Pbl 3
- 1. โจทย์ปัญหา PBL 3
เรื่อง ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม
ภารกิจ
1. จากสถานการณ์ปัญหาที่กล่าวมาแล้วนั้น นักเรียนสามารถอธิบายขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมได้
อย่างไร (0.5 คะแนน)
2. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาช่วยในการแก้ปัญหาในชีวิตประจาวันกลุ่มละ 1
ปัญหา เพื่อนามาเขียนโปรแกรม จากนั้นอธิบายว่าเพราะอะไรจึงเลือกปัญหานี้ (0.5 คะแนน)
3. แต่ละกลุ่มเสนอแนวทางที่จะสามารถนามาใช้แก้ปัญหาควรเป็นอย่างไร โดยบอกวิธีการหรือขั้นตอน
การทางานตามขั้นตอนการวิเคราะห์ปัญหา (2 คะแนน) คือ
3.1 การทาความเข้าใจกับปัญหา ว่าสิ่งที่ต้องการคืออะไร
3.2 ข้อมูลนาเข้ามีอะไรบ้าง
3.3 วิธีการที่ใช้ประมวลผลเป็นอย่างไร
3.4 ผลลัพธ์ที่ต้องการเป็นอย่างไร
3.5 กาหนดองค์ประกอบในการวิเคราะห์คือ ตัวแปร
- 2. แบบบันทึกการศึกษาค้นคว้าและการแก้ปัญหา
โจทย์ปัญหา PBL 3 เรื่อง ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม
รายวิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซีเบื้องต้น ง30201 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
สมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาวจิระภรณ์ นนท์พละ เลขที่ 21
2. นางสาวธนยา คูนีรัตน์ เลขที่ 23
3. นางสาวสุมิตรา บุษบา เลขที่ 24
ตอนที่ 1
หัวข้อปัญหา ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม
ทาความเข้าใจปัญหา ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมมีอะไรบ้าง และจะพัฒนาโปรแกรมอะไร
- สิ่งที่ต้องการรู้ ถ้าจะพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาช่วยเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน จะพัฒนา
โปรแกรมอะไร
- วิธีการหาคาตอบ 1.ปรึกษากันในกลุ่ม แล้วแบ่งหน้าที่กันสืบค้นปัญหาต่าง ๆ
2.สืบค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ
การศึกษาค้นคว้า / แก้ปัญหา
ชื่อสมาชิก การแบ่งหน้าที่ แหล่งข้อมูล/อ้างอิง
นางสาวจิระภรณ์ นนท์พละ สืบค้นข้อมูล www.docs.google.com
นางสาวธนยา คูนีรัตน์ สืบค้นข้อมูล www.ns2.spw.ac.th
นางสาวสุมิตรา บุษบา พิมพ์ -
ตอนที่ 2 สรุปผลการศึกษาค้นคว้า / แก้ปัญหาตามภารกิจ
1.ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมมี 5 ขั้นตอน คือ
1. การวิเคราะห์ปัญหา (Problem Analysis) เป็นขั้นตอนแรกของวงจรการพัฒนาโปรแกรม ซึ่งเป็น
การศึกษาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและค้นหาสิ่งที่ต้องการ เพื่อพิจารณาสิ่งต่อไปนี้
1. ข้อมูลที่จะนาเข้าสู่คอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง
2. วิธีการประมวลผลข้อมูลที่นาเข้าและผลลัพธ์ที่ต้องการ
3. การแสดงผลที่ได้ ต้องการแสดงผลลัพธ์อะไรและมีหน้าตาเป็นอย่างไร
- 3. 2. การออกแบบโปรแกรม (Program Design) เป็นขั้นตอนที่ 2 ของวงจรการพัฒนาโปรแกรมซึ่งการออกแบบ
โปรแกรมเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เครื่องมือช่วยในการออกแบบ เช่น ผังงาน (Flowchart) รหัสจาลอง (Pseudo
code) เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจขั้นตอนการทางานของโปรแกรมได้ดียิ่งขึ้น
3. การเขียนโปรแกรม (Program Coding) ซึ่งเป็นขั้นตอนหลังจากที่ได้มีการออกแบบโปรแกรมแล้ว ขั้นตอน
นี้เป็นการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ เช่น ภาษา C, ภาษา Pascal เป็นต้น ทั้งนี้แต่ละภาษาจะมี
ความเหมาะสมในการใช้งานแตกต่างกันออกไป
4. การทดสอบโปรแกรม (Program Testing) เป็นการนาโปรแกรมที่ลงรหัสแล้วเข้าคอมพิวเตอร์ เพื่อ
ตรวจสอบรูปแบบกฎเกณฑ์ของภาษา และผลการทางานของโปรแกรมนั้น ถ้าพบว่ายังไม่ถูกก็แก้ไขให้
ถูกต้อง ซึ่งการเกิด Error ของโปรแกรมมักมีมาจาก 2 สาเหตุเท่านั้น คือ
1. Syntax Error คือ ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนโค้ดคาสั่ง (Source Code) ที่ไม่ตรงกับไวยากรณ์
(Syntax) ของภาษาโปรแกรมมิ่งนั้นๆ
2. Logic Error เป็นข้อผิดพลาดที่เกิดจากการออกแบบอัลกอริทึมให้ทางานผิดวัตถุประสงค์
5. การบารุงรักษาโปรแกรม (Program Maintenance)เมื่อโปรแกรมผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอนเรียบร้อย
แล้ว และถูกนามาให้ผู้ใช้ได้ใช้งาน ในช่วงแรกผู้ใช้อาจจะยังไม่คุ้นเคยก็อาจทาให้เกิดปัญหาขึ้นมาบ้าง
ดังนั้นจึงต้องมีผู้คอยควบคุมดูแลและคอยตรวจสอบการทางาน การบารุงรักษาโปรแกรมจึงเป็นขั้นตอนที่
ผู้เขียนโปรแกรมต้องคอยเฝ้าดูและหาข้อผิดพลาดของโปรแกรมในระหว่างที่ผู้ใช้ใช้งานโปรแกรม และ
ปรับปรุงโปรแกรมเมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น หรือในการใช้งานโปรแกรมไปนานๆ ผู้ใช้อาจต้องการ
เปลี่ยนแปลงการทางานของระบบงานเดิมเพื่อให้เหมาะกับเหตุการณ์ นักเขียนโปรแกรมก็จะต้องคอย
ปรับปรุงแก้ไขโปรแกรมตามความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง
2.จงเขียนคาสั่งการตัดเกรดวิชาภาษาไทย ตามเงื่อนไขต่อไปนี้
1.ถ้าคะแนน>=80 ให้เกรด 4
2.ถ้าคะแนน>=70ให้เกรด 3
3.ถ้าคะแนน>=60ให้เกรด 2
4.ถ้าคะแนน>=50ให้เกรด 1
5.ถ้าคะแนน<50ให้เกรด 0
ที่เลือกโจทย์นี้เพราะสามารถนาไปใช้ในอาชีพในอนาคตได้ เช่น อาชีพคุณครู
3.แต่ละกลุ่มเสนอแนวทางที่จะสามารถนามาใช้แก้ปัญหาควรเป็นอย่างไร โดยบอกวิธีการหรือขั้นตอนการ
ทางานตามขั้นตอนการวิเคราะห์ปัญหา คือ
3.1 สิ่งที่ต้องการคือเกรด (grade)
3.2 คะแนน (Score)
- 4. 3.3 วิธีการที่ใช้ประมวลผล คือ
1.ถ้าคะแนน>=80 ให้เกรด 4
2.ถ้าคะแนน>=70ให้เกรด 3
3.ถ้าคะแนน>=60ให้เกรด 2
4.ถ้าคะแนน>=50ให้เกรด 1
5.ถ้าคะแนน<50 ให้เกรด 0
3.4ผลลัพธ์ที่ต้องการคือ
Grade
Score: XXXXXX
Grade: XXXXXX
3.5 คัวแปรคือ คะแนน (Score)
เกณฑ์การให้คะแนน
คะแนนรวมได้ระหว่าง 5 คะแนน หมายถึง ดีมาก
คะแนนรวมได้ระหว่าง 3-4 คะแนน หมายถึง ดี
คะแนนรวมได้ระหว่าง 1-2 คะแนน หมายถึง ปานกลาง
คะแนนรวมได้ระหว่าง 0 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง