาพเคลื่อนไหว ดังที่เราเห็นในชุดสารานุกรมของบริษัทไมโครซอฟต์ที่เก็บไว้บนแผ่นซีดีรอม หรือที่พบเห็นบนโฮมเพจต่าง ๆ ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซอฟต์แวร์ที่ใช้เรียกข้อมูลสิ่งพิมพ์ดิจิตอลมาดูหรือแสดงผล เราเรียกว่า บราวเซอร์ บราวเซอร์จึงเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ดึงข้อมูลสิ่งพิมพ์ดิจิตอลนี้มาแสดงผล ในลักษณะที่สวยงาม น่าดู
  • 6.
    ในกรณีของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ข้อมูลสิ่งพิมพ์เก็บไว้ในเครื่องให้บริการที่เรียกว่า เซิร์ฟเวอร์ถ้าเป็นสถานีบริการที่ให้บราวเซอร์เรียกดู เราก็เรียกว่า เว็บเซิร์ฟเวอร์ ข้อมูลที่เก็บในเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือเก็บลงในแผ่นซีดีรอมเพื่อให้บราวเซอร์เรียกดูได้จึงต้องมีมาตรฐานกลาง มาตรฐานเพื่อให้ผู้สร้างสิ่งพิมพ์ดิจิตอลใช้ได้ง่าย วิธีการสร้างที่ชัดเจน โดยไม่ต้องพัฒนาโปรแกรมเรียกอ่านขึ้นเอง เหมือนการสร้างเว็บไซส์ในปัจจุบันที่ใครมีบราวเซอร์ก็เรียกดูได้ เบอร์เนอร์ลี หนึ่งในนักวิจัยฟิสิกส์ที่สวิตเซอร์แลนด์เสนอรูปแบบมาตรฐานที่เรียกว่า HTML – Hyper Text Markup Language  กลุ่มบริษัทไมโครซอฟต์ก็เสนอรูปแบบมาตรฐานที่ชื่อ SGML – Standard Generarize Markup Language  HTML ได้รับการนำมาประยุกต์ใช้บนอินเทอร์เน็ต และแพร่หลายอย่างรวดเร็ว มีการพัฒนามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบันถึงรุ่นที่ 4 HTML เป็นวิธีการกำหนดรูปแบบสิ่งพิมพ์ดิจิตอล โดยอาศัยป้าย ( tag ) กำกับ เช่นถ้าบริเวณใดต้องการให้เป็นหัวข้อ ตัวอักษรเล็กใหญ่ ต้องการใส่รูปภาพ เสียง ต้องการสร้างตัวเชื่อมโยงไปยังเอกสารอื่น ฯลฯ ก็กำหนดไว้ด้วยป้าย มาตรฐานของป้ายที่ใช้กำหนดเอกสารมีความชัดเจนที่     บราวเซอร์ทุก
  • 7.
    HTML เป็นวิธีการกำหนดรูปแบบสิ่งพิมพ์ดิจิตอลโดยอาศัยป้าย ( tag ) กำกับ เช่นถ้าบริเวณใดต้องการให้เป็นหัวข้อ ตัวอักษรเล็กใหญ่ ต้องการใส่รูปภาพ เสียง ต้องการสร้างตัวเชื่อมโยงไปยังเอกสารอื่น ฯลฯ ก็กำหนดไว้ด้วยป้าย มาตรฐานของป้ายที่ใช้กำหนดเอกสารมีความชัดเจนที่     บราวเซอร์ทุกตัวนำไปแปลความหมายได้ถูกต้อง เมื่ออยู่บนอินเทอร์เน็ต จึงมีการพัฒนาวิธีการรับส่งข้อมูลระหว่างบราวเซอร์ซึ่งเป็นเครื่องสำหรับเรียกดู กับ เว็บเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้เก็บเอกสารในรูปแบบ HTML วิธีการรับส่งข้อมูลนี้มีชื่อว่า http หรือ Hyper Text Transfer Protocol ดังเราจะเห็นวิธีการเรียกดูข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ต้องมีข้อความ http นำหน้าการสร้างเอกสารสิ่งพิมพ์ด้วยมาตรฐาน HTML ไม่ใช่เรื่องยาก ผู้ที่เคยใช้เวิร์ดโปรเซสเซอร์แล้ว เรียนรู้การใส่ป้ายประกาศเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยก็สามารถสร้างสิ่งพิมพ์ในรูปดิจิตอลนี้ได้ และเพื่อให้การพัฒนาสื่อสิ่งพิมพ์ดิจิตอลก้าวหน้าไปเร็วขึ้น บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์จำนวนมาก จึงเรียงหน้ากันผลิตเครื่องมือเพื่อช่วยในการจัดพิมพ์สิ่งพิมพ์ดิจิตอลตามมาตรฐาน HTML นี้
  • 8.
    เชื่อกันว่าห้องสมุดในยุคต่อจากนี้ไป จะเป็นห้องสมุดที่เก็บสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิตอล สิ่งพิมพ์อาจอยู่ในเครือข่าย www หรือเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ เก็บไว้ในซีดีรอม ที่เรียกดูได้ทันที แนวคิดของการรวบรวมหนังสือแบบใหม่จึงกลายเป็นดิจิตอลไลบรารี่ เพื๋อให้การเก็บเอกสารในรูปแบบดิจิตอลมีลักษณะกระทัดรัด บริษัท อะโดบี ( Adobe ) จึงได้พัฒนาวิธีการบีบอัดข้อมูล และเก็บเอกสารหนังสือที่มีลักษณะเหมือนหนังสือจริงไว้เป็นแฟ้มได้ และให้ชื่อมาตรฐานใหม่ของตนเองว่า อะโครแบต ( Acrobat ) รูปแบบแฟ้มที่เก็บมีชื่อชนิดของแฟ้มว่า . PDF แฟ้มแบบอะโครแบตกำลังมีแนวโน้มที่ดี ปัจจุบันมีผู้เก็บหนังสือ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ไว้ในรูปแบบแฟ้มอะโครแบตกันมากเพิ่มขึ้น ผู้ที่ท่องไปในอินเทอร์เน็ตจะพบเห็นข้อมูลมีลักษณะของหนังสือเป็นเล่มเก็บไว้ด้วยแฟ้ม . PDF หากต้องการอ่านก็ต้องดาวน์โหลดมา เพื่อเปิดอ่านได้ สิ่งพิมพ์ที่เก็บในรูปดิจิตอลเป็นความหวังที่จะลดการใช้กระดาษ   โดยเฉพาะในยุคที่จะต้องมีสิ่งพิมพ์เกิดขึ้นมากมาย เชื่อว่าในไม่ช้าการรับหนังสือพิมพ์
  • 9.
    3 โกลบอล -คอมมิวนิเคชันบนฐานอินเทอร์เน็ต       ปี 1997 น่าจะเป็นปีทองของผู้ที่อยู่ในแวดวงอินเทอร์เน็ต เพราะได้มีการมอบรางวัลที่ถือว่าเป็นเกียรติประวัติอันสูงสุดให้แก่สองบุคคล ซึ่งมีส่วนบุกเบิกอินเทอร์เน็ต นั่นก็คือรางวัลที่เรียกว่า The National Medal of Technology ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นผู้มอบให้ปีละครั้ง ซึ่งมีอยู่ 4 สาขา สำหรับปี 1997 ( audio, medical scanning aerospace และ network communications ) ผู้ได้รับรางวัลในสาขาสื่อสารคือ วินตัน จี เซิร์ฟ ( Vinton G . Cerf ) จากบริษัท MCI Communication และ โรเบิร์ต อี กาน ( Rebert E . Kahn ) จากบริษัท Research Initiatives อันเป็นสถาบันค้นคว้าที่ไม่หวังผลกำไร Kahn เข้าร่วมงานกับ DARPA ( Defense Advanced Research Project Agency ) ในปี 1972 ส่วน Cerf ได้เข้าร่วมงานกับ DARPA เมื่อปี 1996 เพื่อช่วยกันวางรากฐาน Arponet จนกลายเป็นอินเทอร์เน็ตในเวลาต่อมา
  • 10.
    ตำแหน่งหลังสุดของ Cerf ก็คือการก้าวเข้าสู่ภาคเอกชน ( MCI ) เมื่อปี 1994 ส่วน Kahn ได้เข้ามารับตำแหน่งประธานของ Research Initiatives เมื่อได้ลาออกจาก DARPA ระหว่างที่ทำงานกับ DARPA บุคคลทั้งสองได้ร่วมกันพิสูจน์ว่าเน็ตเวอร์กสื่อสารชนิดต่าง ๆ ที่มีใช้ในโลกของโทรคมนาคมสามารถเชื่อมโยงกันได้ รวมทั้งได้ร่วมกันกำหนดสถาปัตยกรรมอันเป็นที่มาของโหนด ( nodes ) หรือเกตเวย์ ( gateways ) ที่ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลที่มาจากเน็ตเวอร์กชนิดต่าง ๆ โดยอาศัยโปรโตคอลแบบร่วมกัน ( common protocols ) นอกจากนี้ Cerf และ Kahn มีอยู่ในใจตั้งแต่เมื่อยังทำงานกับ DARPA จนในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นฐานของอุตสาหกรรมการค้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วในแง่ของการเป็นเน็ตเวอร์กระดับโลกที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในกิจกรรมอันนับไม่ถ้วนสาขา ( เช่นโทรศัพท์อินเทอร์เน็ต ฯลฯ )
  • 11.
    เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทุกผู้ทุกนามได้มีทางออกมากขึ้นสำหรับในการสื่อสารโทรคมนาคมที่สิ้นค่าใช้จ่ายต่ำ ก้าวไปสู่การรวมเน็ตเวอร์กของเสียง ข้อมูลฯลฯ เข้าด้วยกัน กิจการที่เป็นโทรศัพท์อินเทอร์เน็ต ( Internet Telephony ) ได้เริ่มปรากฏโฉมหน้าในท้องตลาดเมื่อราวสองปีมาแล้ว ( 1995 ) ในรูปของบริษัท ( VocalTec ) ของชาวอิสเรลที่ตั้งอยู่ที่นิวเจอร์ซี่ ซึ่งได้ค้นคิดประดิษฐ์ซอฟต์แวร์เพื่อให้ผู้ใช้ที่มีพีซี ซึ่งมีไมโครโฟนติดอยู่ และมีซอฟต์แวร์ดังกล่าวสามารถที่จะติดต่อกับผู้อื่นที่มีพีซีด้วยกันได้ในราคาค่าใช้จ่ายอันแสนประหยัด เช่น ใครสักคนอาจโทรจากเมืองเทร็นตันในนิวเจอร์ซี่ไปยังเทล เอวิฟได้ในราคาเดียวกันกับที่โทร . ในสหรัฐฯ หากไม่รังเกียจเรื่องคุณภาพของเสียงที่จัดว่าแย่มาก ๆ สำหรับในขณะนั้น
  • 12.
    การเรียกโทรศัพท์ทางไกลโดยผ่านอินเทอร์เน็ตมีหลักในการทำงานอย่างง่าย ๆ ว่าในขั้นแรกผู้ใช้หมุนไปยังชุมสายโทรศัพท์แบบต่อผ่านหรือจุดที่อยู่ใกล้กับเกตเวย์เซอร์ฟเวอร์ที่สุด โดยเซอร์ฟเวอร์ดังกล่าวจะอยู่ติดกับชุมสายที่เรียกว่า central office switches เพื่อส่งทราฟิกที่เป็นเสียงไปยังผู้ประกอบการด้านสื่อสาร ( ถ้าเป็นกรณีของสหรัฐฯ ผู้ประกอบการในภาคเอกชนที่ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตข้ามโลกก็จะมี เช่น AT&T, MCI และ Sprint ) เพื่อทำการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการหรือผู้ให้บริการในด้านนี้ของประเทศอื่นต่อไป
  • 13.
    สถาปัตยกรรมที่เรียกว่า Vault ของ MCI นั้นถือได้ว่าเป็น network architecture code รุ่นใหม่ล่าสุดในวงการโทรศัพท์ที่รวมเน็ตเวอร์กสองชนิดเข้าด้วยกัน คือ แพคเกจสวิตช์ ดาต้า เน็ตเวอร์ก ( packet switched data network ) กับเซอร์กิต สวิตช์ ว้อยซ์ เน็ตเวอร์ก ( circuit switched voice network ) เข้าด้วยกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้หรือลูกค้าที่ใช้คอนเน็กชันเพียงอันเดียว ( one connection ) แต่สามารถทำอะไรให้ได้หลาย ๆ อย่างในแง่ของเสียง ข้อมูล ฯลฯ รวมทั้งเทคโนโลยีที่สามารถหาเส้นทางที่ประหยัดที่สุดในเน็ตเวอร์ก เพื่อให้ทราฟิกเดินทางจากต้นทางไปยังปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีที่เป็นแก่นของโทรศัพท์สำหรับในขณะนี้จึงดูเหมือนว่าได้ก้าวมาถึงจุดอิ่มตัวที่เป็นของสามัญ พร้อมทั้งการทำหน้าที่เป็นฐานสำหรับให้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ( เช่น Web based call centers ) มาวางซ้อนทับเป็นขั้น ๆ
  • 14.
    4 ระบบสำนักงานเสมียนและการทำทางไกล -Virtual Office  คืออะไร Virtual Office คือการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินกิจการในพื้นที่ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป หรือแม้แต่ในต่างประเทศได้โดยไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานไปตั้งอยู่ ณ ที่นั้นจริง ๆ Virtual Office อาจเป็นเพียงเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวที่อยู่กับอินเทอร์เน็ต หรืออาจเป็นเพียงพื้นที่บนเว็บเซอร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก็ได้ ค่าใช้จ่ายสำหรับ Virtual Office อาจเป็นเงินจำนวนเพียงแค่ไม่กี่ร้อยหรือไม่กี่พันบาทต่อเดือน ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่ามาก เหมาะกับการลงทุนในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันเป็นอย่างยิ่งและด้วยข้อดีของอินเทอร์เน็ตที่ไม่เคยหลับและมีขอบข่ายครอบคลุมทั่วทั้งโลก ยังช่วยให้ Virtual Office ของคุณเปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ในขณะที่คุณหลับ อีกทั้งยังสามารถทำธุรกิจในระดับนานาชาติได้อีกด้วย
  • 15.
    - Teleworking กับ Virtual Office ด้วยความก้าวหน้า และราคาที่นับวันจะถูกลงเรื่อย ๆ ของเทคโนโลยีสำนักงานอัตโนมัติ ( Office Automation ) ทั้งทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมสมัยใหม่ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โทรสาร การประมวลผล ข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ( Electronic Data Processing, EDP ) การสื่อสารข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต หรือการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ ( Video Conferencing หรือ Teleconferencing ) ที่สามารถสื่อได้ทั้งเสียงภาพเคลื่อนไหว ส่งเอกสารแลกเปลี่ยนกัน และยังสามารถพูดคุยแบบเห็นหน้าตาท่าทางกันได้ ฯลฯ ต่างช่วยอำนวยความสะดวกให้ สามารถทำ Teleworking ได้อย่างง่ายดายและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
  • 16.
    - เทคโนโลยีที่นำมาใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมหลายอย่งได้ถูกนำมาใช้กับ Virtual Office เพื่อการเชื่อมโยง Teleworkers กับสำนักงานจริงเข้าด้วยกันและการบริการลูกค้า เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และวิทยุติดตามตัว ( Pager ) โมเด็ม โทรศัพท์และโทรสาร อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ต ( Internet,Intranet and Extranet ) พนักงานต้อนรับเสมือน ( Virtual Agent ) การประชุมทางไกลผ่านจอภาพ ( Video Conferencing ) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การสื่อสารสมจริงมากขึ้น โดยสามารถรับรู้อวัจนภาษา อันได้แก่ สีหน้า อากัปกิริยาต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กับเสียงพูดได้ ตู้สาสนเทศ ( Information Kiosk
  • 17.
    ผลกระทบต่อสังคม   ด้วยข้อจำกัดบางประการในการสื่อสาร Virtual Office และ Teleworking อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดกันระหว่างผู้ร่วมงาน อาจทำให้พนักงานมีความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานลดลงอาจทำให้พนักงานรู้สึก โดดเดี่ยว ขาดการติดต่อกับสังคม ขาดมนุษยสัมพันธ์ จนไปถึงอาจขาดความตระหนักในปัญหาของสังคมส่วนรวมที่ทุกคนควรช่วยกันแก้ไข จึงได้มีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นมา เพื่อลดข้อจำกัดดังกล่าว เช่น โทรศัพท์แบบมีจอภาพ หรือการประชุมจากทางไกลผ่านจอภาพ เป็นต้น อย่างไรก็ดีเทคโนโลยีดังกล่าวยังคงมีราคาค่อนข้างสูงอยู่ การป้องกันปัญหาด้วยวิธีอื่นจึงอาจทำได้ง่ายกว่า เช่น การจัดงานกีฬาสีประจำให้พนักงานได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกันต่อหน้าจริง ๆ หรือการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ เพื่อแจ้งให้พนักงานทุกคนทราบความเป็นไปขององค์กร ทำให้พนักงานคงความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และรักษาความผูกพันกับองค์กรเอาไว้ได้