More Related Content
PPTX
PDF
PDF
โครงงาน เรื่อง ฮอร์โมนมนุษย์ PDF
PDF
E31b332237f6911a9d29303b4efa507b PDF
PDF
PDF
final project for M.6 2019-2020 Similar to งานกลุ่ม2
PDF
PDF
PDF
PPTX
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ PPTX
PPTX
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2-คอม PPTX
บทที่4การกำหนดและวิเคราะห์ปัญหา PDF
Introduction to problem_solving PPTX
03 โครงสร้างและผังงานโปรแกรม PPTX
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ PDF
PPTX
PPTX
PPT
PDF
DOC
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ PDF
PDF
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ PPTX
การแก้ไขปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ PPTX
การแก้ไขปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ More from Bam'nunnaput Sabangban
PDF
PDF
DOCX
กิจกรรมIt news ของน.ส.นันท์นภัส แสบงบาล PDF
DOCX
PDF
งานกลุ่ม2
- 1.
เสนอ
ครูทรงศักดิ์ โพธิ์เอี่ยม
จัดทำโดย
นำยทรงกริช ทองนุ่มม.5/5 เลขที่ 2
นำยเกิดพงศ์ เกิดมงคล ม.5/5 เลขที่ 3
น.ส.นันท์นภัส แสบงบำล ม.5/5 เลขที่ 8
น.ส.รัชนิกรณ์ แซ่เล้ำ ม.5/5 เลขที่ 9
น.ส.วิภำพรรณ รักษำวงษ์ ม.5/5 เลขที่ 10
น.ส.วิภำภรณ์ รักษำวงษ์ ม.5/5 เลขที่ 11
น.ส.ชำมำวีร์ ขวัญดี ม.5/5 เลขที่ 29
- 2.
- 3.
- 4.
- 5.
- 6.
- 7.
- 8.
3.ข้อมูลนาเข้า
เมื่อผู้วิเคราะห์ได้ออกแบบรูปแบบของรายงาน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลทาง
จอแสดงผล เสร็จสิ้นแล้วสิ่งที่ต้องพิจารณาต่อก็คือข้อมูลที่ใช้ในการนาเข้า ว่าต้องการใช้
ข้อมูลนาเข้าอะไรบ้าง
ตัวอย่ำง
- รายงานใบรับเงิน มีข้อมูลที่ต้องนาเข้า คือ ชื่อบริษัท เลขทะเบียน ที่ตั้ง หมายเลข
โทรศัพท์ สาขา CODE วันที่ เวลา เลขที่ ชื่อ จานวนเงิน รับเงิน เงินทอน ผู้รับมอบอานาจ
4.ตัวแปรที่ใช้
เป็นการวางแผนเพื่อกาหนดตัวแปรสาคัญใช้แทนข้อมูลนาเข้าแต้ละตัว และการ
กาหนดตัวแปรเพื่อใช้เก็บข้อมูลที่เกิดจากการประมวลผลของข้อมูลนาเข้า
การตั้งชื่อตัวแปรที่ใช้เก็บข้อมูลต่างๆนั้น มีหลักเกณฑ์การตั้งชื่อ ดังนี้
4.1 ตัวแปรต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษรภาษอังกฤษ ไม่ควรใช้ภาษาท้องถิ่นในการตั้งชื่อ
ตัวแปล
- 9.
4.2 ต้องคานึงถึงตัวอักษรพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก ในซอฟต์แวร์ตัวแปลภาษบางตัวจะไม่
คานึงตัวอักษรพิมพ์เล็กหรือตัวอักษรพิมพ์ใหญ่
4.3 ชื่อของตัวแปรให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของตัวแปลภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม
ไม่ซ้ากับคาสงวน
4.4 งดใช้เครื่องหมายต่อไปนี้ในการตั้งชื่อตัวแปร ! , @ , # , $ , % , ^ ,& ,* , ( , ) ,
- , = , , | , + , ~
4.5 ชื่อของตัวแปรควรสื่อความหมายของข้อมูลนาเข้า เช่น ตัวแปร id ใช้แทนเลข
ประจาตัวนักเรียน
การตั้งชื่อตัวแปรในการวางแผนแก้ปัญหา อาจตั้งชื่อโดยไม่คานึงหลักเกณฑ์ก็ได้
เพราะยังไม่ได้นาตัวแปรที่ตั้งชื่อนี้ไปใช้ประมวลผลในคอมพิวเตอร์ แต่อย่างไรก็ดี เมื่อถึง
ขั้นตอนการดาเนินการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผล จะต้องดาเนินการแก้ไขตัวแปร
ให้เป็นไปตามกฎของซอฟต์แวร์ที่ใช้เป็นตัวแปลภาษอีกครั้ง ดังนั้น หากผู้วิเคราะห์ตั้งชื่อตัว
แปรให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎเกณฑ์การตั้งชื่อตัวแปรตั้งแต่แรก จะทาให้ลดความซ้าซ้อนใน
การทางานและลดข้อผิดพลาดได้อีกระดับหนึ่ง
- 10.
- 11.
- 12.
- 13.
- 14.
- 15.
ความหมายของผังงาน “ผังงาน” (flowchart)ทางคอมพิวเตอร์ หมายถึง แผนภาพที่เขียนขึ้น
โดยใช้สัญลักษณ์มาตรฐาน เพื่อแสดงขั้นตอนวิธีการทางานของโปรแกรม หรือระบบงานที่
ต้องการ
ประเภทของผังงาน แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
1) ผังงานระบบ (system flowchart) หมายถึง ผังงานที่แสดงถึงขั้นตอนวิธีการทางานของ
ระบบงานใดระบบหนึ่ง ซึ่งในผังงานระบบจะแสดงให้เห็นถึงสื่อที่ใช้รับข้อมูล บันทึกข้อมูล
วิธีการประมวลผล ขั้นตอนการทางานและความสัมพันธ์ของส่วนต่าง ๆ ในระบบงานอย่าง
กว้าง ๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมของระบบงานใดระบบงานหนึ่ง เช่น
- 16.
2) ผังงานโปรแกรม (programflowchart) หมายถึงผังงานที่แสดงขั้นตอน วิธีการทางานของ
โปรแกรมที่ต้องการเขียนขึ้น ภายในผังงานโปรแกรม จะแสดงให้เห็นขั้นตอน วิธีการทางาน
ของโปรแกรมอย่างละเอียด เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถทางานตามที่เขียนไว้ในผังงาน
โปรแกรม ได้อย่างถูกต้อง โดยเราสามารถนาขั้นตอน วิธีการทางานของโปรแกรมในขั้นการ
วิเคราะห์งาน มาเขียนเป็นผังงานโปรแกรมได้ทันที จากนั้นก็สามารถนาผังงานโปรแกรม ไป
เขียนโปรแกรมตามที่ต้องการได้ดังนั้นในเรื่องของการเขียนผังงาน ที่จะกล่าวต่อไปนี้จะ
เกี่ยวข้องกับผังงานโปรแกรมทั้งสิ้น เช่น
- 17.
ประโยชน์และข้อจำกัดของผังงำน
1. ประโยชน์ของผังงาน
-ช่วยลาดับขั้นตอนการทางานของโปรแกรม และสามารถนาไปเขียนโปรแกรมได้โดยไม่สับสน
-ช่วยในการตรวจสอบและแก้ไขโปรแกรมได้ง่าย เมื่อเกิดข้อผิดพลาด
-ช่วยให้การดัดแปลง แก้ไข ทาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
-ช่วยให้ผู้อื่นสามารถศึกษาการทางานของโปรแกรมได้อย่างง่าย และรวดเร็วมากขึ้น
-สามารถเรียนรู้และเข้าใจได้ง่าย เพื่อผังงานไม่ขึ้นอยู่กับภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่ง
โดยเฉพาะ
-ผังงานเป็นการสื่อความหมายด้วยภาพ ทาให้ง่ายและสะดวกในการพิจารณาถึงลาดับขั้นตอนในการ
ทางาน ต่างกับการบรรยายเป็นตัวอักษร เพราะอาจสื่อความหมายผิดไปได้
-ในโปรแกรมที่ไม่ซับซ้อน สามารถใช้ผังงานตรวจสอบความถูกต้องของลาดับขั้นตอนได้ง่ายถ้ามี
ข้อผิดพลาด สามารถแก้ไขได้สะดวกและรวดเร็ว
-การเขียนโปรแกรมโดยพิจารณาจากผังงาน สามารถทางานง่ายและรวดเร็ว
-การบารุงรักษาโปรแกรม เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขโปรแกรม สามารถดูผังงานเพื่อแก้ไขคาสั่งใน
- 18.
2. ข้อจำกัดของผังงำน
ระบบผู้เขียนโปรแกรมบางคนไม่นิยมการเขียนผังงานระบบก่อนที่จะเขียนโปรแกรมเพราะเสียเวลาในการ
เขียนเป็นรูปภาพหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆนอกจากนี้ยังมีเหตุผลอื่น ๆ ได้แก่
-ผังงานระบบเป็นการสื่อความหมาระหว่างบุคคลต่อบุคคลมากกว่าที่จะสื่อความหมายระหว่างบุคคลกับเครื่อง
เพราะผังงานระบบไม่ขึ้นอยู่กับภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่ง ทาให้เครื่องไม่สามารถรับและเข้าใจว่าใน
ผังงานระบบนั้นต้องการให้ทาอะไร
-บางครั้งเมื่อพิจารณาจากผังงานระบบ จะไม่สามารถทราบได้ว่า ขั้นตอนการทางานใดสาคัญกว่ากัน เพราะ
ทุก ๆ ขั้นนอนจะใช้รูปาภพหรือสัญลักษณ์ในลักษณะเดียวกัน
-การเขียนผังงานระบบเป็นการสิ้นเปลือง เพราะจะต้องใช้กระดาษและอุปกรณ์อื่น ๆ ประกอบการเขียนภาพ
บางครั้งการเขียนผังงานระบบอาจจะต้องใช้กระดาษมากกว่า 1 แผ่นทั้ง ๆ ที่การอธิบายงานเดียวกันจะใช้เนื้อ
ที่เพียง 3-4 บรรทัดเท่านั้น
-ผังงานระบบจะมีขนาดใหญ่ ถ้าโปรแกรมที่พัฒนาเป็นงานใหญ่ ทาให้ผังงานระบบแลดูเทอะทะไม่คล่องตัว
และถ้ามีการปรับเปลี่ยนผังงานระบบจะทาได้ยาก บางครั้งอาจจะต้องเขียนผังงานขั้นใหม่
-ในผังงานระบบจะบอกขั้นตอนการปฏิบัติงานว่าเป็นลาดับอย่างไร ปฏิบัติงานอะไรแต่จะไม่ระบุให้ทราบว่า
ทาไมจึงต้องเป็นลาดับและต้องปฏิบัติงานอย่างนั้น
-ในภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันในปัจจุบัน เช่น ภาษาซี ผังงานระบบไม่สามารถแทนลักษณะคาสั่งในภาษาได้
ชัดเจน ตรงไปตรงมา
- 19.
- 25.
- 26.
ประเภทของผังงาน โดยทั่วไปผังงานคอมพิวเตอร์
แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่
1. ผังงำนระบบ
เป็นผังงานที่แสดงถึงขั้นตอนการทางานภายในระบบหนึ่งๆ เพื่อให้เห็น
โครงสร้างโดยภาพรวมของระบบ ซึ่งจะแสดงถึงความเกี่ยวข้องของส่วนที่สาคัญต่างๆ ใน
ระบบนั้น เช่น เอกสารข้อมูลเบื้องต้น สื่อบันทึกข้อมูลที่ใช้ข้อมูลจะส่งผ่านไปยัง
หน่วยงานใด มีกิจกรรมประมวลผลข้อมูลอะไรในหน่วยงานนั้น แล้วจะส่งต่อไปหน่วยงาน
ใด เป็นต้น ดังนั้นผังงานระบบอาจเกี่ยวข้องกับข้อมูล สื่อหรือแหล่งบันทึกข้อมูล วัสดุ
ปกรณ์ คน หรือฝ่ายงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแต่ละจุดจะประกอบไปด้วย
การนาข้อมูลเข้า วิธีการประมวลผล และการแสดงผลลัพธ์ (Input – Process - Output)
ดังภาพ
- 28.
2. ผังงำนโปรแกรม
ผังงานประเภทนี้แสดงถึงขั้นตอนของคาสั่งที่ใช้ในโปรแกรม ผังงานนี้อาจสร้างจากผังงาน
ระบบโดยผู้เขียนผังงานจะดึงเอาแต่ละจุดที่เกี่ยวข้องกับการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่
ปรากฏในผังงานระบบมาเขียน เพื่อให้ทราบว่าถ้าจะใช้คอมพิวเตอร์ทางานควรที่จะมีขั้นตอนคา
สั่งอย่างไร เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ และจะได้นามาเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่อไป
ดังนั้นการเขียนผังงานก็จะมีประโยชน์ เหมาะสาหรับผู้บริหาร ผู้วิเคราะห์ระบบ
ผู้เขียนโปรแกรม และบุคคลอื่นที่ต้องการศึกษา ทาให้ทราบถึงความสัมพันธ์ของระบบตั้งแต่
เริ่มต้น ว่ามีการปฏิบัติแต่ละขั้นตอนอย่างไร ใช้วิธีการอะไรบ้าง สุดท้ายจะได้ผลลัพธ์อะไรบ้าง
เมื่อเข้าใจระบบงานหรือสิ่งที่กาลังศึกษาก็จะช่วยให้สามารถปฏิบัติงานและแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังภาพ
- 30.
ประโยชน์ของผังงำน
1. คนส่วนใหญ่สามารถเรียนรู้และเข้าใจผังงานได้ง่าย เพราะผังงานไม่ขึ้นอยู่
กับภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารได้ทุกภาษา
2. ผังงานเป็นการสื่อความหมายด้วยภาพ ช่วยลาดับขั้นตอนการทางานของ
โปรแกรมให้ง่ายและสะดวกต่อการทาความเข้าใจ สามารถนาไปเขียนโปรแกรมได้โดยไม่
สับสน ซึ่งถ้าหากใช้ข้อความหรือคาพูดอาจจะสื่อความหมายผิดไปได้
3. ในงานโปรแกรมที่ไม่สลับซับซ้อน ช่วยในการตรวจสอบความถูกต้องของลา
ดับขั้นตอน และแก้ไขโปรแกรมได้ง่าย เมื่อเกิดข้อผิดพลาด
4. ช่วยให้ผู้อื่นสามารถศึกษาการทางานของโปรแกรมได้อย่างง่าย สะดวก
และรวดเร็วมากขึ้น
5. การบารุงรักษาโปรแกรมหรือการเปลี่ยนแปลงแก้ไขโปรแกรมในภายหลัง ให้
มีประสิทธิภาพ ถ้าพิจารณาจากผังงานจะช่วยให้สามารถทบทวนงานในโปรแกรมก่อน
ปรับปรุง แก้ไขได้สะดวกและง่ายขึ้น
- 31.
- 32.
วิธีกำรเขียนผังงำนที่ดี
• ใช้สัญลักษณ์ตามที่กาหนดไว้
• ผังงานจะต้องมีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด
• ใช้หัวลูกศรแสดงทิศทางการไหลของข้อมูลจากบนลงล่างหรือซ้ายไปขวา (ยกเว้นที่ต้องทาซ้า)
• ทุกแผนภาพต้องมีลูกศรแสดงทิศทางเข้า 1 เส้นและออก 1 เส้นโดยไม่มีการปล่อยจุดใดจุด
หนึ่งไว้
• เขียนคาอธิบายการทางานในแต่ละขั้นตอนโดยใช้ข้อความที่สั้น กะทัดรัด ชัดเจนและเข้าใจได้
ง่าย
• ควรหลีกเลี่ยงโยงเส้นไปมาทาให้เกิดจุดตัดมากเพราะจะทาให้เกิดข้อผิดพลาดง่าย ควรใช้
สัญลักษณ์เชื่อมจุดต่อเนื่องแทน
• ไม่ควรโยงเส้นเชื่อมผังงานที่อยู่ไกลมาก ๆ ควรใช้สัญลักษณ์จุดเชื่อมต่อแทน
• ผังงานที่ดีควรมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดและชัดเจน สามารถเข้าใจและติดตาม
ขั้นตอนได้ง่าย
• ผังงานควรมีการทดสอบความถูกต้องของการทางานก่อนไปเขียนโปรแกรม
- 33.
- 34.
- 35.
- 36.
- 37.
- 38.
- 39.
- 40.
- 41.
- 43.
• โครงสร้างแบบทางเลือก ปัญหาบางอย่างต้องการการตัดสินใจเพื่อเลือกว่าจะใช้วิธีการใด
โดยต้องมีการตรวจสอบว่าเงื่อนไขที่ใช้ในการตัดสินใจว่าเป็นจริงหรือเท็จ ถ้าเป็นจริงจะไป
เลือกทาคาสั่งชุดหนึ่ง แต่ถ้าเป็นเท็จจะไปเลือกทาคาสั่งอีกชุดหนึ่ ง ซึ่งชุดคาสั่งเหล่านี้จะ
ประกอบด้วยโครงสร้างแบบลาดับนั่นเอง
โครงสร้างการทางานแบบทางเลือกที่กล่าวมาแล้ว อาจเรียกว่ามีโครงสร้างการทางาน
แบบ if…then…else… ซึ่งเป็นการเลือกทาแบบทางใดทางหนึ่ง เนื่องจากต้องมีการเลือกทา
ชุดคาสั่งใดชุดคาสั่งหนึ่งตามผลของเงื่อนไข แต่ในการเขียนโปรแกรมหรือผังงานเพื่อแก้ปัญหา
นักเขียนโปรแกรมอาจไม่ต้องการทางานใด ๆ เมื่อผลของเงื่อนไขเป็นเท็จก็ได้ ซึ่งเรียกว่ามี
โครงสร้างของการทางานแบบเลือกทาเพียงทางเดียว หรือแบบ if…then…
- 45.
- 47.
รหัสจำลองและพีดีแอล PDL
เป็นการอธิบายขั้นตอนการทางานของโปรแกรมที่ได้วิเคราะห์และออกแบบมาแล้ว
โดยใช้ถ้อยคาบรรยายที่เป็นภาษาท้องถิ่น คือสามารถใช้ได้ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ โดยที่ซู
โดโค้ด และพีดีแอลจะมีลักษณะที่คล้ายกับผังงาน
คือ การอธิบายจะไม่ขึ้นอยู่กับโปรแกรมภาษาใดภาษาหนึ่ง ผู้ที่อ่านสามารถนาซูโดโค้ดและพีดี
แอล ไปใช้สาหรับเขียนโปรแกรมได้จริง โดยใช้ตัวแปลภาษาซี ภาษาเบสิก ภาษาจาวา ก็ได้
ทั้งสิ้น การอธิบายซูโดโค้ดและพีดีแอล จะต้องใช้ภาษาที่สามารถสื่อสารเข้าใจได้ง่ายและสั้น
กะทัดรัด สื่อความหมายได้ทันทีที่อ่าน โดยที่ซูโดโค้ดและ[พีดีแอล] มีการใช้งานเพื่อสื่อสารแบบ
กว้างๆ แบบผังงานระบบ
และการใช้งานเพื่ออธิบายแบบละเอียดเหมือนกับผังงานโปรแกรม
ตัวอย่างซูโดโค้ด
Input a number : ใส่ข้อมูลนาเข้าเป็นค่าตัวเลข
Find the sum of the number : คานวณรวมค่าตัวเลขที่นาเข้า
Print the sum :แสดงผลรวมของข้อมูลทั้งหมด
- 48.