More Related Content
PDF
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต PPT
IST-25542 บาร์โค้ด 2 มิติ PPTX
PDF
PPT
PPT
PPTX
PDF
Video on Demand System for Medical Applications What's hot
PDF
PDF
Digital Media : Code of Conduct PDF
PPTX
ลักษณะการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต แต่ละประเภท PDF
PPTX
PPTX
หน่วยที่ 2 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2 PPT
PPTX
PPTX
ลักษณะของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแต่ละประเภท PDF
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศ PDF
เรื่อง ลักษณะของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต PPTX
เรื่อง ลักษณะของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต-1 PDF
Viewers also liked
PPTX
PPT
PDF
PDF
PDF
2007 same sex report_web_02 PDF
Nhsexualyouth Report Web[1] Similar to ไอที
PDF
PDF
บทที่3เรื่องอินเทอร์เน็ตและการใช้งาน PPT
อินเทอร์เน็ตเพื่องานเลขานุการ PPT
GreenstoneFrom Paper to Digital Collection PDF
บริการและประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต PDF
PPT
PPT
PPT
PPT
PPT
PPT
PPT
PDF
PDF
PDF
PDF
PDF
PDF
PDF
ไอที
- 1.
- 2.
ไอทีกับแนวโน้มโลก 1 DigitalLibrary ความเป็นมาของระบบดิจิตอลไลบราลี เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของสื่อที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลและความต้องการของผู้ใช้ในการใช้ข้อมูลร่วมกันผ่านเครือข่ายที่จะได้รับความสะดวกและรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการ เป็นการอนุรักษ์ความรู้ และแหล่งความรู้ทางปัญญาเพื่อประโยชน์ของการอนุรักษ์คุณค่าทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์หากห้องสมุดของไทยมีโครงการความร่วมมือในการพัฒนาห้องสมุดดิจิตอลมากขึ้นก็จะเป็นประโยชน์มากในทุกด้าน - 3.
1. เทคโนโลยีที่ใช้กับห้องสมุด 1 บาร์โค้ด “ ประเภทของบาร์โค้ด o Smart Barcode o Dumb Barcode “ บาร์โค้ดกับงานห้องสมุด o บัตรประจำตัวสมาชิก ( Patron / User Card ) o เลขประจำหนังสือ ( Item Barcode ) 2 . RFID : Radio Frequency Identification “ ป้ายระบุข้อมูลของวัตถุ ( Tag ) “ เครื่องอ่านสัญญาณความถี่วิทยุ - บริการรับคืนวัสดุสารสนเทศ - เรียงวัสดุสารสนเทศ - เครื่องบริการยืม - คืน วัสดุสารสนเทศอัตโนมัติ - 4.
- 5.
2 มาตรฐานการพิมพ์หนังสือดิจิตอล การจัดเก็บข้อมูลลงบนแผ่นซีดีรอมกำลังได้รับความนิยม ซีดีรอมหนึ่งแผ่นมีความจุในการเก็บข้อมูลได้มากกว่าหกร้อยล้านตัวอักษร ซีดีรอมจึงเป็นตัวกลางที่สามารถเก็บเอกสารหรือหนังสือขนาดเล่มโตหลายเล่มไว้ได้ประจวบกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดสถานีบริการข้อมูลข่าวสาร มีการเก็บเอกสารหรือสิ่งพิมพ์ไว้บนเครือข่าย www ข้อมูลที่จัดเก็บมีลักษณะเป็นแบบสื่อประสม ทั้งภาพ เสียง และวิดิโอ สิ่งพิมพ์ที่เก็บในรูปสื่อดิจิตอลสมัยใหม่ จึงเก็บข้อมูลแบบมีชีวิตชีวา เป็นทั้งเอกสาร สิ่งพิมพ์ที่มีสีสรร มีเสียง มีภาพเคลื่อนไหว ดังที่เราเห็นในชุดสารานุกรมของบริษัทไมโครซอฟต์ที่เก็บไว้บนแผ่นซีดีรอม หรือที่พบเห็นบนโฮมเพจต่าง ๆ ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซอฟต์แวร์ที่ใช้เรียกข้อมูลสิ่งพิมพ์ดิจิตอลมาดูหรือแสดงผล เราเรียกว่า บราวเซอร์ บราวเซอร์จึงเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ดึงข้อมูลสิ่งพิมพ์ดิจิตอลนี้มาแสดงผล ในลักษณะที่สวยงาม น่าดู - 6.
ในกรณีของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ข้อมูลสิ่งพิมพ์เก็บไว้ในเครื่องให้บริการที่เรียกว่า เซิร์ฟเวอร์ถ้าเป็นสถานีบริการที่ให้บราวเซอร์เรียกดู เราก็เรียกว่า เว็บเซิร์ฟเวอร์ ข้อมูลที่เก็บในเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือเก็บลงในแผ่นซีดีรอมเพื่อให้บราวเซอร์เรียกดูได้จึงต้องมีมาตรฐานกลาง มาตรฐานเพื่อให้ผู้สร้างสิ่งพิมพ์ดิจิตอลใช้ได้ง่าย วิธีการสร้างที่ชัดเจน โดยไม่ต้องพัฒนาโปรแกรมเรียกอ่านขึ้นเอง เหมือนการสร้างเว็บไซส์ในปัจจุบันที่ใครมีบราวเซอร์ก็เรียกดูได้ เบอร์เนอร์ลี หนึ่งในนักวิจัยฟิสิกส์ที่สวิตเซอร์แลนด์เสนอรูปแบบมาตรฐานที่เรียกว่า HTML – Hyper Text Markup Language กลุ่มบริษัทไมโครซอฟต์ก็เสนอรูปแบบมาตรฐานที่ชื่อ SGML – Standard Generarize Markup Language HTML ได้รับการนำมาประยุกต์ใช้บนอินเทอร์เน็ต และแพร่หลายอย่างรวดเร็ว มีการพัฒนามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบันถึงรุ่นที่ 4 HTML เป็นวิธีการกำหนดรูปแบบสิ่งพิมพ์ดิจิตอล โดยอาศัยป้าย ( tag ) กำกับ เช่นถ้าบริเวณใดต้องการให้เป็นหัวข้อ ตัวอักษรเล็กใหญ่ ต้องการใส่รูปภาพ เสียง ต้องการสร้างตัวเชื่อมโยงไปยังเอกสารอื่น ฯลฯ ก็กำหนดไว้ด้วยป้าย มาตรฐานของป้ายที่ใช้กำหนดเอกสารมีความชัดเจนที่ บราวเซอร์ทุก - 7.
HTML เป็นวิธีการกำหนดรูปแบบสิ่งพิมพ์ดิจิตอลโดยอาศัยป้าย ( tag ) กำกับ เช่นถ้าบริเวณใดต้องการให้เป็นหัวข้อ ตัวอักษรเล็กใหญ่ ต้องการใส่รูปภาพ เสียง ต้องการสร้างตัวเชื่อมโยงไปยังเอกสารอื่น ฯลฯ ก็กำหนดไว้ด้วยป้าย มาตรฐานของป้ายที่ใช้กำหนดเอกสารมีความชัดเจนที่ บราวเซอร์ทุกตัวนำไปแปลความหมายได้ถูกต้อง เมื่ออยู่บนอินเทอร์เน็ต จึงมีการพัฒนาวิธีการรับส่งข้อมูลระหว่างบราวเซอร์ซึ่งเป็นเครื่องสำหรับเรียกดู กับ เว็บเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้เก็บเอกสารในรูปแบบ HTML วิธีการรับส่งข้อมูลนี้มีชื่อว่า http หรือ Hyper Text Transfer Protocol ดังเราจะเห็นวิธีการเรียกดูข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ต้องมีข้อความ http นำหน้าการสร้างเอกสารสิ่งพิมพ์ด้วยมาตรฐาน HTML ไม่ใช่เรื่องยาก ผู้ที่เคยใช้เวิร์ดโปรเซสเซอร์แล้ว เรียนรู้การใส่ป้ายประกาศเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยก็สามารถสร้างสิ่งพิมพ์ในรูปดิจิตอลนี้ได้ และเพื่อให้การพัฒนาสื่อสิ่งพิมพ์ดิจิตอลก้าวหน้าไปเร็วขึ้น บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์จำนวนมาก จึงเรียงหน้ากันผลิตเครื่องมือเพื่อช่วยในการจัดพิมพ์สิ่งพิมพ์ดิจิตอลตามมาตรฐาน HTML นี้ - 8.
เชื่อกันว่าห้องสมุดในยุคต่อจากนี้ไป จะเป็นห้องสมุดที่เก็บสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิตอล สิ่งพิมพ์อาจอยู่ในเครือข่าย www หรือเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ เก็บไว้ในซีดีรอม ที่เรียกดูได้ทันที แนวคิดของการรวบรวมหนังสือแบบใหม่จึงกลายเป็นดิจิตอลไลบรารี่ เพื๋อให้การเก็บเอกสารในรูปแบบดิจิตอลมีลักษณะกระทัดรัด บริษัท อะโดบี ( Adobe ) จึงได้พัฒนาวิธีการบีบอัดข้อมูล และเก็บเอกสารหนังสือที่มีลักษณะเหมือนหนังสือจริงไว้เป็นแฟ้มได้ และให้ชื่อมาตรฐานใหม่ของตนเองว่า อะโครแบต ( Acrobat ) รูปแบบแฟ้มที่เก็บมีชื่อชนิดของแฟ้มว่า . PDF แฟ้มแบบอะโครแบตกำลังมีแนวโน้มที่ดี ปัจจุบันมีผู้เก็บหนังสือ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ไว้ในรูปแบบแฟ้มอะโครแบตกันมากเพิ่มขึ้น ผู้ที่ท่องไปในอินเทอร์เน็ตจะพบเห็นข้อมูลมีลักษณะของหนังสือเป็นเล่มเก็บไว้ด้วยแฟ้ม . PDF หากต้องการอ่านก็ต้องดาวน์โหลดมา เพื่อเปิดอ่านได้ สิ่งพิมพ์ที่เก็บในรูปดิจิตอลเป็นความหวังที่จะลดการใช้กระดาษ โดยเฉพาะในยุคที่จะต้องมีสิ่งพิมพ์เกิดขึ้นมากมาย เชื่อว่าในไม่ช้าการรับหนังสือพิมพ์ - 9.
3 โกลบอล -คอมมิวนิเคชันบนฐานอินเทอร์เน็ต ปี 1997 น่าจะเป็นปีทองของผู้ที่อยู่ในแวดวงอินเทอร์เน็ต เพราะได้มีการมอบรางวัลที่ถือว่าเป็นเกียรติประวัติอันสูงสุดให้แก่สองบุคคล ซึ่งมีส่วนบุกเบิกอินเทอร์เน็ต นั่นก็คือรางวัลที่เรียกว่า The National Medal of Technology ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นผู้มอบให้ปีละครั้ง ซึ่งมีอยู่ 4 สาขา สำหรับปี 1997 ( audio, medical scanning aerospace และ network communications ) ผู้ได้รับรางวัลในสาขาสื่อสารคือ วินตัน จี เซิร์ฟ ( Vinton G . Cerf ) จากบริษัท MCI Communication และ โรเบิร์ต อี กาน ( Rebert E . Kahn ) จากบริษัท Research Initiatives อันเป็นสถาบันค้นคว้าที่ไม่หวังผลกำไร Kahn เข้าร่วมงานกับ DARPA ( Defense Advanced Research Project Agency ) ในปี 1972 ส่วน Cerf ได้เข้าร่วมงานกับ DARPA เมื่อปี 1996 เพื่อช่วยกันวางรากฐาน Arponet จนกลายเป็นอินเทอร์เน็ตในเวลาต่อมา - 10.
ตำแหน่งหลังสุดของ Cerf ก็คือการก้าวเข้าสู่ภาคเอกชน ( MCI ) เมื่อปี 1994 ส่วน Kahn ได้เข้ามารับตำแหน่งประธานของ Research Initiatives เมื่อได้ลาออกจาก DARPA ระหว่างที่ทำงานกับ DARPA บุคคลทั้งสองได้ร่วมกันพิสูจน์ว่าเน็ตเวอร์กสื่อสารชนิดต่าง ๆ ที่มีใช้ในโลกของโทรคมนาคมสามารถเชื่อมโยงกันได้ รวมทั้งได้ร่วมกันกำหนดสถาปัตยกรรมอันเป็นที่มาของโหนด ( nodes ) หรือเกตเวย์ ( gateways ) ที่ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลที่มาจากเน็ตเวอร์กชนิดต่าง ๆ โดยอาศัยโปรโตคอลแบบร่วมกัน ( common protocols ) นอกจากนี้ Cerf และ Kahn มีอยู่ในใจตั้งแต่เมื่อยังทำงานกับ DARPA จนในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นฐานของอุตสาหกรรมการค้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วในแง่ของการเป็นเน็ตเวอร์กระดับโลกที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในกิจกรรมอันนับไม่ถ้วนสาขา ( เช่นโทรศัพท์อินเทอร์เน็ต ฯลฯ ) - 11.
- 12.
- 13.
สถาปัตยกรรมที่เรียกว่า Vault ของ MCI นั้นถือได้ว่าเป็น network architecture code รุ่นใหม่ล่าสุดในวงการโทรศัพท์ที่รวมเน็ตเวอร์กสองชนิดเข้าด้วยกัน คือ แพคเกจสวิตช์ ดาต้า เน็ตเวอร์ก ( packet switched data network ) กับเซอร์กิต สวิตช์ ว้อยซ์ เน็ตเวอร์ก ( circuit switched voice network ) เข้าด้วยกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้หรือลูกค้าที่ใช้คอนเน็กชันเพียงอันเดียว ( one connection ) แต่สามารถทำอะไรให้ได้หลาย ๆ อย่างในแง่ของเสียง ข้อมูล ฯลฯ รวมทั้งเทคโนโลยีที่สามารถหาเส้นทางที่ประหยัดที่สุดในเน็ตเวอร์ก เพื่อให้ทราฟิกเดินทางจากต้นทางไปยังปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีที่เป็นแก่นของโทรศัพท์สำหรับในขณะนี้จึงดูเหมือนว่าได้ก้าวมาถึงจุดอิ่มตัวที่เป็นของสามัญ พร้อมทั้งการทำหน้าที่เป็นฐานสำหรับให้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ( เช่น Web based call centers ) มาวางซ้อนทับเป็นขั้น ๆ - 14.
4 ระบบสำนักงานเสมียนและการทำทางไกล -Virtual Office คืออะไร Virtual Office คือการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินกิจการในพื้นที่ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป หรือแม้แต่ในต่างประเทศได้โดยไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานไปตั้งอยู่ ณ ที่นั้นจริง ๆ Virtual Office อาจเป็นเพียงเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวที่อยู่กับอินเทอร์เน็ต หรืออาจเป็นเพียงพื้นที่บนเว็บเซอร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก็ได้ ค่าใช้จ่ายสำหรับ Virtual Office อาจเป็นเงินจำนวนเพียงแค่ไม่กี่ร้อยหรือไม่กี่พันบาทต่อเดือน ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่ามาก เหมาะกับการลงทุนในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันเป็นอย่างยิ่งและด้วยข้อดีของอินเทอร์เน็ตที่ไม่เคยหลับและมีขอบข่ายครอบคลุมทั่วทั้งโลก ยังช่วยให้ Virtual Office ของคุณเปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ในขณะที่คุณหลับ อีกทั้งยังสามารถทำธุรกิจในระดับนานาชาติได้อีกด้วย - 15.
- Teleworking กับ Virtual Office ด้วยความก้าวหน้า และราคาที่นับวันจะถูกลงเรื่อย ๆ ของเทคโนโลยีสำนักงานอัตโนมัติ ( Office Automation ) ทั้งทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมสมัยใหม่ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โทรสาร การประมวลผล ข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ( Electronic Data Processing, EDP ) การสื่อสารข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต หรือการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ ( Video Conferencing หรือ Teleconferencing ) ที่สามารถสื่อได้ทั้งเสียงภาพเคลื่อนไหว ส่งเอกสารแลกเปลี่ยนกัน และยังสามารถพูดคุยแบบเห็นหน้าตาท่าทางกันได้ ฯลฯ ต่างช่วยอำนวยความสะดวกให้ สามารถทำ Teleworking ได้อย่างง่ายดายและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น - 16.
- เทคโนโลยีที่นำมาใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมหลายอย่งได้ถูกนำมาใช้กับ Virtual Office เพื่อการเชื่อมโยง Teleworkers กับสำนักงานจริงเข้าด้วยกันและการบริการลูกค้า เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และวิทยุติดตามตัว ( Pager ) โมเด็ม โทรศัพท์และโทรสาร อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ต ( Internet,Intranet and Extranet ) พนักงานต้อนรับเสมือน ( Virtual Agent ) การประชุมทางไกลผ่านจอภาพ ( Video Conferencing ) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การสื่อสารสมจริงมากขึ้น โดยสามารถรับรู้อวัจนภาษา อันได้แก่ สีหน้า อากัปกิริยาต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กับเสียงพูดได้ ตู้สาสนเทศ ( Information Kiosk - 17.
ผลกระทบต่อสังคม ด้วยข้อจำกัดบางประการในการสื่อสาร Virtual Office และ Teleworking อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดกันระหว่างผู้ร่วมงาน อาจทำให้พนักงานมีความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานลดลงอาจทำให้พนักงานรู้สึก โดดเดี่ยว ขาดการติดต่อกับสังคม ขาดมนุษยสัมพันธ์ จนไปถึงอาจขาดความตระหนักในปัญหาของสังคมส่วนรวมที่ทุกคนควรช่วยกันแก้ไข จึงได้มีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นมา เพื่อลดข้อจำกัดดังกล่าว เช่น โทรศัพท์แบบมีจอภาพ หรือการประชุมจากทางไกลผ่านจอภาพ เป็นต้น อย่างไรก็ดีเทคโนโลยีดังกล่าวยังคงมีราคาค่อนข้างสูงอยู่ การป้องกันปัญหาด้วยวิธีอื่นจึงอาจทำได้ง่ายกว่า เช่น การจัดงานกีฬาสีประจำให้พนักงานได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกันต่อหน้าจริง ๆ หรือการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ เพื่อแจ้งให้พนักงานทุกคนทราบความเป็นไปขององค์กร ทำให้พนักงานคงความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และรักษาความผูกพันกับองค์กรเอาไว้ได้