3. Internet of Things (IoT)
• แนวนิด Internet of Things นั้นถูกคิดขึ้นโดย Kevin Ashton ในปี 1999 ซึ่งเขา
เริ่มต้นโครงการ Auto-ID Center ที่มหาวิทยาลัย Massachusetts Institute of
Technology หรือ MIT จากเทคโนโลยี RFID ที่จะทาให้เป็ นมาตรฐานระดับโลก
สาหรับ RFID Sensors ต่างๆที่จะเชื่อมต่อกันได้ต่อมาในยุคหลังปี 2000 โลกมี
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกมาเป็ นจานวนมากและมีการใช้คาว่า Smart ซึ่งใน
ที่นี้คือ smart device, smart grid, smart home, smart network, smart intelligent
transportation ต่างๆเหล่านี้ล้วนมีโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเชื่อมต่อกับ
โลกอินเตอร ์เน็ตได้ ซึ่งการเชื่อมต่อเหล่านั้นเองก็เลยมาเป็ นแนวคิดที่ว่า
อุปกรณ์เหล่านั้นก็ย่อมสามารถสื่อสารกันได้ด้วยเช่นกันโดยอาศัยตัว Sensor
ในการสื่อสารถึงกัน นั่นแปลว่านอกจาก Smart devices ต่างๆจะเชื่อมต่อ
อินเตอร ์เน็ตได้แล้วมันยังสามารถเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ตัวอื่นได้ด้วยโดย
Kevin นิยามมันไว้ตอนนั้นว่าเป็ น “internet-like” หรือพูดง่ายๆก็คืออุปกณ์
อิเล็กทรอนิกส์สามารถสื่อสารพูดคุยกันเองได้ ซึ่งศัพท์คาว่า “Things” ก็แทน
อุปกณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่กล่าวมาก่อนหน้านี้นั่นเอง
4. Awireless sensor network (WSN)
• ตัวแปลสาคัญสาหรับ Internet of Things ที่ใช้ในการสื่อสารนั้นไม่เพียงแต่
Internet network เพียงเท่านั้นแต่ยังมีตัวแปลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีกนั่นคือ
Sensor node ต่างๆจานวนมากที่ทาให้เกิด wireless sensor network (WSN)
ให้กับอุปกรณ์ต่างๆสามารถเชื่อมต่อเข้ามาได้ ซึ่งเจ้า WSNs นี่เอง
สามารถตรวจจับปรากฏการณ์ต่างๆ (physical phenomena) ในเครือข่าย
ได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น แสง อุณหภูมิ ความดัน เป็ นต้น เพื่อส่งค่าไปยัง
อุปกรณ์ในระบบให้ทางานหรือสั่งงานอื่นๆต่อไป
5. Access Technology
การพัฒนา Internet of Things นั้นนอกจากจะพัฒนาเทคโนโลยีในฝั่ง
Hardware ได้แก่ processors, radios และ sensors ซึ่งจะถูกรวมเข้าด้วยกัน
เรียกว่า a single chip หรือ system on a chip (SoC) แล้วก็ยังพัฒนา WSN ไป
พร้อมๆกันด้วย และเมื่อพูดถึงการเชื่อมต่อปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี
สาหรับการเชื่อมต่อสาหรับ Internet of Things หรือ Access technology มีอยู่ 3
ตัวได้แก่
• Bluetooth 4.0
• IEEE 802.15.4e
• WLAN IEEE 802.11™ (Wi-Fi)
8. แบ่งกลุ่มInternet of Things
• ปัจจุบันมีการแบ่งกลุ่ม Internet of Things ออกตามตลาดการใช้งานเป็ น 2 กลุ่มได้แก่
• Industrial IoT
• คือแบ่งจาก local network ที่มีหลายเทคโนโลยีที่แตกต่างกันในโครงข่าย Sensor
nodes โดยตัวอุปกรณ์ IoT Device ในกลุ่มนี้จะเชื่อมต่อแบบ IP network เพื่อเข้าสู่
อินเตอร ์เน็ต
• Commercial IoT
• คือแบ่งจาก local communication ที่เป็ น Bluetooth หรือ Ethernet (wired or wireless)
โดยตัวอุปกรณ์ IoT Device ในกลุ่มนี้จะสื่อสารภายในกลุ่ม Sensor nodes เดียวกัน
เท่านั้นหรือเป็ นแบบ local devices เพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้เชื่อมสู่อินเตอร ์เน็ต
10. IPv6 คือส่วนสำคัญของ Internet of Things
• ตัวอุปกรณ์ IoT devices ต่างๆนั้นจะเป็ นจะต้องมีหมายเลขระบุ
เพื่อให้ใช้ในการสื่อสารเปลี่ยนเสมือนที่อยู่บ้านของเรานั่นเอง และ
การที่จะทาให้อุปกรณ์เหล่านั้นที่มีอยู่เป็ นจานวนมาก(รวมถึง
อนาคตที่จะผลิตกันออกมา) จาเป็ นจะต้องใช้IP Address vesion 6
หรือ IPv6 มากากับเพื่อให้ได้หมายเลขที่ไม่ซ้ากันและต้องใช้ได้ทั้ง
• IoT network ที่เป็ น LAN, PAN, และ BAN: Body Area Network หรือการ
สื่อสารของตัว Sensor กับร่างกายมนุษย์
11. IPv6 คือส่วนสำคัญของ Internet of Things
• Internet network (protocols) ที่เป็ น IP, UDP, TCP, SSL, HTTP, HTTPS, และอื่นๆ
• และที่กล่าวมาทั้งหมดคือส่วนสาคัญต่างๆของ Internet of Things ที่กาลังเกิดขึ้นและ
เป็ นเทรนด์ที่กาลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้หลายคนเข้าใจ
ภาพของ IoT ได้ดีขึ้น สิ่งสาคัญคือศัพท์คานี้จึงไม่ได้หมายถึง Smart device อย่าง
นาฬิกาอัจฉริยะ อย่าง Apple Watch หรือสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่มันยัง
ครอบคลุมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆอีกหลากหลายล้านตัวกว้างไกลไปยังหลากหลาย
อุตสาหกรรมอีกด้วย โดยในอนาคตคุณจะได้เห็น ไมโครเวฟคุยกับตู้เย็นให้สั่งอาหาร
มาเติม เครื่องซักผ้าคุยกับทีวีบอกคุณว่าผ้าซักเสร็จแล้ว สายรัดข้อมือจะคุยกับ
รถพยาบาลแจ้งให้ไปรับตัวผู้ป่ วยที่กาลังหัวใจวาย เหล่านี้คืออนาคตของ Internet of
Things ที่สิ่งต่างๆกาลังจะคุยกันได้
12. IPv6 คือส่วนสำคัญของ Internet of Things
หลายคนคงคุ้นเคยและรู ้จักกับคา
ว่า Internet of Thingsหรือ IoTมาบ้างแล้ว
ซึ่งในตอนนี้เทคโนโลยีนี้กาลังเป็ นที่สนใจ
ของคนทั่วไปเป็ นอย่างมาก แต่รู ้คุณรู ้
หรือไมว่ามันคืออะไร
เกี่ยวกับอะไรบ้างในชีวิตประจาวันของ
เรา
13. แนวคิด Internet of Things
• แนวคิด Internet of Things ถูกคิดค้นขึ้นโดย Kevin Ashton ในปี 1999 ซึ่งเริ่มต้นจากโครงการ
“Auto-ID Center” ในมหาวิทยาลัย Massachusetts Institute of Technology จากเทคโนโลยี
RFID ย่อมาจากคาว่า Radio Frequency Identification เป็ นระบบที่นาเอาคลื่นวิทยุมาใช้ในการ
สื่อสารข้อมูลระหว่างอุปกรณ์สองชนิด ซึ่งเป็ นการสื่อสารแบบไร้สาย ต่อมาในยุคหลังปี 2000
เทคโนโนโลยีต่างๆ ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เริ่มมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกมาเป็ น
จานวนมาก และยังมีการใช้คาว่า Smart เกิดขึ้นเช่น Smart grid, Smart home, Smart device,
Smart network เป็ นต้น สิ่งเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับโลกอินเตอร ์เน็ตได้ทาให้อุปกรณ์
ดังกล่าวสามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยอาศัยตัว Sensor ในการสื่อสารถึงกัน โดย
Kevin
ได้ให้นิยามไว้ว่า “Internet-like” ต่อมามีคาว่า “Things” เข้ามาแทนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ต่างๆ
14. Internet of Things คืออะไร
• IoT : Internet of Things (บางทีเรียก IoE : Internet of Everything) หรือ “อินเตอร ์เน็ตใน
ทุกสิ่ง” หมายถึง การที่สิ่งต่างๆ ถูกเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างสู่โลกอินเตอร ์เน็ต ทาให้
มนุษย์สามารถ
สั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร ์เน็ต เช่น การเปิ ด-
ปิ ด อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ า รถยนต์โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือสื่อสาร เครื่องมือทาง
การเกษตร
อาคาร บ้านเรือน เครื่องใช้ในชีวิตประจาวันต่างๆ ผ่านเครือข่ายอินเตอร ์เน็ต เป็ นต้น
IoT มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า M2M ย่อมาจาก Machine to Machine คือเทคโนโลยี
อินเตอร ์เน็ตที่เชื่อมต่ออุปกรณ์กับเครื่องมือต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน