งานนำเสนอองค์ความรู้จากการค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับโรคความผิดปกติทางระบบประสาทมนุษย์ของนักเรียนม.6ห้อง77โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาปีการศึกษา2560 ครูผู้สอน นายวิชัย ลิขิตพรรักษ์ ตำแหน่งครู คศ.1 เอกวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ประวัติการศึกษา : พ.ศ. 2549 วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกรียตินิยมอันดับ 2) สาขาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2551 ศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ เอกเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2552 ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต พ.ศ. 2555 สาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ เอกสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2558 ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการประเมินและการวิจัยทางการศึกษา เอกวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

1. เรื่อง โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท (โรคลมชัก)
นาเสนอ อาจารย์วิชัย ลิขิตพรลักษณ์
สมาชิกกลุ่ม
นางสาว ฐิตาพร มุทุธาร ม.6 ห้อง 77 เลขที่ 4
นางสาว ธัญญาธิณี เจตนาพรสาราญ ม.6 ห้อง 77 เลขที่ 7
นางสาว ธัญวรัตน์ ธนเขตไพศาล ม.6 ห้อง 77 เลขที่ 8
นางสาว ลักษิกา สุทธิศิลธรรม ม.6 ห้อง 77 เลขที่ 17

2. สมาชิกกลุ่ม

3. ลาดับหัวข้อที่นาเสนอ
ประวัติความเป็นมาของโรคลมชัก
สาเหตุของโรคลมชัก
ลักษณะอาการของโรคลมชัก
แนวทางในการป้ องกันโรคลมชัก

4. โรคลมชัก
epilepsy

5. ประวัติความเป็นมาของโรคลมชัก
ลมชักกับความเชื่อในอดีต
บันทึกทางการแพทย์ที่เก่าแก่ที่สุดแสดงให้เห็นว่า มีผู้ป่วยโรคลมชัก
ตั้งแต่สมัยเริ่มมีการบันทึกประวัติศาสตร์ คนในสมัยโบราณคิดว่าโรคลมชัก
เป็นภาวะที่เกี่ยวข้องกับ ภูติผี และ วิญญาณ
คาอธิบายที่เก่าแก่ที่สุดในโลกซึ่งกล่าวถึงอาการชักว่าตกอยู่ภายใต้
อิทธิพลของเทพแห่งดวงจันทร์ และรับการรักษาด้วยพิธีขับไล่ผี

6. ประวัติความเป็นมาของโรคลมชัก
ลมชักในมุมมองทางการแพทย์ครั้งแรกของประวัติศาสตร์
มุมมองแตกต่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับสาเหตุของโรคลมชักซึ่งไม่ได้
เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณมากจากแนวคิดของฮิปพอคราทีส เมื่อสมัย 500 ปี
ก่อนคริสตกาล
ฮิปพอคราทีสปฏิเสธความคิดที่ว่าโรคลมชักเกิดจากวิญญาณโดยอธิบายว่า
โรคลมชักไม่ ได้เกิดจากวิญญาณแต่เป็นปัญหาทางการแพทย์ซึ่งเกิดขึ้นใน
สมองและสามารถรักษา ได้

7. สาเหตุของโรคลมชัก
 เกิดจากกรรมพันธุ์
 การที่สมองเคยได้รับอันตรายมาก่อน
เช่น มีการติดเชื้อในสมอง เนื้องอกในสมอง ภาวะขาดออกซิเจน
ขณะคลอด หลอดเลือดสมองผิดปกติ
 โรคทางกาย
เช่น ภาวะเกลือโซเดียมในร่างกายสูงหรือต่า น้าตาลในเลือดสูง
หรือต่่า แคลเซียมในเลือดต่า โรคพิษสุราเรื้อรัง การเสพยาเสพติด
เกินขนาด หรือได้รับสารพิษจากการใช้ยาบางชนิดเกินขนาด

8. ลักษณะอาการของโรคลมชัก
อาการชักที่มีผลต่อทุกส่วนของสมอง
(Generalized Seizures)
อาการชักเฉพาะส่วน
(Partial หรือ Focal Seizures)

9.  อาการชักที่มีผลต่อทุกส่วนของสมอง
(Generalized Seizures)
- อาการชักแบบแกรนด์มาล (Grand mal)
มีอาการเป็น 3 ระยะ
ระยะแรก มีประสาทหลอนมีอาการเตือน (Aura)
ระยะที่ 2 จะหมดสติทันทีทันใดแล้วมีอาการเกร็ง (Tonic phase)
ของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย
ระยะชัก (Clonic phase) มีกล้ามเนื้อกระตุกเป็นจังหวะที่แขนขา
มีน้าลายเป็นฟองไหลออกจากปาก

10.  อาการชักที่มีผลต่อทุกส่วนของสมอง
(Generalized Seizures)
- อาการชักแบบเปติดมาล (Petitmal)
พบได้ในวัยเด็กอายุ8-10 ปี และอาจหายเองได้เมื่ออายุมากขึ้น
มีอาการหน้าซีด หมดสติไปชั่วขณะ
เด็กขาดความสนใจ
ไปชั่วขณะหนึ่งหรือถือสิ่งของอยู่
เช่น แก้วหล่นแตก
บางรายมีอาการปากบิดเบี้ยว

11.  อาการชักเฉพาะส่วน
(Partial หรือ Focal Seizures)
- อาการชักแบบรู้ตัว (Simple Focal Seizures)
ผู้ป่วยจะยังคงมีสติครบถ้วน อาจเกิดความรู้สึกร่าเริงหรือกลัวอย่าง กะทันหัน
และได้กลิ่นหรือรับรู้รสชาติแปลกไป รู้สึกชาที่แขนและขาหรือมีอาการ
ชักกระตุกที่แขนและมือ

12.  อาการชักเฉพาะส่วน
(Partial หรือ Focal Seizures)
- อาการชักแบบไม่รู้ตัว (Complex Partial Seizures)
ผู้ป่วยอาจไม่สามารถจดจาได้ว่าเกิดอาการขึ้น โดยอาจมีอาการเช่น ขยับริม
ฝีปาก ถูมือ นอกจากนี้ ในขณะที่เกิดอาการ ผู้ป่วยจะไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่
เกิดขึ้นรอบข้างได้เลย

13. แนวทางในการป้ องกันโรคลมชัก
ผู้ที่มีอาการชักเป็นครั้งแรก ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อตรวจหา
สาเหตุ ปฏิบัติตามคาแนะนาของแพทย์
ควรปฏิบัติตัว ดังนี้
- กินยาป้องกันโรคลมชักตามขนาดที่แพทย์สั่งเป็นประจา จนกว่าแพทย์จะ
พิจารณาให้หยุด ซึ่งอาจกินเวลา 2-3 ปี

14. แนวทางในการป้ องกันโรคลมชัก
หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการชัก ได้แก่
- การอดนอน หรือนอนไม่เป็นเวลา หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
- การอดอาหาร
- งดดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์
- อย่าเข้าไปในที่ๆ มีเสียงอึกทึก หรือมีแสงจ้า
- เมื่อมีไข้สูง ต้องรีบกินยาลดไข้และเช็ดตัวให้ไข้ลดลง มิเช่นนั้นอาจ
กระตุ้นให้ชักได้

16. สรุปเนื้อหาทั้งหมด
ในปัจจุบัน โรคลมชักสามารถเกิดได้กับคนจานวนมาก
โดยมีหลายสาเหตุ เช่น อาการบาดเจ็บในสมอง ลักษณะ
อาการของโรคนี้แบ่งเป็นอาการชักได้หลายรูปแบบ เช่น
การชักทั้งร่างกาย หรือ เฉพาะส่วน ซึ่งผู้ป่ วยอาจมีสติ
อยู่หรือไม่ก็ได้ การป้ องกันที่สาคัญที่สุด คือหลีกเลี่ยง
สถานการณ์ที่กระตุ้นให้เกิดอาการชัก เช่น การอดหลับ
อดนอน เป็นต้น

17. บรรณานุกรม
- https://www.pobpad.com/%E0%B9%82%E0%B8%A3%
E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E
0%B8%B1%E0%B8%81
- https://www.thairath.co.th/content/350352
- http://www.healthcarethai.comอาการชัก-seizure
- http://www.thaihealth.or.th
- https://www.bumrungrad.com/th/betterhealth/2556/
better-brain-health/epilepsy
- https://health.kapook.com/view4982.html
- http://thaiepilepsysociety.com/
- http://www.thailandepilepsy.org/?page_id=463

18. Thanks!
Any questions?