More Related Content
Similar to การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
Similar to การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (20)
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- 1. หลักพืนฐานของการปรับเปลียนพฤติกรรม (Basic Principles of Behavior Modification)
้ ่
การปรับเปลียนพฤติกรรม มีจุดเริ่มต้ นจากนักวิทยาศาสตร์ ชื่อ Ivan Pavlov เขาประสบผลสาเร็จ
่
ในการทดลองกับสุ นัข โดยการสั่ นกระดิง ซึ่งแต่ ก่อนไม่ เคยสั่ นกระดิง สุ นัขถูกเลียงด้ วยเนือบด จะสั่ นกระดิงทุกครั้งที่
่ ่ ้ ้ ่
ให้ อาหารสุ นัข เพราะเสี ยงกระดิงจะบ่ งบอกคืออาหาร ตอบสนองโดยนาลายไหล กระดิงกลายเป็ นตัวควบคุม หรือ
่ ้ ่
เงือนไขให้ อาหาร และกลายเป็ นตัวควบคุม โดยใช้ ส่ิ งเร้ าที่จดขึน การตอบสนองแบบนีเ้ รียกว่ าขานรับ (Respondent)
่ ั ้
อีกการตอบสนองหนึ่ง เรียกว่ า ก่ อผลหรือมีผลบังคับ (operants)คือ การถูกควบคุมโดยสิ่ งเร้ า (Biyon &
Baer,1961)
พฤติกรรมภายในของมนุษย์ ไม่ ใช่ ตวกาหนดสู่ เป้ าหมายโดยตรง พฤติกรรมจะถูกสิ่ งแวดล้ อมภายนอกกาหนด ดังนั้น
ั
พฤติกรรมของเด็กจาเป็ นต้ องมีผ้ ูใหญ่ จดพฤติกรรม หรือคอยกาหนดพฤติกรรมอย่ างเป็ นระบบ ถ้ าผู้ใหญ่ ไม่ ได้
ั
เสริมสร้ างพฤติกรรมที่ถูกต้ อง (กาหนดเขาอย่ างผิดๆ)ในปัจจัยสิ่ งแวดล้ อมโดยไม่ ต้ งใจ อาจมีผลต่ อพฤติกรรมของเด็ก
ั
ที่ไม่ พงประสงค์ อย่ างแน่ นอน Skinner มองไปถึงพฤติกรรมต่ างๆที่เกิดขึนในสั งคม เขาเชื่อว่ าปัญหาต่ างๆที่เกิดขึน
ึ ้ ้
เช่ น ความยากจน สงคราม และอืนๆ สามารถป้ องกันได้ ถ้ ามีการวางเงือนไขทางสั งคมที่ถูกต้ อง (Skinner,1948)
่ ่
นักพฤติกรรมศาสตร์ ไม่ สนใจพฤติกรรมของมนุษย์ ที่เกิดขึนในแง่ ของการแสดงออกเป็ นประจา
้
เช่ น อยากได้ ค้ นหาความต้ องการด้ วยความกระตือรือร้ น การกระตุ้นบางอย่ างที่พวกเขาหลีกเลียงความเจ็บปวด แต่
่
เขาพยายามที่จะบอกว่ า พฤติกรรมต่ างๆสามารถแก้ ไขได้ โดยใช้ แรงเสริมที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพในการปรับ
พฤติกรรม
การปรับเปลียนพฤติกรรม นักพฤติกรรมศาสตร์ (Behaviorists) ให้ การสนับสนุนทดลองใช้ การให้
่
แรงเสริม และการทาโทษ ปรากฏว่ า การใช้ แรงเสริมเพิมความแข็งแกร่ งในพฤติกรรม แต่ การลงโทษลดลง จะได้ รับ
่
การกล่ าวว่ าครู บางคนไม่ ต้งใจเสริมสร้ างพฤติกรรม ดังนั้นครู ต้องปรับการใช้ แรงเสริมกับพฤติกรรมที่แย่ (พฤติกรรม
ั
ที่ไม่ พงประสงค์ ) โดยไม่ ใช้ การลงโทษ จะต้ องสรุ ปว่ าครู ต้งใจหรือไม่ ลักษณะของการกระทาของตน ไม่ ได้ ดาเนินการ
ึ ั
ลงโทษ การลงโทษจะพิจารณาแทนโดยนักเรียนตอบให้ กบสิ่ งเร้ านั้นจะเหมาะสมกว่ า อ้ างถึงอิทธิพลของครู
ั
ดาเนินการโดยผลการกระทาด้ วยความตั้งใจ กล่ าวได้ ว่า ผลการกระทาของครู ที่เสริม หรือลงโทษ พบว่ าครู ที่
ลงโทษไม่ ถูกต้ องจะกล่ าวว่ าครู เสริม หรือครู ลงโทษ ดังนั้น ทั้งความคิด และการกระทาก็ต้อง ไม่ ลงโทษ
- 3. การขจัดพฤติกรรมทีไม่ ดีให้ หมดไป (Extinction)
่
ฒ ฮ (Hall et al, 1971)
การให้ เวลานอก (Time-out) เอาเขาออกจากทีเ่ ขาอยากอยู่ไปอยู่ในห้ องคนเดียวตามลาพัง
ญ
ญ
5
- 4. การลงโทษ (Punishment)
วิธีการแก้ไขพฤติกรรมทีนิยมกันมาก คือ การลงโทษ บางครังครูเลือกการลงโทษนักเรียนเมือเกิด
่ ้ ่
พฤติกรรมทีไม่ดเี กิดขึ้นมากกว่าการละเลยพฤติกรรมหรือการเสริมแรงพฤติกรรมทีดี บางครัง นักเรียน
่ ่ ้
อาจพบครูใช้แรงเสริมแรงมากกว่าการลงโทษ เมือครูทาเช่นนัน พฤติกรรมทีไม่เหมาะสมจะเพิมขึ้น เป็ น
่ ้ ่ ่
การยากทีจะทานายได้ว่า นักเรียนจะมีปฏิกิรยาอย่างไรต่อการลงโทษ บางคนอาจมีพฤติกรรมทีดข้น
่ ิ ่ีึ
บางคนอาจมีพฤติกรรมทีแย่ลง นักเรียนมีพฤติกรรมทีแย่ลง และยังคงมีความก้าวร้าว มีสมพันธภาพที่
่ ่ ั
ต่อต้านต่อครู พวกเขาอาจทาลายโรงเรียนหรือสิงของส่วนบุคคล
่
นักพฤติกรรมศาสตร์กล่าวว่า การลงโทษอาจใช้เมือจาเป็ นตามโอกาส และได้แนะนาว่าเมือการให้การ
่ ่
เสริมแรงทางบวกไม่ได้ผล การปฏิบตตองกระทาอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่น ครูอาจไม่ให้โอกาสในการ
ัิ ้
ใช้การเสริมแรงทางบวกในระหว่างการต่อสู ้ การต่อสูควรหยุดและได้รบการลงโทษ
้ ั
- 6. ชนิดของการเสริมแรง (Types of Reinforcers)
1.การวางเงื่ อนไขการให้ แรงเสริม (Conditioned Reinforcers) เงื่อนไขบางอย่างใช้ ได้ กบั
บางพฤติกรรม แต่บางพฤติกรรมใช้ ไม่ได้ ผล เช่น ความสนใจ เอาใจใส่ของครู อาจไม่เหมาะกับพฤติกรรม
ที่แย่ ยิ่งสนใจยิ่งทวีความไม่เอาไหนยิ่งขึ ้น ตรงข้ ามกันหากเปลี่ยนเป็ นชื่นชมคนมีพฤติกรรมดี การกระทา
เหล่านี ้อาจมีอิทธิพลต่อนักเรี ยนที่มีพฤติกรรมแย่ให้ ดีขึ ้น
2. แรงเสริมที่กินได้ (Edible Reinforcers)
3.แรงเสริมที่เป็ นวัตถุ (Material reinforcers) เช่น ของเล่น เกม ของส่วนตัวและอื่นๆนิยมใช้
เป็ นแรงเสริม
4. กิจกรรมแรงเสริม(Activity Reinforcers) ฟ
ฬ
5.แรงเสริมทั่งไปและเป็ นตัวหนุน(General and back up Reinforcers-token economy)
ญ
ญ