Chapter1 agile
- 1. 1
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ควำมเป็ นมำและควำมสำคัญของปัญหำ
เมื่อบริบทของคนเกือบค่อนโลก จำก 7.5 พันล้ำนคน
จำนวนเกินครึ่งอยู่ในวัย 30 ปี สหประชำชำติมีรำยงำนว่ำ
ประชำกรโลกจะเพิ่มในอัตรำ 1.11% นั่นหมำยถึง มีคนเกิดเพิ่มขึ้น 80
ล้ำนคนต่อปี และประชำกรโลกจะมีจำนวน 8 พันล้ำนคน ในปีค.ศ. 2024
เป็นยุคที่คน มีกำรเปลี่ยนแปลง กำรตัดสินใจอย่ำงรวดเร็ว (Switching
Economy) ทั้งกำรซื้อ และกำรขำย แบบไร้เงินสด
แนวโน้มของธนำคำรทั่วโลกจะปิดสำขำเพิ่มมำกขึ้น
เพรำะมนุษย์ได้สร้ำงสมองให้กับระบบคอมพิวเตอร์
เป็นกำรก้ำวเข้ำสู่ยุคปัญญำประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence)
อย่ำงเต็มตัว
และพัฒนำกำรของคนส่วนใหญ่มีค่ำนิยมยู่บนฐำนของควำมจริง(Trust
Base Economy) คือกำรคิดถึงผลกระทบต่อส่วนรวมเป็นใหญ่
ในขณะที่ควำมต้องกำรของผู้บริโภคพัฒนำแบบไม่หยุดนิ่ง(non-stop)
จำกยุคอุตสำหกรรม ก้ำวเข้ำสู่ยุคสังคมบนฐำนควำมรู้ (Knowledge -
Based Society) ข้อมูลข่ำวสำรมีมำกขึ้นจนยำกจะคัดสรรได้ทัน
สถำนกำรณ์เล็กๆ เหล่ำนี้
ส่งผลให้บำงประเทศจำเป็นต้องปรับกระบวนกำรทำงำนของภำครัฐให้มีกำร
จัดกำรแนวใหม่ที่มุ่งแสวงหำแนวทำงของภำคเอกชนและภำคธุรกิจ
(Private sector and Business approaches)
เพื่อพัฒนำประเทศของตนเอง และกลุ่มประเทศเหล่ำนี้
กำลังประสบกับปัญหำเชิงโครงสร้ำงในระบบเศรษฐกิจ
ตัวอย่ำงเช่นสภำวะกำรติดกับดักรำยได้ปำนกลำง
ซึ่งเป็นปรำกฏกำรณ์ที่ประเทศยำกจนพัฒนำขึ้นมำอยู่ในระดับปำนกลำง
แต่ไม่สำมำรถก้ำวต่อไปได้อีกเหมือนย่ำอยู่กับที่
อำจจะสืบเนื่องมำจำกคนส่วนใหญ่ในประเทศนั้นๆ
มีกำรศึกษำไม่ตอบโจทย์กับทิศทำงกำรพัฒนำภำยในประเทศของตนเอง
รวมถึงประเทศไทยที่ได้ตระหนักชัดเจนในประเด็นดังกล่ำว
และระบุไว้ในแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติฉบับที่ 12 (พ.ศ.
- 2. 2
2560-2564) ประเทศไทยยังคงประสบปัญหำเกี่ยวกับสภำวะแวดล้อม
ควำมท้ำทำยจำกกำรเปลี่ยนแปลงที่ยำกแก่กำรคำดเดำ
ทั้งจำกกำรเปิดเศรษฐกิจเสรี เทคโนโลยีใหม่ๆ กำรเข้ำสู่สังคมผู้สูงอำยุ
และภัยธรรมชำติ ประเด็นหลักๆ ที่สำคัญเร่งด่วน เช่น
ปัญหำผลิตภำพกำรผลิต ควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน คุณภำพกำรศึกษำ
ควำมเหลื่อมล้ำทำงสังคม เป็นต้น ควำมท้ำทำยในแผนพัฒนำฯ ฉบับที่ 12
จำเป็นต้องยึดกรอบแนวคิดและหลักกำรในกำรวำงแผนที่สำคัญ ดังนี้ (1)
กำรน้อมนำและประยุกต์ใช้หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง (2)
คนเป็นศูนย์กลำงของกำรพัฒนำอย่ำงมีส่วนร่วม (3)
กำรสนับสนุนและส่งเสริมแนวคิดกำรปฏิรูปประเทศ และ (4)
กำรพัฒนำสู่ควำมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สังคมอยู่ร่วมกันอย่ำงมีควำมสุข
และถ้ำหำกเรำวิเครำะห์บริบทของสังคมให้เป็นองค์รวมตำมทฤษฎีกระบวน
ระบบ จะเห็นได้ว่ำเรำกำลังเผชิญปัญหำตรงขบวนกำร(Process)
ซึ่งเรำควรจะมองทุกอย่ำงด้วยกำรสังเครำะห์
มำกกว่ำกำรมองแบบแยกส่วนตำมทฤษฎีวิทยำศำสตร์ดั้งเดิมของนิวตัน
ให้ลองเปลี่ยนมุมมองเป็นวิทยำศำสตร์ร่วมสมัยตำมทฤษฎีควอนตัมกันบ้ำง
ซึ่งจัดได้ว่ำมีจุดร่วมที่น่ำสนใจอยู่หลำยประเด็น
และถ้ำเรำมองมำที่โครงสร้ำง(Structure)
ดูเหมือนเรำจะเห็นเป็นกำแพงหนำที่ยำกแก่กำรปรับเปลี่ยน
แต่ถ้ำหำกมองมำที่กระบวนกำร (Process)
เรำจะเห็นโอกำสหรือช่องทำงที่พอจะเข้ำไปแก้ไขบำงอย่ำงได้บ้ำง
รวมถึงกระบวนกำรจัดกำรศึกษำในโรงเรียนไทยด้วย
ที่จำเป็นหรืออำจจะต้องทบทวนกระบวนกำรจัดกำรแนวใหม่
และมุ่งพัฒนำคุณภำพผู้เรียนโดยตรงให้มีทักษะแห่งอนำคตจำกโรงเรียนข
องตนได้ด้วย เนื่องจำก “มนุษย์เจริญด้วยปัญญำฉันใด
สถำนศึกษำย่อมเจริญเยี่ยงปัญญำของมนุษย์ฉันนั้น”
เพรำะเมื่อมองย้อนหลังไปเพียง 20
ปีสถำนศึกษำของไทยมีพัฒนำกำรคล้ำยย่ำอยู่กับที่
ไม่แตกต่ำงจำกภำคเศรษฐกิจไทย และเข้ำข่ำยถอยหลังลงคลอง
จนภำคเอกชนบำงส่วนต้องก้ำวออกมำยืนหยัด
และเริ่มกระบวนกำรจัดกำรศึกษำแนวใหม่ตั้งแต่ปี 2524 หรือที่เรียกว่ำ
“โรงเรียนทำงเลือก” และมีแนวโน้มจะได้รับกำรตอบรับมำกขึ้น เช่นกัน
- 3. 3
วรำกรณ์ สำมโกเศศ
กล่ำวโอวำทในงำนประสำทปริญญำของมหำวิทยำลัยธุรกิจบัณฑิตย์
เมื่อวันที่ 26-28 ก.พ. 2559. มีข้อควำมตอนหนึ่งกล่ำวไว้ดังนี้
“...ในขณะนี้โลกกำลังเกิดกำรปฏิวัติอุตสำหกรรมครั้งที่ 4
ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบัณฑิตทุกคนในด้ำนกำรดำรงชีวิต กำรทำงำน
และกำรประกอบอำชีพอย่ำงไม่เคยมีมำก่อนในประวัติศำสตร์
หำกบัณฑิตไม่ระมัดระวังให้ดีแล้ว กำรศึกษำที่ท่ำนได้รับไปนี้
ในเวลำอันไม่นำน อำจไม่มีควำมหมำยต่อชีวิตของท่ำนมำก
ดังที่ท่ำนคำดหวัง…”
จำกกระบวนกำรจัดกำรศึกษำของไทยตลอดเวลำที่ผ่ำนมำ
ตั้งแต่มีพระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติพุทธศักรำช 2542
และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2) พุทธศักรำช 2545 หมวด 5
กำรบริหำรและกำรจัดกำรศึกษำของรัฐ มำตรำ 39
บัญญัติให้กระทรวงกระจำยอำนำจกำรบริหำร
และกำรจัดกำรศึกษำลงในเขตพื้นที่โดยตรง อีกทั้งในรัฐธรรมนูญ
แห่งรำชอำณำจักรไทยพุทธศักรำช 2550 มำตรำ 49(3)
รับรองกำรจัดกำรศึกษำทำงเลือกของประชำชนให้ได้รับกำรคุ้มครองและส่
งเสริมที่เหมำะสมจำกรัฐ
นำไปสู่กำรพัฒนำผู้เรียนในกำรปฏิรูปกำรศึกษำรอบที่ 2 (พ.ศ.2552-
2561)
ผลของควำมพยำยำมปฏิรูปกำรศึกษำไทยหลำยฝ่ำยคงตระหนักถึงผลลัพธ์เ
ป็นที่ประจักษ์แล้ว เช่นข้อมูลจำกกำรประชุมของ World Economic
Forum (WEF) ชื่อ Global Competitiveness Report 2014-2015
ชี้คุณภำพของกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนของไทยอยู่ที่อันดับ 7 ของอำเซียน
เลื่อนลงมำจำกอันดับ 6 และอุดมศึกษำอยู่ที่อันดับ 8
ซึ่งสรุปได้ว่ำกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนและอุดมศึกษำของไทยอยู่อันดับต่ำกว่ำลำ
ว ตำมด้วยอุดมศึกษำอยู่หลังกัมพูชำ
จำกกำรศึกษำเอกสำร
งำนวิจัยที่เกี่ยวข้องและกำรสำรวจข้อมูลเบื้องต้น
พบว่ำปัญหำสำคัญที่เกิดขึ้นคือผลลัพธ์ที่ได้จำกกระบวนกำรจัดกำรศึกษำขอ
งไทยแบบดั้งเดิม
อำจส่งผลต่อคุณลักษณะผู้เรียนซึ่งตอบโจทย์ควำมต้องกำรของสังคมได้น้อย
- 5. 5
โดยดำเนินกำร ศึกษำควำมเป็นไปได้ ใน 3 ด้ำนหลัก ไดัแก่ ด้ำนที่
1. ด้ำนหลักกำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ 2.
ด้ำนควำมจำเป็นที่ต้องเข้ำเรียนในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก อไจล์
และ 3.
ด้ำนข้อได้เปรียบของกำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ
อไจล์ เป็นอีก หนึ่งเครื่องมือ ที่จะเข้ำมำช่วยงำนเกี่ยวกับกำรพัฒนำคน
คล้ำยกับหลักกำรทำงวิทยำศำสตร์ร่วมสมัย(ควอนตัม) และแนวทำงของ
อไจล์
น่ำจะเป็นกระบวนกำรจัดกำรศึกษำแบบสำกลในประเทศไทยได้อีกหนึ่งทำง
เลือก
ไพฑูรย์ สินลำรัตน์. (8 เมษำยน 2559)
จำกงำนเสวนำทำงวิชำกำร เรื่อง “กำรจัดกำร
กำรศึกษำแบบก้ำวหน้ำแนวอไจล์ เพื่อเพิ่มทำงเลือกกำรจัดกำร
กำรศึกษำไทย” ได้กล่ำวไว้ในกำรเปิดงำนเสวนำครั้งนี้ว่ำ
“วัฒนธรรมกำรทำงำนแนวอไจล์ ในโรงเรียนไม่ใช่เรื่องใหม่
เพียงแต่เข้ำมำช่วยอธิบำยปรำกฏกำรณ์กำรทำงำนของโรงเรียนที่มีกำรบริห
ำรจัดกำรแบบก้ำวหน้ำ แตกต่ำงไปจำกโรงเรียนกระแสหลักทั่วๆ ไป
อไจล์จะเน้นควำมเป็นปัจเจกบุคคลของผู้เรียนเป็นสำคัญ
และสำมำรถผลิตผู้เรียนได้เป็นที่ต้องกำรของสังคม
อไจล์เข้ำมำช่วยอธิบำยและให้เห็นภำพกำรทำงำนได้ชัดเจนขึ้น
ซึ่งเป็นช่วงเวลำ
และจังหวะที่เหมำะกับยุคสมัยแห่งกำรเปลี่ยนแปลงในขณะนี้”
คุณกุลวัฒน วงศำโรจน์และ คุณกมล ตรีธรรมพินิจ
ประธำนและกรรมกำรบริษัท Agile Coach at Lean in Consulting of
Thailand วิยำกรรับเชิญได้มำร่วมนำเสนอมุมมองจำกนักพัฒนำซอฟแวร์
สู่สถำนศึกษำไว้ อย่ำงน่ำสนใจ
เช่นกำรยกตัวอย่ำงเรื่องกำรลงทุนเป็นจำนวนมำกกับกำรพัฒนำตัวคลิปปี้ใน
ระบบไมโครซอฟ ในที่สุดต้องถอดเครื่องมือตัวนี้ออกจำกระบบ
เนื่องจำกไม่มีผู้ใช้งำน และเป็นที่น่ำรำคำญแก่ผู้ใช้งำนคอมพิวเตอร์
คล้ำยกับสถำนศึกษำหรือโรงเรียนบำงส่วนที่มีบุคลำกรขำดควำมรู้
ควำมเข้ำใจ ในภำคปฏิบัติและกระบวนกำร
ส่งผลให้กำรพัฒนำคุณลักษณะผู้เรียนบำงกลุ่มขำดทักษะกำรคิดขั้นสูง
- 6. 6
ขำดทักษะกำรทำงำนเป็นทีม เรียนเพื่อสอบให้ได้คะแนนสูง
มำกกว่ำเรียนเพื่อนำไปใช้จริง เป็นกรณีเดียวกันกับกำรพัฒนำตัวคลิปปี้
ซึ่งถือเป็นกำรลงทุนที่สูญเปล่ำ
เนื่องจำกไม่เป็นที่ต้องกำรใช้งำนของคนในสังคมมำกเท่ำที่ควร
นำยวิวิศน์ พรทิพยพำนิช ผู้อำนวยกำรโรงเรียนวัดวังน้ำเย็น
(พ.ศ. 2559) เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบำล ถึงมัธยมศึกษำปีที่ 3
ด้วยควำมเป็นผู้บริหำรมืออำชีพในโรงเรียนรัฐบำลขนำดเล็กที่มีข้อจำกัดมำ
กมำยในกำรทำงำน แต่ด้วยควำมเป็น “Agile Mind”
ซึ่งเป็นคุณลักษณะพิเศษของผู้นำที่ให้ควำมสำคัญกับกำรทำงำนเป็นทีม
และกำรสร้ำงเครือข่ำยในชุมชนให้ทำงำนในทิศทำงอันเดียวกัน
ได้มำแบ่งปันแนวปฏิบัติ ตำมหลัก ปรัชญำอไจล์
จำกโจทย์ที่ยำก...สู่งำนที่ท้ำทำย
เป็นแรงขับดันภำยในของผู้นำที่มีอุดมกำรณ์เพื่อผู้เรียน
จนก้ำวสู่กำรเป็นโรงเรียนแกนนำและเป็นผู้นำให้กับโรงเรียนในเครือข่ำยม
ำกกว่ำ 20 โรงเรียนในปัจจุบัน
กล้ำ ทองขำว ผู้อำนวยกำรหลักสูตรมหำบัญฑิตยครุศำสตร์
มหำวิทยำลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และเป็นนักคิด นักทฤษฎี กล่ำวสรุปเกี่ยวกับ
อไจล์ ไว้ดังนี้ “เรำใช้ขบวนกำรจัดกำร แนวอไจล์ เพื่อกำรจัดกำรเรียน
กำรสอนแบบก้ำวหน้ำในคณะของเรำ
รวมทั้งแนวควำมคิดและวิวัฒนำกำรของควำมคิดจำกหลำกหลำยองค์กำร
แทบไม่น่ำเชื่อว่ำทีมนักพัฒนำโปรแกรมเมอร์ จะสำมำรถตกผลึกแนวคิด
แนวปฏิบัติของอไจล์ สู่กำรเป็น Learning to be Learn
ของผู้เรียนในรุ่นอัลฟำ ได้เป็นอย่ำงดี ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อกำรคิด
และต่อขบวนกำรจัดกำรศึกษำเพื่อกำรเรียนรู้ของประเทศไทยต่อไปในอนำ
คต”
เช่นกันหำกสถำนศึกษำหรือโรงเรียนไม่สำมำรถพัฒนำคนให้แตกต่ำ
งจำกเครื่องจักรได้
สถำนศึกษำหรือโรงเรียนอำจจะต้องทบทวนกระบวนกำรจัดกำรใหม่
แนวคิดตำมประเด็นเหล่ำนี้ได้เริ่มมีอิทธิพลต่อกำรจัดกำรศึกษำในหลำยปร
ะเทศโดยเฉพำะที่อเมริกำ ขบวนกำรปรับวัฒนธรรมกำรทำงำนตำมหลัก
“ปรัชญำอไจล์” ไม่ใช่เรื่องใหม่
- 8. 8
ด้ำนหลักกำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ 2.
ด้ำนควำมจำเป็นที่ต้องเข้ำเรียนในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก และ
3.
ด้ำนข้อได้เปรียบของกำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ
อไจล์
1.4 กรอบกำรศึกษำวิจัย
1.5 ขอบเขตกำรวิจัย
กำรศึกษำนี้ มีขอบเขตในประเด็นต่ำงๆ ดังนี้
1.6.1 ประชำกรใช้กลุ่มตัวอย่ำงแบบเจำะจง (Purposive
sampling) ในเครือข่ำยโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก School of
tomorrow ในประเทศไทย
1.
หลักกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำ
ชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์
-
กำรเน้นคนและกำรมีปฏิสัม
พันธ์กัน
-
ประสบกำรณ์/ควำมรู้ที่นำไป
ใช้ได้จริง
-
ควำมร่วมมือระหว่ำงผู้เกี่ยว
ข้อง
-
กำรปรับมือกับกำรเปลี่ยนแป
ลง
2.
ควำมจำเป็ นที่ต้องเข้ำเรียน
ในระบบโรงเรียนนำนำชำติ
อไจล์
- มุ่งควำมเป็ นสำกล
- ฝึ กฝนประสบกำรณ์
- วิชำกำรสร้ำงสุข
- สนุกพัฒนำทีม
3.
ข้อได้เปรียบของกำรบริหำรจัดก
ำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรั
ชญำอไจล์
- มีหลักสูตรเฉพำะ
- มีทีมงำน อไจล์มำยด์
- มีเครือข่ำยสัมพันธ์
- ตัดสินใจรวดเร็วทันเวลำ
ความเป็นไปได้ในการจัด
ตั้งโรงเรียนนานาชาติตา
มหลักปรัชญา อไจล์
ในประเทศไทย
- 9. 9
1.6.2 ประเด็นกำรศึกษำ
แบ่งกำรศึกษำควำมเป็นไปได้ในกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำชำติ เป็น 2
ด้ำนหลัก คือด้ำนวิชำกำร และด้ำนกำรตลำดเบื้องต้น
1) ด้ำนวิชำกำร ประกอบด้วย
ควำมเป็นไปได้ของแนวคิด ทฤษฎีและหลักกำรที่เกี่ยวข้องได้แก่ - หลักกำร
แนวคิดปรัชญำ อไจล์, - องค์กรควอนตัม อไจล์, -
หลักกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ อไจล์ ,
ควำมจำเป็นที่ต้องเข้ำเรียนในระบบโรงเรียนนำนำชำติ อไจล์
และข้อได้เปรียบของกำรบริหำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติตำมหลักปรัชญำ
อไจล์
2) ด้ำนกำรตลำด ประกอบด้วย กำรเงิน-
งบประมำณกำรเงิน (เงินลงทุน, ประมำณกำรงบดุล, ประมำณรับจ่ำย) -
ด้ำนวิชำกำร (แผนกำรเปิดหลักสูตร, โครงสร้ำงหลักสูตร) -
ด้ำนกำรบริหำรจัดกำร (ทิศทำงของกำรจัดตั้งโรงเรียน, โครงสร้ำง)
1.6.3 ระยะเวลำศึกษำ 6 เดือน (กันยำยน 2560-กุมภำพันธ์
พ.ศ.2561)
1.6 นิยำมศัพท์เฉพำะ
กำรศึกษำควำมเป็ นไปได้ของโครงกำร หมำยถึง
กำรศึกษำโอกำสทำงธุรกิจบริกำรด้ำนกำรศึกษำในระบบโรงเรียนนำนำชำติ
Agility ศึกษำควำมเหมำะสม ควำมสนใจ กำรตัดสินใจของกลุ่มเป้ำหมำย
อไจล์ หมำยถึง แนวคิด แนวปฏิบัติของทีมงำนที่คล่องตัว
และบรรลุเป้ำหมำยในเวลำอันรวดเร็ว
โรงเรียนนำนำชำติอไจล์ หมำยถึง
โรงเรียนในระบบนำนำชำติที่เป็นทำงเลือก ตำมทิศทำงของหลักสูตรเฉพำะ
เน้นบ่มเพำะนักลงทุนแบบยั่งยืน
หลักสูตร AGI (Agility) หมำยถึง
ประเด็นเรื่องของมวลประสบกำรณ์ที่พัฒนำมำจำกศำสตร์และศิลป์ ในตัวเอง
รวมหลักแนวคิด
แนวปฏิบัติขั้นพื้นฐำนที่สำมำรถต่อยอดนำไปใช้ได้จริงเพื่อกำรดำรงชีวิตแล
ะแบ่งปันแก่ผู้อื่นได้
- 10. 10
หลักกำรจัดกำรของ AGI หมำยถึง
กำรทำงำนของทีมที่สำมำรถจัดกำรตนเองได้ เพื่อกำรบรรลุเป้ำหมำย
ในเวลำอันรวดเร็ว
ควำมจำเป็น หมำยถึง กำรแสดงออกของมนุษย์
ที่ถูกกระตุ้นให้กระทำเพื่อควำมอยู่รอด
ข้อได้เปรียบของโรงเรียนทำงเลือก หมำยถึง
ควำมสำมำรถของโรงเรียน ที่สำมำรถจัดกำรตนเองได้รวดเร็ว
ต่อกำรบรรลุเป้ำหมำยคือ คุณภำพผู้เรียน และเป็นที่ต้องกำรของสังคม
1.7 ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ
1. ผลกำรศึกษำควำมเป็นไปได้ในกำรจัดตั้งโรงเรียนนำนำชำติ
ตำมหลักปรัชญำอไจล์
ใช้เป็นข้อมูลประกอบกำรตัดสินใจเพื่อกำรประกอบธุรกิจบริกำรด้ำนกำรศึก
ษำในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือกในประเทศไทย
2. ผลสรุปกำรเก็บข้อมูลเบื้องต้นจำกกลุ่มเป้ำหมำย
สำมำรถนำไปพัฒนำกระบวนกำรจัดกำรสถำนศึกษำ
ในระบบโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือกของไทยและในกลุ่มอำเซียนต่อไป
1.8 กำรนำเสนอกำรวิจัย
บทที่ 1 เป็นกำรนำเสนอควำมสำคัญของระบบกำรศึกษำ
ควำมเป็นมำของปัญหำตำมบริบทสังคมของโลกในยุคแห่งกำรเปลี่ยนผ่ำนที่
ยำกแก่กำรคำดเดำ ประกอบด้วยคำถำมในกำรวิจัย วัตถุประสงค์กำรวิจัย
กรอบกำรวิจัย ขอบเขตกำรวิจัย นิยำมศัพท์เฉพำะ
ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ
บทที่ 2 เป็นกำรนำเสนอด้ำนวิชำกำร แนวคิด
ทฤษฎีและหลักกำรที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษำควำมเป็นไปได้ ซึ่งประกอบด้วย
หลักกำร แนวคิดปรัชญำอไจล์ องค์กรควอนตัมอไจล์
หลักกำรจัดกำรโรงเรียนนำนำชำติ Agility
กำรเปรียบเทียบโรงเรียนในระบบและโรงเรียนทำงเลือก
และควำมต้องกำรเข้ำเรียนในโรงเรียนนำนำชำติทำงเลือก
และได้ศึกษำควำมเป็นไปได้เบื้องต้นของโครงกำรจัดตั้งโรงเรียนนำ
- 11. 11
นำชำติ Agility โดยศึกษำใน 2 ด้ำนใหญ่ๆ ดังนี้ 1. ด้ำนกำรเงิน
งบประมำณกำรเงิน (เงินลงทุน, ประมำณกำรงบดุล, ประมำณรับจ่ำย) 2.
ด้ำนกำรตลำด ควำมเหมำะสมด้ำนวิชำกำร (แผนกำรเปิดหลักสูตร,
โครงสร้ำงหลักสูตร) ด้ำนกำรบริหำรจัดกำร (ทิศทำงของกำรจัดตั้ง,
โครงสร้ำงกำรบริหำร)
บทที่ 3 เป็นกำรนำเสนอระเบียบวิธีวิจัย
เครื่องมือที่ใช้สำหรับกำรเก็บรวบรวมข้อมูล ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง
กำรวิเครำะห์ข้อมูล