โครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภท พัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย เชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
แหล่งอ้างอิง

ผู้จัดทา
โรคเบาหวานคือ ?

อาการของผู้ป่วยโรคเบาหวาน

สาเหตุของโรคเบาหวาน

อินซูลินกับโรคเบาหวาน

ประเภทของโรคเบาหวาน

การป้องกันโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานคือ ?
เบาหวานเกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ อัน
ส่งผลทาให้ระดับน้าตาลในกระแสเลือดสูงเกินโรคเบาหวานจะมีอาการเกิดขึ้นเนื่องมาจากการที่
ร่างกายไม่สามารถใช้น้าตาลได้อย่างเหมาะสมซึ่งผลที่เกิดขึ้นทาให้ระดับน้าตาลในเลือดสูงขึ้นใน
ระยะยาวจะมีผลในการทาลายหลอดเลือด ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมอาจนาไปสู่
สภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
ปี 2550 พบผู้ป่วยเบาหวานแล้วถึง 246 ล้านคน โดยผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลก 4 ใน 5 เป็น
ชาวเอเชียเบาหวาน เป็นโรคที่เป็นกันมากขึ้นทุกปีจนมีการกาหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี
เป็นวันเบาหวานโลกเพื่อให้มีการรณรงค์ป้องกันให้เป็นที่แพร่หลายขึ้น
สาเหตุของโรคเบาหวาน
1. กรรมพันธุ์ เบาหวานมีสาเหตุจากกรรมพันธุ์ส่วนหนึ่ง แต่ผู้ที่มีญาติ
สายตรง อาทิเช่นพ่อ แม่ พี่ น้อง เป็นเบาหวานก็ไม่จาเป็นต้องป่วยเป็น
โรคเบาหวานทุกราย ทั้งนี้ขึ้นกับการควบคุมดูแลปัจจัยเสี่ยงอย่างอื่น
2. โรคอ้วน ผู้ที่มีน้าหนักมาก ไขมันส่วนเกินจะสร้าง
สารที่ทาให้การตอบสนองของเนื้อเยื่อร่างกายต่ออินซูลินไม่ดี
หรือนัยหนึ่งเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินขึ้น
3. ผู้สูงอายุ เมื่ออายุมากขึ้น ตับอ่อนจะเสื่อมการทางานลง ทาให้
การสังเคราะห์และการหลั่งอินซูลินลดลง
4. โรคของตับอ่อน เช่น ภาวะตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง จากการดื่ม
เหล้า ยา หรือไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง
5. การติดเชื้อไวรัสบางชนิดเมื่อยังเป็นเด็ก เช่น หัด หัด
เยอรมัน คางทูม โดยพบว่าเด็กที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าว มีโอกาสเป็นเบาหวาน
เมื่ออายุมากขึ้น เมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ได้ป่วย
6. การได้รับยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ ยาขับปัสสาวะ ยา
คุมกาเนิดบางชนิด ซึ่งยาเหล่านี้ทาให้มีการสร้างน้าตาลที่ตับมากขึ้น หรือเกิด
การตอบสนองของอินซูลินแย่ลง
7. การตั้งครรภ์ เนื่องจากขณะตั้งครรภ์จะมีการฮอร์โมนจากรก ซึ่งมี
ผลต่อต้านการทางานของอินซูลิน
ประเภทของโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานชนิดที่ 1เกิดจากภูมิต้านทานของร่างกายทาลาย
เซลล์ซึ่งสร้างอินซูลินในส่วนของตับอ่อนทาให้ร่างกายหยุดสร้างอินซูลิน
หรือสร้างได้น้อยมาก ดังที่เรียกว่า โรคภูมิต้านทานตัวเอง หรือออโตอิม
มูน(autoimmune) ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 จึงจาเป็นต้องฉีด
อินซูลิน เพื่อควบคุมน้าตาลในเลือดระยะยาวและถ้าเป็นรุนแรง จะมีการ
คั่งของสารคีโตน(Ketone) สารนี้จะเป็นพิษต่อระบบประสาททาให้หมด
สติถึงตายได้
ประเภทของโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานชนิดที่ 2เป็น เบาหวาน ที่พบเห็นกันเป็นส่วนใหญ่
สาเหตุที่แท้จริงนั้นยังไม่ทราบชัดเจน แต่มีส่วนเกี่ยวกับพันธุกรรม
นอกจากนี้ ยังมีความสัมพันธ์กับภาวะน้าหนักตัวมากและขาดการออก
กาลังกายมีลูกดกอีกทั้งวัยที่เพิ่มขึ้นเซลล์ของผู้ป่วยยังคงมีการสร้าง
อินซูลินแต่ทางานไม่เป็นปกติเนื่องจากมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทาให้เซลล์ที่
สร้างอินซูลินค่อยๆถูกทาลายไปบางคนเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนโดยไม่รู้ตัว
โดยอาจจะใช้ยาในการรับประทานและบางรายต้องใช้อินซูลินชนิดฉีด
เพื่อควบคุมน้าตาลในเลือด
อาการของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
1. ปวดปัสสาวะบ่อย
2. ปัสสาวะกลางคืนบ่อยขึ้น
3. กระหายน้าและดื่มน้าบ่อยขึ้น
4. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายไม่มีเรี่ยวแรง
5. เบื่ออาหาร

6. น ้าหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
7. ติดเชื ้อบ่อยกว่าปรกติ
8. สายตาพร่ามองไม่ชดเจน
ั
9. อาการชาไม่คอยมีความรู้สก
่
ึ
10.อาจจะมีอาการของโรคหัวใจ และโรคไต
อินซูลินกับโรคเบาหวาน
อินซูลิน เป็นฮอร์โมนที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มเซลล์ภายใน
ตับอ่อน มีหน้าที่ในการนาน้าตาลในเลือดไปสู่เนื้อเยื่อต่างๆทั่ว
ร่างกายเพื่อใช้ในการสร้างพลังงานและสร้างเซลล์ต่างๆ
โดยปรกติแล้วเมื่อมีน้าตาลเข้าสู่กระแสเลือดตับอ่อนก็จะถูก
กระตุ้นให้หลั่ง อินซูลิน แล้วอินซูลินก็จะเข้าจับน้าตาลเพื่อ
นาไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย แต่ในผู้ป่วยที่เป็น
โรคเบาหวาน ซึ่งร่างกายมี อินซูลิน ไม่เพียงพอก็จะทาให้มี
น้าตาลในเลือดสูงขึ้น
การป้องกันโรคเบาหวาน
1. ควบคุมน้าตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและแก้ไขปัจจัย
เสี่ยงอื่นๆอันจะก่อให้เกิดโรคเบาหวาน
2. ควบคุมโภชนาการให้มีความสมดุลทั้งในด้านโภชนาการ การ
ออกกาลังกาย รวมไปจนถึงการใช้ยารักษาโรค
3. ควรตรวจเช็คระดับน้าตาลในเลือดสม่าเสมอโดยปรึกษา
แพทย์ว่าควรตรวจเช็คเมื่อใด และ ระยะเวลาห่างในการตรวจที่
เหมาะสม
4. ยาบางชนิดหรือยาสมุนไพร อาจมีผลต่อการควบคุมน้าตาลใน
เลือด จะต้องปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ยาหรือ สมุนไพร
เหล่านี้
สาเหตุของโรคอัลไซเมอร์

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค

อาการของโรค

การดูแลผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์
สาเหตุของโรคอัลไซเมอร์

1. จากความผิดปกติในเนื้อสมองจะพบลักษณะที่สาคัญสองอย่าง
คือกลุ่มใยประสาทที่พันกัน Neurofibrillary Tangles.และมีสาร
Beta Amyloid ในสมองใยสมองที่พันกันทาให้สารอาหารไม่
สามารถไปเลี้ยงสมองการที่สมองมีคราบ Beta Amyloid หุ้มทา
ระดับ acetylcholine สมองลดลงสาร acetylcholine จะมีส่วน
สาคัญในเรื่องการเรียนรู้และความจา
1.การอักเสบ inflammatory สาร amyloid เมื่อสลายจะให้สารอนุมูลอิสระออกมาอนุมูลนี้ จะทาให้เกิดการอักเสบของเซลล์สมอง

สาเหตุของโรคอัลไซเมอร์

2. การอักเสบ inflammatory สาร
amyloid เมื่อสลายจะให้สาร
อนุมูลอิสระออกมาอนุมูลนี้จะทา
ให้เกิดการอักเสบของเซลล์สมอง
สาเหตุของโรคอัลไซเมอร์

3. กรรมพันธุ์ โรค Alzheimer ทีเกิด late onset จะมีการเพิ่มของ gene ที่ควบคุม
การสร้าง apolipoprotein E4 (ApoE 4) ส่วนที่เกิด early onset จะมีการ
เปลี่ยนแปลงของ gene presenilin-1 (PS1) และ presenelin-2 (PS2)
อาการของโรค
อาการจะเริ่มเป็นตอนอายุ 65 ปีแต่บางรายเป็นเร็วกว่านั้นอาจจะเริ่มตอนอายุ 40 ปี
อาการเริ่มเป็นใหม่ๆจะมีอาการขี้ลืมและสูญเสียสมาธิซึ่งอาการแรกๆอาจจะวินิจฉัยยากเพราะ
อาการนี้ก็เป็นกับผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่การดาเนินโรคจะค่อยเป็นค่อยไป และทรุดลงในช่วงระยะ
1-3 ปีมีปัญหาเรื่องวันเวลาสถานที่ และอาจหลงทางกลับบ้านไม่ถูก ลืมชื่อญาติสนิทหวาดระแวง
สับสน โดยเฉพาะกลางคืนอาจไม่นอนทั้งคืน จะออกนอกบ้านและมีพฤติกรรมก้าวร้าว บางคนก็
กลับเปลี่ยนไป เป็นไม่สนใจสิ่งแวดล้อมงดงานอดิเรกที่เคยทา เช่น เก็บกวาดต้นไม้ หรือดูทีวี อ่าน
หนังสือพิมพ์ส่วนหนึ่งเพราะดูและอ่านไม่ค่อยเข้าใจ คิดคานวณไม่ได้ ใช้จ่ายทอนเงินไม่ถูกเมื่อเวลา
ผ่านไปอีก 2-3 ปี อาการยิ่งทรุดหนัก ความจาเลวลงมาก จาญาติไม่ได้เคลื่อนไหวช้าลง ไม่ค่อยยอม
เดิน หรือเดินก็เหมือนก้าวขาไม่ออก ลังเลทากิจวัตรประจาวันด้วยตนเอง เช่นอาบน้า แปรงฟัน
รับประทานอาหารไม่ได้พูดน้อยลง ไม่เป็นประโยค ที่สุดก็ไม่พูดเลย กลั้นปัสสาวะ อุจจาระไม่ได้
ต้องมีคนดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ป่วยจะเสียชีวิตในเวลา 2-10 ปี โดยเฉลี่ย 10 ปี ด้วยโรคแทรก
เช่น ติดเชื้อจากปอดบวม หรือแผลกดทับ
อาการของโรค
โรค Alzheimer สามารถแบ่งระยะของโรคได้ 3 ระยะได้แก่
1. ระยะเริ่มแรกผู้ป่วยจะรับรู้ว่าขี้ลืมลืมปิดเตารีด ลืมปิด
ประตูลืมชื่อคน ลืมรับประทานยาต้องให้คนช่วยเขียนรายการที่จะทา
2. ระยะที่สองผู้ป่วยจะสูญเสียความจาโดยเฉพาะความจา
ที่เพิ่งเกิดใหม่ๆโดยอาจจะจาเรื่องราวในอดีตเริ่มใช้คาพูดไม่ถูกต้อง
อารมณ์จะผันผวน
3. ระยะที่สามผู้ป่วยจะสับสนไม่รู้วันรู้เดือนบางรายมี
อาการหลงผิดหรือเกิดภาพหลอนบางรายอาจจะก้าวร้าวรุนแรง
ปัสสาวะราด ไม่สนใจตนเอง
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค

1. อายุ ยิ่งอายุมากยิ่งมีโอกาสเป็นมาก พบว่า
ร้อยละ25ของผู้ป่วยอายุ 85ปี เป็นโรคนี้
2. โรคความดันโลหิตสูงเรื้อรังโรคความดันโลหิต
สูงทาให้ผู้ป่วยสูญเสียความจาการรักษาความดันจะทาให้
ความจาดีขึ้น
3. เรื่องของกรรมพันธุ์ถ้ามีบุคคลในครอบครัว
ป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ โอกาสที่จะเป็นก็มากขึ้นเรื่อง
พันธุกรรมนี้มีความก้าวหน้าขึ้นมาก
การดูแลผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์
การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ มีความสาคัญเป็นอย่างมาก ต้องให้ความ
เข้าใจ เห็นใจ ว่าผู้ป่วยไม่ได้ตั้งใจที่จะก้าวร้าว หงุดหงิดอย่างที่เราเห็น แต่เป็น
จากตัวโรคเอง ไม่ควรทาให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่มั่นใจ อาย หรือหงุดหงิด เช่น ถ้าคุย
อะไรแล้วผู้ป่วยนึกไม่ค่อยออกหรือจาไม่ได้ ควรเปลี่ยนเรื่อง เอาเรื่องที่คุยแล้วมี
ความสุข ผู้ป่วยไม่สามารถคิดเลขได้ ไม่สามารถเล่นดนตรีแต่สามารถร้องเพลง
พร้อมกับวิทยุ เล่นหมากรุกไม่ได้ แต่สามารถเล่นเทนนีสได้ หรือถ้ามีความคิด
อะไรผิดๆ ไม่ควรเถียงตรงๆ ถ้าไม่จาเป็นก็อาจไม่ต้องอธิบายมาก เนื่องจากจะ
ทาให้หงุดหงิด และหมดความมั่นใจ
การดูแลผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์
ควรจัดห้ องหรื อบ้ านให้ น่าอยู่ สดใส ใช้ สีสว่างๆ ถ้ าในรายที่ชอบ
เดินไปมามากๆ ต้ องใช้ เทคนิคการเบี่ยงเบนความสนใจในสิงใดสิงหนึง หรื อ
่ ่ ่
อาจใช้ การพาดเสื ้อผ้ า ไว้ ที่ลกบิดประตูเพื่อไม่ให้ เห็นลูกบิด ต้ องเก็บของมีคม
ู
หรื อเครื่ องใช้ ไฟฟาให้ มิดชิด ปิ ดวาวล์เตาแก๊ สไว้ เสมอ เป็ นต้ น
้
แหล่งอ้างอิง
http://www.phyathai.com/medicalarticledetail/1/12/177/th
http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/neuro/a
lzheimer/alzheimers.html#.UvhMqYX45LM
ผู้จัดทา

นางสาว พัชรี
เขจร
เลขที่ 23
นางสาว นงลักษณ์ กันทะโว เลขที่ 41
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/7

P pcom