ฝายแม้ว
- 2. พระราชดารั ส
“ . . . . ... สาห รั บ ต้ น น้ า ไ ม้ ที่ ขึ้ น อ ยู่ ใ น บ ริ เ ว ณ ส อ ง ข้ า ง ลา ห้ ว ย จา เ ป็ น ต้ อ ง รั กษ า ไ ว้ ใ ห้ ดี เ พ ร า ะ จ ะ ช่ ว ย เ ก็ บ รั กษ า
ค ว า ม ชุ่ ม ชื้ น ไ ว้ ส่ ว น ต า ม ร่ อ ง น้ า แ ล ะ บ ริ เ ว ณ ที่ น้ า ซั บ ก็ ค ว ร ส ร้ า ง ฝ า ย ข น า ด เ ล็ กกั้ น น้ า ไ ว้ ใ น ลั ก ษ ณ ะ ฝ า ย ชุ่ ม ชื้ น
แ ม้ จ ะ มี จา น ว น น้ อ ย ก็ ต า ม สาห รั บ แ ห ล่ ง น้ า ที่ มี ป ริ ม า ณ น้ า ม า ก จึ ง ส ร้ าง ฝ า ย เ พื่ อ ผั น น้ า ล ง ม าใ ช้ ใ น พื้ น ที่
เ พ า ะ ป ลู ก .. .... ”
พ ร ะ ร า ชดา รั ส เมื่ อ วั น ที่ 1 มี น า ค ม 2 5 2 1 ณ อา เ ภ อ แ ม่ ล า น้ อ ย จั ง ห วั ด แ ม่ ฮ่ อ ง สอ น
เ มื่ อ วั น ที่ 1 2 กุ ม ภ า พั น ธ์ 2 5 4 4
ส ม เ ด็ จ พ ร ะ น า ง เ จ้ า สิ ริ กิ ติ์ พ ร ะ บ ร ม ร า ชิ นี น า ถ ไ ด้ เ ส ด็ จ พ ร ะ ร า ชดา เ นิ น ไ ป ป ร ะ ทั บ แ ร ม
ณ พื้ น ที่ ป่ า ต้ น น้ า ห้ ว ย น้ า งุ ม ห น่ ว ย จั ด ก า ร ต้ น น้ า ด อ ย ส า ม ห มื่ น
อา เ ภ อ เ ชี ย ง ด า ว จั ง ห วั ด เ ชี ย ง ใ ห ม่ ท ร ง เ ล็ ง เ ห็ น ถึ ง ค ว า ม สา คั ญ ข อ ง ฝ าย ต้ น น้ า ไ ด้ พ ร ะ ร า ชท า น ฝ าย ต้ น น้ า เ พื่ อ เ ป็ น
แ บ บ อ ย่ า ง ใ น ก าร ดา เ นิ น ง า น เ กี่ ย ว กั บ ฝ า ย ต้ น น้ า ใ น พื้ น ที่ ป่ า ไ ม้ บ ริ เ ว ณ ต้ น น้ า ลา ธ า ร ต่ อ ไ ป
- 3. “....ควรส ร้ างฝายต้ น น้ า ลาธารตามร่ องน้ า เพื่ อ ช่ วย ชะล อก ระ แสน้ า และ เก็ บ กั ก น้ า สาหรั บ สร้ างความชุ่ มชื้ นใ ห้ ก ั บ บริ เวณ
ต้ น น้ า ....”
เมื่ อ วั น ที่ 16 กั น ยายน 2544 นายกรั ฐ มนตรี และ คณะรั ฐ มนตรี เดิ นทางไปประชุ มคณะ รั ฐมนตรี นอก สถานที่ ที่ ศู น ย์ ศึ กษาการ
พั ฒ นาห้ ว ย ฮ่ อ ไคร้ อั น เนื่ องมาจาก พระราชดาริ อ.ดอยสะเก็ ด จ.เชี ยงใหม่ น ายกรั ฐ มนตรี แล ะคณะรั ฐมนตรี ได้ ร่ วมกั น
ก่ อ สร้ างฝายต้ น น้ า ด้ ว ย
- 4. วั ต ถุ ป ระสงค์ ใ นการสร้ างผาย
เพื่ อ ชะลอการไหลและลดความรุ นแรงของกระแสน้ า ในลาธาร ไม่ ใ ห้ ไ หลหลากอย่ า งรวดเร็ วและทาให้ น้ า ซึ ม
ลงสู่ ดิ น ได้ ม ากขึ้ น เพิ่ ม ความชุ่ ม ชื้ น ส่ งผลให้ เ กิ ด ความหลากหลายทางชี วภาพของระบบนิ เวศป่ าต้ น น้ า ลาธาร
เพื่ อ ลดความรุ นแรงของการเกิ ด การชะล้ า งพั ง ทลายของดิ น และสามารถกั ก เก็ บ ตะกอนและเศษซากพื ช ที่ ไ หล
ลงมากั บ น้ า ในลาธารบนพื้ น ที่ ต ้ น น้ า ลาธาร ซึ่ งจะช่ วยยื ด อายุ ข องแหล่ ง น้ า ตอนล่ า งให้ ต้ื นเขิ น ช้ า ลง และทาให้ มี
ปริ มาณและคุ ณภาพของน้ า ที่ ดี ขึ้ น
เพื่ อ กั ก เก็ บ น้ า ไว้ เ ป็ นแหล่ ง น้ า สาหรั บ ใช้ ใ นการอุ ป โภคบริ โภคของมนุ ษ ย์ แ ละสั ต ว์ ป่ า ตลอดจนการ
เกษตรกรรม
- 5. ข้ อควรคานึ ง ในการสร้ างฝาย
ควรสารวจสภาพพื น ที่ วั ส ดุ ก่ อ สร้ างตามธรรมชาติ และรู ปแบบของฝายต้ นน ้าที่ เ หมาะสมกั บ ภู มิ ป ระเทศให้ มาก
้
ที่ สุ ด
ต้ องคานึ ง ถึ ง ความแข็ ง แรงให้ มากพอที่ จ ะไม่ เ กิ ด การพั ง ทลายเสี ย หายยามที่ ฝ นตกหนั ก และกระแสน ้าไหลแรง
ควรก่ อ สร้ างในบริ เวณลาห้ วยที่ มี ค วามลาดชั น ต่า และแคบ
สาหรั บฝายกึ่ ง ถาวรและฝายถาวร ควรก่ อ สร้ างฐานให้ ลึ ก ถึ ง หิ น ดานร่ องห้ วย (bedrock) เพื่ อ ที่ จ ะสามารถดั ก
และดึ ง น ้าใต้ ดิ น เหนื อ ฝายได้
วั ส ดุ ก่ อ สร้ างฝายต้ นน ้าลาธาร ประเภทกิ่ ง ไม้ ท่ อ นไม้ ที่ นามาใช้ ในการสร้ างจะต้ อง ระมั ด ระวั ง ใช้ เฉพาะไม้ ล้ มขอน
นอนไพรเป็ นลาดั บ แรก ก่ อ นที่ จ ะใช้ กิ่ ง ไม้ ท่ อ นไม้ จากการริ ดกิ่ ง ถ้ าจาเป็ นให้ ใช้ น้ อยที่ สุ ด
จั ด ลาดั บ ความสาคั ญ ของลาห้ วย และต้ องพิ จ ารณาสภาพแวดล้ อมและความรุ นแรงของปั ญหาในพื น ที่ เ ป็ นสาคั ญ
้
หากมี ส ภาพป่ าที่ ค่ อ นข้ างสมบู ร ณ์ หรื อมี ต้ นไม้ หนาแน่ น ความจาเป็ นก็ จ ะลดน้ อยลง อาจจะสร้ างบางจุ ด เสริ ม
เท่ า นั น
้
- 6. รู ป แบบของฝายต้ นน ้าลาธาร
1. ฝายต้ นนา ลาธารแบบผสมผสาน
้ เป็ นฝายที่ ส ร้ างขึ้ นเป็ นการชั่ ว คราว เพื่ อ ขวางทางเดิ นของน้ า ในลาธาร หรื อร่ อง
น้ า สามารถทาได้ อ ย่ า งรวดเร็ วด้ ว ยวั ส ดุ ที่ หาง่ า ยและ ราคาถู ก โดยใช้ ว ั ส ดุ ที่ มี อ ยู่ ใ นท้ อ งที่ นั้ น ได้ แ ก่ กิ่ งไม้ ใบไม้ เสาไม้
ก้ อ นหิ น กระสอบทรายผส มซี เมนต์ หรื อลวดตาข่ า ย หรื อวั ส ดุ ที่ คล้ า ยคลึ งกั น ดั ง นั้ น ฝายชนิ ดนี้ อาจมี ชื่ อเรี ย ก ตามวั ส ดุ ที่ ใ ช้
หรื อลั ก ษณะที่ ส ร้ าง อาทิ ฝายผสมผสานแบบไม้ ไ ผ่ ฝายผสมผสานแบบคอก หมู ฝายผสมผสานแบบก ระส อบ ฝาย
ผสมผสานแบบหิ นทิ้ ง และฝายผสมผสานแบบล วดตาข่ า ย เป็ นต้ น ความสู งทั้ งหมดของฝาย ประมาณ 0.6-1.0 เมตร ราคา
ในการสร้ างฝายประมาณ 5,000 บาท อายุ ข องฝายประเภทนี้ ขึ้ นอยู่ ก ั บ วั ส ดุ ที่ ใ ช้ เ ป็ นสาคั ญ โดยทั่ ว ไปควรมี อ ายุ ก ารใช้ ง าน
ประมาณ 3-5 ปี
จุ ด ที่ จ ะสร้ างฝาย ควรจะเป็ นบริ เวณตอนบนของลาห้ ว ย หรื อร่ องน้ า (first order) และสร้ างห่ างกั น โดยใ ห้ สั น ของฝาย ที่ ต่า
กว่ า อยู่ สู งเท่ า กั บ ฐานของฝายที่ อยู่ ถ ั ด ขึ้ นไป แต่ อ ย่ า งไรก็ ต าม ก็ ข้ ึ นอยู่ ก ั บ การตั ด สิ นใจใ นพื้ นที่ เป็ นสาคั ญ ฝายชนิ ดนี้ จะ
สามารถดั ก ตะก อน ชะลอการไหลของน้ า และเพิ่ ม ความชุ่ มชื้ นบริ เวณรอบ ฝาย
- 7. ฝายต้ นน ้าลาธารแบบกึ่ ง ถาวร
ฝายต้ น น้ า ลาธารแบบกึ่ งถาวร เป็ นฝายที่ ส ร้ างด้ ว ยคอนก รี ตเสริ มเหล็ ก คอนกรี ตอั ด แรง หรื อก่ อ อิ ฐ ถื อปู น ราคาประมาณ
25,000 บาท
จุ ด ที่ จ ะสร้ างฝาย ควรสร้ างบริ เวณตอนก ลาง และตอนล่ า งของลาธารหรื อร่ องน้ า (second order) ที่ ก ว้ า งไม่ เ กิ น 3 เมตร
ฝายชนิ ดนี้ จะสามารถ ดั ก ตะกอน และเก็ บ กั ก น้ า ได้ ใ นช่ วงฤ ดู แล้ ง
- 8. ฝายต้ นน ้าลาธารแบบถาวร
ฝายต้ น น้ า ลาธารแบบถาวร เป็ นฝายที่ ส ร้ า งด้ ว ยคอนกรี ตเสริ มเหล็ ก คอนกรี ตอั ด แรง หรื อ ก่ อ อิ ฐ ถื อ ปู น ราคา
ประมาณ 50,000 บาท
จุ ด ที่ จ ะสร้ า งฝาย ควรสร้ า งบริ เวณตอนปลายของลาธารหรื อร่ องน้ า (second or third order) ที่ ก ว้ า งไม่ เ กิ น
5 เมตร ฝายชนิ ดนี้ จะสามารถดั ก ตะกอนและเก็ บ กั ก น้ า ในฤดู แ ล้ ง ได้ ดี สามารถอานวยประโยชน์ เ ป็ นแหล่ ง น้ า
ของชุ มชนได้ อี ก ทางหนึ่ งด้ ว ย
- 9. ประโยชน์ ข องฝายน ้าลาธาร
ช่ วยลดการชะล้ า งพั ง ทลายของดิ น และลดความรุ นแรงของกระแสน้ า ในลาธาร ทาให้ ร ะยะเวลาการไหลของน้ า
เพิ่ ม มากขึ้ น ความชุ่ ม ชื้ นเพิ่ ม ขึ้ น และแผ่ ข ยายกระจายความชุ่ ม ชื้ นออกไปเป็ นวงกว้ า งในพื้ น ที่ ท้ ั งสองฝั่ ง ของลาห้ ว ย
นอกจากนี้ ยั ง ช่ วยเพิ่ ม ปริ มาณน้ า ใต้ ดิ น บางส่ วนด้ ว ย
ช่ วยกั ก เก็ บ ตะกอนและวั ส ดุ ต่ า ง ๆ ที่ ไหลลงมากั บ น้ า ในลาห้ ว ยได้ ดี เป็ นการช่ วยยื ด อายุ แ หล่ ง น้ า ตอนล่ า งให้ ต้ื นเขิ น
ช้ า ลง คุ ณ ภาพของน้ า มี ต ะกอนปะปนน้ อ ยลง
ช่ วยเพิ่ ม ความหลากหลายทางชี วภาพ และการทดแทนของสั ง คมพื ช ให้ แ ก่ พ้ื น ที่
โดยรอบ
ทาให้ เ ป็ นแหล่ ง ที่ อยู่ อ าศั ย ของสั ต ว์ น้ า และใช้ เ ป็ นแหล่ ง น้ า เพื่ อ การอุ ป โภคบริ โภคของมนุ ษย์ แ ละสั ต ว์ ป่ าต่ า ง ๆ
ตลอดจนนาไปใช้ ใ นการเกษตรได้ อี ก ด้ ว ย
ช่ วยลดความรุ นแรงของการเกิ ดไฟป่ าในฤดู แ ล้ ง
- 10. การบารุ ง รั ก ษาฝายต้ นน ้าลาธาร
เนื่ องจากฝายแต่ ล ะชนิ ดมี ก ารใช้ ว ั ส ดุ แ ละมี อ ายุ ก ารใช้ ง านแตกต่ า งกั น วั ส ดุ แต่ ล ะอย่ า งที่ ใ ช้ อ าจเสื่ อมสลาย
ตามธรรมชาติ ฉะนั้ น ควรมี ก ารบารุ งรั ก ษาให้ อ ยู่ ใ นสภาพที่ ส มบู ร ณ์ และเป็ นปกติ ใ นแต่ ล ะปี ก่ อ นฤดู ฝ นจะ
มาถึ ง เช่ น ถ้ า หากเป็ นฝายเศษไม้ หรื อฝายกระสอบทราย ควรมี ก ารซ่ อมแซมเสาหลั ก และเพิ่ ม เติ ม
ส่ วนประกอบที่ ชารุ ด ส่ วนฝายกึ่ งถาวรและฝายถาวรนั้ น ควรหมั่ น ตรวจรอยรั่ ว ซึ มของน้ า บนตั ว ฝายตลอดจน
สิ่ งกี ด ขวางทางน้ า เป็ นประจาทุ ก ปี ส่ วนฝายที่ มี ว ั ต ถุ ป ระสงค์ ใ นการเก็ บ กั ก น้ า เพื่ อ ประโยชน์ ด้ า นใดด้ า นหนึ่ ง
ถ้ า หากมี ต ะกอนทั บ ถมมากควรมี ก าร ขุ ด ลอกเพื่ อ ให้ มี พ้ื น ที่ ก ั ก เก็ บ น้ า ได้ เ พี ย งพอ
นางสาวนิ ศ ารั ต น์ ชิ ตเกสร เลขที่ 27 ม.4/6