More Related Content
Similar to บทที่ 2 ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
Similar to บทที่ 2 ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (20)
บทที่ 2 ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
- 2. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
1. ความหมายของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
2. ส่วนประกอบของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
3. คุณสมบัติของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
4. ลักษณะของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการที่ดี
5. หน้าที่ของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
6. วิวัฒนาการของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
7. ข้อคิดในการสร้างระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
8. ประโยชน์ของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
9. ปัญหาในการสร้างระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
10.แนวโน้มของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
- 3. 1. ความหมายของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (MANAGEMENT INFORMATION SYSTEM : MIS)
หมายถึง ระบบที่รวบรวมและจัดเก็บข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ทั้งภายใน และ ภายนอกองค์กรอย่างมีหลักเกณฑ์เพื่อ
นา มาประมวลผล และ จัดรูปแบบให้ได้สารสนเทศที่ช่วยสนับสนุนการทา งาน และการตัดสินใจเห็นว่า MIS จะประกอบไปด้วย
ที่หลัก 2 ประการ คือ
1. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กรมาไว้ด้วยกันอย่างเป็นระบบ
2. สามารถทา การประมวลผลข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานและการ
บริหารงานของผู้บริหาร
- 4. 2. ส่วนประกอบของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
ในอดีตสารสนเทศยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นทรัพยากรที่สา คัญทางธุรกิจเช่นปัจจุบันผู้จัดการไม่
จาเป็นต้องเข้าใจกระบวนการรวบรวม จัดเก็บประมวลผล และ การบริหารสารสนเทศขององค์กรหรือต้อง
รู้จักเทคโนโลยีการจัดการสารสนเทศ ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทสาคัญต่อการดา เนินงานทั้ง
ระดับ องค์กร และ อุตสาหกรรม ธุรกิจต้องการระบบสารสนเทศที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการดา รงอยู่
และ เจริญก้าวหน้าขององค์กร โดยที่เทคโนโลยีมีส่วนช่วยธุรกิจให้ประสบความสาเร็จในอนาคต และ
สามารถแข่งขันกับธุรกิจอื่นในระดับสากล ดังนั้น MIS สามารถรวบรวม แ ละสรุปข้อมูลที่มี รายละเอียด
ต่าง ๆ เพื่อสร้าง สารสนเทศ ให้กับผู้บริหารไม่ว่าจะเป็นการสรุปผล การวิเคราะห์การวางแผน เป็นต้น การที่
ระบบสารสนเทศจะมี ความสามารถดังกล่าว จะต้องมีองค์ประกอบ 3 ประการดังต่อไปนี้
- 5. 2 ส่วนประกอบของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
1. เครื่องมือในการสร้างระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ หมายถึงส่วนประกอบ หรือโครงสร้างพื้นบานที่รวมกันเข้าเป็น MIS
และช่วยให้ระบบสารสนเทศสามารถดา เนินงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเรา จา แนกเครื่องมือออกเป็น 2 ส่วน ไดแก่
1.1 ฐานข้อมูล (DATABASE) คือ การเก็บรวบรวมข้อมูลที่จาเป็นไว้ ณ ศูนย์กลาง และ สามารถนามาใช้ในงานเมื่อมีความ
ต้องการได้ ข้อมูลเป็นหัวใจสาคัญของ MIS
1.2 เครื่องมือ (TOOL) เป็นเครื่องมือที่ใช้จัดเก็บ และ ประมวลข้อมูล ปกติระบบสารสนเทศจะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็น
อุปกรณ์หลักในการจัดการข้อมูลซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบสา คัญคือ
อุปกรณ์ ( HARDWARE) ตัวเครื่องหรือส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ รวมทั้งอุปกรณ์ระบบเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ที่ช่วยการประมวล และ จัดการข้อมูล มีความสะดวกรวดเร็วและถูกต้อง
ชุดคา สั่ง(SOFTWARE) คือ ชุดคา สั่งที่ทา หน้ารวบรวมและจัดการเก็บข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจหรือ
การบริหารงาน
- 6. 2. ส่วนประกอบของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
2. วิธีการหรือขั้นตอนการประมวลผลข้อมูล ปัจจุบันธุรกิจต้องสามรถสังเคราะห์สารสนเทศที่เหมาะสมกับการใช้งานโดย
จัดลาดับ และ วิธีการประมลผลข้อมูลเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ต้องการลาดับของประมวลข้อมูลภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อ
สร้างสารสนเทศที่ต้องการ ลักษณะที่สา คัญของวิธีการหรือขั้นตอน การประมวลผล ข้อมูล คือ
2.1 ทา การประมวลผลข้อมูลทั่วไป
2.2 ใช้ข้อมูลที่มีรายละเอียดมาก
2.3 ระยะเวลาในการใช้ข้อมูลเป็นระยะสั้นส่วนมากใช้กับการปฏิบัติงานประจา วัน
2.4 ระบบการทา งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้มักเป็นระบบออนไลน์ (ON-LINE PROCESSING)
ซึ่งเป็นวิธีการประมวลผลที่รับข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว ทา การประมวลผลทันทีโดยไม่มีการเก็บรอ หรือ สะสมข้อมูล
ไว้ก่อน
- 7. 2 ส่วนประกอบของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
3. การแสดงผลลัพธ์ ปกติผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลของระบบสารสนเทศจะอยู่ในรูปของรายงาน ต่าง ๆ ที่สามารถเรียกมา
แสดงได้อย่างรวดเร็วและชัดเจนมักอยู่ในรูปของรายงานแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปของ ตารางหรือการแสดงโดยใช้กราฟ
เช่น กราฟเส้น กราฟแท่ง กราฟวงกลม เป็นต้น
3.1 รายงานตามตารางเวลา (SCHEDULES REPORTS
3.2 รายงานแสดงส่วนประกอบสาคัญ (KEY INDICATOR REPORTS)
3.3 รายงานตามคา ขอ (DEMAND REPORTS)
3.4 รายงานกรณียกเว้น (EXCEPTION REPORTS
3.5 รายงานแบบเจาะลึกรายละเอียด (DRILL DOWN REPORT)
- 8. 3. คุณสมบัติของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
โดยการพัฒนาระบบสารสนเทศต้องคานึงคุณสมบัติของ MIS ดังต่อไปนี้
1. ความสามารถในการจัดการข้อมูล (DATA MANIPULATION) ระบบสารสนเทศที่ดีต้องสามารถ
ปรับปรุงแก้ไขจัดการบานข้อมูลเพื่อให้เป็นสารสนเทศที่พร้อมสาหรับนาไปใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพปกติข้อมูลต่าง ๆ ที่
เกี่ยวข้องกับการดาเนินธุรกิจจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าสู่ MIS ควรที่จะได้รับการปรับปรุง และ
พัฒนาในรูปแบบเพื่อให้มีความทันสมัย และ เหมาะกับการใช้งานอยู่เสมอ
2. ความปลอดภัยของข้อมูล (DATA SECURITY) สารสนเทศเป็นทรัพยากรที่สาคัญที่สุดปัจจัยหนึ่งของ
องค์กร ถ้าสารสนเทศบางตัวรั่วไหลออกไปสู่สังคมภายนอก โยเฉพาะคู่แข่งขัน อาจทาให้เกิดการเสียโอกาส ทางการแข่งขัน
หรือสร้างความเสียหายแก่ธุรกิจ นอกจากนีค้วามสูญเสียที่เกิดขึน้จากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือ การก่อการร้ายต่อระบบจะมี
ผล โดยตรงต่อประสิทธิภาพความอยู่รอดขององค์กร ดังนัน้ผู้บริหารหรือเจ้าของระบบจะไม่ยอมให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่มีหน้าที่
โดยตรงเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลเข้าถึงฐานข้อมูลที่สาคัญของธุรกิจได้
- 9. 3 คุณสมบัติของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
3. ความยืดหยุ่น (FLEXIBILITY) สภาพแวดล้อมในการดาเนินธุรกิจ หรือสถานการณ์ที่แข่งขันทางการค้าที่เปลี่ยนแปลง
อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ระบบสารสนเทศที่ดีต้องมีความสามารถในการปรับตัวเพื่อให้สอด คล้องกับการใช้งานหรือปัญหาที่
เกิดขึ้น โดยที่ระบบสารสนเทศที่ถูกสร้างหรือถูกพัฒนาขึ้นต้องสามารถตอบสนองความ ต้องการของผู้บริหาร ได้อยู่เสมอ โดยมี
อายุใช้งาน การบา รุงรักษาและค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม
4. ความพอใจของผู้ใช้ (USER SATISFACTION) ปกติ MIS ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีความมุ่งหวังให้ผู้ใช้สามารถนา มา
ประยุกต์ในงานหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการทา งาน ดังนั้นระบบสารสนเทศที่ดีจะต้องกระตุ้นหรือ โน้มน้าวผู้ใช้หันมาใช้ระบบ
ให้มากขึ้นเนื่องจากการพัฒนาระบบจะต้องใช้เงินลงทุนสูงจึงต้องใช้งานให้คุ้มค่า ดังนั้นระบบธุรกิจสมควรที่จะพัฒนาระบบให้
ตรงกับความต้องการของผู้ใช้และทาให้ผู้ใช้เกิดความพอใจต่อระบบเพราะถ้าระบบไม่สามารถให้สิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ โอกาสที่
ระบบจะถูกใช้งาน และ ได้รับความนิยมก็จะน้อยลงซึ่งส่งผลให้ระบบสารสนเทศไม่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการ
ดา เนินงานได้ตามคาดหวัง และเป็นผลให้เกิดการสูญเสียหรือไม่คุ้มค่าในการลงทุน
- 10. 4. ลักษณะของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการที่ดี
1. MIS ถูกนาไปใช้การตัดสินใจของผู้บริหารทุกระดับ ช่วยให้บริหารสามารถเรียกค้นข้อมูลได้รวดเร็ว
2. MIS เป็นระบบงานซึ่งผสมผสานข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งหรือระบบย่อยหลาย ๆ ระบบที่มีความสัมพันธ์กัน
3. การพัฒนาระบบสารสนเทศ จะเริ่มจากความต้องการ และ ความเห็นชอบของผู้บริหาร เพื่อจัดเตรียมสารสนเทศให้แก่
ผู้บริหาร ช่วยในการตัดสินใจ และ บรรลุจุดมุ่งหมายโดยรวมองค์กร
4. MIS จะใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย เนื่องจากข้อมูลในองค์กรหนึ่ง ๆ มีเป็นจานวนมาก และ มีความ
5. สารสนเทศนัน้จะถือว่าเป็นทรัพยากรที่สาคัญอีกอย่างหนงึ่ จุดมุ่งหมายของ MIS คือ จัดทาสารสนเทศที่เป็นประโยชน์แก่
องค์กรเพื่อใช้ควบคุมการทางานและการจัดการขององค์กร
6. ทาการจัดเก็บข้อมูล สร้างเป็นฐานข้อมูลเก็บไว้ซงึ่ฐานข้อมูลนีเ้ป็นการรวบรวม วัตถุประสงค์คือต้องการจะหลีกเลี่ยงความ
ซับซ้อนของการเก็บข้อมูล
7. การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ MIS จะไม่ประสบความสาเร็จถ้าปราศจากความร่วมมือ และความพอใจ ของผู้ใช้งาน
- 11. 5. หน้าที่ของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
1. ผลิตรายงานในรูปแบบที่กาหนดและรูปแบบมาตรฐาน เช่น รายงานตามตารางเวลา สาหรับควบคุมสินค้าคงคลัง อาจจะประกอบด้วยสารสนเทศ
ชนิดเดียวกัน อยู่ในตาแหน่งเดียวกันในรายงานเนื่องจากผู้จัดการคนละคน อาจใช้รายงงานเดียวกันเพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกันได้
2.ผลิตรายงานในรูปแบบของเอกสาร หรืไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ รายงานบางรายงานสามารถถูกพิมพ์ ลงบนกระดาษ เรียกว่าเป็นรายงานฉบับตัวจริง
(HARD-COPY) ส่วนรายงานที่อยู่ในรูปเสมือนจริง (SOFT-COPY) มักจะแสดงผลผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยผู้จัดการสามารถ
เรียกรายงานที่ต้องการขึน้มาแสดงบนหน้าจอ โดยตรงได้ แต่รายงานนัน้ยังคงปรากฎในแบบมาตรฐานเหมือนรายงานที่พิมพ์ออกมาจริง ๆ
3. ใช้ข้อมูลภายในที่เก็บอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ รายงานในระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการใช้แหล่งข้อมูลภายในที่อยู่ในฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ และ
บางระบบใช้แหล่งข้อมูลภายนอกเกี่ยวกับคู่แข่งโลกธุรกิจฯลฯแหล่งข้อมูลภายนอกที่นิยมใช้ได้แก่ แหล่งข้อมูลในอินเทอร์เน็ต
4. ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานในรูปแบบที่ต้องการได้ ในขณะที่นักวเิคราะห์และนักเขียนโปรแกรม ทาการพัฒนา และ การใช้รายงานที่ซับซ้อนซึ่ง
ต้องการใช้ข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่ง ได้ผู้ใช้ทวั่ไปก็สามารถพัฒนาโปรแกรมอย่างง่ายในการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ และ ผลิตออกมาเป็นรายงานได้ด้วย
เองเช่นกัน
5. ต้องการการร้องขออย่างเป็นทางการจากผู้ใช้ เมื่อฝ่ายสารสนเทศส่วนบุคคลต้องการพัฒนาและนารายงานไปใช้จริง จาเป็นจะต้องมีการร้องขออย่าง
เป็นทางการ ไปยังแผนระบบสารสนเทศก่อนส่วนรายงานที่ผู้ใช้ทวั่ไปพัฒนาขึน้เอง ไมจ่าเป็นต้องมีการร้องขออย่างเป็นทางการ
- 12. 6. วิวัฒนาการของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการในระยะเริ่มแรกนัน้ ได้มีการเสนอว่าน่าจะเป็นระบบรวมพียงระบบเดียว โดยการ
รวมเอาการดาเนินงานตามหน้าที่ต่างๆ ภายในองค์กรเข้าไว้ด้วยกัน
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ มีวิวัฒนาการต่อไปเรื่อยๆ นอกเหนือจากระบบสารสนเทศซึ่งมีความ เกี่ยวพันกับ
การประมวลผลข้อมูล และยังเกี่ยวพันกับระบบสารสนเทศอื่นๆ อีก 2 ระบบ ที่จัดว่าเป็นส่วนเพิ่มเติม จากระบบสารสนเทศเพื่อ
การจัดการ คือ ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (DECISION SUPPORT SYSTEM: DSS) และ การจัดการ
ทรัพยากรสารสนเทศ (INFORMATION RESOURCES MANAGEMENT: IRM) นอกจากนัน้ยังมี
แนวโน้มที่ต้องพัฒนาต่อไปอีกเป็นการประมวลผลโดยผู้ใช้ (END-USER COM-PUTTING) วิวัฒนาการของ
ระบบสารสนเทศ เพื่อการจัดการประกอบด้วยระบบต่างๆ ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องดังนี้
- 13. 6. วิวัฒนาการของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
1 ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดกับการประมวลข้อมูล
(MIS VERSUS DATA PROCESSING) ระบบการประมวลผลข้อมูลจะเป็นการประมวลผล
รายการ (TRANSACTION) และ ออกผลรายงาน นอกจากนั้นแสดงถึงกระบวนการขั้นพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการ
ดา เนินงานการประมวลผลข้อมูลในยุคก่อนหน้าที่จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้นั้นเป็นการกระทา ด้วยมือ หรือเครื่องประมวลผล
แบบธรรมดา ส่วนระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการจะรวมเอางานปฏิบัติงานเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อที่จะสนับสนุนหน้าที่ต่าง ๆ ของ
องค์กรได้กว้างขาวงขึ้น และยังรวมอาการประมวลผลรายการเข้าเป็นหน้าหนึ่งของระบบด้วย
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการที่แตกต่างจากการประมวลผลข้อมูลประจา ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าเป็น ประเด็นสา คัญ
ก็คือ ความสามารถในเรื่องการช่วยวิเคราะห์การวางแผน และ การสนับสนุนการตัดสินใจในระบบ สารสนเทศเพื่อการจัดการ
นั้น ผู้ใช้สามารถดา เนินการได้โดยใช้ตัวแบบการตัดสินใจในระบบสารสนเทศเพื่อการนั้น ผู้ใช้สามารถดา เนินการได้โดยใช้ตัว
แบบการตันสิน
- 14. 6. วิวัฒนาการของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
2. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการกับระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (MIS AND DECISION SUPPORT
SYSTEM) ระบบช่วยการสนับสนุนการตัดสินใจ เป็นระบบสารสนเทศที่ช่วยในการตัดสินใจส่วนมาก มักจะเกี่ยวกับเรื่อง
การวางแผนการวิเคราะห์ข้อเสนอ และ การหาคาตอบโดยวิธีการลองผิดในทางปฏิบัติโดยทั่วๆ ไป แล้วจะเป็นการโต้ตอบ
ระหว่างผู้ใช้กับเครื่อง
- 15. 6. วิวัฒนาการของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
3. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการกับการจัดการทรัพยากรสารสนเทศ (MIS AND INFORMATION
RESOURCE MANAGEMENT) การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ (INFORMATION
RESOURCE MANAGEMENT: IRM) เป็นวิธีการการจัดจัดการที่อาศัยแนวคิดที่ว่า สารสนเทศนั้นคือ
ทรัพยากรขององค์การหรืออาจกล่าวได้ว่า IRM เป็นงานของนักบริหารระบบสารสนเทศ การจัดการทรัพยากรนั้นหมายถึง
การรวมถึงการสื่อสารข้อมูล (DATA COMMUNICATION) การประมวลผลคา (WORD
PROCESSING) และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PERSONAL COMMUNICATION) IRM มีแนวโน้ม
ที่จะเน้นประสิทธิภาพของทรัพยากรสารสนเทศในระบบขององค์กรมากกว่าด้านประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ หรือซอฟต์แวร์
IRM พยายามที่จะประยุกต์วิธีการจัดการทั่ว ๆ ไปกับสารสนเทศ
- 16. 6. วิวัฒนาการของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
4. การประมวลผลโดยผู้ใช้ (END-USER COMPUTING)
จากการพัฒนาการประมวลผลของผู้ใช้ครั้งใหญ่ที่ผ่านมามีผลกระทบต่อโครงสร้างและออกแบบ MIS คือ ผู้ใช้มี
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพในการประมวลผลคา ตัวแบบที่มีการพัฒนา และ การประมวลผล
สารสนเทศโดยตรง
การประมวลผลโดยผู้ใช้ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
1. เกี่ยวกับระบบการปฏิบัติงานในองค์กรโดยใช้ซอฟต์แวร์ทั่วไปและกระดาษทา การอิเล็กทรอนิกส์()
2. เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ() ที่ต้องใช้ข้อมูลจากระบบปฏิบัติงาน อาจจะมีผู้ใช้บางคนพยายาม สร้างDSS ขึ้นมาเอง เช่น
ผู้บริหารอาจจะสร้าง DSS โดยใช้โปรแกรม EXCEL
- 17. 7. ข้อคิดในการสร้างระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
1. การนาข้อมูลเข้าสู่ระบบจะต้องมีการจัดเก็บข้อมูลที่ดี แหล่งที่มาของข้อมูลต้องเชื่อถือได้
2. ความถูกต้องของข้อมูล จะต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเพื่อนาของข้อมูลที่ตรวจสอบแล้ว มาสร้างเป็นระบบ
ฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้ฐานข้อมูลเปรียบเสมือนหัวใจสาคัญของ MIS
3. การสร้างระบบการเรียกค้นข้อมูลที่ดีในการเรียกค้นข้อมูลจะต้องสะดวกรวดเร็วเรียกค้นง่าย
4. ระบบความปลอดภัยของข้อมูล จะต้องมีระบบความปลอดภัยในการจัดการเก็บข้อมูล ข้อมูลบางอย่าง ผู้บริหารอาจไม่ต้อง
กรเปิดเผย
5. ข้อมูลที่นาเข้าสู่ระบบ จะต้องเป็นข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ
- 18. 8. ประโยชน์ของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้รับความสนใจนามาใช้ในหลาย MIS สร้างประโยชน์ต่อการดา เนินงานขององค์กรได้ดังนี้
1. ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสารสนเทศที่ต้องการ ได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์เนื่องจากข้อมูลที่ จัดเก็บ และ
บริหารอย่างเป็นระบบทา ให้ผู้บริหารสามารถจะเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วในรูปแบบ ที่เหมาะสม และ สามารถนา ข้อมูลมาใช้
ประโยชน์ตามความต้องการ
2. ช่วยผู้ใช้ในการกาหนดเป้าหมายกลยุทธ์ และ การวางแผนปฏิบัติการ โดยผู้บริหารจะสามารถนาข้อมูลที่ได้จาก
ระบบสารสนเทศมาช่วยในการวางแผน และกาหนดเป้าหมายในการดาเนินงานเนื่องจากสารสนเทศถูกเก็บรวบรวมอย่างเป็น
ระบบ ทา ให้ประวัติของข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
3. ช่วยผู้ใช้ในการตรวจสอบผลการดา เนินงาน เมื่อแผนงานถูกนา ไปปฏิบัติในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ผู้ควบคุม จะต้อง
ตรวจสอบผลการดาเนินงาน โดยนาข้อมูลบางส่วนมาประมวลผลเพื่อประกอบการประเมิน สารสนเทศ ที่ได้จะแสดงผลการ
ดา เนินงานว่าสอดคล้องกับเป้าหมายที่ต้องการเพียงไร
- 19. 8. ประโยชน์ของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
4. ช่วยผู้ใช้ในการศึกษาและสาเหตุของปัญหา ผู้บริหารสามารถใช้ระบบสารสนเทศ ประกอบการศึกษา และ การค้นหาสาเหตุ
หรือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการดา เนินงานถ้าการดา เนินงานไม่เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้โดยอาจจะเรียกข้อมูลเพิ่มเติมออกมา
จากระบบ เพื่อให้ทราบความผิดพลาดในการปฏิบัติงาน เกิดขึ้นจากสาเหตุใด หรือจัดรูปแบบในการวิเคราะห์ปัญหาใหม่
5. ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้นเพื่อหาวิธีการควบคุม ปรับปรุงและแก้ไขปัญหา สารสนเทศที่ได้
จากการประมวลผลจะช่วยให้ผู้บริหารวิเคราะห์การดา เนินการในแต่ละทางเลือกจะช่วยแก้ไขหรือควบคุมปัญหาที่เกิดขึ้นได้
อย่างไร ธุรกิจต้องทา อย่างไรเพื่อปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาให้การดา เนินงาน เป็นไปตามแผนงานหรือเป้าหมาย
6. ช่วยลดค่าใช้จ่าย ระบบสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพช่วยให้ธุรกิจประหยัดแรงงาน และค่าใช้จ่ายในการทา งาน เนื่องจากระบบ
สารสนเทศสามารถรับภาระงาน ที่ต้องใช้แรงงานจา นวนมากตลอดจนลดขั้นตอน ในการทา งาน ส่งผลให้ธุรกิจสามารถลด
จา นวนคนและระยะเวลาในการประสานงานให้น้อยลงโดยผลงานที่ออกมาเท่าเดิมหรือดีว่าเดิม ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ
และศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ
- 20. 9. ปัญหาในการสร้างระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
ในการสร้างระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ ส่วนที่มักจะทา ให้การดา เนินงานไม่ประสบผลสา เร็จคือ
1. MIS ต้องอาศัยความร่วมมือจากระบบงานย่อย () หลาย ๆระบบในการประมวลผลข้อมูล เพื่อให้ได้สารสนเทศที่ต้องการถ้า
ไม่ได้รับความร่วมมือ จะทา ให้ได้รับสารสนเทศที่อาจไม่มีประโยชน์เท่าที่ควร
2. MIS ควรมีฐานข้อมูลร่วมกันแต่ในทางปฏิบัติหน่วยงานส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับบานข้อมูลร่วมกัน
3. ผู้บริหารขาดความรู้ในเรื่องระบบสารสนเทศ ทา ให้ไม่สามารถบอกได้ว่าต้องการสารสนเทศแบบใด
4. การสร้าง MIS เป็นระบบใหญ่และมีโครงสร้างซับซ้อน ต้องอาศัยผู้สร้างระบบที่มีทักษะและความชา นาญ ดังนั้นการสร้าง
MIS ให้เป็นระบบที่สมบูรณ์และปราศจากความบกพร่องนั้นสร้างค่อนข้างยาก
- 21. 10. แนวโน้มของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
1. ผู้ใช้MIS มีความรู้มากขึ้น ในแต่ละปีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบสารสนเทศของผู้ใช้เพิ่มขึ้นมาก ปัจจุบันในระบบ
อุดมศึกษาผลิตคนมีความรู้ด้านระบบสารสนเทศมากมาย และสาขานี้ ก็มีความสนใจเรียนมากขึ้น อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
2. ประสิทธิภาพในการประมวลผลมีมากขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้ ในปัจจุบันนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีมีความสามารถ
มากขึ้น ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูล โดยตรง และ ทา การควบคุม ได้ด้วยตนเองปัจจุบัน
3. มีแนวโน้มในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ซอฟต์แวร์และฐานข้อมูลมีการพัฒนาทางด้าน
ธุรกิจ เราสามารถใช้ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และฐานข้อมูลในการออกแบบผลิตภัณฑ์ในอนาคต เพื่อว่าผู้ใช้จะสามารถทา การ
ติดต่อจาก คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งได้โดยง่าย
4. MIS กลายเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้ในการเพิ่มผลผลิต ในด้านธุรกิจ เช่น ความต้องการปรับปรังผลผลิตผู้บริหาร อาจถามว่า เราจะ
ใช้คอมพิวเตอร์ในการปรับปรุงผลผลิตได้อย่างไร หรือคา ถามที่มักถูกถามจากระบบต่าง ๆ เช่น วิศวกร นักบัญชี และบุคคลอื่นๆ
มักจะถามว่า คอมพิวเตอร์สามารถทา อะไรเพื่อช่วยสร้างความยิ่งใหญ่ให้องค์กร ของฉัน
- 22. 10. แนวโน้มของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
5. องค์กรหลายๆ องค์กรได้ใช้ MIS ในยุทธวิธีที่ใช้ในการแข่งขัน องค์กรต่างๆ ที่ประสบความสาเร็จจะใช้MIS สร้าง
ประโยชน์ในการแข่งขัน
6. MIS กลายเป็นส่วนสาคัญในกระบวนการตัดสินใจ ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันคอมพิวเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือพื้นฐาน
สาหรับผู้บริหาร ในการประมวลผลรายการ แต่แนวโน้ม ในปัจจุบันได้ใช้ความสามารถของ คอมพิวเตอร์ในการจัดเตรียม
สารสนเทศเพื่อสนับสนุนกระบวนการตัดสินใจ
7. ผู้ใช้ได้เริ่มโน้มกิจกรรมของ MIS ในยุคของการทรัพยากรสารสนเทศ ผู้ใช้และผู้ให้บริการ สารสนเทศ ได้กลายเป็นผู้ที่มี
ส่วนในการค้นหา สารสนเทศที่มีคุณภาพมากขึ้น แนวโน้มในการสนับสนุนหลักฐาน ที่ว่าอนาคต MIS อยู่ในมือของผู้ใช้
ผู้บริหารระดับสูงจะสนับสนุนผู้ใช้ให้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาระบบสารสนเทศ เป็นทีม ในปัจจุบันมีการนาเอาเครื่อง
คอมพิวเตอร์มาต่อพ่วงกับอุปการนา ระบบมัลติมีเดียเข้ามาช่วยนี้ กล่าวได้ว่าเป็น เครื่องมือสา คัญของ MIS