SlideShare a Scribd company logo
1 of 6
Download to read offline
C
lassicC
afeBike
ความรู้เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์
1. การบํารุงรักษามอเตอร์ไซค์ให้อยู่กับเราไปนานๆ
ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ในการเดินทางคงคุ้นเคยกับศัพท์เหล่านี้มาบ้างแต่เคยตั้งใจที่จะอ่านเพื่อ ให้รู้แน่ว่ามันคือ
อะไรกันบ้างไหม เผื่อบ้างทีมีโอกาสคุย กับคนอื่นจะได้ไม่ต้องทําแค่ยืน ทําตาปริบๆ
ขนาด
ในที่นี้ก็คือ ความกว้าง ความยาว ความสูงของตัวรถ โดยความสูงจากพื้นนั้น จะวัดจากพื้นขึ้น ไปจนถึงจุด
ตํ่าสุดของตัวรถ ส่วนความกว้างนั้น จะวัดกันที่ปลายแฮนด์ด้าน หนึ่งไปจนถึง ปลายแฮนด์อีกด้านหนึ่ง ส่วน
ความสูงของตัวรถนั้น วัดจากจุดที่ล้อแตะพื้นจนถึงจุด ที่สูง ที่สุดของตัวรถ (ไม่รวมกระจกมองหลัง) ช่วงห่างล้อ
นั้นวัดที่แกนล้อหน้าถึงแกนล้อหลัง ส่วนความยาวของรถวัดขากขอบยางหน้า จนถึงขอบยางหลัง หรือบังโคลน
ท้าย
นํ้าหนัก
มีการชั่งอยู่ 2 แบบ คือ
1. นํ้าหนักสุทธิ เป็นนํ้าหนักตัวรถล้วนๆ ไม่รวมของเหลวที่เติมเข้าไป เช่น นํ้ามัน นํ้ามันเครื่อง นํ้ายาหล่อ
เย็น(สําหรับหม้อนํ้า) หรือนํ้ากลั่น ซึ่งข้อมูลรถส่วนใหญ่ จะบอก นํ้าหนักสุทธิเป็นส่วนมาก
2. นํ้าหนักรถ เป็นนํ้าหนักรวมของรถเมื่ออยู่สภาพพร้อมใช้งานจริง คือของเหลวทุก จุดมีการเติมเรียบร้อย
เหมือนการใช้งานจริง ซึ่งจะทําให้นํ้าหนักที่ได้จะมากกว่านํ้าหนักสุทธิ
เครื่องยนต์
ซึ่งจะมีทั้งแบบ 4 จังหวะ และแบบ 2 จังหวะ
ระบบระบายความร้อน
ระบบระบายความร้อนในมอเตอร์ไซค์นั้นมีหลายระบบดังนี้
1. ระบายความร้อนด้วยนํ้า คือการใช้นํ้าไปหมุนเวียน และนําความร้อนที่เกิดจาก เครื่อง ยนต์มาถ่ายเทสู่
บรรยากาศที่บริเวณแผงรังผึ้ง
2. ระบายความร้อนด้วยอากาศ ระบบนี้นิยมกันมากในรถเล็ก เนื่องจากเครื่องยนต์ มีความร้อนไม่มากนั้น
C
lassicC
afeBike
บริเวณเสื้อสูบก็จะมีครีบสําหรับเพิ่มพื้นที่ถ่ายเทความร้อนสู่บรรยากาศ
3. ระบายความร้อนด้วยนํ้ามันเครื่อง หรือที่รู้จักกันในนาม ออยล์คูลเลอร์ หลักการคล้ายๆ หม้อนนํ้า คือมี
การหมุนเวียนของนํ้ามันเครื่องที่เกิดความร้อนจากการหล่อลื่น ไปสู่งแผงรังผึ้ง ระบายความร้อน ถ่ายเทความ
ร้อนสู่บรรยากาศ จากนั้น นํ้ามันเครื่องที่เย็นตัวลง จะกลับเข้า สู่เครื่องยนต์เพื่อหล่อลื่นเครื่องยนต์ต่อไป ซึ่ง
นํ้ามันเครื่องเมื่อมีอุณหภูมิสูงขึ้นแล้วนั้น จะส่ง ผลต่อประสิทธิภาพต่อการหล่อลื่นโดยตรง คือจะลดความหนืด
ลงไป (ใสขึ้น) ทําให้การ หล่อลื่นด้อยลง
ระบบวาล์ว
จะมีในสเปกเครื่องยนต์ 4 จังหวะ โดยมีระบบต่างๆ ดังนี้
OHV ( โอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ) หรือที่รู้จักกันในนาม เครื่องตะเกียบ คือแคมชาร์ฟ (เพลาราวลิ้น หรือ
เพลาลูกเบี้ยว)จะอยู่บริเวณตีนเสื้อสูบ ขับวาล์วโดยการ ใช้ก้านกระทุ้ง (ที่มาของคําว่าเครื่องตะเกียบ) ไป
กระทุ้งวาล์ว ที่อยู่บริเวณฝาสูบ มักจะพบในรถรุ่นเก่าๆ และรถ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน
OHC (โอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ) หรือ SOHC (ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ) ก็คือ แคมชาร์ฟ อยู่เหนือ
ลูกสูบ คืออยู่ที่ฝาสูบ ขับวาล์วโดยตรง ( direct drive) หรือใช ◌้กระเดื่อง กดวาล์ว แต่รถจักรยานยนต์
ส่วนมากจะใช้กระเดื่องกดวาล์วเป็นส่วนใหญ่ ระบบนี้พบได้ทั่วไป ในรถเล็ก เช่น ฮอนด้า ดรีม ฮอนด้า โซนิก
เป็นต้น
DOHC (ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ) คือมีแคมชาร์ฟ จะมี 2 แท่ง อยู่ที่ฝาสูบ อาจจะขับวาล์วโดยตรง
หรือใช้กระเดื่องกดวาล์ว(ในรถรุ่นเก่า) ระบบนี้จะทําให้สามารถ ใช้วาล์วได้มากกว่าระบบอื่น
ส่วนจํานวนวาล์วนั้น ก็จะมีตั้งแต่ 2 วาล์ว(ไอดี 1 ไอเสีย 1) 3 วาล์ว(ไอดี 2 ไอเสีย 1) 4 วาล์ว(ไอดี 2
ไอเสีย 2) 5 วาล์ว(ไอดี 3 ไอเสีย 2) หรืออาจจะมีถึง 8 วาล์ว(ไอดี 4 ไอเสีย 4) ในรถฮอนด้า เอ็นอาร์ 750
แต่ลูกสูบจะเป็นแบบวงรี จึงทําให้มีพื้นที่ในการบรรจุวาล์วมาก
ในรถจักรยานยนต์ 2 จังหวะนั้น ระบบที่นิยมในปัจจุบันคือ รีดวาล์ว หคือแคร้งเครสรีดวาล์ว มีลักษณะเป็น
แผ่นลิ้นบางๆ ติดตั้งอยู่ที่ช่องทางไหลของไอดี และจะเปิดทางให้ไอดี ผ่าน เข้าสู่เครื่องยนต์ในจังหวะดูด และรีด
วาล์วจะปิดช่องทางไอดีไม่ให้ไหล ย้อนกลับด้วยแรงอัด ในขณะที่ลูกสูบเคลื่อนที่ลง
C
lassicC
afeBike
ขนาดความจุกระบอกสูบ (ซี.ซี.)
แสดงให้เห็นถึงขนาดของเครื่องยนต์ โดยสามารถวัดขนาดของ ซี.ซี. ได้จากการคํานวณ ปริมาตรลูกสูบในช่วง
เคลื่อนที่ในกระบอกสูบ คือ จากศูนย์ตายบนถึงศูนย์ตายล่าง สําหรับ เครื่องยนต์ 2 สูบ ขึ้นไป ให้รวมจํานวน ซี.
ซี. ทั้งหมดเข้าด้วยกัน
ระบบจุดระเบิด
เป็นอุปกรณ์ที่ทําให้เกิดประกายไฟแรงสูงที่เขี้ยวหัวเทียน เพื่อจุดระเบิดไอดี สําหรับรถผู้หญิงและรถสกูตเตอร์
นั้น มักจะใช้ระบบจุดระเบิดแบบ C.D.I.
ระบบนํ้ามันหล่อลื่น
มี 2 ระบบคือ
ระบบนํ้าหมันหล่อลื่นแบบใช้ปั๊ม (รถ 4 จังหวะ) ซึ่งจะใช้นํ้ามันเครื่อง เป็นตัวหล่อลื่นเครื่องยนต์ทั้งระบบ ตั้งแต่
เพลาราวริ้น กระบอกสูบ ชุดข้อเหวี่ยง จนไปถึงชุดเกียร์และคลัทช์(กรณีเป็นแบบคลัทช์เปียก)
ระบบหล่อลื่นแบบแยกส่วน หรือใช้ออโตลูป (รถ 2 จังหวะ) คือจะแยกส่วนการหล่อลื่นกัน โดยชุดเกียร์
และคลัทช์นั้น จะใช้นํ้ามันเกียร์หล่อลื่น ส่วนการหล่อลื่นกระบอกสูบและข้อเหวี่ยงนั้น จะใช้นํ้ามันออโตลูปเป็น
ตัวหล่อลื่น โดยจะรวมมากับไอดีและจะถูกเผาไหม้ไปพร้อมกับไอดี
ระบบคลัทช์
มีทั้งคลัทช์เปียกหลายแผ่นซ้อนกัน (แช่ในนํ้ามันเครื่อง) ซึ่งรถใช้งานส่วนใหญ่จะใช้ระบบนี้และคลัทช์แห้ง
หลายแผ่นซ้อนกัน ซึ่งจะไม่มีนํ้ามันเครื่องมาเกี่ยวข้องเลย นิยมใช้ในรถแข่ง เนื่องจากเสียงการทํางานดังมาก
และสึกหรอเร็ว แต่ให้ประสิทธิภาพการจับตัวของแผ่นคลัทช์ดีกว่าคลัทช์เปียก
ระบบสตาร์ท
มี 2 แบบ คือ ระบบสตาร์ทไฟฟ้ า คือใช้มอเตอร์เป็นตัวสตาร์ท เช่นในรถครอบครัว และระบบสตาร์ทเท้า ใช้
เท้าเหยียบคันสตาร์ท
แรงม้าสูงสุด
คือแรงที่เครื่องยนต์สามารถฉุดลากรถให้วิ่งไปได้ในระยะทางและในระยะเวลาหนึ่งๆ โดยที่ “ 1 แรงม้า จะ
C
lassicC
afeBike
เท่ากับ งานที่เกิดจากการเคลื่อนวัตถุหนัก 75 กก. ไปได้ระยะทาง 1 เมตร ภายใน 1 นาที ” ใช้
เปรียบเทียบแสดงค่าหน่วนวัดเป็นแรงม้า ซึ่งในขณะที่ เครื่องยนต์ทํางานเต็มที่ แรงม้าที่ได้ก็คือแรงม้าสูงสุด ซึ่ง
จะเกิดขึ้นในรอบเครื่องยนต์ที่ต่าง กันไป เช่น แรงม้าสูงสุดของรถสปอร์ต 150 ซี.ซี. คันหนึ่งเท่ากับ 35
PS ที่ 10500 รอบ/นาที แต่ถ้าเป็นรถที่เน้นการใช้งานในรอบตํ่าๆ เช่นรถ ชอปเปอร์ หรือ ครูสเซอร์
แรงม้าก็จะมาที่รอบตํ่ากว่า เช่น 25 PS ที่ 4500 รอบ/นาที เป็นต้น ซึ่งจะขับขี่ได้ง่ายกว่า รถสปอร์ต
แต่ความแรงก็จะน้อยกว่าเช่นกัน และหน่วยของแรงม้านั้น มีหลายหน่วยที่ใช้วัด เช่น PS PS(DIN)
HP หรือ กิโลวัตต์ ซึ่งวิธีวัดก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละระบบ
แรงบิดสูงสุด
แรงบิด(torque) ก็คือแรงฉุดลากของเครื่องยนต์ หรือกําลังของเครื่องนั่นเอง ไม่ใช่ความเร็ว ซึ่งจะส่งผล
ไปถึงอัตราเร่งนั่นเอง โดยเป็นแรงบิดของเพลาข้อเหวี่ยง คือ เมื่อเครื่องยนต์ทํางานเพลาข้อเหวี่ยงจะหมุนใน
อัตรา…รอบ/นาที และจะเกิดแรงบิดขึ้น ซึ่งในขณะเครื่องยนต์ทํางานเต็มที่นั้น แรงบิดที่ได้ก็คือ แรงบิดสูงสุด ซึ่ง
จะเกิดในรอบ เครื่องยนต์ที่ต่างกัน เช่นเดียวกับแรงม้าสูงสุด เช่น 2.75 กก.-ม.(กิโลกรัม-เมตร)/6500
รอบ/นาที ซึ่งหมายถึง เพลาข้อเหวี่ยงหมุนไป 6500 รอบ/นาที เกิดแรงบิดขึ้น 2.75 กก.-ม. (1 กก.-ม.
หมายถึงงานซึ่งเกิดจากการหมุนวัตถุที่มีรัศมี 1 เมตรไปได้โดยใช้แรง 1 กก.) ซึ่งในรถที่มีแรงบิดมาในรอบ
ตํ่าๆ เช่น 5000 รอบ ก็จะทําให้การขับขี่ไม่ต้องใช้คันเร่งมาก เช่นในรถชอปเปอร์ ส่วนรถสปอร์ตนั้น แรงบิด
มาที่รอบค่อนข้างสูง เช่น 8000 รอบ/นาที ขึ้นไป โดยจะอยู่ในรอบใกล้เคียงกับแรงม้าสูงสุด
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด
หมายถึง การหักเลี้ยวของรถไปด้านใดด้านหนึ่งจนสุด ในขณะที่รถอยู่ในลักษณะตั้งฉากกับพื้น แล้วหมุต
รอบตัวเองเป็นวงกลม รัศมีของวงกลมนั้นก็คือ รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดของรถคันนั้น
มุมไต่
เป็นมุกที่แสดงให้เห็นว่าในขณะที่รถอยู่ในตําแหน่งเกียร์ตํ่า จะสามารถไต่ขึ้นเนินได้เท่าไหร่ ซึ่งส่วนใหญ่รถ 1
จังหวะจะมีมุมไต่ที่ดีกว่า รถ 2 จังหวะ เนื่องจากเครื่องยนต์ 4 จังหวะ มีแรงบิดในรอบตํ่าที่ดีกว่ารถ 2
จังหวะ ที่มีความจุเท่ากัน
C
lassicC
afeBike
อัตราสิ้นเปลืองนํ้ามันเชื้อเพลิง
การคํานวณพิจารณาจากการใช้นํ้ามัน 1 ลิตร รถจะวิ่งไปได้ไกลกี่กิโลเมตร เช่น 100 กม./ลิตร (ค่าที่ได้
จากการทดสอบ ความเร็วที่ 30 กม./ชม.) คือ เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วคงที่ 30 กม./ชม. บนทางเรียบจะ
สามารถไปได้ไกล 100 กม. โดยใช้นํ้ามันเชื้อเพลิง 1 ลิตร นั่นเอง
ขนาดยาง
การบอกขนาดความกว้างของหน้ายางนั้น มีทั้งบอกขนาดเป็น "นิ้ว" เช่น 2.75 นิ้ว ขอบ 17 คือใช้กับวง
ล้อขอบ 17 นิ้ว และบอกขนาดยางเป็นมิลลิเมตร เช่น 100/70 ขอบ 17 คือ หน้ายางกว้าง 100
มม. แก้มยางสูงเป็น 70 % ของหน้ายาง คือ 70 มม. ใช้กับขอบล้อขนาด 17 นิ้ว โดยที่ 1 นิ้ว =
2.54 ซม.
ขนาดล้อ
คือขนาดความกว้างกระทะล้อ มักจะบอกเป็นนิ้ว เช่น กระทะล้อกว้าง 2.5 นิ้ว คือความกว้าง ของกระทะ
ล้อ ส่วนที่ใส่ยางนอกนั่นเอง และขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ ก็จะบอกขนาด เป็นนิ้วเช่นกัน เช่น 17 นิ้ว
18 นิ้ว เป็นต้น
มุมแคสเตอร์/ระยะเทรล
มุมแคสเตอร์ คือ มุมซึ่งอยู่ระหว่างแนวแกนช็อคอัพหน้ากับเส้นที่ลากตั้งฉากกับพื้นถึงคอรถ
ระยะเทรล คือ ระยะห่างระหว่างเส้นตั้งฉากที่ลาด จากพื้นดินผ่านจุดศูนย์กลาง ของแกนล้อ หน้ากับ เส้นที่ลาก
ต่อขนานออกจากแกนช็อคอัพหน้าตัดกับพื้นดิน ระยะทั้ง 2 มีความ สัมพันธ์กันคือ ถ้ามุมแคสเตอร์ยิ่งมีองศา
มากขึ้น ระยะเทรลก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ยกตัวอย่างรถที่มีมุมแคสเตอร์และระยะเทรลมาก เช่น รถชอปเปอร์
และรถครูสเซอร์ เป็นต้น ซึ่งจะมีผลดีต่อการทรงตัวในทางตรง แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้ามุมแคสเตอร์น้อยลง
ระยะเทรลก็จะน้อยลงไปด้วย เช่นในรถสปอร์ต ซึ่งจะมีความมั่นคงในทางโค้งมากขึ้น
ตัวถัง
มีหลายลักษณะ คือ
- แบบทวินสปาร์ เช่น ในรถ ฮอนด้า เอ็นเอสอาร์ เป็นต้น
- แบบดับเบิ้ลเครเดิล หรือทรงเปลคู่ เช่น ในรถ ยามาฮ่า อาร์เอ็กแซด เป็นต้น
C
lassicC
afeBike
- แบบอันเดอร์โบน หรือแบ็คโบนพื้นตํ่า เช่นในรถครอบครัว
- แบบไดมอน หรือทรงเปลเดี่ยว เช่น พวกรถคัสตอม หรือรถจักรยานยนต์รุ่นเก่าๆ (เช่น
ฮอนด้า วิง)
ระบบกันสะเทือน
ในด้านหน้า มีทั้งแบบ เทเลสโคปิก ซึ่งก็คือช็อคอัพหัวตั้งแบบที่ใช้งานกันทั่วไป และ แบบเทเลสโคปิก อัพไซด์
ดาวน์ หรือ ช็อคหัวกลับนั่นเอง นอกจากสองระบบดังกล่าวแล้ว ยัง มีระบบอื่นๆ อีกหลายแบบ เช่น ระบบสวิง
อาร์ม เช่นเดียวกับล้อหลัง เช่น ในรถ บิโมต้า เทซี่ หรือแบบเทเลเลเวอร์ โดยจะมีแขนยึดและช็อคอัพแยกตัว
ออกไป แบบในรถ บีเอ็มดับบลิว
ส่วนในด้านหลังนั้น ส่วนใหญ่จะใช้ระบบสวิงอาร์ม จุดหมุนเดียว และมีทั้งแบบช็อคอัพคู่และ ช็อคอัพเดี่ยว ซึ่ง
ในรถที่ใช้ช็อคอัพเดี่ยวนั้น ก็จะแยกออกเป็นแบบ โมโนช็อค คือ กระบอกช็อคยึดกับสวิงอาร์มโดยตรง เช่น ยา
มาฮ่า วีอาร์ ทีแซดอาร์ เจอาร์ เป็นต้น (ไม่ใช่ระบบโมโนครอส ตามที่ยามาฮ่าระบุมาแต่อย่างใด) กับแบบใช้
กระเดื่องทดแรง เช่น ในรถ คาวาซากิ เคอาร์ ซูซูกิ อาร์จีวี และ อาร์จี แกมม่า เป็นต้น และนอกเหนือจากนี้ยังมี
แบบโฟร์บาร์ลิ้งค์เกจ ซึ่งก็จะเป็นระบบคล้ายๆ กับระบบกันสะเทือนแบบปีกนก 2 ชั้น ในรถยนต์นั่นเอง (หาดู
ได้จากช่วงล่างด้านหน้าของรถกระบะ) ดังเช่นในรถ โมโตกุซซี่ บางรุ่น และระบบโปรอาร์ม(ชื่อเรียกเฉพาะของ
ฮอนด้า) หรือสวิงอาร์มแขนเดี่ยว เช่นในรถ ฮอนด้า เอ็นเอสอาร์ 150 เอสพี
ระบบเบรค
ส่วนใหญ่จะใช้อยู่ 2 ระบบก็คือ
1. ดรัมเบรค ทํางานโดยใช้ระบบกลไกล และสายเคเบิล
2. ดิสก์เบรค ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้แบบไฮดรอลิก 100 % คือใช้นํ้ามันไฮดรอลิก ไปดันลูกสูบ คา
ลิเปอร์ แต่ก็มีระบบอื่นๆ อีกเช่น สายถึงไฮดรอลิก (พบในรถรุ่นเก่าๆ) คือใช้สายเคเบิล ส่งแรงไปกดแม่ปั๊มที่คาลิ
เปอร์ และแบบใช้สายเคเบิลอย่างเดียว ซึ่งระบบนี้จะ ให้ประสิทธิภาพที่ตํ่าสุด โดยใช้กลไกที่คาลิเปอร์ไปดัน
ลูกสูบ ซึ่งส่วนใหญ่จะ มีใช้ในรถ ที่ความเร็วตํ่าๆ หรือในรถ ATV บางรุ่น

More Related Content

Featured

PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024Neil Kimberley
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)contently
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024Albert Qian
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsKurio // The Social Media Age(ncy)
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Search Engine Journal
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summarySpeakerHub
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Tessa Mero
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentLily Ray
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best PracticesVit Horky
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementMindGenius
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...RachelPearson36
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Applitools
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at WorkGetSmarter
 
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...DevGAMM Conference
 

Featured (20)

Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work
 
ChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slidesChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slides
 
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike RoutesMore than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
 
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
 

ความรู้เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์

  • 1. C lassicC afeBike ความรู้เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ 1. การบํารุงรักษามอเตอร์ไซค์ให้อยู่กับเราไปนานๆ ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ในการเดินทางคงคุ้นเคยกับศัพท์เหล่านี้มาบ้างแต่เคยตั้งใจที่จะอ่านเพื่อ ให้รู้แน่ว่ามันคือ อะไรกันบ้างไหม เผื่อบ้างทีมีโอกาสคุย กับคนอื่นจะได้ไม่ต้องทําแค่ยืน ทําตาปริบๆ ขนาด ในที่นี้ก็คือ ความกว้าง ความยาว ความสูงของตัวรถ โดยความสูงจากพื้นนั้น จะวัดจากพื้นขึ้น ไปจนถึงจุด ตํ่าสุดของตัวรถ ส่วนความกว้างนั้น จะวัดกันที่ปลายแฮนด์ด้าน หนึ่งไปจนถึง ปลายแฮนด์อีกด้านหนึ่ง ส่วน ความสูงของตัวรถนั้น วัดจากจุดที่ล้อแตะพื้นจนถึงจุด ที่สูง ที่สุดของตัวรถ (ไม่รวมกระจกมองหลัง) ช่วงห่างล้อ นั้นวัดที่แกนล้อหน้าถึงแกนล้อหลัง ส่วนความยาวของรถวัดขากขอบยางหน้า จนถึงขอบยางหลัง หรือบังโคลน ท้าย นํ้าหนัก มีการชั่งอยู่ 2 แบบ คือ 1. นํ้าหนักสุทธิ เป็นนํ้าหนักตัวรถล้วนๆ ไม่รวมของเหลวที่เติมเข้าไป เช่น นํ้ามัน นํ้ามันเครื่อง นํ้ายาหล่อ เย็น(สําหรับหม้อนํ้า) หรือนํ้ากลั่น ซึ่งข้อมูลรถส่วนใหญ่ จะบอก นํ้าหนักสุทธิเป็นส่วนมาก 2. นํ้าหนักรถ เป็นนํ้าหนักรวมของรถเมื่ออยู่สภาพพร้อมใช้งานจริง คือของเหลวทุก จุดมีการเติมเรียบร้อย เหมือนการใช้งานจริง ซึ่งจะทําให้นํ้าหนักที่ได้จะมากกว่านํ้าหนักสุทธิ เครื่องยนต์ ซึ่งจะมีทั้งแบบ 4 จังหวะ และแบบ 2 จังหวะ ระบบระบายความร้อน ระบบระบายความร้อนในมอเตอร์ไซค์นั้นมีหลายระบบดังนี้ 1. ระบายความร้อนด้วยนํ้า คือการใช้นํ้าไปหมุนเวียน และนําความร้อนที่เกิดจาก เครื่อง ยนต์มาถ่ายเทสู่ บรรยากาศที่บริเวณแผงรังผึ้ง 2. ระบายความร้อนด้วยอากาศ ระบบนี้นิยมกันมากในรถเล็ก เนื่องจากเครื่องยนต์ มีความร้อนไม่มากนั้น
  • 2. C lassicC afeBike บริเวณเสื้อสูบก็จะมีครีบสําหรับเพิ่มพื้นที่ถ่ายเทความร้อนสู่บรรยากาศ 3. ระบายความร้อนด้วยนํ้ามันเครื่อง หรือที่รู้จักกันในนาม ออยล์คูลเลอร์ หลักการคล้ายๆ หม้อนนํ้า คือมี การหมุนเวียนของนํ้ามันเครื่องที่เกิดความร้อนจากการหล่อลื่น ไปสู่งแผงรังผึ้ง ระบายความร้อน ถ่ายเทความ ร้อนสู่บรรยากาศ จากนั้น นํ้ามันเครื่องที่เย็นตัวลง จะกลับเข้า สู่เครื่องยนต์เพื่อหล่อลื่นเครื่องยนต์ต่อไป ซึ่ง นํ้ามันเครื่องเมื่อมีอุณหภูมิสูงขึ้นแล้วนั้น จะส่ง ผลต่อประสิทธิภาพต่อการหล่อลื่นโดยตรง คือจะลดความหนืด ลงไป (ใสขึ้น) ทําให้การ หล่อลื่นด้อยลง ระบบวาล์ว จะมีในสเปกเครื่องยนต์ 4 จังหวะ โดยมีระบบต่างๆ ดังนี้ OHV ( โอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ) หรือที่รู้จักกันในนาม เครื่องตะเกียบ คือแคมชาร์ฟ (เพลาราวลิ้น หรือ เพลาลูกเบี้ยว)จะอยู่บริเวณตีนเสื้อสูบ ขับวาล์วโดยการ ใช้ก้านกระทุ้ง (ที่มาของคําว่าเครื่องตะเกียบ) ไป กระทุ้งวาล์ว ที่อยู่บริเวณฝาสูบ มักจะพบในรถรุ่นเก่าๆ และรถ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน OHC (โอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ) หรือ SOHC (ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ) ก็คือ แคมชาร์ฟ อยู่เหนือ ลูกสูบ คืออยู่ที่ฝาสูบ ขับวาล์วโดยตรง ( direct drive) หรือใช ◌้กระเดื่อง กดวาล์ว แต่รถจักรยานยนต์ ส่วนมากจะใช้กระเดื่องกดวาล์วเป็นส่วนใหญ่ ระบบนี้พบได้ทั่วไป ในรถเล็ก เช่น ฮอนด้า ดรีม ฮอนด้า โซนิก เป็นต้น DOHC (ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ) คือมีแคมชาร์ฟ จะมี 2 แท่ง อยู่ที่ฝาสูบ อาจจะขับวาล์วโดยตรง หรือใช้กระเดื่องกดวาล์ว(ในรถรุ่นเก่า) ระบบนี้จะทําให้สามารถ ใช้วาล์วได้มากกว่าระบบอื่น ส่วนจํานวนวาล์วนั้น ก็จะมีตั้งแต่ 2 วาล์ว(ไอดี 1 ไอเสีย 1) 3 วาล์ว(ไอดี 2 ไอเสีย 1) 4 วาล์ว(ไอดี 2 ไอเสีย 2) 5 วาล์ว(ไอดี 3 ไอเสีย 2) หรืออาจจะมีถึง 8 วาล์ว(ไอดี 4 ไอเสีย 4) ในรถฮอนด้า เอ็นอาร์ 750 แต่ลูกสูบจะเป็นแบบวงรี จึงทําให้มีพื้นที่ในการบรรจุวาล์วมาก ในรถจักรยานยนต์ 2 จังหวะนั้น ระบบที่นิยมในปัจจุบันคือ รีดวาล์ว หคือแคร้งเครสรีดวาล์ว มีลักษณะเป็น แผ่นลิ้นบางๆ ติดตั้งอยู่ที่ช่องทางไหลของไอดี และจะเปิดทางให้ไอดี ผ่าน เข้าสู่เครื่องยนต์ในจังหวะดูด และรีด วาล์วจะปิดช่องทางไอดีไม่ให้ไหล ย้อนกลับด้วยแรงอัด ในขณะที่ลูกสูบเคลื่อนที่ลง
  • 3. C lassicC afeBike ขนาดความจุกระบอกสูบ (ซี.ซี.) แสดงให้เห็นถึงขนาดของเครื่องยนต์ โดยสามารถวัดขนาดของ ซี.ซี. ได้จากการคํานวณ ปริมาตรลูกสูบในช่วง เคลื่อนที่ในกระบอกสูบ คือ จากศูนย์ตายบนถึงศูนย์ตายล่าง สําหรับ เครื่องยนต์ 2 สูบ ขึ้นไป ให้รวมจํานวน ซี. ซี. ทั้งหมดเข้าด้วยกัน ระบบจุดระเบิด เป็นอุปกรณ์ที่ทําให้เกิดประกายไฟแรงสูงที่เขี้ยวหัวเทียน เพื่อจุดระเบิดไอดี สําหรับรถผู้หญิงและรถสกูตเตอร์ นั้น มักจะใช้ระบบจุดระเบิดแบบ C.D.I. ระบบนํ้ามันหล่อลื่น มี 2 ระบบคือ ระบบนํ้าหมันหล่อลื่นแบบใช้ปั๊ม (รถ 4 จังหวะ) ซึ่งจะใช้นํ้ามันเครื่อง เป็นตัวหล่อลื่นเครื่องยนต์ทั้งระบบ ตั้งแต่ เพลาราวริ้น กระบอกสูบ ชุดข้อเหวี่ยง จนไปถึงชุดเกียร์และคลัทช์(กรณีเป็นแบบคลัทช์เปียก) ระบบหล่อลื่นแบบแยกส่วน หรือใช้ออโตลูป (รถ 2 จังหวะ) คือจะแยกส่วนการหล่อลื่นกัน โดยชุดเกียร์ และคลัทช์นั้น จะใช้นํ้ามันเกียร์หล่อลื่น ส่วนการหล่อลื่นกระบอกสูบและข้อเหวี่ยงนั้น จะใช้นํ้ามันออโตลูปเป็น ตัวหล่อลื่น โดยจะรวมมากับไอดีและจะถูกเผาไหม้ไปพร้อมกับไอดี ระบบคลัทช์ มีทั้งคลัทช์เปียกหลายแผ่นซ้อนกัน (แช่ในนํ้ามันเครื่อง) ซึ่งรถใช้งานส่วนใหญ่จะใช้ระบบนี้และคลัทช์แห้ง หลายแผ่นซ้อนกัน ซึ่งจะไม่มีนํ้ามันเครื่องมาเกี่ยวข้องเลย นิยมใช้ในรถแข่ง เนื่องจากเสียงการทํางานดังมาก และสึกหรอเร็ว แต่ให้ประสิทธิภาพการจับตัวของแผ่นคลัทช์ดีกว่าคลัทช์เปียก ระบบสตาร์ท มี 2 แบบ คือ ระบบสตาร์ทไฟฟ้ า คือใช้มอเตอร์เป็นตัวสตาร์ท เช่นในรถครอบครัว และระบบสตาร์ทเท้า ใช้ เท้าเหยียบคันสตาร์ท แรงม้าสูงสุด คือแรงที่เครื่องยนต์สามารถฉุดลากรถให้วิ่งไปได้ในระยะทางและในระยะเวลาหนึ่งๆ โดยที่ “ 1 แรงม้า จะ
  • 4. C lassicC afeBike เท่ากับ งานที่เกิดจากการเคลื่อนวัตถุหนัก 75 กก. ไปได้ระยะทาง 1 เมตร ภายใน 1 นาที ” ใช้ เปรียบเทียบแสดงค่าหน่วนวัดเป็นแรงม้า ซึ่งในขณะที่ เครื่องยนต์ทํางานเต็มที่ แรงม้าที่ได้ก็คือแรงม้าสูงสุด ซึ่ง จะเกิดขึ้นในรอบเครื่องยนต์ที่ต่าง กันไป เช่น แรงม้าสูงสุดของรถสปอร์ต 150 ซี.ซี. คันหนึ่งเท่ากับ 35 PS ที่ 10500 รอบ/นาที แต่ถ้าเป็นรถที่เน้นการใช้งานในรอบตํ่าๆ เช่นรถ ชอปเปอร์ หรือ ครูสเซอร์ แรงม้าก็จะมาที่รอบตํ่ากว่า เช่น 25 PS ที่ 4500 รอบ/นาที เป็นต้น ซึ่งจะขับขี่ได้ง่ายกว่า รถสปอร์ต แต่ความแรงก็จะน้อยกว่าเช่นกัน และหน่วยของแรงม้านั้น มีหลายหน่วยที่ใช้วัด เช่น PS PS(DIN) HP หรือ กิโลวัตต์ ซึ่งวิธีวัดก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละระบบ แรงบิดสูงสุด แรงบิด(torque) ก็คือแรงฉุดลากของเครื่องยนต์ หรือกําลังของเครื่องนั่นเอง ไม่ใช่ความเร็ว ซึ่งจะส่งผล ไปถึงอัตราเร่งนั่นเอง โดยเป็นแรงบิดของเพลาข้อเหวี่ยง คือ เมื่อเครื่องยนต์ทํางานเพลาข้อเหวี่ยงจะหมุนใน อัตรา…รอบ/นาที และจะเกิดแรงบิดขึ้น ซึ่งในขณะเครื่องยนต์ทํางานเต็มที่นั้น แรงบิดที่ได้ก็คือ แรงบิดสูงสุด ซึ่ง จะเกิดในรอบ เครื่องยนต์ที่ต่างกัน เช่นเดียวกับแรงม้าสูงสุด เช่น 2.75 กก.-ม.(กิโลกรัม-เมตร)/6500 รอบ/นาที ซึ่งหมายถึง เพลาข้อเหวี่ยงหมุนไป 6500 รอบ/นาที เกิดแรงบิดขึ้น 2.75 กก.-ม. (1 กก.-ม. หมายถึงงานซึ่งเกิดจากการหมุนวัตถุที่มีรัศมี 1 เมตรไปได้โดยใช้แรง 1 กก.) ซึ่งในรถที่มีแรงบิดมาในรอบ ตํ่าๆ เช่น 5000 รอบ ก็จะทําให้การขับขี่ไม่ต้องใช้คันเร่งมาก เช่นในรถชอปเปอร์ ส่วนรถสปอร์ตนั้น แรงบิด มาที่รอบค่อนข้างสูง เช่น 8000 รอบ/นาที ขึ้นไป โดยจะอยู่ในรอบใกล้เคียงกับแรงม้าสูงสุด รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด หมายถึง การหักเลี้ยวของรถไปด้านใดด้านหนึ่งจนสุด ในขณะที่รถอยู่ในลักษณะตั้งฉากกับพื้น แล้วหมุต รอบตัวเองเป็นวงกลม รัศมีของวงกลมนั้นก็คือ รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดของรถคันนั้น มุมไต่ เป็นมุกที่แสดงให้เห็นว่าในขณะที่รถอยู่ในตําแหน่งเกียร์ตํ่า จะสามารถไต่ขึ้นเนินได้เท่าไหร่ ซึ่งส่วนใหญ่รถ 1 จังหวะจะมีมุมไต่ที่ดีกว่า รถ 2 จังหวะ เนื่องจากเครื่องยนต์ 4 จังหวะ มีแรงบิดในรอบตํ่าที่ดีกว่ารถ 2 จังหวะ ที่มีความจุเท่ากัน
  • 5. C lassicC afeBike อัตราสิ้นเปลืองนํ้ามันเชื้อเพลิง การคํานวณพิจารณาจากการใช้นํ้ามัน 1 ลิตร รถจะวิ่งไปได้ไกลกี่กิโลเมตร เช่น 100 กม./ลิตร (ค่าที่ได้ จากการทดสอบ ความเร็วที่ 30 กม./ชม.) คือ เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วคงที่ 30 กม./ชม. บนทางเรียบจะ สามารถไปได้ไกล 100 กม. โดยใช้นํ้ามันเชื้อเพลิง 1 ลิตร นั่นเอง ขนาดยาง การบอกขนาดความกว้างของหน้ายางนั้น มีทั้งบอกขนาดเป็น "นิ้ว" เช่น 2.75 นิ้ว ขอบ 17 คือใช้กับวง ล้อขอบ 17 นิ้ว และบอกขนาดยางเป็นมิลลิเมตร เช่น 100/70 ขอบ 17 คือ หน้ายางกว้าง 100 มม. แก้มยางสูงเป็น 70 % ของหน้ายาง คือ 70 มม. ใช้กับขอบล้อขนาด 17 นิ้ว โดยที่ 1 นิ้ว = 2.54 ซม. ขนาดล้อ คือขนาดความกว้างกระทะล้อ มักจะบอกเป็นนิ้ว เช่น กระทะล้อกว้าง 2.5 นิ้ว คือความกว้าง ของกระทะ ล้อ ส่วนที่ใส่ยางนอกนั่นเอง และขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ ก็จะบอกขนาด เป็นนิ้วเช่นกัน เช่น 17 นิ้ว 18 นิ้ว เป็นต้น มุมแคสเตอร์/ระยะเทรล มุมแคสเตอร์ คือ มุมซึ่งอยู่ระหว่างแนวแกนช็อคอัพหน้ากับเส้นที่ลากตั้งฉากกับพื้นถึงคอรถ ระยะเทรล คือ ระยะห่างระหว่างเส้นตั้งฉากที่ลาด จากพื้นดินผ่านจุดศูนย์กลาง ของแกนล้อ หน้ากับ เส้นที่ลาก ต่อขนานออกจากแกนช็อคอัพหน้าตัดกับพื้นดิน ระยะทั้ง 2 มีความ สัมพันธ์กันคือ ถ้ามุมแคสเตอร์ยิ่งมีองศา มากขึ้น ระยะเทรลก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ยกตัวอย่างรถที่มีมุมแคสเตอร์และระยะเทรลมาก เช่น รถชอปเปอร์ และรถครูสเซอร์ เป็นต้น ซึ่งจะมีผลดีต่อการทรงตัวในทางตรง แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้ามุมแคสเตอร์น้อยลง ระยะเทรลก็จะน้อยลงไปด้วย เช่นในรถสปอร์ต ซึ่งจะมีความมั่นคงในทางโค้งมากขึ้น ตัวถัง มีหลายลักษณะ คือ - แบบทวินสปาร์ เช่น ในรถ ฮอนด้า เอ็นเอสอาร์ เป็นต้น - แบบดับเบิ้ลเครเดิล หรือทรงเปลคู่ เช่น ในรถ ยามาฮ่า อาร์เอ็กแซด เป็นต้น
  • 6. C lassicC afeBike - แบบอันเดอร์โบน หรือแบ็คโบนพื้นตํ่า เช่นในรถครอบครัว - แบบไดมอน หรือทรงเปลเดี่ยว เช่น พวกรถคัสตอม หรือรถจักรยานยนต์รุ่นเก่าๆ (เช่น ฮอนด้า วิง) ระบบกันสะเทือน ในด้านหน้า มีทั้งแบบ เทเลสโคปิก ซึ่งก็คือช็อคอัพหัวตั้งแบบที่ใช้งานกันทั่วไป และ แบบเทเลสโคปิก อัพไซด์ ดาวน์ หรือ ช็อคหัวกลับนั่นเอง นอกจากสองระบบดังกล่าวแล้ว ยัง มีระบบอื่นๆ อีกหลายแบบ เช่น ระบบสวิง อาร์ม เช่นเดียวกับล้อหลัง เช่น ในรถ บิโมต้า เทซี่ หรือแบบเทเลเลเวอร์ โดยจะมีแขนยึดและช็อคอัพแยกตัว ออกไป แบบในรถ บีเอ็มดับบลิว ส่วนในด้านหลังนั้น ส่วนใหญ่จะใช้ระบบสวิงอาร์ม จุดหมุนเดียว และมีทั้งแบบช็อคอัพคู่และ ช็อคอัพเดี่ยว ซึ่ง ในรถที่ใช้ช็อคอัพเดี่ยวนั้น ก็จะแยกออกเป็นแบบ โมโนช็อค คือ กระบอกช็อคยึดกับสวิงอาร์มโดยตรง เช่น ยา มาฮ่า วีอาร์ ทีแซดอาร์ เจอาร์ เป็นต้น (ไม่ใช่ระบบโมโนครอส ตามที่ยามาฮ่าระบุมาแต่อย่างใด) กับแบบใช้ กระเดื่องทดแรง เช่น ในรถ คาวาซากิ เคอาร์ ซูซูกิ อาร์จีวี และ อาร์จี แกมม่า เป็นต้น และนอกเหนือจากนี้ยังมี แบบโฟร์บาร์ลิ้งค์เกจ ซึ่งก็จะเป็นระบบคล้ายๆ กับระบบกันสะเทือนแบบปีกนก 2 ชั้น ในรถยนต์นั่นเอง (หาดู ได้จากช่วงล่างด้านหน้าของรถกระบะ) ดังเช่นในรถ โมโตกุซซี่ บางรุ่น และระบบโปรอาร์ม(ชื่อเรียกเฉพาะของ ฮอนด้า) หรือสวิงอาร์มแขนเดี่ยว เช่นในรถ ฮอนด้า เอ็นเอสอาร์ 150 เอสพี ระบบเบรค ส่วนใหญ่จะใช้อยู่ 2 ระบบก็คือ 1. ดรัมเบรค ทํางานโดยใช้ระบบกลไกล และสายเคเบิล 2. ดิสก์เบรค ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้แบบไฮดรอลิก 100 % คือใช้นํ้ามันไฮดรอลิก ไปดันลูกสูบ คา ลิเปอร์ แต่ก็มีระบบอื่นๆ อีกเช่น สายถึงไฮดรอลิก (พบในรถรุ่นเก่าๆ) คือใช้สายเคเบิล ส่งแรงไปกดแม่ปั๊มที่คาลิ เปอร์ และแบบใช้สายเคเบิลอย่างเดียว ซึ่งระบบนี้จะ ให้ประสิทธิภาพที่ตํ่าสุด โดยใช้กลไกที่คาลิเปอร์ไปดัน ลูกสูบ ซึ่งส่วนใหญ่จะ มีใช้ในรถ ที่ความเร็วตํ่าๆ หรือในรถ ATV บางรุ่น