SlideShare a Scribd company logo
Game Theory
           เสนอ
     อาจารย์ณัฐพล บัวอุไร

         จัดทาโดย
   นางสาวกชนิภา ร่วมพัฒนกิจ
ทฤษฎีเกม (Game Theory)
     เป็นแนวทางหรือทฤษฎีที่ใช้ในการเจรจาต่อรองที่มีการศึกษาและนาไปใช้กันในวงกว้าง ความจริงนั้นทฤษฎีเกม(Game
Theory) นั้นเป็นทฤษฎีที่มีการใช้กันในวงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในทางรัฐศาสตร์ ตลอดจนเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเจรจา
ต่อรอง ทฤษฎีเกมสามารถที่จะใช้ในการวิเคราะห์และพยากรณ์พฤติกรรมของคู่เจรจาหรือในกรณีที่เป็นการเจรจาทางการทูต
นั้นก็สามารถที่จะพยากรณ์ถึงผลการเจรจาที่จะเกิดขึ้น ในทางวิชารัฐศาสตร์นั้นทฤษฎีเกมก็เคยถูกหยิบยกมาอธิบายในเรื่อง
เกี่ยวกับพฤติกรรมของประเทศต่างๆในโลกยุคสงครามเย็นอันเป็นโลกซึ่งมีการแบ่งระบบการเมืองออกเป็น 2 ขั้ว หรือทางวิชา
เศรษฐศาสตร์ทฤษฎีเกมได้ถูกนาไปใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษาพฤติกรรมกลยุทธ์(strategic behavior)

   ทฤษฎีเกมนั้นตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่าคู่เจรจานั้นจะมีความรู้ความสามารถเท่าเทียมกันและมีข้อมูลมากเท่าเทียมกันซึ่ง
องค์ประกอบดังกล่าวจะส่งผลให้การเจรจามีข้อยุติในลักษณะที่คาดการณ์ได้ อย่างไรก็ตามทฤษฎีเกมนั้นสามารถที่จะใช้ใน
การอธิบายได้อย่างดีในกรณีที่ถ้าหากว่าคู่เจรจาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีข้อมูลที่ดีกว่าและมีการเตรียมการที่ดีกว่าย่อมประสบ
ความสาเร็จและได้เปรียบอีกฝ่ายหนึ่งที่ขาดข้อมูลและการเตรียมการ
ทฤษฎีเกม (Game Theory)
จาแนกออกเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้

1.เกมศูนย์ (Zero Sum Game)
พื้นฐานข้อเท็จจริงของเกมศูนย์คือการเจรจาใดๆก็ตามจะมีผู้ได้กับผู้เสีย มีผู้กล่าวกันว่าเกมศูนย์มาจากเกมการ
เล่นไพ่ ในการเจรจานั้นถ้าหากมีผู้ได้และผู้เสียทาให้การเจรจาจะไม่ประสบผลสาเร็จเนื่องจากผู้เสียจะไม่ยอม
เจรจาด้วย การเจรจานั้นจะต้องตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าคู่เจรจาจะได้ผลประโยชน์จากการเจรจาร่วมกัน ลักษณะ
เกมศูนย์จึงเป็นตัวอธิบายได้ว่าการเจรจาจะไม่ประสบผลสาเร็จ นอกเสียจากการเจรจานั้นจะมีลักษณะที่มีอานาจ
ต่อรองที่ไม่เท่ากัน

2.เกมลบ (Negative Sum Game)
ตามหลักการนี้ก็คือ การเจรจาใดๆ ก็ตามที่ส่งผลกระทบซึ่งจะทาให้คู่เจรจาเสียผลประโยชน์ การเจรจาดังกล่าวนั้น
จะไม่มีวันไปสู่ข้อยุติเพราะว่าข้อยุติที่เกิดขึ้นนั้นจะส่งผลในแง่ลบต่อทุกฝ่ายๆ ดังนั้นทุกฝ่ายจึงต้องพยายามหาทาง
เจรจาต่อกันไม่ให้นาไปสู่เกมลบ

3.เกมบวก (Positive Sum Game)
เกมบวก คือ การเจรจาที่ทุกฝ่ายประสบความสาเร็จและได้ผลประโยชน์ อย่างเท่าเทียม การเจรจาจึงต้องอยู่บน
สมมติฐานว่าความสาเร็จต้องขึ้นอยู่กับข้อสรุปที่ทุกฝ่ายเป็นฝ่ายได้ (Win – Win Position)
ทฤษฎี H.M.L ในการเจรจาต่อรอง

     การเจรจาต่อรอง หมายถึง กระบวนการในการที่จะให้คู่เจรจาเดินทางเข้าหากันเพื่อมุ่งเป้าหมายก็คือข้อยุติที่มีผลประโยชน์
ร่วมกันเป็นเดิมพัน กระบวนการในการเจรจาดังกล่าวเรียกว่า “Negotiating Continuum” ในการเจรจานั้นคู่เจรจาแต่
ละฝ่ายจะต้องมีการกาหนดเป้าหมายของตนเองในการเจรจา เป้าหมายในการเจรจานั้นมี 3 ระดับ เป้าหมายดังกล่าวเราเรียกว่า “
ทฤษฎี H.M.L.”

-“H” (High) เป้าหมายระดับสูง หมายถึง เป้าหมายที่คู่เจรจาต้องการบรรลุเป้าหมายสูงสุด คือ บรรลุ 100% ถือได้ว่าเป็น
เป้าหมายอุดมคติ (Ideal Position) เป้าหมายดังกล่าวเป็นเป้าหมายที่คู่เจรจาอยากจะให้เกิดขึ้นสูงสุด

-“M” (Medium) เป้าหมายระดับกลาง หมายถึง เป้าหมายที่คู่เจรจาต้องการบรรลุเป้าหมายระดับ 75 %

-“L”(Low) เป้าหมายระดับต่าสุด หมายถึง เป้าหมายที่คู่เจรจาต้องการจะได้อย่างน้อย 50 % เราเรียกระดับนี้ว่าระดับที่
เป็นขอบเขตจากัด (Limit Position) ในการเจรจาถ้าต่ากว่าระดับนี้คู่เจรจาจะเสียมากกว่าได้ซึ่งเกินขอบเขตที่เขาจะยอม
เจรจาด้วย
ในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันระหว่างบุคคลตั้งแต่ 2 ฝ่าย หรือหน่วยงาน 2 หน่วยงานขึ้น
ไป เรียกการแข่งขันนี้ว่า เกม (game)สาหรับบุคคลหรือหน่วยงานที่แข่งขันกัน เรียกว่า ผู้เล่นเกม
(players) ภายใต้สภาวการณ์ดังกล่าวนี้ ผู้เล่นเกมจะตัดสินใจอย่างไรจึงจะได้รับ
ผลตอบแทน หรือประโยชน์เหนือฝ่ายตรงข้าม ทฤษฎีเกม(game theory) จะเป็นเครื่องมือ
ชนิดหนึ่ง ที่ช่วยให้ผู้เล่นเกมตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เล่นเกมจะมีคู่แข่งขัน เรียกว่าฝ่าย
ตรงข้าม และผู้เล่นเกมแต่ละคนจะเลือกวิธีเล่นเกมได้หลายวิธี ซึ่งการเลือกวิธี เล่นเกมนี้จะ
เรียกว่า

   กลยุทธ์หรือกลวิธ ี(Strategies) กลวิธีที่ผู้ตัดสินใจเลือกเล่นแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

1.กลยุทธ์แท้(pure Strategies) ผู้เล่นเกมที่เลือกใช้กลวิธีประเภทนี้         จะเลือกเล่นเกมโดย
วิธีใดวิธีหนึ่งตลอดเวลา
2.กลยุทธ์ผสม (mixed startegies )                 ผู้เล่นเกมที่เลือกใช้กลวิธีประเภทนี้ จะเลือกเล่น
เกมโดยเล่นหลายวิธีผสมกัน
แหล่งอ้างอิง
http://www.oknation.net/blog/Duplex/2008/08/22/entry-1

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%
B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1
The end

More Related Content

Viewers also liked

Social TV and the Rise of Companion Screens
Social TV and the Rise of Companion ScreensSocial TV and the Rise of Companion Screens
Social TV and the Rise of Companion ScreensSteve Weaver
 
Scala @ soundcloud [scaladores]
Scala @ soundcloud [scaladores]Scala @ soundcloud [scaladores]
Scala @ soundcloud [scaladores]Flavio W. Brasil
 
พระราชบัญญัติ
พระราชบัญญัติพระราชบัญญัติ
พระราชบัญญัติhong11120
 
La riforma scolastica
La riforma scolasticaLa riforma scolastica
La riforma scolasticaandymene
 
Front Page
Front PageFront Page
Front Pageagelso
 
26º domingo tob 2015 bene pagola
26º domingo tob 2015 bene pagola26º domingo tob 2015 bene pagola
26º domingo tob 2015 bene pagolanuria04
 
Aplikasi Skype dalam P&P Teknologi Maklumat tingkatan 4
Aplikasi Skype dalam P&P Teknologi Maklumat tingkatan 4Aplikasi Skype dalam P&P Teknologi Maklumat tingkatan 4
Aplikasi Skype dalam P&P Teknologi Maklumat tingkatan 4Yuyu Wahida
 
Scaling Data Servers via Cooperative Caching
Scaling Data Servers via Cooperative CachingScaling Data Servers via Cooperative Caching
Scaling Data Servers via Cooperative Cachingsiddreddy
 
The Death of TV? Hardly...
The Death of TV? Hardly...The Death of TV? Hardly...
The Death of TV? Hardly...Steve Weaver
 
Awal sebelum membeli rumah
Awal sebelum membeli rumahAwal sebelum membeli rumah
Awal sebelum membeli rumahRahmatian Zaleh
 
Hunting snake
Hunting snakeHunting snake
Hunting snakegabitaa8
 
Model segitiga (2010) slide present
Model segitiga (2010) slide presentModel segitiga (2010) slide present
Model segitiga (2010) slide presentYuyu Wahida
 
Onalytica-CyberSecurity-2015-Top-100-Influencers-And-Brands
Onalytica-CyberSecurity-2015-Top-100-Influencers-And-BrandsOnalytica-CyberSecurity-2015-Top-100-Influencers-And-Brands
Onalytica-CyberSecurity-2015-Top-100-Influencers-And-BrandsMark W. Bennett
 

Viewers also liked (20)

Social TV and the Rise of Companion Screens
Social TV and the Rise of Companion ScreensSocial TV and the Rise of Companion Screens
Social TV and the Rise of Companion Screens
 
Scala @ soundcloud [scaladores]
Scala @ soundcloud [scaladores]Scala @ soundcloud [scaladores]
Scala @ soundcloud [scaladores]
 
พระราชบัญญัติ
พระราชบัญญัติพระราชบัญญัติ
พระราชบัญญัติ
 
Repentance
RepentanceRepentance
Repentance
 
La riforma scolastica
La riforma scolasticaLa riforma scolastica
La riforma scolastica
 
Front Page
Front PageFront Page
Front Page
 
26º domingo tob 2015 bene pagola
26º domingo tob 2015 bene pagola26º domingo tob 2015 bene pagola
26º domingo tob 2015 bene pagola
 
Aplikasi Skype dalam P&P Teknologi Maklumat tingkatan 4
Aplikasi Skype dalam P&P Teknologi Maklumat tingkatan 4Aplikasi Skype dalam P&P Teknologi Maklumat tingkatan 4
Aplikasi Skype dalam P&P Teknologi Maklumat tingkatan 4
 
Scaling Data Servers via Cooperative Caching
Scaling Data Servers via Cooperative CachingScaling Data Servers via Cooperative Caching
Scaling Data Servers via Cooperative Caching
 
The Death of TV? Hardly...
The Death of TV? Hardly...The Death of TV? Hardly...
The Death of TV? Hardly...
 
Awal sebelum membeli rumah
Awal sebelum membeli rumahAwal sebelum membeli rumah
Awal sebelum membeli rumah
 
Design process
Design processDesign process
Design process
 
Hunting snake
Hunting snakeHunting snake
Hunting snake
 
Model segitiga (2010) slide present
Model segitiga (2010) slide presentModel segitiga (2010) slide present
Model segitiga (2010) slide present
 
A Call to the Master
A Call to the MasterA Call to the Master
A Call to the Master
 
Horses
HorsesHorses
Horses
 
Atrodiet atbilstošo literatūras varoņu tēlu
Atrodiet atbilstošo literatūras varoņu tēluAtrodiet atbilstošo literatūras varoņu tēlu
Atrodiet atbilstošo literatūras varoņu tēlu
 
Onalytica-CyberSecurity-2015-Top-100-Influencers-And-Brands
Onalytica-CyberSecurity-2015-Top-100-Influencers-And-BrandsOnalytica-CyberSecurity-2015-Top-100-Influencers-And-Brands
Onalytica-CyberSecurity-2015-Top-100-Influencers-And-Brands
 
注册及发布信息用资料
注册及发布信息用资料注册及发布信息用资料
注册及发布信息用资料
 
Bennett_Resume-2016
Bennett_Resume-2016Bennett_Resume-2016
Bennett_Resume-2016
 

Game theory

  • 1. Game Theory เสนอ อาจารย์ณัฐพล บัวอุไร จัดทาโดย นางสาวกชนิภา ร่วมพัฒนกิจ
  • 2. ทฤษฎีเกม (Game Theory) เป็นแนวทางหรือทฤษฎีที่ใช้ในการเจรจาต่อรองที่มีการศึกษาและนาไปใช้กันในวงกว้าง ความจริงนั้นทฤษฎีเกม(Game Theory) นั้นเป็นทฤษฎีที่มีการใช้กันในวงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในทางรัฐศาสตร์ ตลอดจนเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเจรจา ต่อรอง ทฤษฎีเกมสามารถที่จะใช้ในการวิเคราะห์และพยากรณ์พฤติกรรมของคู่เจรจาหรือในกรณีที่เป็นการเจรจาทางการทูต นั้นก็สามารถที่จะพยากรณ์ถึงผลการเจรจาที่จะเกิดขึ้น ในทางวิชารัฐศาสตร์นั้นทฤษฎีเกมก็เคยถูกหยิบยกมาอธิบายในเรื่อง เกี่ยวกับพฤติกรรมของประเทศต่างๆในโลกยุคสงครามเย็นอันเป็นโลกซึ่งมีการแบ่งระบบการเมืองออกเป็น 2 ขั้ว หรือทางวิชา เศรษฐศาสตร์ทฤษฎีเกมได้ถูกนาไปใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษาพฤติกรรมกลยุทธ์(strategic behavior) ทฤษฎีเกมนั้นตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่าคู่เจรจานั้นจะมีความรู้ความสามารถเท่าเทียมกันและมีข้อมูลมากเท่าเทียมกันซึ่ง องค์ประกอบดังกล่าวจะส่งผลให้การเจรจามีข้อยุติในลักษณะที่คาดการณ์ได้ อย่างไรก็ตามทฤษฎีเกมนั้นสามารถที่จะใช้ใน การอธิบายได้อย่างดีในกรณีที่ถ้าหากว่าคู่เจรจาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีข้อมูลที่ดีกว่าและมีการเตรียมการที่ดีกว่าย่อมประสบ ความสาเร็จและได้เปรียบอีกฝ่ายหนึ่งที่ขาดข้อมูลและการเตรียมการ
  • 3. ทฤษฎีเกม (Game Theory) จาแนกออกเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้ 1.เกมศูนย์ (Zero Sum Game) พื้นฐานข้อเท็จจริงของเกมศูนย์คือการเจรจาใดๆก็ตามจะมีผู้ได้กับผู้เสีย มีผู้กล่าวกันว่าเกมศูนย์มาจากเกมการ เล่นไพ่ ในการเจรจานั้นถ้าหากมีผู้ได้และผู้เสียทาให้การเจรจาจะไม่ประสบผลสาเร็จเนื่องจากผู้เสียจะไม่ยอม เจรจาด้วย การเจรจานั้นจะต้องตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าคู่เจรจาจะได้ผลประโยชน์จากการเจรจาร่วมกัน ลักษณะ เกมศูนย์จึงเป็นตัวอธิบายได้ว่าการเจรจาจะไม่ประสบผลสาเร็จ นอกเสียจากการเจรจานั้นจะมีลักษณะที่มีอานาจ ต่อรองที่ไม่เท่ากัน 2.เกมลบ (Negative Sum Game) ตามหลักการนี้ก็คือ การเจรจาใดๆ ก็ตามที่ส่งผลกระทบซึ่งจะทาให้คู่เจรจาเสียผลประโยชน์ การเจรจาดังกล่าวนั้น จะไม่มีวันไปสู่ข้อยุติเพราะว่าข้อยุติที่เกิดขึ้นนั้นจะส่งผลในแง่ลบต่อทุกฝ่ายๆ ดังนั้นทุกฝ่ายจึงต้องพยายามหาทาง เจรจาต่อกันไม่ให้นาไปสู่เกมลบ 3.เกมบวก (Positive Sum Game) เกมบวก คือ การเจรจาที่ทุกฝ่ายประสบความสาเร็จและได้ผลประโยชน์ อย่างเท่าเทียม การเจรจาจึงต้องอยู่บน สมมติฐานว่าความสาเร็จต้องขึ้นอยู่กับข้อสรุปที่ทุกฝ่ายเป็นฝ่ายได้ (Win – Win Position)
  • 4. ทฤษฎี H.M.L ในการเจรจาต่อรอง การเจรจาต่อรอง หมายถึง กระบวนการในการที่จะให้คู่เจรจาเดินทางเข้าหากันเพื่อมุ่งเป้าหมายก็คือข้อยุติที่มีผลประโยชน์ ร่วมกันเป็นเดิมพัน กระบวนการในการเจรจาดังกล่าวเรียกว่า “Negotiating Continuum” ในการเจรจานั้นคู่เจรจาแต่ ละฝ่ายจะต้องมีการกาหนดเป้าหมายของตนเองในการเจรจา เป้าหมายในการเจรจานั้นมี 3 ระดับ เป้าหมายดังกล่าวเราเรียกว่า “ ทฤษฎี H.M.L.” -“H” (High) เป้าหมายระดับสูง หมายถึง เป้าหมายที่คู่เจรจาต้องการบรรลุเป้าหมายสูงสุด คือ บรรลุ 100% ถือได้ว่าเป็น เป้าหมายอุดมคติ (Ideal Position) เป้าหมายดังกล่าวเป็นเป้าหมายที่คู่เจรจาอยากจะให้เกิดขึ้นสูงสุด -“M” (Medium) เป้าหมายระดับกลาง หมายถึง เป้าหมายที่คู่เจรจาต้องการบรรลุเป้าหมายระดับ 75 % -“L”(Low) เป้าหมายระดับต่าสุด หมายถึง เป้าหมายที่คู่เจรจาต้องการจะได้อย่างน้อย 50 % เราเรียกระดับนี้ว่าระดับที่ เป็นขอบเขตจากัด (Limit Position) ในการเจรจาถ้าต่ากว่าระดับนี้คู่เจรจาจะเสียมากกว่าได้ซึ่งเกินขอบเขตที่เขาจะยอม เจรจาด้วย
  • 5. ในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันระหว่างบุคคลตั้งแต่ 2 ฝ่าย หรือหน่วยงาน 2 หน่วยงานขึ้น ไป เรียกการแข่งขันนี้ว่า เกม (game)สาหรับบุคคลหรือหน่วยงานที่แข่งขันกัน เรียกว่า ผู้เล่นเกม (players) ภายใต้สภาวการณ์ดังกล่าวนี้ ผู้เล่นเกมจะตัดสินใจอย่างไรจึงจะได้รับ ผลตอบแทน หรือประโยชน์เหนือฝ่ายตรงข้าม ทฤษฎีเกม(game theory) จะเป็นเครื่องมือ ชนิดหนึ่ง ที่ช่วยให้ผู้เล่นเกมตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เล่นเกมจะมีคู่แข่งขัน เรียกว่าฝ่าย ตรงข้าม และผู้เล่นเกมแต่ละคนจะเลือกวิธีเล่นเกมได้หลายวิธี ซึ่งการเลือกวิธี เล่นเกมนี้จะ เรียกว่า กลยุทธ์หรือกลวิธ ี(Strategies) กลวิธีที่ผู้ตัดสินใจเลือกเล่นแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.กลยุทธ์แท้(pure Strategies) ผู้เล่นเกมที่เลือกใช้กลวิธีประเภทนี้ จะเลือกเล่นเกมโดย วิธีใดวิธีหนึ่งตลอดเวลา 2.กลยุทธ์ผสม (mixed startegies ) ผู้เล่นเกมที่เลือกใช้กลวิธีประเภทนี้ จะเลือกเล่น เกมโดยเล่นหลายวิธีผสมกัน