More Related Content
More from Rungnapa Rungnapa
More from Rungnapa Rungnapa (20)
บทที่ 1 การจัดการประกันภัย
- 2. การประกันภัย หมายถึง การสัญญาว่าถ้าภัยเกิด
ขึ้นและมีความเสียหายเกิดขึ้นด้วยนั้น ผู้เอา
ประกันภัยไม่ต้องเผชิญหรือรับภาระความเสียหาย
แต่เพียงผู้เดียว ผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่า
เสียหายให้ตามสัญญาประกันภัยที่ได้ทำากันไว้
ตัวอย่าง นายกบ ทำาประกันภัยรถยนต์ไว้ ซึ่งไม่
ได้หมายความว่ารถยนต์ของนายกบ จะไม่เกิด
อุบัติเหตุหรือเกิดความเสียหาย การทำาประกันภัย
รถยนต์ของนายกบ เป็นหลักประกันว่าหาก
รถยนต์ของนายกบ ประสบอุบัติเหตุเกิดความเสีย
หายตามเงื่อนไขที่ตกลงตามสัญญาประกันภัยเมื่อ
- 3. ในพระคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับโจเซฟและความอดอยาก
ในประเทศอียิปต์ ซึ่งถือว่าเป็นที่มีของการประกันภัย
อันดับต้น ๆ เท่าที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เล่ากัน
ว่าคืนวันหนึ่งฟาโรห์ทรงพระสุบินว่า มีวัวอ้วนเจ็ดตัว
กำาลังถูกวัวผอมเจ็ดตัวกัดกิน โจเซฟทำานายฝันว่า
ประเทศอียิปต์จะมีพืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์เป็น
เวลาเจ็ดปี และต่อจากนั้นจะเกิดความแห้งแล้ว
ประชาชนจะอดอยากปากแห้งอีกเป็นเวลาเจ็ดปี ดังนั้น
จึงได้ทูลเสนอต่อกษัตริย์ฟาโรห์ให้สะสมธัญญาหารใน
ปีที่สมบูรณ์เอาไว้สำาหรับเลี้ยงประชาชนในปีที่ข้าวยาก
หมากแพง วิธีนี้เรียกได้ว่าเป็นหลักประกันภัยพื้นฐาน
กล่าวคือ มีการเก็บออมตั้งแต่วันนี้เพื่อไว้ใช้ในอนาคต
ซึ่งหาความแน่นอนไม่ได้
- 4. มีการมอบหมายให้บุคคลอื่นทำาหน้าที่ในการขนส่ง
“สินค้าหรือวัตถุดิบไปจำาหน่ายแทน ซึ่งเรียกว่า พ่อค้า
”เร่ (Traveling Salesman) และเพื่อเป็นหลัก
ประกันว่าพ่อค้าเร่จะไม่โกงเจ้าของสินค้า พ่อค้าเร่จะ
ต้องมอบทรัพย์สิน ภรรยา บุตรไว้กับเจ้าของสินค้า
เพื่อเป็นหลักประกัน (Guarantee)
เมื่อพ่อค้าเร่เดินทางกลับมาจากการขายสินค้าแล้ว
พ่อค้าเร่จะต้องแบ่งกำาไรให้กับเจ้าของสินค้าครึ่งหนึ่ง
หากพ่อค้าเร่หนีหรือถูกโจรปล้น บรรดาทรัพย์สิน
ภรรยา และบุตรของพ่อค้าเร่จะต้องตกไปเป็นทาส
ของเจ้าของสินค้า
เงื่อนไขดังกล่าวทำาให้พ่อค้าเร่ไม่พอใจ จึงได้มีการ
ตกลงเงื่อนไขกันใหม่ว่า หากการสูญเสียสินค้าไม่ได้มี
สาเหตุจากความผิดพลาดของพ่อค้าเร่ และพ่อค้าเร่
- 6. หากผู้กู้ไม่ได้เป็นเจ้าของเรือ แต่มีสินค้าส่งไปขายใน
ลำาเรือ หรือจะซื้อสินค้าและนำากลับมาโดยเรือ ผู้กู้จะ
เอาสินค้าเป็นหลักประกันสำาหรับเงินกู้ได้เช่นเดียวกัน
ข้อตกลงนี้เรียกว่า “สัญญาเรสปอนเดนเทีย”
(Respondentia)
จากการเกิดขึ้นของข้อตกลงทั้งสอง ถือเป็นจุดเริ่มต้น
ของการประกันภัยทางทะเล ต่อมาได้มีการจัดตั้ง
สถาบันการประกันภัยทางทะเลขึ้นที่กรุงเอเธนส์
- 8. ค.ศ.12 ชาวลอมบาร์ด ประเทศอิตาลี ได้อพยพมา
ตั้งถิ่นฐานในกรุงลอนดอน ได้นำาระบบเงินกู้ ได้แก่
สัญญาบอตตอมรี่ (Bottomry Bond) และสัญญาเรส
ปอนเดนเทีย (Respon-Dentia Bond) มาประยุกต์
ใช้โดย กลุ่มพ่อค้าชาวลอมบาร์ดได้คิดระบบกระจาย
ความเสี่ยงภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการขนส่งสินค้าทาง
ทะเลโดยไม่ให้กู้เงินในลักษณะการจัดหาเรือและซื้อ
สินค้า แต่จะชำาระเงินให้กรณีเกิดภัยพิบัติทางทะเล
แล้วก่อให้เกิดความเสียหายกับตัวเรือและสินค้าที่
ขนส่งกับเจ้าของเรือและสินค้า แทนวิธีการเรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมหรือเบี้ยประกันภัย (Premium) จาก
เจ้าของเรือหรือสินค้า
- 9. ประเทศอังกฤษ ค.ศ.17 มีการค้าขายทางทะเล
มากกว่าประเทศอื่นในโลก การประกันภัยทางเรือและ
สินค้าในกรุงลอนดอนจึงมีผู้มีความประสงค์เข้ารับ
เสี่ยงภัยจำานวนมาก บรรดาร้านกาแฟเป็นสถานที่
พบปะกันระหว่างพ่อค้า ร้านกาแฟของเอ็ดเวิร์ด ลอยด์
(Edward Lolyd) เป็นร้านกาแฟที่มีพ่อค้ามาพบปะ
เจรจาเป็นจำานวนมาก และยังได้ให้ความช่วยเหลือทั้ง
พ่อค้าและผู้รับประกันภัยเป็นจำานวนมาก นอกจากนี้
ลอยด์ยังได้หาข่าวเกี่ยวกับการเดินเรือ สถิติของเรือ
และความสามารถของเรือแต่ละลำา รวมทั้งข้อมูลของ
กัปตันและลูกเรือมาเสนอพ่อค้าและผู้รับประกันภัย ต่อ
มาลอยด์ได้ออกหนังสือพิมพ์รายวันซึ่งเก่าแก่ที่สุดใน
ลอนดอน และตั้งคณะกรรมการขึ้นมาบริหารธุรกิจ
ประกันภัย
- 11. สมัยรัชกาลที่ 4 มีตัวแทนห้างร้านเข้ามาตั้งห้าง
ค้าขายในประเทศไทย รวมถึงตัวแทนของบริษัท
ประกันภัยต่างประเทศด้วย
สมัยรัชกาลที่ 5 กิจการประกันภัยยังคงดำาเนินอยู่
นอกจากการรับประกันภัยทางทะเลและอัคคีภัยแล้ว
การประกันชีวิตและการประกันภัยรถยนต์ได้เข้ามามี
บทบาทเพิ่มขึ้น
กฎหมายฉบับแรกที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยที่มี
หลักฐานปรากฎอย่างชัดเจน คือ พระราชบัญญัติ
ลักษณะเข้าหุ้นส่วนและบริษัท ร.ศ. 130 (พ.ศ.2454)
- 12. ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาล
ที่ 7) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราช
บัญญัติควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความ
ปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน พ.ศ. 2471 และ
กระทรวงเศรษฐการในสมัยนั้น ได้กำาหนดเงื่อนไข
การประกอบธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกัน
วินาศภัยขึ้น
พ.ศ. 2510 รัฐบาลได้ประกาศใช้พ.ร.บ.ประกัน
วินาศภัย พ.ศ. 2510 ซึ่งห้ามรับประกันภัยผ่านตัวแทน
จึงได้มีบริษัทประกันภัยต่างชาติเข้ามาขอตั้งสาขาใน
ประเทศไทย โดยรัฐบาลจะออกใบอนุญาตให้ ต่อมา
ถูกยกเลิกในปี พ.ศ. 2535
- 13. ประกันภัยในประเทศไทยแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ
คือ การประกันชีวิต (Life Insurance) และการ
ประกันวินาศภัย (Non-Life Insurance)
การประกันภัยบุคคล อาจได้แก่ การประกันชีวิต การ
ประกันอุบัติเหตุ การประกันสุขภาพ
การประกันทรัพย์สิน อาจได้แก่ การประกันอัคคีภัย
การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง
การประกันภัยรถยนต์ การประกันภัยเบ็ดเตล็ด
การประกันภัยความรับผิด หมายถึง ความรับผิดของ
บุคคลหนึ่งต่อบุคคลอื่นที่ได้รับความเสียหายจากผล
การกระทำาของตน อาจได้แก่ ความรับผิดต่อบุคคล
ความรับผิดชอบของผู้ประกอบอาชีพเฉพาะ ความรับ
ผิดของธุรกิจ
- 14. ผู้รับประกันภัย (Insurer) หมายถึง คู่สัญญาฝ่ายซึ่ง
ตกลงจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือชดใช้เงิน
จำานวนหนึ่งให้แก่ผู้ได้รับความเสียหายจากภัยที่เกิด
ขึ้น ซึ่งได้แก่ บริษัทประกันชีวิต ที่ได้รับใบอนุญาต
ประกอบธุรกิจประกันชีวิต รวมถึงสาขาของบริษัท
ประกันชีวิตต่างประเทศ ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบ
ธุรกิจประกันชีวิตในราชอาณาจักร
ผู้เอาประกันภัย (Insured) หมายถึง คู่สัญญาฝ่ายซึ่ง
ตกลงจะส่งเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้รับประกันภัยจน
กระทั่งครบกำาหนดตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาการ
ประกัน ผู้เอาประกันภัยเป็นบุคคลธรรมดาหรือ
นิติบุคคลก็ได้
- 15. ผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiary) หมาย
ถึง บุคคลผู้ถูกระบุไว้ในกรมธรรม์การ
ประกันภัย ให้เป็นผู้ได้รับค่าสินไหม
ทดแทน หรือรับจำานวนเงินชดใช้ให้ ซึ่ง
อาจจะเป็นบุคคลคนหนึ่งคนเดียวกับ
ผู้เอาประกันภัยหรือไม่ก็ได้
- 16. กรมการประกันภัย เป็นหน่วยงานของ
รัฐบาลทำาหน้าที่ดูแล กำากับ ควบคุม ส่ง
เสริมบริษัทประกันภัยซึ่งเป็นธุรกิจที่
เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หรือส่วนได้เสีย
ของประชาชนจำานวนมาก เป็นกิจการ
ที่จะดำารงอยู่ได้และเจริญก้าวหน้าเมื่อตั้ง
อยู่บนมาตรฐานของความมั่นคงและความ
เชื่อถือของประชาชน การประกันภัยจึง
เป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลต้อง
ควบคุม ดูแล และให้การส่งเสริม
- 20. การสร้างความเชื่อมั่นต่อธุรกิจประกันชีวิต
สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันชีวิต
สร้างศรัทธาให้เกิดแก่อาชีพตัวแทน ตัวแทนประกัน
ชีวิตทุกคนจะต้องพัฒนาตนเองทั้ง
จรรยาบรรณของตัวแทนประกันชีวิต
จรรยาบรรณต่อผู้เอาประกันชีวิต
ซื่อสัตย์ต่อผู้เอาประกันชีวิต
ให้บริการและรักษาประโยชน์ต่อผู้เอาประกันชีวิต
รักษาความลับของผู้เอาประกัน โดยเปิดเผยเฉพาะ
ข้อมูลซึ่งเป็นข้อกำาหนดที่ผู้
เอาประกันจะต้องแถลงข้อความจริงเพื่อการพิจารณารับ
ประกันของบริษัทเท่านั้น
- 21. ไม่เสนอขายนอกเงื่อนไขกรมธรรม์
ไม่สนับสนุนให้สละกรมธรรม์เดิมเพื่อทำาใหม่
ไม่ลดหรือเสนอที่จะลดค่าบำาเหน็จจากการประกันชีวิตให้
กับผู้เอาประกัน
เพราะผิดจรรยาบรรณและผิดต่อกฏหมาย
จรรยาบรรณต่อบริษัทประกันชีวิต
ซื่อสัตย์ต่อบริษัท
รักษาความลับของบริษัทต่อบุคคลภายนอก
เปิดเผยข้อความจริงของผู้เอาประกันชีวิตต่อบริษัทเพื่อ
ประกอบการพิจารณารับประกัน
ไม่ให้ร้ายทับถมบริษัทอื่น เพื่อรักษาภาพพจน์ที่ดีของ
ธุรกิจ