การจัดวางหลอดไฟในห้องสมุดกลางโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้แสงสว่างในการใช้งานอย่าคึงมีประสิทธิภาพและเหมาะสม

1. การจัดวางหลอดไฟในห้องสมุดกลางโรงเรียนยุพราช
วิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้แสงสว่างในการใช้งาน
อย่าคึงมีประสิทธิภาพและเหมาะสม
ight
ibrary

2. ผู้จัดทา
นางสาวพัชรพร วรหาญ
ชั้นม.6/2 เลขที่ 201
02 นายพบเก้า สุวรรณวิชนีย์
ชั้นม.6/2 เลขที่ 7

3. สารบัญ
ผลเสียจากการอ่านหนังสือที่แสงสว่าง
ไม่เพียงพอ
วิธีการแก้ไข
ประโยชน์ที่ได้รับ
02
03
04
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน01

4. ที่มาและความสาคัญของ
โครงงาน

5. ห้องสมุดถือเป็นแหล่งเรียนรู้สาหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย
เนื่องจากห้องสมุดเป็นที่ รวบรวมทรัพยากรสารสนเทศต่างๆ
ที่นักเรียนสามารถค้นคว้าหาความรู้ทุกสาขาวิชาได้โดยอิสระ
ตามความสนใจของแต่ละบุคคล เป็นแหล่งช่วยให้เกิดความคิด
ริเริ่มสร้างสรรค์ เกิดนิสัยรักการอ่านและการศึกษาค้นคว้าด้วย
ตัวเอง อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทาให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิด
ประโยชน์สูงสุด

6. แสงสว่างในห้องสมุดถือว่ามีส่วนสาคัญอย่างมากในการอ่าน
หนังสือและค้นคว้าหาข้อมูล ซึ่งหากแสงสว่างในการอ่านหนังสือ
สว่างจนเกินไปหรือไม่เพียงพอ อาจทาให้เกิดอาการเมื่อยล้า
ทางสายตา มีอาการปวดบริเวณตา ตาพร่ามัว เคืองตา
ตาลายเป็นพักๆ หรืออาจแสบตาได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้จัดทา
โครงงานจึงได้ระดมความคิด ปรึกษาภายในกลุ่มเห็นควรว่า
การอ่านหนังสือในแต่ละครั้งนั้นควรมีแสงสว่างเพียงพอสาหรับ
การอ่านหนังสือโดยแสงสว่างนั้นไม่มืดหรือสว่างจ้าจนเกินไป

7. ในห้องสมุดกลาง โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย มีหลอดไฟอยู่
จานวนมาก ส่งผลให้มีแสงสว่างในการอ่านหนังสือมากเกินไป
ในขณะที่บางพื้นที่ภายในห้องสมุดดังกล่าวมีแสงสว่างไม่เพียงพอ
กับการอ่านหนังสือ จากการสังเกตของผู้จัดทา พบว่าการ
ติดตั้งหลอดไฟหรือการจัดวางตาแหน่งของหลอดไฟไม่เหมาะสม
กับพื้นที่ของห้องสมุดเท่าที่ควร

8. ผู้จัดทาจึงได้หาแนวคิด วิธีการในการติดตั้งจัดวางตาแหน่งของ
หลอดไฟในห้องสมุดดังกล่าว ให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
กับการอ่านหนังสือให้มากที่สุด โดยอาศัยหลักการ STEM ได้แก่
หลักการทางคณิตศาสตร์เกี่ยวกับทฤษฎี overlapping circles
ทางฟิสิกส์คือวิธีลูเมน (lumen method)

9. ซึ่งเป็นการหาพื้นที่ที่ทับซ้อนกันของวงกลมและการคานวณ
กาลังของความสว่าง (Luminous power) มาช่วยในการ
แก้ปัญหาซึ่งใช้โปรแกรมทางเทคโนโลยี ได้แก่ โปรแกรม DIALux
4.12 ในการแสดงผลที่คานวณได้และในอนาคตต่อไปอาจต้อง
อาศัยความรู้ทางวิศวกรรมเพื่อทดสอบจริง

10. ผลเสียจากการอ่านหนังสือที่
แสงสว่างไม่เพียงพอ

11. การอ่านหนังสือหรือเพ่งมองวัตถุที่อยู่ใกล้ในที่มืดทาให้ดวงตา
ล้าได้ ในที่ที่มีแสงน้อย ระดับความเปรียบต่าง (contrast) จะ
ลดลงระหว่างตัวอักษรสีดาที่อยู่บน หน้ากระดาษสีขาว
ที่มา http://woolfsonandtay.com

12. เพื่อทาให้อ่านหนังสือได้ชัดมากขึ้น อาจจะต้องเขยิบหนังสือเข้าใกล้ตา
การทาเช่นนี้ กล้ามเนื้อตา (ciliary muscles) รอบเลนส์ตาจะหดตัว
ทาให้เลนส์เปลี่ยนรูปร่างไปส่งผลให้เข้าไปยังจุดโฟกัสมาก(ในทางอ้อม)
ที่อยู่ด้านหลังตา ขณะที่ลูกตาทาการปรับด้วยกระบวนการเหล่านี้นั้น
อาจทาให้ปวดหัว หรือปวดตา
ที่มา http://wubook.wu.ac.th/?p=577

13. แต่เหตุผลที่จริงของอาการปวดนั้นมักมาจากการเกร็งของกล้ามเนื้อ
จากการใช้สายตา ไม่ได้เกิดมาจากระดับความมืดที่เราจ้องวัตถุอย่าง
ใกล้ๆ แต่อย่างใด ดังนั้นจึงอาจสรุปได้ว่า การอ่านหนังสือในที่มืด
เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ทาให้เกิดการเกร็งของกล้ามเนื้อตา
ที่มา http://www.scholarship.in.th/one-night-genuis/

15. วิธีการแก้ไข

16. ห้องสมุดเป็นพื้นที่บริการที่มีนักเรียนส่วนใหญ่เข้าไปใช้ใน
การอ่านหนังสือ ศึกษาหาความรู้ ดังนั้น สิ่งที่จะช่วยลด
ปัญหาการอ่านหนังสือในที่ที่แสงสว่างไม่เพียงพอ
ก็คือการจัดการปริมาณการส่องสว่าง

17. วัดขนาดห้องสมุด นับจานวนหลอดไฟและตรวจสอบจุดสว่างและจุดอับ
แสงของห้องสมุดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย เชียงใหม่ เพื่อใช้เป็นพื้นฐานใน
การทาห้องสมุดและวัดความส่องสว่างจริงโดยใช้แอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์
ในการวัด

19. ใช้โปรแกรม DIALux 4.12 ในการสร้างพิมพ์เขียว โดยการนาข้อมูลที่หา
มาได้กรอกลงในโปรแกรมขนาดของห้องสมุด วัดได้คือ ยาว 24.13 เมตร
กว้าง 19.304 เมตร สูง 3 เมตร ขนาดที่ได้ไม่รวมโต๊ะของคุณครูทั้ง
ด้านหน้าและด้านหลังของห้องสมุด

21. สร้างโมเดลห้องสมุด 3 มิติ เพื่อปรับภาพรวม
เตรียมการจัดวางหลอดไฟ

24. นาระยะห่างของหลอดไฟที่วัดได้จากห้องสมุด (64 หลอด)
มาใส่ในพิมพ์เขียวและโมเดล 3 มิติ

26. นาค่าที่คานวณได้มาเปรียบเทียบแล้วนาระยะที่เทียบได้มาจัดเรียง
ในโปรแกรม DIALux จากการคานวณระยะห่างของหลอดไฟที่ได้
ทาให้หลอดไฟมีระยะห่างทางแกน x เพิ่มขึ้นจาก 2.4 เพิ่มขึ้นมา
1.3 ทาให้ได้ระยะห่างใหม่เป็น 3.7 และทาให้หลอดไฟในห้องลดลง
ตามแกน y เป็นจานวน 8 หลอด
คานวณหาพื้นทับซ้อนของสว่างโดยใช้ Overlapping theory

28. นาจานวนหลอดไฟที่ได้จากการจัดหลอดไฟภายในห้องสมุดมา
คานวณค่าไฟที่ใช่ในรอบ 1 ปีเพื่อเปรียบเทียบกับค่าไฟของการ
จัดเรียงหลอดไฟแบบเก่า

29. แบบก่อนการทดลอง

30. แบบหลังการทดลอง

31. ประโยชน์ที่ได้รับ

32. ประสิทธิภาพในการอ่านหนังสือในห้องสมุดกลาง
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ มีมากขึ้น

33. ประหยัดจานวนการติดตั้งหลอดไฟใน
ห้องสมุดให้น้อยลง

34. บรรณานุกรม
มนตรี เงาเดช. 2558. โปรแกรมออกแบบแสงสว่าง (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://montri.
rmutl.ac.th/โปรแกรมออกแบบแสงสว่าง.html (สืบค้นวันที่ 17 เดือน พฤศจิกายน
ปี 2560)
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. การคานวณแสงสว่างภายในด้วยวิธีลูเมน (ออนไลน์).
สืบค้นจาก : http://www.teacher.ssru.ac.th/athisamai_so/file.php/1/Chap5
_Illumination_System_Design.pdf (สืบค้นวันที่ 4 เดือน มกราคม ปี 2561)
มหาวิทยาลัยบูรพา. คู่มือออกแบบและคานวณไฟฟ้าแสงสว่างโดยโปรแกรม DIAlux (ออนไลน์).
สืบค้นจาก : http://www.lib.buu.ac.th/st/Engineering/Electrical/2551/EE-51-
07.pdf (สืบค้นวันที่ 4 เดือน มกราคม ปี 2561)
Weisstein, Eric W. Circle-Circle Intersection (ออนไลน์). สืบค้นจาก :
http://www.mathworld.wolfram.com/ Circle-Circle Intersection.html (สืบค้นวันที่
4 เดือน มกราคม ปี 2561)

35. Weisstein, Eric W. Circle-Circle Intersection (ออนไลน์).
สืบค้นจาก : http://www.mathworld.wolfram.com/ Circle-
Circle Intersection.html (สืบค้นวันที่ 4 เดือน มกราคม ปี 2561)
ข่าวลวงโลก การอ่านหนังสือในที่แสงไม่เพียงพอทาให้สายตาสั้น (ออนไลน์)
สืบค้นจาก : http://www.lokehoon.com/topic.php?q_id=206
(สืบค้นวันที่ 6เดือน มกราคม ปี 2561)
บรรณานุกรม