6. แนวคิด Internet of Things นั้นถูกคิดขึ้นโดย Kevin Ashton ในปี 1999 ซึ่งเขาเริ่มต้นโครงการ
Auto-ID Center ที่มหาวิทยาลัย Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT จากเทคโนโลยี RFID ที่
จะทาให้เป็นมาตรฐานระดับโลกสาหรับ RFID Sensors ต่าง ๆ ที่จะเชื่อมต่อกันได้ ต่อมาในยุคหลังปี 2000 โลกมี
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกมาเป็นจานวนมากและมีการใช้คาว่า Smart ซึ่งในที่นี้คือ smart device, smart grid,
smart home, smart network, smart intelligent transportation ต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมีโครงสร้างพื้นฐานที่
สามารถเชื่อมต่อกับโลกอินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งการเชื่อมต่อเหล่านั้นเองก็เลยมาเป็นแนวคิดที่ว่าอุปกรณ์เหล่านั้นก็ย่อม
สามารถสื่อสารกันได้ด้วยเช่นกันโดยอาศัยตัว Sensor ในการสื่อสารถึงกัน นั่นแปลว่านอกจาก Smart devices
ต่าง ๆ จะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้แล้วมันยังสามารถเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ตัวอื่นได้ด้วยโดย Kevin นิยามมันไว้ตอน
นั้นว่าเป็น “internet-like” หรือพูดง่าย ๆ ก็คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถสื่อสารพูดคุยกันเองได้ ซึ่งศัพท์คา
ว่า “Things” ก็แทนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่กล่าวมาก่อนหน้านี้นั่นเอง
7. A wireless sensor network (WSN)
ตัวแปลสาคัญสาหรับ Internet of Things ที่ใช้ใน
การสื่อสารนั้นไม่เพียงแต่ Internet network เพียงเท่านั้นแต่
ยังมีตัวแปลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีกนั่นคือ Sensor node ต่าง
ๆ จานวนมากที่ทาให้เกิด wireless sensor network (WSN)
ให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อเข้ามาได้ ซึ่งเจ้า WSNs
นี่เองสามารถตรวจจับปรากฏการณ์ต่าง ๆ (physical
phenomena) ในเครือข่ายได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น แสง
อุณหภูมิ ความดัน เป็นต้น เพื่อส่งค่าไปยังอุปกรณ์ในระบบให้
ทางานหรือสั่งงานอื่น ๆ ต่อไป
8. Access Technology
การพัฒนา Internet of Things นั้นนอกจากจะ
พัฒนาเทคโนโลยีในฝั่ง Hardware ได้แก่ processors,
radios และ sensors ซึ่งจะถูกรวมเข้าด้วยกันเรียกว่า a
single chip หรือ system on a chip (SoC) แล้วก็ยัง
พัฒนา WSN ไปพร้อม ๆ กันด้วย และเมื่อพูดถึงการ
เชื่อมต่อปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีสาหรับการ
เชื่อมต่อสาหรับ Internet of Things หรือ Access
technology มีอยู่ 3 ตัวได้แก่
1. Bluetooth 4.0
2. IEEE 802.15.4e
3. WLAN IEEE 802.11™ (Wi-Fi)
10. Gateway Sensor Nodes
เมื่อมีโครงข่าย Sensor nodes แล้วก็จาเป็นจะต้องมี Gateway Sensor Nodes เพื่อจะเชื่อม
ต่อไปยังโลกอินเตอร์เน็ตด้วย โดยตัว Gateway นี้จะทาหน้าที่เชื่อมต่อไปยังเครือข่าย Internet ให้อุปกรณ์
ทั้งหมดในโครงข่าย Sensor nodes ทั้งหมดส่งข้อมูลเข้าสู่อินเตอร์เน็ตได้นั่นเอง และเจ้า Gateway ที่ว่านี้
ก็จะอยู่ภายใต้ Local network ซึ่งจะมีการกาหนดกันต่อไปว่า Gateway ภายใต้ Local network ที่ว่า
นั้นจะให้เชื่อมต่อไปยัง Internet ได้ด้วยหรือไม่ถ้าไม่ได้อุปกรณ์ที่เชื่อมเข้ามาใน Gateway ก็อาจจะสื่อสาร
กันได้เฉพาะภายใน Local network เองได้เท่านั้น
11. ปัจจุบันมีการแบ่งกลุ่ม Internet of Things ออกตามตลาดการใช้งานเป็น 2 กลุ่มได้แก่
• Industrial IoT คือแบ่งจาก local network ที่มีหลายเทคโนโลยีที่แตกต่างกันในโครงข่าย
Sensor nodes โดยตัวอุปกรณ์ IoT Device ในกลุ่มนี้จะเชื่อมต่อแบบ IP network เพื่อเข้า
สู่อินเตอร์เน็ต
• Commercial IoT คือแบ่งจาก local communication ที่เป็น Bluetooth หรือ Ethernet
(wired or wireless) โดยตัวอุปกรณ์ IoT Device ในกลุ่มนี้จะสื่อสารภายในกลุ่ม Sensor
nodes เดียวกันเท่านั้นหรือเป็นแบบ local devices เพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้เชื่อมสู่
อินเตอร์เน็ต
แบ่งกลุ่ม Internet of Things
12. IPv6 คือส่วนสาคัญของ Internet of Things
ตัวอุปกรณ์ IoT devices ต่าง ๆ นั้นจะเป็นจะต้องมี
หมายเลขระบุเพื่อให้ใช้ในการสื่อสารเปลี่ยนเสมือนที่อยู่บ้านของ
เรานั่นเอง และการที่จะทาให้อุปกรณ์เหล่านั้นที่มีอยู่เป็นจานวน
มาก (รวมถึงอนาคตที่จะผลิตกันออกมา) จาเป็นจะต้องใช้ IP
Address vesion 6 หรือ IPv6 มากากับเพื่อให้ได้หมายเลขที่ไม่
ซ้ากันและต้องใช้ได้ทั้ง IoT network ที่เป็น LAN, PAN, และ
BAN: Body Area Network หรือการสื่อสารของตัว Sensor
กับร่างกายมนุษย์
13. Internet network (protocols) ที่เป็น IP, UDP, TCP, SSL, HTTP, HTTPS, และอื่น ๆ
และที่กล่าวมาทั้งหมดคือส่วนสาคัญต่าง ๆ ของ Internet of Things ที่กาลังเกิดขึ้นและเป็นเทรนด์
ที่กาลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้หลายคนเข้าใจภาพของ IoT ได้ดีขึ้น สิ่งสาคัญ
คือศัพท์คานี้จึงไม่ได้หมายถึง Smart device อย่าง นาฬิกาอัจฉริยะ อย่าง Apple Watch หรือสาย
รัดข้อมือเพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่มันยังครอบคลุมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ อีกหลากหลายล้านตัวกว้างไกล
ไปยังหลากหลายอุตสาหกรรมอีกด้วย โดยในอนาคตคุณจะได้เห็น ไมโครเวฟคุยกับตู้เย็นให้สั่งอาหาร
มาเติม เครื่องซักผ้าคุยกับทีวีบอกคุณว่าผ้าซักเสร็จแล้ว สายรัดข้อมือจะคุยกับรถพยาบาลแจ้งให้ไป
รับตัวผู้ป่วยที่กาลังหัวใจวาย เหล่านี้คืออนาคตของ Internet of Things ที่สิ่งต่าง ๆ กาลังจะคุยกัน
ได้
14. หลายคนคงคุ้นเคยและรู้จักกับคาว่า Internet of Thingsหรือ IoT มาบ้าง
แล้ว ซึ่งในตอนนี้เทคโนโลยีนี้กาลังเป็นที่สนใจของคนทั่วไปเป็นอย่างมาก แต่รู้คุณ
รู้หรือไม่ว่ามันคืออะไร เกี่ยวกับอะไรบ้างในชีวิตประจาวันของเรา
15. แนวคิด Internet of Things ถูกคิดค้นขึ้นโดย Kevin Ashton ในปี 1999 ซึ่งเริ่มต้นจากโครงการ
“Auto-ID Center” ในมหาวิทยาลัย Massachusetts Institute of Technology จากเทคโนโลยี
❖ RFID ย่อมาจากคาว่า Radio Frequency Identification เป็นระบบที่นาเอาคลื่นวิทยุมาใช้ในการ
สื่อสารข้อมูลระหว่างอุปกรณ์สองชนิด ซึ่งเป็นการสื่อสารแบบไร้สาย ต่อมาในยุคหลังปี 2000 เทคโนโลยี
ต่าง ๆ ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เริ่มมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกมาเป็นจานวนมาก และยังมีการใช้
คาว่า Smart เกิดขึ้นเช่น Smart grid, Smart home, Smart device, Smart network เป็นต้น สิ่ง
เหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับโลกอินเตอร์เน็ตได้ ทาให้อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลโดย
อาศัยตัว Sensor ในการสื่อสารถึงกัน โดย Kevin ได้ให้นิยามไว้ว่า “Internet-like” ต่อมามีคาว่า
“Things” เข้ามาแทนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ
แนวคิด Internet of Things
16. IoT : Internet of Things (บางทีเรียก IoE : Internet of Everything) หรือ
“อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง” หมายถึง การที่สิ่งต่าง ๆ ถูกเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างสู่โลก
อินเตอร์เน็ต ทาให้มนุษย์สามารถสั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านทาง
เครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น การเปิด-ปิด อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ
เครื่องมือสื่อสาร เครื่องมือทางการเกษตร อาคาร บ้านเรือน เครื่องใช้ในชีวิตประจาวัน
ต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
Internet of Things คืออะไร