05 การบัญชีกิจการรับเหมาก่อสร้าง
- 4. (1) ประเภทงานก่อสร้าง
2. งานระบบ (System Work)
เป็ นงานรับเหมาระบบไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ
น้าประปา สุขภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งเป็ นงานที่ต้องมีความชานาญ
เฉพาะด้าน และต้องดาเนินการควบคุมไปกับงานก่อสร้าง
อาคาร
- 5. (1) ประเภทงานก่อสร้าง
3. งานตกแต่งอาคาร
เป็ นงานรับเหมาตกแต่งอาคาร ซึ่งครอบคลุมถึงงาน
เฟอร์นิเจอร์ งานนี้ส่วนใหญ่ต้องอาศัยมัณฑนากร เป็ น
ผู้ออกแบบและควบคุมงาน และจะเริ่มดาเนินการตั้งแต่งาน
ก่อสร้างอาคารและงานระบบ ถือเป็ นงานสุดท้ายก่อนที่ผู้
ว่าจ้างหรือเจ้าของอาคารจะใช้ประโยชน์จากอาคาร
- 7. (2) วงจรงานก่อสร้าง
วงจรของงานก่อสร้าง (Project Life Cycle) สาหรับ
โครงการก่อสร้างประกอบด้วยขั้นตอนที่สาคัญ 6 ขั้นตอน คือ
1. ระยะแรกเริ่ม (Inception)
2. ระยะออกแบบเบื้องต้น (Conceptual Design)
3. ระยะการพัฒนาแบบ (Design Develop)
4. ระยะออกแบบประมูล (Tender Drawing)
5. ระยะการก่อสร้าง (Construction)
6. ระยะการใช้งานและการบารุงรักษา (Operation & Maintenance)
- 8. (2) วงจรงานก่อสร้าง
1. ระยะแรกเริ่ม (Inception)
เริ่มต้นจากเจ้าของโครงการ มีความประสงค์ที่จะลงทุน เพื่อ
ประโยชน์ตอบแทน หรือเพื่อพัฒนาสาธารณูปโภค ซึ่งการกระทาใน
ระยะนี้ ได้แก่ Pre-Feasibility Study เป็นการศึกษารูปแบบโครงการ
คร่าวๆ ซึ่งลักษณะรูปแบบอาจจะมีหลายทางเลือกให้ตัดสินใจ
Feasibility Study เป็ นการศึกษาความเป็ นไปได้ของ
โครงการหลังจากได้เลือกรูปแบบของโครงการแล้ว โดยจะมีการ
วิเคราะห์ความเป็นไปได้
- 9. (2) วงจรงานก่อสร้าง
2. ระยะออกแบบเบื้องต้น (Conceptual Design)
หลังจากตกลงเลือกรูปแบบของโครงการแล้วก็เริ่มออกแบบ
พร้อมศึกษาถึงผลกระทบต่างๆ ของโครงการทางด้านสภาพแวดล้อม
และกฎหมาย
3. ระยะการพัฒนาแบบ (Design Develop)
ขั้นตอนนี้ถือว่าโครงการขึ้นแล้วเจ้าของงานเริ่มติดต่อ
สถาบันการเงินผู้รับเหมา
- 10. (2) วงจรงานก่อสร้าง
4. ระยะออกแบบประมูล (Tender Drawing)
เป็นขั้นตอนตัดเลือก ผู้รับเหมา โดยทั่วไปจะเปิดการประมูล
ด้วยกัน 3 วิธีดังนี้
4.1 ประมูลแบบเบ็ดเสร็จ (One Package) ผู้รับเหมารายเดียว
รับผิดชอบก่อสร้างทั้งหมดจนแล้วเสร็จ
4.2 ประมูลแบบแยกส่วน โดยจะแยกส่วนเป็นผู้รับเหมาหลัก (Main
Constructor)
4.3 ประมูลแบบแยกส่วนเฉพาะส่วน ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะให้
รับเหมาเฉพาะค่าแรงงาน โดยเจ้าของจัดซื้อวัสดุก่อสร้างเอง
- 11. (2) วงจรงานก่อสร้าง
5. ระยะการก่อสร้าง (Construction)
เป็ นระยะที่ผู้รับเหมาะที่ได้รับการคัดเลือกจะดาเนินการ
ก่อสร้างตามรูปแบบสัญญาโดยประสานงานกับ Consultant ทุก
ระยะ
6. ระยะการใช้งานและการบารุงรักษา (Operation &
Maintenance)
เป็นช่วงระยะเวลาที่การก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งผู้ใช้งานจะต้อง
เป็นผู้ดูแลรักษาอาคารเอง
- 12. (3) ประเภทของสัญญางานก่อสร้าง
สัญญางานก่อสร้าง แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. One Package Contract เป็นสัญญารับเหมาองานทั้ง
โครงการตั้งแต่เริ่มงานก่อสร้างจนแล้วเสร็จ
2. Specialist Contract เป็นสัญญาเฉพาะงานบางส่วนของ
โครงการ เช่น งานระบบไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ งานตกแต่ง ฯลฯ
3. Negotiated Contract เป็นการเจาะจงเรียกผู้รับเหมาที่
ต้องการมาเจรจาต่อรองราคา และเงื่อนไขต่างๆ โดยไม่มีการประมูล
- 13. (4) ลักษณะพิเศษของบัญชีรับเหมาก่อสร้าง
ลักษณะพิเศษของบัญชีรับเหมาก่อสร้ าง (Unique
Characterics of Construction Accounting)
1. โครงการก่อสร้างส่วนมากมักอยู่ห่างจากสานักงานกลาง
ของบริษัท ซึ่งทาให้เกิดปัญหาในการรวบรวมผลการดาเนินงาน
ทางด้านบัญชีอย่างมีประสิทธิภาพ
2. โครงการก่อสร้างแต่ละชิ้น ซึ่งบริษัทก่อสร้างได้ทาขึ้นจะมี
ลักษณะการออกแบบและการก่อสร้างที่ต่างกัน ฉะนั้น จึงทาให้
วิธีการคิดบัญชีต่างกัน
- 14. (4) ลักษณะพิเศษของบัญชีรับเหมาก่อสร้าง
3. ปกติโครงการก่อสร้างมักใช้ระยะเวลามากกว่า 1 ปี ดังนั้น
อุตสาหกรรมก่อสร้างมักจะคานวณรายรับและรายจ่าย โดยการอ้าง
ถึงวิธีการคิดบัญชีตามสัญญาการก่อสร้างระยะยาว (Long-Term
Contract Methods)
4. บัญชีบริษัทก่อสร้างในทางปฏิบัติจะกระทบกระเทือนโดย
บุคคลภายนอก เช่น สถานบันการเงิน บริษัทประกันภัย องค์กรของ
รัฐบาลและบริษัทค้าวัสดุก่อสร้าง
5. บริษัทก่อสร้างส่วนใหญ่มักจะมีเจ้าของธุรกิจน้อยคน
ดังนั้น จึงมักดาเนินการในรูปของบริษัท
- 18. (5) วิธีการจัดทาบัญชีของกิจการ
กรณีที่ 1 การทาบัญชีในกิจการรับเหมาก่อสร้างที่ทาบัญชีอยู่แล้ว
- ด้านการควบคุมภายในรวมถึงทางด้านการเงินและบัญชี โดยดูจาก
การจ่ายเงินรับเงิน วิธีการเก็บเงิน การจ่ายเงินมีวิธีอย่างไร เช่น การจ่าย
ค่าใช้จ่าย ค่าพาหนะ เวลาที่จ่ายมีวิธีที่จะปฏิบัติอย่างไร มีการเซ็นรับเงิน
หรือไม่ ตลอดจนการรับเงินนั้นมีเอกสารประกอบหรือไม่ ถ้ามีการจ่ายเงินทุก
อย่างไม่มีการเซ็นรับ ไม่มีเอกสารประกอบ สรุปได้ว่าการควบคุมภายในไม่ดี
พอ
การรับเงินในกิจการมีอย่างเดียว คือ จากรายได้ โดยการรับเงินต้องมี
ใบเสร็จรับเงินและใบเสร็จจะสมบูรณ์ก้อต่อเมื่อมีลายเซ็นต์ผู้จัดการและมีการ
บันทึกลงบัญชี
- 19. (5) วิธีการจัดทาบัญชีของกิจการ
กรณีที่ 1 การทาบัญชีในกิจการรับเหมาก่อสร้างที่ทาบัญชีอยู่แล้ว
- ด้านการตัดสินใจในการทาบัญชี ถ้าทาบัญชีถูกต้องจะทาให้
ประหยัดเวลาในการทา สะดวกในการบันทึกบัญชี ทาให้ผู้อ่านงบและดูงบ
เข้าใจง่ายขึ้น แต่โดยที่เราแก้ไขและปรับปรุงบัญชีนั้นไม่ขัดต่อกฎหมายหรือ
พระราชบัญญัติการบัญชี ตลอดจนประมวลรัษฎากร
สาหรับกิจการที่ทาบัญชีเดี่ยว ต้องยกเลิกแล้วเป
- 20. (5) วิธีการจัดทาบัญชีของกิจการ
กรณีที่ 2 การทาบัญชีในกิจการรับเหมาก่อสร้างที่ไม่เคยทาบัญชีมาก่อนเลย
1. ศึกษาระบบการจัดองค์การและการบริหารงาน ซึ่งอาจเป็ น
แบบนิติบุคคล หรือ บุคคลธรรมดาแล้วแต่ธุรกิจที่ตั้งขึ้น ส่วน
การบริหารอาจเป็นการกระจายอานาจหรือรวมอานาจ
2. ศึกษาถึงระบบการควบคุมภายในกิจการรับเหมาก่อสร้าง ด้าน
- 21. (5) วิธีการจัดทาบัญชีของกิจการ
กรณีที่ 2 การทาบัญชีในกิจการรับเหมาก่อสร้างที่ไม่เคยทาบัญชีมาก่อนเลย
2.1 การบริหารงานบุคคล
- มีการกาหนดตาแหน่งหน้าที่ และหน่วยงานต่างๆ ภายใน
2.2 การบริหารงานด้านการบัญชี
- มีการกาหนดบุคคลผู้รับผิดชอบ ซึ่งการรับเงินจ่ายเงินควร
มีการแยกเป็นแผนกรับเงินและจ่ายเงิน และการจ่ายเงินควรมี
กาหนดวงเงินที่จะจ่าย
- 22. (5) วิธีการจัดทาบัญชีของกิจการ
กรณีที่ 2 การทาบัญชีในกิจการรับเหมาก่อสร้างที่ไม่เคยทาบัญชีมาก่อนเลย
3. กาหนดผังบัญชี หรือรหัสบัญชีให้เหมาะสมกับกิจการ แบ่ง
หมวดหมู่ของบัญชี คือ ทรัพย์สิน หนี้สิน ทุน รายได้ และ
ค่าใช้จ่าย
- 31. (6) การบันทึกบัญชี
9. รายการปรับปรุง
9.1 ปรับปรุงสิ่งที่ยังไม่ได้มีการบันทึกบัญชี
9.2 ปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาด
10. รายการปิดบัญชี ปิดรายได้ และค่าใช้จ่าย เข้าบัญชี
กาไรขาดทุน และปิดกาไรขาดทุนเข้ากาไรสะสม
***ใช้ระบบบัญชีต้นทุนงานสั่งทา (Job Order)***
- 33. (6) การบันทึกบัญชี
เอกสารที่ใช้ในกิจการก่อสร้าง
1. ใบส่งผลงาน คือ ใบรายงานผลการทางานว่าเป็นอย่างไร
2. ใบตรวจงาน เป็ นเอกสารที่มีไว้สาหรับตรวจดูผลงานว่าทาเสร็จไป
แล้วมีอะไรบ้าง
3. ใบสั่งซื้อ (Purchase Order : PO) เป็นใบสั่งซื้อวัตถุดิบจาก
บุคคลภายนอก
4. ใบขอซื้อ (Purchase Request : PR) เป็นใบที่แผนกงานไหนต้องการที่
จะทาการขอซื้อทรัพย์สิน หรือสิ่งของต่างๆ เป็นเอกสารภายใน
5. ใบเบิก เป็นใบขอเบิกวัสดุเพื่อมาทาการก่อสร้าง
- 38. (7) การตีราคางานก่อสร้าง
1. Completed-Contract Method
สาหรับงานรับเหมาก่อสร้างซึ่งได้มีการตกลงทาสัญญาก่อสร้าง
ระหว่างบุคคล 2 ฝ่ ายนั้น งานส่วนที่ผู้รับเหมาก่อสร้างยังทาไม่
แล้วเสร็จเราเรียกว่างานระหว่างทา (Work in Process) สาหรับ
งานระหว่างทานี้ ผู้รับเหมาจะต้องแสดงในราคาต้นทุนไว้ก่อน
จนกระทั่งงานนั้นเสร็จสมบูรณ์และมีการส่งมอบให้ผู้ว่าจ้าง จึง
จะทาการคานวณหาผลกาไรขาดทุนจากการก่อสร้างชิ้นนี้ วิธีการ
บันทึกบัญชีแบบนี้เป็นวิธีที่กระทบตามแนวความคิดที่ว่ารายได้
จะเกิดขึ้นได้เมื่อมีการขายเกิดขึ้น และผลกาไรเกิดขึ้นจากการขาย
เท่านั้น ไม่ใช่เกิดจากการผลิต
- 39. (7) การตีราคางานก่อสร้าง
2. Percentage of Completion Method
การคานวณกาไรตามส่วนของงานที่ทาเสร็จ เพื่อถือเป็ นรายได้
ของงวดบัญชีหนึ่ง ๆ มีวิธีคานวณ 2 วิธี คือ
2.1 คานวณตามอัตราส่วนของงานที่ทาเสร็จ จากการเปรียบเทียบ
ต้นทุนที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับราคาทุนทั้งสิ้นของงานก่อสร้างชิ้นนั้น
2.2 ให้สถาปนิกและวิศวกรเป็นผู้ทาการประมาณงานที่ทาสาเร็จ
แล้วว่าเป็นอัตราส่วนเท่าใดของงานทั้งสิ้น