กิจกรรมที
โครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
หมายถึง กิจกรรมการเรียนทีนักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาทีตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดําเนินงาน
ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครืองคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ทีเกียวข้อง
ตลอดจนทักษะพืนฐานในการพัฒนาโครงงาน เรืองทีนักเรียนสนใจและคิดจะทําโครงงาน ซึงอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือ
เป็นเรืองทีนักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทําโครงงานเรืองดังกล่าวได้ แต่ต้องคิด
ดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิมเติมจากผลงานเดิมทีมีผู้รายงาน
ไว้ จุดมุ่งหมายสําคัญของการทําโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบ
คอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสือการเรียนรู้เพือการ
ศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเกม
คอมพิวเตอร์ เพือฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลทีใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอือเฟือ
เผือแผ่ ให้กับเพือนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
ความสําคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานทีได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัดและความสามารถของผู้
เรียน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ทีมีการเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ โดยผู้เรียนจะหา
หัวข้อโครงงานทีตนเองสนใจ รวมทังเชือมโยงความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพือ
สร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็นทีปรึกษาและให้คําแนะนํา
ความสามารถทีเกิดจากการทําโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ทีทําให้ผู้เรียนเกิดความสามารถในด้านต่าง ๆ
ทีสําคัญ ประการ ดังนี
1.ความสามารถในการสือสาร
•เป็นความสามารถทีเกิดจากการทีนักเรียนเป็นผู้ทําโครงงานต้องนําเสนอผลงานให้ ครูและเพือน
นักเรียนให้เข้าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนัน ผู้ทําโครงงานต้องสือสารความคิดใน
การสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วยปากเปล่า รวมทังเลือกใช้รูปแบบของสืออย่างมี
ประสิทธิภาพเพือนําเสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ผู้อืนได้เข้าใจ
.ความสามารถในการคิด ซึงผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ
ดังนี
• การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการทีผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิดเนืองจากอะไร
• การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการทีผู้เรียนต้องนําความรู้ต่าง ๆ ทีเรียนมา รวมทังความรู้จากการค้นหาข้อมูล เพือใช้ใน
การแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน
• การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการทีผู้เรียนนําความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
• การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการทีผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทําโครงงานใดและไม่ควรทําโครง งาน
ใด เนืองจากโครงงานทีสร้างขึนอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงานระบบคํานวณเลขหวย สําหรับหาเลข
ทีคาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทําให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับ
การใช้เงินเล่นหวยมากขึน
• การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการทีผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขันตอน โดยใช้ขันตอนในการพัฒนาโครงงาน คือ ผู้
เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทังการสรุปผล
และการนําเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คําปรึกษา
.ความสามารถในการแก้ปัญหา
• เกิดจากการทีผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทังประยุกต์
ความรู้ ทักษะ และการใช้เครืองมือทีเหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา
.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
•เกิดจากการทีผู้เรียนได้นําความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนําไป
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วย
ตนเอง อันนําไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
•เกิดจากการทีผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม
และมีคุณธรรม
ขอบข่ายโครงงานคอมพิวเตอร์
. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎี
ตามเนือหาโครงงานนันๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ทีได้พบเห็นมากแล้ว
. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทําโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสันๆ เป็น
ภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริมสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานทีจะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตาม
ความถนัด สนใจ และความพร้อม
. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผล
ต่ออาจารย์ทีปรึกษา เพือดําเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายทีกําหนดไว้
. เป็นโครงงานทีเหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทังการใช้
จ่ายเงินดําเนินงานด้วย
กิจกรรมที
ประเภทของคอมพิวเตอร์
•โครงงานพัฒนาสือเพือการศึกษา
เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสือเพือการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วย
การเรียน ซึงอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคําถามคําตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียน
แบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี ถือว่าเครืองคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์
การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึงอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตน
เองก็ได้
โครงงานประเภทนีสามารถพัฒนาขึนเพือใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขา
คอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอืน ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจ
คัดเลือกหัวข้อทีนักเรียนทัวไปทีทําความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน
ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชา ต่าง ๆ
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
•โครงงานพัฒนาเครืองมือ
เป็นโครงงานเพือพัฒนาเครืองมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึงโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูป
ซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครืองมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วย
การมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็นต้น สําหรับซอฟต์แวร์เพือการพิมพ์งานนันสร้างขึนเป็นโปรแกรม
ประมวลผลภาษา ซึงจะเป็นเครืองมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครืองคอมพิวเตอร์เป็นไป
ได้โดยง่าย ซึงรูปทีได้สามารถนําไปใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย สําหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุใน
มุมต่าง ๆ ใช้สําหรับช่วยในการออกแบบสิงของต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น โปรแกรมประเภท D
•โครงงานประเภททดลองทฤษฎี
เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจําลองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เป็นโครงงานทีผู้ทําต้อง
ศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึงในเรืองทีต้องการศึกษา
แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจําลอง หลักการ ซึงอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือคําอธิบายก็ได้ พร้อม
ทังนําเสนอวิธีการจําลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทําโครงงานประเภทนีมีจุดสําคัญอยู่ทีผู้ทําต้อง
มีความรู้เรืองนัน ๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น การทดลองเรืองการไหลของเหลว การทดลองเรือง
พฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น
•โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพือประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจําวัน เช่น
ซอฟต์แวร์สําหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สําหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สําหรับการ
ระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนีจะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอย
ต่าง ๆ ซึงอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมทีมีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึนก็ได้ โครง
งานลักษณะนีจะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนําข้อมูลทีได้มาใช้ในการออก
แบบ และพัฒนาสิงของนัน ๆ ต่อจากนันต้องมีการทดสอบการทํางานหรือทดสอบคุณภาพของสิง
ประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนีนักเรียนต้องใช้ความรู้เกียวกับเครือง
คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครืองมือต่าง ๆ ทีเกียวข้อง รวมทังอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ด
แวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย
•โครงงานพัฒนาเกม
เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพือความรู้ และความเพลิดเพลิน ซึงเกมทีพัฒนาขึนนีน่าจะเน้นให้
เป็นเกมทีไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพือฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนีจะมีการออกแบบ
ลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพือให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทังให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนา
ควรจะได้ทําการสํารวจและรวบรวมข้อมูลเกียวกับเกมต่าง ๆ ทีมีอยู่ทัวไปและนํามาปรับปรุงหรือ
พัฒนาขึนใหม่เพือให้เป็นเกมทีแปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น เกมหมากรุก
เกมหมากฮอส เกมการคํานวณเลข
จัดทําโดย
นาย ชยกรณ์ รัตนคุณกรณ์
ชัน มัธยมศึกษา /
เลขที

Www