SlideShare a Scribd company logo
โครงงานคอมพิวเตอร์
Computer Project
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนสนใจ
โดยนักเรียนจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้
ความรู้ กระบวนการทางวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และวัสดุอุปกรณ์ตลอดจนทักษะ
พื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทาโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน
หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทาโครงงานเรื่อง
ดังกล่าวได้แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือ
ศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้จุดมุ่งหมายสาคัญของการทาโครงงานเป็นการเปิดโอกาส
ให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้นหรือค้นคว้า
หาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเกม
คอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรม
จริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับเพื่อนมนุษย์และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
ประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์แบ่งประเภทวัตถุประสงค์ของการใช้งานได้ดังนี้
1.การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ใน
การผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรม บทเรียน หรือหน่วยการเรียนรู้ ซึ่งอาจต้องมี
แบบฝึกหัดทบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อมให้ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือราย
กลุ่ม การสอนด้วยคอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ อาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียน
เข้ามาศึกษาด้วยตนเองโดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อ
เพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงานประเภทนี้ เช่น การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน พลังงานทดแทน อาหาร
สี่ภาค สถานที่ท่องเที่ยวมหัศจรรย์ในเมืองไทย สนุกกับตารางธาตุ สานวนไทยพาสนุกท่องเที่ยว
มหัศจรรย์ในเมืองไทย สนุกกับตารางธาตุ สานวนไทยพาสนุก
2.การพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือ
ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่างๆโดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปชอฟต์และเครื่องมือตัวอย่างโครงงาน
ประเภทนี้เช่น ซอฟต์แวร์ระบบงานการกีฬาซอฟต์แวร์สารบรรณสาเร็จรูป ซอฟต์แวร์
ระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น เครื่องช่วยคนพิการแขนอ่านหนังสือเครื่องรดน้า
ต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องให้อาหารไก่อัตโนมัติ หุ่นยนต์
ทางานบ้า
3. การทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย
จาลองงาน ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จิรงได้และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษา
รวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง
หลักการอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือ คาอธิบาย พร้อมทั้งการจาลองทฤษฎีด้วย
คอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทา
ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้ มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมี
ความรู้ในเรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานประเภทนี้ เช่น การจุดระเบิดการเกิด
คลื่นยักษ์สึนามิ การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุ
แบบสามมิติ
4. การประยุกต์ใช้งาน โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ
สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน โดยประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรืออุปการณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือ
ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้
จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ
ออกแบบและพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบ
คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์โครงงานประเภทนี้ผู้เรียน
ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ภาษาโปรแกรมและเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่างโครงงานประเภทนี้ เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร
ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์การเลือกเครื่องเรือนให้เหมาะสมกับขนาดและสี
ของห้อง
5. การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์โครงงานประเภทนี้เน้นโครงงานที่ใช้
คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมประยุกต์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีใครทามา
ก่อนเพื่อใช้เฉพาะงาน ตัวอย่างโครงงานประเภทนี้ เช่น โปรแกรมคัดแยกลูกค้าของ
ธนาคาร โปรแกรมการจัดรายการอาหารให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาล
ขั้นตอนการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมที่ต้องทาอย่างต่อเนื่องหลายขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนจะมี
ความสาคัญต่อโครงงานนั้นๆ โดยขั้นตอนของการทาโครงงานแบ่งได้6 ขั้นตอน ดังนี้
1.การคัดเลือกหัวข้อที่สนใจ เรื่องที่นามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มา
จากปัญหา คาถาม ความสนใจ การสังเกต สิ่งต่างๆ ประสบการณ์ของตนเองหรือสิ่งของต่างๆ
รอบตัวที่เกี่ยวเนื่องกับระบบคอมพิวเตอร์ เช่น การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์
วารสาร เว็บไซด์ทางอินเทอร์เน็ต การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ การฟังบรรยายทางวิชาการ
รายการวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้ง การสนทนา อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเพื่อน
ผู้เรียน หรือกับบุคคลอื่นๆ กิจกรรมการเรียน การสอนในโรงเรียน งานอดิเรกของผู้เรียน การเข้า
ชมงานนิทรรศการ หรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
2. การศึกษาค้นคว้าเอกสาร การได้ศึกษาและเยี่ยมชมโครงงานคอมพิวเตอร์ใน
งานนิทรรศการและศึกษาค้นคว้าเอกสาร รายงาน โครงงานคอมพิวเตอร์จากเว็บไซด์ต่างๆ
ทั่วโลก และแหล่งข้อมูลต่างๆ ซึ่งรวมถึงการขอคาปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ จะ
ช่วยให้มีแนวคิดในการกาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งได้รับความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถออกแบบและวางแผน
ดาเนินการทาโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม โดยจะต้องบันทึกสรุปสาระสาคัญไว้ด้วย
เสมอ
3. การจัดทาข้อเสนอโครงงาน เป็นการกาหนดกรอบแนวคิดและวางแผนการ
พัฒนาไว้ล่วงหน้าเพื่อช่วยให้สามารถคาดการณ์หรือทานายความเป็นไปได้ของการทา
โครงงานนี้ เสนอหัวข้อโครงงานเพื่อขอคาปรึกษาจากอาจารย์ที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญที่
เกี่ยวข้อง
4.การพัฒนาโครงงาน เป็นการลงมือทาโครงงานตามข้อเสนอโครงงานที่
วางแผนไว้ ตามขั้นตอนต่อไปนี้
4.1 การเตรียมการ เป็นการเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุ
อื่นๆที่จะใช้ในการทดลอง พร้อมทั้งจัดเตรียมสถานที่สาหรับใช้ในการทา
โครงงาน เตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกการทากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทากิจกรรม
โครงงาน ดังนี้ วิธีการปฏิบัติ ผลการปฏิบัติ ปัญหาและแนวทางแก้ไข รวมทั้ง
ข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ เก็บเป็นแฟ้มข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์
4.2 การลงมือพัฒนา เป็นการปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในข้อเสนอ
โครงงาน แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ ถ้าพบว่าจะช่วยทาให้ผลงานดี
ขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงจัดระบบการทางานโดยทาเป็นส่วนหลักสาคัญๆให้แล้งเสร็จ
ก่อน จึงค่อยทาส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มาก
ขึ้น โดยคานึงถึงความปลอดภัย และระยะเวลาในการทางาน
4.3 การตรวจสอบผลงานและแก้ไข เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน
เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้นมานั้น ทางานได้ถูกต้องตรงข้ามกับความต้องการที่ระบุ
ไว้ในเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพหรือไม่
4.4 การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ เป็นการสรุปการพัฒนาโครงงานด้วย
ข้อความที่กระชับครอบคลุม และทาการอภิปรายผลเพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่
ค้นพบจากการทาโครงงาน สามารถพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนาไปหา
ความสัมพันธ์กับผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงการนาหลักการทฤษฎี หรือ
ผลงานของผู้อื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลที่ได้ด้วย
4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เป็นการเขียน
ข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาต่อไป ซึ่งอาจได้มาจากที่นักเรียนพบข้อสังเกต ประเด็น
ที่สาคัญหรือปัญหาต่างๆ ในระหว่างการพัฒนาโครงงาน
5.การจัดทารายงาน เป็นการรวบรวมข้อมูล ผลการวิเคราะห์และ
อภิปราย ผลการพัฒนาโครงงานซึ่งรวมถึงคู่มือการใช้งานมาจัดทาเป็นรายงาน เพื่อสื่อ
ความหมายให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีการดาเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่
ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงาน ในการเขียนรายงานควร
ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ
ดังต่อไปนี้
5.1 ส่วนนา เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงาน ซึ่งประกอบด้วย ชื่อ
โครงงาน ชื่อสาขาของงานวิจัย ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาคา
ขอบคุณ บุคลากรหรือหน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วยช่วยให้โครงงานนี้สาเร็จ และบทคัดย่อ
ซึ่งอธิบายที่มาความสาคัญของโครงงาน วัตถุประสงค์ วิธีการดาเนินงาน และผลที่
ได้รับ ตลอดจนข้อสรุปต่างๆอย่างย่อ
5.2 บทนา เป็นรายละเอียดเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบด้วยที่มาและ
ความสาคัญของโครงงาน วัตถุประสงค์ และขอบเขตของโครงงาน
5.3 หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือ
หลักการ ทฤษฎีหรือวิธีการที่จะนามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุผลงาน
ของผู้อื่นที่นามาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติม
5.4 วิธีดาเนินการ เป็นการอธิบายขั้นตอนการดาเนินงานโดยละเอียดระบุ
ปัญหาหรืออุปสรรคที่พบ วิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการ
ทางาน
5.5 ผลการศึกษา เป็นการนาเสนอข้อมูลให้ผู้อื่นเข้าใจโครงงานได้โดยง่าย ด้วย
การนาเสนอเป็นตาราง หรือกราฟ หรือข้อความ
5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะเป็นการอธิบายผลสรุปที่ได้จากการทางาน ถ้ามี
การตั้งสมมุติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมุติฐานที่ตั้งไว้หรือ
ยังสรุปไม่ได้นอกจากนั้นควรกล่าวถึงการนาผลการทดลองไปใช้ประโยชน์อุปสรรคของ
การทาโครงงาน ข้อสังเกตที่สาคัญ หรือข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นจากการทา
โครงงานนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงโครงงาน หากมี
ผู้สนใจศึกษาค้นคว้าในเรื่องนี้และควรระบุประโยชน์ที่ได้รับจากการทาโครงงาน รวมถึง
ประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจากการนาผลงานของโครงงานไปใช้
5.7 บรรณนุกรม เป็นการรวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร และเว็บไซต์
ต่างๆที่ผู้ทาโครงงานใช้ค้นคว้า เพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ เพื่อนามาใช้
ประโยชน์ในการทาโครงงานนี้ ซึ่งการเขียนเอกสารบรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องเขียนตาม
หลักการเขียน
5.8 คู่มือการใช้งาน หากโครงงานที่จัดทาเป็นการพัฒนาขึ้นมาใหม่ ควรจัดทา
คู่มืออธิบายวิธีการใช้งานผลงานนั้นโดยละเอียด
6.การนาเสนอและเผยแพร่ เป็นขั้นตอนที่ทาให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงาน
ของผู้จัดทาซึ่งอาจนาเสนอได้หลายรูปแบบเช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบาย
ประกอบการจัดนิทรรศการโดยใช้โปสเตอร์และอธิบายด้วยคาพูดการใช้เครื่องฉายภาพ
ทึบแสงหรือโปร่งแสงร่วมกับเอกสารหรือแผ่นใส การใช้คอมพิวเตอร์และซอฟแวร์
ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยท์นาเสนอร่วมกับโปรเจกเตอร์และจอรับภาพการสร้างเว็บ
เพจโดยผลงานที่นาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบไปด้วยรายละเอียดและวิธีการ
บรรณานุกรม
https://sites.google.com/site/neuxhakhorng
ngankhxmphiwtexr/khan-txn-kar-phathna-
khorng-ngan-khxmphiwtexr
ผู้จัดทา
นายปฏิพัทธ์ เรือนสุข เลขที่9 นายพิจักษณ์ วิรัช เลขที่24
Com.3

More Related Content

What's hot

ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
Red Clasper
 
กิจกรรมที่2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์ กิจกรรมที่2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์
paifahnutya
 
กิจกรรมที่ 1
กิจกรรมที่ 1กิจกรรมที่ 1
กิจกรรมที่ 1
Chonrada Chaiyupathum
 
งานคอม กิจกรรมที่2
งานคอม กิจกรรมที่2งานคอม กิจกรรมที่2
งานคอม กิจกรรมที่2
phichaya henphrom
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์phaizaza500
 
กิจกรรมที่ 2-โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 2-โครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 2-โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 2-โครงงานคอมพิวเตอร์
Alòne Home
 
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
Natthaphat Phumphuang
 
Computer project
Computer  projectComputer  project
Computer project
Giftzii
 
หมูนวมงานคอม (1)
หมูนวมงานคอม (1)หมูนวมงานคอม (1)
หมูนวมงานคอม (1)
Aom Nachanok
 
Www
WwwWww
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Notto Notto
 
Bar and two ON Tour
Bar and two ON TourBar and two ON Tour
Bar and two ON Tour
smilebar47836
 
โครงงานของเรา (2)
โครงงานของเรา (2)โครงงานของเรา (2)
โครงงานของเรา (2)
wariety
 
กิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-dddd
กิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-ddddกิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-dddd
กิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-dddd
Korakrit Jindadang
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Chatpreuk Reda
 
Phuwanon22
Phuwanon22Phuwanon22
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ศรัณย์พร ชำนาญการ
 

What's hot (19)

Presentation607.45
Presentation607.45Presentation607.45
Presentation607.45
 
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์ กิจกรรมที่2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่ 1
กิจกรรมที่ 1กิจกรรมที่ 1
กิจกรรมที่ 1
 
งานคอม กิจกรรมที่2
งานคอม กิจกรรมที่2งานคอม กิจกรรมที่2
งานคอม กิจกรรมที่2
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่ 2-โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 2-โครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 2-โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 2-โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
 
Computer project
Computer  projectComputer  project
Computer project
 
หมูนวมงานคอม (1)
หมูนวมงานคอม (1)หมูนวมงานคอม (1)
หมูนวมงานคอม (1)
 
Www
WwwWww
Www
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Bar and two ON Tour
Bar and two ON TourBar and two ON Tour
Bar and two ON Tour
 
โครงงานของเรา (2)
โครงงานของเรา (2)โครงงานของเรา (2)
โครงงานของเรา (2)
 
Polly pele
Polly pelePolly pele
Polly pele
 
กิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-dddd
กิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-ddddกิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-dddd
กิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-dddd
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Phuwanon22
Phuwanon22Phuwanon22
Phuwanon22
 
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
 

Similar to Com.3

ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
กิตติธัช งามดี
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
PooncharatKuntanat1
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Tangkwa Zar
 
computer project
computer projectcomputer project
computer projectTangkwa Zar
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
ธนัชพร ส่งงาน
 
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
Muk Krailop
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
Wachiraya Thasnapanth
 
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
Kaow' St
 
Natapol 13 604
Natapol 13 604Natapol 13 604
Natapol 13 604
tanfish3
 
เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานเรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Mo Taengmo
 
Computer project 2 29 32
Computer project 2 29 32Computer project 2 29 32
Computer project 2 29 32
ThanyawutChanpolkran
 
ใบงานที่ 2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์
ทาม ได้ไหมดาว
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Notto Notto
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Krongpeth Saengwongkij
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Krongpeth Saengwongkij
 

Similar to Com.3 (20)

ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Im gay
Im gayIm gay
Im gay
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
computer project
computer projectcomputer project
computer project
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
AP1
AP1AP1
AP1
 
ใบงานที่2..
ใบงานที่2..ใบงานที่2..
ใบงานที่2..
 
Natapol 13 604
Natapol 13 604Natapol 13 604
Natapol 13 604
 
เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานเรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 
Computer project 2 29 32
Computer project 2 29 32Computer project 2 29 32
Computer project 2 29 32
 
ใบงานที่ 2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2-3 โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
cpt
cptcpt
cpt
 
AP1
AP1AP1
AP1
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 

More from ssuserbed7e4

Computer 11-23
Computer 11-23Computer 11-23
Computer 11-23
ssuserbed7e4
 
Work2 602 04-20
Work2 602 04-20Work2 602 04-20
Work2 602 04-20
ssuserbed7e4
 
Computer 11-23
Computer 11-23Computer 11-23
Computer 11-23
ssuserbed7e4
 
Computer 11-23
Computer 11-23Computer 11-23
Computer 11-23
ssuserbed7e4
 
Project 23-191118045036
Project 23-191118045036Project 23-191118045036
Project 23-191118045036
ssuserbed7e4
 
Project 23
Project 23Project 23
Project 23
ssuserbed7e4
 
Project 23
Project 23Project 23
Project 23
ssuserbed7e4
 
Project 23
Project 23Project 23
Project 23
ssuserbed7e4
 
Fire wok 1
Fire wok 1Fire wok 1
Fire wok 1
ssuserbed7e4
 
2562 final-project 17
2562 final-project 172562 final-project 17
2562 final-project 17
ssuserbed7e4
 
Project13
Project13Project13
Project13
ssuserbed7e4
 
Project
ProjectProject
Project
ssuserbed7e4
 

More from ssuserbed7e4 (20)

Com.1
Com.1Com.1
Com.1
 
Com.2
Com.2Com.2
Com.2
 
Computer 11-23
Computer 11-23Computer 11-23
Computer 11-23
 
Work2 602 04-20
Work2 602 04-20Work2 602 04-20
Work2 602 04-20
 
Computer 11-23
Computer 11-23Computer 11-23
Computer 11-23
 
Computer 11-23
Computer 11-23Computer 11-23
Computer 11-23
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
Project 23-191118045036
Project 23-191118045036Project 23-191118045036
Project 23-191118045036
 
Project 23
Project 23Project 23
Project 23
 
Project 23
Project 23Project 23
Project 23
 
Project 23
Project 23Project 23
Project 23
 
Fire wok 1
Fire wok 1Fire wok 1
Fire wok 1
 
Jern
JernJern
Jern
 
2562 final-project 17
2562 final-project 172562 final-project 17
2562 final-project 17
 
Hyper36
Hyper36Hyper36
Hyper36
 
Fire wok
Fire wokFire wok
Fire wok
 
Project13
Project13Project13
Project13
 
Project
ProjectProject
Project
 
Bio
BioBio
Bio
 

Com.3

  • 2. โครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนสนใจ โดยนักเรียนจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ ความรู้ กระบวนการทางวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และวัสดุอุปกรณ์ตลอดจนทักษะ พื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทาโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทาโครงงานเรื่อง ดังกล่าวได้แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือ ศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้จุดมุ่งหมายสาคัญของการทาโครงงานเป็นการเปิดโอกาส ให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้นหรือค้นคว้า หาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเกม คอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรม จริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับเพื่อนมนุษย์และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
  • 3. ประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์แบ่งประเภทวัตถุประสงค์ของการใช้งานได้ดังนี้ 1.การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ใน การผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรม บทเรียน หรือหน่วยการเรียนรู้ ซึ่งอาจต้องมี แบบฝึกหัดทบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อมให้ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือราย กลุ่ม การสอนด้วยคอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ อาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียน เข้ามาศึกษาด้วยตนเองโดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อ เพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงานประเภทนี้ เช่น การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน พลังงานทดแทน อาหาร สี่ภาค สถานที่ท่องเที่ยวมหัศจรรย์ในเมืองไทย สนุกกับตารางธาตุ สานวนไทยพาสนุกท่องเที่ยว มหัศจรรย์ในเมืองไทย สนุกกับตารางธาตุ สานวนไทยพาสนุก
  • 4. 2.การพัฒนาเครื่องมือ โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือ ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่างๆโดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปชอฟต์และเครื่องมือตัวอย่างโครงงาน ประเภทนี้เช่น ซอฟต์แวร์ระบบงานการกีฬาซอฟต์แวร์สารบรรณสาเร็จรูป ซอฟต์แวร์ ระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น เครื่องช่วยคนพิการแขนอ่านหนังสือเครื่องรดน้า ต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องให้อาหารไก่อัตโนมัติ หุ่นยนต์ ทางานบ้า 3. การทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย จาลองงาน ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จิรงได้และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษา รวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือ คาอธิบาย พร้อมทั้งการจาลองทฤษฎีด้วย คอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทา ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้ มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมี ความรู้ในเรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานประเภทนี้ เช่น การจุดระเบิดการเกิด คลื่นยักษ์สึนามิ การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุ แบบสามมิติ
  • 5. 4. การประยุกต์ใช้งาน โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน โดยประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปการณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้ จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ ออกแบบและพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบ คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์โครงงานประเภทนี้ผู้เรียน ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ภาษาโปรแกรมและเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างโครงงานประเภทนี้ เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์การเลือกเครื่องเรือนให้เหมาะสมกับขนาดและสี ของห้อง 5. การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์โครงงานประเภทนี้เน้นโครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมประยุกต์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีใครทามา ก่อนเพื่อใช้เฉพาะงาน ตัวอย่างโครงงานประเภทนี้ เช่น โปรแกรมคัดแยกลูกค้าของ ธนาคาร โปรแกรมการจัดรายการอาหารให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาล
  • 6. ขั้นตอนการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมที่ต้องทาอย่างต่อเนื่องหลายขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนจะมี ความสาคัญต่อโครงงานนั้นๆ โดยขั้นตอนของการทาโครงงานแบ่งได้6 ขั้นตอน ดังนี้ 1.การคัดเลือกหัวข้อที่สนใจ เรื่องที่นามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มา จากปัญหา คาถาม ความสนใจ การสังเกต สิ่งต่างๆ ประสบการณ์ของตนเองหรือสิ่งของต่างๆ รอบตัวที่เกี่ยวเนื่องกับระบบคอมพิวเตอร์ เช่น การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์ วารสาร เว็บไซด์ทางอินเทอร์เน็ต การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ การฟังบรรยายทางวิชาการ รายการวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้ง การสนทนา อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเพื่อน ผู้เรียน หรือกับบุคคลอื่นๆ กิจกรรมการเรียน การสอนในโรงเรียน งานอดิเรกของผู้เรียน การเข้า ชมงานนิทรรศการ หรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
  • 7. 2. การศึกษาค้นคว้าเอกสาร การได้ศึกษาและเยี่ยมชมโครงงานคอมพิวเตอร์ใน งานนิทรรศการและศึกษาค้นคว้าเอกสาร รายงาน โครงงานคอมพิวเตอร์จากเว็บไซด์ต่างๆ ทั่วโลก และแหล่งข้อมูลต่างๆ ซึ่งรวมถึงการขอคาปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ จะ ช่วยให้มีแนวคิดในการกาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้รับความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถออกแบบและวางแผน ดาเนินการทาโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม โดยจะต้องบันทึกสรุปสาระสาคัญไว้ด้วย เสมอ 3. การจัดทาข้อเสนอโครงงาน เป็นการกาหนดกรอบแนวคิดและวางแผนการ พัฒนาไว้ล่วงหน้าเพื่อช่วยให้สามารถคาดการณ์หรือทานายความเป็นไปได้ของการทา โครงงานนี้ เสนอหัวข้อโครงงานเพื่อขอคาปรึกษาจากอาจารย์ที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญที่ เกี่ยวข้อง
  • 8. 4.การพัฒนาโครงงาน เป็นการลงมือทาโครงงานตามข้อเสนอโครงงานที่ วางแผนไว้ ตามขั้นตอนต่อไปนี้ 4.1 การเตรียมการ เป็นการเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุ อื่นๆที่จะใช้ในการทดลอง พร้อมทั้งจัดเตรียมสถานที่สาหรับใช้ในการทา โครงงาน เตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกการทากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทากิจกรรม โครงงาน ดังนี้ วิธีการปฏิบัติ ผลการปฏิบัติ ปัญหาและแนวทางแก้ไข รวมทั้ง ข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ เก็บเป็นแฟ้มข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ 4.2 การลงมือพัฒนา เป็นการปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในข้อเสนอ โครงงาน แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ ถ้าพบว่าจะช่วยทาให้ผลงานดี ขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงจัดระบบการทางานโดยทาเป็นส่วนหลักสาคัญๆให้แล้งเสร็จ ก่อน จึงค่อยทาส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มาก ขึ้น โดยคานึงถึงความปลอดภัย และระยะเวลาในการทางาน
  • 9. 4.3 การตรวจสอบผลงานและแก้ไข เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้นมานั้น ทางานได้ถูกต้องตรงข้ามกับความต้องการที่ระบุ ไว้ในเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพหรือไม่ 4.4 การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ เป็นการสรุปการพัฒนาโครงงานด้วย ข้อความที่กระชับครอบคลุม และทาการอภิปรายผลเพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ ค้นพบจากการทาโครงงาน สามารถพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนาไปหา ความสัมพันธ์กับผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงการนาหลักการทฤษฎี หรือ ผลงานของผู้อื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลที่ได้ด้วย 4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เป็นการเขียน ข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาต่อไป ซึ่งอาจได้มาจากที่นักเรียนพบข้อสังเกต ประเด็น ที่สาคัญหรือปัญหาต่างๆ ในระหว่างการพัฒนาโครงงาน
  • 10. 5.การจัดทารายงาน เป็นการรวบรวมข้อมูล ผลการวิเคราะห์และ อภิปราย ผลการพัฒนาโครงงานซึ่งรวมถึงคู่มือการใช้งานมาจัดทาเป็นรายงาน เพื่อสื่อ ความหมายให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีการดาเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงาน ในการเขียนรายงานควร ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้ 5.1 ส่วนนา เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงาน ซึ่งประกอบด้วย ชื่อ โครงงาน ชื่อสาขาของงานวิจัย ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาคา ขอบคุณ บุคลากรหรือหน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วยช่วยให้โครงงานนี้สาเร็จ และบทคัดย่อ ซึ่งอธิบายที่มาความสาคัญของโครงงาน วัตถุประสงค์ วิธีการดาเนินงาน และผลที่ ได้รับ ตลอดจนข้อสรุปต่างๆอย่างย่อ 5.2 บทนา เป็นรายละเอียดเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบด้วยที่มาและ ความสาคัญของโครงงาน วัตถุประสงค์ และขอบเขตของโครงงาน
  • 11. 5.3 หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือ หลักการ ทฤษฎีหรือวิธีการที่จะนามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุผลงาน ของผู้อื่นที่นามาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติม 5.4 วิธีดาเนินการ เป็นการอธิบายขั้นตอนการดาเนินงานโดยละเอียดระบุ ปัญหาหรืออุปสรรคที่พบ วิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการ ทางาน 5.5 ผลการศึกษา เป็นการนาเสนอข้อมูลให้ผู้อื่นเข้าใจโครงงานได้โดยง่าย ด้วย การนาเสนอเป็นตาราง หรือกราฟ หรือข้อความ 5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะเป็นการอธิบายผลสรุปที่ได้จากการทางาน ถ้ามี การตั้งสมมุติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมุติฐานที่ตั้งไว้หรือ ยังสรุปไม่ได้นอกจากนั้นควรกล่าวถึงการนาผลการทดลองไปใช้ประโยชน์อุปสรรคของ การทาโครงงาน ข้อสังเกตที่สาคัญ หรือข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นจากการทา โครงงานนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงโครงงาน หากมี ผู้สนใจศึกษาค้นคว้าในเรื่องนี้และควรระบุประโยชน์ที่ได้รับจากการทาโครงงาน รวมถึง ประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจากการนาผลงานของโครงงานไปใช้
  • 12. 5.7 บรรณนุกรม เป็นการรวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร และเว็บไซต์ ต่างๆที่ผู้ทาโครงงานใช้ค้นคว้า เพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ เพื่อนามาใช้ ประโยชน์ในการทาโครงงานนี้ ซึ่งการเขียนเอกสารบรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องเขียนตาม หลักการเขียน 5.8 คู่มือการใช้งาน หากโครงงานที่จัดทาเป็นการพัฒนาขึ้นมาใหม่ ควรจัดทา คู่มืออธิบายวิธีการใช้งานผลงานนั้นโดยละเอียด
  • 13. 6.การนาเสนอและเผยแพร่ เป็นขั้นตอนที่ทาให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงาน ของผู้จัดทาซึ่งอาจนาเสนอได้หลายรูปแบบเช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบาย ประกอบการจัดนิทรรศการโดยใช้โปสเตอร์และอธิบายด้วยคาพูดการใช้เครื่องฉายภาพ ทึบแสงหรือโปร่งแสงร่วมกับเอกสารหรือแผ่นใส การใช้คอมพิวเตอร์และซอฟแวร์ ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยท์นาเสนอร่วมกับโปรเจกเตอร์และจอรับภาพการสร้างเว็บ เพจโดยผลงานที่นาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบไปด้วยรายละเอียดและวิธีการ
  • 15. ผู้จัดทา นายปฏิพัทธ์ เรือนสุข เลขที่9 นายพิจักษณ์ วิรัช เลขที่24