การนอนดึกเป็นการบอกวิธีการแก้ไขและแนวทางการนอนดึกให้นอนได้เร็วขึ้น

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2559
ชื่อโครงงาน นอนดึก " SLEEPING LATE "
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1. นางสาวณัทธนา ศรีเลยเลขที่ 14ชั้นม.6 ห้อง 12
2. นางสาวเมวิกา โพธิสอนเลขที่ 25 ชั้นม.6 ห้อง12
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2559
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์

2. 2
สมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาวณัทธนา ศรีเลย เลขที่ 14
2. นางสาวเมวิกา โพธิสอน เลขที่ 25
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
นอนดึก
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
SLEEPING LATE
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน 1 นางสาวณัทธนา ศรีเลย
2 นางสาวเมวิกา โพธิสอน
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2559
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล
ของการทาโครงงาน)
ในปัจจุบันการนอนหรือพักผ่อนของคนในช่วงวัยอายุต่างๆค่อนข้างน้อย
เนื่องจากงานที่ทาและกิจกรรมต่างๆ น่าเป็นห่วงว่าเด็กสมัยนี้จานวนมากมีวิถีชีวิตแบบนี้
โดยเฉพาะเด็กมหาวิทยาลัย (วันเสาร์-
อาทิตย์ไม่ต้องตื่นแต่เช้าไปกวดวิชาเหมือนตอนอยู่ประถมหรือมัธยม) บางคนสาคัญผิดคิดว่า
นี่คือวันแห่งเสรีภาพที่ได้รับการปลดปล่อยประจาสัปดาห์ นอนให้อิ่มไปเลย อาหารเช้าไม่ต้องกิน
แถมยังเป็นการลดความอ้วนไปในตัว
แต่หารู้ไม่ว่าวิถีชีวิตแบบนี้คือการบั่นทอนและทาลายร่างกายไปโดยไม่รู้ตัว
เป็นปัญหาสุขภาพที่จะตามมาในอนาคต การนอนดึกมีผลต่อร่างกายมากมายทาให้ ขี้ลืม

3. 3
การรับรู้ตอบสนองช้า เป็นเพราะสมองนั้นทางานไม่เต็มที่ ถ้ายังนอนดึกอดหลับอดนอน
จะทาให้เป็นโรคความจาเสื่อมได้ง่ายด้วย ร่างกายและพิวพรรณดูไม่สดใส เปล่งปลั่ง ดูซูบโทรมลงไป
เพราะผลของการนอนดึก และพักผ่อนไม่เพียงพอเลยทาให้พิวพรรณฟื้นตัวไม่ทัน
ซึ่งจะเกิดปัญหาทาให้หน้าแก่ก่อนไวอันควร หน้าตาหมองคล้า ผิวหนังเหี่ยวย่น
เพราะฮอร์ทางานโมนไม่คงที่ส่งผลกระทบต่อ การเรียน หรือแม้แต่ทางาน
เพราะจะทาให้เรียนหรือทางานไม่รู้เรื่องสมองสั่งงานช้า และไม่มีสมาธิ
จึงส่งผลให้ด้านการเรียนตกเรียนไม่ทันเพื่อน หรือแม้แต่ทางานไม่รู้เรื่อง
นอนดึกทาให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง สุขภาพไม่แข็งแรง เพราะร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ
ระบบต่างๆในร่างกายฟื้นตัวไม่ทัน ทาให้ร่างกายเกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยได้ง่าย
การพักผ่อนให้เพียงพอจึงเป็นความจาเป็น
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
-เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุของการนอนดึก
-เพื่อให้บอกถึงความสาคัญของการนอนเร็วขึ้น
-เพื่อบอกวิธีการแก้ไขของการนอนหลับ
-เพื่อให้ทุกคนตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นและแจ่มใส
-เพื่อนาสารประโยชน์เผยแผ่แก่ผู้อื่น
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
ศึกษาสาเหตุที่แท้จริงของสิ่งที่จะทาให้เกิดการนอนดึกจนทาให้บางคนไม่ได้หลับได้นอนและห
าวิธีแก้ไขและป้องกันการนอนดึกโดยที่ปฎิบัติได้ด้วยตนเองและวิธีการแก้ไขเพื่อให้สามารถนอนได้เร็ว
ขึ้น
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
เราสามารถนอนได้เร็วขึ้น มีวิธีการในการทาให้หลับเร็วโดยการไม่สนใจงานที่ทา
พักผ่อนให้เร็วขึ้น โดยมีวิธีการดังนี้
-อย่ากินอาหารหนักๆ เยอะๆ ก่อนนอน
-เลี่ยงการรับประทานเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
-ปิดไฟ ปิดผ้าม่านให้ห้องนอนมืดสนิท จะช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น

4. 4
-ไม่เล่นโทรศัพท์ก่อนนอน
-เข้านอนเวลาเดิมๆ ทุกๆ คืนเป็นการกาหนดเวลานอนให้ร่างกายตัวเอง
พอถึงเวลาประจาที่เราเคยนอน ร่างกายเราจะง่วงเองโดยอัตโนมัติ
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
-ค้นคว้าหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
-สอบถามครูกลุ่มสาระสุขศึกษา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
-อินเทอรืเน็ต
งบประมาณ
100 บาท (ค่าอินเทอร์เน็ต)
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
17
1 คิดหัวข้อโครงงาน / เมวิกา
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / เมวิกา
3 จัดทาโครงร่างงาน / เมวิกา
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงา
น
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)

5. 5
-ผู้ที่สนใจทราบถึงสาเหตุของอาการการนอนไม่หลับ
-ผู้สนใจได้ทราบถึงการนอนพักผ่อน
-ผู้สนใจทราบการแก้ไขและวิธป้องกัน
-ผู้อื่นจะได้รับสารประยชน์และสามารถปฏิบัติได้จริง
สถานที่ดาเนินการ
-บ้าน
-โรงเรียน
-ชุมชน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
-กลุ่มสาระสุขศึกษา
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
http://www.thaihealth.or.th/blog/myblog/topic
http://www.dek-d.com/nugirl/34096/