SlideShare a Scribd company logo
1 of 252
พื้นฐานชีวิต 18
ผู้เรียบเรียงรุ่นหลัง65
07/09/2565
12.14น.
สารบัญ
พลังชีวิตมีผลกับสุขภาพอย่างไร (ตอน 2) พลัง
และเลือด
4
ทฤษฏีอวัยวะตัน-อวัยวะกลวง (脏腑学说) 46
อ่านปาจื้อ ดวงจีนจากหยิน หยาง Yin Yang (ตอนที่3)
ดิถีมีกาลัง
ซื่อสัตย์สุจริต เน้นความเชื่อถือ ทาตามสัญญา
63
ฤกษ์ยาม ความหมายและองค์ประกอบที่ทาให ้
สัมฤทธิ์ผล
87
ตาราฝังเข็มฉบับสมบูรณ์ (針灸學) ภาคทฤษฎี
บทที่ 4 หกอวัยวะหยาง (ตอนที่3)
ลาไส ้เล็ก ลาไส ้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ
105
พลังห ้าธาตุ กับวัฒนธรรมอาหารจีน ตอน 2 "การ
กินสาคัญเท่าฟ้า"
123
เนื้อหาในเล่ม 18
ฟ้า-คน-ดิน ชี่/ปราณ ฉีเหมินตุ้นเจี่ย
หยิน-หยาง อี้จิง เต๋า เต็ก เก็ง
5 ธาตุ ปา-กว ้า 64ข่วย
ฤดูกาล 4ทิศทาง 4สัตว์เทพ
ฮวงจุ้ย ไฉ่โข่ว สุสาน / แซกี
แพทย์จีน อวัยวะหยางนิจพิเศษ อวัยวะหยาง
ดวงจีน ธาตุสาคัญ จับซิ้ง
นักษัตร 12เชี่ยงแซ 60กะจื้อ
พลังชีวิตมีผลกับสุขภาพอย่างไร
(ตอน 2) พลังและเลือด
ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน
• พลังชี่ในร่างกาย
มีความสัมพันธ์อย่างใกล ้ชิดกับการไหลเวียนของ
เลือดในร่างกาย
http://www.nawachione.org/2012/10/28/life-energy-and-health-03/
• เลือดที่ไหลเวียนไปตามเส ้นเลือดในร่างกาย
จะทาหน้าที่นาออกซิเจนและสารอาหาร
ไปหล่อเลี้ยงเซลล์ของอัยวะต่างๆ
พร ้อมกับรับเอาคาร์บอนไดออกไซด์
และของเสียที่เกิดจากการทางานของเซลล์
กลับมาเพื่อขับออกจากร่างกาย
ตามหลักการของแพทย์แผนจีน
• การไหลเวียนของเลือด
จะต ้องอาศัยพลังชี่เป็นแรงผลักดัน
• เนื่องจากเลือด
มีคุณสมบัติเป็นอิน คือชอบอยู่นิ่งและให ้ความชุ่มชื้น
ไม่สามารถไหลเวียนได ้เอง
• ส่วนพลังชี่แท ้ในร่างกาย
มีคุณสมบัติเป็นหยาง ชอบเคลื่อนไหวและให ้ความ
อบอุ่น
พลังชี่(หยาง) เลือด(หยิน)
ความสัมพันธ์ของเลือดและพลังชี่ในร่างกาย
จึงเป็นความสัมพันธ์ของพลังอิน-หยาง
ในระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายนั่นเอง
• การแพทย์จีน
จึงมีคากล่าวที่ว่า พลังวิ่งเลือดเดิน พลังนิ่งเลือด
หยุด
• ถ ้าพลังชี่สมบูรณ์
เลือดก็สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของ
ร่างกายได ้สะดวก
ทาให ้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง
• ในทางกลับกัน
ถ ้าเลือดพร่อง พลังชี่ก็จะพร่องตามไปด ้วย
ความสัมพันธ์ของเลือดและพลังชี่
ในร่างกาย
พลังชี่
(หยาง)
เลือด
(หยิน)
พลังชี่
จะเป็นตัวควบคุมเลือดให ้ไหลเวียนอยู่ภายใน
เส ้นเลือด
พลังชี่
จะเป็นตัวควบคุมเลือดให ้ไหลเวียนอยู่ภายใน
เส ้นเลือด
• ถ ้ากระแสพลังชี่ ติดขัดถูกขัดขวาง
เลือดก็จะไหลเวียนช ้าลง
มีความข ้นและความหนืดมากผิดปกติ
จนอาจจับตัวเป็นลิ่ม
คั่งค ้างอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ที่การแพทย์จีนเรียกว่า ภาวะเลือด
คั่ง
ซึ่งไม่เพียงหมายถึงการมีลิ่มเลือด
ในความหมายของการแพทย์ตะวันตกเพียง
อย่างเดียว
• แต่รวมถึงความผิดปกติต่างๆ
ที่เกี่ยวข ้องกับระบบการไหลเวียนของเลือดใน
ร่างกาย
ส่งผลให ้อวัยวะต่างๆ
หรือบางส่วนได ้รับเลือดหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ
จึงทางานได ้ไม่เต็มที่หรือผิดปกติไป
• นานวันเข ้าก็กลายเป็นสาเหตุบั่นทอนสุขภาพ
เกิดเป็นโรคภัยไข ้เจ็บในที่สุด
ด ้วยเหตุนี้
ภาวะชี่พร่องและเลือดพร่อง จึงมักเกิดขึ้น
ร่วมกัน
ในภาวะที่ร่างกายเสียสมดุลและ
ขาดการพักผ่อน
• กระแสชี่จะไหลเวียนไม่ดีอย่างที่ควรเป็น
อาจช ้าหรือติดขัด
ทาให ้เราเกิดความรู้สึกเมื่อยล ้าตามข ้อ เริ่มหาว และ
ตาแห ้ง
เพราะชี่ไม่ได ้รับการบารุง
เมื่อระดับของชี่ลดลงเรื่อยๆ
ร่างกายจะชดเชยอาการพร่อง
โดยใช ้กล ้ามเนื้ออัดฉีด ให ้ชี่ทางานมากขึ้น
• เป็นเหตุให ้เกิดความตึง
หรือความเครียดเกร็งของกล ้ามเนื้อ
แต่ก็สามารถช่วยเพิ่มกาลังของชี่
ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
ในระยะยาวชี่จะค่อยๆ ลดน้อยลง
จนไหลอย่างกระปริดกระปรอย
โดยเฉพาะบริเวณส่วนบนของร่างกาย
• ทาให ้สมาธิลดลง
• เมื่อชี่ไหลเวียนไม่สะดวก ถ่ายเทชี่เสียไม่คล่อง
สารพิษในร่างกาย
ที่การแพทย์ปัจจุบันเรียกว่า อนุมูลอิสระ (free
radicals)
ก็จะเพิ่มขึ้น
ทาให ้ปวดเมื่อยอ่อนล ้ามากขึ้น
อนุมูลอิสระ (free radicals)
และเนื่องจากชี่ที่เริ่มเป็นพิษนี้
ไหลผ่านไปตามผิวหนังอย่างเฉื่อย
ชา
จึงทาให ้เกิดอาการคันและภูมิแพ ้ขึ้น
• ในคัมภีร ์เต๋าโบราณของจีน
ระบุว่า หาก ชี่กาย อ่อนแอ
ชี่จิต (อารมณ์) ก็จะอ่อนแอด้วย
เมื่อชี่จิตอ่อนแอ
ก็ไม่สามารถส่งชี่ไปบารุงปัญญา
• ทาให ้ชี่ปัญญาไม่มีเรี่ยวแรง
จิตวิญญาณ (เสิน) ก็ไม่สามารถเกิดเพิ่มได้
ดวงวิญญาณ
หรือกายละเอียด
ก็จะไม่ได ้รับการขัดเกลาและพัฒนาให ้สูงขึ้น
ลักษณะการผันแปร
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
พฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ
ในชีวิตประจาวันที่ดูไม่น่าจะสลักสาคัญอะไรมากนัก
สามารถก่อให ้เกิดผลเสียมากมายต่อสุขภาพและชีวิต
อย่างที่เราคาดไม่ถึง
เช่น
• การนั่งในท่าเดียวนานเกินไป
ทาให ้ลาตัวส่วนล่าง
หรือกล ้ามเนื้อและอวัยวะบริเวณท ้องน้อย
ไม่ได ้เคลื่อนไหว
ทาให ้การไหลเวียนของชี่ไตและเลือดติดขัด
ถ ้านั่งในลักษณะเดิมๆ นานๆ เป็น
ประจา
เช่น นั่งทางานนานเพราะต ้องการให ้ได ้งานมากๆ
หรือเล่นเกมจนเพลิน
จะทาให ้ชี่ไต ไหลเวียนไม่สะดวก
• ชี่ใหม่ไปชาระชี่เก่าได ้ไม่ดี
ไตก็จะเริ่มอ่อนแอ
เมื่อชี่ไตพร่อง
• ไตจะปรับสมดุลชี่
โดยไปดึงชี่จากอวัยวะใกล้เคียง
• ทาให ้ชี่ของอวัยวะเหล่านั้นลดลง
ตามไปด ้วย
และก็ต ้องปรับสมดุล
ด ้วยการไปดึงชี่จากอวัยะใกล ้เคียง
อื่นๆ
• เป็นเช่นนี้ต่อเนื่องกันไปเป็นลูกโซ่
จนกว่าทั้งระบบ
จะเข ้าสู่สมดุลใหม่อีกครั้ง
และเนื่องจากเส ้นชี่ของไต
มีปฏิสัมพันธ์กับอารมณ์กลัว
• เมื่อชี่ไตพร่อง
ก็ส่งผลให ้อารมณ์ไม่มั่นคง
จิตใจเกิดความกังวลหวาดกลัวง่าย
บางครั้งวิตกหวั่นไหว
แม ้ในเรื่องเล็กๆ
หรือกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
เมื่อจิตใจกังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
มากเกินไป
• จะส่งผลต่อประสิทธิภาพ
การทางานของสมองหรือการใช ้สติปัญญา
ขาดสมาธิในการทางานและทบทวนขัดเกลาจิตใจ
บั่นทอนการพัฒนาจิตวิญญาณของตัวเอง
ในทางกลับกัน
การเก็บสะสมความกลัวความวิตกกังวลไว ้
จนจมลึกอยู่ในระดับจิตใต ้สานึก
• ที่เรียกว่า กลัวอยู่ลึกๆ
ก็บั่นทอนสุขภาพได ้เช่นกัน
คนที่เคยประสบอุบัติเหตุรถยนต์
• และไม่จัดการกับความกลัวการใช ้รถใช ้ถนนที่เกิดขึ้น
เพราะอุบัติเหตุนั้น
• ผลของอารมณ์กลัวนี้
จะปรากฏเป็นอาการป่ วยทางร่างกายให ้เห็นได ้
ภายในเวลาสองปี
ดังนั้นจึงเห็นได ้ว่า
แม ้เพียงพฤติกรรมหรืออารมณ์เล็กๆ น้อยๆ
ซึ่งผิดเพี้ยนไปจากความเป็นปกติตามธรรมชาติ
• โดยเฉพาะพฤติกรรมตามวิถีการดาเนินชีวิตของคนใน
ยุคปัจจุบัน
เช่น นอนดึก ตื่นสาย
อาหารเช ้าไม่มีหรือทานแค่ขนมปังกับกาแฟ
ระหว่างวันดื่มน้าน้อย อั้นปัสสาวะ
เครียดกับงาน ฯลฯ
อาหารเช ้าสาคัญที่สุด
พฤติกรรมเหล่านี้
มักเกิดขึ้นจนกลายเป็นความเคย
ชิน
และความเคยชินเล็กๆ น้อยๆ ที่ถูกละเลยเหล่านี้
ก็ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตช่วงที่เหลืออยู่ได ้โดยที่
เราไม่ทันรู้ตัว
• และส่วนใหญ่
เมื่อเริ่มรู้ตัว เพราะอาการเริ่มปรากฏ
แต่ยังไม่รุนแรง ก็จะยังไม่ใส่ใจ
• เพราะ(อ ้างว่า)ไม่มีเวลา
กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เมื่อสุขภาพร่างกายเข ้าสู่ขั้นวิกฤต
หรือสายเกินแก ้เสียแล ้ว
• ดังที่มักได ้ยินกันบ่อยขึ้น
โดยเฉพาะระยะหลังๆ ว่า คนที่เป็นมะเร็งส่วนใหญ่รู้ตัว
หรือตรวจพบว่าเป็นมะเร็งก็เมื่อเป็นถึงขั้นที่ 3 หรือเข ้า
ขั้นที่ 4 แล ้ว
หรือที่เคยมีข่าวว่าคนอายุราว 30-40 ที่ร่างกายดู
แข็งแรงไม่เจ็บไข ้
นั่งทางานอยู่ในที่ทางานดีๆ มาทั้งวัน
พอตกตอนเย็น อยู่ๆ ก็ฟุบไปกับโต๊ะทางานหัวใจวาย
ตาย เป็นต ้น
หัวใจวาย
Anti-Aging
แต่ถ ้าร่างกายมีสุขภาวะที่สมบูรณ์
คือพลังชี่สมดุลและเต็มเปี่ยมทั่ว
ร่างกาย
• เราจะรู้สึกสงบผ่อนคลาย
• ระบบต่อมไร ้ท่อต่างๆ จะทางานอย่างมีประสิทธิภาพ
• เพิ่มการผลิตฮอร์โมนที่เป็นประโยชน์
และลดการผลิตฮอร์โมนที่เป็นโทษต่อสุขภาพนานา
ชนิด แ
ละทางานอย่างสมดุล
• ทาให ้ผิวพรรณเกลี้ยงเกลาสดใส ใบหน้าผุดผ่องดู
อ่อนวัย
เจริญอาหาร มีกาลังวังชา
• รับประทานอาหารมีรสชาด
• การย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหารดี
• มีสารอาหารที่จาเป็นไปบารุงร่างกายเพียงพอ
เสียงดังกังวาน
ประสิทธิภาพการหายใจดี
• ระดับอ๊อกซิเจนในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
• ทาให ้ริมฝีปากมีสีแดงสด
จิตใจแช่มชื่นเบิกบาน เห็นโลก
สดใส
• รับความรู้สึกดี
• เคลื่อนไหวอย่างโปร่งเบา
• แขนขาและเอวแข็งแรง
• เดินเหินมีกาลัง ไม่เหนื่อยหอบ
น้าจากไตเพียงพอ
• ทาให ้ดวงตาแจ่มใส ลูกตาแข็งแรง
• นัยน์ตามีสีดาและขาวแบ่งแยกกันอย่างชัดเจน
• ปัญญาเฉียบคม แม่นยา
• สามารถทาสิ่งต่างๆ ได ้ดีโดยไม่ต ้องฝืนหรือใช ้ความ
พยายาม
เป็นคนร่าเริง เข ้มแข็ง เต็มไปด ้วย
พลังชีวิต
• ร่างกายจะดูแลตัวเองอย่างดี
จนเจ ้าตัวไม่ต ้องรับรู้การทางานตามปกติของร่างกาย
• และที่ภาวะนี้
เราจะพบว่าชีวิตของเรามีประสิทธิภาพสูง เจ็บป่ วย
น้อยมาก
• สามารถใช ้สติปัญญาได ้อย่างต่อเนื่อง
• มีสมาธิเพิ่มขึ้น ความจาดีขึ้น เรียนรู้ได ้รวดเร็ว
และสร ้างสรรค์งานได ้อย่างลื่นไหลมีคุณภาพ
กายและจิตสมดุล
http://www.nawachione.org/2012/10/28/life-energy-and-health-
03/
ทฤษฏีอวัยวะตัน-อวัยวะกลวง (
脏腑学说)
https://bit.ly/3ba5wi4
ตามทฤษฎีแพทย์จีน
แบ่งอวัยวะออกเป็น 2 พวกคือ
1. อวัยวะภายตันทั้ง 5(五 脏)ได ้แก่ ตับ (肝) หัวใจ (
心) ม ้าม (脾)
ปอด (肺) ไต ( 肾)
2. อวัยวะกลวงทั้ง 6 (六 腑)ได ้แก่ ถุงน้าดี (胆)
ลาไส ้เล็ก (小肠) กระเพาะอาหาร (胃) ลาไส ้ใหญ่ (大
肠) กระเพาะปัสสาวะ (膀胱)
และซานเจียว (三焦)
3. อวัยวะกลวงพิเศษทั้ง 6(奇 恒之府)ได ้แก่ สมอง (
脑)
ไขสันหลัง (髓) กระดูก (骨) เส ้นเลือด (脉) ถุงน้าดี (
胆)
มดลูก (女子胞)
1. อวัยวะภายตันทั้ง 5
• อวัยวะภายในทั้งห ้า จัดว่าเป็น阴
• มีหน้าที่สร ้างและเก็บสารจาเป็น แต่ไม่ทาหน้าที่กาจัด
• สะสม สารจาเป็นของชีวิต
และควบคุมการไหลเวียนของพลังลมปราณและเลือด
• นอกจากนี้ยัง นับรวม ถุงหุ้มหัวใจ หรือ เยื่อหุ้มหัวใจ
(心包)ด ้วย
เป็นอวัยวะตันอีกชนิดหนึ่ง
2. อวัยวะกลวงทั้ง 6
• อวัยวะกลวงทั้งหก จัดว่าเป็น阳
• ทาหน้าที่เกี่ยวกับการย่อย ดูดซึมและขับถ่าย
3. อวัยวะกลวงพิเศษทั้ง 6
• เนื่องจากภายในมีลักษณะกลวงเหมือนอวัยวะกลวง
และทาหน้าที่เก็บสะสมสารจาเป็นและลมปราณ
เหมือนอวัยวะตัน
• จึงเรียกว่าเป็น อวัยวะกลวงพิเศษทั้งหก
• และจัดว่าเป็น阴
ตามทฤษฎีแพทย์จีน
แบ่งอวัยวะออกเป็น 2 พวกคือ
หยาง หยิน
อวัยวะตันและกลวง
จะแบ่งเป็นยิน-หยาง
• และจะมีความสัมพันธ์เป็นคู่ๆ
โดยมีเส ้นลมปราณเชื่อมโยงอยู่ระหว่างคู่กัน
กล่าวคือ ตับคู่กับถุงน้าดี
หัวใจคู่กับลาไส ้เล็ก
ม ้ามคู่กับกระเพาะอาหาร
ปอดคู่กับลาไส ้ใหญ่
ไตคู่กับกระเพาะปัสสาวะ
เยื่อหุ้มหัวใจกับซานเจียว
ไต มีหน้าที่ดังนี้
1. 肾藏精,主人体的生长发育与生殖
• เก็บสารจาเป็นของชีวิต
ทั้งด ้านการกาเนิดชีวิต และการดารงชีวิต
• เกี่ยวกับการเผาผลาญ การสันดาปในร่างกาย
(metabolism)
จะหล่อเลี้ยงและไหลเวียนไปทั่วร่างกาย
• ไต สัมพันธ์กับการเจริญเติบโตและการสืบพันธุ์
2. 主水液
• ควบคุมการไหลเวียน และสมดุลของปริมาณน้าใน
ร่างกาย
• น้าเสียที่ไม่มีประโยชน์
หรือมีมากเกินจะถูกส่งไปที่กระเพาะปัสสาวะและขับ
ออกไปเป็นปัสสาวะ
• ทาให ้ม ้ามลาเลียงของเหลวได ้เป็นปกติ
3. 主纳气
สัมพันธ์กับการหายใจของปอด
• ไตเป็นผู้รับลมปราณที่เคลื่อนที่ลง
มาจากปอด
ทาให ้หายใจเข ้าออกสะดวก มี
จังหวะสม่าเสมอ
4. 肾 主骨、生髓、通于脑,齿为
骨之余,其华在发
สารจาเป็นของไต
• สร ้างสมองและ ไขสันหลัง
• เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน
• เลี้ยงบารุงเส ้นผม และขน
ถ ้าไตแข็งแรง
จะทาให ้พละกาลังดีและสมองเป็นปกติ
5. 开窍于耳及二 阴
หูเป็นประตูของไต
• เกี่ยวข ้องกับการได ้ยิน
• และยังเกี่ยวข ้องกับ
การทาหน้าที่เกี่ยวกับการ
สืบพันธุ์
และการขับถ่ายปัสสาวะกับ
อุจจาระ
6. ไตสัมพันธ์กับกระเพาะปัสสาวะ
ถ ้า ไตผิดปกติ จะมีอาการบวม
คือการคั่งค ้างของ ของเหลวในร่างกาย อุจจาระ
ปัสสาวะ
• จาก ไตหยางพร่อง
ทาให ้กลั้นปัสสาวะไม่ได ้ ท ้องร่วง
ไตยินพร่อง
• ทาให ้ปัสสาวะน้อย ท ้องผูก
• มีความผิดปกติของการสืบพันธุ์
เป็นหมัน น้าอสุจิ เคลื่อน กามตายด ้าน
• ปวดหลัง ปวดเอว
เมื่อยเอว มือเท ้าอ่อนไม่มีแรง อ่อนเปลี้ย
• ร ้อนอุ้งมืออุ้งเท ้า คอแห ้ง
• เฉื่อยซึม อ่อนเพลีย ขี้ลืม
อ่านปาจื้อ ดวงจีนจากหยิน หยาง Yin Yang
(ตอนที่3) ดิถีมีกาลัง
ซื่อสัตย์สุจริต เน้นความเชื่อถือ ทาตาม
สัญญา
• คาพูดสุขุม ใจเย็น
ทาตัวสอดคล้องกับค่านิยมประเพณีของสังคม
มีแน้วโน้มเคร่งศาสนา
https://www.fengshuix.com/fengshui-content/bazi-reading-yin-yang
ธาตุดินมากเกิน
• ทิฐิรุนแรง ไม่รู้จักปรับตัว เปลี่ยนแปลง หรือคล ้อย
ตามใคร
• รักษาความลับเพื่อป้องกันตัวเอง
• กล ้าได ้กล ้าเสีย รักสัจจะ
ตัวอย่างดิถีน้ามีกาลัง-ธาตุดินแข็งแรง
ทอง
ดิน
ไม ้
ดิน
ไฟ
ทอง
น้า
น้า
ดิถีอ่อน-แข็ง
ฤดูกาล นับ 2
พวกพ ้อง นับ
1
2
1
1
1
0
0
0
0
ธาตุดินอ่อนแอ
• ทางานไม่คอยใช ้เหตุผล
• เห็นแก่ประโยชน์ของตน ตระหนี่
• ไม่ใส่ใจความคิดผู้อื่น
• กล ้าทาในสิ่งที่คนอื่นไม่กล ้า
• ไม่สนใจเรื่องศักดิ์ศรี
ตัวอย่างดิถีน้ามีกาลัง-ธาตุดินอ่อนแอ
ทอง ไม ้ ดิน
ไฟ
ทอง
น้า
น้า ทอง
ดิถีอ่อน-แข็ง
ฤดูกาล นับ 2
พวกพ ้อง นับ
1
2
1
1
1
0
0
1
0
ธาตุไม ้มากเกิน
• ทางานเหน็ดเหนื่อย แต่ไม่ได ้ผล
• ทาสิ่งหนึ่งลืมสิ่งหนึ่ง
• ไม่คอยเฉลียวฉลาดนัก
• แต่ชอบวิ่งเต ้นให ้คนอื่น
ตัวอย่างดิถีน้ามีกาลัง-ธาตุไม ้แข็งแรง
ทอง
ไม ้
ไม ้
ไม ้
ไฟ
ทอง
น้า น้า
ดิถีอ่อน-แข็ง
ฤดูกาล นับ 2
พวกพ ้อง นับ
1
2
0
1
1
0
0
0
1
ธาตุไฟมากเกิน
• มีเมตตา แต่ขาดความสามารถ ในการตัดสินใจ
• หวาดระแวง จึงสนิทกับคนยาก
• ช่วยเหลือใครจะจาไว ้ตลอด
• ทางานที่ได ้รับมอบหมายไม่คอยลุล่วง
วิถีชีวิตแบบนายพราน
ตัวอย่างดิถีน้ามีกาลัง-ธาตุไฟแข็งแรง
ทอง
ไม ้
ไฟ
ไฟ
ไฟ
ทอง
น้า น้า
ดิถีอ่อน-แข็ง
ฤดูกาล นับ 2
พวกพ ้อง นับ
1
2
0
0
1
1
0
0
1
ธาตุน้ามากเกิน
• ให ้ความสาคัญกับการหาเงินทอง
• ถ ้าฝึกฝนจิตใจให ้ดี จะช่วยงานสังคมการกุศลได ้มาก
• หากประมาทเลินเล่อจะเสียงาน
• ไม่พึงคบคนพาลจะประสบความสาเร็จ
Catch Me If You Can
จับให้ได้ ถ้านายแน่จริง
เขาใช ้เวลา 5 ปีในการโกง
และในผลสุดท ้ายเมื่ออายุ 21 ปี
Frank โดนจับที่ฝรั่งเศส
และซึ่งภายหลังถูกย ้ายมาคุมขังที่สหรัฐอเมริกา 5 ปี
• หลังจากนั้น Frank ถูกปล่อยตัวโดยมีเงื่อนไข
คือทางานให ้กับ FBI เพื่อที่จะชดเชยความผิด
• ซึ่งตลอดเวลา25ปี Frank ได ้ทางานให ้กับ FBI
และ ออกแบบเช็คทางการของ IPS
ซึ่งใช ้โดยสถาบันการเงินหลายหมื่นแห่ง แทนที่
แคชเชียร์เช็ค
https://filmsheets.com/
ตัวอย่างดิถีทองมีกาลัง-ธาตุน้าแข็งแรง
ทอง
ดิน
ไม ้
ดิน
ไฟ ทอง
น้า
น้า
ดิถีอ่อน-แข็ง
ฤดูกาล นับ 2
พวกพ ้อง นับ
1
2
1
0
1
0
0
1
0
ฤกษ์ยาม
ความหมายและองค์ประกอบที่ทา
ให้สัมฤทธิ์ผล
https://www.nirvana-memorial.co.th/blog-
detail.php?Lang=L1&rid=120
คากล่าวที่ว่า “ฤกษ์ดีมีชัยไปกว่า
ครึ่ง”
เป็นคาที่เรามักได ้ยินกันบ่อยๆ ใช่ไหมคะ
ไม่ว่าจะเริ่มต ้นกิจการหรือทากิจกรรมต่างๆ
การหาฤกษ์ยามนั้นเป็นสิ่งสาคัญ
วันนี้เรามีความหมายของคาว่า ฤกษ์ยาม
รวมทั้งองค์ประกอบที่ทาให ้สัมฤทธิ์ผลมาฝากค่ะ
ฤกษ์ หรือ ฤกษ์ยาม
หมายถึง
คราวหรือเวลาแห่งความปลอดภัย
แห่งความสาเร็จสมประสงค์
ที่จะอานวยความเป็ นศิริมงคล
แก่ผู้ประกอบกิจกรรม การงาน ตามฤกษ์นั้น
ให้บรรลุวัตถุประสงค์จนลุล่วงไปได้
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
การหาฤกษ์ หรือการวางฤกษ์นั้น
• นับเป็นวิชาที่ว่าด ้วย กาลและเวลา ( space & time )
ที่เหมาะสมสาหรับกระทาการอย่างใดอย่างหนึ่ง
ที่เราคาดหวังและต ้องการผลตามปรารถนาได ้
โดยใช ้กฏเกณฑ์ขั้นสูง
ที่ถูกค ้นพบโดย ปราชญ์ นักพรต เซียน หรือโยคี
ดังที่มีระบุไว ้ในวิชาโหราศาสตร์ที่ตกทอดสืบต่อกันนับ
พันปี
space & time
ซึ่งการหาฤกษ์ หรือวางฤกษ์นั้น
• นับเป็นอีกวิธีการหนึ่ง
ที่สามารถนามาปรับ แก ้ไข
ชีวิต และดวงชะตาของมนุษย์เรา
ให ้สมประสงค์ได ้
ตัวฤกษ์ สามารถแบ่งออกได ้เป็น 2
ลักษณะ คือ
ฤกษ์แห่งพลังฟ้า และ ฤกษ์ของ
พลังดิน
1. ฤกษ์จากพลังฟ้า เปรียบได ้ดั่ง พลังจากสวรรค์
พลังแห่งจักรวาลที่ปกครอง และวางกฎเกณฑ์แห่ง
สรรพสิ่ง
เป็นดั่งพลังแห่งราศีและสิริมงคลที่จะ คุ้มครอง
ส่งเสริม
ผ่อนโทษ ผ่อนวาระหนักเป็นเบา
เสมือนแสงสว่างส่องทางชีวิต
สามารถเป็นพลังแห่งราศีปกป้อง คุ้มครอง
ไม่ให ้เกิดเรื่องเลวร ้าย
ในขณะกระทากิจกรรม การงานได ้
นอกจากนี้
• ยังใช ้ในการขอขมาโทษ เทวดา ฟ้าดิน บรรพบุรุษ
• การทาบุญ ถวายสังฆทาน
• ส่งพลังบรรเทา ช่วยลดวิบากกรรมได ้
2. ฤกษ์ของพลังดิน
เปรียบได ้ดั่งพลังแห่งความสาเร็จ
ทางโลก
ใช ้เสริมในเรื่อง ความเด่นดัง ก ้าวหน้า ชื่อเสียง เงิน
ทอง
และมักเกี่ยวข ้องกับการเสริมลาภผลให ้สาเร็จ ส่งผลได ้
ทันใจ
• ฤกษ์ในหมวดพลังดินนี้
มักใช ้กับการดาเนินชิวิต
การทามาหากิน กิจการงานทั่วไป
งานที่หวังผลกาไร
และงานโครงการที่หวังผลในระยะสั้น
ตัวอย่างการบวงสรวงเปิดละคร
ใหม่
ในทางกลับกัน
หาก ดวงเดิมดี มีบารมีเดิมหนุนนา
อยู่แล ้ว
การได ้ฤกษ์ยามที่ดี
ก็จะช่วยเสริมส่งให ้การดาเนินชิวิตดียิ่งขึ้นๆสืบไป
กิจกรรม ที่ต ้องดูฤกษ์ประกอบ
ในการเริ่มต ้นลงมือกระทา มี
ดังต่อไปนี้
1. การจัดงานพิธีกรรม งานมงคล กิจกรรมพิเศษ
• การเริ่มต ้นโครงการใดๆ ที่ข ้องเกี่ยวกับสถานที่
ที่ประกอบด ้วย การ ขุด ตอก เจาะ รื้อ
ซ่อมแซม
• มีผลกระเทือนต่ออาคาร สิ่งปลูกสร ้าง
• การจัดวางฮวงจุ้ย เสริมดวง
วางศิลาฤกษ์
2. การกระทา ที่หวังให ้มีผล
ผูกพันกับดวงชะตาของผู้กระทา
เช่น
• จัดตั้งหรือย ้ายหิ้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์
• ย ้ายห ้องทางาน
• การทาพิธีขึ้นบ ้านใหม่
• เปิดร ้านค ้า ตั้งป้ายชื่อห ้างร ้าน
• รวมทั้งการขับไล่ ลบล ้างอาถรรพ์ ต่างๆ
เป็นต ้น
ฤกษ์ที่ดี
จะช่วยส่งผล ส่งเสริมดวงบุคคล และฮวงจุ้ยพื้นที่
ให ้ส่งผลได ้อย่างรวดเร็ว และดียิ่งขึ้น
• และหากอยู่ในจังหวะชีวิตที่ดวงไม่ดี
จะช่วยบรรเทาเหตุร ้าย เคราะห์กรรม ให ้เบาบางลงได ้
การที่เราจะใช ้ฤกษ์ให ้ได ้ผลดี
และเกิดผลตามที่คาดหวังไว ้
อย่างน้อยก่อนจะถึงช่วงวางฤกษ์
• เจ ้าของดวงชะตาควรจะต ้องถือศีล 5
รักษากายวาจาใจให ้บริสุทธิ์
• และในขณะที่กระทาการตามฤกษ์นั้นๆ
จิตใจควรจะต ้องมีสมาธิ ตั้งมั่น แน่วแน่ มั่นคง ไม่
หวั่นไหว วิตก
และห ้ามมีอารมณ์โกรธ โมโห โทสะ ริษยา
มีเจตนาคิดร ้ายประทุษร ้ายต่อผู้อื่น
และต ้องไม่ลืมว่าต่อให ้มีฤกษ์ยาม
ที่ดีแค่ไหน
• หากเราขาดความพร ้อม
ความตั้งใจจริงในการกระทาการนั้นๆ
ก็ไม่สามารถช่วยให ้ครบองค์ประกอบที่จะให ้ฤกษ์
ส่งผลสาเร็จ
ครบถ ้วนสมบูรณ์ต่อไปในภายภาคหน้าได ้
ตาราฝังเข็มฉบับสมบูรณ์ (針灸學)
ภาคทฤษฎี
บทที่ 4 หกอวัยวะหยาง (ตอนที่3)
ลาไส ้เล็ก ลาไส ้ใหญ่ กระเพาะ
ปัสสาวะ
https://www.blockdit.com/posts/5db6f3411fbd887a89b2d937?series=5d7d9c0b39d2050cb
25c3378
3.ลาไส ้เล็ก
ลาไส ้เล็กจะอยู่บริเวณหน้าท ้อง
• ส่วนบนของลาไส ้เล็ก จะเชื่อมต่อกับ ส่วนล่างของ
กระเพาะอาหาร
• ส่วนล่างของลาไส ้เล็ก จะเชื่อมต่อกับ ส่วนบนของ
ลาไส ้ใหญ่
• มีเส ้นลมปราณที่เชื่อมกับเส ้นหัวใจ
ในลักษณะนอก-ใน
หน้าที่หลักของลาไส ้เล็ก
คือการรับสิ่งของ (受盛) และการสลายสิ่งของ (化物)
หรือก็คือ
การรับน้าและอาหารที่เกิดจากการย่อยมาแล ้ว
ของกระเพาะอาหาร
โดย ลาไส ้เล็ก จะทาการย่อยละเอียด
อีกขั้นหนึ่ง
เพื่อทาการแยกขุ่นและใสออกจากกัน
• จากนั้นจึงจะทาการดูดซึมส่วนที่ดีที่สุดเอาไว ้
• และขับดันส่วนกากลงไปสู่ลาไส ้ใหญ่ต่อไป
• ในส่วนของน้าที่เกินความจาเป็ น
ก็จะส่งต่อไปที่กระเพาะปัสสาวะ
เพื่อขับถ่ายออกนอกร่างกายอีกที
แยกขุ่น-ใส
จากกระเพาะอาหาร
ล
าไส
้
เล็
ก
ของดี ล
าไส
้
ใหญ่
กาก
กระเพาะปั
ส
สาวะ
น้า
ล ้น
เนื่องจากลาไส ้เล็ก
มีหน้าที่หลักในการแยกขุ่นใสออกจาก
กัน
ดังนั้นเมื่อ ลาไส ้เล็ก ป่ วย
• นอกจากจะส่งผลกระทบต่อ
ระบบการย่อยและการดูดซึม แล ้ว
ยังจะทาให ้เกิดความผิดปกติ
ของการขับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะอีกด ้วย
4.ลาไส ้ใหญ่
ลาไส ้ใหญ่จะอยู่บริเวณหน้าท ้อง
• ส่วนบนของลาไส ้ใหญ่
จะเชื่อมต่อกับลาไส ้เล็ก
ตรงจุดที่เชื่อมต่อของลาไส ้ทั้งสองจะมีทวารเปิ ดปิ ด
• ในส่วนล่างของลาไส ้ใหญ่
จะเชื่อมต่อกับรูทวารหนัก
ลาไส ้ใหญ่
• มีเส ้นลมปราณที่เชื่อมต่อกับเส ้นปอดในลักษณะนอก-
ใน
ลาไส ้ใหญ่ มีหน้าที่หลักคือการ
ส่งผ่าน (傳導)
และการเปลี่ยนแปลง (變化)
หมายถึง
เมื่อลาไส ้ใหญ่
ได ้รับน้าและอาหารที่ส่งมาจากลาไส ้เล็กแล ้ว
• ในระหว่างที่ส่งผ่านสิ่งของเหล่านี้ไปที่รูทวารหนัก
ลาไส้ใหญ่
จะทาการดูดซับน้าส่วนที่เหลืออีกครั้งหนึ่ง
เพื่อทาให ้สิ่งของเหล่านี้
เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอุจจาระ
ก่อนที่จะถูกขับถ่ายออกจากรูทวารหนัก
ในกระบวนการสุดท ้าย
ดังนั้น
หาก ลาไส ้ใหญ่ ป่ วยหรือผิดปกติ
ก็จะเกิดอาการอุจจาระเหลว
หรืออุจจาระแห ้งแข็งได ้
ลาไส ้
ใหญ่
น้า
รูทวาร
หนัก
5.กระเพาะปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะจะอยู่บริเวณท ้องน้อย
• มีเส ้นลมปราณที่เชื่อมกับเส ้นไตในลักษณะนอก-ใน
• มีหน้าที่หลักคือการให ้ความร่วมมือกับกระบวนการ
ทางานของไต
แล ้วทาการเก็บสะสมปัสสาวะไว ้ชั่วคราว
หลังจากเก็บสะสมไว ้จนถึงระดับ
หนึ่ง
• ผ่านกระบวนการแปรสภาพ (氣化)
แล ้วทาการขับปัสสาวะออกนอกร่างกาย
ดังนั้นหาก กระเพาะปัสสาวะ ป่ วย
หรือทางานผิดปกติ
กระบวนการแปรสภาพไม่ราบรื่น
ยามนั้น
• ก็จะเกิดอาการปัสสาวะขัด
• ปวดปัสสาวะอย่างแรง หรือขัดปวดขึ้น
• แต่หากเป็นอาการที่เกิดจากกระเพาะปัสสาวะ
ขาดความสามารถในการเก็บรัด
ก็จะเกิดอาการปัสสาวะถี่ อั้นปัสสาวะไม่อยู่ และ
ปัสสาวะเล็ดได ้
อย่ามองข ้าม! อาการ กระเพาะ
ปัสสาวะอักเสบ (Cystitis) หนึ่งโรค
ยอดฮิตหนุ่มสาวออฟฟิศ
https://www.blockdit.com/posts/5db6f3411fbd887a89b2d937?series=5d7d9c0b39d2050cb
25c3378
พลังห ้าธาตุ กับวัฒนธรรมอาหาร
จีน
ตอน 2 "การกินสาคัญเท่าฟ้า"
https://mgronline.com/china/detail/9560000020161
ชาวจีนเห็นความสาคัญของการ
กิน
ถึงกับมีคากล่าวยืนยันว่า
“มนุษย์ถือการกินสาคัญเท่าฟ้า”
(人以食为天)
หมายถึง
อาหารเป็นเรื่องสาคัญอันดับแรก ๆ
จีนได ้แบ่งอาหารเป็น 4 ตระกูลใหญ่
ตามแหล่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
ได ้แก่
• อาหารซานตงหรือหลู่ไช่ (鲁菜) เป็นอาหารทาง
ภาคเหนือ
รวมทั้งปักกิ่งและเทียนสิน
• อาหารเจียงซู หรือซูไช่ (苏菜) เป็นอาหารทางภาค
ตะวันออก
รวมทั้งมณฑลเจียงซู มณฑลเจ ้อเจียงและมณฑล
อานฮุย
• อาหารกวางตุ้ง หรือเย่ว์ไช่ (粤菜) เป็นอาหารทาง
ภาคใต ้
รวมทั้งฮกเกี้ยน ซัวเถา ไหหลา ไต ้หวัน
ปัจจุบันยังนิยมแบ่งเป็น 8 ตระกูล
ซึ่งแตกสาขาจากสี่ตระกูลข ้างต ้น
โดยเพิ่ม
• อาหารอันฮุยหรือฮุยไช่ (徽菜)
• อาหารฮกเกี้ยนหรือหมิ่นไช่ (闽菜)
• อาหารหูหนานหรือเซียงไช่ (湘菜) และ
• อาหารเจ้อเจียงหรือเจ ้อไช่ (浙菜)
ซึ่งแต่ละประเภทมีความแตกต่าง
กันไป
โดยมีเงื่อนไขด ้านสภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศ
ผลผลิตของท ้องถิ่น และวัฒนธรรมของภูมิภาคนั้น ๆ
เป็นปัจจัยกาหนด
• อาหารจึงเป็ นกุญแจสาคัญ
ที่ทาให้เราเข้าใจวัฒนธรรมของมนุษย์แต่ละกลุ่ม
อาหารคือ “ยา”
ป่ วยอย่าโทษเชื้อโรค
นอกจากนั้น ชาวจีนเชื่อว่าอาหารเป็นยารักษาโรค
กฎพื้นฐานสาคัญ
คือ
• อาหารต ้องสามารถป้องกันรักษาโรค
• และส่งเสริมระบบการทางานต่าง ๆ ของร่างกาย
คติจีนโบราณเชื่อว่า
ความเจ็บป่ วยไม่อาจโทษเชื้อโรคดัง
เช่นแพทย์แผนปัจจุบัน
• เนื่องจากเชื้อโรคเป็นสาเหตุเล็ก ๆ เท่านั้น
จะเห็นได ้จากบางคนได ้รับเชื้อโรคแล ้วไม่ป่ วย
บางคนรับเชื้อโรคแล ้วป่ วย
ดังนั้นสาเหตุที่แท ้
จึงมาจาก
• ความสมดุลของพลังยิน-หยาง
• และความกลมกลืนของธาตุทั้งห ้าในอาหาร
เป็นหลัก
ชาวจีนมีการจับคู่อาหาร
ที่ให ้ฤทธิ์ร ้อน (热) และเย็น (凉)
• โดยอาหารทอด อาหารมัน อาหารเผ็ด ไขมันจากพืช-
สัตว์ต่าง ๆ
ถูกจัดอยู่ในกลุ่มฤทธิ์ร ้อน
• ขณะที่พืชผัก อาหารทะเลและถั่วบางชนิด
อยู่ในกลุ่มฤทธิ์เย็น
อาหาร
ทอด
พืชผัก
นอกจากอาหารแล ้ว
• ด ้านการดื่มเครื่องดื่มต่าง ๆ
คนจีนก็ระมัดระวังเรื่องฤทธิ์ร ้อน-เย็นด ้วย
โดยทั่วไป
เมื่อคนจีนกล่าวถึงอาหาร
มักจะมีองค์ประกอบสองส่วนอันได ้แก่ ข ้าวและกับข ้าว
(饭-菜)
• ข ้าวคืออาหารจาพวกธัญพืชและแป้ง เป็นหลักที่ขาด
ไม่ได ้ทุกมื้อ
• ส่วนกับข ้าวคือเนื้อสัตว์ ผัก เป็นอาหารรอง
หากไม่มีก็เพียงทาให ้มื้อนั้นขาดรสชาติ
ทั้งนี้ข ้าวและกับข ้าวต ้องมีความ
สมดุล
อาหารจีนบางชนิด
ดูผิวเผินเป็นอาหารเดี่ยว เช่น เกี๊ยว ซาลาเปา
• ทว่ามีส่วนผสมครบถ ้วนทั้งแป้ง เนื้อสัตว์และผัก
กรรมวิธีการปรุง
เริ่มจากการคัดสรรวัตถุดิบ
• โดยส่วนใหญ่ใช ้วัตถุดิบจากท ้องถิ่นเป็นหลัก
• สังคมเกษตรที่อยู่ในภูมิภาคแตกต่างกัน
ทาให ้มีความหลากหลายในการปรุงอาหาร
หลี่ จือ ฉี
เมื่อจีนมีการติดต่อกับต่างประเทศ
ก็มีการนาเข ้าวัตถุดิบ
เช่น ข ้าวสาลี แพะ แกะ ผักผลไม ้จากแถบเอเชีย
ตะวันตกและเอเชียกลาง
• สิ่งที่น่าสนใจประการหนึ่ง
คือ แม ้จีนจะมีการนาผลิตภัณฑ์นมจากต่างแดนเข ้า
มาเป็นเวลานาน
แต่ก็ไม่มีการนา “นม”
มาเป็นองค์ประกอบหลักในอาหาร
วิธีการปรุงอาหารจีนที่สาคัญ
มีต ้ม นึ่ง ย่าง ดอง และตากแห ้ง
ส่วนการผัดเป็นวิธีที่มาทีหลัง
เครื่องมือ 4 ชนิดหลัก ได ้แก่ มีด เขียง กระทะ และตะหลิว
• ทั้งนี้การประกอบอาหาร
เน้นการทาความเข ้าใจพลังยิน-หยาง ธาตุทั้งห้า ฤทธิ์
ร ้อน-เย็น
และคุณสมบัติของอาหารแต่ละชนิด
เช่น เนื้อหมูควรมีหนังบาง เนื้อไก่ควรเป็นไก่รุ่น
• วัตถุดิบต ้องรู้แหล่งที่มา
เช่น น้ามัน ที่ดีต ้องมาจาก ซูโจว
น้าส ้มสายชูที่ดีต ้องมาจาก เจียงซู
ขณะที่ ความแรงของไฟมีสอง
ระดับ
คือ
ไฟแรงสาหรับการผัดทอด
ไฟอ่อนสาหรับอาหารที่ใช ้เวลานาน
เช่นการตุ๋น
• ในคัมภีร์จารีต
กล่าวว่า
คนเถื่อน
กินอาหารจะไม่ผ่านการปรุงจาก
ไฟ
ดื่มกินอย่างอารยชน
เมื่ออาหารพร ้อมสรรพ
• เครื่องมือที่สาคัญในการกิน ได ้แก่ ตะเกียบและช ้อน
• การกินอาหารด ้วยมือ ถูกมองว่าไร ้วัฒนธรรม
ตะเกียบฝังหยก
สมัยรางวงศ์ชิง
ตะเกียบ
เข ้ามามีบทบาทในวัฒนธรรมการ
กินอาหารจีน
สมัยราชวงศ์ซาง (ราว 1600-1028 ปี ก่อนค.ศ.)
• ชาวจีน ใช ้แท่งไม ้สองอัน คีบกับข้าวใส่ชาม
แล ้วใช้ช้อน ตักกับข้าวและข้าว เข ้าปาก
ต่อมา ตะเกียบ
มีวิวัฒนาการด ้านรูปแบบและขนาด
ให ้เหมาะกับอาหารในแต่ละท ้องถิ่น
• วัตถุดิบที่ใช ้ทาก็หลากหลายขึ้น
เช่น งาช ้าง กระดูกสัตว์ โลหะ และพลาสติก
การใช ้ตะเกียบของจีน
มีการกาหนดกฎเกณฑ์ไว ้ชัดเจน
เช่น
• การวางตะเกียบต ้องเป็นระเบียบเสมอกันทั้งคู่
• การวางไม่เสมอกันถือไม่เป็นมงคล
• การส่งข ้าวให ้ผู้อื่นห ้ามปักตะเกียบไว ้ในชาม
เพราะเป็นเสมือนปักธูปในกระถางให ้คนตาย ถือเป็น
การสาปแช่ง
• ห ้ามใช ้ตะเกียบคุ้ยเขี่ยอาหาร ห ้ามอม ดูด เลีย
ตะเกียบ
หรือใช ้ตะเกียบพุ้ยข ้าวเข ้าปาก
เพราะถือเป็นกิริยาที่ขาดการอบรมที่ดี
ชา วัฒนธรรมเครื่องดื่มแฝงเสน่ห์
ของชาวจีน
สาหรับเครื่องดื่ม
เมื่อพูดถึงจีน ก็ต ้องนึกถึง "ชา"
เครื่องดื่มที่มีที่มายาวนานตั้งแต่ยุคต ้น ๆ
• ชามีถิ่นกาเนิดทางตอนใต้ของจีน
• มีสรรพคุณทางยา
ชามีพัฒนาการสามยุค
ได ้แก่
• ชาอิฐที่นามาต ้ม
• ชาผงที่นามาตี และ
• ใบชาที่นามาชง
ซึ่งแต่ละพัฒนาการ
ได ้สะท ้อนให ้เห็นวิถีในราชวงศ์ถัง
ราชวงศ์ซ่ง และราชวงศ์หมิง ตามลาดับ
ราชวงศ์ถัง
ราชวงศ์ซ่ง และราชวงศ์หมิง
ตามลาดับ
ราชวงศ์ถัง
ราชวงศ์ซ่ง และราชวงศ์หมิง
ตามลาดับ
เมื่อเข ้าสู่ศตวรรษที่ 8
ราชวงศ์ถัง ถือเป็นยุคทองของการ
ดื่มชา
ลู่อี่ว์ (陆羽 ค.ศ.733-804)
ได ้รับขนานนามว่า เทพแห่งชา
• ได ้ผสมผสานปรัชญาลัทธิขงจื่อ เต๋า และพุทธเข ้า
ด ้วยกัน
โดยตระหนักว่า
การชงชาและบริการชา
เป็นกิจกรรมทางสังคมที่นามาซึ่งความสามัคคี
• จึงได ้เขียนคัมภีร ์ชา (茶经) ขึ้น
มีเนื้อหากล่าวถึงความเป็นมาของชา อุปกรณ์ในการ
เก็บใบชา
การคัดสรร การชง ความหมายของการดื่มชา
คัมภีร ์ชา (茶经)
ต่อมาในราชวงศ์ซ่ง เป็นยุคทอง
แห่งชาผง
ใบชาถูกบดด ้วยโม่หินแล ้วนาไปตีในน้าร ้อน
โดยใช ้ไม ้ตีชาที่ทาจากไผ่ฝาน
• ชาในยุคนี้กลายเป็นศิลปะแห่งชีวิต
• การดื่มชา เป็นมรรควิธีในการประจักษ์แจ ้งในตน
ขณะที่ในสมัยราชวงศ์หมิง ชาผงถูกลืมเลือน แทนที่
ด ้วยชาชง
โดยการชงน้าร ้อนและนาใบชาไปแช่ สืบทอดมาจนทุก
วันนี้
การตีชา/点茶法
“การเคี่ยวชา”
ในยุคซ่ง
ค่อยๆวิวัฒนาการเป็น “การตีชา”
คือ การนาชามาบดให ้เป็นผงละเอียด
ใส่ผงชาลงใน จ่าน(盏) รินน้าร ้อนลงไปแล ้วตีด ้วยแปรง
ไม ้ไผ่อย่างรวดเร็ว
ผงชาและน้าจะผสมเป็นเนื้อเดียวกัน เกิดฟองชาสีขาว
ทั่วบนผิวน้าชาในถ ้วยชา
ซึ่งถือเป็นจุดกาเนิด「พิธีชงชามัทฉะ/末茶道」ของ
ญี่ปุ่ น
https://puerthaiblog.blogspot.com/2019/11/14.html
การดื่มชาควรดื่มตามฤดูกาล
• ฤดูใบไม ้ผลิ ควรดื่มชาดอกไม้
• ฤดูร ้อน ควรดื่มชาเขียว ช่วยขจัดสารพิษ
• ฤดูใบไม ้ร่วง ควรดื่มชาอู่หลง ซึ่งมีฤทธิ์ไม่ร ้อนไม่เย็น
และ
• ฤดูหนาว ควรดื่มชาแดง เพราะช่วยให ้ร่างกายอบอุ่น
ชาวจีนชอบดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจ
กล่าวกันว่า
• ชามีรสชาติแฝงเสน่ห์บางอย่าง
• ชาไม่ไร ้เดียงสาเหมือนน้าเปล่า ไม่ร ้อนแรงเหมือน
สุรา
อาหารการกินการดื่ม
กลายเป็นกิจกรรมสาคัญในชีวิตทาง
สังคมของชาวจีน
• เมื่อครบหนึ่งขวบ ครบ 18 ปี หรือครบ 60 ปี
ก็มักมีการจัดการฉลองด ้วยการกิน
ทว่าภายใต ้การกินดังกล่าวนั้น
มีการแฝงความหมายที่แยบยล
สะท ้อนความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในสังคมอย่างลึกซึ้ง
ไว ้ด ้วย
https://mgronline.com/china/detail/9560000020161
พื้นฐานวิชาโหราศาสตร์จีน ที่
เข ้าใจผิดใหญ่หลวง
https://bit.ly/3TSD7yv
無極而太極 (อู๋จี๋เอ๋อไท่จี๋)
• ที่ชอบเอาไปพูดกันแบบผิดๆว่า 無極生太極 (อู๋จี๋เซิง
ไท่จี๋)
ผิดกันแค่อักษรจีนตัวกลางตัวเดียว 而 (เอ๋อ) กับ 生
(เซิง)
• แต่ความหมายผิดกันไปเยอะ
ประกอบกับความช่างจินตนาการของผู้ไม่รู้
และไม่ได ้ทาการสืบค ้นตาราจีนให ้แน่ชัด
ก็แต่งประโยคต่อท ้ายเติมไปมากมาย
• 而 แปลว่า เมื่อเทียบระหว่าง….กับ…. หรือ ระหว่าง
生 แปลว่า หนุน ส่งเสริม กาเนิด
ดังนั้น ที่ผิดคือ
• แปลว่า無極生太極 (อู๋จี๋เซิงไท่จี๋)
แล ้วไปแปลเติมว่า สภาวะความว่าง
ไปก่อให ้เกิด สภาวะความมีอย่างสุดโต่ง
หรือ บ่เก็ก เกิด ไท ้เก็ก
อย่างไรก็ตามที่แปลๆกัน ล ้วนผิด
ทั้งสิ้น
周敦颐 โจวตุ้ยอี๋
คือ คนที่อธิบายเรื่องนี้ คน แรกๆ
จริงแล ้ว ต ้นตอ มาจากภาพ 太極圖 ก็ได ้อธิบายไว ้ว่า
無極而太極,太極動而生陽,動極而靜,
靜而生陰,靜極復動。
一動一靜互為其根,分陰分陽,兩儀立焉,
陽變陰合,而水火木金土五氣順布,四時行焉。
五行一陰陽也,陰陽一太極也,太極本無極也。
無極而太極 (อู๋จี๋เอ๋อไท่จี๋)
อธิบายได ้ว่า
• สภาวะสูญหรือสภาวะดับ (ไม่ใช่แค่ว่าง แต่คือความ
ดับโดยไม่เหลือสิ้น)
• เมื่อเทียบกับ สภาวะเกิด นั้น
สภาวะเกิดคือการเคลื่อนไหว การขยับ การกระทบ นี้
แล
คือ สภาวะที่เรียกว่า หยาง
ลักษณะการผันแปร
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
ลักษณะการผันแปร
แปลตามสภาวธรรม
คือ เพราะมีการกระทบ (動) นั้นแหละ
นามรูปจึงเกิดขึ้น
กระทบของอะไร
• กระทบของ สฬายตนะ หรือ อายตนะทั้ง หก
ทั้งภายนอกและภายใน
• พูดคร่าวๆสาหรับคนไม่ปฏิบัติธรรมคือ ตา หู จมูก ลิ้น
กาย ใจ นั้นหละ
• หกอัน ได ้รับการกระทบ จึงเกิด รูป และเกิดนาม
อันได ้แก่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ออกมา
สฬายตนะ
ภายนอก
•ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ภายใน
•รูป นาม เวทนา สัญญา สังขาร
วิญญาณ
สภาวะตามเป็นจริงในธรรม หรือ
ธรรมชาติ
ย่อมมีการกระทบ(เกิด) และ ดับ
อยู่เสมอ
• เกิดนั้นแลคือการกระทบ
• กระทบนั้นแลจึงเกิดมี
• ส่วนดับนั้นก็คือผลคู่ตรงข ้ามของความเกิด ย่อมมี
ความดับ
• สภาพธรรมชาติเลยมีการเปลี่ยนแปรไป คือมีเกิดมีดับ
• ดังนั้น 無極而太極
เลยแปลว่า สภาวะความดับ และ สภาวะความเกิด นั้น
อยู่คู่กัน
太極動而生陽
อธิบายได ้ว่า
• สภาวะเกิด
หรือการเกิด คือการเคลื่อนไหว การขยับ การกระทบ
นี้แล
จึงก่อเกิด พลังหยาง
หรือ เรียกการกระทบ การเคลื่อน ขยับ นี้ว่า พลังห
ยาง
動極而靜
อธิบายได ้ว่า
• เมื่อ ขยับ หรือ กระทบ แล ้ว ที่สุดก็ย่อม นิ่ง ย่อม
สงบ
靜而生陰
อธิบายได ้ว่า
• สภาวะ นิ่ง สงบ นี้แล
กาเนิดก่อเกิด พลังหยิน
靜極復動
อธิบายได ้ว่า
• เมื่อ นิ่ง สงบ ที่สุดแล ้ว
ก็ย่อมเกิดการสะเทือน ขยับ กระทบ ออกมาอีก
วัฏจักร
ถ ้าเราพิจารณาดู วัฏจักรในธรรมชาติ
เช่น น้าขึ้น-น้าลง,กลางวัน-กลาง
คือ
เราจะพบรูปแบบที่เหมือนกันก็ อยู่ 6 แบบคือ
[สว่างเพิ่มขึ้น-> สว่างมาก -> สว่างลดลง-> มืดเพิ่มขึ้น
-> มืดมาก ->มืดลดลง] -> สว่างเพิ่มขึ้น
หรือ เรียกได ้เป็น
[หยางเพิ่ม ->หยางมาก -> หยางลด -> หยินเพิ่ม -
> หยินมาก -> หยินลด]
-> หยางเพิ่ม
https://medium.com/@QiMenAlchemy/hetu-c4a0daac86d1
[หยางเพิ่ม ->หยางมาก -> หยางลด -> หยิน
เพิ่ม -> หยินมาก -> หยินลด] -> หยางเพิ่ม
https://medium.com/@QiMenAlchemy/hetu-c4a0daac86d1
五行 อู่ สิง - เบญจคุณะ
5 ธาตุ เป็นการเรียกที่ผิดอย่างมาก
พอเราเรียกว่า ธาตุ
เราก็เลยนึกไปถึงวัตถุจริง ๆ
ที่เป็นทอง เป็นไม ้เป็นดิน
• ทั้งที่จริงแล ้วมันคือ สถานะ
แบบหนึ่ง
หรือ สถานะของ หยิน–หยาง
แบบหนึ่ง
ซึ่งจะขอนิยาม “สถานะ” ตามนี้
เพื่อความเข ้าใจต่อไป
• หยางเพิ่ม
= ไม้
• หยางมาก
= ทอง
• หยางลด
= ดิน
• หยินเพิ่ม
= ไฟ
• หยินมาก
้
https://medium.com/@QiMenAlchemy/hetu-c4a0daac86d1
ไม้
ทอง
ดิน
ไฟ
น้า
ฟ
้ า
ซึ่งสามารถแสดงเป็นรูปได ้ตามนี้
https://medium.com/@QiMenAlchemy/hetu-c4a0daac86d1
จากคาอธิบายนี้
จึงควรเรียก “ธาตุ” ว่า “สถานะ”
เพื่อให้เป็ นการเรียกให้ถูกต้อง
ตามความหมายดั้งเดิม
• ดังนั้น “5 ธาตุ”
ก็จะกลายเป็น “5 สถานะ”
(แต่ถ ้าพูดเรื่องที่คนทั่วไปเข ้าใจ ก็จะใช ้คาว่าธาตุ
เหมือนเดิม
เพื่อให ้เข ้าใจได ้โดยง่าย)
https://medium.com/@QiMenAlchemy/hetu-c4a0daac86d1
5 ธาตุ 5 สถานะ
一動一靜互為其根,分陰分陽
อธิบายได ้ว่า
• ตามหลักการของพลังงานที่ไม่ได ้สูญหายไปไหน
(เพียงแค่เปลี่ยนรูป)
• เมื่อ ขยับ (หยางเพิ่ม) ย่อมถ่ายเทใช ้พลังงานออก
(หยางเต็มวัย)
ออกมาจนไม่มีอะไรให ้เป็นพลังขยับ ก็นิ่งลง (หยาง
เสื่อมสลาย)
นิ่งลง (หยินเติบโต) ก็กักเก็บพลังกลับมา ทาให ้พลัง
ฟื้น (หยินเต็มวัย)
เก็บมากเข ้าก็เลยขยับต่ออีกรอบ (หยินเสื่อมสลาย)
หมุนเวียนไม่หยุด เกิด ดับ เรื่อยไป
一 (拼音:yī )
ในที่นี้ไม่ได ้แปลว่า หนึ่ง
และไม่ได ้แปลว่า อันนึงขยับ อันนึงนิ่ง
• แต่แปลว่า
ประเดี๋ยวขยับ ประเดี๋ยวนิ่ง
ประเดี๋ยว ยิน ประเดี๋ยว หยาง
• นี้แหละคือ ต้นตอ เลยสามารถแยกแยะ ยินหยาง
ออกมาได ้
兩儀立焉
อธิบายได ้ว่า
• เหตุฉะนี้ ข ้างต ้นแล
ทาให ้หยีคู่/สองหยี (兩儀) ชัดเจน
ขึ้นมาได ้
• สองหยี(儀) นี้คืออะไร
ก็คือ 陽 หยาง และ 陰 หยิน
陽 หยาง 陰 หยิน
陽變陰合
อธิบายได ้ว่า
• พลังหยาง ทาให ้เปลี่ยนแปรสภาพ ขยับ
(วิเคราะห์)
พลังหยิน ทาให ้สมาน ประสานกัน
รวมกัน (สังเคราะห์)
陽 หยาง
(วิเคราะห์)
陰 หยิน
(สังเครา
ะห์)
https://bit.ly/3TSD7yv
而水火木金土五氣順布,四時行焉。
เหตุฉะนี้ น้า ไฟ ไม้ ทอง ดิน
ห้าชี่
(ทาไมเค ้าไม่เรียง ดิน ทอง น้า ไม ้ ไฟ
เพราะเค ้าเรียกตาม สภาวะความตรงข ้ามของ ยินห
ยาง
คือ น้าตรงข ้ามไฟ ไม ้ตรงข ้ามทอง)
ไหลเวียนเปลี่ยนหมุน
สี่ฤดูจึงได้ผันแปรเคลื่อนคล้อยไป
นี่คือคาเต็มๆของ 五行 (อู่สิง)
ที่แปลกันผิดว่า ธาตุ หรือ หนทาง หรือช่องทาง ซึ่งเป็น
คานาม
五氣順布
四時行焉
ห ้าชี่ เหลียนเวียน
สี่ฤดู จึง 行 หมายถึง เกิดมี เปลี่ยนแปร เคลื่อนคล ้อย
เป็นวัฏจักร
คาแปลเหล่านี้ แปลมากว่าพันปีแล ้ว
โดยท่าน 周敦颐 โจวตุ้ยอี๋ ราชบัณฑิตใหญ่ราชวงศ ์
ซ้อง
ส่วนวลียอดนิยมอีกอันคือ
(無極生) 太极,是生两仪,
两仪生四象,四象生八卦,
คาในวงเล็บคือ คาแต่งใหม่ ไม่ได ้มีในตารา
แต่เผยแพร่ทั่วไป และชอบนามาอ ้าง
ทั้งนี้ได ้อธิบายความหมายข ้างต ้นไปแล ้ว
เพราะฉะนั้น วลีนี้เริ่มด ้วย
太极,是生两仪,两仪生四象,四象生八卦,
สภาวะเกิดนั้น
แล
เกิด หยีคู่นึง หยีคู่(หยิน/หยาง)นี้แล
ที่กาเนิด 四象 สี่ลักษณะ
• ซึ่งถ ้าคุณเอาคานี้ไปหาในกูเกิ้ล
คุณจะเจอมันแปลว่า สี่ทิศใหญ่ฮวงจุ้ย หรือ ดวงดาวก็
ตาม
อันได ้แก่ มังกรเขียว
(จริงๆไม่ใช่เขียว ผมเป็นคนแรกในไทยที่แปลว่า ชิง
ซึ่งเผยแพร่ในเว็บนานแล ้ว)
https://bit.ly/3TSD7yv
เสือขาว กระจิบสีชาด
(นี่ก็ผมแปลให ้คนแรก
แต่ไม่ค่อยมีใครเอ่ยถึง ยังคงแปลกันว่า หงส์แดง)
และเต่างูมีพลัง หรือ เต่างูดา
(เพราะภาษาจีนไม่ได ้เขียนคาว่า ดา ลงไว ้)
ซึ่งหาเป็นเช่นนั้นไม่
• ในความจริงแล ้ว 四象 (ซื่อเซี่ยง)
แทนด ้วย สี่ฤดู แห่งกาลเวลา
เพราะคาต่อมา 四象生八卦 ซื่อเซี่ยงเซิงปากว ้า
• เพราะ สี่ฤดูที่เปลี่ยน
ซึ่งหมายถึง กาลเวลา
ทั้งภูมิประเทศภูมิอากาศ สภาพต่างๆในธรรมชาติที่
เปลี่ยนนี่หละ
ทาให้เกิด ทฤษฎีปา-กว้า ขึ้นมา
ไม่ใช่สัตว์เทพสี่ทิศ เกิด ปา-กว ้า ออกมา
四象生八卦
วลีนี้ ฉบับเต็มๆ กล่าวไว ้อย่างไร
กล่าวว่า
是故易有太极,是生两仪,两仪生四象,
四象生八卦,八卦生吉凶,吉凶生大业。
八卦生吉凶
吉凶生大业
อธิบายความว่า
• เพราะเหตุที่ อี้ 易 (ทุกขัง) มี ไท่จี๋
• แล ้วก็กาเนิด หยีคู่นึง สองหยี นี้แหละที่เกิด สี่ฤดู
• สี่ฤดูนี้เกิด ปา-กว ้า หรือ โป็ยข่วย
ปา-กว้า นี้แหละที่ทาให ้เกิด ดี หรือ ร้าย (มงคล หรือ
อวมงคล) แล
• เพราะ ดีหรือร ้าย นี้แล
ทาให ้เกิดพฤติการณ์อันยิ่งใหญ่ทั้งหลายในธรรมชาติ
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
ลักษณะการผันแปร
อธิบายไว ้โดย ขงจื้อ เมื่อหลายพัน
ปีที่แล ้ว
• ภาพยินหยาง
จึงไม่ได ้เป็นภาพแสดง วัตถุเดียวที่มีทั้งยินหยางข ้าง
ในอย่างเดียว
แต่แทนสภาพธรรมชาติด ้วย
ที่มีคู่ตรงข ้ามแต่หมุนเวียนกัน เกิด ดับ
แล ้ว ดับ ก็ เกิด หมุนเวียนไปมา ไม่หยุด
• คาสาคัญคือ คู่ตรงข ้ามที่สลับกันหมุนเวียนไม่หยุด
แค่นี้เอง
สองจุดที่เราเห็นนั้น มาจาก ตาปลา ของภาพ ยินห
ยางโบราณ
ไม่ได ้เกี่ยวอะไรกับ ในยินมีหยาง ในหยางมียิน
https://bit.ly/3TSD7yv
ถือว่าปัญญาดี มิได ้มีความเพียรเรียน
จึงหมั่นเที่ยวแวะเวียน
ไม่พากเพียรเรียนวิชา
ที่ไหนจะได ้รู้ ถือว่า กูมีปัญญา
จึงเที่ยวจาเขามา ถึงแม ้นรู้ไม่สู้ดี
https://bit.ly/3TSD7yv
ฉีเหมิน #1 — โหมโรง
https://medium.com/@QiMenAlchemy/qimendunjia-introduction-
4d043ddbbe80
3 สุดยอดวิชา
https://medium.com/@QiMenAlchemy/qimendunjia-introduction-
4d043ddbbe80
奇門遁甲(qí mén dùn jiǎ) ฉีเหมินตุ้นเจี่ย
• จัดเป็นหนึ่งในสุดยอดวิชาลึกลับของจีนโบราณทั้ง 3
(三式)
ที่มีการพูดถึงอยู่เป็นประจา
• ด ้วยความแปลกประหลาดและหาศึกษาได ้ยากมาก
รวมทั้งการปรากฎอยู่ภายในประวัติศาสตร์และนิยาย
หลายครั้ง
โดยวิชาทั้ง 3 คือ
3 สุดยอดวิชา
• 太乙神數 — ไท่อี้เสินซู่
• 六壬神課 — ลิ่วเริ่นเสินเค่อ
• 奇門遁甲 — ฉีเหมินตุ้นเจี่ย
3 สุดยอดวิชา
https://medium.com/@QiMenAlchemy/qimendunjia-introduction-
4d043ddbbe80
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
ไท่อี้เสินซู
เป็นวิชาที่สนใจพลังงานของฟ
้ าในระดับมหภาคเป็น
หลัก
• จึงเป็นการใช ้เพื่อวิเคราะห์สถาณการณ์ต่าง ๆ
ระดับประเทศ
เช่น การทหาร การเกษตร การสงคราม ของปีนั้น
• และวางแผนการพัฒนาและกาลังคน
• เป็นวิชาที่เอาไว ้พยากรณ์ในระดับประเทศอย่าง
แท ้จริง
• ปัจจุบันแทบไม่พบการใช ้งานวิชานี้
เนื่องจากยังไม่สามารถผู้ที่สามารถคานวณปฏิทินของ
วิชานี้อย่างถูกต ้องได ้
ลิ่วเริ่นเสินเค่อ
• เป็นวิชาที่สนใจพลังงานของดินเป็นหลัก
• เป็นการวิเคราะห์ดูว่าพลังงานดิน
และ ภูติต่าง ๆ มีผลกระทบอย่างไรบ ้าง ณ สถาณ
การณ์นั้น
• อีกทั้งยังใช ้เพื่อสั่งงานภูติ ต่าง ๆ
(เนื่องจากภูติ อยู่ในระดับพลังงานนี้)
• การใช ้งานลิ่วเริ่นในปัจจุบันจะเป็นการทานายเป็น
หลัก
• การใช ้เพื่อสั่งงานภูติ
เช่น วิชา 5 ผีนาโชค (ใช ้ผีจริง ๆ ไปเอาโชคเลยครับ
วิชานี้)
ไม่ค่อยมีการเปิดเผยเท่าไหร่
ฉีเหมินตุ้นเจี่ย
ในวิชา ฉีเหมินตุ้นเจี่ย นั้นบุคคลทั่วไปจะได ้ยินวิชานี้
จากการที่ ขงเบ ้ง (จูเก่อเลี่ยง, จูกัดเหลียง)
ใช ้วิชา ฉีเหมินตุ้นเจี่ย ในเหตุการณ์ หลายครั้ง
เช่น
• ศึกผาแดง เรียกลมเรียกฝน ที่แท่นบูชา 7 ดาว (七星
壇)
• ศึกผาแดง ใช ้เพื่อหลบหนีโดยไม่ให ้มีคนเห็น
• ค่ายกล 8 ทิศ (ค่ายกลพยุหะอัฏฐทิศ)
• จุดตะเกียง 7 ดาวต่ออายุ
• ปล่อยโคม 7 ดาว (โคมขงเบ ้ง — 孔明燈)
ศึกผาแดง เรียกลมเรียกฝน ที่แท่น
บูชา 7 ดาว
(七星壇)
ขงเบ ้ง จึงเดินทางไปที่แท่นประรา
พิธี
แต่งตัวในชุดนักพรตลัทธิเต๋าและถือกระบี่ในมือ
• จิวยี่และเหล่าแม่ทัพต่างเฝ้ารออย่างกระวนกระวาย
ว่าเมื่อไหร่ลมจะเปลี่ยนทาง
แม ้ว่าแรงลมจะเริ่มเบาลง แต่ก็ยังพัดจากทิศตะวันตก
เฉียงเหนืออยู่ดี
• จิวยี่ พูดกับ โลซก ว่า "ขงเบ ้งคงหลอกลวงเราเสีย
แล ้ว
จะมีลมตะวันออกเฉียงใต ้ในฤดูกาลนี้ได ้อย่างไร"
แม ้ว่า โลซก จะไม่ตอบว่าอะไร
แต่เขาก็สงสัยใน ขงเบ ้ง เช่นกัน
ครั้นถึงเวลาเที่ยงคืน
พวกเขาก็ได ้ยินเสียงธงศึก
บนกระโจมของพวกค่าย ปลิวไสวเพราะแรงลม
• จิวยี่ และ โลซก จึงวิ่งออกจากกระโจมมาดู
ก็เห็นว่าชายธงนั้น
ทั้งหมดชี้ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ
• ลมตะวันออกเฉียงใต ้มาถึงแล ้ว
พวกเขาทั้งหมดจึงรู้สึกโล่งใจและปลาบปลื้มยินดี
ศึกผาแดง ใช ้เพื่อหลบหนีโดย
ไม่ให ้มีคนเห็น
จิวยี่ จึงเชื่อในทันทีเลยว่า
คนที่มีความสามารถเช่น ขงเบ ้ง นั้น
ปล่อยไว ้
ก็ต ้อง เป็นอันตรายต่อ ง่อก๊ก ใน
อนาคต
• เขาจึงตัดสินใจสังหารขงเบ ้งในทันที
• เขาสั่งให ้แม่ทัพชีเซ่งและเตงฮอง
รีบเร่งไปยัง ลาผิง พร ้อมทหารจานวนหนึ่ง เพื่อ
สังหารขงเบ ้งเสีย
• แต่เมื่อทั้งสองคนไปถึงเนินเขา
ก็พบเพียงแท่นบูชาที่ว่างเปล่า
• พวกเขาจึงถามทหารยาม
ซึ่งก็ได ้ตอบว่า ขงเบ ้ง ได ้ขึ้นเรือจากไปแล ้ว
ในนิยาย
• ค่ายกลเกาะดอกท ้อ ของ มารบูรพา
อึ้งเอี๊ยะซือ หรือ หวงเหยาซือ
เจ้าเกาะดอกท้อ จากเรื่อง มังกรหยก
(ในนิยายค่ายกลนั้น ประกอบด ้วย 2 ชั้น
ค่ายกลชั้นใน
ถึงจะเป็น ฉีเหมินตุ้นเจี่ย)
28. เมื่อเราเข ้ามาเราจะเจอ แท่นนี้
ซึ่งแปลว่า เราอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของค่ายกล
จะมีแถบสีกลมๆที่มีหลายสีนั้น
คือสีที่เราต ้องวิ่งไปแก ้
ซึ่งสีอาจจะไม่ตรงตามภาพ
• สีจะสุ่มไปเรื่อยๆ เรียงจากซ ้ายไปขวา
http://www.9yin.in.th/9yinnew/home/ndetail/5432
28. เมื่อเราเข ้ามาเราจะเจอ แท่นนี้
http://www.9yin.in.th/9yinnew/home/ndetail/5432
ซึ่งจะไม่มีแผนที่บอก และด ้านใน
จะเหมือนเขาวงกต
ต ้องวิ่งหาไปเรื่อยๆ
• จะมีสิ่งเดียวที่เราพอจะเดาได ้ว่า สีไหนอยู่ตรงทิศ
ไหน
ก็คือ ตรงตัวหนังสือภาษาจีนที่อยู่ที่พื้นเป็นระยะๆ
• เมื่อเราเจอให ้เราเปิดไอเท็มภาระกิจที่อยู่ในกระเป๋ า
ของเรา
จะขึ้นเป็นรูปดอกบัวและทิศของสีต่างๆ
ให ้เราดูที่พื้นว่าเราอยู่ที่ตัวอักษรภาษาจีนตัวไหน
แปลว่าเราจะอยู่ใกล ้กับสีนั้นๆ
• ขั้นตอนนี้ต ้องใช ้เวลาและความอดทนในการแก ้อยู่
พอสมควร
แนะนาให ้สังเกตที่อักษรภาษาจีนเป็นหลัก
ระวังอย่าให ้ผิด ถ ้าผิดเราต ้องเริ่มแก ้ใหม่หมด
http://www.9yin.in.th/9yinnew/home/ndetail/5432
ซึ่งจะไม่มีแผนที่บอก และด ้านใน
จะเหมือนเขาวงกต
ต ้องวิ่งหาไปเรื่อยๆ
http://www.9yin.in.th/9yinnew/home/ndetail/5432
ค่ายกลเกาะดอกท ้อ ของ มาร
บูรพา
http://www.9yin.in.th/9yinnew/home/ndetail/5432
29. เมื่อแก ้ค่ายกล ดอกท้อ เสร็จแล ้ว
เกมจะวาปเราออกมาข ้างนอกอีกครั้ง และให ้เราไปส่งเควสที่
หลวงหลิงซู พิกัด -485,-253
เมื่อส่งเควสให ้แม่นางเสร็จ นางจะให ้เราไปพบเจ ้าเกาะ ที่พิกัด -
607,-257
http://www.9yin.in.th/9yinnew/home/ndetail/5432
30. เมื่อมาถึงให ้คุยกับเจ ้าเกาะ
หวงกู่เซียว
(เจ ้าเกาะดอกท ้อ)
http://www.9yin.in.th/9yinnew/home/ndetail/5432
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx
พื้นฐานชีวิต 18.pptx

More Related Content

Similar to พื้นฐานชีวิต 18.pptx

การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23 การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23 Phet103
 
เรื่อง การดูแลสุขภาพร่างกาย11
เรื่อง  การดูแลสุขภาพร่างกาย11เรื่อง  การดูแลสุขภาพร่างกาย11
เรื่อง การดูแลสุขภาพร่างกาย11wichien wongwan
 
พื้นฐานชีวิต 41.pptx
พื้นฐานชีวิต 41.pptxพื้นฐานชีวิต 41.pptx
พื้นฐานชีวิต 41.pptxSunnyStrong
 
ระบบของอวัยวะในร่างกาย (ชัยณรงค์)
ระบบของอวัยวะในร่างกาย (ชัยณรงค์)ระบบของอวัยวะในร่างกาย (ชัยณรงค์)
ระบบของอวัยวะในร่างกาย (ชัยณรงค์)kookoon11
 
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23Phet103
 
หนังสือ ข้อมูลสมุนไพรจีน (เมชฌ สอดส่องกฤษ พ.ศ. 2558) สำนักงานส่งเสริมบริหารงา...
หนังสือ ข้อมูลสมุนไพรจีน (เมชฌ สอดส่องกฤษ พ.ศ. 2558) สำนักงานส่งเสริมบริหารงา...หนังสือ ข้อมูลสมุนไพรจีน (เมชฌ สอดส่องกฤษ พ.ศ. 2558) สำนักงานส่งเสริมบริหารงา...
หนังสือ ข้อมูลสมุนไพรจีน (เมชฌ สอดส่องกฤษ พ.ศ. 2558) สำนักงานส่งเสริมบริหารงา...Vorawut Wongumpornpinit
 
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2Kobchai Khamboonruang
 
ศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น ระหว่างวันที่ 27 29
ศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น ระหว่างวันที่ 27 29ศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น ระหว่างวันที่ 27 29
ศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น ระหว่างวันที่ 27 29Ming Gub Yang
 
โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพโพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพTongsamut vorasan
 
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพTongsamut vorasan
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ssuser48f3f3
 
แผนการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สุขภาพชีวิต
แผนการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สุขภาพชีวิตแผนการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สุขภาพชีวิต
แผนการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สุขภาพชีวิตtassanee chaicharoen
 
ความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _นความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _นTanadol Intachan
 
ศุภิสรา++..
ศุภิสรา++..ศุภิสรา++..
ศุภิสรา++..somo1913
 
สเต็มเซลล์บำบัด
สเต็มเซลล์บำบัดสเต็มเซลล์บำบัด
สเต็มเซลล์บำบัดUtai Sukviwatsirikul
 
Rehabilitabtion for Elderly
Rehabilitabtion for ElderlyRehabilitabtion for Elderly
Rehabilitabtion for Elderlytaem
 
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์Khwanruthai Kongpol
 
58210401213 งาน 1 ss
58210401213 งาน 1 ss58210401213 งาน 1 ss
58210401213 งาน 1 sspravina Chayopan
 

Similar to พื้นฐานชีวิต 18.pptx (20)

krittipong
krittipongkrittipong
krittipong
 
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23 การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
 
เรื่อง การดูแลสุขภาพร่างกาย11
เรื่อง  การดูแลสุขภาพร่างกาย11เรื่อง  การดูแลสุขภาพร่างกาย11
เรื่อง การดูแลสุขภาพร่างกาย11
 
พื้นฐานชีวิต 41.pptx
พื้นฐานชีวิต 41.pptxพื้นฐานชีวิต 41.pptx
พื้นฐานชีวิต 41.pptx
 
ระบบของอวัยวะในร่างกาย (ชัยณรงค์)
ระบบของอวัยวะในร่างกาย (ชัยณรงค์)ระบบของอวัยวะในร่างกาย (ชัยณรงค์)
ระบบของอวัยวะในร่างกาย (ชัยณรงค์)
 
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
 
หนังสือ ข้อมูลสมุนไพรจีน (เมชฌ สอดส่องกฤษ พ.ศ. 2558) สำนักงานส่งเสริมบริหารงา...
หนังสือ ข้อมูลสมุนไพรจีน (เมชฌ สอดส่องกฤษ พ.ศ. 2558) สำนักงานส่งเสริมบริหารงา...หนังสือ ข้อมูลสมุนไพรจีน (เมชฌ สอดส่องกฤษ พ.ศ. 2558) สำนักงานส่งเสริมบริหารงา...
หนังสือ ข้อมูลสมุนไพรจีน (เมชฌ สอดส่องกฤษ พ.ศ. 2558) สำนักงานส่งเสริมบริหารงา...
 
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
 
ศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น ระหว่างวันที่ 27 29
ศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น ระหว่างวันที่ 27 29ศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น ระหว่างวันที่ 27 29
ศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น ระหว่างวันที่ 27 29
 
8
88
8
 
โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพโพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
 
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) โพชฌงค์ พุทธวิธีเสริมสุขภาพ
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์
 
แผนการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สุขภาพชีวิต
แผนการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สุขภาพชีวิตแผนการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สุขภาพชีวิต
แผนการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สุขภาพชีวิต
 
ความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _นความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _น
 
ศุภิสรา++..
ศุภิสรา++..ศุภิสรา++..
ศุภิสรา++..
 
สเต็มเซลล์บำบัด
สเต็มเซลล์บำบัดสเต็มเซลล์บำบัด
สเต็มเซลล์บำบัด
 
Rehabilitabtion for Elderly
Rehabilitabtion for ElderlyRehabilitabtion for Elderly
Rehabilitabtion for Elderly
 
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
 
58210401213 งาน 1 ss
58210401213 งาน 1 ss58210401213 งาน 1 ss
58210401213 งาน 1 ss
 

More from SunnyStrong

คุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxคุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxSunnyStrong
 
คุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxคุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxSunnyStrong
 
คุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxคุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxSunnyStrong
 
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docxSunnyStrong
 
7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docxSunnyStrong
 
คุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxคุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxSunnyStrong
 
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxThe Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxSunnyStrong
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxSunnyStrong
 
100 words for people.docx
100 words for people.docx100 words for people.docx
100 words for people.docxSunnyStrong
 
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxSunnyStrong
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxSunnyStrong
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxSunnyStrong
 
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxSunnyStrong
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxSunnyStrong
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxSunnyStrong
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxSunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxพื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxSunnyStrong
 

More from SunnyStrong (20)

คุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxคุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docx
 
คุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxคุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docx
 
คุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxคุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docx
 
Austria.docx
Austria.docxAustria.docx
Austria.docx
 
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
 
7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx
 
คุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxคุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docx
 
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxThe Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
 
12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
100 words for people.docx
100 words for people.docx100 words for people.docx
100 words for people.docx
 
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docx
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxพื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
 

พื้นฐานชีวิต 18.pptx