More Related Content
Similar to Presentation1 (20)
Presentation1
- 3. โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตาม
ความสนใจ ความถนัดและความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทาง
วิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการเน้นผู้เรียนเป็น
สาคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยง
ความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อ
สร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็นที่ปรึกษา
และให้คาแนะนา
- 5. โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทาให้ผู้เรียนเกิด
ความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่สาคัญ 5 ประการ ดังนี้
1.ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรียน
เป็นผู้ทาโครงงานต้องนาเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจ
โครงงานคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ทาโครงงานต้องสื่อสาร
ความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วยปากเปล่า
รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนาเสนอแนวคิดใน
การจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ
- 6. 2.ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
• การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิดเนื่องจากอะไร
• การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนาความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา รวมทั้งความรู้จากการ
ค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน
• การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนาความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
• การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทาโครงงานใดและไม่
ควรทาโครง งานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงาน
ระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผล
กระทบต่อสังคม ทาให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น
• การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในการ
พัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือ
ประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการนาเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมี
ผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คาปรึกษา
- 7. 3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา
เข้าใจ และอธิบายปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้
ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา
4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นาความรู้
และกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้
ในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิด
การเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถ
เลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม
และมีคุณธรรม
- 14. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงาน
ประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์
พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อ
การพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการ
พิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่อ
อานวยความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย สาหรับ
ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น
ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้
ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่
ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
- 18. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ
จาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์
จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ
ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็น
แนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อม
ทั้งารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตาม
สูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงาน
ประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงาน
จาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรม
ของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
- 23. ตัวอย่างหัวข้อโครงงานประยุกต์ใช้งาน
1. โปรแกรม สารบรรณสาเร็จรูป : Readymade Archivist
2. โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น
3. โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
4. เครื่องรดน้าต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์มือถือ
5. เครื่องให้อาหารไก่ไข่อัตโนมัติ
6. ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน
7. ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล
- 31. 2. ทาความสะอาดบ้าน
เพื่อแก้ปัญหา : ความสกปรกบริเวณต่างๆภายในบ้าน เพื่อสุขอนามัยที่ดี
ได้ประโยชน์ : บ้านสะอาด ถูกสุขหลักอนามัย
3. ดูทีวี
เพื่อแก้ปัญหา : การเกิดความเครียด ต้องการพักผ่อน
ได้ประโยชน์ : เพื่อขจัดความเครียด ได้พักผ่อน
- 32. 4. ซื้อจักรยานยนต์
เพื่อแก้ปัญหา : การจราจรติดขัด ส่งผลให้การเดินทางไม่ค่อยสะดวก
ได้ประโยชน์ : เพื่อการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว
5. ทานา
เพื่อแก้ปัญหา : ความยากจนของเกษตรกร
ได้ประโยชน์ : เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของเกษตรกร
- 33. 6. มาเรียนหนังสือ
เพื่อแก้ปัญหา : การศึกษาของประเทศไทย
ได้ประโยชน์ : เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการศึกษาของเด็กไทย
7. ตั้งใจเรียน
เพื่อแก้ปัญหา : การเรียนพิเศษเพิ่มเติมตามสถาบันกวดวิชา
ได้ประโยชน์ : เพื่อลดค่าใช้จ่ายในด้านการศึกษา
- 34. 8. เรียนภาษาอังกฤษ
เพื่อแก้ปัญหา : การติดต่อธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ
ได้ประโยชน์ : เพื่อให้การติดต่อธุรกิจการค้าระหว่างประเทศเป็นไปอย่าง
ถูกต้อง
9. เรียนคอมพิวเตอร์
เพื่อแก้ปัญหา : การพัฒนาสื่อทางด้านเทคโนโลยี
ได้ประโยชน์ : เพื่อพัฒนาสื่อทางด้านเทคโนโลยีให้ดีมากยิ่งขึ้น
- 35. 10. สมัครงาน
เพื่อแก้ปัญหา : หาเลี้ยงชีพและครอบครัว
ได้ประโยชน์ : เพื่อหาเงินมาสนองความต้องการของตนและหาเลี้ยง
ครอบครัว และเพื่อความสุขของตนเองและครอบครัว
- 39. 2. ตกแต่งห้องเรียนให้สวยงาม (ต้องตอบให้ครบทุกวิธี)
วิธีที่ 1 บริเวณหน้าห้องเรียน
เกณฑ์ที่เลือกใช้ จุดรวมสายตา
วิธีที่ 2 บริเวณหลังห้องเรียน
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ที่ว่าง สามารถจัดแต่งได้เยอะ
วิธีที่ 3 บริเวณกาแพงห้อง
เกณฑ์ที่เลือกใช้ พื้นที่จากัด
วิธีที่ 4 บริเวณชั้นวางของ
เกณฑ์ที่เลือกใช้ จัดแต่งได้เยอะและพื้นที่มีจากัด
- 40. 3. เรียนหนังสือเก่ง (กาหนดกิจกรรมเอง ต้องตอบให้ครบทุกวิธี)
วิธีที่ 1 ตั้งใจเรียน
เกณฑ์ที่เลือกใช้ เงินและเวลา
วิธีที่ 2 อ่านหนังสือ
เกณฑ์ที่เลือกใช้ ที่ว่าง เรียนรู้ด้วยตนเอง
วิธีที่ 3 เรียนพิเศษ
เกณฑ์ที่เลือกใช้ เทคนิคการทาโจทย์
วิธีที่ 4 ติวกับเพื่อน
เกณฑ์ที่เลือกใช้ เงินและความสะดวก
- 42. กาหนดและลาดับขั้นตอนการปฏิบัติ
ให้นักเรียนเรียงลาดับขั้นตอนการทางาน จากกิจกรรมที่กาหนดให้ต่อไปนี้
1. การสารวจสภาพน้าที่คูเมือง
ขั้นที่ 1 เตรียมเครื่องมือทีใช้ในสารวจ ได้แก่ เครื่องมือตรวจวัดคุณภาพน้า อุปกรณ์สาหรับเก็บ
ตัวอย่างน้าอุปกรณ์และเครื่องมือวิเคราะห์ (ทั้งในส่วนของภาคสนามและห้องปฏิบติการ)
ขั้นที่ 2 เดินทางไปที่คูเมือง ตาแหน่งที่ 1 ด้านทิศเหนือด้วยรถจักรยานยนต์พร้อมเครื่องมือ
สารวจ
ขั้นที่ 3 ลงมือทาการสารวจสภาพน้า โดยการเก็บตัวอย่างน้า เพื่อตรวจวัดดัชนีคุณภาพ
น้า 9 ดัชนี ได้แก่ ความเป็นกรด-ด่าง (pH), ออกซิ เจนละลายในน้า (DO), ของแข็งทั้งหมด
(TS), แบคทีเรียกลุ่มฟีคัล (Fecal Coliforms), ไนเตรท , ฟอสเฟต , ความขุ่น
(Turbidity), อุณหภูมิของน้า(Temp), ค่าบีโอดี (BOD)
- 43. 2. การทาร่มกระดาษสาที่บ่อสร้าง
ขั้นที่ 1 หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่และการเดินทาง และศึกษาข้อมูลการทาร่มกระดาษสา
เพื่อสอบถามข้อมูลการทาร่มกระดาษสาที่จะนามาซึงข้อมูลที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น
ขั้นที่ 2 เตรียมอุปกรณ์ ได่แก่ อุปกรณ์การจดบันทึก อุปกรณ์บนทึกเสียงและ
ภาพ
ขั้นที่ 3 ออกเดินทางไปยังสถานที่ทาร่มกระดาษสา(ที่บ่อสร้าง)
ขั้นที่ 4 ทาการศึกษาการทาร่มกระดาษสา และสอบถามข้อมูลจากผู้รู้ในการทาร่ม
กระดาษสาพร้อมเก็บภาพ
ขั้นที่ 5 ทาการสรุปองค์ความรู้ที่ได้
- 44. 3. การตรวจคุณภาพดิน
ขั้นที่ 1 กาหนดสถานที่ที่จะทาการตรวจคุณภาพดิน
ขั้นที่ 2 เตรี ยมเครื องมือทีใช้ในการตรวจคุณภาพดิน ได้แก่ เครื่องมือตรวจคุณภาพดิน
ขั้นที 3 เดินทางไปยังพื้นที่ที่จะทาการตรวจคุณภาพดิน โดยทาการตรวจเนื้อดิน
ปฏิกิริยาของดิน ปริมาณของธาตุอาหารพืชที่เป็นประโยชน์ได้ในดิน
ขั้นที่ 4 ทาการสรุปผลการตรวจคุณภาพดิน
- 49. 4. ประเมินทางเลือกและเลือกทางเลือก (เลือกวิธีการเดินทาง หลาย ๆ วิธี)
คาอธิบาย เลือกทางแรกจากโรงเรียนยุพราชผ่านสี่ แยกตลาดสมเพชร สี่แยกศรีพิงค์ ถึง
ตลาดวโรรสเพราะระยะทางสั้นและใช้เวลาในการเดินน้อยกว่า
5. กาหนดและลาดับขั้นตอนการปฏิบัติ (กาหนดวิธีการเดินทางที่เหมาะสมจากข้อ 4)
คาอธิบาย 1. วางแผนรายการอาหารที่ตองการจะซื้อ คือ น้าพริกหนุ่ม
2. กาหนดเวลาในการเดินทางและซื้ออาหาร
3. เลือกวิธีการเดินทางโดยรถมอเตอร์ไซต์ และเดินทาง
4. ตรวจสอบรายการอาหาร
5. เดินทางกลับโรงเรียน
6. ปฏิบัติด้วยความชื่นชม
คาอธิบาย ทางเดินด้วยความสบายกายและสบายใจ ไม่รีบเร่ง
- 53. 3. พัฒนาแอปพลิเคชั่นบน SMARTPHONE
ประเภท โครงงานการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
4. โปรแกรมช่วยอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์อย่างชาญฉลาด
ประเภท โครงงานการประยุกต์การใช้งาน
5. โปรแกรมประยุกต์ธนาคารทาความดี
ประเภท โครงงานการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
6. โปรแกรมให้อาหารสัตว์เลี้ยง
ประเภท โครงงานการประยุกต์การใช้งาน
- 57. ชื่อโครงงาน แหล่งที่ใช้ศึกษาข้อมูล ระยะเวลาในการศึกษา
1. การเขียนรายงานโครงงานการใช้โปรแกรม GSP
ออกแบบลายไทย
1.หนังสือ
2.อินเตอร์เน็ต
3.พิพิธภัณฑ์
4.สอบถามจากผู้ที่มีความรู้
1 สัปดาห์
2.โปรแกรมประยุกต์ธนาคารทาความดี 1.หนังสือ
2.อินเตอร์เน็ต
3.พิพิธภัณฑ์
4.สอบถามจากผู้ที่มีความรู้
2-3 สัปดาห์
3.พัฒนาแอปพลิเคชั่นบน SMARTPHONE 1.หนังสือ
2.อินเตอร์เน็ต
3.พิพิธภัณฑ์
4.สอบถามจากผู้ที่มีความรู้
1-2 เดือน
- 67. วันเดือนปี รายการปฏิบัติงาน กิจกรรมที่จัดทา หมายเหตุ
ก.ย. 56 เลือกโครงงานและ
รูปแบบในการจัดทา
เลือกโครงงานและ
วางแผนปฏิบัติงาน
ต.ค. 56 ปฏิบัติการทา
โครงงาน
ปฏิบัติงานตาม
แผนการที่วางไว้
พ.ย. 56 ส่งให้ครูตรวจสอบ
ครั้งที่ 1
ส่งโครงงานที่พัฒนา
แล้วให้ครูที่ปรึกษา
แนะนา
- 68. วันเดือนปี รายการปฏิบัติงาน กิจกรรมที่จัดทา หมายเหตุ
ธ.ค. 56 ปฏิบัติการทา
โครงงาน (ต่อ)
แก้ไขและคา
ปรับปรุงตาม
คาแนะนาของครูที่
ปรึกษา
ต.ค. 56 ส่งให้ครูตรวจสอบ
ครั้งที่ 2
ส่งโครงงานที่พัฒนา
แล้วให้ครูที่ปรึกษา
ประเมิน