3. Tag Questions เป็ นประโยคคําถามอีกประเภทหนึ:ง ทีใ: ช้
เมื:อผู้พูดมีความมั:นใจในการกล่ าวครัFงแรก แต่ กยงคงมีความ
็ั
ไม่ แน่ ใจอยู่บ้างเล็กน้ อย จึงกล่ าวเป็ นคําถามต่ อจากการกล่ าวครัFงแรก
เช่ น
You are John, aren’t you? (คุณคือจอห์ นไม่ ใช่ เหรอ)
= ผู้พูดมีความมันใจว่ าผู้ที:พูดด้ วยคือจอห์ น แต่ ถามยําอีกครัFงเพือให้ แน่ ใจว่ าใช่
: F :
หรือไม่
He isn’t a singer, is he? (เขาไม่ เป็ นนักร้ องใช่ มFย)
ั
= ผู้พูดมีความมันใจว่ าผู้ทเี: ขาพูดถึงไม่ เป็ นนักร้ อง แต่ ถามยําอีกครัFง เพือให้ แน่ ใจว่ าใช่
: F :
หรือไม่
4. Tag Questions จะประกอบด้วย 2 ส่ วน คือ
1. ส่ วนหน้ าหรือประโยคนํา
2. ส่ วนท้ าย หรือ Tag
เช่ น You are John, aren’t you?
(1) ส่ วนหน้ าหรือประโยคนํา คือ You are John
(2) ส่ วนท้ าย หรือ Tag คือ aren’t you
He isn’t a singer, is he?
(1) ส่ วนหน้ าหรือประโยคนํา คือ He isn’t a singer
(2) ส่ วนท้ าย หรือ Tag คือ is he
6. หลักการสร้ าง Tag Questions มีดงนีF
ั
1. ถ้ าส่ วนหน้ าหรือประโยคนําเป็ นข้ อความบอกเล่ า ส่ วนท้ ายจะต้ องเป็ น
ปฏิเสธ
2. ถ้ าส่ วนหน้ าหรือประโยคนําเป็ นข้ อความปฏิเสธ ส่ วนท้ ายจะต้ องเป็ นบอกเล่ า
3. ใส่ เครื:องหมาย Comma (,) คันระหว่ างส่ วนหน้ ากับส่ วนท้ าย
:
4. ประธานของส่ วนท้ ายจะต้ องเป็ นคําสรรพนามทีเ: ป็ นรู ปประธานเสมอ
5. ถ้ ากริยาในส่ วนท้ ายเป็ นปฏิเสธ จะเป็ นรู ปย่ อเสมอ
6. ถ้ าส่ วนหน้ าเป็ น I am ส่ วนท้ ายจะต้ องเป็ น aren’t I
เช่ น I am playing with John, aren’t I? (ตรงกับข้ อ 1, 3, 4, 5 และ 6)
John isn’t a singer, is he? (ตรงกับข้ อ 2, 3 และ 4)
7. คํากริยาในส่ วนท้ าย หรือ Tag จะต้ องสอดคล้ องกับคํา
กริยาในส่ วนหน้ าหรือประโยคนําโดยแบ่ งออกเป็ น 3 ลักษณะ
ดังนีF
ถ้ าในส่ วนหน้ าหรือประโยคนํามี Verb to be คํากริยาในส่ วนท้ ายหรือ
Tag ก็จะต้ องเป็ น Verb to be เช่ น
You are John, aren’t you?
Mark and David weren’t in their room this morning, were they?
8. 2. ถ้ าในส่ วนหน้ าหรือประโยคนํามีคากริยาช่ วย คํากริยาใน
ํ
ส่ วนท้ ายหรือ Tag ก็จะต้ องเป็ นคํากริยาช่ วย เช่ น
- You will go to Bangkok tomorrow, won’t you?
- They won’t go to Chiangmai next week, will they?
- John can’t speak Thai, can he?
- Jenny can speak Chinese, can’t she?
9. 3. ถ้ าในส่ วนหน้ าหรือประโยคนํา ไม่ มี Verb to be หรือคํากริยาช่ วย มีแต่ คํากริยา
แท้ คํากริยาในส่ วนท้ ายหรือ Tag จะต้ องเป็ น Verb to do เช่ น
- You walk to school, don’t you?
ส่ วนท้ ายหรือ Tag ใช้ don’t เพราะส่ วนหน้ าหรือประโยคนําเป็ นประโยคปัจจุบันกาล
ธรรมดาในรู ปบอกเล่ า (คํากริยาเป็ นช่ อง 1 = walk) และประธานเป็ นบุรุษที: 2 (You)
- John doesn’t speak Thai, does he?
ส่ วนท้ ายหรือ Tag ใช้ does เพราะส่ วนหน้ าหรือประโยคนําเป็ นประโยคปัจจุบันกาล
ธรรมดาในรู ปปฏิเสธ (ส่ วนของกริยาเป็ น doesn’t + คํากริยาช่ อง 1 = speak) และประธาน
เป็ นบุรุษที: 3 (John)
- Jenny wrote a letter to Joe last night, didn’t she?
ส่ วนท้ ายหรือ Tag ใช้ didn’t เพราะส่ วนหน้ าหรือประโยคนําเป็ นประโยคอดีตกาล
ธรรมดาในรู ปบอกเล่ า (คํากริยาเป็ นช่ อง 2 = wrote)
- Mark didn’t write a letter to Joe last night, did he?
ส่ วนท้ ายหรือ Tag ใช้ did เพราะส่ วนหน้ าหรือประโยคนําเป็ นประโยคอดีตกาล
ธรรมดาในรู ปปฏิเสธ (ส่ วนของกริยาเป็ น didn’t + คํากริยาช่ อง 1 = write)