More Related Content
Similar to การให้เหตุผลอุปนัย
Similar to การให้เหตุผลอุปนัย (20)
More from Laongphan Phan (14)
การให้เหตุผลอุปนัย
- 1. การให้ เหตุผล
คือ การที่มนุษย์ รู้ จกใช้ การให้ เหตุผล
ั
เพือสนับสนุนความเชื่อ หรือเพือหาความ
่ ่
จริง หรือข้ อสรุ ปในเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาแต่
ครั้งโบราณ ซึ่งการให้ เหตุผลนั้นเป็ นสิ่ งที่
มนุษย์ ทุกคนมีอยู่ในตัว มนุษย์ ร้ ู จกที่จะใช้
ั
การให้ เหตุผลตัดสิ นใจแก้ ปัญหาต่ างๆ อัน
จะนําไปสู่ การคาดคะเนได้ ความรู้ และ
ทฤษฎใหม่ๆได้มากมาย
ี
- 2. การให้เหต ุผล แบ่งเปน 2 แบบ คือ..
็
การให้ เหตุผลแบบนิรนัย (Deduction)
การให้ เหตุผลแบบอุปนัย (Induction)
- 3. ตวอยางการใหเ้ หตผล
ั ่ ุ
การให้เหตุผลแบบนิรนัย
“คนทุกคนอยากรวย เธอเป็นคน เธอ
ต้องอยากรวยแน่”
การให้เหตุผลแบบอปนัย
ุ
“ถามใคร ก็เห็นตอบว่ าอยากรวย
เพราะฉะนั้นคนเราน่ าจะอยากรวยกัน
ทุกคน”
- 4. ขอแตกต่างของ
้
การให้เหต ุผลแบบอ ุปนัยและแบบนิรนัย
ประเภท หลกการ
ั เนือหา
้ ข้ อสรุ ป ประโยชน์ นัก
ปรัชญา
แบบนร
ิ จากหลัก ลดลง จริงถ้าใช้ ค้นพบ นักเหตุผล
นัย เกณฑ์ หรือ ข้ อมูลทีเ่ ป็ น ความ นิยม
ความรู้ ที่มี ความจริง สัมพันธ์
สู่ ข้อสรุป ต้ องสม อย่างแจ่ม
เหตุสมผล ชัด
แบบ จากการ เพิมขึน จริงหรือเท็จ การค้นพบ นัก
่ ้
อุปนัย สังเกตหรือ ก็ได้ แต่ ต้อง ข้อมูลใหม่ ประสบกา
ทดลอง น่าเช่ือถอื รณ์ นิยม
หลายๆคร้ ังสู่
ข้ อสรุ ป
- 5. ลักษณะสํ าคัญของการให้ เหตุผลแบบอุปนัย
สรุปผลเกินจากหลักฐานข้ อเท็จจริงทีมอยู่ ่ ี
การสรุปของแต่ ละคนอาจไม่ เหมือนกัน
การสรุปผลอาจไม่เป็ นจริงเสมอไป
อุปนัยที่ดี ข้ อสรุปต้ องมีความาเชื่อถือ
- 6. ความน่ าเชื่อถือของการให้ เหตุผลแบบอุปนัย
ขอสรุปจะเช่ื อถือไดมากหรือนอยเพยงใดน้ น
้ ้ ้ ี ั
ู่ ั ั
ข้ ึนอยกบลกษณะของขอมูล หลกฐานและขอเทจจริง
้ ั ้ ็
ที่นามาอาง ซ่ ึ งไดแก่
ํ ้ ้
1) จํานวนข้ อมูล หลกฐาน หรือขอเทจจริงท่ีนามาเป็น
ั ้ ็ ํ
้ ้ ้ ั
ขอสังเกต หรือขออางอิงมีมากพอกบการสรุปความ
หรือไม่
2) ข้อมูล หลักฐานหรื อข้อเท็จจริ งเป็ นตัวแทนที่ดีในการ
ใหขอสรุปหรือไม่
้ ้
3) ข้ อสรุ ปทีต้องการมีความซับซ้ อนมากน้ อยเพียงใด
่
- 7. การนําการให้ เหตุผลแบบอุปนัยไปประยุกต์ ใช้ ประโยชน์
1. การนําไปประยุกต์ ใช้ กบวิชาอืนๆ
ั ่
คณิตศาสตร์ เป็ นความรู ้พ้ืนฐานในการเรี ยน
เร่ื องอ่ืนๆ เช่น การแกปัญหาโจทยแบบรูปของ
้ ์
จานวน
ํ
วทยาศาสตร์ สาหรับการใหเ้ หตุผลแบบอุปนย
ิ ํ ั
อาจนาไปสู่ การเป็นทฤษฎี หรือเป็นกฎ เมื่อ
ํ
ทดสอบหลายๆ คร้ ังแลวเป็นจริง
้
สังคมศึกษา ช่วยในการให้รู้จกการวิเคราะห์
ั
ภาษาไทย เมื่อมีเหตุผลที่ดี นาไปเขียนบทความ
ํ
เรียงความ ก็ทาใหดูน่าเชื่อถือ
ํ ้
- 8. การนําการให้ เหตุผลแบบอุปนัยไปประยุกต์ ใช้ ประโยชน์
2. การนํามาประยุกต์ใช้ในชีวตประจําวน
ิ ั
ทําให้เป็ นคนที่รู้จกเหตุผล เป็ นคนมี
ั
เหตุผล เมื่อพูดอะไร ถ้ามีเหตุที่ดี ก็มีคน
เช่ือถือ ซ่ ึ งถาเม่ือไรไม่มีเหตุผล มนุษยก็คงจะ
้ ์
ทาสิ่งต่างๆ อยางไร้เหตุผล ซ่ ึ งก็จะส่งผลให้
ํ ่
สังคมวนวาย ไม่มีกฎ ไม่มีระเบียบ
ุ่
- 9. การนําการให้ เหตุผลแบบอุปนัยไปประยุกต์ ใช้ ประโยชน์
3. การใช้ ในหลักปรัชญา
ประสบการณ์เป็ นจุดเริ่ มต้นของความรู ้ทุกอย่างวิธีอปนัย
ุ
ทาใหเ้ ราได้ “ความรู ้ใหม่” ซึ่งวิธีนิรนัยไม่สามารถให้ได้
ํ
ตวอยางนกประสบการณ์นิยม ไดแก่
ั ่ ั ้
จอห์น ลอก
นกปรัชญาชาวองกฤษ สมยใหม่ ไดช่ือวาเป็น
ั ั ั ้ ่
ั ่ ิ
“บิดาลทธิประสบการณ์นิยม” ซ่ ึงเห็นวาวธีการอปนย ซ่ ึง
ุ ั
เป็นรากฐานของวชาวทยาศาสตร์ เป็นวธีท่ีดีท่ีสุดท่ีจะได้
ิ ิ ิ
ความรู้ท่ีแทจริง แทจริง
้ ้
- 10. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัย
ข้ อเท็จจริง
1.นกแก้วบินได้
2.นกเขาบินได้
3.นกเอ้ ียงบินได้
4.นกกระจิบบินได้
5.นกกระเรี ยนบินได้
ข้ อสรุ ป นกทุกชนิ ดบินได้
- 11. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัย
ชิมลินจี่พนธุ์จกรพรรดิมาหลายครั้ง พบว่า
้ ั ั
อร่ อย ลิ้นจี่พนธุ์น้ ีเป็ นลิ้นจี่ที่อร่ อย
ั
ข้ อเท็จจริง ชิมลิ้นจี่พนธุ์จกรพรรดิหลายครั้ง
ั ั
พบวาอร่อย
่
ข้ อสรุ ป ลิ้นจี่พนธุจกรพรรดิ
ั ์ั
เป็นลิ้นจี่ที่อร่อย
- 12. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัย
่
ที่ผานมาฉันสังเกตว่าร้อนจัดทีไร จะมีฝน
ตกหนักตามมา นี่แสดงว่าอีกไม่นานฝนมาแน่
เพราะวา ร้อนเหลือเกิน
่
ข้ อเท็จจริง สังเกตหลายครั้งแล้วถ้าวันไหน
อากาศร้อน จะมีฝนตกด้วย วันนี้อากาศร้อน
ข้ อสรุ ป วันนี้ ฝนตกแน่
- 13. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัย
ข้ อเท็จจริง (เหตุ) 1. เม่ือวานเต๋ารักแคท
2. วันนี้เต๋ ารักแคท
3. พรุ่ งนี้เต๋ ารักแคท
ข้ อสรุ ป เต๋ ารักแคทตลอดไป
- 14. การให้ เหตุผลแบบอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์
การให้เหตุผลแบบอปนัยเชิง
ุ
คณิตศาสตร์ คือ การให้ เหตุผลทาง
คณิตศาสตร์ เพือพิสูจน์ ว่าข้ อความเหล่านั้น
่
เป็ นจริงหรือไม่ ใช้ ในการช่ วยสรุปคําตอบ
หรือช่วยในการแก้ปัญหา เช่นการแก้ปัญหา
‘แบบรู ปจานวน’
ํ
- 15. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์
ข้ อเท็จจริง (เหตุ) 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 8 ,
9 ,10 ...
ข้ อสรุป จากการสงเกตแบบรูปจานวน
ั ํ
ข้างต้นพบว่า มีค่าเพิมขึ้นทีละหนึ่ง
่
ดังนั้นจํานวนถัดไปอีก
5 จานวนคือ 11 , 12 , 13 , 14 , 15
ํ
- 16. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์
ข้ อเท็จจริง (เหตุ) 1 = 1
1+2 = 3
1+2+3 = 6
1+2+3+4 = 10
1+2+3+4+5 = 15
ข้ อสรุ ป 1 + 2 + 3 + 4 + ... +
n = n(n+1)/2
- 17. พสูจน์โดยใช้อปนัยเชิงคณตศาตร์
ิ ุ ิ
1 + 2 + 3 + 4 + ... + n = n(n+1)/2
1 = 1(1+1)/2 =1
1+2 = 2(2+1)/2 =3
1+2+3 = 3(3+1)/2 =6
1+2+3+4+5+6 = 6(6+1)/2
= 21
1 + 2 + 3 + 4 + ... + 10
= 10(10+1)/2 = 55
1 + 2 + 3 + 4 + ... + 12
= 12(12+1)/2 = 78
- 18. ตัวอย่ าง การให้ เหตุผลแบบอุปนัยเชิงคณิตศาสตร์
พิสูจน์ขอสรุปโดยใชการให้เหตุผลแบบอุปนยเชิงคณิตศาสตร
้ ้ ั
ข้ อสรุ ป 2n > n2 เมื่อ n > 4
พิสูจน์ ข้อสรุป 25 > 52 = 32 > 25
26 > 62 = 64 > 36
2 7 > 72 = 128 > 49
28 > 82 = 256 > 64
- 19. แบบฝึกทกษะการให้เหตผลแบบอปนัย
ั ุ ุ
แบบฝึ กทักษะการให้ เหตุผลแบบอุปนัย
1. แบบฝึกหัด ตดสินการให้เหตุผลแบบ นรนัย / การให้เหตุผลแบบ
ั ิ
อุปนัย
อุปนัย
1) __________ คนนีสร้างหนังไม่ดีหรอก ฉันเห็นมาหลายเรื่ องแล้ว
้
่
แยทุกเร่ื อง
่
2) __________ หนังดีตองมีคนดูอยูแล้ว ในเมื่อหนังเรื่ องนี้ดี แล้ว
้
ค◌ุ ณจะกลวไปทาไมว่าจะไม่มีคนดู
ั ํ
่ ั ั ่
3) __________ท่ีผานมาฉนสงเกตวาร้อนจดทีไร จะมีฝนตกหนก ั ั
ตามมา น่ีแสดงวาอีกไม่นานฝนมาแน่ เพราะวาร้อนเหลือเกิน
่ ่
4) __________ หลายวนท่ีผานมาโชคไมค่อยดีเลย สงสัยวนนีคง
ั ่ ่ ั ้
โชคไม่ ค่อยดีอีก ต้ องระวังตัวหน่ อย
5) __________ วนไหนจิ้งจกทกโชคจะไมดีท้ งวนวนนีฉันจึงต้อง
ั ั ่ ั ั ั ้
่
โชคไม่ ดีแน่ เพราะวาเม่ือเชาจิ้งจกทกเสียงดงมาก
้ ั ั
- 20. แบบฝึกทกษะการให้เหตผลแบบอปนัย
ั ุ ุ
4. จงใช้ การให้ เหตุผลแบบอุปนัย เพือหาสมการ หรือ
่
คําตอบจาก แบบรูปทกาหนดให้
ี่ ํ
1) (1 × 9) + 2 = 11
(12 × 9) + 3 = 111
(123 × 9) + 4 = 1111
_____________ = _______
2) 2 = 4-2
2+4 = 8-2
2+4+8 = 16-2
2+4+8+16 = 32-2
_________ = ______
- 21. แบบฝึกทกษะการให้เหตผลแบบอปนัย
ั ุ ุ
4. จงใช้ การให้ เหตุผลแบบอุปนัย เพือหาสมการ หรือ
่
คําตอบจากแบบรูปทกาหนดให้
ี่ ํ
1,089 x 1 = 1,089
1,089 x 2 = 2,178
1,089 x 3 = 3,267
1,089 x 4 = ______
1,089 x 5 = 4356
______
1,089 x 6 = ______
1,089 x 7 = ______
1,089 x 8= ______
1,089 x 9 = ______