Submit Search
Upload
บทที่ 3
•
Download as PPTX, PDF
•
0 likes
•
257 views
F
fernfielook
Follow
ประเภทของหลักสูตร
Read less
Read more
Education
Report
Share
Report
Share
1 of 15
Download now
Recommended
บทที่ 3
บทที่ 3
Naruephon
บทที่ 3
บทที่ 3
Piyapong Chaichana
บทที่ 3
บทที่ 3
katay sineenart
บทที่ 3
บทที่ 3
Pateemoh254
บทที่ 3
บทที่ 3
Naruephon
บทที่ 3
บทที่ 3
parkpoom11z
บทที่ 3
บทที่ 3
Dook dik
3 170819173149
3 170819173149
teerayut123
Recommended
บทที่ 3
บทที่ 3
Naruephon
บทที่ 3
บทที่ 3
Piyapong Chaichana
บทที่ 3
บทที่ 3
katay sineenart
บทที่ 3
บทที่ 3
Pateemoh254
บทที่ 3
บทที่ 3
Naruephon
บทที่ 3
บทที่ 3
parkpoom11z
บทที่ 3
บทที่ 3
Dook dik
3 170819173149
3 170819173149
teerayut123
3 170819173149
3 170819173149
fernfielook
3 170819173149
3 170819173149
wanitchaya001
บทที่ 3
บทที่ 3
benty2443
บทที่ 3
บทที่ 3
nattawad147
3 170819173149
3 170819173149
nattapong147
บทที่ 3
บทที่ 3
Piyapong Chaichana
3 170819173149
3 170819173149
poppai041507094142
3 170819173149
3 170819173149
gam030
บทที่ 3
บทที่ 3
wanichaya kingchaikerd
บทที่ 3
บทที่ 3
wanneemayss
บทที่ 3
บทที่ 3
Theerayut Ponman
บทที่ 3
บทที่ 3
kanwan0429
บทที่ 3
บทที่ 3
kanwan0429
รูปแบบการเรียนการสอน
รูปแบบการเรียนการสอน
wannaphakdee
บทที่2
บทที่2
Phonchanitmelrdie
บทที่2
บทที่2
wanneemayss
บทที่2
บทที่2
wanichaya kingchaikerd
บทที่2
บทที่2
Pateemoh254
บทที่2
บทที่2
fernfielook
บทที่2
บทที่2
nattawad147
บทที่11
บทที่11
fernfielook
บทที่10
บทที่10
fernfielook
More Related Content
Similar to บทที่ 3
3 170819173149
3 170819173149
fernfielook
3 170819173149
3 170819173149
wanitchaya001
บทที่ 3
บทที่ 3
benty2443
บทที่ 3
บทที่ 3
nattawad147
3 170819173149
3 170819173149
nattapong147
บทที่ 3
บทที่ 3
Piyapong Chaichana
3 170819173149
3 170819173149
poppai041507094142
3 170819173149
3 170819173149
gam030
บทที่ 3
บทที่ 3
wanichaya kingchaikerd
บทที่ 3
บทที่ 3
wanneemayss
บทที่ 3
บทที่ 3
Theerayut Ponman
บทที่ 3
บทที่ 3
kanwan0429
บทที่ 3
บทที่ 3
kanwan0429
รูปแบบการเรียนการสอน
รูปแบบการเรียนการสอน
wannaphakdee
บทที่2
บทที่2
Phonchanitmelrdie
บทที่2
บทที่2
wanneemayss
บทที่2
บทที่2
wanichaya kingchaikerd
บทที่2
บทที่2
Pateemoh254
บทที่2
บทที่2
fernfielook
บทที่2
บทที่2
nattawad147
Similar to บทที่ 3
(20)
3 170819173149
3 170819173149
3 170819173149
3 170819173149
บทที่ 3
บทที่ 3
บทที่ 3
บทที่ 3
3 170819173149
3 170819173149
บทที่ 3
บทที่ 3
3 170819173149
3 170819173149
3 170819173149
3 170819173149
บทที่ 3
บทที่ 3
บทที่ 3
บทที่ 3
บทที่ 3
บทที่ 3
บทที่ 3
บทที่ 3
บทที่ 3
บทที่ 3
รูปแบบการเรียนการสอน
รูปแบบการเรียนการสอน
บทที่2
บทที่2
บทที่2
บทที่2
บทที่2
บทที่2
บทที่2
บทที่2
บทที่2
บทที่2
บทที่2
บทที่2
More from fernfielook
บทที่11
บทที่11
fernfielook
บทที่10
บทที่10
fernfielook
บทที่ 9
บทที่ 9
fernfielook
บทที่8
บทที่8
fernfielook
บทที่ 7
บทที่ 7
fernfielook
บทที่ 6
บทที่ 6
fernfielook
บทที่5
บทที่5
fernfielook
บทที่4
บทที่4
fernfielook
บทที่ 1
บทที่ 1
fernfielook
Random 170819173908
Random 170819173908
fernfielook
11 170819173826
11 170819173826
fernfielook
10 170819173737
10 170819173737
fernfielook
9 170819173701
9 170819173701
fernfielook
7 170819173524
7 170819173524
fernfielook
6 170819173444
6 170819173444
fernfielook
5 170819173404
5 170819173404
fernfielook
4 170819173249
4 170819173249
fernfielook
2 170819173059
2 170819173059
fernfielook
1 170819173012
1 170819173012
fernfielook
More from fernfielook
(19)
บทที่11
บทที่11
บทที่10
บทที่10
บทที่ 9
บทที่ 9
บทที่8
บทที่8
บทที่ 7
บทที่ 7
บทที่ 6
บทที่ 6
บทที่5
บทที่5
บทที่4
บทที่4
บทที่ 1
บทที่ 1
Random 170819173908
Random 170819173908
11 170819173826
11 170819173826
10 170819173737
10 170819173737
9 170819173701
9 170819173701
7 170819173524
7 170819173524
6 170819173444
6 170819173444
5 170819173404
5 170819173404
4 170819173249
4 170819173249
2 170819173059
2 170819173059
1 170819173012
1 170819173012
บทที่ 3
1.
บทที่ 3 ประเภทของหลักสูตร
2.
มโนทัศน์(Concept) การจัดประเภทของหลักสูตรว่าเป็นประเภทใดนั้นขึ้นอยู่กับการตอบสนอง ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอนและสถานการณ์ต่างๆ ที่เหมาะสมแต่ละประเภทและแต่ ละระดับการศึกษาเป็นสาคัญ ประเภทของหลักสูตรสามารถแบ่งได้เป็นหลักสูตรบูรณาการ หลักสูตรกว้าง
หลักสูตรเสริมประสบการณ์ หลักสูตรรายวิชา หลักสูตรแกน หลักสูตรแฝง หลักสูตรสัมพันธ์วิชา หลักสูตรเกลียวสว่าน และหลักสูตรสูญ เป็นต้น ผลการเรียนรู้(Learning Outcome) บทเรียนนี้ออกแบบไว้ให้เรียนรู้ร่วมกันเพื่อช่วยให้ผู้เรียนมีความสามารถ ดังนี้ 1.มีความรู้ในการจัดจาแนกประเภทของหลักสูตร 2.สามารถบอกลักษณะสาคัญของหลักสูตรแต่ละประเภทได้
3.
สาระเนื้อหา(Content) 1. หลักสูตรบูรณาการ เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของหลักสูตรหลายวิชาเท่านั้นมีเหตุผลและความคิด พื้นฐานซึ่งสนับสนุนอยู่ด้วยจะขออธิบายให้ทราบโดยสังเขปดังต่อไปนี้ 1. เหตุผลและพื้นฐานความคิด 1.1
เหตุผลทางจิตวิทยาและวิชาการ โดยธรรมชาติเด็กหรือผู้เรียนจะมีความสนใจ ฉงนสนเทห์และมี ความกระตือรือร้นในการที่จะแสวงหาความรู้และสร้างความเข้าใจในสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ สมองของเด็กจะไม่จากัดอยู่กับการเรียนรู้วิชาใดวิชาหนึ่งเป็นส่วนๆ
4.
1.2 เหตุผลทางสังคมวิทยา เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า การศึกษาจะเกิดผลดีที่สุดก็ต่อเมื่อให้ผู้เรียนสามารถ ตอบปัญหาในชีวิตประจาวันได้ด้วยเหตุนี้หลักสูตรจึงต้องเป็นหลักสูตรสนับสนุนสิ่ง ดังกล่าวซึ่งคุณสมบัตินี้มีอยู่ในหลักสูตรบูรณาการ 1.3
เหตุผลทางการบริหาร หลักสูตรบูรณาการช่วยให้ลดตาราเรียนได้ คือแทนที่จะแยกเป็นตาราสาหรับ แต่ละวิชา ซึ่งทาให้ต้องใช้ตาราหลายเล่ม ก็อาจรวมเนื้อหาของหลายวิชาไว้ในตาราเล่ม เดียวกันและยังสามารถทาให้เป็นที่น่าสนใจมากขึ้นด้วย
5.
2. ลักษณะของหลักสูตรบูรณาการที่ดี ในการผสมผสานวิชาหรือสาขาวิชาต่างๆ เพื่อให้ได้หลักสูตรบูรณาการนั้น ถ้าจะให้ดีจริงๆนักพัฒนาหลักสูตรจะต้องพยายามให้เกิดบูรณาการในลักษณะต่อไปนี้ โดยครบถ้วนคือ 1.
บูรณาการระหว่างความรู้และกระบวนการเรียนรู้ 2. บูรณาการระหว่างพัฒนาการทางความรู้และพัฒนาการทางจิตใจ 3. บูรณาการระหว่างความรู้และการกระทา 4. บูรณาการระหว่างสิ่งที่เรียนในโรงเรียนกับสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตประจาวัน ของผู้เรียน 5. บูรณาการระหว่างวิชาต่างๆ
6.
3. รูปแบบของบูรณาการ หลักสูตรบูรณาการเท่าที่มีอยู่ในเวลานี้มี 3
รูปแบบ 1. บูรณาการภายในหมวดวิชา เราได้ทราบแล้วว่าหลักสูตรกว้างนั้นเป็นหลักสูตรที่ได้มี การนาเอาวิชาหลายๆ วิชามารวมกันในลักษณะที่ผสมกลมกลืน แทนที่จะนาเอาเนื้อวิชามาเรียงลาดับกันเฉยๆ 2. บูรณาการ ภายในหัวข้อ และโครงการ หลายประเทศในเอเชียนิยมใช้ วิธีการแบบนี้คือการนาเอาความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ของวิชาหรือหมวดวิชาตั้งแต่ สองวิชาหรือหมวดวิชาขึ้นไป มาผสมผสานกันในลักษณะที่เป็นหัวข้อหรือโครงการ 3. บูรณาการโดยการผสมผสานปัญหาและความต้องการของผู้เรียนและของ สังคม หลักสูตรที่ใช้การผสมผสานแบบนี้ ความจริงก็มีรูปแบบเหมือนอย่างสองแบบ แรกที่ได้กล่าวมาแล้วคืออาจผสมผสานภายในหมวดวิชาหรือภายในหัวข้อและโครงการ ก็ได้
7.
2. หลักสูตรกว้าง หลักสูตรกว้าง (The
Broad-Field Curriculum) เป็นหลักสูตรอีก แบบหนึ่งที่พยายามแก้ไขจุดอ่อนของหลักสูตรรายวิชา โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะ ส่งเสริมการเรียนการสอนให้เป็นที่น่าสนใจและเร้าใจ ช่วยให้ผู้เรียนมีความ เข้าใจและสามารถปรับตนให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมได้เป็นอย่างดี รวมทั้งให้ มีพัฒนาการในด้านต่างๆ ทุกด้าน กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือพยายามจะหนีจาก หลักสูตรที่ยึดวิชาเป็นพื้นฐาน มีครูหรือผู้สอนเป็นผู้สั่งการแต่เพียงผู้เดี
8.
3. หลักสูตรประสบการณ์ หลักสูตรประสบการณ์ (The
Experience Curriculum) เกิดขึ้นเพื่อ แก้ปัญหาที่ว่าหลักสูตรเดิมที่ใช้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรรายวิชาหรือหลักสูตรกว้าง ล้วนไม่ส่งเสริมให้ผู้เรียนสนใจและกระตือรือร้นในการเรียนเท่าที่ควร พื้นฐาน ความคิดของหลักสูตรนี้มีมาตั้งแต่สมัยรุซโซ (Rousseau) และเพลโต (Plato) แต่ได้นามาปฏิบัติจริงเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 นี้เองนับเป็นก้าวแรกที่ยึดเด็กหรือผู้เรียน เป็นศูนย์กลาง
9.
4. หลักสูตรรายวิชา หลักสูตรรายวิชา (The
Subject Curriculum) เป็นหลักสูตรที่ใช้กันมา แต่ดั้งเดิมไม่เฉพาะแต่ในยุโรปหรือสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ประเทศในเอเชียรวมทั้ง ประเทศไทยก็ได้ใช้หลักสูตรแบบนี้มาแต่ต้น การที่เรียนกว่าหลักสูตรรายวิชาก็ เนื่องจากโครงสร้างของเนื้อหาวิชาในหลักสูตร จะถูกแยกออกจากกันเป็นรายวิชา โดยไม่จาเป็นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกันไม่ว่าในด้านเนื้อหาหรือการสอน สาหรับ เนื้อหาที่คัดมาถือว่าเป็นเนื้อหาที่สาคัญและจาเป็นต่อการเรียนรู้ หลักสูตรของไทย เราที่ยังเป็นหลักสูตรรายวิชา ได้แก่ หลักสูตรมัธยมและอุดมศึกษา แต่มีการ ปรับปรุงโครงสร้าง โดยนาเอาระบบหน่วยกิตมาใช้
10.
5. หลักสูตรแกน หลักสูตรแกน (The
Core Curriculum) ถือกาเนิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกาเมื่อ ประมาณปี ค.ศ. 1900 ด้วยเหตุผลสองประการ คือ ความพยายามที่จะปลีกตัวออก จากการเรียนที่ต้องแบ่งแยกวิชาออกเป็นรายวิชาย่อยๆ หรือพูดง่ายๆ ก็คือความ พยายามที่จะให้หลุดพ้นจากการเป็นหลักสูตรรายวิชา ประการหนึ่ง และความพยายาม ที่จะดึงเอาความต้องการและปัญหาของสังคมมาเป็นศูนย์กลางของหลักสูตร อีก ประการหนึ่ง แรกทีเดียวได้มีการนาเอาเนื้อหาของวิชาต่างๆ มารวมกันเข้าเป็นวิชา กว้างๆ เรียกว่าหมวดวิชา ทาให้เกิดหลักสูตรแบบกว้างขึ้น แต่หลักสูตรนี้มิได้มีส่วน สัมพันธ์กับปัญหาและความต้องการของสังคมมากนัก ดังนั้นจึงมีผู้คิดหลักสูตรแกน เพื่อสนองจุดหมายที่ต้องการ
11.
6. หลักสูตรแฝง (Hidden
Curriculum) โรงเรียนโดยทั่วไปจะมีความสามารถและประสบความสาเร็จอย่างมาก ในการสอนให้นักเรียนอ่านออก เขียนได้คิดเลขเป็นและมีความรู้อย่างดียิ่งใน สาขาวิชาต่างๆ แต่สิ่งหนึ่งที่โรงเรียนได้ตระหนักและพยายามอย่างมาก แต่ไม่ค่อย ประสบความสาเร็จหรืออาจจะเรียกได้ว่าล้มเหลวมาตลอดก็คือ การสอนคุณธรรม จริยธรรม และความเป็นพลเมืองดีให้แก่นักเรียน เด็กเหล่านี้ได้รับการปลูกฝัง และ อบรมสั่งสอนจากครูอย่างจริงจัง แต่พวกเขาก็ไม่ค่อยปฏิบัติตามสิ่งที่ครูสอนมากนัก แม้จะมีนักเรียนบางคนประพฤติตนตามคาสอนของครูอย่างเคร่งครัด แต่เมื่อเขาออก จากโรงเรียนไปแล้วก็เปลี่ยนพฤติกรรมและค่านิยมไปตามสังคมที่เรามองกันว่าไม่ เหมาะสม
12.
7. หลักสูตรสัมพันธ์วิชา หลักสูตรสัมพันธ์วิชา (The
CorrelatedCurriculum) เป็น หลักสูตรรายวิชาที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ แรกทีเดียว การแก้ไขข้อบกพร่องทาโดยการนาเอาเทคนิคการสอนใหม่ๆ มาใช้ เช่น ให้ ผู้เรียนร่วมในการวางแผนการเรียน และให้ผู้เรียนทากิจกรรมต่างๆ นอกเหนือจากการท่องจา เพื่อให้ผู้เรียนรู้เนื้อหาที่ต้องการ ทั้งนี้เพื่อแก้ ข้อบกพร่องของหลักสูตรที่เน้นเรื่องผู้สอนเป็นผู้สั่งการหรือจุดศูนย์กลาง ของการเรียนการสอน แต่การปรับปรุงด้านเทคนิคการสอนไม่ได้ช่วยแก้ไข ข้อบกพร่องที่ว่า หลักสูตรรายวิชามีขอบเขตแคบเฉพาะวิชา และยังมี ลักษณะแบ่งแยกเป็นส่วนย่อยๆ อีกด้วย
13.
8. หลักสูตรเกลียวสว่าน (Spiral
Curriculum) ปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นเสมอในระหว่างผู้จัดทาหลักสูตรด้วยกันเอง ได้แก่ ข้อสงสัยที่ว่าทาไมจึงต้องจัดหัวข้อเนื้อหาในเรื่องเดียวกันซ้าๆ กันอยู่เสมอ ในเกือบทุกระดับชั้น แม้จะได้มีผู้พยายามกระทาตามความคิดที่จะจัดสรรเนื้อหา ในแต่ละเรื่องหรือแต่ละหัวข้อให้จบในแต่ละระดับชั้น แต่ในทางปฏิบัติและใน ข้อเท็จจริงยังกระทาไม่ได้ เนื่องจากว่าเนื้อหาหรือหัวข้อต่างๆ จะประกอบด้วย ความกว้างและความลึก ซึ่งมีความยากง่ายไปตามเรื่องรายละเอียดของเนื้อหา นักพัฒนาหลักสูตรยอมรับในปรากฏการณ์นี้และเรียกการจัดเนื้อหาเรื่องเดียวกัน ไว้ในทุกระดับชั้นหรือหลายๆ ระดับชั้น แต่มีรายละเอียดและความยากง่าย แตกต่างกันไปตามวัยของผู้เรียนว่า หลักสูตรเกลียวสว่าน
14.
9. หลักสูตรสูญ (
Null Curriculum) หลักสูตรสูญหรือ Null Curriculum เป็นความคิดและคาที่บัญญัติขึ้นโดย ไอส์เนอร์ (Eisner,1979)แห่งมหาวิทยาลัยแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา หลักสูตรสูญ เป็นชื่อประเภทของสูตรที่ไม่แพร่หลาย และไม่เป็นที่รู้จักกันมากนักในระหว่างนัก การศึกษา และนักพัฒนาหลักสูตรด้วยกัน เขาได้นิยามหลักสูตรสูญว่า เป็นหลักสูตรที่ไม่ได้มีปรากฏอยู่ให้เห็นใน แผนการเรียนรู้ และเป็นสิ่งที่โรงเรียนไม่ได้สอน เขาได้อธิบายถึงความเชื่อของเขาในเรื่องนี้ว่าสิ่งที่ไม่ปรากฏอยู่ในตัว หลักสูตรและสิ่งที่ครูไม่ได้โดยให้เหตุผลว่า ความรู้หรือการขาดสิ่งที่ควรจากรู้ไม่ได้ เป็นแต่เพียงความว่างเปล่าที่หลายคนอาจคิดว่าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใด แต่โดยความเป็นจริงแล้ว การขาดความรู้ดังกล่าวย่อมมีผลกระทบที่สาคัญมาก
15.
ในแง่ที่ทาให้ผู้เรียนขาดทางเลือกที่เขาอาจนาไปใช้แก้ปัญหาและพัฒนาชีวิต ของเขาได้นั้นก็คือ การขาดความรู้บางอย่างไปอาจทาให้ชีวิตของคนๆ หนึ่งขาดความ สมบูรณ์ได้ นอกจากนี้ยังอธิบายเพิ่มเติมได้ว่า
หลักสูตรสูญได้แก่ ทางเลือกที่ไม่ได้ จัดเตรียมไว้ให้ผู้เรียน ความคิดและทรรศนะที่ผู้เรียนไม่เคยสัมผัสและเรียนรู้สิ่งที่ผู้เรียน จะนาไปประยุกต์ใช้ได้แต่มีไว้ไม่พอ รวมทั้งความคิดและทักษะที่ไม่ได้รวมไว้ใน กิจกรรมทางปัญญา
Download now