More Related Content
Similar to ศิลปการพูด 5 (20)
ศิลปการพูด 5
- 1. ศิล ปะการพูด เพื่อ การสื่อ สารโน้ม
น้า วใจหรือ จูง ใจ
การพูด คือ การใช้ถ ้อ ยคำา นำ้า เสีย ง
และกิร ิย าอาการ เพื่อ ถ่า ยทอดอารมณ์
ความรู้ส ก นึก คิด ความรู้
ึ
ประสบการณ์ ตลอดจนความต้อ งการ
ของผูพ ูด ให้ผ ู้ฟ ง ได้ร ับ รู้ และเกิด การ
้
ั
ตอบสนอง
- 2. • การพูด ทีด ี คือ การใช้ถ ้อ ยคำา
่
นำ้า เสีย ง ผสมผสานกิร ิย าอาการ
เพื่อ สื่อ สารอย่า งมีป ระสิท ธิภ าพ
เพื่อ ถ่า ยทอดอารมณ์ ความรู้ส ึก
นึก คิด ความรู้ ประสบการณ์
และความต้อ งการที่เ ป็น คุณ
ประโยชน์แ ก่ผ ู้ฟ ัง เพือ ให้เ กิด
่
การรับ รู้ และเกิด ผลการตอบ
สนองอย่า งได้ผ ลตามความมุ่ง
- 3. ความมุ่ง หมายของการพูด
ความมุ่ง หมายของการพูด คือ การ
แสดงหรือ เสนอข้อ คิด เห็น ต่อ ผู้ฟ ัง
และผู้ฟ ง สามารถรับ รู้เ รื่อ งราวและ
ั
เข้า ใจได้ต รงกับ ความต้อ งการของผู้
พูด ตลอดจนสามารถนำา ไปปฏิบ ต ิไ ด้
ั
อย่า งมีป ระสิท ธิภ าพ
ความมุง หมายของการพูด แบ่ง เป็น 2
่
ประเภทใหญ่ ๆ
- 4. 1. ความมุ่ง หมายโดยทัว ไป คือ
่
การพูด ที่พ ยายามให้ผ ฟ ัง เกิด
ู้
ก. ความสนใจ
ข. ความเข้า ใจ
ค. ความประทับ ใจ
- 5. 2. ความมุ่ง หมายเฉพาะ
ก. เพื่อ ให้ข ่า วสารความรู้ เป็นการ
พูดแบบเสนอข้อเท็จจริง โดยไม่มุ่งหมายที่
จะเปลี่ยนทัศนคติของผู้ฟัง แต่เพื่อเพิ่มพูน
ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ฟัง
ข. เพื่อ ความบัน เทิง เป็นการพูดเพื่อให้ผู้
ฟังสนุกสนานครึกครื้น
ค. เพื่อ ชัก จูง ใจ คือ การพูดที่มุ่งหวังให้ผู้
ฟังเปลี่ยนใจ
เห็นคล้อยตามผู้พูด โดย
ใช้ การเร้าอารมณ์เป็นที่ตั้ง
- 6. การพูด เพื่อ ชัก จูง ใจ
การพูด เพื่อ ชัก จูง ใจ เป็น การพูด
เพื่อ ให้ผ ฟ ัง ได้ร ู้ เพื่อ ให้ผ ฟ ัง เชือ และ
ู้
ู้
่
เพื่อ ให้ผ ฟ ัง เห็น ด้ว ยทั้ง ทางความคิด
ู้
และการกระทำา ตามความมุง หมายของผู้
่
พูด
เป็น การพูด ให้ผ ฟ ัง มีค วามเห็น คล้อ ย
ู้
ตามและปฏิบ ต ิต าม เป็น การพูด อย่า งมี
ั
เหตุผ ล เพื่อ โน้ม น้า วจิต ใจ เกลี้ย กล่อ ม
ชัก จูง ให้ผ ฟ ัง คล้อ ยตาม
ู้
- 7. จุดมุงหมายของการพูดจูงใจ
่
เพื่อ ชัก จูง ให้ผ ู้ฟ ง เห็น ด้ว ย คล้อ ย
ั
ตามในข้อ เรีย กร้อ ง วิง วอนหรือ
ข้อ ประท้ว ง เพื่อ ให้เ ปลี่ย นความ
เชื่อ ความคิด เพือ กระตุ้น อารมณ์
่
ให้ท ำา หรือ ปฏิบ ต ิอ ย่า งใดอย่า งหนึ่ง
ั
- 8. หลัก การพูด จูง ใจ
*ให้ผ ู้ฟ ง สนใจในการพูด
ั
* ทำา ให้ผ ู้ฟ ง ไว้ว างใจ และมี
ั
ศรัท ธาในถ้อ ยคำา ของผู้พ ด
ู
* บรรยายถึง เหตุผ ล ข้อ
เท็จ จริง เพือ เป็น ความรู้แ ก่
่
ผู้
ฟัง เกี่ย วกับ คุณ ค่า ของปัญ หาที่น ำา
มาแสดง
* พูด ด้ว ยการวิง วอนคน จูง ใจ
ให้ผ ู้ฟ ง ปฏิบ ัต ิต าม กล่า วถึง
ั
- 9. องค์ป ระกอบของการพูด จูง ใจ
องค์ป ระกอบของการพูด ที่ส มบูร ณ์
ประกอบด้ว ย
1. ผู้พ ด
ู
2. เนื้อ เรื่อ งที่จ ะพูด
3. ผู้ฟ ง
ั
4. เครื่อ งมือ สื่อ ความหมาย
5. ความมุ่ง หมายและผลใน
การพูด แต่ล ะครั้ง
- 10. ผู้พ ด หรือ ผู้ส ่ง ข่า วสาร
ู
(Source/Sender)
สาเหตุข องความประหม่า
1. มองเห็น จุด อ่อ นของตนเอง
มากเกิน ควร
2. เกิด ความขัด แย้ง ภายใน
ตนเอง
3. วาดภาพในใจไว้อ ย่า งผิด ๆ
- 11. ข้อ ปฏิบ ัต ิเ พื่อ เอาชนะความ
ประหม่า เวทีใ ห้ไ ด้ผ ล และสร้า ง
ความมั่น ใจในตนเอง
* เตรีย มซ้อ มเรื่อ งที่จ ะพูด มาให้
แม่น ยำา ที่ส ุด เท่า ที่จ ะทำา ได้
* ให้ค วามสนใจในเรื่อ งราวที่จ ะ
พูด ให้ม ากพอ
* หาข้อ มูล เกี่ย วกับ คนฟัง ให้ม าก
พอ เพือ จะได้ด ัด แปลงเรื่อ งที่เ รา
่
พูด ให้เ หมาะสมกับ คนฟัง ให้ม าก
- 12. * ขณะที่พ ูด พยายามพูด กับ คนฟัง
ให้ท ั่ว ถึง ยิง จับ ตาคนฟัง ให้ท ั่ว ถึง
่
มากเพีย งไร ความกลัว ก็จ ะหาย
ไป
* พยายามทรงตัว ให้ด ีข ณะที่พ ูด
การทรงตัว ที่ส มดุล
จะทำา ให้ผ ู้
พูด รู้ส ึก มั่น ใจขึ้น
* ตั้ง ใจให้ม ั่น คงเสมอว่า จะ
พยายามพูด ให้ผ ู้ฟ ง เกิด ความ
ั
- 13. นัก พูด ที่ด ีจ ะต้อ งพยายามเป็น ตัว ของตัว
เอง อย่า เลีย นเสีย ง และลีล าของใคร
พยายามพูด ให้เ ป็น แบบธรรมชาติ
สิง ที่ค วรปฏิบ ต ิ
่
ั
*
*
*
*
*
พูด ให้เ สีย งดัง ฟัง ชัด
จัง หวะการพูด ไม่ช ้า หรือ เร็ว เกิน ไป
อย่า พูด เอ้อ -อ้า
อย่า พูด เหมือ นอ่า นหนัง สือ หรือ ท่อ งจำา
พูด ด้ว ยความรู้ส ึก ทีจ ริง ใจ
่
- 14. ข้อ เตือ นที่ค วรจดจำา
อย่า พูด จนกว่า ท่า นจะมี ความ
เข้า ใจ ในเรื่อ งที่ท ่า นจะพูด
อย่า พูด จนกว่า ท่า นจะมี ความเชือ
่
เรื่อ งที่ท ่า นพูด
อย่า พูด จนกว่า ท่า นจะมี ความรู้ส ึก
ตาม เรื่อ งที่ท ่า นพูด
- 15. ปัญหาเฉพาะหน้า ที่อาจเกิดขึ้น
ผูฟ ัง แสดงความไม่พ อใจหรือ ไม่เ ป็น
้
มิต รกับ ผูพ ูด
้
จงยิ้ม เพราะการยิ้ม แสดงถึง ความ
รัก ความชอบ
ความเป็น มิต ร
ผูฟ ัง หรือ คูส นทนาโต้เ ถีย งกับ ท่า น
้
่
จงหลีก เลี่ย งการโต้เ ถีย ง ควรรู้จ ัก
ผ่อ นสัน ผ่อ นยาว ใช้ค วามสุข ุม
้
รอบคอบ ประนีป ระนอม และเห็น อก
เห็น ใจ
- 16. ผูฟ ัง หรือ คูส นทนาตำา หนิต ิเ ตีย นหรือ
้
่
กล่า วโทษท่า น
จงพูด ปรัก ปรำา ลงโทษตัว เองใน
ประการต่า ง ๆ ซึ่ง จะเป็น การลดความ
ขุ่น เคือ งของผูฟ ัง ลงได้
้
จงใช้ว ิธ ส ภ าพอ่อ นโยน นุม นวล
ี ุ
่
แสดงความเป็น มิต ร
เมื่อ พูด กับ ฝูง ชนที่ก ำา ลัง คลั่ง แค้น ใน
ลัก ษณะที่บ า คลั่ง
้
จงหลีก เลี่ย งการให้เ หตุผ ลเมือ แรก
่
พบ
วิธ ท ี่ด ีท ี่ส ด คือ พยายามพูด ให้ฝ ง ชน
ี
ุ
ู
- 17. เมื่อ พูด กับ ฝูง ชนที่เ สนอข้อ เรีย กร้อ ง
ผูพ ูด จะต้อ งตั้ง สติใ ห้ม น อย่า แสดง
้
ั่
อาการตกใจหรือ รู้ส ก หวาดหวั่น มากเกิน
ึ
ไป
ไม่ค วรจะตอบรับ หรือ ตอบปฏิเ สธทัน ที
ควรพูด รับ แต่เ พีย งว่า
“จะขอรับ ข้อ เสนอทั้ง หมดไว้ใ ห้ผ ม อ ำา นาจ
ู้ ี
พิจ ารณา” หรือ
หากท่า นเป็น ผูม อ ำา นาจสูง สุด อาจตอบ
้ ี
อย่า งมีค วามหวัง ว่า
“ ขอรับ ข้อ เรีย กร้อ งทั้ง หมดนี้ไ ว้พ ิจ ารณา
- 18. เมื่อ พูด กับ ฝูง ชนที่บ บ คัน ให้ต อบคำา ถาม
ี ้
ที่ไ ม่ม ีท างเลือ ก
เช่น “จะจัด การหรือ ไม่” “จะทำา
หรือ ไม่” “จะเพิ่ม เติม หรือ ไม่” หรือ
“จะแก้ไ ขหรือ ไม่”
ควรตอบว่า ตนยัง ไม่ท ราบข้อ เท็จ
จริง จะต้อ งทราบข้อ เท็จ จริง เสีย ก่อ นจึง
จะตอบให้ท ราบ โดยพยายามใช้ค ำา พูด
แสดงความตั้ง ใจที่จ ะช่ว ยเหลือ และให้
ความร่ว มมือ เช่น พูด ว่า เห็น ใจเขา
เข้า ใจพวกเขาดี จะพยายามหาหนทาง
- 19. ข้อ ควรระวัง ในการพูด ให้เ กิด อารมณ์ข ัน
“การพูด ให้เ กิด อารมณ์ข ัน ต้อ ง
สร้า งสรรค์อ ย่า งเหมาะสม”
* อย่า บอกผู้ฟ ัง ด้ว ยประโยคทำา นองนี้
“ต่อ ไปนี้เ ป็น เรื่อ งขำา ขัน ...” “อยาก
จะเล่า เรื่อ งตลกให้ฟ ง ...” “มีเ รื่อ ง
ั
สนุก ๆ จะเล่า ให้ท ่า นฟัง ...”
* อย่า ตลกเองหัว เราะเอง พยายาม
อย่า หัว เราะก่อ นผู้ฟ ัง เป็น
อัน ขาด
* อย่า ให้เ รื่อ งตลกกลายเป็น สาระ
- 20. * ระวัง การล้อ เลีย นเสีย ดสี ประชด
ประชัน บุค คลหรือ สถาบัน ให้ด ี อย่า
ให้ม ากจนเกิน ขอบเขต จะเป็น ผลร้า ย
มากกว่า ผลดี
* อย่า พูด เรื่อ งหยาบโลน หรือ ตลกสอง
แง่ส องง่า ม แม้จ ะเรีย ก
เสีย งฮาได้
แต่ก ็เ ป็น การลดค่า ตัว เองให้ต ำ่า ลง
* ขนบธรรมเนีย ม วัฒ นธรรม ศาสนา
และสิง ที่ค นทั่ว ไปเคารพสัก การะ อย่า
่
นำา มาล้อ เลีย น พูด เล่น เป็น อัน ขาด
- 21. เอกสารอ้างอิง
พัชนี เชยจรรยา, เมตตา กฤตวิทย์ และถิร
นันท์ อนวัชศิริวงศ์.แนวคิดหลัก
นิเทศศาสตร์.กรุงเทพฯ:เจริญผล,2534.
ภูสิต เพ็ญสิริ.การสือสารเพื่อโน้มน้าวใจ.
่
(เอกสารประกอบการบรรยาย),2549.
ประเสริฐ บุญเสริม.บทความศิลปะการพูด.
(ออนไลน์)