More Related Content Similar to คลื่น ไมโครเวฟ 2003
Similar to คลื่น ไมโครเวฟ 2003 (20) คลื่น ไมโครเวฟ 20033. กำรค้นพบ
ในปี ค.ศ.1940 ของสองนักประดิษฐ์ชำวอังกฤษ คือ จอห์น
แรนดอลล์และ เอช เอ บู๊ตได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ที่เรียกกันว่ำ "แม็
กนีตรอน" ใช้ผลิตพลังงำนไมโครเวฟ ซึ่งเป็นกำรแผ่รังสีคลืนสัน ่ ้
รูปแบบหนึ่ง โดยจุดประสงค์ครั้งแรกคือ ใช้ในกำรปรับปรุงระบบ
เรดำร์ที่ใช้ในสงครำมโลกครั้งที่ 2เปอร์ซี่ เลอ บำรอน สเปนเซอร์
เป็นนักฟิสิกส์ที่ทำำงำนให้กบ บริษัท เรทีออน ผู้ผลิตอุปกรณ์
ั
เรดำร์ เขำพบว่ำ เมื่อเขำใช้เครื่องแม็กนีตรอน รังสีที่ได้ให้ควำม
ร้อนออกมำด้วย เขำจึงหำวิธีที่จะนำำเอำควำมร้อนนี้มำใช้ ในไม่
ช้ำเขำก็ใช้แม็กนีตรอนละลำยช็อกโกเล็ตและทำำข้ำวโพดคั่วของ
เขำไมโครเวฟ ทำำให้โมเลกุลของอำหำรเกิดกำรสั่นสะเทือน ดัง
นั้นอำหำรจึงร้อนขึ้นและขบวนกำรนี้เกิดขึ้นเร็วมำก คลืนนี้ไม่
่
ทำำให้สิ่งที่ทำำจำกกระดำษ กระเบื้องเคลือบ หรือแก้วร้อนขึ้น กำร
ใช้ไมโครเวฟในกำรปรุงอำหำรนอกจำกจะสะดวก ใช้เวลำสั้นลง
แล้วยังประหยัดพลังงำนอีกด้วยใน ค.ศ.1945 เริ่มมีกำรผลิตเตำ
ไมโครเวฟออกจำำหน่ำยแต่ยังมีขนำดใหญ่ไม่เหมำะกับกำรใชใน
ครัวทั่วไป ต้องใช้เวลำอีกนำนกว่ำจะสำมำรถพัฒนำให้มีขนำด
5. ข้อ ดีใ นการใช้ว ท ยุไ มโครเวฟ
ิ
ในการสือ สาร
่
คุณสมบัติการกระจายคลืนไมโครเวฟคงที่
่
ทิศทางของสายอากาศเป็นแนวพุ่งตรงไปในทิศทางที่ต้องการ
อัตราขยายสัญญาณของสายอากาศสูง
สามารถทำาให้อตราส่วนของสัญญาณต่อสัญญาณรบกวนดีขึ้น
ั
คือมีสัญญาณรบกวนเกิดขึ้นน้อย
สามารถส่งคลื่นได้ในย่านกว้างเพราะคลื่นมีความถี่สูงมาก
เครือข่ายมีความน่าเชื่อถือสูงในการใช้งาน
ปลอดภัยจากการเกิดภัยธรรมชาติ เช่น นำ้าท่วม แผ่นดินไหว
การรบกวนที่เกิดจากมนุษย์ทำาขึ้นมีน้อย เช่น อุบัติเหตุ การ
ก่อสร้าง ไฟไหม้
การก่อสร้างทำาได้ง่าย และเร็ว
สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างน้อย ใช้ค่าใช้จ่ายน้อยแต่
7. การสือ สารไมโครเวฟ
่
การสื่อสารไมโครเวฟ วิธที่นิยมใช้กนมากก็คือการสื่อสาร
ี ั
ในระดับสายตา ใช้ในการสื่อสารข้อมูลข่าวสารในปริมาณ
มากๆ เส้นทางในการสื่อสารนี้จะประมาณ 50-80 กิโลเมตร
และไม่มีสิ่งกีดขวาง แต่ถ้าต้องการสื่อสารในระยะไกลกว่านี้
จะต้องมีสถานีทวนสัญญาณเพื่อ ให้รับสัญญาณและทำาการ
ขยายแล้วส่งสัญญาณต่อไป จนถึงปลายทางได้
8. สถานีท วนสัญ ญาณไมโครเวฟ
สถานีทวนสัญญาณไมโครเวฟ ใช้ในการสือสารไมโครเวฟในระดับสายตา เนื่องจากการสือสาร
่ ่
ในรูปแบบนี้มผลต่อส่วนโค้งของโลก ดังนั้นในการสือสารไมโครเวฟนี้จะต้องมีสถานีทวนสัญญาณ
ี ่
ในระยะทุกๆ 50-80 กม. ซึ่งสถานีทวนสัญญาณจะทำาการถ่ายทอด สัญญาณจากสถานีต้นทาง
ทำาการรับสัญญาณมาและทำาการขยายสัญญาณ ให้แรงขึนแล้วก็ทำาการส่งสัญญาณต่อไปจนถึง
้
ปลายทาง
สถานีทวนสัญญาณข่าวสารข้อมูล จะทำาการเปลี่ยนแปลงความถี่ทรับเข้ามาให้เหลือเพียงความถี่
ี่
ข่าวสารข้อมูลก่อน แล้วก็ทำาการขยายสัญญาณให้แรงขึนอีกที จากนั้นก็นำาไปผสมกับความถี่
้
ไมโครเวฟความถี่ใหม่ แล้วทำาการส่งออกไป ข้อดีของสถานีทวนสัญญาณรูปแบบนี้คือ สามารถดึง
สัญญาณข่าวสารข้อมูลมาใช้ได้ และสามารถทำาการนำาข่าวสารข้อมูลใหม่แทรกเข้าไปได้ด้วย ข้อ
เสียของสถานีทวนสัญญาณรูปแบบนี้คือ จะเกิดสัญญาณรบกวนแทรกเข้ามา และระดับความแรง
ของสัญญาณข่าวสารข้อมูลไม่คงที่
สถานีทวนสัญญาณความถี่ IF สถานีทวนสัญญาณรูปแบบนี้จะทำาการเปลี่ยนความถี่ทรับเข้ามาให้
ี่
เป็นความถี่ IF ก่อนแล้วจึงทำาการขยายสัญญาณให้แรงขึนอีกที จากนั้นก็ค่อยทำาการผสมกับคลื่น
้
ไมโครเวฟ ความถีใหม่ แล้วจึงทำาการส่งออกไป ข้อดีของสถานีทวนสัญญาณรูปแบบนี้คือ
่
อัตราส่วนของสัญญาณต่อสัญญาณรบกวนดีขน ระดับความแรงของสัญญาณข้อมูลข่าวสารคงที่
ึ้
ข้อเสียของสถานีทวนสัญญาณรูปแบบคือ ไม่สามารถดึงสัญญาณข้อมูลข่าวสารมาใช้ได้และไม่
สามารถแทรกสัญญาณข้อมูลใหม่ เข้าไปได้
สถานีทวนสัญญาณความถี่ RF สถานีทวนสัญญาณรูปแบบนี้ จะทำาการเปลี่ยนความถี่ RF เดิมไป
เป็นความถี่ RF ใหม่ โดยตรงก่อนแล้วค่อยทำาการส่งออกไป ข้อดีของสถานีทวนสัญญาณรูปแบบ
คือ มีอตราส่วนของสัญญาณต่อสัญญาณรบกวนดีมาก สัญญาณข้อมูลข่าวสารมีความคงที่ ข้อเสีย
ั
ของสถานีทวนสัญญาณรูปแบบนี้คือ มีราคาแพงมาก และยังไม่สามารถดึงสัญญาณข้อมูลข่าวสาร
มาใช้ได้ และยังไม่สามารถนำาสัญญาณข้อมูลใหม่แทรกเข้าไปได้ และยังมีความยุงยากในการ
่
ออกแบบวงจรอีกด้วย
9. เวฟไกด์ หรือ ท่อ นำา คลืน คือ
่
อะไร ???
เวฟไกด์ (Waveguide) หรือว่าท่อนำาคลื่น นี้ เป็นสายส่งสัญญาณชนิด
หนึ่ง-ที่ใช้ใน การส่งคลื่นไมโครเวฟ โดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นท่อกลม
หรือท่อเหลียม แล้วแต่จะทำามาและก็จะ ทำามาจากทองแดงหรือ
่
อะลูมเนียม ด้านในฉาบด้วยเงินเพื่อให้เป็นตัวนำาที่ดี สาเหตุที่สายนำา
ิ
สัญญาณต้องทำาเป็นท่อนี้ก็เพราะว่า คลื่นไมโครเวฟมีความถี่สูงมากจะ
เดินทางได้ดที่บริเวณผิวของตัวนำาถ้าหากใช้สายนำาสัญญาณทั่วไปจะ
ี
ทำาให้เกิดการสูญเสียงพลังงานไปได้ จึงต้องทำาเป็นท่อเพื่อป้องกันการ
สูญเสียพลังงานจากผิวของสายสัญญาณ ความถี่ตำ่าสุดทีสามารถใช้
่
งานได้กับเวฟไกด์เรียกว่า ความถีคตออฟ ซึ่งถ้าความถี่สูงกว่าความถี่
่ ั
คัตออฟ จะสามารถเดินทางไปบนเวฟไกด์ได้ ส่วนความถี่ทตำ่ากว่านี้จะ
ี่
ไม่สามารถเดินทางบนเวฟไกด์ได้ ในการเดินทางของคลื่นไมโครเวฟ
ในเวฟไกด์นั้น จะเดินทางโดยการสะท้อนผนังท่อ และเดินทางไปตาม
ความยาวของท่อนำาคลื่น และความถี่ทสูงก็สามารถเดินทางได้ไกลกว่า
ี่
ความถี่ที่ตำ่า
รูปแบบในการเกิดคลื่นในเวฟไกด์ ก็จะมีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน คือ
รูปแบบสนามไฟฟ้าตัดขวาง ซึ่งเป็นรูปแบบที่ไม่มส่วนประกอบของ
ี
สนามไฟฟ้าในทิศทางการแพร่กระจายคลื่น โดยสนามไฟฟ้าจะตั้งฉาก
10. สายอากาศแบบฮอร์น
สายอากาศแบบฮอร์นนี้ เป็นสายอากาศที่นิยมใช้กันมากที่สุด
เพราะมีกำาลังการขยายสูงประกอบด้วยท่อนำา คลืนตอน
่
ปลายเปิดกว้างออกมากกว่าปกติ การที่จะทำาให้อัตราการ
ขยายสูงนั้น ทำาโดยการเพิ่มจานสะท้อนคลื่นแบบพาลาโบ
ลา (Parabola) เข้าไปด้วย ในการใช้สายอากาศแบบฮอร์น
นี้ต้องใช้ร่วมกับจานสะท้อนคลื่นแบบพาลาโบลา ที่เรียกว่า
ตัวสะท้อนคลื่นพาลาโบลิก และตำาแหน่งของฮอร์น ต้องวาง
ในตำาแหน่งโฟกัสของตัวสะท้อนคลืน เพราะเป็นตำาแหน่ง
่
รวมคลืนทั้งหมด
่