More Related Content Similar to Klin km e mag-14 Similar to Klin km e mag-14 (20) Klin km e mag-142. Message from Editor
KM ฉบับนีเป็นการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับหอบรรณสารสนเทศ :
้
นิทรรศการรัชกาลที่ 9 ซึ่งได้นําเสนอความเป็นมา และแนวคิดในการพัฒนา
พื้นที่ของสํานักหอสมุดเพื่อจัดทํานิทรรศการในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา
ในปี พ.ศ. 2550 และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้เมื่อสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ เสด็จพระราชดําเนินทรงเปิด
นิทรรศการรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553
นอกจากนี้ยังมีบทความเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างคณาจารย์และ
บรรณารักษ์ และได้รับบทความด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง
“ดาราศาสตร์กับการสํารวจรังวัด” จากอาจารย์ธีระ ลาภิศชยางกูล ภาค
วิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ ซึ่งสํานัก
หอสมุดต้องขอขอบคุณ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความอนุเคราะห์
จากอาจารย์ รวมถึงผู้ติดตาม KLIN KM e-Magazine ท่านอื่นๆ ในการ
ร่วมแบ่งปันความรู้เช่นนี้ต่อไป
ในเดือนตุลาคมนี้ กลุ่มชุมชนนักปฏิบัติ (COPs) เริ่มต้นจัดทําโครงการ
ใหม่ๆ ในปีงบประมาณ 2554 โดยจัดกิจกรรมและขยายเครือข่ายของกลุ่ม
ชุมชนนักปฏิบัติให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น พวกเราพร้อมจะสร้างเครือข่ายในการ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างสรรกิจกรรมดีๆ อย่างต่อเนือง โปรดติดตามต่อไป
่
นะคะ
สํานักหอสมุด
ตุลาคม 2553
4. PHOTO STORY By…ทีมงาน KM
กิจกรรมการจัดการความรูในเดือน
นี้ไดจัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 และ 14 ตุลาคม
2553 เ ว ล า 8.30-10.30 น ณ ห อ ง
ประชุ ม ชั้ น 2 และ ห อ งประชุ ม 114
บ ริ เ ว ณ ชั้ น 1 เ ป น ก า ร แ น ะ นํ า ห อ
นิ ท รรศการรั ช กาลที่ 9 โดยมี พี่ แ หวว
(กรรณิ ก าร ) และ พี่ ซี (อภิ ร ดี ) เป น
วิทยากรบรรยายคะ
จะ
ี้ แ ล ะ ค รั้ ง ต อ ไ ป
กิ จ ก ร ร ม ค รั้ ง น เ ป น
า ษา อังกฤษเขา ม า
สอด แท รกศัพทภ ศัพท
ร็ดนอย เริ่มจากคํา
ความรูเกร็ดเล็กเก
องสมุด
งายๆ ที่เกี่ยวกับห งาน
ี สังข วร รณ) จา ก
โด ยปุก (สุภ า ว ด มา
อส ื่อในรูปแบบ CD
บริการ ไดนําเสน ของ
จ ะเขาสูหัวขอหลัก
เปดใหชมกันกอน ี่พว ก
ส วนใหญเปนคําท
กิจกรรม คําศัพท ใน
ัน แ ต ไ ม ค อ ย ไ ด ใ ช
เ ร า พ อ จ ะ รู จั ก ก และ
เ ป น ก า ร ท บ ท ว น
โ อ ก า ส นี้ จึ ง ถื อ
เพิ่มเติมความรูกัน
1
5. PHOTO STORY
ในสวนของหอนิทรรศการรัชกาลที่ 9
ไดดําเนินการแลวเสร็จเมื่อป 2552 และ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม
ราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเปดเมื่อวันที่ 29
มีนาคม 2553 ภายในหอจะเปนการเลา
เรื่องดวยภาพและวีดิทัศน เกี่ยวกับพระ
ราชประวัติและพระราชกรณียกิจรวมทั้ง
สิ่งของสําคัญที่เกี่ยวกับรัชกาลที่ 9
หลังจากจบการบรรยายวิทยากรไดแนะนํา
คําศัพทภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับหัวขอการ
บรรยายทําให พี่ๆนองๆ ทุกคนตั้งหนาตั้ง
ตาจดและอานตามกันอยางสนุกสนานเลย
ทีเดียวคะ
2
6. PHOTO STORY
จากนั้นทีมงานไดนําชมหอนิทรรศการรัชกาล
ที่ 9 บริเวณชั้น 2 เพื่อใหทุกคนไดทราบถึงขอมูล
และสมผัสกับสถานที่จริง หลังจากนําชม
ั
เรียบรอยแลว ทีมงานไดใหผูเขารวมกิจกรรมทุก
คนรวมตอบคําถามโดย สม (กนกพร อยูอําไพ)
จะถามคําถามแลวใหผูเขารวมกิจกรรมเขียน
คําตอบในกระดาษที่แจกให จํานวนทั้งหมด
5 ขอ แลวเฉลยคําตอบ และมอบของรางวัล
ใหกับผูที่ตอบถูกมากที่สุด สําหรับผูที่ไดรับ
รางวัลในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ไดแก
ยา (วัณรัตน เจะมะ) พี่ออย (กันทิมา มัดดาละ)
และพี่ออย (อัญชลี สรอยเจริญ) ในรอบที่ 1
สวนรอบที่ 2 ไดแก พี่เปล (วาสนา สังขเทศ) และ
พี่วุฒิ (วุฒิชัย เมฆสุวรรณ) คะ
สําหรับกิจกรรมค
รั้งนี้ ทีมงานหวัง
เปนอยางยิ่งวาผ
ูเขารวมกิจกรรม
ไดรับทั้งความรูแ จะ
ละความเพลิดเพ
เกี่ยวกับหอนิทร ลิน
รศการรชกาลที่
ั
เปนสวนสําคัญส 9 ซึ่ง
วนหนึ่งของ
สํานักหอสมุดแล
ะคาดวาจะ
ชวยกันถายทอด
ขอมูลตอไปคะ
3
8. นิทรรศการรัชกาลที่ ๙
โดย ฝายระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
สํานักหอสมุด
ความเปนมา
สํานักหอสมุดไดพัฒนาหอบรรณสารสนเทศ โดยขยายพื้นที่เพื่อ
จัดทํานิทรรศการพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวภูมิพลอดุลยเดช เพื่อ
เฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐
พรรษา
นิทรรศการรัชกาลที่ ๙ จัดแสดงเปนนิทรรศการถาวร ประกอบดวย
• พระราชประวัติ
• พระราชกรณียกิจดานตางๆ
• พระบรมราโชวาทและพระราชดํารัสดานการศึกษาเนื่องใน
โอกาสสําคัญตางๆ
• พระมหากรุณาธิคุณตอ มจธ. 5
9. การดําเนินงาน
- หอเฉลิมพระเกียรติฯ เริ่มดําเนินการปรับปรุง
ในปงบประมาณ ๒๕๕๑ แลวเสร็จในปงบประมาณ ๒๕๕๒
- พื้นที่ใชสอยประมาณ ๓๑๒ ตารางเมตร
- คาใชจายในการดําเนินงาน ๗,๐๕๓,๘๗๗ บาท ประกอบดวย
• งบประมาณจากรัฐ ๔,๕๑๓,๘๗๗ บาท
• งบเพิมเติมจากมหาวิทยาลัย ๒,๕๔๐,๐๐๐ บาท
่
แนวคิดในการจัดแสดง
การจัดแสดงภายในหอเฉลิมพระเกียรติ
ประกอบดวย ๓ สวน ไดแก
๑. นิทรรศการ
๒. วีดิทัศน
๓. พระบรมฉายาลักษณ
6
10. นิทรรศการ
นิทรรศการรัชกาลที่ ๙ จัดแสดงนิทรรศการถาวรโดยเลาเรื่องดวยภาพ
ประกอบดวย
๑. พระราชประวัติ ตั้งแตทรงประสูติ ศึกษา
อภิเษกสมรส และทรงขึ้นครองราชย
๒. พระราชกรณียกิจดานการศึกษา
วิศวกรรมศาสตร สิ่งแวดลอม
และเสด็จฯ ทรงบําบัดทุกข บํารุงสุข
ประชาราษฎร
๓. งานฉลองสิริราชสมบัติ
๔. พระมหากรุณาธิคุณตอ มจธ.
นิทรรศการ (ตอ)
นิทรรศการรัชกาลที่ ๙ จัดแสดงเกี่ยวกับพระบรมราโชวาทและ
พระราชดํารัสดานการศึกษาเนื่องในโอกาสสําคัญตางๆ
7
11. นิทรรศการ (ตอ)
นิทรรศการรัชกาลที่ ๙ นําเสนอวีดิทัศนเฉลิมพระเกียรติ ๔
ตอน ดังนี้
๑. พระราชประวัติ
๒. พระราชกรณียกิจดานการศึกษา
๓. พระราชกรณียกิจดานสิ่งแวดลอม
๔. พระมหากรุณาธิคุณตอ มจธ.
นิทรรศการ (ตอ)
นิทรรศการรัชกาลที่ ๙ จัดแสดงสิ่งของสําคัญ ๓ สิ่ง ดังนี้
๑. เรือใบ
๒. แจกัน
๓. หนังสือทองคํา
8
13. Look Good & Feel Good
by … Iceteagirl
การเลือกซื้ออาหารทะเลอย่างถูกวิธี
วิธีการเลือกซื้ออาหารทะเล
กุ้ง
1. เลือกตัวที่หัวติดแน่นกับลําตัว
2. เปลือกกุ้งใส มองเห็นสีของมันกุ้งได้ชัดเจน เปลือกไม่แดง
3. เนื้อแน่น เมื่อใช้นิ้วกดจะไม่นุ่มและเละ
4. ถ้าเป็นกุ้งแห้ง ให้เลือกสีไม่แดงจัด มีสีธรรมชาติของกุ้ง ไม่มีเปลือกมาก
กลิ่นไม่ฉุน ไม่อับและไม่ชื้น
5. กั้งดอง กั้งที่ดองใหม่เปลือกจะใส น้ําดองกั้งจะมีสีน้ําตาลแดงใส ไม่เป็นสี
ดําคล้ํา ถ้ากั้งมีสีขุ่นทั้งเปลือกและเนื้อแสดงว่าเก่าแล้ว
หอย
การเลือกหอย ดูที่ฝาหอย จะเปิดบ้างเป็นเวลา และเวลาปิดก็จะปิด
แน่นมาก เวลาที่ฝาเปิดหรืออ้าอยู่ หากไปถูกฝาจะปิดทันที
10
14. ปลา
1. ดูตา ตาต้องใส ไม่ขุ่นไม่ช้ํา หรือแห้ง ตาไม่โบ๋
2. ดูเกล็ดและหนัง ถ้าหากเป็นปลาสดเกล็ดจะติดแน่นไปกับลําตัว เกล็ดใสชุ่มชื่น
สีสวย ถ้าเป็นปลาไม่มีเกล็ดให้ดูที่สีของผิวจะเป็นประกาย ผิวใส
3. เหงือกต้องมีสีแดงสด ไม่แห้งหรือคล้ําดํา
4. กดเนื้อดู จะยืดหยุ่นมีสปริงเด้งกลับ ไม่ยุ่ยไม่บุ๋มตามรอยนิ้วมือ และเนื้อไม่แข็งทื่อ
5. ดมกลิ่น ควรเป็นกลิ่นทะเลของปลาแต่ละชนิด ไม่เหม็นเน่าหรือมีกลิ่นฉุนของ
ฟอร์มาลีน ไม่มีแมลงวันตอม
6. ควรซื้อปลาตามฤดูกาล จะได้ปลาสดใหม่ ราคาถูกและรสชาติดี
7. ถ้าเป็นปลาเค็ม ให้เลือกที่เนื้อไม่เละ ไม่มีหนอน ไม่มีเกล็ดเกลือ
เนื้อปลาไม่แข็งแห้งเกินไป เพราะเป็นปลาที่เก่าเก็บไว้นาน
หมึก
หมึกที่นิยมทานมีอยู่ 2 ชนิด คือ หมึกกล้วย และหมึกกระดอง
หมึกกล้วย ลักษณะตัวจะออกรีๆ ยาวๆ คล้ายกล้วย มีเยื่อหุ้มตัวสีออก
น้ําตาล ส่วนด้านข้างจะมีปีกเล็กๆ 2 ปีก มีสีเข้มเป็นพิเศษ
หมึกกระดอง ลักษณะตัวแบนใหญ่สีขาว ควรเลือกหมึก
ที่เนื้อแน่น ไม่เละ สีขาวจัด หรือสีใสสั่นเอง ตาใส
ส่วนตัวและหนวดยังติดแน่น ลองดมดูไม่มี
กลิ่นฉุนๆ ของฟอร์มาลีน
11
15. ปู
1. เลือกตัวที่มีน้ําหนักมาก เพราะปกติปูจะมีน้ําอยู่ในตัวมาก เมื่อถูกจับขึน ้
มาน้ําจะระเหยออกไปตลอดเวลา ดังนั้นยิ่งวางขายนานเท่าไหร่ น้ําหนักก็ยิ่งเบา
ลงจึงให้เลือกปูที่หนักๆ ไว้ก่อน
2. ลองกดตรงส่วนนอกของปู ถ้าเนือแน่นดี กดแล้วไม่บุ๋ม แสดงว่าปูยังสดอยู่
้
เนื้อไม่โพรก ถ้าอกบุ๋ม ให้คิดไว้ก่อนว่าเป็นปูเก่าที่วางขายนานจนน้ําระเหยออก
ไปมากแล้ว
3. ถ้าต้องการเนื้อให้เลือกปูตัวผู้ ถ้าต้องการไข่ให้เลือกปูตัวเมีย
โดยมีลักษณะจําเพาะดังนี้
- ปูตัวผู้ จะมีก้ามใหญ่ ฝาปิดหน้าอกเรียวเล็ก มีรูปคล้าย
ใบพาย
- ปูตัวเมีย ฝาปิดหน้าอกจะใหญ่ มีรูปคล้ายกลีบดอกไม้
ถ้ามีไข่อยู่ใช้นิ้วดีดกระดองจะมีเสียงแน่นทึบ
4. สําหรับปูม้า ให้เลือกตัวที่มีสีเทาอ่อน มีจุดบางๆ
5. การเลือกปูดอง ถ้าเป็นปูม้าดอง เลือกที่เนื้อปูใส
ไม่ขุ่น น้ําดองสีน้ําตาลแดงใส ไม่ดําคล้ํา
ถ้าเป็นปูเค็ม ดมดู ไม่มีกลิ่นเหม็น
ถ้าปูเค็มมากเกินไปจะสังเกต
เห็นเกล็ดเกลือ เกาะตาม
ก้ามขา และตัวปู
เอกสารอ้างอิง :
http://www.sawatdeekrab.com
http://iam.hunsa.com/peemmy6136/article/4336
http://www.womaninfocus.com/webboard/index.php?topic=914.0 12
16. YOU SAY : I SAY
By……ทีมงาน KLIN KM
เสียงตอบรับที่ได้จากการจัดกิจกรรมหัวข้อ “หอบรรณสารสนเทศ : นิทรรศการ
รัชกาลที่ 9” ผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้ความเห็นในระดับดีมากคือ หัวข้อกิจกรรมมีความน่าสนใจ
เนื้อหาสาระที่ได้รับ และความเหมาะสมของวัน เวลา ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีดังนี้
จ
กิจ กรรมประทับใ
สิ่งที่ผู้เข้าร่วม ศ : นิทรรศก ารรัชกาลที่ 9
จาก
สนเท การให้ความห
มาย
มาของ หอบรรณสาร ๆ เช่น
- ไ ด้ ท ราบความเป็น ของนิทรรศการในส่วนต่าง มู่
เอยด
ี วดห
การบ รรยายรายละ ีต่างๆ เพื่อจําแนกหม
กร ณียกิจโดยใช้ส ประวัติ
ภาพพระราช ราช
ิ่มข ึ้นเกี่ยวกับพระ
- ได้ความรู้เพ
รัชกาลที่ 9 คร ั้งต่อไป
ั กา รจัดกิจกรรม
ข้อเสนอแนะสําหรบ ะ KLINICS 3 ชั้น 5
อื่นๆ แล
ด้าน
น ของหอสมุดใน
-การดําเนินงา
ขอขอบคุณในความคิดเห็นของทุกท่านและทีมงานจะนําไปใช้ในการจัดกิจกรรมครั้ง
ต่อไป
13
17. Chic in the Library
-
ื ะห วางคณาจารย
อง ความรวมมอร วชาญหองสมุด
รูปแบบใหมข ารยเสมอนผูเ
ื ชี่ย By..Pear
lita
าจ
บร รณารักษ : คณ
บทความนี้สรุปมาจากบทความกรณีศึกษาเรื่อง “A new
model of faculty-librarian collaboration: the faculty member as
library specialist” ของ Ti Yu บทความนี้เปนกรณีศึกษาของ
หองสมุดมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีจินเหวิน ใน
ประเทศไตหวัน (Jinwen University of Science and Technology)
ผูเขียนบทความมีวัตถุประสงคเพื่อหาวิธีที่ดที่สดในการ
ี ุ
ประชาสัมพันธสงเสริมบริการตางๆ ของหองสมุดและทรัพยากร
สารสนเทศไปสูผูใช และเปนการแบงปนประสบการณให
หองสมุดแหงอืนๆ ่
จากการศึกษาผลการวิจัยของ Rockman (2001) พบวา
บรรณารักษจะตองทํางานคูขนานหรือทํางานรวมกันกับคณาจารย
หรือทํางานคูกันเปนรายบุคคลเพื่อที่จะชวยใหผูใชไมวาจะเปน
นักศึกษา บุคลากรของมหาวิทยาลัยสามารถทีจะคนหาขอมูล
่
ประมวล และประเมินความถูกตองความนาเชื่อถือ และประยุกต
เนื้อหาสารสนเทศไปใชในงานวิจัยไดตามที่ตองการ นอกจากนั้น
ผลการวิจัยของ Cunningham และ Lanning (2002) ยังเชื่อวา
คณาจารยและบรรณารักษ จะกลายเปนผูเชี่ยวชาญภายใตการ
ทํางานรวมกัน การแลกเปลี่ยนเรียนรูซึ่งกันและกัน รวมทั้ง
แบงปนความรูที่มีถายทอดสูบุคคลอื่น ตอไป
14
18. ภูมิหลังของหองสมุดมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีจิน
เหวิน
มหาวิ ท ยาลั ย วิ ท ยาศาสตร แ ละเทคโนโลยี จิ น เหวิ น ได รั บ การ
สถาปนาจาก “วิทยาลัยเทคนิค” มาเปนมหาวิทยาลัยดานเทคโนโลยีในป
2007 มหาวิทยาลัยตั้งอยูในกรุงไทเปซึ่งอยูทางตอนเหนือของประเทศ
ไตหวัน มี 4 คณะวิชา ไดแก ศิลปศาสตร บริหารธุรกิจและการจัดการ
การท อ งเที่ ย วและการโรงแรม และ อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส แ ละเทคโนโลยี
สารสนเทศ มี ห ลั ก สู ต รสํ า หรั บ ปริ ญ าตรี จํ า นวน 16 หลั ก สู ต ร และมี
วิ ท ยาลั ย ระดั บ บั ณ ฑิ ต ศึ ก ษา 2 แห ง มหาวิ ท ยาลั ย วิ ท ยาศาสตร แ ละ
เทคโนโลยีจินเหวิน เปนมหาวิทยาลัยขนาดกลางมีนักศึกษาประมาณ
9,000 คน และอาจารย 300 คน
สํ า หรั บ อาคารห อ งสมุ ด เป น อาคารที่ ส ร า งขึ้ น ในป 2005 มี 5 ชั้ น
พื้นที่ใชสอย 8,600 ตารางเมตร ทรัพยากรสารสนเทศประเภทหนังสือ
กวา 210,000 เลม วารสารมากกวา 1,000 รายชื่อ และสื่อวัสดุประมาณ
13,000 รายการ หนังสืออิเล็กทรอนิกส 37,000 ชื่อเรื่อง มีฐานขอมูล
ออนไลนใหบริการ 119 ฐานขอมูล หองสมุดแบงออกเปน 2 ฝาย คือ
ฝายบริการดานเทคนิค และฝายบริการสารสนเทศ มีบุคลากรทั้งหมด
7 คน และนักศึกษาชวยงานประมาณ 15 คน
15
19. รูปแบบใหมของความรวมมือระหวางคณาจารยและบรรณารักษ
บ ร ร ณ า รั ก ษ เ ฉ พ า ะ ท า ง มี บ ท บ า ท สํ า คั ญ ม า ก ใ น ห อ ง ส มุ ด
มหาวิทยาลัย โดยบรรณารักษจะเปนผูชวยเหลือในการคนหาขอมูล
ใหกับนักศึกษาและอาจารยชวยแนะนํานักศึกษาใหคนหาขอมูลเชิงลึก
ในสาขาวิชานั้นๆ ไดตามที่ตองการ หองสมุดแหงนี้มีเจาหนาที่ 7 คน
และเปนบรรณารักษฝายบริการสารสนเทศเพียง 4 คน หากตองการให
บรรณารักษคนใดคนหนึ่งเปนบรรณารักษเฉพาะทางที่มีความรูลึกซึ้งใน
สาขาวิชาใดวิชาหนึ่งคงเปนไปไดยาก
ดังนันหองสมุดจึงมีรูปแบบใหมของความรวมมือระหวางคณาจารย
้
และบรรณารักษหองสมุดในป 2007 โดยมีกระบวนการดําเนินงานดังนี้
1. แตละหนวยงานสงคณาจารยเปนตัวแทนจากภาควิชาเขามา
ประจําทีหองสมุดเปนเวลา 1 ภาคการศึกษา
่
2. ตัวแทนที่ไดรับมอบหมายใหมาประจําหองสมุดตองเขารับการ
อบรมฐานขอมูลออนไลนและทักษะการคนหาขอมูล 2 ชั่วโมงตอ
สัปดาหเพื่อเปนผูเชียวชาญในการคนหาและอางอิงชวยใหผใชเขาถึง
่ ู
สารสนเทศ แนะนําและใหคําปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากร
สารสนเทศสําหรับบรรณารักษ และหนาที่อื่นตามที่ไดรับมอบหมาย
3. คณาจารยทเปนตัวแทนจะไดรับสิทธิสําเนาบทความวารสารโดย
ี่
ไมเสียคาใชจาย จํานวน 10 บทความตอภาคการศึกษา ไดรบหนังสือ ั
รับรองการปฏิบัติงานเมื่อสิ้นภาคการศึกษา และการปฏิบัตหนาที่ใน ิ
หองสมุดจะนับเปนภาระงานดวย
16
20. การทํางานรวมกันระหวางคณาจารยและบรรณารักษ
ในป 2007 มีคณาจารยรวมโครงการฯ จํานวน 7 คน และเพิ่มเปน 20 คน
ในป 2008 เมื่อสามารถนําภาระงานไปใชในการประเมินผลการปฏิบัติงาน
ประจําป ดังกิจกรรมโดยสรุปดังนี้
1. ชวยนักศึกษาคนหาสารสนเทศเชิงลึกเฉพาะสาขาวิชา
2. บูรณาการทรัพยากรสารสนเทศของหองสมุดกับวิชาเรียน
3. จัดตั้งชมรมหนังสือ
4. ใหคําปรึกษาบรรณารักษดานการพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ
5. ใหคําปรึกษานักศึกษาดานทักษะการเขียนประวัติสวนตัว
(e-portfolio)
ผลการสํารวจ
Table Comparison of the usage statistics of the JUST Library in
2006, 2007 and 2008
17
21. หลังจากการดําเนินงานพบวา ความสนใจในการใชบริการหองสมุดป
2008 มีปริมาณเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับป 2006-2007 ความร วมมือระหวา ง
คณาจารยและบรรณารักษอาจมีผลเชิงบวกตอการใชบริการหองสมุดของ
นั ก ศึ ก ษา ดั ง นั้ น ควรส ง เสริ ม ให มี ค วามร ว มมื อ ระหว า งคณาจารย แ ละ
บรรณารัก ษ เพื่อสนั บสนุ นการใช บริการและทรัพยากรสารสนเทศของ
หองสมุดใหมากขึ้น
ผูเขียนบทความยังไดสัมภาษณคณาจารยซึ่งเปนตัวแทนจํานวน 6 คน
สรุปผลไดดังนี้
ภาควิ ช าควรส ง คณาจารย ม าร ว มเป น ผู เ ชี่ ย วชาญห อ งสมุ ด โดยมา
ทํ า งาน 1 ภาคการศึก ษาเพราะสามารถให ค วามรู ห ลากหลายสาขากั บ
นักศึกษาได โครงการฯ ดังกลาวชวยเพิ่มชองทางในการทํางานรวมกัน
ของบรรณารักษและคณาจารย และยังเปนการประชาสัมพันธใหนักศึกษา
ได รู จั ก ตลอดจนเข า มาใช บ ริ ก ารและทรั พ ยากรสารสนเทศมากขึ้ น
คณาจารยตองผลักดันนักศึกษาใหใชบริการหองสมุด เสนอแนะ หรือให
ความเห็ น ด า นทรั พ ยากรสารสนเทศและการให บ ริ ก ารของห อ งสมุ ด
เพื่อใหนักศึกษาเปนผูรูสารสนเทศ และชวยพัฒนาปรับปรุงหองสมุดใหดี
ขึ้น
ความรวมมือระหวางคณาจารยและบรรณารักษหองสมุด
มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีจินเหวิน อาจจะไมใชรูปแบบ
ของความรวมมือที่ประสบผลสําเร็จ หรือเปนแนวปฏิบัติทดีทสุดในการ ี่ ี่
สงเสริมการใชบริการและทรัพยากรสารสนเทศของหองสมุด แตผูเขียน
บทความเชื่อวาจะชวยใหคณาจารยและบรรณารักษเกิดแนวคิดใหมๆ ใน
การสงเสริมใหนักศึกษาใชบริการและทรัพยากรสารสนเทศ โดยมี
ขอเสนอแนะ 6 ประการดังนี้
18
22. 1. การไดรับการสนับสนุนจากผูบริหารในการดําเนินงานความรวมมือ
ระหวางบรรณารักษ อาจารยผสอน และนักศึกษา
ู
2. การสรางเครือขายและความสัมพันธทดีกับคณาจารย เพื่อใหทํางาน
ี่
รวมกันไดอยางกลมกลืน
3. การทําความเขาใจในคุณลักษณะ คุณสมบัติ และประสบการณ จะ
ชวยเพิ่มความสามารถของบรรณารักษในการสื่อสาร และออกแบบ
กิจกรรมรวมทั้งการทํางานรวมกันไดดีขน ึ้
4. การใหรางวัล เชน คาตอบแทนหรือการนับเปนภาระงาน เปน
แรงจูงใจใหกับคณาจารย ในขณะที่บรรณารักษตองทราบและ
ตระหนักวากิจกรรมดังกลาวเปนหนาทีและบทบาทของบรรณารักษ
่
โดยตรง
5. การประชาสัมพันธกิจกรรมชวยใหโครงการประสบผลสําเร็จ
6. การพัฒนาหรือหารูปแบบความรวมมือใหมๆ ในการทํางาน
เพื่อสงเสริมการเรียนรูถือเปนสิ่งที่มีคุณคายิ่ง
อางอิง
1. Cunningham, T.H., Lanning, S. (2002), "New frontier trail guides: faculty-
librarian collaboration on information literacy", Reference Services Review, Vol.
30 No.4, pp.343-8.
2. Rockman, I.F. (2001), "Partnerships: yesterday, today and tomorrow",
Reference Services Review, Vol. 294 pp.93-4.
3. Ti Yu , (2009), “A new model of faculty-librarian collaboration: the faculty
member as library specialist” , New Library World , Vol.110 No.9/10 pp:441-448
4. Jinwen University of Science and Technology, available :
http://english.just.edu.tw/mp.asp?mp=1142
19
23.
eÁืo§oºÃÒ³ By…Pearlita
e¾ืèo¹ËÅÒ¤¹¡Ãa«iººo¡Ê§ÊaÂÇ‹ÒªÒµi¡o¹ Pearlita ¤§ÁÒµ¡ÃÃÁ䡴湋
‹
ªÒµi ¹Õé e ÅÂÃa º ¡ÃÃÁµŒ o §ÃaË¡ÃaeËi ¹ ¾Òä»·a Ç Ã ¹aè ¹ o¹‹ ¹ ¹Õè o ÂÙ‹ µ Åo´eÇÅÒ
Pearlita ¡Ãa«iºeÊÕ§´a§æ ¡Åaºä»Ç‹Ò¶ŒÒ¨aä»e·ÕèÂÇ´ŒÇ¡a¹¡ço‹Òæ«Ç »ÃÒ¡®Ç‹Ò
ä´Œ ¼ Åe¾ÃÒae¾ืè o ¹µa Ç ´Õ e §Õ  º¡Ãi º ä»eÅ ¤Ãaé § ¹Õé Pearlita ÁÕ o o¡ÒÊe¢Œ Ò Ã‹ Ç Á
¡i¨¡ÃÃÁ COPs ¡Åu‹Á·‹o§e·ÕèÂÇæÅa¶‹ÒÂÀÒ¾eÁืèoÇa¹·Õè 22 Êi§ËÒ¤Á 2553 ·Õ輋ҹ
ÁÒ ¹aºe»š¹oo¡ÒÊ´Õ·Õèä´ŒµŒo¹Ãaº¹Œo§æ¤¹´Õé (Canon 550D) ¡ÅŒo§¤Ù‹ã¨µaÇãËÁ‹
Å‹ÒÊu´æ·¹¹Œo§¢¹ÁµÒÅ (Olympus mu1030 sw) æÅa¹Œo§ Canon 1000D ·Õè
µo¹¹Õée¡çºãÊ‹¡ÃuäÇŒ·Õ躌ҹeÃÕºÌoÂ
8.00 ¹. ¢o§eªŒÒÇa¹oÒ·iµÂÊÁÒªi¡·ÕèÃÇÁµaÇ¡a¹·Õè˹ŒÒÊíÒ¹a¡ËoÊÁu´¡çoo¡
e´i¹·Ò§o´ÂÁÕ¨u´ËÁÒÂoÂÙ‹·ÕèeÁืo§oºÃÒ³ ¨a§ËÇa´ÊÁu·Ã»ÃÒ¡Òà ¡i¨¡ÃÃÁÇa¹¹Õé¨a
e»š¹ ¡ÒÃä»eÃÕ¹ÃÙŒ¡ Òö‹ÒÂÀÒ¾´ŒÇ¡Òû¯iºaµi¨Ãi§ ËÅa§¨Ò¡·Õèä ´ŒÃ‹ÇÁeÃÕ¹ÃÙŒ
·ÄɮաÒö‹ÒÂÀÒ¾ãËŒÁÕo§¤»Ãa¡oºÅa¡É³aµ‹Ò§æ 㹡i¨¡ÃÃÁªuÁª¹¹a¡»¯iºaµi
¤Ãa駡‹o¹ Ça¹¹Õé¡Åu‹Á·‹o§e·ÕèÂÇæÅa¶‹ÒÂÀÒ¾¨ึ§¹íÒÊÁÒªi¡æÅa¼ÙŒÊ¹ã¨ä»·´Êoº
½‚Áืo¡a¹ æÅa¨a¹íÒÀÒ¾ÁÒ»Ãa¡Ç´¡a¹´ŒÇ¤‹a ÃaËÇ‹Ò§¹aè§Ã¶¤u³¤ÃÙ 2 ·‹Ò¹·aé§
¤ÃÙ¾iËÒÃæÅa¤ÃÙe¨ ¡çeÃièÁµŒ¹o¸iºÒÂÇ‹Ò¡ÅŒo§æµ‹Åa溺测ÅaÃu‹¹¨aÁÕ¤u³ÊÁºaµi
¡ÒÃ㪌§Ò¹µ‹Ò§¡a¹µŒo§¹íÒÁÒµa駤‹Ò¡‹o¹ ¹a¡eÃÕ¹·u¡¤¹µaé§ã¨¿˜§æÅaµ‹Ò§¤ÇŒÒ¡ÅŒo§
µaÇeo§ÁÒµa駤‹Ò·´Åo§¶‹ÒÂ仾ÅÒ§æ
20
24. Ã a Ë Ç‹ Ò § e ´i ¹ ·
¶‹ Ò Â À Ò ¾ Ë ¹Œ Ò ª Ò § ¾Ù ´ ¤u  ¡a ¹ Ç
a ´ Ë Åa § e º Å o Ë Ã ‹ Ò ¶Œ Ò ¨ a
eºÅo¤Çõa駤 ื o Ë Åa § ª a ´ Ë ¹Œ Ò
‹ Ò ¡ ÅŒ o § e ·‹ Ò ä Ë Ã
æ Å a ¨a º o ¿ ¡ a Ê o ‹ æ º º ä Ë ¹ «Ù Á
‹ Ò § ä à ¶ Œ Ò Á ื ´ ä »
ISO 椋ä˹ ¤ Ç Ã » Ãa º ¤‹ Ò
µŒo§
¤uÂ令uÂÁÒeÅ »Ãaº¤‹Òª´eªÂæʧËÃืoäÁ‹
µ ¡ Å § Ç‹ Ò e o Ò o Â
¡ Ò Ã Å o § ¡ ÅŒ o § µ ‹Ò§¹Õée¾ืèoe»š¹
Œo§ä»ËÒ·Õè·´Åo
¡‹ o ¹ Ê Á Ò ªi ¡ · § ¶‹ Ò Â ÃÙ » ¡a ¹
u¡¤¹Å§¤ÇÒÁe
e Á ืo § o º Ã Ò ³ ä » Ëç ¹ Ç ‹ Ò ¡ ‹ o ¹ ä »
µÅÒ´ºÒ§¹éíÒ¼ึ駡
e »š ¹ ¡ Ò Ã æ Ç a · a ¹ ¡ ‹o ¹ ¶ ืo Ç‹ Ò
Ò ¹ o Ò Ë Ò Ã e ªŒ Ò ä »
Å o § ¹í Ò ¡ ÅŒ o § ä » ã ¹ µa Ç æ Å Œ Ç
¶‹ÒÂæÅaeoÒ¢ึé¹
·ÕÇ‹Ò㪌䴌ËÃืoe» Á Ò ´ Ù º ¹ à ¶ oÕ ¡
Å‹Ò
»ÃaÁÒ³ 45 ¹Ò·ÕÀÒái¨·´Åo§¶‹ÒÂÀÒ¾æÅaËÒeʺÕ§ãÊ‹¾u§¡ç
eÃÕºÌo eÃÒe˧oo¡e´i¹·Ò§µ‹oä»Âa§¨u´ËÁÒ·Õèæ·Œ¨Ãi§¤ืoeÁืo§
oºÃÒ³ ÃaËÇ‹Ò§·Ò§¡ç¹íÒÀÒ¾·Õ趋ÒÂÁÒãËŒ¤ ÃÙ¾iËÒà æÅa¤ÃÙe¨´ÙÇ‹Ò
¾o㪌䴌äËÁ »Ãaº¤‹ÒeËÁÒaÊÁËÃืoäÁ‹ ¤u³¤ÃÙ·aé§Êo§¡çæ¹a¹íÒæÅa
ª‹ Ç Â´Ù æ Åe»š ¹ o‹ Ò §´Õ Ç‹ Ò µŒ o §»Ãa º ¤‹ Ò µaé § ¤‹ Ò oa ¹ ä˹e¾iè Á Å´oaäúŒ Ò §
eÁืèoÁÒ¶ึ§Ê¶Ò¹·Õè¡çÃÕº«ืéoºaµÃe¢ŒÒªÁʶҹ·ÕèæÅaºaµÃ¹íÒÂÒ¹¾Ò˹a
e¢ŒÒä»´ŒÇ ¡‹o¹¨ae¢ŒÒä»·íÒ¡i¨¡ÃÃÁÁÒÃÙŒ¨a¡eÁืo§oºÃÒ³¡a¹Êa¡¹i´
¡‹o¹¹a¤a
21
25. eÁืo§oºÃÒ³ÊÌҧ¢ึ¹o´Â eÅç¡ ÇiÃiÂa¾a¹¸u eÁืo ¾.È.
é è
2506 e¾ืè o ãËŒ e »š ¹ ¾i ¾i ¸ Àa ³ ± ¡ Åҧ樌 § Êí Ò ËÃa º Èึ ¡ ÉÒ
»ÃaÇaµiÈÒʵà ªÒµi¾a¹¸u ÃÇÁ·aé§Ça²¹¸ÃÃÁ»Ãae¾³Õ Çi¶Õ
ªÕ Çi µ ·Õè ¤ à º Ê Á ºÙ à ³ e ¾ืè o ã ËŒ ·u ¡ ¤ ¹ e ¢Œ Ò Á Ò e ÃÕ Â ¹ ÃÙŒ
»ÃaÇaµiÈÒʵÃæÅaoÒøÃÃÁ¢o§ªÒµiËÇÁ¡a¹ ãËŒ¤¹Ãu‹¹
µ‹oä»ä´ŒÃŒÙ¨a¡µaÇeo§ eË繤u³¤‹Ò æÅaÀÙÁiã¨ã¹ÃÒ¡e˧ŒÒ·Ò§
Ça²¹¸ÃÃÁ¢o§ºŒÒ¹eÁืo§Êืºµ‹oä» ÊíÒËÃaº¡ÒÃe´i¹·Ò§ÁÒ
eÁืo§oºÃÒ³äÁ‹ÂÒ¡eŤ‹a
ö¹µÊǹµaÇ :
‹
e ÊŒ ¹ · Ò § ´‹ Ç ¹ » Å Ò Â · Ò § ·Õè Êí Ò o à § -
ÊÁu· ûÃÒ¡Òà ¶ึ§ ÊÒÁæ¡ÊÁu· ûÃÒ¡Òà eÅÕé Ç
«Œ Ò Â仵ÒÁ¶¹¹Êu ¢u Á Çi · (ä»·Ò§ºÒ§»Ù ) »ÃaÁÒ³
¡Á. 33 eÁืo§oºÃÒ³¨aoÂÙ‹·Ò§«ŒÒÂÁืo ÊíÒËÃaºÇa¹
eÊÒÃ-oÒ·iµÂÊÒÁÒö¹íÒö¹µÊ‹Ç¹ºu¤¤Å/öµÙŒ
e¢Œ Ò ÀÒÂã¹Ê¶Ò¹·Õè ä ´Œ o ´Â«ืé o ºa µ ÃÂÒ¹¾Ò˹aÃÒ¤Ò
300 ºÒ·¤‹a
öo´ÂÊÒÃÊÒ¸Òóa :
öo´ÂÊÒûÃaºoÒ¡ÒÈ ÊÒ »o. 511 (ÊÒÂ㵌ãËÁ‹-
»Ò¡¹éíÒ) ŧ·ÕèÊu´·Ò§æŌǵ‹oöÊo§æ¶ÇÊÒ 36 «ึ觨aÇiè§
¼‹Ò¹Ë¹ŒÒ·Ò§e¢ŒÒeÁืo§oºÃÒ³
¡ÒÃe´i¹·Ò§ã¹eÁืo§oºÃÒ³ÁÕ·aé§Ã¶ÃÒ§¹íÒe·ÕèÂÇ æÅa
¨a¡ÃÂÒ¹ãËŒ¹a¡·‹o§e·ÕèÂÇeÅืo¡ä´ŒµÒÁoa¸ÂÒÈa¤‹a 22
26. æ¼¹·Õ¡ÒÃe´i¹·Ò§
è
ä»eÁืo§oºÃÒ³
ÀÒÂã¹eÁื o §oºÃÒ³¨a溋 § æ¡
ʶҹ·Õè ä ÇŒ µ ÒÁÀÙ Ái » Ãae·È·aé § ÀҤ㵌
ÀÒ¤e˹ืo ÀÒ¤oÕÊÒ¹ æÅaÀÒ¤¡ÅÒ§ o´Â¨a
Ãaºuʶҹ·ÕèæÅa¨a§ËÇa´äÇŒªa´e¨¹ã¹æ¼¹·Õè
·Õèä´ŒÃaºµo¹«ืéoºaµÃe¢ŒÒªÁ
23
27. ËÅa§¨Ò¡·Õèä´ŒÃaºæ¼¹·Õè¢o§eÁืo§oºÃÒ³ ¤u³¤ÃÙ·aé§Êo§e»š¹¤¹æ¹a¹íÒÇ‹Ò¨u´
ã´¶‹ÒÂÀÒ¾Åa¡É³a溺ä˹ÊÇ ¡çÁu‹§Ë¹ŒÒä»o´Â´Ù¨Ò¡æ¼¹·Õèe»š¹ËÅa¡ ºÒ§¨u´äÁ‹
湋㨡ç¢aºÃ¶¼‹Ò¹ä»¡‹o¹¾oeËç¹·‹Ò·ÕÇ‹Ò¶‹ÒÂÀÒ¾ÊÇ¡ç¨o´Ã¶Å§ÁÒeÅç§ËÒÁuÁ·Õè
¶Ù¡ ã¨æÅa¶Ù ¡ ¡µi ¡ ÒµÒÁ·Õè ¤u³ ¤ÃÙ æ ¹a¹í Ò ºÒ§·Õ e Ëç¹ ¾Õè ¾iË Òö‹ Ò ÂÃÙ » Áu Á ä˹¡ç¢ o
¡Ãaæ«ae¢ŒÒ件‹ÒÂÁuÁe´ÕÂÇ¡a¹«aeÅ ¡aÇ‹ÒÊÇÂ湋¹o¹ 测»Ãaºæʧµa駤‹ÒäÁ‹
eËÁÒaÊÁeÊÕÂo‹ҧ¹aé¹ e´ืo ´ÃŒo ¹¤ÃÙ¾iËÒõŒo §Ëa¹ÁÒª‹Ç»Ãaº¤‹Òª´eªÂæʧãËŒ
eËÁÒaÊÁ¡Ç‹ Ò ¨aä´Œ À Ò¾·Õè ¶Ù ¡ ã¨¡ç ¶‹ Ò ÂæÅŒ Ç ¶‹ Ò ÂoÕ ¡ ³ Çi Ç e´Õ  ǡa ¹ ¹a º Êi º ÃÙ »
ºu¤¤Å·Õ赌o§ãËŒÃÒ§ÇaÅ㹤ÇÒÁ¾ÂÒÂÒÁæÅa¤ÇÒÁµa§ã¨ ¤ืo ¤u³oÃÈiÃi (¾ÕoÃ) ·Õµ§
é è è aé
ã¨ÁÒ¡¢¹Ò´äÁ‹ÂoÁ·Ò¹¹éíÒ·ÕèeµÃÕÂÁäÇŒãËŒo´ÂãËŒe˵u¼ÅÇ‹Ò¶ŒÒÂa§¶‹ÒÂÀÒ¾äÁ‹ä´ŒµÒÁ
µŒo§¡ÒèaÂa§äÁ‹·Ò¹e´ç´¢Ò´ eË繤ÇÒÁÁu‹§Áaè¹æºº¹ÕéÊÁÒªi¡·u¡¤¹Å§¤ÇÒÁeËç¹Ç‹Ò
µŒo§Â¡ÃÒ§ÇaÅ·Õè 1 ãËŒ·a¹·Õ ã¤Ã·Õ趋ÒÂÀÒ¾µÒÁ¡µi¡Ò·aé§ 5 (¡¯ÊÒÁʋǹ ¡Ãoº
˹Œ Ò ªa ´ -ËÅa § eºÅo ÊÁ´u Å ·Õè Ç‹ Ò §) ¤ÃºæÅŒ Ç ¡ç e Åื o ¡Áu Á ÊǵÒÁªoºã¨·aé §
Landscape ; Portrait ; Close-up ËÃืooaäÃoื¹ æ µÒÁã¨ä´ŒeÅÂè
24
28. ¹o¡¨Ò¡¹a¡·‹o§e·ÕèÂÇ·Õèe¢ŒÒÁÒæÅŒÇeÃÒÂa§¾º¹Œo§ æ ¹a¡Èึ¡ÉÒ¹aºÊiº
¡Åu‹ Á ÁÒ¹aè § ÇÒ´ÀÒ¾ÃaºÒÂÊÕ e¢Œ Ò ã¨Ç‹ Ò ¹‹ Ò ¨ae»š ¹ ¹a ¡ Èึ ¡ ÉÒ´Œ Ò ¹Èi Å »a·Õè Á Ò
½ƒ¡»Ãืo½‚Áืo㹡ÒÃÇÒ´e¢Õ¹ e¾ÃÒaäÁ‹Ç‹Ò¨aä»Âa§¨u´ã´ ·a駵ÅÒ´¹éíÒ »ÃÒÊÒ·
e¢Ò¾ÃaÇiËÒà Ëo¤íÒ ÏÅÏ ¨aÁÕ¹Œo§ æ ¹aè§e»š¹¡Åu‹Áµaé§o¡µaé§ã¨ÇÒ´ÀÒ¾ ºÒ§
¡Åu‹Á¡çeÃièÁŧÊÕº¹¡Ãa´ÒÉÇÒ´e¢Õ¹漋¹ãË‹ eÃÒ¾ÂÒÂÒÁeºÒeÊÕ§¾Ù´¤uÂe¾ืèo
äÁ‹e»š¹¡ÒÃú¡Ç¹ÊÁÒ¸i¢o§¹Œo§ æ ÃÕº¶‹ÒÂÀÒ¾µÒÁ¤ÇÒÁµaé§ã¨æÅaä»Âa§¨u´
µ‹oä»o‹ҧÃÇ´eÃçÇ
¨¹º‹ Ò Â¤ÅŒ o ¶‹ Ò ÂÀÒ¾¡a ¹ ¨¹æºµeµoÃÕè ¡ ÅŒ o §ËÁ´¹aè ¹ æËÅ‹ a ¨ึ § ŧ
¤ÇÒÁeËç¹Ç‹Ò¤§µŒo§»´·Ãi»¡a¹eÊÕÂ·Õ ¹a¡eÃÕ¹·u¡¤¹¢oº¤u³¤ÃÙ¾iËÒà æÅa
¤ÃÙe¨·Õ誋ÇÂæ¹a¹íÒãˌÌ٨a¡¡aº»ÃaÊi·¸iÀÒ¾¢o§¡ÅŒo§ä´Œ´ÕÂèi§¢ึé¹ e¾ÃÒaæÁŒÇ‹Ò
¨ae»š¹¡ÅŒo§ Digital ¡çÁÕoËÁ´µ‹Ò§ æ ãËŒeÅืo¡¶‹ÒÂÀҾ䴌ÁÒ¡ÁÒÂo´ÂäÁ‹µŒo§
¾ึ觾ÒoËÁ´ Auto oÕ¡µ‹oä» Ça¹¹Õé·éa§Ça¹ä´ŒÃaº¤ÇÒÁÃÙŒe¡ÕèÂÇ¡aº¡Òö‹ÒÂÀÒ¾
ÁËÒÈÒÅæ¶ÁÂa§Ê¹u¡Ê¹Ò¹oÕ¡´ŒÇÂ
25
29. Back Pack ¤ÃÒǹÕéoÒ¨¨aæ»Å¡µÃ§·ÕèÁÕe¾ืèo¹Ã‹ÇÁ·Ãi»ËÅÒ¤¹äÁ‹ä´Œä»
¤¹e´ÕÂÇeËÁืo¹¤Ãaé§oืè¹ æ 测äÁ‹ÃŒÙÇ‹Ò¤¹oื蹨aÃÙŒÊึ¡Ê¹u¡eËÁืo¹ Pearlita ËÃืo
e»Å‹Ò˹o e¾ÃÒa¹o¡¨Ò¡¨aä´Œ¤ÇÒÁÃÙŒÂa§ä´ŒÁÒe·ÕèÂÇoÕ¡´ŒÇ eÁืo§oºÃÒ³oÒ¨
eÃÕ¡䴌NjÒe»š¹Ê¶Ò¹·Õè·‹o§e·ÕèÂÇeªi§»ÃaÇaµiÈÒʵà e¹ืèo§¨Ò¡ÁÕʶҹ·ÕèÊíÒ¤a
¨íÒÅo§äÇŒãˌ䴌ªÁ ¹aºÇ‹Òe»š¹¤u³¤‹Ò·Ò§Ça²¹¸ÃÃÁ溺ÁÒ·Õe´ÕÂÇÃÒÇ¡aºä´Œe·ÕÂÇ
è è
·aèÇ»Ãae·Èä·Â eÊÒÃ-oÒ·iµ ¹Õéã ¤ÃÇ‹Ò§ æ ¡ç¾Ò¤Ãoº¤ÃaÇËÃืo¨aªa¡ ªÇ¹
e¾ืèo¹ä»eÃÕ¹ÃÙŒ»ÃaÇaµiÈÒʵÃËÇÁ¡a¹¡çä´Œ¹a¤a
26
30. Behind The Scene
·ÕÁ§Ò¹ª‹Ç¡a¹eµÃÕÂÁ
¢ŒoÁÙŨҡËoºÃóÊÒÃʹe·È :
¹i·ÃÃÈ¡ÒÃÃaª¡ÒÅ·Õè 9
27
31. Special : ´ÒÃÒÈÒʵạÒÃÊíÒÃǨÃa§Ça´
a
By…o.¸ÕÃa ÅÒÀiȪÂÒ§¡ÙÅ ÀÒ¤ÇiªÒÇiÈÇ¡ÃÃÁo¸Ò
เมื่อเรามองบนท้องฟ้าในยามค่ําจะพบเห็นจุดแสงระยิบระยับปรากฏอยู่บน
ท้องฟ้าจํานวนมากในพื้นที่ทไม่มีแสงสว่างมากนัก แต่ถ้าเป็นภายในเมืองหลวงเช่น
ี่
กรุงเทพฯ อาจจะมีอยู่จํานวนหนึ่งดาวที่ปรากฏเหล่านี้จะมีทั้งดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์
ที่มีแสงในตัวเองและไม่มีแสงในตัวเองที่ได้รับการสะท้อนจากดาวที่สว่างที่อยู่
ข้างเคียง ในอดีตมนุษย์นั่งดูดาวบนท้องฟ้าและสังเกตการเปลี่ยนแปลงของดวงดาว
ทุกๆวันจะพบว่าดาวแต่ละดวงจะมีวิถีการโคจรที่เดิมในทุกๆ ปี จึงนํามาใช้
ประโยชน์ในชีวิตประจําวัน เช่น การเดินเรือเพราะการเดินทางอยู่ในมหาสมุทรหรือ
ในทะเลอันกว้างใหญ่นั้น เคยสงสัยไหมว่าเหตุใดนักเดินเรือจึงเดินเรือไปยังจุดหมาย
ปลายทางได้อย่างถูกต้องแม่นยํา สิ่งที่เป็นพืนฐานสําคัญที่นักเดินเรือที่ใช้กันมาเมื่อ
้
หลายพันปีก่อนคือ ความรู้ทางด้านดาราศาสตร์ในการเดินเรือเป็นศาสตร์ที่ยังไม่เป็น
ที่แพร่หลายจะมีเฉพาะในกลุ่มชาวเรือหรือบุคคลที่น่าสนใจเท่านั้น
ถึงแม้ว่าปัจจุบนนี้เทคโนโลยีการเดินเรือจะเจริญก้าวหน้าเพียงใดก็ตาม โดย
ั
การหาตําแหน่งจะใช้ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ ดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ ที่โคจรบน
ท้องฟ้ามาเก็บข้อมูลของดวงดาวที่ทราบมาลงปฏิทิน ในการเดินเรือจะใช้ดวงดาวแค่
57 ดวง นักเดินเรือที่จะหาตําแหน่งของเรือในทะเลได้ จะต้องศึกษาวิชาตรีโกณมิติ
ทรงกลม เพื่อนํามาเขียนภาพและคํานวณ และเมื่อคํานวณได้แล้วก็จะได้เส้นแสดง
จุดตัดบอกตําแหน่งที่เรืออยู่ได้อย่างถูกต้องและแม่นยํา[1], การเดินทางในป่าหรือ
เขาที่ต้องการทราบทิศเหนือก็จะใช้ดาวเหนือที่อยู่เหนือเส้นขอบฟ้าตลอดเวลาในการ
เดินทางเพื่อให้ทราบทิศทางที่เราต้องการหรือการดูดวงจันทร์ทําให้ทราบข้างขึ้น
ข้างแรมและการขึ้นลงของน้ําบนโลก สิ่งเหล่านี้เป็นประโยชน์ของดาวที่อยู่บน
ท้องฟ้าที่มีตําแหน่งและการโคจรที่แน่นอนซึ่งถ้ามีความผิดปรกติในการโคจรหรือ
ตําแหน่งของดวงดาวบนท้องฟ้าก็อาจจะส่งผลต่อมนุษย์ไม่ทั้งทางตรงก็ทางอ้อม
เมื่อนําลักษณะของดาวบางดวงเช่นดาวเหนือซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่มีตําแหน่งอยู่
บนท้องฟ้าแน่นอนหรือกลุ่มดาวที่อยู่บนท้องฟ้าในบางเวลาก็นํามาใช้ในการสํารวจ
รังวัดหาตําแหน่งได้ด้วยการดูการเคลื่อนที่ของกลุ่มดาวดังกล่าวในทุกๆปีจะกําหนด
ออกมาในรูปแบบของสมุดปูมดาวหรือ
28
32. Declination ของดาว [2] เพราะค่าละติจูดและลองติจูดจะเป็นตําแหน่งที่
ถูกต้องของดาวบนท้องฟ้าในแต่ละช่วงเวลาที่จะนํามาใช้ในการคํานวณทาง
คณิตศาสตร์ ดังนั้นผู้ที่เป็นช่างสํารวจ,
นักเดินเรือ, ทหารหรือนักดาราศาสตร์จึงต้องทราบหลักการทางด้าน ตรีโกณมิติ
ทรงกลม, ระบบเวลา, ระบบพิกัด, ลักษณะของทรงกลมฟ้าที่ประกอบไปด้วย
เส้นศูนย์สูตร (Equator), ระยะดิ่งบน (Zenith), วงกลมชั่วโมง (hour circle)ฯ
ดังรูปที่ 1 แสดงลักษณะตําแหน่งดาวและองค์ประกอบของท้องฟ้า
การรังวัดมุมสูงและระยะระหว่างดวงดาวของจุดที่ทําการสํารวจในการกําหนด
ตําแหน่งและการหาเวลาดาราคติและสุริยคติ เวลาสากลที่มีความแตกต่างกัน
สําหรับนําไปใช้ในการคํานวณ
งานสํารวจรังวัดทางดาราศาสตร์ ที่กล่าวมาจะพบว่าการสํารวจรังวัดทาง
ดาราศาสตร์ที่นึกมักจะเป็นการทํางานในเวลากลางคืนเท่านั้น แต่ในความเป็น
จริงในเวลากลางวันก็สามารถนําหลักการในวิชาทางดาราศาสตร์ไปใช้ในการ
รังวัดกับดาวที่เราพบเป็นประจําคือ ดวงอาทิตย์ ซึ่งดวงอาทิตย์ถือได้ว่าเป็นดาว
ฤกษ์ดวงหนึ่งเช่นกันที่มีแสงสว่างในตัวเองจึงนํามาใช้ในการคํานวณรังวัดหาการ
เคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์, ทิศเหนือจริงและเวลาทางสุริคติเช่นกัน จากเครื่องมือ
พิเศษในการมองส่องดวงอาทิตย์ที่เรียกว่า Solar Prism ดังรูปที่ 2 ภาพในกล้อง
ที่ได้จากการส่องดวงอาทิตย์
29
34. บรรณานุกรม
มูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชินูปถัมภ์ (ม.น.ข.), 2008, ดารา
ศาสตร์กับการเดินเรือ, Available URL :
http://knowledgesharing.thaiportal.net/%E0%B8%9A%E0%B8
%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%
B8%A1/tabid/93/articleType/ArticleView/articleId/113/.aspx ,
[Thursday, October 14, 2010]
พ.อ.ศุภฤกษ์ ชัยชนะ, 2010, การรังวัดทางดาราศาสตร์, Available URL :
http://www.resgat.net/modules.php?name=News&file=article&s
id=151, [Thursday, October 14, 2010]
ชาติชาย ไวยสุระสิ, 2010, ดาราศาสตร์ปฏิบัติเบื้องต้น, Available URL :
http://www.slideshare.net/Chattichai/9-full-version,
[Thursday, October 14, 2010]
31
38. Next issue…
เทคนิคการซอมหนังสือและหนังสือทํามือ
วิธีการซ่อมหนังสือมีกี่ประเภท
ใช้อุปกรณ์ใดบ้างในการซ่อมหนังสือ
พร้อมเรียนรู้และปฏิบัติจริง
ถ่ายทอดความรู้โดย นางนวลจันทร์ ทราฤทธิ์
ในวันที่ 9 และ 11 พฤศจิกายน 2553
ณ บริเวณ Active Classroom
ชั้น 1 สํานักหอสมุด มจธ.
เวลา 8.30 น. – 10.30 น. 35