SlideShare a Scribd company logo
1 of 11
Download to read offline
เครื่องบิน บินได้ เพราะมีปก  ี
     สรุปง่าย ๆ อย่างงี้เลยครับ เพราะถ้าไม่มีปีก ก็บินไม่ได้ ที่ว่าบินนี้หมายถึงบินแบบเครื่องบินนะ
ครับ ไม่ใช่ลอยขึ้นไปแบบบัลลูน หรือพุ่งขึ้นไปแบบจรวด ซึ่งบัลลูนและจรวดใช้หลักการอีกแบบ
หนึ่ง ไม่ใช่หลักการของเครื่องบิน
      การที่จะท้าให้วัตถุซึ่งมีน้าหนักมากกว่า อากาศ ลอยได้ นั้น ท้าได้หลายวิธี เช่น ใช้ก๊าซที่เบา
กว่าอากาศช่วยดึงขึ้นไปคือบัลลูน หรือใช้แรงปฏิกิริยาจากแรงขับดันฉุดขึ้นไปคือจรวด และใช้แรง
ยกของอากาศที่ไหลผ่านปีก คือเครื่องบินนั่นเอง

ปีก สร้างแรงยกได้อย่างไร
       ปีกสร้างแรงยกได้จาก ความแตกต่างของความเร็วอากาศที่ไหลผ่านปีกด้านบนและด้านล่าง
ดังนั้น ลักษณะของปีกด้านบนและด้านล่างจึงแตกต่างกันเพื่อบังคับความเร็วของอากาศ ปีก
ด้านบนจะมีความโค้งนูนขึ้นในขณะที่ด้านล่างจะเรียบหรือเว้าเข้าไป ซึ่งรูปทรงนี้จะบังคับให้อากาศ
ไหลผ่านด้านบนของปีกด้วยความเร็วสูงกว่าอากาศ ที่ไหลผ่านด้านล่าง จึงเกิดแรงยกจากด้านล่าง
ปีกขึ้นไปด้านบน เมื่อแรงยกนี้มีมากกว่าน้้าหนักของเครื่องบิน ก็จะท้าให้แรงยกดึงเครื่องบินให้ลอย
ขึ้นไปได้
จะท้าให้อากาศไหลผ่านปีกได้อย่างไร
        หากเครื่อง บินอยู่นิ่ง ๆ อากาศก็นิ่ง ๆ ลมสงบ ปีกก็ไม่เกิดแรงยกเพราะไม่มีอากาศไหลผ่าน
     เครื่องบินก็ไม่บิน เราจึงต้องสร้างอากาศให้ไหลผ่านปีกเพื่อให้ปีกเกิดแรงยกเครื่องบินขึ้น
                                 การท้าให้อากาศไหลผ่านปีกท้าได้สองวิธี
    วิธีแรก คือใช้แรงจากภายนอกดันเครื่องบินไปข้างหน้า เช่น ใช้เชือกดึง ใช้มือจับพุ่ง ใช้รถลาก นั่น
    คือเครื่องบินชนิดที่เราเรียกว่าเครื่องร่อน เพราะไม่มีแรงขับดันอากาศให้ไหลผ่านปีกได้ในตัวเอง
    วิธีที่สอง คือใช้แรงจากเครื่องบินนั้นเองสร้างอากาศให้ไหลผ่านปีก คือติดตั้งเครื่องยนต์ชนิดต่าง ๆ
    กับตัวเครื่อง เพื่อสร้างแรงขับดันให้เครื่องบินไปข้างหน้าและในขณะเดียวกันก็สร้างอากาศ ให้ไหล
    ผ่านปีก เครื่องยนต์ที่สร้างแรงขับดันนี้อาจเป็นเครื่องยนต์ติดใบพัดให้หมุนเพื่อ สร้างแรงดึงหรือดัน
    เครื่องบินไปข้างหน้า ในขณะเดียวกัน ใบพัดที่ติดด้านหน้าปีก ก็จะเป่าลมให้ผ่านปีกอีกด้วย หรืออาจ
    เป็นเครื่องยนต์เจ็ท ซึ่งอาศัยแรงจุดระเบิดเป่าไอพ่นไปด้านหลังท้าให้เกิดแรงปฏิกิริยาผลักตัว
    เครื่องบินไปด้านหน้า ท้าให้อากาศไหลผ่านปีกด้วยความเร็วจนเกิดแรงยกเครื่องบินขึ้นได้

จะเห็นได้ว่า เครื่องบินและเครื่องร่อน โดยหลักแล้วต่างกันแต่เพียงวิธีการท้าให้อากาศไหลผ่านปีกเท่านั้น
เครื่องบินจะบินได้ หรือไม่ได้ เกี่ยวข้องกับแรง 4 แรง
           แรงสี่แรงที่เกี่ยวข้องกับการบินนี้ คือ แรงยก แรงโน้มถ่วง แรงขับดัน และแรงต้าน

                   แรงยก คือ แรงยกของปีกที่เกิดจาก
                   ความเร็วของอากาศที่ไหลผ่านปีก                            แรงต้าน คือ แรงต้านของล้าตัวเครื่องบิน
                                                     แรงยก                     เกิดจากแรงเสียดทานของอากาศ
                                                                                      กับล้าตัวเครื่องบิน


        แรงขับดัน                                                                         แรงต้าน
แรงขับดัน คือ แรงขับดันของเครื่องยนต์
         ที่ติดตั้งในเครื่องบิน
                                                 แรงโน้มถ่วง
                                                                     แรงโน้มถ่วง คือ แรงดึงดูดของโลกที่กระท้า
                                                                        ต่อเครื่องบิน คือ น้้าหนักเครื่องบิน


    เมื่อแรงขับดันมากกว่าแรงต้าน จะท้าให้เครื่องบินเคลื่อนไปข้างหน้า ท้าให้อากาศไหลผ่านปีก จนเกิดแรงยก ยิ่งเคลื่อน
ไปข้างหน้าเร็วเท่าไร อากาศจะไหลผ่านปีกเร็วเท่านั้น แรงยกก็มากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งแรงยกสูงกว่าแรงโน้มถ่วงคือสูง
กว่าน้้าหนักของเครื่องบิน ก็จะยกเครื่องบินให้ลอยขึ้นได้
มุมปะทะของปีก ก็สามารถควบคุมแรงยกได้

    นอกจากการควบคุมแรงยกของปีกด้วยการควบคุมเครื่องยนต์ เพื่อควบคุมความเร็วของอากาศที่
ไหลผ่านปีก การเปลี่ยนแปลงมุมปะทะของปีกกับอากาศที่ไหลผ่าน ก็ท้าให้แรงยกเปลี่ยนแปลงได้
เช่นเดียวกัน
มุมปะทะของปีก(incidence) คือมุมที่ชายหน้าปีกท้ากับอากาศที่ไหลผ่านปีกในแนวระดับ ยิ่งมีมุมปะทะ
สูง หรือมุมเงยมาก จะท้าให้อากาศไหลผ่านด้านบนของปีกเร็วมากขึ้น ในขณะที่อากาศที่ไหลผ่าน
ด้านล่างของปีกช้าลง ก็จะท้าให้เกิดแรงยกมากขึ้น แต่หากมีมุมยกมากเกินไปอากาศที่ไหลผ่านด้านบน
และด้านล่างของปีกอาจถูกตัดให้ แยกจากกันจนเกิดอากาศปั่นป่วนท้าให้สูญเสียแรงยกฉับพลัน
นอกจากนี้การเพิ่มมุมปะทะของปีก จะท้าให้เกิดแรงต้านเพิ่มขึ้น ท้าให้เครื่องบินบินช้าลง อากาศที่ไหล
ผ่านปีกก็จะช้าลงด้วย ดังนั้น จึงต้องออกแบบไม่ให้มีมุมปะทะของปีกมากเกินไป
ค้าตอบของค้าถามทีวา ท้าไมเครืองบินทีสร้างถึงบินไม่ได้
                                    ่่          ่      ่
     ดังนั้น ส้าหรับค้าถามของเพื่อน ๆ ว่าท้าไมเครื่องบินที่สร้างถึงบินไม่ได้ นั้น ก็ต้องตอบว่า เพราะแรงยกน้อยกว่าแรง
โน้มถ่วง หรือไม่กแรงขับดันน้อยกว่าแรงต้าน ซึ่งจะต้องแก้ไขตามล้าดับดังนี้
                  ็
      ดูว่าแรงยกเป็นอย่างไร ลองพุ่งด้วยมือแบบเครื่องร่อน โดยไม่ต้องติดเครื่อง ถ้าเครื่องสามารถร่อนได้ดี ปัญหาก็อยู่
ที่แรงขับดัน ต้องไปแก้ไขที่เครื่องยนต์มอเตอร์ใบพัด ถ้าพุ่งด้วยมือแล้วก็ยังบินหัวปักทิ่มดิน แสดงว่าแรงยกน้อยหรือไม่มี
ก็ต้องมาดูที่รูปร่าง Airfoil ของปีกว่าถูกต้องหรือไม่ มุมปะทะชายหน้าปีกน้อยไปหรือไม่ น้้าหนักเครื่องบินมากไปหรือไม่
CG ถูกต้องหรือไม่

     ดูว่าแรงขับดันเป็นอย่างไร ดูว่ามอเตอร์ให้แรงขับดันเพียงพอหรือไม่ ใบพัดตักลมได้ดีหรือไม่ เฟืองทดรอบถูกต้อง
หรือไม่ ถ่านที่ใช้จ่ายกระแสได้เพียงพอหรือไม่


สรุปง่าย ๆ คือ ต้องปรับแก้ไขที่แรงยกของปีกเสียก่อน เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงไปปรับแก้ไขที่เครื่องยนต์
เพราะอย่างที่กล่าวตอนแรกสุดว่า เครื่องบิน บินได้เพราะมีปีก ส่วนเครื่องยนต์เป็นเพียงเครื่องมือที่
ท้าให้อากาศไหลผ่านปีกเท่านั้น ดังนั้น แม้เครื่องยนต์จะแรงเพียงใด แต่ถ้าปีกบกพร่องแล้ว ท้ายังไงก็
บินไม่ได้
ท้าไมปีกของเครื่องบินรถกระป๋องต้องมีมุมยกปลายปีกด้วย
มุมยกปลายปีกทั้งสองข้าง ช่วยให้เครื่องบินเลี้ยวได้โดยไม่ตก
เพื่อน ๆ อาจสงสัยว่า เครื่องบินมีหางเสือก็เลี้ยวได้อยูแล้ว ดังนี้ มุมยกปลายปีกจะเกี่ยวกับการเลี้ยวอย่างไร
                                                      ่
ใน ปีกที่ไม่มีมมยกปลายปีก เมื่อบังคับให้หางเสือเลี้ยว จะเกิดแรงเหวี่ยงท้าให้เครื่องบินเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง เครื่องบิน
               ุ
จะเสียการทรงตัว เช่น เมื่อเครื่องบินเลี้ยวซ้าย เครื่องบินจะเอียงไปทางซ้าย ปีกข้างซ้ายจะต่้ากว่าปีกข้างขวา แรงยกของ
ปีกด้านซ้ายจะลดลงเรื่อย ๆ เพราะแนวแรงจะเฉียงไปด้านข้างแทนที่จะยกขึ้นด้านบน ในขณะที่แรงยกของปีกด้านขวาก็จะ
ลดลงเรื่อย ๆ ในลักษณะเดียวกัน จนกระทั่งปีกเอียงเกือบตั้งฉาก แรงยกของปีกทั้งสองข้างจะลดลงจนต่้ากว่าแรงโน้มถ่วง
จนในที่สุดเครื่องบินก็จะหมุนควงไปทางซ้ายและหัวปักลงดิน
การแก้ไขปัญหาปีกเสียแรงยกจากการเลี้ยว ท้าได้สองวิธีคือ ติดปีกเล็กแก้เอียงหรือ Aileron ที่ปีก
หรือ สร้างให้มีมุมยกปลายปีก (dihedral) ปีกเล็กแก้เอียงหรือ Aileron จะช่วยบังคับให้ปีกกลับคืนใน
แนวขนานดังเดิมได้ จึงไม่สูญเสียแรงยก
    มุมยกปลายปีก จะช่วยให้ปีกไม่เอียงมากจนกระทั่งสูญเสียแรงยก โดยอาศัยหลักการต้านกันเองของ
แรงยกปีกทั้งสองข้างเวลาเลี้ยวนั่นเอง
     ปีก ที่มีมุมยกปลายปีกทั้งสองข้าง เวลาเลี้ยวนั้น เมื่อเครื่องบินเอียงเพราะการเลี้ยว จะท้าให้ปีกด้าน
ที่เอียงลงต่้ามีแรงยกมากกว่าปีกด้านที่เอียงขึ้นสูง ท้าให้แรงยกของปีกด้านที่ต่้าดันปีกด้านต่้าให้ขึ้นใน
แนวขนานเหมือนเดิม ส่วนปีกด้านที่เอียงขึ้นสูงก็จะกลับลงมาในแนวขนานเหมือนเดิมเช่นกัน
สรุปว่า มุมยกปลายปีก ช่วยให้เครื่องบินสามารถเลี้ยวได้โดยไม่ควงสว่าน
ตกลงมา นั่นคือท้าให้การทรงตัวดีขึ้น การบังคับควบคุมง่ายขึ้น เพราะ
เครื่องบินสามารถปรับตัวเองให้สมดุลลอยอยู่ในอากาศได้ และแม้จะมีลม
พัดมาปะทะด้านข้างท้าให้เครื่องบินเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง เครื่องบินก็
สามารถปรับตัวกลับมาในแนวขนานได้เอง จึงบินได้อย่างมีเสถียรภาพ
จุด CG ส้าคัญอย่างไร
                 CG ย่อมาจาก Center of Gravity แปลว่า จุดศูนย์ถวง
                                                               ่

           จุดศูนย์ถ่วงเกี่ยวข้องกับการทรงตัวของเครื่องบินขณะบินอยู่ในอากาศ
เครื่อง บินที่ลอยอยู่บนอากาศนั้น ไม่มีอะไรรองรับ เหมือนกับการจอดอยู่บนพื้น ดังนั้น จึงต้อง
ถ่ายเทน้้าหนักในเครื่องบินให้เหมาะสม เพื่อให้เครื่องบินสามารถบินไปได้ในแนวขนานกับพื้นดิน
หรือบินขึ้นไปบนฟ้า ไม่ใช่บินแล้วหัวทิ่มดิน
จุด CG ส้าคัญมาก อย่างที่กล่าวแล้วว่า แรงยกของปีก ขึ้นอยู่กับมุมปะทะปีกด้วย ดังนั้น หากจุด
CG ไม่ถูกต้อง เช่น หัวเครื่องบินหนักกว่าหางเครื่องบิน เวลาบิน หัวเครื่องบินจะต่้ากว่าหาง ท้า
ให้มุมปะทะปีกลดลงเรื่อย ๆ แรงยกจึงลดลงเรื่อย ๆ ท้าให้เครื่องบินหัวปักพื้นอย่างรวดเร็ว หรือ
หากหัวเครื่องบินเบากว่าหาง หัวจะสูงกว่าหาง มุมปะทะปีกจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งอากาศ
ด้านบนปีกกับด้านล่างปีกแยกออกจากกัน ปีกจะสูญเสียแรงยกทันที เครื่องบินจะหล่นจากอากาศ
สรุปว่า ถ้าหัวหนัก เครื่องจะบินเอาหัวทิมลงดิน
                                                                      ่
                           ถ้าหัวเบา เครื่องบินจะเชิดหัวขึ้นสักพักแล้วร่วงลงมา
       โดยทั่วไปแล้ว จุด CG จะอยู่บริเวณ 25-40 เปอร์เซ็นต์ จากชายหน้าปีก หรืออยู่บริเวณส่วนที่นูนที่สุดของปีกเมื่อมอง
จากด้านข้าง ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของแรงยกปีกด้วย (Center of Lift) เมื่อสร้างเครื่องบินเสร็จแล้ว ก่อนเอาไปทดสอบบิน
ต้องถ่วงน้้าหนักให้ถูกต้องเสียก่อน คือ ท้าจุดหมุนที่ล้าตัวเครื่องบินบริเวณจุด CG โดยอาจใช้นิ้วมือคีบล้าตัวเครื่องบิน
หลวม ๆ หรือผูกเชือกห้อยเครืองบินในแนวของจุด CG ให้หัวเครื่องและหางกระดกขึ้นลงได้ หากน้้าหนักถูกต้องสมดุล
                              ่
เครื่องบินจะลอยอยู่ในแนวขนานกับพื้น หากยังไม่สมดุล ก็ต้องเพิ่มน้้าหนักหรือลดน้้าหนักที่หวหรือหางจนกว่า
                                                                                            ั
เครื่องบินจะอยู่ในแนว ขนาน จากนั้นค่อยน้าไปทดสอบบิน แล้วปรับน้้าหนักใหม่จากอาการของเครืองบินขณะบินจริง ๆ
                                                                                                  ่
อีกครั้งหนึ่ง

More Related Content

What's hot

ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็คtumetr1
 
แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่Supaluk Juntap
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรองชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรองชลธิกาญจน์ จินาจันทร์
 
ข้อสอบ PISA วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชุดที่1
ข้อสอบ PISA วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชุดที่1 ข้อสอบ PISA วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชุดที่1
ข้อสอบ PISA วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชุดที่1 StemCenter Yupparaj
 
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้ดีโด้ ดีโด้
 
สมบัติของสารและการจำแนก
สมบัติของสารและการจำแนกสมบัติของสารและการจำแนก
สมบัติของสารและการจำแนกSupaluk Juntap
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรองชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรองชลธิกาญจน์ จินาจันทร์
 
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์สมศรี หอมเนียม
 
บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆบทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆThepsatri Rajabhat University
 
หน่วยย่อยที่ 4 แรงเสียดทาน
หน่วยย่อยที่ 4  แรงเสียดทานหน่วยย่อยที่ 4  แรงเสียดทาน
หน่วยย่อยที่ 4 แรงเสียดทานkrupornpana55
 
ระบบต่างๆในร่างกายป.6
ระบบต่างๆในร่างกายป.6ระบบต่างๆในร่างกายป.6
ระบบต่างๆในร่างกายป.6arkhom260103
 
บรรยากาศ
บรรยากาศบรรยากาศ
บรรยากาศSupaluk Juntap
 
โลกและการเปลี่ยนแปลง
โลกและการเปลี่ยนแปลงโลกและการเปลี่ยนแปลง
โลกและการเปลี่ยนแปลงsmEduSlide
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1jamjuree_ben
 
บทที่ 1 โครงสร้างของโลก - 2559
บทที่ 1 โครงสร้างของโลก - 2559บทที่ 1 โครงสร้างของโลก - 2559
บทที่ 1 โครงสร้างของโลก - 2559Pinutchaya Nakchumroon
 
ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตBiobiome
 
ตัวอย่างโครงการสอน
ตัวอย่างโครงการสอนตัวอย่างโครงการสอน
ตัวอย่างโครงการสอนKrupol Phato
 

What's hot (20)

ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
 
แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่
 
แสง และการมองเห็น
แสง และการมองเห็นแสง และการมองเห็น
แสง และการมองเห็น
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรองชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
 
ข้อสอบ PISA วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชุดที่1
ข้อสอบ PISA วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชุดที่1 ข้อสอบ PISA วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชุดที่1
ข้อสอบ PISA วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ชุดที่1
 
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
 
สมบัติของสารและการจำแนก
สมบัติของสารและการจำแนกสมบัติของสารและการจำแนก
สมบัติของสารและการจำแนก
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรองชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกสาร ชุดที่ 1 การแยกสารด้วยวิธีการกรอง
 
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
 
บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆบทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 4 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
 
ขนมไทย
ขนมไทยขนมไทย
ขนมไทย
 
หน่วยย่อยที่ 4 แรงเสียดทาน
หน่วยย่อยที่ 4  แรงเสียดทานหน่วยย่อยที่ 4  แรงเสียดทาน
หน่วยย่อยที่ 4 แรงเสียดทาน
 
แรงพยุงหรือแรงลอยตัว
แรงพยุงหรือแรงลอยตัวแรงพยุงหรือแรงลอยตัว
แรงพยุงหรือแรงลอยตัว
 
ระบบต่างๆในร่างกายป.6
ระบบต่างๆในร่างกายป.6ระบบต่างๆในร่างกายป.6
ระบบต่างๆในร่างกายป.6
 
บรรยากาศ
บรรยากาศบรรยากาศ
บรรยากาศ
 
โลกและการเปลี่ยนแปลง
โลกและการเปลี่ยนแปลงโลกและการเปลี่ยนแปลง
โลกและการเปลี่ยนแปลง
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
 
บทที่ 1 โครงสร้างของโลก - 2559
บทที่ 1 โครงสร้างของโลก - 2559บทที่ 1 โครงสร้างของโลก - 2559
บทที่ 1 โครงสร้างของโลก - 2559
 
ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
 
ตัวอย่างโครงการสอน
ตัวอย่างโครงการสอนตัวอย่างโครงการสอน
ตัวอย่างโครงการสอน
 

เครื่องบินบินได้อย่างไร

  • 1.
  • 2. เครื่องบิน บินได้ เพราะมีปก ี สรุปง่าย ๆ อย่างงี้เลยครับ เพราะถ้าไม่มีปีก ก็บินไม่ได้ ที่ว่าบินนี้หมายถึงบินแบบเครื่องบินนะ ครับ ไม่ใช่ลอยขึ้นไปแบบบัลลูน หรือพุ่งขึ้นไปแบบจรวด ซึ่งบัลลูนและจรวดใช้หลักการอีกแบบ หนึ่ง ไม่ใช่หลักการของเครื่องบิน การที่จะท้าให้วัตถุซึ่งมีน้าหนักมากกว่า อากาศ ลอยได้ นั้น ท้าได้หลายวิธี เช่น ใช้ก๊าซที่เบา กว่าอากาศช่วยดึงขึ้นไปคือบัลลูน หรือใช้แรงปฏิกิริยาจากแรงขับดันฉุดขึ้นไปคือจรวด และใช้แรง ยกของอากาศที่ไหลผ่านปีก คือเครื่องบินนั่นเอง ปีก สร้างแรงยกได้อย่างไร ปีกสร้างแรงยกได้จาก ความแตกต่างของความเร็วอากาศที่ไหลผ่านปีกด้านบนและด้านล่าง ดังนั้น ลักษณะของปีกด้านบนและด้านล่างจึงแตกต่างกันเพื่อบังคับความเร็วของอากาศ ปีก ด้านบนจะมีความโค้งนูนขึ้นในขณะที่ด้านล่างจะเรียบหรือเว้าเข้าไป ซึ่งรูปทรงนี้จะบังคับให้อากาศ ไหลผ่านด้านบนของปีกด้วยความเร็วสูงกว่าอากาศ ที่ไหลผ่านด้านล่าง จึงเกิดแรงยกจากด้านล่าง ปีกขึ้นไปด้านบน เมื่อแรงยกนี้มีมากกว่าน้้าหนักของเครื่องบิน ก็จะท้าให้แรงยกดึงเครื่องบินให้ลอย ขึ้นไปได้
  • 3. จะท้าให้อากาศไหลผ่านปีกได้อย่างไร หากเครื่อง บินอยู่นิ่ง ๆ อากาศก็นิ่ง ๆ ลมสงบ ปีกก็ไม่เกิดแรงยกเพราะไม่มีอากาศไหลผ่าน เครื่องบินก็ไม่บิน เราจึงต้องสร้างอากาศให้ไหลผ่านปีกเพื่อให้ปีกเกิดแรงยกเครื่องบินขึ้น การท้าให้อากาศไหลผ่านปีกท้าได้สองวิธี วิธีแรก คือใช้แรงจากภายนอกดันเครื่องบินไปข้างหน้า เช่น ใช้เชือกดึง ใช้มือจับพุ่ง ใช้รถลาก นั่น คือเครื่องบินชนิดที่เราเรียกว่าเครื่องร่อน เพราะไม่มีแรงขับดันอากาศให้ไหลผ่านปีกได้ในตัวเอง วิธีที่สอง คือใช้แรงจากเครื่องบินนั้นเองสร้างอากาศให้ไหลผ่านปีก คือติดตั้งเครื่องยนต์ชนิดต่าง ๆ กับตัวเครื่อง เพื่อสร้างแรงขับดันให้เครื่องบินไปข้างหน้าและในขณะเดียวกันก็สร้างอากาศ ให้ไหล ผ่านปีก เครื่องยนต์ที่สร้างแรงขับดันนี้อาจเป็นเครื่องยนต์ติดใบพัดให้หมุนเพื่อ สร้างแรงดึงหรือดัน เครื่องบินไปข้างหน้า ในขณะเดียวกัน ใบพัดที่ติดด้านหน้าปีก ก็จะเป่าลมให้ผ่านปีกอีกด้วย หรืออาจ เป็นเครื่องยนต์เจ็ท ซึ่งอาศัยแรงจุดระเบิดเป่าไอพ่นไปด้านหลังท้าให้เกิดแรงปฏิกิริยาผลักตัว เครื่องบินไปด้านหน้า ท้าให้อากาศไหลผ่านปีกด้วยความเร็วจนเกิดแรงยกเครื่องบินขึ้นได้ จะเห็นได้ว่า เครื่องบินและเครื่องร่อน โดยหลักแล้วต่างกันแต่เพียงวิธีการท้าให้อากาศไหลผ่านปีกเท่านั้น
  • 4. เครื่องบินจะบินได้ หรือไม่ได้ เกี่ยวข้องกับแรง 4 แรง แรงสี่แรงที่เกี่ยวข้องกับการบินนี้ คือ แรงยก แรงโน้มถ่วง แรงขับดัน และแรงต้าน แรงยก คือ แรงยกของปีกที่เกิดจาก ความเร็วของอากาศที่ไหลผ่านปีก แรงต้าน คือ แรงต้านของล้าตัวเครื่องบิน แรงยก เกิดจากแรงเสียดทานของอากาศ กับล้าตัวเครื่องบิน แรงขับดัน แรงต้าน แรงขับดัน คือ แรงขับดันของเครื่องยนต์ ที่ติดตั้งในเครื่องบิน แรงโน้มถ่วง แรงโน้มถ่วง คือ แรงดึงดูดของโลกที่กระท้า ต่อเครื่องบิน คือ น้้าหนักเครื่องบิน เมื่อแรงขับดันมากกว่าแรงต้าน จะท้าให้เครื่องบินเคลื่อนไปข้างหน้า ท้าให้อากาศไหลผ่านปีก จนเกิดแรงยก ยิ่งเคลื่อน ไปข้างหน้าเร็วเท่าไร อากาศจะไหลผ่านปีกเร็วเท่านั้น แรงยกก็มากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งแรงยกสูงกว่าแรงโน้มถ่วงคือสูง กว่าน้้าหนักของเครื่องบิน ก็จะยกเครื่องบินให้ลอยขึ้นได้
  • 5. มุมปะทะของปีก ก็สามารถควบคุมแรงยกได้ นอกจากการควบคุมแรงยกของปีกด้วยการควบคุมเครื่องยนต์ เพื่อควบคุมความเร็วของอากาศที่ ไหลผ่านปีก การเปลี่ยนแปลงมุมปะทะของปีกกับอากาศที่ไหลผ่าน ก็ท้าให้แรงยกเปลี่ยนแปลงได้ เช่นเดียวกัน มุมปะทะของปีก(incidence) คือมุมที่ชายหน้าปีกท้ากับอากาศที่ไหลผ่านปีกในแนวระดับ ยิ่งมีมุมปะทะ สูง หรือมุมเงยมาก จะท้าให้อากาศไหลผ่านด้านบนของปีกเร็วมากขึ้น ในขณะที่อากาศที่ไหลผ่าน ด้านล่างของปีกช้าลง ก็จะท้าให้เกิดแรงยกมากขึ้น แต่หากมีมุมยกมากเกินไปอากาศที่ไหลผ่านด้านบน และด้านล่างของปีกอาจถูกตัดให้ แยกจากกันจนเกิดอากาศปั่นป่วนท้าให้สูญเสียแรงยกฉับพลัน นอกจากนี้การเพิ่มมุมปะทะของปีก จะท้าให้เกิดแรงต้านเพิ่มขึ้น ท้าให้เครื่องบินบินช้าลง อากาศที่ไหล ผ่านปีกก็จะช้าลงด้วย ดังนั้น จึงต้องออกแบบไม่ให้มีมุมปะทะของปีกมากเกินไป
  • 6. ค้าตอบของค้าถามทีวา ท้าไมเครืองบินทีสร้างถึงบินไม่ได้ ่่ ่ ่ ดังนั้น ส้าหรับค้าถามของเพื่อน ๆ ว่าท้าไมเครื่องบินที่สร้างถึงบินไม่ได้ นั้น ก็ต้องตอบว่า เพราะแรงยกน้อยกว่าแรง โน้มถ่วง หรือไม่กแรงขับดันน้อยกว่าแรงต้าน ซึ่งจะต้องแก้ไขตามล้าดับดังนี้ ็ ดูว่าแรงยกเป็นอย่างไร ลองพุ่งด้วยมือแบบเครื่องร่อน โดยไม่ต้องติดเครื่อง ถ้าเครื่องสามารถร่อนได้ดี ปัญหาก็อยู่ ที่แรงขับดัน ต้องไปแก้ไขที่เครื่องยนต์มอเตอร์ใบพัด ถ้าพุ่งด้วยมือแล้วก็ยังบินหัวปักทิ่มดิน แสดงว่าแรงยกน้อยหรือไม่มี ก็ต้องมาดูที่รูปร่าง Airfoil ของปีกว่าถูกต้องหรือไม่ มุมปะทะชายหน้าปีกน้อยไปหรือไม่ น้้าหนักเครื่องบินมากไปหรือไม่ CG ถูกต้องหรือไม่ ดูว่าแรงขับดันเป็นอย่างไร ดูว่ามอเตอร์ให้แรงขับดันเพียงพอหรือไม่ ใบพัดตักลมได้ดีหรือไม่ เฟืองทดรอบถูกต้อง หรือไม่ ถ่านที่ใช้จ่ายกระแสได้เพียงพอหรือไม่ สรุปง่าย ๆ คือ ต้องปรับแก้ไขที่แรงยกของปีกเสียก่อน เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงไปปรับแก้ไขที่เครื่องยนต์ เพราะอย่างที่กล่าวตอนแรกสุดว่า เครื่องบิน บินได้เพราะมีปีก ส่วนเครื่องยนต์เป็นเพียงเครื่องมือที่ ท้าให้อากาศไหลผ่านปีกเท่านั้น ดังนั้น แม้เครื่องยนต์จะแรงเพียงใด แต่ถ้าปีกบกพร่องแล้ว ท้ายังไงก็ บินไม่ได้
  • 7. ท้าไมปีกของเครื่องบินรถกระป๋องต้องมีมุมยกปลายปีกด้วย มุมยกปลายปีกทั้งสองข้าง ช่วยให้เครื่องบินเลี้ยวได้โดยไม่ตก เพื่อน ๆ อาจสงสัยว่า เครื่องบินมีหางเสือก็เลี้ยวได้อยูแล้ว ดังนี้ มุมยกปลายปีกจะเกี่ยวกับการเลี้ยวอย่างไร ่ ใน ปีกที่ไม่มีมมยกปลายปีก เมื่อบังคับให้หางเสือเลี้ยว จะเกิดแรงเหวี่ยงท้าให้เครื่องบินเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง เครื่องบิน ุ จะเสียการทรงตัว เช่น เมื่อเครื่องบินเลี้ยวซ้าย เครื่องบินจะเอียงไปทางซ้าย ปีกข้างซ้ายจะต่้ากว่าปีกข้างขวา แรงยกของ ปีกด้านซ้ายจะลดลงเรื่อย ๆ เพราะแนวแรงจะเฉียงไปด้านข้างแทนที่จะยกขึ้นด้านบน ในขณะที่แรงยกของปีกด้านขวาก็จะ ลดลงเรื่อย ๆ ในลักษณะเดียวกัน จนกระทั่งปีกเอียงเกือบตั้งฉาก แรงยกของปีกทั้งสองข้างจะลดลงจนต่้ากว่าแรงโน้มถ่วง จนในที่สุดเครื่องบินก็จะหมุนควงไปทางซ้ายและหัวปักลงดิน
  • 8. การแก้ไขปัญหาปีกเสียแรงยกจากการเลี้ยว ท้าได้สองวิธีคือ ติดปีกเล็กแก้เอียงหรือ Aileron ที่ปีก หรือ สร้างให้มีมุมยกปลายปีก (dihedral) ปีกเล็กแก้เอียงหรือ Aileron จะช่วยบังคับให้ปีกกลับคืนใน แนวขนานดังเดิมได้ จึงไม่สูญเสียแรงยก มุมยกปลายปีก จะช่วยให้ปีกไม่เอียงมากจนกระทั่งสูญเสียแรงยก โดยอาศัยหลักการต้านกันเองของ แรงยกปีกทั้งสองข้างเวลาเลี้ยวนั่นเอง ปีก ที่มีมุมยกปลายปีกทั้งสองข้าง เวลาเลี้ยวนั้น เมื่อเครื่องบินเอียงเพราะการเลี้ยว จะท้าให้ปีกด้าน ที่เอียงลงต่้ามีแรงยกมากกว่าปีกด้านที่เอียงขึ้นสูง ท้าให้แรงยกของปีกด้านที่ต่้าดันปีกด้านต่้าให้ขึ้นใน แนวขนานเหมือนเดิม ส่วนปีกด้านที่เอียงขึ้นสูงก็จะกลับลงมาในแนวขนานเหมือนเดิมเช่นกัน
  • 9. สรุปว่า มุมยกปลายปีก ช่วยให้เครื่องบินสามารถเลี้ยวได้โดยไม่ควงสว่าน ตกลงมา นั่นคือท้าให้การทรงตัวดีขึ้น การบังคับควบคุมง่ายขึ้น เพราะ เครื่องบินสามารถปรับตัวเองให้สมดุลลอยอยู่ในอากาศได้ และแม้จะมีลม พัดมาปะทะด้านข้างท้าให้เครื่องบินเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง เครื่องบินก็ สามารถปรับตัวกลับมาในแนวขนานได้เอง จึงบินได้อย่างมีเสถียรภาพ
  • 10. จุด CG ส้าคัญอย่างไร CG ย่อมาจาก Center of Gravity แปลว่า จุดศูนย์ถวง ่ จุดศูนย์ถ่วงเกี่ยวข้องกับการทรงตัวของเครื่องบินขณะบินอยู่ในอากาศ เครื่อง บินที่ลอยอยู่บนอากาศนั้น ไม่มีอะไรรองรับ เหมือนกับการจอดอยู่บนพื้น ดังนั้น จึงต้อง ถ่ายเทน้้าหนักในเครื่องบินให้เหมาะสม เพื่อให้เครื่องบินสามารถบินไปได้ในแนวขนานกับพื้นดิน หรือบินขึ้นไปบนฟ้า ไม่ใช่บินแล้วหัวทิ่มดิน จุด CG ส้าคัญมาก อย่างที่กล่าวแล้วว่า แรงยกของปีก ขึ้นอยู่กับมุมปะทะปีกด้วย ดังนั้น หากจุด CG ไม่ถูกต้อง เช่น หัวเครื่องบินหนักกว่าหางเครื่องบิน เวลาบิน หัวเครื่องบินจะต่้ากว่าหาง ท้า ให้มุมปะทะปีกลดลงเรื่อย ๆ แรงยกจึงลดลงเรื่อย ๆ ท้าให้เครื่องบินหัวปักพื้นอย่างรวดเร็ว หรือ หากหัวเครื่องบินเบากว่าหาง หัวจะสูงกว่าหาง มุมปะทะปีกจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งอากาศ ด้านบนปีกกับด้านล่างปีกแยกออกจากกัน ปีกจะสูญเสียแรงยกทันที เครื่องบินจะหล่นจากอากาศ
  • 11. สรุปว่า ถ้าหัวหนัก เครื่องจะบินเอาหัวทิมลงดิน ่ ถ้าหัวเบา เครื่องบินจะเชิดหัวขึ้นสักพักแล้วร่วงลงมา โดยทั่วไปแล้ว จุด CG จะอยู่บริเวณ 25-40 เปอร์เซ็นต์ จากชายหน้าปีก หรืออยู่บริเวณส่วนที่นูนที่สุดของปีกเมื่อมอง จากด้านข้าง ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของแรงยกปีกด้วย (Center of Lift) เมื่อสร้างเครื่องบินเสร็จแล้ว ก่อนเอาไปทดสอบบิน ต้องถ่วงน้้าหนักให้ถูกต้องเสียก่อน คือ ท้าจุดหมุนที่ล้าตัวเครื่องบินบริเวณจุด CG โดยอาจใช้นิ้วมือคีบล้าตัวเครื่องบิน หลวม ๆ หรือผูกเชือกห้อยเครืองบินในแนวของจุด CG ให้หัวเครื่องและหางกระดกขึ้นลงได้ หากน้้าหนักถูกต้องสมดุล ่ เครื่องบินจะลอยอยู่ในแนวขนานกับพื้น หากยังไม่สมดุล ก็ต้องเพิ่มน้้าหนักหรือลดน้้าหนักที่หวหรือหางจนกว่า ั เครื่องบินจะอยู่ในแนว ขนาน จากนั้นค่อยน้าไปทดสอบบิน แล้วปรับน้้าหนักใหม่จากอาการของเครืองบินขณะบินจริง ๆ ่ อีกครั้งหนึ่ง