3. Affirmative Statement + anomalous verb +n't +
pronoun?
Negative Statement , anomalous verb +
pronoun?
เช่น Your friend has come back , hasn't
he?
Your friend hasn't come back , has he?
She will leave tomorrow , won't she?
She won't leave tomorrow , will she?
4. หลักการเขียน
Question Tag
1. ถ้าประโยคที่มาข้างหน้าเป็น
ประโยคบอกเล่า ต้องใช้ question
tag เป็นรูปปฏิเสธ
- You eat a lot of oranges , don't you?
- You will have the exam next month , won't
you?
- She came here yesterday , didn't she?
- They have finished their work , haven't
they?
5. 2. ถ้าประโยคที่มาข้างหน้าเป็น
ประโยคปฏิเสธ ต้องใช้ question
tag เป็นรูปบอกเล่า
- You won't come early , will you?
- She doesn't want to disturb you , does
she?
- We didn't make a loud noise , did we?
- They haven't tunred it off , have they?
6. 3. ถ้าประโยคข้างหน้ามี verb to
have have แปลว่า "มี" จะใช้ tag ว่า haven't
เมื่อ
หรือ don't ก็ได้
- She has a lot of friends , hasn't she?
- They have only one child , don't they?
เมื่อ have แปลอย่างอื่น ทีไม่ใช่แปลว่า "มี" ให้ใช้
่
verb to do มาช่วย
- We have lunch at twelve o'clock , dont' we? (กิน)
มื่อ question tag ของ "have to"(จำาเป็นต้อง)ใช้ v. to do ช
- I had his letter last week , didn't I? (ได้รับ)
u often have to go to the dentist's , don't you?
7. 4. ในประโยค tag ที่เป็นรูปปฏิเสธ
ต้อ-งใช้shallย่อเสมอ , shan't we?
We รูป go shopping
- He will come to my party , won't he?
5. Question tag ของ I am คือ
aren't I
(เนื่องจาก am not ไม่มีรูปย่อ)
- I am late , aren't I ?
- I am lazy , aren't I?
8. 6. Question tag ของกริยาช่วย
can ,could , may, might ,will
,shall,ought to ,should ,V.to be
,etc...
จะใช้กริcan doยเหล่า,นี้เป็น she?
- She
ยาช่ว it well can't question
tag ได้
- You ought to study hard , oughtn't
you?
- They should obey their teacher ,
shouldn't they?
9. 7. คำาว่า "need" (ต้องการ) และ
"dare" (กล้า) มีวิธีใช้ 2 แบบ คือ
ใช้เป็นกริยาแท้ tag ก็จะใช้ verb to do มา
ช่วย
- They need money , don't they?
- She doesn not need any help , does
she?
- We don't dare to tell a lie , do we?
ข้อสังเกต ถ้า "need" "dare" ใช้เป็นกริยาแท้
จะตามหลังด้วย to +V1 โดยที่กริยา need /
10. ใช้เป็นกริยาช่วย tag จะใช้ need / dare
เป็นกริยาช่วยใน tag
- She needn't come on Sunday , need
she?
- You dare not go out alone at night , dare
you?
8. question tag ของ used to
(เคย)เกตุ ถ้didn't /หรือ usedn't วย จะ
(ข้อสัง คือ า need dare เป็นกริยาช่
ตามหลังด้วย V1 เลย)
- She used to be his secretary , didn't she
(usedn't she)?
11. 9. ประธานที่ใช้ใน tag ต้องเป็น
เสมอ
pronoun to Chiang Mai yesterday, didn't he?
- Vinai went
- The children are playing in the garden,aren't
they?
10.tag ของ would like(ต้องการ)ใช้
wouldn't to go now , wouldn't we?
- We'd like
12. 11. tag ของ would rather (
อยากจะ) ใช้ wouldn't
- You'd rather stay at home , wouldn't you?
- We would rather not go there , would we?
12. tag ของ had better ใช้
hadn't
- You 'd better finish your homework , hadn't
you?
- She had better not go out alone , had she?
13. 13. ประโยคคำาสัง หรือ ่
ขอร้อง(Imperative , order ,
request ) จะกลายเป็นประโยค
สุภาพด้วยการเติม question
- Open your book , will you?
tag -ว่า will you you?อ won't
Stop talking , will หรื
you?- Take these things away , will you?
(แต่ถ้า Let me ask him to accompany you,
shall I?)
14. 14. ถ้าประโยคข้างหน้ามีประธาน
เป็น There is, There are ,There
was,There were,(มี) question tag
ใช้ verb to be นั้นๆ + there
- There is a purse in my bag , isn't there?
- There are many flowers in the garden , are
there?
- There was an accident last night , wasn't
there?
15. 15. Question Tag ของ That
is..,This is คือ isn't it ? หรือ is it?
- This is my book , isn't it?
- That is not your bag , is it?
16. Question Tag ของ These are ,
Those are ใช้ aren't they? หรือ
are- they? her belongings , aren't they?
These are
- These are your exercise books, aren't
they?
16. 17. คำาต่อไปนี้คือ few ,little
,never , rarely,
scarcely,hardly,seldom,neither
,none, none,no one,nobody
,nothing มีความหมายกึ่งปฏิเสธและ
- Few students knew the answers , did
ปฏิเสธ เพราะฉะนัน tag จะเป็นบอก
they? ้
เล่า- None of the boys liked that song , did
they?
- We saw no one we knew , did we?
17. 18. ประโยคที่ใช้ประธาน one ใน tag
จะใช้- One wants to be rich , doesn't
one เช่น
one?
- One can't escape death , can
19. ถ้าประธานเป็น evryone ,
one?
everybody , everything , no
one ,nobody ,anybody, neither ใน
ส่วน tag ให้ใช้ likes it ,เช่น they?
- Everyone they don't
- Nobody knows the answer , do
they? ถ้า - None of us knew him , did
(แต่
18. 20. ถ้าเป็นประโยคซับซ้อน ให้ใช้
กริยาใน main clause เป็นหลัก
ยกเว้น ถ้าใน main clauseหมายถึง
ตัวเองหรือบุรุษที่ 1 เช่น
- He said he could come , did he?
- I think he is a good boy , isn't he?
- If he said it under oath , it must be true ,
musn't it?
19. การตอบคำาถามของ
Question Tag
1. ถ้าประโยคข้างหน้าเป็นบอลกเล่า ผู้
ถามคาดหวังคำาตอบ Yes
2. ถ้าประโยคข้างหน้าเป็นปฏิเสธ ผู้ถาม
คาดหวังคำาตอบ No
3. การตอบคำาถาม ตอบอย่างสั้นๆ โดยใช้
ประธานและกริยาช่วย
- We can speak English , can't
we?
20. การออกเสียงประโยคคำาถาม
Question tag Yes, No โดยปกติจะขึน
คำาถามที่จะได้คำาตอบ ้
เสียงสูงที่ท้ายประโยค แต่สำาหรับคำาถามแบบ
Question Tag จะออกเสียงขึนสูงที่ท้ายประโยค
้
หรือลงเสียงตำ่าก็ได้ ขึ้นอยู่กับความแน่ในของผู้
พูด can swim , can't you?
You
ถ้าขึ้นเสียงสูงที่ท้ายประโยค แสดงว่าผู้ถาม
ไม่มั่นใจนักว่าคุณว่ายนำ้าได้
ถ้าลงเสียงตำ่าที่ท้ายประโยค แสดงว่าผู้ถาม
21. หลักการตั้ง
1.ประโยคคำาเป็นบอกเล่า Tag
ถ้าประโยคหน้ าถาม
ต้องเป็นปฏิเสธ
2. ถ้าประโยคหน้าเป็นปฎิเสธ Tag
ต้องเป็นบอกเล่า
3. ต้องใส่ Comma คั่นระหว่าง
ประโยคหลักกับ Tag เสมอ
4. ตัว Tag ต้องเป็นกริยาช่วยเสมอ
22. 5. หากไม่มีกริยาช่วยในประโยคหลัก
ใช้ V. to do มาช่วย
6. กริยาช่วยตรง Tag ต้องใช้รูปย่อ
เสมอ ไม่มีรูป amn't Iใช้ aren't Iแทน
7. กริยาช่วย ต้องเปลี่ยนตาม Tense
ที่ประโยคหลัก
8. ประโยคคำาสั่ง ขอร้อง เชื้อเชิญ ตรง
Tag เติม คำาว่า will you ได้เลย
23. ข้อควรจำาในการทำา
Question Tag
1. ถ้าประโยคหน้าขึ้นต้นด้วย That is,
This is ส่วน Tag ใช้ isn't it? หรือ is
it
2. ถ้าประโยคหน้าขึ้นต้นด้วย There
is/ are/ was/ were ส่วน Tag ใช้ V. to
be ตามประธานและ Tense + there
24. 3. ถ้าประโยคหน้าขึ้นต้นด้วย These/
Those are ส่วน Tag ใช้ aren't they
หรือ are they แล้วแต่กรณี
4. ถ้าประโยคหน้าเป็นประโยคความ
ซ้อน Tag ให้เอากริยาในประโยคหลัก
5. ถ้าประโยคหน้ามีคำาที่ให้ความหมาย
เชิงปฏิเสธ ส่วน Tag นั้น ต้องเป็นบอก
เล่า เช่น Nothing is interesting, is it?
25. ลักษณะของประโยค
Question Tags ก (main sentence)
1. อยูท้ายประโยคหลั
่
2. มี comma (,) คันระหว่างประโยคหลัก
่
(main sentence) กับ question tag
3. ส่วน question tag อยูในรูปของ
่
ประโยคคำาถาม
4. ถ้ากริยาในประโยคหลัก เป็นบอกเล่า
กริยาใน tag ต้องเป็นปฏิเสธถ้ากริยาใน
ประโยคหลัก เป็นปฏิเสธ กริยาใน tag
27. 2. ถ้ากริยาในประโยคข้างหน้าเป็นกริยาทัวๆ ไป ่
(ที่ไม่ใช่กริยาในข้อ 1) เช่น go, come, sit , stand,
do, make, etc. ให้ใช้ verb to do (do, does, did) ใน
question tag
- Bob goes to school, doesn't he?
- They live in Paris, don't they?
3. กริยาใน Question tag จะต้องเป็น tense
เดียวกันกับกริยา
ในประโยคหลักที่มาข้างหน้า เช่น
- Nancy works in a bank, doesn't she?
29. กริยาในประโยคหลักคือ want อยูใน ่
รูป present tense ดังนันกริยาใน question
้
tag จึงต้องใช้ don't เพื่อให้อยูใน tense
่
เดียวกัน คือ present simple tense และ
เพื่อให้สอดคล้องกับประธานของ
ประโยค (they) ซึ่งเป็นพหูพจน์ จึงต้อง
ใช้ We went to the beach last summer, didn't
- don't
we?
30. กริยาในประโยคหลักคือ went อยู่
ในรูป past tense ดังนั้นกริยาใน
question tag จึงต้องใช้ didn't เพื่อให้
อยู่ใน tense เดียวกัน คือ past simple
4. กริยาใน questin tag ทีเป็นปฏิเสธ จะ
่
tense
ต้องอยู่ในรูปย่อปฏิเสธเท่านั้น เช่น
- He studies hard, doesn't he?
- We must answer the letter, musn't we?
NOTE: เราไม่ใช้ is not he?, does not he?, could not
they? หรือ must not we? ใน question tag โดยเด็ดขาด
32. ถ้า have มีความหมายอย่างอื่น (ที่ไม่
ได้แปลว่า "มี") ให้
ใช้ verb to do มาช่วยใน question tag
(ไม่ใช้ verb to have ใน questiontag)
เช่น
- Jim always has breakfast, doesn't he?
- They didn't have an accident, did they?
