More Related Content
Similar to เครื่องดักจับแมลงวันจากขวดพลาสติก 2
Similar to เครื่องดักจับแมลงวันจากขวดพลาสติก 2 (20)
เครื่องดักจับแมลงวันจากขวดพลาสติก 2
- 1. 1
บทที่ 1
บทนำ
ควำมเป็นมำและควำมสำคัญของโครงงำน
เนื่องจากในปัจจุบันร้านค้า ร้านอาหาร ในชุมชนของเรานั้นมีแมลงวันเป็นจา นวนมาก
ซึ่งแมลงวันเป็นพาหะนา เชื้อโรคเข้าไปในอาหาร ทา ให้ผู้บริโภคเกิดอาการท้องร่วง และปวดท้อง
ในขณะเดียวกันการใช้กับดักแมลงวันสา เร็จรูปไม่ค่อยได้รับความสนใจเพราะมีราคาแพง
ร้านอาหารส่วนใหญ่มักใช้ถุงน้า ใสแขวนไล่แมลงวันแต่ไม่ได้ผลจึงหันมาใช้กับดักแมลงวันสารเคมี
ถือว่าเป็นปัจจัยสา คัญที่ทา ให้เกิดการตกค้างของสารเคมีในอาหาร
ซึ่งอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อร่างกายมนุษย์สิ่งแวดล้อม ที่สา คัญเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย
เพราะต้องนาเข้าสารเคมีจากต่างประเทศ
จากสภาพปัญหาดังกล่าว ดังนั้น ผู้จัดทา โครงงานจึงมีความคิดที่จะแก้ปัญหา แมลงวันในร้านอาหาร
และในพื้นที่อื่นๆ
โดยการทา อุปกรณ์ดักแมลงวันจากขวดน้า พลาสติกจากเศษวัสดุเหลือใช้เพื่อลดปริมาณขยะ
และลดการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย รวมถึงเป็นการลดปริมาณแมลงวันในพื้นที่ต่างๆอีกด้วย
วัตถุประสงค์
1. เพื่อทา การศึกษาอุปกรณ์ดักแมลงวันจากขวดน้า พลาสติก
2. เพื่อทา การทดลองเปรียบเทียบอุปกรณ์ดักแมลงวันจากขวดน้า พลาสติก ว่าสามารถจับแมลงวันได้
3. เพื่อนาขวดพลาสติกที่ไม่ได้ใช้แล้วมาประดิษฐ์เป็นสิ่งของที่เกิดประโยชน์
4. เพื่อกา จัดแมลงวันซึ่งเป็นพาหะนา โรค
สมมติฐำน
อุปกรณ์ดักจับแมลงวันจากขวดพลาสติก สามารถดักจับแมลงวันได้จริง
ซึ่งมีตัวล่อให้แมลงวันบินเข้าไปติดกับคือเศษอาหาร
ซึ่งอุปกรณ์ดักจับแมลงจากขวดพลาสติกนี้ช่วยกา จัดแมลงวันได้เป็นอย่างดี
ตัวแปรที่ศึกษำ
ตัวแปรต้น ลักษณะของอุปกรณ์ดักแมลงวันจากขวดน้า พลาสติก
ตัวแปรตาม จา นวนแมลงวัน
ตัวแปรควบคุม 1.ปริมาณเศษอาหารที่ใช้เป็นเหยื่อล่อแมลงวัน
2.ขนาดของขวดน้า พลาสติก
- 2. 2
ขอบเขตกำรศึกษำ
1.สิ่งที่ศึกษา อุปกรณ์ดักแมลงวันจากขวดน้า พลาสติก
2.สถานที่ บ้านหรือร้านค้าใกล้บ้านของสมาชิกในกลุ่ม
ประโยชน์ที่คิดว่ำจะได้รับ
1.ทา ให้ลดปริมาณแมลงวัน
2.ลดปัญหาโรคที่เกิดจากแมลงวันเป็นพาหะ
3.สามารถนา เศษวัสดุเหลือใช้มาใช้ประโยชน์ใหม่ได้
4.ลดการใช้สารเคมีในการกา จัดแมลงวัน
- 3. 3
บทที่ 2
เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ในการศึกษาโครงงานเรื่องอุปกรณ์ดักแมลงวันจากขวดน้า พลาสติก
ผู้จัดทา ได้ค้นคว้ารวบรวมข้อมูลจากเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และจากเว็บไซด์บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
โดยขอนา เสนอตามลา ดับดังนี้
แมลงวันเป็นแมลงในอันดับ Diptera (di = สอง, และ ptera = ปีก) มีบน อกปล้องทีสอง และ
ตุ่มปีกหนึ่งคู่ ซึ่งลดรูปจากปีกหลัง บนอกปล้องที่สาม แมลงวันบางชนิดไม่มีปีก โดยเฉพาะใน superfamily
Hippoboscoidea
อันดับ Diptera เป็นอันดับที่มีขนาดใหญ่ ประกอบด้วย ประมาณ 240,000 ชนิด ของ ยุง, บั่ว, ริ้น
และแมลงวันอื่นๆ แต่มีเพียงครึ่ง(ประมาณ 122,000 ชนิด)ที่ได้รับการจา แนกแล้ว [1]
เป็นอันดับหลักๆที่มีความสา คัญต่อระบบนิเวศและมนุษย์ (ทางการแพทย์และทางเศรษฐกิจ) ยุงในวงศ์
Culicidaeมีความสา คัญมากโดยเป็นพาหะนา โรค มาลาเรีย, ไข้เลือดออก, ไวรัส West Nile, ไข้เหลือง ,
encephalitis
แมลงวัน เป็นแมลงที่อาศัยอยู่กับชุมชนมนุษย์ชนิดหนึ่ง ส่วมมากคนจะรู้จักบางชนิด เช่น
แมลงวันบ้าน และแมลงวันหัวเขียว มักจะกินอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์และเศษอาหาร ตามกองขยะ
และชอบหากินเวลากลางวัน ไม่ชอบแสงแดดจัด รัศมีการหากินอยู่ในวงประมาณ 3 กิโลเมตร
แมลงวันบ้ำน
ลักษณะสา คัญ : ตัวเต็มวัยสีเทา มีแถบสีดา 4 เส้น พาดอยู่ส่วนอกด้านบน หรือ กลางลา ตัว
ลา ตัวยาวตัวประมาณ 1/8-1/4 นิ้ว ตัวหนอนสีขาวครีม หัวแหลมท้ายป้าน ไม่มีขา ไข่มีขนาดเรียวยาว 1 มม.
สีขาว
อาหาร : กินอาหารได้หลายชนิด รวมทั้งของเสีย
ตัวเมียวางไข่ได้ครั้งละ 100-150 ฟอง และสามารถวางไข่ได้สูงถึง 600
ฟองโดยชอบวางไข่ตามกองขยะที่มีความชื้นสูง หรือสิ่งปฏิกูลต่างๆ ไข่ใช้เวลาฟักตัวประมาณ 6 ชั่วโมง
ตัวหนอนลอกคราบประมาณ 3 ครั้ง จากนั้นจะเข้าดักแด้ และฟักเป็นตัวเต็มวัย ในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์
แมงวันหัวเขียว
เป็นแมลงวันที่มีขนาดใหญ่ มีขนาดลา ตัว 8-12 มิลลิเมตร ลา ตัวสีน้า เงินแกมเขียว เป็นมัน
แมลงวันชนิดนี้ชอบอยู่นอกบ้าน บางครั้งอาจตอมอาหารหรือแหล่งที่มีเชื้อโรค
- 4. 4
ตัวเต็มวัยจะหากินตามแหล่งอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เล้าเป็ด ไก่ กองขยะ ตลาด ซากเน่าเปื่อย มูลสัตว์
ก่อให้เกิดความราคาญกับสัตว์และอาจนาโรคมาสู่สัตว์
อาหาร : กินอาหารได้หลายชนิด ของเหลวจากสารอินทรีย์วัตถุ น้า หวานจากพืช
แมลงวันหัวเขียว ใช้ระยะเวลาในการเจริญเติบโต ตั้งแต่ระยะไข่ ตัวหนอน ดักแด้ และฟักเป็นตัวเต็มวัย
เป็นเวลา อย่างน้อย 10 วัน ตัวเมียวางไข่และ ตัวหนอนอาศัยเจริญเติบโตตามมูลสัตว์
แมลงวัน สามารถนา โรคมาสู่มนุษย์ หรือสัตว์เลี้ยงได้โดยถ่ายทอดเชื้อโรคที่ติดมากับลา ตัว, ปาก
หรือขาของแมลง ในขณะที่มันตอมตา ในขณะที่มันตอมอาหาร
หรือสิ่งปฏิกูลต่างๆเมื่อคนรับประทานอาหารที่มีแมลงวันตอม
ก็จะได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายทา ให้เกิดโรคต่างๆหลายชนิดเช่น โรคระบบทางเดินอาหาร ซึ่งได้แก่
โรคท้องร่วง, โรคบิด, ไทฟอยด์, พาราไทฟอยด์, อติวาตกโรค, อาหารเป็นพิษ
นอกจากนี้ยังพบว่าสามารถถ่ายทอดเชื้อไวรัสที่ทา ให้เกิดโรคโปลิโอ และไวรัสอื่นๆได้ เช่น โรคตาแดง
โรคริดสีดวงตา หรือโรคเยอื่บุตาอักเสบ
แมลงวันที่ใกล้ชิดมนุษย์และเป็นปัญหาสาธารณสุขมากอันดับต้น คือ แมลงวันบ้าน
แมลงวันหลังลาย และ แมลงวันหัวเขียว ซึ่งมีแหล่งเพาะพันธ์อยู่ใกล้ชุมชนตามแหล่งขยะมูลฝอย, มูลสัตว์,
ปุ๋ย หรือสิ่งของที่กา ลังเน่า โดยแมลงวันสามารถค้นหา หรือตอมอาหารได้ โดยอาศัยสิ่งจูงใจ คือ
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และแอมโมเนีย และสารระเหยที่เกิดจากสิ่งเน่าเปื่อยผุพัง
กำรสืบพันธ์ุและกำรเจริญเติบโต
แมลงวันออกลูกเป็นไข่ และฟักเป็นหนอนแมลงวัน และระยะดักแด้ จนกลายเป็นตัวเต็มวัย
วงจรชีวิตของแมลงวันตั้งแต่ไข่จนเป็นตัวเต็มวัยกินเวลาประมาณ 8-10 วัน
เมื่อแมลงวันผสมพันธุ์กัน ตัวผู้จะเริ่มขึ้นขี่ตัวเมีย หันหน้าไปทางเดียวกัน
แต่จะหมุนหันหน้าไปทางตรงกันข้ามในเวลาต่อมา
แมลงวันมีความสามารถในการสืบพันธุ์มากกว่าแมลงอื่นๆ และใช้เวลาสั้นกว่าด้วย
จึงเป็นสาเหตุให้แมลงวันมีประชากรจา นวนมาก
กำรเติมโตแบบสมบูรณ์ของแมลงวัน (COMPLETE METAMORPHOSIS) ประกอบด้วย 4 ระยะ
ระยะไข่
แมลงวันสามารถผสมพันธุ์ได้ หลังจากเป็นตัวเต็มวัยได้เพียง 18-30 ชั่วโมงเท่านั้น
และผสมพันธุ์เพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นก็จะหาแหล่งที่เหมาะสมในการวางไข่ โดยจะค้นหาแหล่งดังกล่าว
โดยอาศัยกลิ่นเป็นตัวนา ทาง มันจะเริ่มวางไข่ในที่ลับตา แสงแดดส่องไม่ถึง และมีความชื้นสูง
โดยวางเป็นกลุ่มๆละประมาณ 120 ฟอง ตัวเมียบางตัวสามารถวางไข่ได้มากกว่า 10 ครั้งในชั่วชีวิต ดังนั้น
แมลงวันตัวเมีย 1 ตัว สามารถขยายพันธุ์ได้ 200-1,000 ฟอง ไข่แมลงวันมีระยะฟักภายใน 6-12 ชั่วโมง
- 5. 5
ระยะตัวอ่อน
หรือหนอน มีรูปร่าง เรียวยาว ปลายด้านท้องใหญ่ หัวหรือปากเรียวแหลมและแข็ง
ตัวอ่อนจะกินของกา ลังเน่าเหม็นมักชอบกลิ่นแอมโมเนีย หรือกลิ่นของยีสต์เป็นพิเศษ
ตัวอ่อนจะกินอาหารมากจนเข้าใกล้ระยะดักแด้จึงจะหยุดกินอาหาร ระยะนี้กินเวลา 6-7 วัน
ระยะเข้ำดักแด้
เมื่อหนอนหยุดกินจะเริ่มคลานไปสู่ที่แห้งๆ เพื่อเริ่มปรับเปลี่ยนร่างกาย โดยหดตัวเองให้สั้นลง
จนมีลักษณะอ้วนสั้น ผนังลา ตัวจะแข็งขึ้นเพื่อห่อหุ้มตัวหนอน ระยะนี้ใช้เวลา 3-4 วัน
ก็จะเข้าสู่ระยะตัวโตเต็มวัน
ระยะตัวโตเต็มวัย
เมื่อเข้าดักแด้ และพัฒนาร่างกายสู่ภายในจนมีรูปร่างครบสมบูรณ์ก็จะเริ่มออกจากดักแด้
ซึ่งขณะที่ออกจากดักแด้ใหม่ๆ ยังบินไม่ได้ในทันที จะต้องใช้วิธีเดิน กระโดด เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 15
นาที ลา ตัวและปีกเริ่มแข็งแรงขึ้นสมารถบินได้
เหยื่อล่อแมลงวัน
ปลาร้า หรือ ปลาแดก ในภาษาอีสาน เป็นอาหารท้องถิ่นภาคอีสาน ของไทย และ ลาว รวมถึง
บางส่วนของเวียดนาม โดยมักทา จากปลาน้า จืดขนาดเล็ก เช่น ปลาสร้อยขาว
ปลากระดี่มาหมักกับราข้าวและเกลือ แล้วบรรจุใส่ไห โดยทั่วไปจะหมักไว้ 7-8
เดือนและนา มารับประทานได้ โดยในบางที่มีค่านิยมว่า หมักให้เกิดหนอนจะยิ่งเพิ่มรสชาติยิ่งขึ้นปัจจุบัน
การทา ปลาร้าได้พัฒนาขึ้นไปสู่ระดับสากลมากขึ้น มีปลาร้าพาสเจอร์ไรซ์ เพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อนด้วย
หรือ ปลาร้าอนามัย แต่ส่วนใหญ่ ปลาร้าก็ยังนิยมทา แบบเดิม โดยตักขายตามน้า หนักตามตลาดสดต่าง ๆ
ซึ่งปลาร้านี้มีกลิ่นเหม็นมากจึงเป็นเหยื่อล่อแมลงวันได้อย่างดี
งำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง
กล้าณรงค์ วงศ์พิทักษ์.(2550).กล่าวว่า แมลง วันเป็นพาหะนา โรคที่เป็นอันตราย
แมลงวันที่พบเห็นบ่อย เป็นแมลงวันบ้าน (House fly: Musca domestica) มีขนาดลา ตัวยาวประมาณ 6-9
มิลลิเมตร ตัวเมียจะวางไข่ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์ที่เน่าเปื่อย โดยวางไข่ครั้งละ 75-150 ฟอง
และจะวางไข่ทุกๆ 3-4 วัน ตลอดชั่วอายุจะวางไข่ประมาณ 6 ครั้ง
ทา ให้ไม่สามารถกา จัดแมลงวันให้หมดไปได้ ภาคอีสานยังมีอาหารที่แมลงวันชอบ คือ ปลาร้า ปลาจ่อม
- 6. 6
การใช้กับดักสาเร็จรูปแต่มีราคาแพง (150-300 บาท)
จึงไม่ได้รับความสนใจเนื่องจากในพื้นที่รับผิดชอบส่วนใหญ่มีฐานะยากจน อยู่บ้านเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก
จึงมีภาระที่ต้องใช้เงินด้านอื่น
โดยส่วนใหญ่ร้านค้าขายของชา ในหมู่บ้านจะใช้ถุงน้า ใสแขวนไล่แมลงวันแต่ไม่
ได้ผลจึงหันมาใช้กาวดักแมลงวันและสารเคมี
ถือว่าเป็นปัจจัยสา คัญที่อาจทา ให้เกิดการตกค้างของสารเคมีในอาหารหรือสิ่ง อุปโภคบริโภคได้
นิรุตต์ ปลื้มกระจ่าง.(2552).กล่าวว่า โรคอุจจาระร่วง และโรคระบบทางเดินอาหาร
เป็นโรคติดต่อที่มีอัตราการเกิดสูงมากโดยเฉพาะในหน้าร้อน โดยมีพาหะนา โรคที่สา คัญ คือ แมลงวัน
ดังนั้นผู้วิจัยจึงคิดประดิษฐ์นวัตกรรมเครื่องดักจับแมลงวัน เพื่อลดจา นวนแมลงวันซึ่งเป็นพาหะนา โรค
ซึ่งส่งผลให้อัตราการป่วยของโรคในระบบทางเดินอาหารลดลง โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อประดิษฐ์นวัตกรรมสา หรับการกา จัดแมลงวันในชุมชน
บทที่ 3
อุปกรณ์และวิธีกำรทดลอง
อุปกรณ์
1. ขวดน้า พลาสติก
2. คัตเตอร์ 1 อัน
3. เหยื่อล่อแมลงวัน (เศษอาหาร)
วิธีทำ
1. เตรียมขวดพลาสติกขนาด 1,500 ซีซี
2. วัดระยะจากฐานขวดสูง 9.5 เซนติเมตร ตัดขวดออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่ 1 ปากขวดและส่วนที่ 2
ส่วนฐาน
3. นา กระดาษสีดา กว้าง 7 เซนติเมตร ยาว 30 เซนติเมตร ติดกาวพันรอบฐานของขวดส่วนที่ 2
4. ประกอบส่วนที่ 1 ปากขวด และส่วนที่ 2 ส่วนฐานเข้าด้วยกันดังภาพ
ได้เครื่องดักจับแมลงวันอย่างง่าย
5. เจาะรูขนาดเท่ากับฝากปิดขวดรูปวงกลมบริเวณฐานของเครื่องดักจับแมลงวันสูงจากฐาน 1
เซนติเมตร
วิธีกำรทดลอง
นา เครื่องดักจับแมลงวันไปตั้งไว้ในที่ๆ มีแมลงวันชุกชม
- 7. 7
ทิ้งเครื่องดักจับแมลงวันไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อรอผลการทดลอง
สรุปผลการทดลอง
1.นา เครื่องดักจับแมลงวันไปตั้งไว้ในที่ๆ มีแมลงวันชุกชม เช่น กองขยะ ที่ทิ้งเศษอาหาร เป็นต้น
2.ทิ้งเครื่องดักจับแมลงวันไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อรอผลการทดลอง จากนั้นสรุปผลการทดลอง
บทที่ 4
ผลกำรทดลอง
จากการที่ได้ทา การทดลองเครื่องดักจับแมลงวันจากขวดพลาสติก
โดยการประดิษฐ์เครื่องดักจับแมลงวันจากขวดพลาสติกแบบง่าย
แล้วนา ไปวางไว้ในสถานที่ที่มีแมลงวันชุกชม และรอเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
เพื่อให้แมลงวันได้เข้าไปตอมเศษอาหารที่อยู่ในเครื่องดักจับแมลงวัน
ซึ่งผลจากการทดลองก็มีดังตารางต่อไปนี้
จำนวนแมลงวันที่จับได้ (ตัว) ผลกำรสังเกต
12 แมลงวันส่วนใหญ่จะเข้ามาตอมแล้วบินเข้าไปทางช่องทางที่ได้ทา ไว้
เพื่อไปยังเหยื่อล่อ(เศษอาหาร)
แต่ว่าพอตอมเสร็จก็กลับออกมาไม่ได้ จึงติดกับดัก
จากการทดลองพบว่า แมลงวันไม่สามารถที่จะบินออกจากเครื่องดักจับแมลงวันได้
จึงติดอยู่ในกับดักและตายไปในที่สุด แต่ก็มีแมลงวันบางตัวที่สามารถบินออกจากเครื่องดักจับแมลงวันได้
ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ประสิทธิภาพของเครื่องดักจับแมลงวันจากขวดพลาสติกที่สามารถจับแมลงวันได้แล้ว
แมลงวันไม่สามารถบินออกไปได้ เป็น 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 20
เปอร์เซ็นต์นั้นแมลงวันสามารถบินออกไปนอกเครื่องดักจับแมลงวันจากขวดพลาสติกได้
- 8. 8
บทที่ 5
สรุปและอภิปรำยผลกำรทดลอง
สรุปผลการทดลง พบว่ารูปแบบของเครื่องดักจับแมลง
โดยใช้หลักการเป็นกับดักให้แมลงวันบินเข้าไปโดยใช้เหยื่อล่อ(เศษอาหาร)
เพื่อให้แมลงวันบินเข้าไปกินเหยื่อล่อ เมื่อทา การทดลอง
แมลงวันก็จะมีการบินเข้ามายังกับดักนั่นก็คือเข้ามาในเครื่องดักจับแมลงวันจากขวดพลาสติก
และเมื่อแมลงวันบินเข้าไปยังเหยื่อล่อ(เศษอาหาร) แมลงวันก็ทา การกินและตอมอาหาร
แต่ไม่สามารถบินกลับมาได้
ดังนั้น เครื่องดักจับแมลงวันจากขวดพลาสติก
เป็นสิ่งประดิษฐ์อีกชนิดหนึ่งที่สามารถนา มาดักจับแมลงวันได้จริง
และสามารถนา ไปใช้เพื่อกา จัดแมลงวันได้ในชีวิตประจา วันเพื่อลดรายจ่าย
พร้อมยังเป็นการนา เศษวัสดุที่ไม่ได้ใช้แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์
ปัญหำและอุปสรรค
สถานที่ในการดักจับแมลงวันค่อนข้างหายาก เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูหนาว
แมลงวันจึงไม่ค่อยได้พบเห็นมากนัก
ข้อเสนอแนะ
1.ควรทดลองโดยใช้เวลานานกว่านี้ เพื่อให้เห็นผลการทดลองที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
2.ควรศึกษารูปแบบของเครื่องดักจับแมลงวันอื่นๆ เพื่อนา มาทดลองเพิ่มเติม
- 9. 9
3.ควรเลือกสถานที่ในการทดลองให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทา งานมากยิ่งขึ้น
4.ควรศึกษาและพัฒนาเครื่องดักจับแมลงวันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
บรรณำนุกรม
1. นายบอน @ kalasin. กับดักแมลงจากขวดพลาสติก Recycle
โดยภูมิปัญญาไทยปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม(2548) ค้นข้อมูล 25 ธันวาคม 2556,
www.gotoknow/posts/55703.
2. วรรณธนา, โครงงานกับดักแมลงวัน (2553) ค้นข้อมูล 25 ธันวาคม 2556,
www.gotoknow.org/posts/55767.
3. วิธีการดักจับแมลงวัน. (เครือข่ายจิตอาสา) (2555), ค้นข้อมูล 25 ธันวาคม 2556, จาก
http://www.volunteerspirit.org/node/5070.
4. แมลงวัน(2555). ค้นข้อมูล 25 ธันวาคม 2556, จาก http://th.wikipedia.org/wiki.
5. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง(2550). ค้นข้อมูล 4 กุมภาพันธ์ 2557, จาก
http://www.gotoknow.org/posts/55703.
- 12. 12
ประวัติผู้เขียน
นำงสำว พัชรี ธำตุบุรมย์
เลขที่ 5 ม.5/5
ชื่อเล่น กวำงตุ้ง
นำงสำว ชลธิชำ ทองล้น
เลขที่ 12 ม.5/5
ชื่อเล่น เดียร์