More Related Content
Similar to ใบความรู้ที่ 2
Similar to ใบความรู้ที่ 2 (20)
More from somdetpittayakom school
More from somdetpittayakom school (20)
ใบความรู้ที่ 2
- 1. ใบความรู้ที 2 ครูกนกรัตน์ บุญไชโย
ใบความรู้ที่ 2
วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศพื้นฐาน 1
ง 32141
องค์ประกอบของ
ระบบสารสนเทศ
ใช้ประกอบ
แผนการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ที่ 2
เวลา 20 นาที
ระบบสารสนเทศ เป็นระบบที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทํางาน โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสาร ระบบสารสนเทศประกอบด้วย
1. ฮาร์ดแวร์ (hardware) หมายถึง ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เช่น คีย์บอร์ด
(keyboard) เมาส์ (mouse) จอภาพ (monitor) จอภาพสัมผัส (touch screen) ปากกาแสง (light pen) เครื่อง
อ่านรหัสแท่ง (barcode reader) เครื่องพิมพ์ (printer) ฮาร์ดดิสก์ (hard disk) รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารสําหรับ
เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือข่าย เช่น โมเด็ม (modem) และสายสัญญาณ
2. ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึงโปรแกรมหรือชุดคําสั่ง (instruction) ที่ใช้ควบคุมการทํางานของ
เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อให้ทํางานตามคําสั่งของผู้ใช้ โดยทั่วไปโปรแกรม หรือชุดคําสั่งจะ
ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ (system software) หมายถึงชุดคําสั่งที่ทําหน้าที่ควบคุมการทํางานของ
เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ และทําหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์ระบบแบ่งออกเป็น
2.1.1 ระบบปฏิบัติการ (Operating System : OS) เป็นซอฟต์แวร์ที่ทําหน้าที่ควบคุมการ
ทํางานของอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยจะทําหน้าที่ดูแลและจัดการให้ฮาร์ดแวร์
และซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งอยู่ทํางานประสานกันอย่างเป็นระบบ ตัวอย่างระบบปฏิบัติการ เช่น วินโดวส์ (Windows) ลิ
นุกซ์ (Linux) และแมคโอเอส (Mac OS) เป็นต้น
http://www.pinyosan.com/images/mboard_1258889940/1258889940.jpg
2.1.2 โปรแกรมอรรถประโยชน์ (utilities program) เป็นโปรแกรมที่ช่วยเสริมการทํางาน
ของคอมพิวเตอร์ หรือช่วยโปรแกรมใช้งานอื่น ๆ ให้มีความสามารถใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น
- 2. ใบความรู้ที 2 ครูกนกรัตน์ บุญไชโย
โปรแกรมที่ใช้ในการจัดการข้อมูล (file manager) โปรแกรมที่ใช้ในการสํารองและเรียกคืนข้อมูล (backup and
restore) โปรแกรมที่ใช้ในการบีบอัดแฟ้มข้อมูล (file compression) และโปรแกรมที่ใช้ในการจัดพื้นที่ของดิสก์
(disk defragmenter)
2.1.3 โปรแกรมขับอุปกรณ์ หรือดีไวซ์ไดร์ฟเวอร์ (device driver) เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการ
ติดตั้งระบบเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อหรือใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้
2.1.4 โปรแกรมแปลภาษา เป็นโปรแกรมที่ทําหน้าที่แปลโปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วย
ภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูงให้เป็นรหัสที่อยู่ในรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทํางานได้ เช่น ตัวแปลภาษาจา
วา ตัวแปลภาษาซี
2.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software) หมายถึง ชุดคําสั่งที่เขียนขึ้นเพื่อให้เครื่อง
คอมพิวเตอร์ทํางานตามวัตถุประสงค์เฉพาะทาง ซอฟต์แวร์ประยุกต์อาจเขียนขึ้นโดยใช้โปรแกรม ภาษาคอมพิวเตอร์
เช่น เบสิก (Basic) ปาสคาล (Pascal) โคบอล (Cobol) ซี (C) ซีพลัส พลัส (C++) และจาวา (Java) ซอฟต์แวร์
ประยุกต์แบ่งกลุ่มตามกลุ่มการใช้งานได้ดังต่อไปนี้
2.2.1 กลุ่มธุรกิจ (business) เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคํา (word processing) ซอฟต์แวร์
ตารางทํางาน (spreadsheet) ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล (database) ซอฟต์แวร์นําเสนอ (presentation)
ซอฟต์แวร์บริหารโครงการ (project management) ซอฟต์แวร์ระบบงานบัญชี (accounting) ซอฟต์แวร์ช่วยจด
บันทึก (note taking) ซอฟต์แวร์จัดการข้อมูลส่วนบุคคล (personal information manager) ซอฟต์แวร์จัดการ
เอกสาร (document management) ซอฟต์แวร์ประมวลผลระดับองค์กร (enterprise computing)
2.2.2 กลุ่มกราฟิกและมัลติมีเดีย (graphics and multimedia) เช่น ซอฟต์แวร์ช่วยใน
การออกแบบ (Computer Aided Design : CAD) ซอฟต์แวร์จัดพิมพ์ (desktop publishing) ซอฟต์แวร์ตกแต่ง
ภาพ (paint / image editing) ซอฟต์แวร์ตัดต่อวีดิทัศน์และเสียง (video and audio editing) ซอฟต์แวร์สร้าง
สื่อประสมหรือมัลติมีเดีย (multimedia authoring) ซอฟต์แวร์สร้างเว็บเพจ (web page authoring)
2.2.3 กลุ่มใช้งานในบ้าน/ส่วนบุคคล/การศึกษา (home/personal/education) เช่น
ซอฟต์แวร์สําเร็จ (software suite) ซอฟต์แวร์จัดพิมพ์ (desktop publishing) ซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพ (paint /
image editing) ซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพถ่ายและจัดการภาพถ่าย (photo editing and photo management)
ซอฟต์แวร์จัดการคลังภาพ (clip art / image gallery) ซอฟต์แวร์ช่วยในการเดินทางและแผนที่ (travel and
mapping) ซอฟต์แวร์เพื่อการอ้างอิงและการศึกษา (reference and educational) ซอฟต์แวร์เพื่อความบันเทิง
(entertainment)
2.2.4 กลุ่มติดต่อสื่อสาร (communication) เช่น เว็บเบราว์เซอร์ (web browser) อีเมล
(electronic mail) การส่งทันที (instant messaging) แชท (chat) ประชุมทางวีดิทัศน์ (video conference)
การถ่ายโอนไฟล์ (file transfer) สนทนาบนอินเทอร์เน็ต (IRC) กระดานสนทนา (web bord)
- 3. ใบความรู้ที 2 ครูกนกรัตน์ บุญไชโย
http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/962/16962/images/table.gif
3. ข้อมูล (data) ข้อมูลจะถูกรวบรวมและป้อนเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ โดยผ่านอุปกรณ์ของหน่วย
รับเข้า เช่น คีย์บอร์ด เมาส์ และสแกนเนอร์ (scanner) ข้อมูลต้องมีโครงสร้างในการจัดเก็บที่เป็นระบบเพื่อการ
สืบค้นที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ข้อมูลจะถูกจัดเก็บอยู่ในหน่วยความจํา (memory unit) ก่อนที่จะถูกย้ายไป
เก็บที่หน่วยเก็บข้อมูล (storage unit) เช่น ฮาร์ดดิสก์ และแผ่นบันทึก (Compact Disc : CD)
4. บุคลากร (people) บุคลากรเป็นองค์ประกอบที่สําคัญที่สุดของระบบสารสนเทศ ในที่นี้หมายถึง
บุคลากรที่เป็นผู้พัฒนาระบบสารสนเทศ และบุคลากรที่เป็นผู้ใช้ระบบสารสนเทศ บุคลากรที่เป็นผู้พัฒนาระบบ
สารสนเทศจะต้องมีความรู้ความสามารถในการพัฒนาระบบสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพให้สามารถทํางานได้ตาม
ความต้องการของผู้ใช้ ใช้ง่ายและสะดวก ส่วนผู้ใช้ต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการใช้งาน
ระบบสารสนเทศและการสื่อสารต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง จึงจะเกิดสารสนเทศที่เป็นประโยชน์
5. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน (procedure) ระบบสารสนเทศต้องมีขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เป็นลําดับ
ขั้นชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจได้ง่าย และดําเนินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในสถานการณ์ปกติและ
สถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ขั้นตอนการบันทึกข้อมูล ขั้นตอนการทําสําเนาข้อมูล ขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อข้อมูลได้รับ
ความเสียหาย หรือเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ เกิดการชํารุดเสียหาย ขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้ควร
ได้รับการรวบรวมและจัดทําให้เป็นรูปเล่ม ของคู่มือการใช้งาน
องค์กรต่าง ๆ มีการลงทุนจํานวนมากในการจัดหาระบบสารสนเทศ ที่มีประสิทธิภาพเพื่อนํามาช่วยงาน
ทั้งด้านการบริการและการจัดการงานทั่วไปขององค์กร โดยเน้นที่คุณภาพของระบบสารสนเทศและความคุ้มค่าใน
การลงทุน การใช้ระบบสารสนเทศจะเริ่มจากการนําข้อมูลป้อนเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์จะทํา
การประมวลผลข้อมูลเหล่านั้น แล้วจึงส่ง ผลลัพธ์ออกมาให้กับผู้ใช้ ผู้ใช้ระบบสารสนเทศจะนําสารสนเทศนั้นไปใช้
ประกอบการตัดสินใจในการทํากิจกรรมใด กิจกรรมหนึ่ง หากผลลัพธ์ที่ไดจากการประมวลผลไม่ถูกต้องหรือไม่
สมบูรณ์ ก็จะต้องย้อนมาพิจารณาเริ่มต้นที่ขั้นตอนการป้อนข้อมูลใหม่อีกครั้งว่า ข้อมูลเข้า และขั้นตอนอื่น ๆ มี
ความถูกต้อง สมบูรณ์หรือไม่