SlideShare a Scribd company logo
1 of 11
1
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ควำมเป็ นมำและควำมสำคัญของปัญหำ
เมื่อบริบทของคนเกือบค่อนโลก จำก 7.5 พันล้ำนคน
จำนวนเกินครึ่งอยู่ในวัย 30 ปี สหประชำชำติมีรำยงำนว่ำ
ประชำกรโลกจะเพิ่มในอัตรำ 1.11% นั่นหมำยถึง มีคนเกิดเพิ่มขึ้น 80
ล้ำนคนต่อปี และประชำกรโลกจะมีจำนวน 8 พันล้ำนคน ในปีค.ศ. 2024
เป็นยุคที่คน มีกำรเปลี่ยนแปลง กำรตัดสินใจอย่ำงรวดเร็ว (Switching
Economy) ทั้งกำรซื้อ และกำรขำย แบบไร้เงินสด
แนวโน้มของธนำคำรทั่วโลกจะปิดสำขำเพิ่มมำกขึ้น
เพรำะมนุษย์ได้สร้ำงสมองให้กับระบบคอมพิวเตอร์
เป็นกำรก้ำวเข้ำสู่ยุคปัญญำประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence)
อย่ำงเต็มตัว
และพัฒนำกำรของคนส่วนใหญ่มีค่ำนิยมยู่บนฐำนของควำมจริง(Trust
Base Economy) คือกำรคิดถึงผลกระทบต่อส่วนรวมเป็นใหญ่
ในขณะที่ควำมต้องกำรของผู้บริโภคพัฒนำแบบไม่หยุดนิ่ง(non-stop)
จำกยุคอุตสำหกรรม ก้ำวเข้ำสู่ยุคสังคมบนฐำนควำมรู้ (Knowledge -
Based Society) ข้อมูลข่ำวสำรมีมำกขึ้นจนยำกจะคัดสรรได้ทัน
สถำนกำรณ์เล็กๆ เหล่ำนี้
ส่งผลให้บำงประเทศจำเป็นต้องปรับกระบวนกำรทำงำนของภำครัฐให้มีกำร
จัดกำรแนวใหม่ที่มุ่งแสวงหำแนวทำงของภำคเอกชนและภำคธุรกิจ
(Private sector and Business approaches)
เพื่อพัฒนำประเทศของตนเอง และกลุ่มประเทศเหล่ำนี้
กำลังประสบกับปัญหำเชิงโครงสร้ำงในระบบเศรษฐกิจ
ตัวอย่ำงเช่นสภำวะกำรติดกับดักรำยได้ปำนกลำง
ซึ่งเป็นปรำกฏกำรณ์ที่ประเทศยำกจนพัฒนำขึ้นมำอยู่ในระดับปำนกลำง
แต่ไม่สำมำรถก้ำวต่อไปได้อีกเหมือนย่ำอยู่กับที่
อำจจะสืบเนื่องมำจำกคนส่วนใหญ่ในประเทศนั้นๆ
มีกำรศึกษำไม่ตอบโจทย์กับทิศทำงกำรพัฒนำภำยในประเทศของตนเอง
รวมถึงประเทศไทยที่ได้ตระหนักชัดเจนในประเด็นดังกล่ำว
และระบุไว้ในแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติฉบับที่ 12 (พ.ศ.
2
2560-2564) ประเทศไทยยังคงประสบปัญหำเกี่ยวกับสภำวะแวดล้อม
ควำมท้ำทำยจำกกำรเปลี่ยนแปลงที่ยำกแก่กำรคำดเดำ
ทั้งจำกกำรเปิดเศรษฐกิจเสรี เทคโนโลยีใหม่ๆ กำรเข้ำสู่สังคมผู้สูงอำยุ
และภัยธรรมชำติ ประเด็นหลักๆ ที่สำคัญเร่งด่วน เช่น
ปัญหำผลิตภำพกำรผลิต ควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน คุณภำพกำรศึกษำ
ควำมเหลื่อมล้ำทำงสังคม เป็นต้น ควำมท้ำทำยในแผนพัฒนำฯ ฉบับที่ 12
จำเป็นต้องยึดกรอบแนวคิดและหลักกำรในกำรวำงแผนที่สำคัญ ดังนี้ (1)
กำรน้อมนำและประยุกต์ใช้หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง (2)
คนเป็นศูนย์กลำงของกำรพัฒนำอย่ำงมีส่วนร่วม (3)
กำรสนับสนุนและส่งเสริมแนวคิดกำรปฏิรูปประเทศ และ (4)
กำรพัฒนำสู่ควำมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สังคมอยู่ร่วมกันอย่ำงมีควำมสุข
และถ้ำหำกเรำวิเครำะห์บริบทของสังคมให้เป็นองค์รวมตำมทฤษฎีกระบวน
ระบบ จะเห็นได้ว่ำเรำกำลังเผชิญปัญหำตรงขบวนกำร(Process)
ซึ่งเรำควรจะมองทุกอย่ำงด้วยกำรสังเครำะห์
มำกกว่ำกำรมองแบบแยกส่วนตำมทฤษฎีวิทยำศำสตร์ดั้งเดิมของนิวตัน
ให้ลองเปลี่ยนมุมมองเป็นวิทยำศำสตร์ร่วมสมัยตำมทฤษฎีควอนตัมกันบ้ำง
ซึ่งจัดได้ว่ำมีจุดร่วมที่น่ำสนใจอยู่หลำยประเด็น
และถ้ำเรำมองมำที่โครงสร้ำง(Structure)
ดูเหมือนเรำจะเห็นเป็นกำแพงหนำที่ยำกแก่กำรปรับเปลี่ยน
แต่ถ้ำหำกมองมำที่กระบวนกำร (Process)
เรำจะเห็นโอกำสหรือช่องทำงที่พอจะเข้ำไปแก้ไขบำงอย่ำงได้บ้ำง
รวมถึงกระบวนกำรจัดกำรศึกษำในโรงเรียนไทยด้วย
ที่จำเป็นหรืออำจจะต้องทบทวนกระบวนกำรจัดกำรแนวใหม่
และมุ่งพัฒนำคุณภำพผู้เรียนโดยตรงให้มีทักษะแห่งอนำคตจำกโรงเรียนข
องตนได้ด้วย เนื่องจำก “มนุษย์เจริญด้วยปัญญำฉันใด
สถำนศึกษำย่อมเจริญเยี่ยงปัญญำของมนุษย์ฉันนั้น”
เพรำะเมื่อมองย้อนหลังไปเพียง 20
ปีสถำนศึกษำของไทยมีพัฒนำกำรคล้ำยย่ำอยู่กับที่
ไม่แตกต่ำงจำกภำคเศรษฐกิจไทย และเข้ำข่ำยถอยหลังลงคลอง
จนภำคเอกชนบำงส่วนต้องก้ำวออกมำยืนหยัด
และเริ่มกระบวนกำรจัดกำรศึกษำแนวใหม่ตั้งแต่ปี 2524 หรือที่เรียกว่ำ
“โรงเรียนทำงเลือก” และมีแนวโน้มจะได้รับกำรตอบรับมำกขึ้น เช่นกัน
3
วรำกรณ์ สำมโกเศศ
กล่ำวโอวำทในงำนประสำทปริญญำของมหำวิทยำลัยธุรกิจบัณฑิตย์
เมื่อวันที่ 26-28 ก.พ. 2559. มีข้อควำมตอนหนึ่งกล่ำวไว้ดังนี้
“...ในขณะนี้โลกกำลังเกิดกำรปฏิวัติอุตสำหกรรมครั้งที่ 4
ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบัณฑิตทุกคนในด้ำนกำรดำรงชีวิต กำรทำงำน
และกำรประกอบอำชีพอย่ำงไม่เคยมีมำก่อนในประวัติศำสตร์
หำกบัณฑิตไม่ระมัดระวังให้ดีแล้ว กำรศึกษำที่ท่ำนได้รับไปนี้
ในเวลำอันไม่นำน อำจไม่มีควำมหมำยต่อชีวิตของท่ำนมำก
ดังที่ท่ำนคำดหวัง…”
จำกกระบวนกำรจัดกำรศึกษำของไทยตลอดเวลำที่ผ่ำนมำ
ตั้งแต่มีพระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติพุทธศักรำช 2542
และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2) พุทธศักรำช 2545 หมวด 5
กำรบริหำรและกำรจัดกำรศึกษำของรัฐ มำตรำ 39
บัญญัติให้กระทรวงกระจำยอำนำจกำรบริหำร
และกำรจัดกำรศึกษำลงในเขตพื้นที่โดยตรง อีกทั้งในรัฐธรรมนูญ
แห่งรำชอำณำจักรไทยพุทธศักรำช 2550 มำตรำ 49(3)
รับรองกำรจัดกำรศึกษำทำงเลือกของประชำชนให้ได้รับกำรคุ้มครองและส่
งเสริมที่เหมำะสมจำกรัฐ
นำไปสู่กำรพัฒนำผู้เรียนในกำรปฏิรูปกำรศึกษำรอบที่ 2 (พ.ศ.2552-
2561)
ผลของควำมพยำยำมปฏิรูปกำรศึกษำไทยหลำยฝ่ำยคงตระหนักถึงผลลัพธ์เ
ป็นที่ประจักษ์แล้ว เช่นข้อมูลจำกกำรประชุมของ World Economic
Forum (WEF) ชื่อ Global Competitiveness Report 2014-2015
ชี้คุณภำพของกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนของไทยอยู่ที่อันดับ 7 ของอำเซียน
เลื่อนลงมำจำกอันดับ 6 และอุดมศึกษำอยู่ที่อันดับ 8
ซึ่งสรุปได้ว่ำกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนและอุดมศึกษำของไทยอยู่อันดับต่ำกว่ำลำ
ว ตำมด้วยอุดมศึกษำอยู่หลังกัมพูชำ
จำกกำรศึกษำเอกสำร
งำนวิจัยที่เกี่ยวข้องและกำรสำรวจข้อมูลเบื้องต้น
พบว่ำปัญหำสำคัญที่เกิดขึ้นคือผลลัพธ์ที่ได้จำกกระบวนกำรจัดกำรศึกษำขอ
งไทยแบบดั้งเดิม
อำจส่งผลต่อคุณลักษณะผู้เรียนซึ่งตอบโจทย์ควำมต้องกำรของสังคมได้น้อย
4
กว่ำที่คำดหวังไว้
จวบจนปัจจุบันนี้ทุกฝ่ำยคงประเมินศักยภำพของตนเองไว้บ้ำงแล้ว
ว่ำควรปรับวิธีกำรจัดกำรใหม่ หรือจะใช้วิธีกำรจัดกำรเดิม
แล้วได้รับผลลัพธ์แบบเดิมๆ มีเพียงแนวคิดของผู้วิกลจริตเท่ำนั้น
ที่คำดหวังผลลัพธ์ใหม่แต่ใช้วิธีกำรเดิม
เพรำะผลสัมฤทธิ์หรือคุณภำพของผู้เรียน
จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงประสิทธิผลและประสิทธิภำพของกระบวนกำรจัดกำรในโร
งเรียนนั้นๆ ด้วยเหตุนี้
ผู้วิจัยจึงมีควำมจำเป็นที่จะต้องศึกษำแนวคิดและกระบวนกำรจัดกำรของภำ
คธุรกิจ
เพื่อนำมำประยุกต์ใช้ให้เหมำะสมกับกระบวนกำรจัดกำรศึกษำแบบก้ำวหน้
ำในระบบโรงเรียนนำนำชำติต่อไป
เนื่องจำกประเทศไทยไม่สำมำรถอยู่เพียงลำพัง
เหมือนประเทศขนำดใหญ่บำงประเทศเช่น อินเดีย หรือจีนได้
ดังนั้นระบบนำนำชำติน่ำจะเป็นทำงเลือกที่มีจุดคุ้มค่ำแก่กำรประกอบธุรกิจ
บริกำรด้ำนกำรศึกษำ
ทั้งในเชิงปริมำณและเชิงคุณภำพในระยะยำวแบบยั่งยืน เกิดมุมมองใหม่ๆ
จำกภำคธุรกิจ ตัวอย่ำงเช่น แนวคิดกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่21
ได้เริ่มมำจำกควำมกังวลของบริษัทชั้นนำของโลก
ที่มีต่อสถำนศึกษำหรือโรงเรียนส่วนใหญ่ที่ไม่สำมำรถผลิตคนให้มีทักษะกำ
รคิดขั้นสูงได้ และแทบไม่เกิดประโยชน์ใดๆ
ต่อผู้เรียนเมื่อออกไปดำรงชีวิตในสังคม
“เป็นเพรำะระบบกำรศึกษำไทยยังไม่เปิดโอกำส
ให้มีกำรบริหำรจัดกำรอย่ำงแท้จริง ทั้งด้ำนปรัชญำ กระบวนกำรเรียนรู้
เนื้อหำสำระ แหล่งกำรเรียนรู้ วิถีกำรเรียนรู้ และกำรประเมินผล” (สุลักษณ์
ศิวรักษ์และคณะ, 2545: 167)
รูปแบบที่ใช้ส่วนใหญ่ยึดรูปแบบที่รัฐกำหนด
หรือเรียกว่ำกำรศึกษำในกระแสหลักซึ่งยำกต่อกำรปรับเปลี่ยนให้เข้ำกับยุค
สมัย ผู้วิจัยจึงได้เริ่มศึกษำแนวคิดที่น่ำสนใจ
ในควำมเป็นไปได้ของโครงกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ
อไจล์ ในประเทศไทย
5
โดยดำเนินกำร ศึกษำควำมเป็นไปได้ ใน 3 ด้ำนหลัก ไดัแก่ ด้ำนที่
1. ด้ำนหลักกำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ 2.
ด้ำนควำมจำเป็นที่ต้องเข้ำเรียนในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก อไจล์
และ 3.
ด้ำนข้อได้เปรียบของกำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ
อไจล์ เป็นอีก หนึ่งเครื่องมือ ที่จะเข้ำมำช่วยงำนเกี่ยวกับกำรพัฒนำคน
คล้ำยกับหลักกำรทำงวิทยำศำสตร์ร่วมสมัย(ควอนตัม) และแนวทำงของ
อไจล์
น่ำจะเป็นกระบวนกำรจัดกำรศึกษำแบบสำกลในประเทศไทยได้อีกหนึ่งทำง
เลือก
ไพฑูรย์ สินลำรัตน์. (8 เมษำยน 2559)
จำกงำนเสวนำทำงวิชำกำร เรื่อง “กำรจัดกำร
กำรศึกษำแบบก้ำวหน้ำแนวอไจล์ เพื่อเพิ่มทำงเลือกกำรจัดกำร
กำรศึกษำไทย” ได้กล่ำวไว้ในกำรเปิดงำนเสวนำครั้งนี้ว่ำ
“วัฒนธรรมกำรทำงำนแนวอไจล์ ในโรงเรียนไม่ใช่เรื่องใหม่
เพียงแต่เข้ำมำช่วยอธิบำยปรำกฏกำรณ์กำรทำงำนของโรงเรียนที่มีกำรบริห
ำรจัดกำรแบบก้ำวหน้ำ แตกต่ำงไปจำกโรงเรียนกระแสหลักทั่วๆ ไป
อไจล์จะเน้นควำมเป็นปัจเจกบุคคลของผู้เรียนเป็นสำคัญ
และสำมำรถผลิตผู้เรียนได้เป็นที่ต้องกำรของสังคม
อไจล์เข้ำมำช่วยอธิบำยและให้เห็นภำพกำรทำงำนได้ชัดเจนขึ้น
ซึ่งเป็นช่วงเวลำ
และจังหวะที่เหมำะกับยุคสมัยแห่งกำรเปลี่ยนแปลงในขณะนี้”
คุณกุลวัฒน วงศำโรจน์และ คุณกมล ตรีธรรมพินิจ
ประธำนและกรรมกำรบริษัท Agile Coach at Lean in Consulting of
Thailand วิยำกรรับเชิญได้มำร่วมนำเสนอมุมมองจำกนักพัฒนำซอฟแวร์
สู่สถำนศึกษำไว้ อย่ำงน่ำสนใจ
เช่นกำรยกตัวอย่ำงเรื่องกำรลงทุนเป็นจำนวนมำกกับกำรพัฒนำตัวคลิปปี้ใน
ระบบไมโครซอฟ ในที่สุดต้องถอดเครื่องมือตัวนี้ออกจำกระบบ
เนื่องจำกไม่มีผู้ใช้งำน และเป็นที่น่ำรำคำญแก่ผู้ใช้งำนคอมพิวเตอร์
คล้ำยกับสถำนศึกษำหรือโรงเรียนบำงส่วนที่มีบุคลำกรขำดควำมรู้
ควำมเข้ำใจ ในภำคปฏิบัติและกระบวนกำร
ส่งผลให้กำรพัฒนำคุณลักษณะผู้เรียนบำงกลุ่มขำดทักษะกำรคิดขั้นสูง
6
ขำดทักษะกำรทำงำนเป็นทีม เรียนเพื่อสอบให้ได้คะแนนสูง
มำกกว่ำเรียนเพื่อนำไปใช้จริง เป็นกรณีเดียวกันกับกำรพัฒนำตัวคลิปปี้
ซึ่งถือเป็นกำรลงทุนที่สูญเปล่ำ
เนื่องจำกไม่เป็นที่ต้องกำรใช้งำนของคนในสังคมมำกเท่ำที่ควร
นำยวิวิศน์ พรทิพยพำนิช ผู้อำนวยกำรโรงเรียนวัดวังน้ำเย็น
(พ.ศ. 2559) เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบำล ถึงมัธยมศึกษำปีที่ 3
ด้วยควำมเป็นผู้บริหำรมืออำชีพในโรงเรียนรัฐบำลขนำดเล็กที่มีข้อจำกัดมำ
กมำยในกำรทำงำน แต่ด้วยควำมเป็น “Agile Mind”
ซึ่งเป็นคุณลักษณะพิเศษของผู้นำที่ให้ควำมสำคัญกับกำรทำงำนเป็นทีม
และกำรสร้ำงเครือข่ำยในชุมชนให้ทำงำนในทิศทำงอันเดียวกัน
ได้มำแบ่งปันแนวปฏิบัติ ตำมหลัก ปรัชญำอไจล์
จำกโจทย์ที่ยำก...สู่งำนที่ท้ำทำย
เป็นแรงขับดันภำยในของผู้นำที่มีอุดมกำรณ์เพื่อผู้เรียน
จนก้ำวสู่กำรเป็นโรงเรียนแกนนำและเป็นผู้นำให้กับโรงเรียนในเครือข่ำยม
ำกกว่ำ 20 โรงเรียนในปัจจุบัน
กล้ำ ทองขำว ผู้อำนวยกำรหลักสูตรมหำบัญฑิตยครุศำสตร์
มหำวิทยำลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และเป็นนักคิด นักทฤษฎี กล่ำวสรุปเกี่ยวกับ
อไจล์ ไว้ดังนี้ “เรำใช้ขบวนกำรจัดกำร แนวอไจล์ เพื่อกำรจัดกำรเรียน
กำรสอนแบบก้ำวหน้ำในคณะของเรำ
รวมทั้งแนวควำมคิดและวิวัฒนำกำรของควำมคิดจำกหลำกหลำยองค์กำร
แทบไม่น่ำเชื่อว่ำทีมนักพัฒนำโปรแกรมเมอร์ จะสำมำรถตกผลึกแนวคิด
แนวปฏิบัติของอไจล์ สู่กำรเป็น Learning to be Learn
ของผู้เรียนในรุ่นอัลฟำ ได้เป็นอย่ำงดี ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อกำรคิด
และต่อขบวนกำรจัดกำรศึกษำเพื่อกำรเรียนรู้ของประเทศไทยต่อไปในอนำ
คต”
เช่นกันหำกสถำนศึกษำหรือโรงเรียนไม่สำมำรถพัฒนำคนให้แตกต่ำ
งจำกเครื่องจักรได้
สถำนศึกษำหรือโรงเรียนอำจจะต้องทบทวนกระบวนกำรจัดกำรใหม่
แนวคิดตำมประเด็นเหล่ำนี้ได้เริ่มมีอิทธิพลต่อกำรจัดกำรศึกษำในหลำยปร
ะเทศโดยเฉพำะที่อเมริกำ ขบวนกำรปรับวัฒนธรรมกำรทำงำนตำมหลัก
“ปรัชญำอไจล์” ไม่ใช่เรื่องใหม่
7
เพียงแต่เข้ำมำช่วยให้เห็นภำพกำรทำงำนขององค์กรให้ชัดเจนมำกขึ้น
งำนวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยขอยกตัวอย่ำง
โครงกำรวิจัยทดลองกำรใช้ยำแอสไพลินกับผู้ป่วยโรคหัวใจในยุคแรกเริ่ม
ที่ต้องยกเลิกโครงกำรระหว่ำงวิจัยเพรำะกลุ่มที่ถูกทดลองสืบทรำบว่ำ
กลุ่มของตนเองได้รับยำหลอก
จึงเกิดควำมกลัวและขอถอนตัวออกจำกโครงกำร
ทำให้ไม่มีผลวิจัยมำรองรับว่ำยำแอสไพลินใช้ได้ผลกับผู้ป่วยโรคหัวใจจริงห
รือไม่
จึงมีเพียงหลักฐำนจำกผู้ป่วยโรคหัวใจที่ใช้ยำแอสไพลินแล้วได้ผลดีขึ้น
และยังมีกำรใช้ยำแอสไพลินกับผู้ป่วยโรคหัวใจเรื่อยมำจนถึงปัจจุบัน
(จำกblock: Kron4D) เป็นกรณีเดียวกันกับแนวคิด อไจล์
ที่คำดว่ำหลำยคนคงเริ่มมีคำถำมในใจ
แต่ผู้วิจัยยังสนใจศึกษำและเชื่อมั่นถึงควำมเป็นไปได้ของแนวคิดนี้
เป็นกำรรับมือกับสถำนกำรณ์ที่ยำกแก่กำรคำดเดำ
ซึ่งน่ำจะเป็นอีกหนึ่งทำงเลือกสำหรับผู้เรียนหรือผู้ปกครอง
ที่ต้องกำรเรียนในระบบโรงเรียนนำนำชำติ ตำมหลักปรัชญำ อไจล์
สู่กำรจัดกำรศึกษำในประเทศไทย
1.2 คำถำมในกำรวิจัย
1.
ควำมเป็นไปได้ของหลักกำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำอไจ
ล์ ในประเทศไทยเหมำะสมอย่ำงไร?
2. ควำมจำเป็นที่ต้องเข้ำเรียนในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก
เป็นอย่ำงไร
3. กำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำอไจล์
มีข้อได้เปรียบอย่ำงไร
1.3 วัตถุประสงค์กำรวิจัย
เพื่อศึกษำควำมเป็นไปได้ในกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรั
ชญำอไจล์ในประเทศไทย ในด้ำน 1.
8
ด้ำนหลักกำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ 2.
ด้ำนควำมจำเป็นที่ต้องเข้ำเรียนในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก และ
3.
ด้ำนข้อได้เปรียบของกำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ
อไจล์
1.4 กรอบกำรศึกษำวิจัย
1.5 ขอบเขตกำรวิจัย
กำรศึกษำนี้ มีขอบเขตในประเด็นต่ำงๆ ดังนี้
1.6.1 ประชำกรใช้กลุ่มตัวอย่ำงแบบเจำะจง (Purposive
sampling) ในเครือข่ำยโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก School of
tomorrow ในประเทศไทย
1.
หลักกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำ
ชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์
-
กำรเน้นคนและกำรมีปฏิสัม
พันธ์กัน
-
ประสบกำรณ์/ควำมรู้ที่นำไป
ใช้ได้จริง
-
ควำมร่วมมือระหว่ำงผู้เกี่ยว
ข้อง
-
กำรปรับมือกับกำรเปลี่ยนแป
ลง
2.
ควำมจำเป็ นที่ต้องเข้ำเรียน
ในระบบโรงเรียนนำนำชำติ
อไจล์
- มุ่งควำมเป็ นสำกล
- ฝึ กฝนประสบกำรณ์
- วิชำกำรสร้ำงสุข
- สนุกพัฒนำทีม
3.
ข้อได้เปรียบของกำรบริหำรจัดก
ำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรั
ชญำอไจล์
- มีหลักสูตรเฉพำะ
- มีทีมงำน อไจล์มำยด์
- มีเครือข่ำยสัมพันธ์
- ตัดสินใจรวดเร็วทันเวลำ
ความเป็นไปได้ในการจัด
ตั้งโรงเรียนนานาชาติตา
มหลักปรัชญา อไจล์
ในประเทศไทย
9
1.6.2 ประเด็นกำรศึกษำ
แบ่งกำรศึกษำควำมเป็นไปได้ในกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำชำติ เป็น 2
ด้ำนหลัก คือด้ำนวิชำกำร และด้ำนกำรตลำดเบื้องต้น
1) ด้ำนวิชำกำร ประกอบด้วย
ควำมเป็นไปได้ของแนวคิด ทฤษฎีและหลักกำรที่เกี่ยวข้องได้แก่ - หลักกำร
แนวคิดปรัชญำ อไจล์, - องค์กรควอนตัม อไจล์, -
หลักกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ ,
ควำมจำเป็นที่ต้องเข้ำเรียนในระบบโรงเรียนนำนำชำติ อไจล์
และข้อได้เปรียบของกำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ
อไจล์
2) ด้ำนกำรตลำด ประกอบด้วย กำรเงิน-
งบประมำณกำรเงิน (เงินลงทุน, ประมำณกำรงบดุล, ประมำณรับจ่ำย) -
ด้ำนวิชำกำร (แผนกำรเปิดหลักสูตร, โครงสร้ำงหลักสูตร) -
ด้ำนกำรบริหำรจัดกำร (ทิศทำงของกำรจัดตั้งโรงเรียน, โครงสร้ำง)
1.6.3 ระยะเวลำศึกษำ 6 เดือน (กันยำยน 2560-กุมภำพันธ์
พ.ศ.2561)
1.6 นิยำมศัพท์เฉพำะ
กำรศึกษำควำมเป็ นไปได้ของโครงกำร หมำยถึง
กำรศึกษำโอกำสทำงธุรกิจบริกำรด้ำนกำรศึกษำในระบบโรงเรียนนำนำชำติ
Agility ศึกษำควำมเหมำะสม ควำมสนใจ กำรตัดสินใจของกลุ่มเป้ำหมำย
อไจล์ หมำยถึง แนวคิด แนวปฏิบัติของทีมงำนที่คล่องตัว
และบรรลุเป้ำหมำยในเวลำอันรวดเร็ว
โรงเรียนนำนำชำติอไจล์ หมำยถึง
โรงเรียนในระบบนำนำชำติที่เป็นทำงเลือก ตำมทิศทำงของหลักสูตรเฉพำะ
เน้นบ่มเพำะนักลงทุนแบบยั่งยืน
หลักสูตร AGI (Agility) หมำยถึง
ประเด็นเรื่องของมวลประสบกำรณ์ที่พัฒนำมำจำกศำสตร์และศิลป์ ในตัวเอง
รวมหลักแนวคิด
แนวปฏิบัติขั้นพื้นฐำนที่สำมำรถต่อยอดนำไปใช้ได้จริงเพื่อกำรดำรงชีวิตแล
ะแบ่งปันแก่ผู้อื่นได้
10
หลักกำรจัดกำรของ AGI หมำยถึง
กำรทำงำนของทีมที่สำมำรถจัดกำรตนเองได้ เพื่อกำรบรรลุเป้ำหมำย
ในเวลำอันรวดเร็ว
ควำมจำเป็น หมำยถึง กำรแสดงออกของมนุษย์
ที่ถูกกระตุ้นให้กระทำเพื่อควำมอยู่รอด
ข้อได้เปรียบของโรงเรียนทำงเลือก หมำยถึง
ควำมสำมำรถของโรงเรียน ที่สำมำรถจัดกำรตนเองได้รวดเร็ว
ต่อกำรบรรลุเป้ำหมำยคือ คุณภำพผู้เรียน และเป็นที่ต้องกำรของสังคม
1.7 ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ
1. ผลกำรศึกษำควำมเป็นไปได้ในกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำชำติ
ตำมหลักปรัชญำอไจล์
ใช้เป็นข้อมูลประกอบกำรตัดสินใจเพื่อกำรประกอบธุรกิจบริกำรด้ำนกำรศึก
ษำในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือกในประเทศไทย
2. ผลสรุปกำรเก็บข้อมูลเบื้องต้นจำกกลุ่มเป้ำหมำย
สำมำรถนำไปพัฒนำกระบวนกำรจัดกำรสถำนศึกษำ
ในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือกของไทยและในกลุ่มอำเซียนต่อไป
1.8 กำรนำเสนอกำรวิจัย
บทที่ 1 เป็นกำรนำเสนอควำมสำคัญของระบบกำรศึกษำ
ควำมเป็นมำของปัญหำตำมบริบทสังคมของโลกในยุคแห่งกำรเปลี่ยนผ่ำนที่
ยำกแก่กำรคำดเดำ ประกอบด้วยคำถำมในกำรวิจัย วัตถุประสงค์กำรวิจัย
กรอบกำรวิจัย ขอบเขตกำรวิจัย นิยำมศัพท์เฉพำะ
ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ
บทที่ 2 เป็นกำรนำเสนอด้ำนวิชำกำร แนวคิด
ทฤษฎีและหลักกำรที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษำควำมเป็นไปได้ ซึ่งประกอบด้วย
หลักกำร แนวคิดปรัชญำอไจล์ องค์กรควอนตัมอไจล์
หลักกำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติ Agility
กำรเปรียบเทียบโรงเรียนในระบบและโรงเรียนทำงเลือก
และควำมต้องกำรเข้ำเรียนในโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก
และได้ศึกษำควำมเป็นไปได้เบื้องต้นของโครงกำรจัดตั้งโรงเรียนนำ
11
นำชำติ Agility โดยศึกษำใน 2 ด้ำนใหญ่ๆ ดังนี้ 1. ด้ำนกำรเงิน
งบประมำณกำรเงิน (เงินลงทุน, ประมำณกำรงบดุล, ประมำณรับจ่ำย) 2.
ด้ำนกำรตลำด ควำมเหมำะสมด้ำนวิชำกำร (แผนกำรเปิดหลักสูตร,
โครงสร้ำงหลักสูตร) ด้ำนกำรบริหำรจัดกำร (ทิศทำงของกำรจัดตั้ง,
โครงสร้ำงกำรบริหำร)
บทที่ 3 เป็นกำรนำเสนอระเบียบวิธีวิจัย
เครื่องมือที่ใช้สำหรับกำรเก็บรวบรวมข้อมูล ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง
กำรวิเครำะห์ข้อมูล

More Related Content

Featured

Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Kurio // The Social Media Age(ncy)
 

Featured (20)

AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
 
Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work
 
ChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slidesChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slides
 
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike RoutesMore than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
 

Chapter1 agile

  • 1. 1 บทที่ 1 บทนำ 1.1 ควำมเป็ นมำและควำมสำคัญของปัญหำ เมื่อบริบทของคนเกือบค่อนโลก จำก 7.5 พันล้ำนคน จำนวนเกินครึ่งอยู่ในวัย 30 ปี สหประชำชำติมีรำยงำนว่ำ ประชำกรโลกจะเพิ่มในอัตรำ 1.11% นั่นหมำยถึง มีคนเกิดเพิ่มขึ้น 80 ล้ำนคนต่อปี และประชำกรโลกจะมีจำนวน 8 พันล้ำนคน ในปีค.ศ. 2024 เป็นยุคที่คน มีกำรเปลี่ยนแปลง กำรตัดสินใจอย่ำงรวดเร็ว (Switching Economy) ทั้งกำรซื้อ และกำรขำย แบบไร้เงินสด แนวโน้มของธนำคำรทั่วโลกจะปิดสำขำเพิ่มมำกขึ้น เพรำะมนุษย์ได้สร้ำงสมองให้กับระบบคอมพิวเตอร์ เป็นกำรก้ำวเข้ำสู่ยุคปัญญำประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) อย่ำงเต็มตัว และพัฒนำกำรของคนส่วนใหญ่มีค่ำนิยมยู่บนฐำนของควำมจริง(Trust Base Economy) คือกำรคิดถึงผลกระทบต่อส่วนรวมเป็นใหญ่ ในขณะที่ควำมต้องกำรของผู้บริโภคพัฒนำแบบไม่หยุดนิ่ง(non-stop) จำกยุคอุตสำหกรรม ก้ำวเข้ำสู่ยุคสังคมบนฐำนควำมรู้ (Knowledge - Based Society) ข้อมูลข่ำวสำรมีมำกขึ้นจนยำกจะคัดสรรได้ทัน สถำนกำรณ์เล็กๆ เหล่ำนี้ ส่งผลให้บำงประเทศจำเป็นต้องปรับกระบวนกำรทำงำนของภำครัฐให้มีกำร จัดกำรแนวใหม่ที่มุ่งแสวงหำแนวทำงของภำคเอกชนและภำคธุรกิจ (Private sector and Business approaches) เพื่อพัฒนำประเทศของตนเอง และกลุ่มประเทศเหล่ำนี้ กำลังประสบกับปัญหำเชิงโครงสร้ำงในระบบเศรษฐกิจ ตัวอย่ำงเช่นสภำวะกำรติดกับดักรำยได้ปำนกลำง ซึ่งเป็นปรำกฏกำรณ์ที่ประเทศยำกจนพัฒนำขึ้นมำอยู่ในระดับปำนกลำง แต่ไม่สำมำรถก้ำวต่อไปได้อีกเหมือนย่ำอยู่กับที่ อำจจะสืบเนื่องมำจำกคนส่วนใหญ่ในประเทศนั้นๆ มีกำรศึกษำไม่ตอบโจทย์กับทิศทำงกำรพัฒนำภำยในประเทศของตนเอง รวมถึงประเทศไทยที่ได้ตระหนักชัดเจนในประเด็นดังกล่ำว และระบุไว้ในแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติฉบับที่ 12 (พ.ศ.
  • 2. 2 2560-2564) ประเทศไทยยังคงประสบปัญหำเกี่ยวกับสภำวะแวดล้อม ควำมท้ำทำยจำกกำรเปลี่ยนแปลงที่ยำกแก่กำรคำดเดำ ทั้งจำกกำรเปิดเศรษฐกิจเสรี เทคโนโลยีใหม่ๆ กำรเข้ำสู่สังคมผู้สูงอำยุ และภัยธรรมชำติ ประเด็นหลักๆ ที่สำคัญเร่งด่วน เช่น ปัญหำผลิตภำพกำรผลิต ควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน คุณภำพกำรศึกษำ ควำมเหลื่อมล้ำทำงสังคม เป็นต้น ควำมท้ำทำยในแผนพัฒนำฯ ฉบับที่ 12 จำเป็นต้องยึดกรอบแนวคิดและหลักกำรในกำรวำงแผนที่สำคัญ ดังนี้ (1) กำรน้อมนำและประยุกต์ใช้หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง (2) คนเป็นศูนย์กลำงของกำรพัฒนำอย่ำงมีส่วนร่วม (3) กำรสนับสนุนและส่งเสริมแนวคิดกำรปฏิรูปประเทศ และ (4) กำรพัฒนำสู่ควำมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สังคมอยู่ร่วมกันอย่ำงมีควำมสุข และถ้ำหำกเรำวิเครำะห์บริบทของสังคมให้เป็นองค์รวมตำมทฤษฎีกระบวน ระบบ จะเห็นได้ว่ำเรำกำลังเผชิญปัญหำตรงขบวนกำร(Process) ซึ่งเรำควรจะมองทุกอย่ำงด้วยกำรสังเครำะห์ มำกกว่ำกำรมองแบบแยกส่วนตำมทฤษฎีวิทยำศำสตร์ดั้งเดิมของนิวตัน ให้ลองเปลี่ยนมุมมองเป็นวิทยำศำสตร์ร่วมสมัยตำมทฤษฎีควอนตัมกันบ้ำง ซึ่งจัดได้ว่ำมีจุดร่วมที่น่ำสนใจอยู่หลำยประเด็น และถ้ำเรำมองมำที่โครงสร้ำง(Structure) ดูเหมือนเรำจะเห็นเป็นกำแพงหนำที่ยำกแก่กำรปรับเปลี่ยน แต่ถ้ำหำกมองมำที่กระบวนกำร (Process) เรำจะเห็นโอกำสหรือช่องทำงที่พอจะเข้ำไปแก้ไขบำงอย่ำงได้บ้ำง รวมถึงกระบวนกำรจัดกำรศึกษำในโรงเรียนไทยด้วย ที่จำเป็นหรืออำจจะต้องทบทวนกระบวนกำรจัดกำรแนวใหม่ และมุ่งพัฒนำคุณภำพผู้เรียนโดยตรงให้มีทักษะแห่งอนำคตจำกโรงเรียนข องตนได้ด้วย เนื่องจำก “มนุษย์เจริญด้วยปัญญำฉันใด สถำนศึกษำย่อมเจริญเยี่ยงปัญญำของมนุษย์ฉันนั้น” เพรำะเมื่อมองย้อนหลังไปเพียง 20 ปีสถำนศึกษำของไทยมีพัฒนำกำรคล้ำยย่ำอยู่กับที่ ไม่แตกต่ำงจำกภำคเศรษฐกิจไทย และเข้ำข่ำยถอยหลังลงคลอง จนภำคเอกชนบำงส่วนต้องก้ำวออกมำยืนหยัด และเริ่มกระบวนกำรจัดกำรศึกษำแนวใหม่ตั้งแต่ปี 2524 หรือที่เรียกว่ำ “โรงเรียนทำงเลือก” และมีแนวโน้มจะได้รับกำรตอบรับมำกขึ้น เช่นกัน
  • 3. 3 วรำกรณ์ สำมโกเศศ กล่ำวโอวำทในงำนประสำทปริญญำของมหำวิทยำลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เมื่อวันที่ 26-28 ก.พ. 2559. มีข้อควำมตอนหนึ่งกล่ำวไว้ดังนี้ “...ในขณะนี้โลกกำลังเกิดกำรปฏิวัติอุตสำหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบัณฑิตทุกคนในด้ำนกำรดำรงชีวิต กำรทำงำน และกำรประกอบอำชีพอย่ำงไม่เคยมีมำก่อนในประวัติศำสตร์ หำกบัณฑิตไม่ระมัดระวังให้ดีแล้ว กำรศึกษำที่ท่ำนได้รับไปนี้ ในเวลำอันไม่นำน อำจไม่มีควำมหมำยต่อชีวิตของท่ำนมำก ดังที่ท่ำนคำดหวัง…” จำกกระบวนกำรจัดกำรศึกษำของไทยตลอดเวลำที่ผ่ำนมำ ตั้งแต่มีพระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติพุทธศักรำช 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2) พุทธศักรำช 2545 หมวด 5 กำรบริหำรและกำรจัดกำรศึกษำของรัฐ มำตรำ 39 บัญญัติให้กระทรวงกระจำยอำนำจกำรบริหำร และกำรจัดกำรศึกษำลงในเขตพื้นที่โดยตรง อีกทั้งในรัฐธรรมนูญ แห่งรำชอำณำจักรไทยพุทธศักรำช 2550 มำตรำ 49(3) รับรองกำรจัดกำรศึกษำทำงเลือกของประชำชนให้ได้รับกำรคุ้มครองและส่ งเสริมที่เหมำะสมจำกรัฐ นำไปสู่กำรพัฒนำผู้เรียนในกำรปฏิรูปกำรศึกษำรอบที่ 2 (พ.ศ.2552- 2561) ผลของควำมพยำยำมปฏิรูปกำรศึกษำไทยหลำยฝ่ำยคงตระหนักถึงผลลัพธ์เ ป็นที่ประจักษ์แล้ว เช่นข้อมูลจำกกำรประชุมของ World Economic Forum (WEF) ชื่อ Global Competitiveness Report 2014-2015 ชี้คุณภำพของกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนของไทยอยู่ที่อันดับ 7 ของอำเซียน เลื่อนลงมำจำกอันดับ 6 และอุดมศึกษำอยู่ที่อันดับ 8 ซึ่งสรุปได้ว่ำกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนและอุดมศึกษำของไทยอยู่อันดับต่ำกว่ำลำ ว ตำมด้วยอุดมศึกษำอยู่หลังกัมพูชำ จำกกำรศึกษำเอกสำร งำนวิจัยที่เกี่ยวข้องและกำรสำรวจข้อมูลเบื้องต้น พบว่ำปัญหำสำคัญที่เกิดขึ้นคือผลลัพธ์ที่ได้จำกกระบวนกำรจัดกำรศึกษำขอ งไทยแบบดั้งเดิม อำจส่งผลต่อคุณลักษณะผู้เรียนซึ่งตอบโจทย์ควำมต้องกำรของสังคมได้น้อย
  • 4. 4 กว่ำที่คำดหวังไว้ จวบจนปัจจุบันนี้ทุกฝ่ำยคงประเมินศักยภำพของตนเองไว้บ้ำงแล้ว ว่ำควรปรับวิธีกำรจัดกำรใหม่ หรือจะใช้วิธีกำรจัดกำรเดิม แล้วได้รับผลลัพธ์แบบเดิมๆ มีเพียงแนวคิดของผู้วิกลจริตเท่ำนั้น ที่คำดหวังผลลัพธ์ใหม่แต่ใช้วิธีกำรเดิม เพรำะผลสัมฤทธิ์หรือคุณภำพของผู้เรียน จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงประสิทธิผลและประสิทธิภำพของกระบวนกำรจัดกำรในโร งเรียนนั้นๆ ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงมีควำมจำเป็นที่จะต้องศึกษำแนวคิดและกระบวนกำรจัดกำรของภำ คธุรกิจ เพื่อนำมำประยุกต์ใช้ให้เหมำะสมกับกระบวนกำรจัดกำรศึกษำแบบก้ำวหน้ ำในระบบโรงเรียนนำนำชำติต่อไป เนื่องจำกประเทศไทยไม่สำมำรถอยู่เพียงลำพัง เหมือนประเทศขนำดใหญ่บำงประเทศเช่น อินเดีย หรือจีนได้ ดังนั้นระบบนำนำชำติน่ำจะเป็นทำงเลือกที่มีจุดคุ้มค่ำแก่กำรประกอบธุรกิจ บริกำรด้ำนกำรศึกษำ ทั้งในเชิงปริมำณและเชิงคุณภำพในระยะยำวแบบยั่งยืน เกิดมุมมองใหม่ๆ จำกภำคธุรกิจ ตัวอย่ำงเช่น แนวคิดกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่21 ได้เริ่มมำจำกควำมกังวลของบริษัทชั้นนำของโลก ที่มีต่อสถำนศึกษำหรือโรงเรียนส่วนใหญ่ที่ไม่สำมำรถผลิตคนให้มีทักษะกำ รคิดขั้นสูงได้ และแทบไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อผู้เรียนเมื่อออกไปดำรงชีวิตในสังคม “เป็นเพรำะระบบกำรศึกษำไทยยังไม่เปิดโอกำส ให้มีกำรบริหำรจัดกำรอย่ำงแท้จริง ทั้งด้ำนปรัชญำ กระบวนกำรเรียนรู้ เนื้อหำสำระ แหล่งกำรเรียนรู้ วิถีกำรเรียนรู้ และกำรประเมินผล” (สุลักษณ์ ศิวรักษ์และคณะ, 2545: 167) รูปแบบที่ใช้ส่วนใหญ่ยึดรูปแบบที่รัฐกำหนด หรือเรียกว่ำกำรศึกษำในกระแสหลักซึ่งยำกต่อกำรปรับเปลี่ยนให้เข้ำกับยุค สมัย ผู้วิจัยจึงได้เริ่มศึกษำแนวคิดที่น่ำสนใจ ในควำมเป็นไปได้ของโครงกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ ในประเทศไทย
  • 5. 5 โดยดำเนินกำร ศึกษำควำมเป็นไปได้ ใน 3 ด้ำนหลัก ไดัแก่ ด้ำนที่ 1. ด้ำนหลักกำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ 2. ด้ำนควำมจำเป็นที่ต้องเข้ำเรียนในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก อไจล์ และ 3. ด้ำนข้อได้เปรียบของกำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ เป็นอีก หนึ่งเครื่องมือ ที่จะเข้ำมำช่วยงำนเกี่ยวกับกำรพัฒนำคน คล้ำยกับหลักกำรทำงวิทยำศำสตร์ร่วมสมัย(ควอนตัม) และแนวทำงของ อไจล์ น่ำจะเป็นกระบวนกำรจัดกำรศึกษำแบบสำกลในประเทศไทยได้อีกหนึ่งทำง เลือก ไพฑูรย์ สินลำรัตน์. (8 เมษำยน 2559) จำกงำนเสวนำทำงวิชำกำร เรื่อง “กำรจัดกำร กำรศึกษำแบบก้ำวหน้ำแนวอไจล์ เพื่อเพิ่มทำงเลือกกำรจัดกำร กำรศึกษำไทย” ได้กล่ำวไว้ในกำรเปิดงำนเสวนำครั้งนี้ว่ำ “วัฒนธรรมกำรทำงำนแนวอไจล์ ในโรงเรียนไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่เข้ำมำช่วยอธิบำยปรำกฏกำรณ์กำรทำงำนของโรงเรียนที่มีกำรบริห ำรจัดกำรแบบก้ำวหน้ำ แตกต่ำงไปจำกโรงเรียนกระแสหลักทั่วๆ ไป อไจล์จะเน้นควำมเป็นปัจเจกบุคคลของผู้เรียนเป็นสำคัญ และสำมำรถผลิตผู้เรียนได้เป็นที่ต้องกำรของสังคม อไจล์เข้ำมำช่วยอธิบำยและให้เห็นภำพกำรทำงำนได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลำ และจังหวะที่เหมำะกับยุคสมัยแห่งกำรเปลี่ยนแปลงในขณะนี้” คุณกุลวัฒน วงศำโรจน์และ คุณกมล ตรีธรรมพินิจ ประธำนและกรรมกำรบริษัท Agile Coach at Lean in Consulting of Thailand วิยำกรรับเชิญได้มำร่วมนำเสนอมุมมองจำกนักพัฒนำซอฟแวร์ สู่สถำนศึกษำไว้ อย่ำงน่ำสนใจ เช่นกำรยกตัวอย่ำงเรื่องกำรลงทุนเป็นจำนวนมำกกับกำรพัฒนำตัวคลิปปี้ใน ระบบไมโครซอฟ ในที่สุดต้องถอดเครื่องมือตัวนี้ออกจำกระบบ เนื่องจำกไม่มีผู้ใช้งำน และเป็นที่น่ำรำคำญแก่ผู้ใช้งำนคอมพิวเตอร์ คล้ำยกับสถำนศึกษำหรือโรงเรียนบำงส่วนที่มีบุคลำกรขำดควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ในภำคปฏิบัติและกระบวนกำร ส่งผลให้กำรพัฒนำคุณลักษณะผู้เรียนบำงกลุ่มขำดทักษะกำรคิดขั้นสูง
  • 6. 6 ขำดทักษะกำรทำงำนเป็นทีม เรียนเพื่อสอบให้ได้คะแนนสูง มำกกว่ำเรียนเพื่อนำไปใช้จริง เป็นกรณีเดียวกันกับกำรพัฒนำตัวคลิปปี้ ซึ่งถือเป็นกำรลงทุนที่สูญเปล่ำ เนื่องจำกไม่เป็นที่ต้องกำรใช้งำนของคนในสังคมมำกเท่ำที่ควร นำยวิวิศน์ พรทิพยพำนิช ผู้อำนวยกำรโรงเรียนวัดวังน้ำเย็น (พ.ศ. 2559) เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบำล ถึงมัธยมศึกษำปีที่ 3 ด้วยควำมเป็นผู้บริหำรมืออำชีพในโรงเรียนรัฐบำลขนำดเล็กที่มีข้อจำกัดมำ กมำยในกำรทำงำน แต่ด้วยควำมเป็น “Agile Mind” ซึ่งเป็นคุณลักษณะพิเศษของผู้นำที่ให้ควำมสำคัญกับกำรทำงำนเป็นทีม และกำรสร้ำงเครือข่ำยในชุมชนให้ทำงำนในทิศทำงอันเดียวกัน ได้มำแบ่งปันแนวปฏิบัติ ตำมหลัก ปรัชญำอไจล์ จำกโจทย์ที่ยำก...สู่งำนที่ท้ำทำย เป็นแรงขับดันภำยในของผู้นำที่มีอุดมกำรณ์เพื่อผู้เรียน จนก้ำวสู่กำรเป็นโรงเรียนแกนนำและเป็นผู้นำให้กับโรงเรียนในเครือข่ำยม ำกกว่ำ 20 โรงเรียนในปัจจุบัน กล้ำ ทองขำว ผู้อำนวยกำรหลักสูตรมหำบัญฑิตยครุศำสตร์ มหำวิทยำลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และเป็นนักคิด นักทฤษฎี กล่ำวสรุปเกี่ยวกับ อไจล์ ไว้ดังนี้ “เรำใช้ขบวนกำรจัดกำร แนวอไจล์ เพื่อกำรจัดกำรเรียน กำรสอนแบบก้ำวหน้ำในคณะของเรำ รวมทั้งแนวควำมคิดและวิวัฒนำกำรของควำมคิดจำกหลำกหลำยองค์กำร แทบไม่น่ำเชื่อว่ำทีมนักพัฒนำโปรแกรมเมอร์ จะสำมำรถตกผลึกแนวคิด แนวปฏิบัติของอไจล์ สู่กำรเป็น Learning to be Learn ของผู้เรียนในรุ่นอัลฟำ ได้เป็นอย่ำงดี ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อกำรคิด และต่อขบวนกำรจัดกำรศึกษำเพื่อกำรเรียนรู้ของประเทศไทยต่อไปในอนำ คต” เช่นกันหำกสถำนศึกษำหรือโรงเรียนไม่สำมำรถพัฒนำคนให้แตกต่ำ งจำกเครื่องจักรได้ สถำนศึกษำหรือโรงเรียนอำจจะต้องทบทวนกระบวนกำรจัดกำรใหม่ แนวคิดตำมประเด็นเหล่ำนี้ได้เริ่มมีอิทธิพลต่อกำรจัดกำรศึกษำในหลำยปร ะเทศโดยเฉพำะที่อเมริกำ ขบวนกำรปรับวัฒนธรรมกำรทำงำนตำมหลัก “ปรัชญำอไจล์” ไม่ใช่เรื่องใหม่
  • 7. 7 เพียงแต่เข้ำมำช่วยให้เห็นภำพกำรทำงำนขององค์กรให้ชัดเจนมำกขึ้น งำนวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยขอยกตัวอย่ำง โครงกำรวิจัยทดลองกำรใช้ยำแอสไพลินกับผู้ป่วยโรคหัวใจในยุคแรกเริ่ม ที่ต้องยกเลิกโครงกำรระหว่ำงวิจัยเพรำะกลุ่มที่ถูกทดลองสืบทรำบว่ำ กลุ่มของตนเองได้รับยำหลอก จึงเกิดควำมกลัวและขอถอนตัวออกจำกโครงกำร ทำให้ไม่มีผลวิจัยมำรองรับว่ำยำแอสไพลินใช้ได้ผลกับผู้ป่วยโรคหัวใจจริงห รือไม่ จึงมีเพียงหลักฐำนจำกผู้ป่วยโรคหัวใจที่ใช้ยำแอสไพลินแล้วได้ผลดีขึ้น และยังมีกำรใช้ยำแอสไพลินกับผู้ป่วยโรคหัวใจเรื่อยมำจนถึงปัจจุบัน (จำกblock: Kron4D) เป็นกรณีเดียวกันกับแนวคิด อไจล์ ที่คำดว่ำหลำยคนคงเริ่มมีคำถำมในใจ แต่ผู้วิจัยยังสนใจศึกษำและเชื่อมั่นถึงควำมเป็นไปได้ของแนวคิดนี้ เป็นกำรรับมือกับสถำนกำรณ์ที่ยำกแก่กำรคำดเดำ ซึ่งน่ำจะเป็นอีกหนึ่งทำงเลือกสำหรับผู้เรียนหรือผู้ปกครอง ที่ต้องกำรเรียนในระบบโรงเรียนนำนำชำติ ตำมหลักปรัชญำ อไจล์ สู่กำรจัดกำรศึกษำในประเทศไทย 1.2 คำถำมในกำรวิจัย 1. ควำมเป็นไปได้ของหลักกำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำอไจ ล์ ในประเทศไทยเหมำะสมอย่ำงไร? 2. ควำมจำเป็นที่ต้องเข้ำเรียนในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก เป็นอย่ำงไร 3. กำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำอไจล์ มีข้อได้เปรียบอย่ำงไร 1.3 วัตถุประสงค์กำรวิจัย เพื่อศึกษำควำมเป็นไปได้ในกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรั ชญำอไจล์ในประเทศไทย ในด้ำน 1.
  • 8. 8 ด้ำนหลักกำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ 2. ด้ำนควำมจำเป็นที่ต้องเข้ำเรียนในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก และ 3. ด้ำนข้อได้เปรียบของกำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ 1.4 กรอบกำรศึกษำวิจัย 1.5 ขอบเขตกำรวิจัย กำรศึกษำนี้ มีขอบเขตในประเด็นต่ำงๆ ดังนี้ 1.6.1 ประชำกรใช้กลุ่มตัวอย่ำงแบบเจำะจง (Purposive sampling) ในเครือข่ำยโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก School of tomorrow ในประเทศไทย 1. หลักกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำ ชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ - กำรเน้นคนและกำรมีปฏิสัม พันธ์กัน - ประสบกำรณ์/ควำมรู้ที่นำไป ใช้ได้จริง - ควำมร่วมมือระหว่ำงผู้เกี่ยว ข้อง - กำรปรับมือกับกำรเปลี่ยนแป ลง 2. ควำมจำเป็ นที่ต้องเข้ำเรียน ในระบบโรงเรียนนำนำชำติ อไจล์ - มุ่งควำมเป็ นสำกล - ฝึ กฝนประสบกำรณ์ - วิชำกำรสร้ำงสุข - สนุกพัฒนำทีม 3. ข้อได้เปรียบของกำรบริหำรจัดก ำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรั ชญำอไจล์ - มีหลักสูตรเฉพำะ - มีทีมงำน อไจล์มำยด์ - มีเครือข่ำยสัมพันธ์ - ตัดสินใจรวดเร็วทันเวลำ ความเป็นไปได้ในการจัด ตั้งโรงเรียนนานาชาติตา มหลักปรัชญา อไจล์ ในประเทศไทย
  • 9. 9 1.6.2 ประเด็นกำรศึกษำ แบ่งกำรศึกษำควำมเป็นไปได้ในกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำชำติ เป็น 2 ด้ำนหลัก คือด้ำนวิชำกำร และด้ำนกำรตลำดเบื้องต้น 1) ด้ำนวิชำกำร ประกอบด้วย ควำมเป็นไปได้ของแนวคิด ทฤษฎีและหลักกำรที่เกี่ยวข้องได้แก่ - หลักกำร แนวคิดปรัชญำ อไจล์, - องค์กรควอนตัม อไจล์, - หลักกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ , ควำมจำเป็นที่ต้องเข้ำเรียนในระบบโรงเรียนนำนำชำติ อไจล์ และข้อได้เปรียบของกำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ 2) ด้ำนกำรตลำด ประกอบด้วย กำรเงิน- งบประมำณกำรเงิน (เงินลงทุน, ประมำณกำรงบดุล, ประมำณรับจ่ำย) - ด้ำนวิชำกำร (แผนกำรเปิดหลักสูตร, โครงสร้ำงหลักสูตร) - ด้ำนกำรบริหำรจัดกำร (ทิศทำงของกำรจัดตั้งโรงเรียน, โครงสร้ำง) 1.6.3 ระยะเวลำศึกษำ 6 เดือน (กันยำยน 2560-กุมภำพันธ์ พ.ศ.2561) 1.6 นิยำมศัพท์เฉพำะ กำรศึกษำควำมเป็ นไปได้ของโครงกำร หมำยถึง กำรศึกษำโอกำสทำงธุรกิจบริกำรด้ำนกำรศึกษำในระบบโรงเรียนนำนำชำติ Agility ศึกษำควำมเหมำะสม ควำมสนใจ กำรตัดสินใจของกลุ่มเป้ำหมำย อไจล์ หมำยถึง แนวคิด แนวปฏิบัติของทีมงำนที่คล่องตัว และบรรลุเป้ำหมำยในเวลำอันรวดเร็ว โรงเรียนนำนำชำติอไจล์ หมำยถึง โรงเรียนในระบบนำนำชำติที่เป็นทำงเลือก ตำมทิศทำงของหลักสูตรเฉพำะ เน้นบ่มเพำะนักลงทุนแบบยั่งยืน หลักสูตร AGI (Agility) หมำยถึง ประเด็นเรื่องของมวลประสบกำรณ์ที่พัฒนำมำจำกศำสตร์และศิลป์ ในตัวเอง รวมหลักแนวคิด แนวปฏิบัติขั้นพื้นฐำนที่สำมำรถต่อยอดนำไปใช้ได้จริงเพื่อกำรดำรงชีวิตแล ะแบ่งปันแก่ผู้อื่นได้
  • 10. 10 หลักกำรจัดกำรของ AGI หมำยถึง กำรทำงำนของทีมที่สำมำรถจัดกำรตนเองได้ เพื่อกำรบรรลุเป้ำหมำย ในเวลำอันรวดเร็ว ควำมจำเป็น หมำยถึง กำรแสดงออกของมนุษย์ ที่ถูกกระตุ้นให้กระทำเพื่อควำมอยู่รอด ข้อได้เปรียบของโรงเรียนทำงเลือก หมำยถึง ควำมสำมำรถของโรงเรียน ที่สำมำรถจัดกำรตนเองได้รวดเร็ว ต่อกำรบรรลุเป้ำหมำยคือ คุณภำพผู้เรียน และเป็นที่ต้องกำรของสังคม 1.7 ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ 1. ผลกำรศึกษำควำมเป็นไปได้ในกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำชำติ ตำมหลักปรัชญำอไจล์ ใช้เป็นข้อมูลประกอบกำรตัดสินใจเพื่อกำรประกอบธุรกิจบริกำรด้ำนกำรศึก ษำในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือกในประเทศไทย 2. ผลสรุปกำรเก็บข้อมูลเบื้องต้นจำกกลุ่มเป้ำหมำย สำมำรถนำไปพัฒนำกระบวนกำรจัดกำรสถำนศึกษำ ในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือกของไทยและในกลุ่มอำเซียนต่อไป 1.8 กำรนำเสนอกำรวิจัย บทที่ 1 เป็นกำรนำเสนอควำมสำคัญของระบบกำรศึกษำ ควำมเป็นมำของปัญหำตำมบริบทสังคมของโลกในยุคแห่งกำรเปลี่ยนผ่ำนที่ ยำกแก่กำรคำดเดำ ประกอบด้วยคำถำมในกำรวิจัย วัตถุประสงค์กำรวิจัย กรอบกำรวิจัย ขอบเขตกำรวิจัย นิยำมศัพท์เฉพำะ ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ บทที่ 2 เป็นกำรนำเสนอด้ำนวิชำกำร แนวคิด ทฤษฎีและหลักกำรที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษำควำมเป็นไปได้ ซึ่งประกอบด้วย หลักกำร แนวคิดปรัชญำอไจล์ องค์กรควอนตัมอไจล์ หลักกำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติ Agility กำรเปรียบเทียบโรงเรียนในระบบและโรงเรียนทำงเลือก และควำมต้องกำรเข้ำเรียนในโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก และได้ศึกษำควำมเป็นไปได้เบื้องต้นของโครงกำรจัดตั้งโรงเรียนนำ
  • 11. 11 นำชำติ Agility โดยศึกษำใน 2 ด้ำนใหญ่ๆ ดังนี้ 1. ด้ำนกำรเงิน งบประมำณกำรเงิน (เงินลงทุน, ประมำณกำรงบดุล, ประมำณรับจ่ำย) 2. ด้ำนกำรตลำด ควำมเหมำะสมด้ำนวิชำกำร (แผนกำรเปิดหลักสูตร, โครงสร้ำงหลักสูตร) ด้ำนกำรบริหำรจัดกำร (ทิศทำงของกำรจัดตั้ง, โครงสร้ำงกำรบริหำร) บทที่ 3 เป็นกำรนำเสนอระเบียบวิธีวิจัย เครื่องมือที่ใช้สำหรับกำรเก็บรวบรวมข้อมูล ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง กำรวิเครำะห์ข้อมูล