Submit Search
Upload
โครงงานคอมพิวเตอร์
•
Download as PPTX, PDF
•
0 likes
•
45 views
M
Mongkon Khumpo
Follow
โครงงานคอมพิวเตอร์
Read less
Read more
Education
Report
Share
Report
Share
1 of 19
Download now
Recommended
Com project
Com project
BanditOumchaigad
กิจกรรมที่ 3 presentation
กิจกรรมที่ 3 presentation
atipa49855
กิจกรรมที่ 3 presentation
กิจกรรมที่ 3 presentation
atipa49855
Computer14
Computer14
stampmin
Work 3
Work 3
dadydady2
กิจกรรมที่2-3-4 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2-3-4 โครงงานคอมพิวเตอร์
พีพี ปฐพี
ใบงานที่ 2 3 4
ใบงานที่ 2 3 4
siriluck29
Polly pele
Polly pele
Polly Rockheels
Recommended
Com project
Com project
BanditOumchaigad
กิจกรรมที่ 3 presentation
กิจกรรมที่ 3 presentation
atipa49855
กิจกรรมที่ 3 presentation
กิจกรรมที่ 3 presentation
atipa49855
Computer14
Computer14
stampmin
Work 3
Work 3
dadydady2
กิจกรรมที่2-3-4 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2-3-4 โครงงานคอมพิวเตอร์
พีพี ปฐพี
ใบงานที่ 2 3 4
ใบงานที่ 2 3 4
siriluck29
Polly pele
Polly pele
Polly Rockheels
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Plai Plaifah
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
เซฟ หัวเกรียน
Comchap
Comchap
jeeranuntacharoen
Presentation1
Presentation1
Nichaphat Sanguthai
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
buntitaoopifif
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
auttawut singkeaw
ใบงานที่2
ใบงานที่2
Panipak ForWorks
Computer presentation
Computer presentation
tapanon1
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
buntitaoopifif
Pro 23
Pro 23
Namphung Thegang
โครงงานคอมพิวเตอร์เลขที่ 5,27
โครงงานคอมพิวเตอร์เลขที่ 5,27
Chonlakan Kuntakalang
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
supakeat
Presentation computer project
Presentation computer project
thanapong46655
กิจกรรมที่ 2 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 2 โครงงานคอมพิวเตอร์
ธันย์ชนก ศรีวงค์
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8
noeypornnutcha
ใบงาน2,3,4
ใบงาน2,3,4
Chanikarn Kumprom
การนำเสนอ
การนำเสนอ
วราภรณ์ ยอดชะลูด
งานคอม2
งานคอม2
Charisma An
Com2com
Com2com
NattanichaLaochumpha
หลักการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
หลักการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
EKNARIN
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
Me'e Mildd
AT1AT1
AT1AT1
PacharaphornPiewkham
More Related Content
What's hot
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Plai Plaifah
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
เซฟ หัวเกรียน
Comchap
Comchap
jeeranuntacharoen
Presentation1
Presentation1
Nichaphat Sanguthai
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
buntitaoopifif
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
auttawut singkeaw
ใบงานที่2
ใบงานที่2
Panipak ForWorks
Computer presentation
Computer presentation
tapanon1
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
buntitaoopifif
Pro 23
Pro 23
Namphung Thegang
โครงงานคอมพิวเตอร์เลขที่ 5,27
โครงงานคอมพิวเตอร์เลขที่ 5,27
Chonlakan Kuntakalang
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
supakeat
Presentation computer project
Presentation computer project
thanapong46655
กิจกรรมที่ 2 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 2 โครงงานคอมพิวเตอร์
ธันย์ชนก ศรีวงค์
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8
noeypornnutcha
ใบงาน2,3,4
ใบงาน2,3,4
Chanikarn Kumprom
การนำเสนอ
การนำเสนอ
วราภรณ์ ยอดชะลูด
งานคอม2
งานคอม2
Charisma An
Com2com
Com2com
NattanichaLaochumpha
หลักการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
หลักการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
EKNARIN
What's hot
(20)
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Comchap
Comchap
Presentation1
Presentation1
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่2
ใบงานที่2
Computer presentation
Computer presentation
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
Pro 23
Pro 23
โครงงานคอมพิวเตอร์เลขที่ 5,27
โครงงานคอมพิวเตอร์เลขที่ 5,27
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Presentation computer project
Presentation computer project
กิจกรรมที่ 2 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 2 โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8
ใบงาน2,3,4
ใบงาน2,3,4
การนำเสนอ
การนำเสนอ
งานคอม2
งานคอม2
Com2com
Com2com
หลักการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
หลักการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
Me'e Mildd
AT1AT1
AT1AT1
PacharaphornPiewkham
3
3
Je M'appelle Ammy Kjn
3
3
Je M'appelle Ammy Kjn
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Pear Towichai
ใบงานที่3
ใบงานที่3
Sornnarin Wuthifuey
K3
K3
Warunee Somnual
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Pear Towichai
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Pear Towichai
หลักการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
หลักการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
Neys Swift
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
Siripassorn
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
คีตะบลู รักคำภีร์
K3
K3
Nontt' Panich
K3.1
K3.1
Nontt' Panich
K3
K3
minimalistknont
K3.1
K3.1
Nontt' Panich
K3
K3
Nontt' Panich
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Kanyarad Smlf
Www
Www
ssuser72835d
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
Net'Net Zii
Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์
(20)
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
โครงงานคอมพิวเตอร์_604_0226
AT1AT1
AT1AT1
3
3
3
3
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่3
ใบงานที่3
K3
K3
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
หลักการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
หลักการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง โครงงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
K3
K3
K3.1
K3.1
K3
K3
K3.1
K3.1
K3
K3
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Www
Www
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
More from Mongkon Khumpo
6 จังหวัดน่าเที่ยว
6 จังหวัดน่าเที่ยว
Mongkon Khumpo
6 จังหวัดน่าเที่ยว
6 จังหวัดน่าเที่ยว
Mongkon Khumpo
งานอาม
งานอาม
Mongkon Khumpo
กิจกรรมที่5 โครงร่างโครงงานเรื่อง 6 จังหวัดน่าเที่ยว
กิจกรรมที่5 โครงร่างโครงงานเรื่อง 6 จังหวัดน่าเที่ยว
Mongkon Khumpo
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
Mongkon Khumpo
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
Mongkon Khumpo
กิจกรรมที่2
กิจกรรมที่2
Mongkon Khumpo
ความหมาย ความสำคัญและขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมาย ความสำคัญและขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
Mongkon Khumpo
วิธีการสร้าง blog
วิธีการสร้าง blog
Mongkon Khumpo
งาน พรบ คอมพิวเตอร์
งาน พรบ คอมพิวเตอร์
Mongkon Khumpo
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ-นายธนวัฒน์-สายสุดใจ
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ-นายธนวัฒน์-สายสุดใจ
Mongkon Khumpo
เราเองนะอิอิ
เราเองนะอิอิ
Mongkon Khumpo
แบบสำรวจนักเรีย
แบบสำรวจนักเรีย
Mongkon Khumpo
Work 03
Work 03
Mongkon Khumpo
More from Mongkon Khumpo
(14)
6 จังหวัดน่าเที่ยว
6 จังหวัดน่าเที่ยว
6 จังหวัดน่าเที่ยว
6 จังหวัดน่าเที่ยว
งานอาม
งานอาม
กิจกรรมที่5 โครงร่างโครงงานเรื่อง 6 จังหวัดน่าเที่ยว
กิจกรรมที่5 โครงร่างโครงงานเรื่อง 6 จังหวัดน่าเที่ยว
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2
กิจกรรมที่2
ความหมาย ความสำคัญและขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมาย ความสำคัญและขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
วิธีการสร้าง blog
วิธีการสร้าง blog
งาน พรบ คอมพิวเตอร์
งาน พรบ คอมพิวเตอร์
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ-นายธนวัฒน์-สายสุดใจ
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ-นายธนวัฒน์-สายสุดใจ
เราเองนะอิอิ
เราเองนะอิอิ
แบบสำรวจนักเรีย
แบบสำรวจนักเรีย
Work 03
Work 03
โครงงานคอมพิวเตอร์
1.
โครงงานคอมพิวเตอร ์
2.
โครงงานคอมพิวเตอร ์ หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ
โดย จะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช ้ความรู้ทางกระบวนการวิศวกรรม ซอฟต์แวร ์เครื่องคอมพิวเตอร ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนา โครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทาโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็ นเรื่องที่ นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทาโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษา เพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้ จุดมุ่งหมายสาคัญของการทาโครงงานเป็ นการเปิด โอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช ้ระบบคอมพิวเตอร ์แก้ปัญหา ประดิษฐ ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช ้คอมพิวเตอร ์ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ ์ ฮาร ์ดแวร ์ซอฟต์แวร ์หรืออุปกรณ์ใช ้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการ พัฒนาเกมคอมพิวเตอร ์เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็ นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อนมนุษย์และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
3.
ความสาคัญของการทาโครงงานคอมพิวเตอร ์ • โครงงานคอมพิวเตอร
์คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ ความ ถนัดและความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร ์โครงงานจึงเป็ น กิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการเน้นผู้เรียนเป็ นสาคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร ์และเทคโนโลยี สารสนเทศ เพื่อสร ้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็ นที่ ปรึกษาและให้คาแนะนา
4.
ขอบข่ายของการทางานคอมพิวเตอร ์ ดาเนินงานโดยนักเรียน เป็
นผู้ริเริ่มสร ้างสรรค์ และครูอาจารย์เป็ นผู้ให้คาแนะนาปรึกษา มีองค์ประกอบดังนี้ 1. เป็ นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงาน นั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็ นกลุ่มโดยใช ้ระยะเวลาสั้นๆ เป็ นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 3. นักเรียนเป็ นผู้พิจารณาริเริ่มสร ้างสรรค์คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และ ความพร ้อม 4. นักเรียนเป็ นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้ 5. เป็ นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช ้จ่ายเงินดาเนินงาน ด้วย
5.
ประเภทโครงงานคอมพิวเตอร ์
6.
ประเภทโครงงานคอมพิวเตอร ์ • คอมพิวเตอร
์เป็ นเครื่องมือที่ใช ้ในงานวิจัยในทุก ๆ สาขาวิชา ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร ์จึง มีความหลากหลายเป็ นอย่างมาก ทั้งในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรม และลักษณะของ ประโยชน์หรือผลงานที่ได้ ซึ่งอาจแบ่งเป็ นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ 1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media) 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development) 3. โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี (Theory Experiment) 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application) 5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)
7.
1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media) เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร
์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร ้าง โปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และ คาถามคาตอบไว้พร ้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดย ใช้คอมพิวเตอร ์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร ์เป็ นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็ น ครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็ นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วย ตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่า จะเป็ นสาขาคอมพิวเตอร ์วิชาคณิตศาสตร ์วิชาวิทยาศาสตร ์วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทาความเข้าใจยาก มาเป็ นหัวข้อ ในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบ สุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
8.
2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development) เป็ นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือมาใช้ช่วยสร
้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วน ใหญ่จะเป็ นในรูปซอฟต์แวร ์ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร ์วาดรูป ซอฟต์แวร ์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร ์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็ นต้น สาหรับซอฟต์แวร ์ เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร ้างขึ้นเป็ นโปรแกรมประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็ นเครื่องมือให้เราใช้ งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร ์เป็ นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถ นาไปใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย สาหรับซอฟต์แวร ์ช่วยในการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้ สาหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D
9.
3. โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี (Theory Experiment) เป็
นโครงงานใช้คอมพิวเตอร ์ในการจาลองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เป็ น โครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้หลักการ ข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็ นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจ อยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือคาอธิบายก็ได้พร ้อมทั้งนาเสนอวิธีการจาลองทฤษฎี ด้วยคอมพิวเตอร ์การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ เป็ นอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลองเรื่องการไหลของเหลว การทดลองเรื่อง พฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็ นต้น
10.
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application) เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร
์ในการสร ้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงใน ชีวิตประจาวัน เช่น ซอฟต์แวร ์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร ์ สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร ์สาหรับการระบุคนร ้าย เป็ นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมี การประดิษฐ ์ฮาร ์ดแวร ์ซอฟต์แวร ์หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร ้างใหม่หรือ ปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้ จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ ออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบ คุณภาพของสิ่งประดิษฐ ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร ์ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร ์ดแวร ์และซอฟต์แวร ์ในการพัฒนาด้วย
11.
5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development) เป็
นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร ์เกมเพื่อความรู้และ/หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้น ให้เป็ นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะ มีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่น พร ้อมทั้งให้ ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ เกมต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็ นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ
12.
ขั้นตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร ์
13.
1.คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ โดยทั่วไปเรื่องที่จะนามาพัฒนาเป็ นโครงงานคอมพิวเตอร ์มักจะได้มาจากปัญหา
คาถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร ์หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว ปัญหาที่จะนามาพัฒนาโครงงาน คอมพิวเตอร ์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน ดังนี้ 1. การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์หรือวารสารต่างๆ 2. การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ 3. การฟังบรรยายทางวิชาการ รายการวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งการสนทนาอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ระหว่างเพื่อนนักเรียนหรือกับบุคคลอื่นๆ 4. กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน 5. งานอดิเรกของนักเรียน 6. การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร ์ ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร ์ควรพิจารณาองค์ประกอบสาคัญ ดังนี้ 1. ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา 2. สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร ์ซอฟต์แวร ์และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้ 3. มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษา 4. มีเวลาเพียงพอ 5. มีงบประมาณเพียงพอ 6. มีความปลอดภัย
14.
2.ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคาปรึกษาจาก ผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะ ศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถ ใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษา จะต้องได้คาตอบว่า 1. จะทา อะไร 2. ทาไมต้องทา 3. ต้องการให้เกิดอะไร 4. ทาอย่างไร 5. ใช้ทรัพยากรอะไร 6. ทากับใคร 7. เสนอผลอย่างไร
15.
3.องค์ประกอบของเค้าโครงงานของโครงงาน
16.
4.การลงมือทาโครงงาน เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทาโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง ขั้นตอนต่อไปจะเป็
นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่ วางแผนไว้ดังนี้ 4.1 การเตรียมการ การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร ์ซอฟต์แวร ์และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช ้ในการพัฒนาให้พร ้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็ นแฟ้ มข้อความไว้ในระบบ คอมพิวเตอร ์สาหรับบันทึกการทากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทาโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ 4.2 การลงมือพัฒนา 1. ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทาให้ผลงานดีขึ้น 2. จัดระบบการทางานโดยทาส่วนที่เป็ นหลักสาคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่่อยทา ส่วนที่เป็ นส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกัน ทา ให้ตกลงรายละเอียดในการต่อเชื่อมชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย 3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็ นระบบและครบถ้วน 4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เป็ นความจาเป็ นเพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้นทางานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการ ที่ระบุไว้ในเป้ าหมายและทาด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย 4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร ้อยแล้ว ให้จัดทาสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่างครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทาโครงงาน และทาการอภิปรายผลด้วย เพื่อ พิจารณาข้อมูลและผลที่ได้พร ้อมกับนา ไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงการนาหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช ้ ประกอบการอภิปรายผลที่ได้ด้วย 4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญ หรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็ นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาและหรือใช ้ประโยชน์ต่อไปได้
17.
5.การเขียนรายงาน การเขียนรายงานเป็ นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้า
ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนรายงานนักเรียนควรใช ้ภาษาที่อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆเหล่านี้ 5.1 ส่วนนา ส่วนนา เป็ นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานนั้นซึ่งประกอบด้วย 1. ชื่อโครงงาน 2. ชื่อผู้ทาโครงงาน 3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา 4. คาขอบคุณ เป็ นคากล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงาน ที่มีส่วนช่วยทาให้โครงงานสาเร็จ 5. บทคัดย่อ อธิบายถึงที่มา ความสาคัญ วัตถุประสงค์วิธีดาเนินการ และผลที่ได้โดยย่อ 5.2 บทนา บทนาเป็ นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบด้วย 1. ที่มาและความสาคัญของโครงงาน 2. เป้ าหมายของการศึกษาค้นคว้า 3. ขอบเขตของโครงงาน 5.3 หลักการและทฤษฎี หลักการและทฤษฎี เป็ นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที่จะนามาใช ้ใน การพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุผลงานของผู้อื่นที่นักเรียนนามาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติมด้วย
18.
5.4 วิธีดาเนินการ วิธีดาเนินการ อธิบายขั้นตอนการดาเนินงานโดยละเอียด
พร ้อมทั้งระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่พบพร ้อมทั้งวิธีการที่ใช ้แก้ไข พร ้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ ต้องใช ้ในการทางาน 5.5 ผลการศึกษา ผลการศึกษา นาเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้ โดยอาจแสดงเป็นตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทั้งนี้ให้คานึงถึงความเข้าใจของผู้อ่านเป็นหลัก 5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปที่ได้จากการทา งาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานที่ตั้งไว้หรือ ยังสรุปไม่ได้นอกจากนั้นยังควรกล่าวถึงการนา ผลการทดลองหรือพัฒนาไปใช ้ประโยชน์ อุปสรรคของการทาโครงงาน หรือข้อสังเกตที่สาคัญ หรือ ข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นจากการทา โครงงานนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงแก้ไขหากจะมีผู้ศึกษาค้นคว้าในเรื่องทานองนี้ต่อไปในอนาคตด้วย 5.7 ประโยชน์ ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจากการพัฒนาโครงงานนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช ้จะได้รับจากการนาผลงานของโครงงานไปใช ้ ด้วย 5.8 บรรณานุกรม บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร หรือเว็บไซด์ต่างๆ ที่ผู้ทา โครงงานใช ้ค้นคว้า หรืออ่านเพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ที่ นามาใช ้ประโยชน์ในการทา โครงงานนี้การเขียนเอกสารบรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย 5.9 การจัดทาคู่มือการใช้งาน หาโครงงานที่นักเรียนจัดทา เป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้นักเรียนจัดทาคู่มืออธิบายวิธีการใช ้ผลงานนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย 1. ชื่อผลงาน 2. ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร ์ระบุรายละเอียดของคอมพิวเตอร ์ที่ต้องมีเพื่อจะใช ้ผลงานนั้นได้ 3. ความต้องการของซอฟต์แวร ์ระบุรายชื่อซอฟต์แวร ์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร ์เพื่อจะให้ผลงานนั้นทางานได้อย่างสมบูรณ์ 4. คุณลักษณะของผลงาน อธิบายว่าผลงานนั้นทา หน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็นข้อมูลขาเข้าและส่วนอะไรออกมาเป็นข้อมูลขาออก 5. วิธีการใช ้งานของแต่ละฟังก์ชัน อธิบายว่าจะต้องกดคาสั่งใด หรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงานทางานในฟังก์ชันหนึ่งๆ
19.
6.การนาเสนอและแสดงโครงงาน การนาเสนอและการแสดงผลงานเป็ นขั้นตอนที่สาคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทา โครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลความคิด
ความพยายามในการทางานที่ผู้ทา โครงงานได้ทุ่มเท และเป็ นวิธีทาให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น การเสนอผลงาน อาจทาได้ในหลายรูปแบบต่างๆ กัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบาย ประกอบการรายงานด้วยคาพูดในที่ประชุม การจัดนิทรรศการโดยโปสเตอร ์และอธิบาย ด้วยคาพูด เป็ นต้น โดยผลงานที่นามาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้ 1. ชื่อโครงงาน 2. ชื่อผู้จัดทาโครงงาน 3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา 4. คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน 5. วิธีการดาเนินการที่สาคัญ 6. การสาธิตผลงาน 7. ผลการสังเกตและข้อสรุปสาคัญที่ได้จากการทาโครงงาน
Download now