More Related Content
Similar to 02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง (20)
More from บัณฑิตา อ่อนพุทธา (19)
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
- 1. บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress
เรื่องเทคโนโลยี 3 G นี้ ผู้จัดทาโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ดังต่อไปนี้
2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต
2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media
2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)
2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต
ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
1. ด้านการพัฒนาการเมืองการปกครองของประเทศ
2. ด้านสังคม
3. ด้านการคมนาคม
4. ด้านการพัฒนาสาธารณสุข
5. ด้านวงการธุรกิจ
6. ด้านการศึกษา
7. ด้านการบริการสารสนเทศ
8. ด้านวงการบันเทิง
ฯลฯ
ที่มา http://www.bloggang.com/
ความสาคัญของอินเทอร์เน็ต
ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีบทบาทและมีความสาคัญต่อชีวิตประจาวันของคนเราเป็นอย่างมาก
1. ด้านการศึกษา อินเทอร์เน็ตมีความสาคัญ ดังนี้
1. สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการ
บันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- 2. 2. ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทาหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
3. นักเรียนนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนอื่น ๆ เพื่อ
ค้นหาข้อมูลที่กาลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็นข้อความเสียง ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ
2. ด้านธุรกิจและการพาณิชย์ อินเทอร์เน็ตมีความสาคัญดังนี้
1. ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
2. สามารถซื้อขายสินค้า ทาธุรกรรมผ่านระบบเครือข่าย
3. เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ โฆษณาสินค้า ติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ
4. ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตน
ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คาแนะนา สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่
ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) โปรแกรมแจกฟรี (Freeware)
3. ด้านการบันเทิง อินเทอร์เน็ตมีความสาคัญดังนี้
1. การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่าย
อินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมี
ภาพประกอบที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสารตามร้านหนังสือทั่ว ๆ ไป
2. สามารถฟังวิทยุหรือดูรายการโทรทัศน์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
3. สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์มาดูได้
ที่มา http://www.google.co.th/
2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media
2.2.1 ความหมายของ Social Media
Social ในที่นี้หมายถึง สังคมออนไลน์
Media ในที่นี้หมายถึง เนื้อหา เรื่องราว และบทความ
Social Media จึงหมายถึงสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้เป็นผู้สื่อสาร หรือเขียนเล่า เนื้อหา เรื่องราว
ประสบการณ์ บทความ รูปภาพ และวิดีโอ ที่ผู้ใช้เขียนขึ้นเอง ทาขึ้นเอง หรือพบเจอจากสื่ออื่นๆ
แล้วนามาแบ่งปันให้กับผู้อื่นที่อยู่ในเครือข่ายของตน ผ่านทางเว็บไซต์ Social Network ที่ให้บริการ
บนโลกออนไลน์ ปัจจุบัน การสื่อสารแบบนี้ จะทาผ่านทาง Internet และโทรศัพท์มือถือเท่านั้น
เนื้อหาของ Social Media โดยทั่วไปเปรียบได้หลายรูปแบบ ทั้ง กระดานความคิดเห็น (Discussion
boards), เว็บบล็อค (Weblogs), วิกิ (wikis), Podcasts, รูปภาพ และวิดีโอ ส่วนเทคโนโลยีที่รองรับ
- 3. เนื้อหาเหล่านี้ก็รวมถึง เว็บบล็อค (Weblogs), เว็บไซต์แชร์รูปภาพ, เว็บไซต์แชร์วิดีโอ, เว็บบอร์ด,
อีเมล์, เว็บไซต์แชร์เพลง, Instant Messaging, Tool ที่ให้บริการ Voice over IP เป็นต้น
ที่มา http://www.marketingoops.com/digital/social-media/what-is-social-media/
2.2.2 ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของ Social Media
สื่อสังคม (Social Media)
สื่อ Social Media ที่นิยมใช้หลัก ๆ ในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ๆ คือ
1.กลุ่มเว็บไซต์เพื่อการสื่อสารแบบเครือข่ายโดยตรง ที่เรียกว่า สื่อเครือข่ายสังคม (Social
Networking Media) เช่น Facebook, Windows Live Spaces, Hi5
2.กลุ่มเว็บไซต์แสดงข้อความ(Blogs) ที่เป็นเว็บไซต์บทความทั่วไปที่มีการโต้ตอบ แลกเปลี่ยนให้
ความเห็นกันได้ เช่น Blogger, WordPress และมีกลุ่มเว็บไซต์ประเภทนี้ แต่แตกเป็นประเภทย่อย ๆ
แยกออกมาเช่น เว็บไซต์แสดงข้อความสั้น (Micro-blogging) อย่าง Twitter
3.กลุ่มเว็บไซต์มัลติมีเดียที่มีภาพ เสียง คลิป ไฟล์ต่าง ๆ ขึน Upload และแบ่งปันกัน (Share) เช่น
้
YouTube, slideshare, Flickr, Photobucket, Picasa
4.กลุ่มเว็บไซต์เพื่อความร่วมมือเฉพาะแบบ เช่น สารานุกรมออนไลน์ Wikipedia
ซึ่งในปีนี้ (2553) ทั้ง Facebook และ Twitter ได้เข้ามาแทนที่ผู้ให้บริการสื่อสังคม (Social Media)
เดิมอย่าง Windows Live Spaces และ Hi5 ที่ได้รับการพูดถึงน้อยลงในช่วงปีที่ผ่านมา โดย
Facebook มีผู้ใช้บริการ (Registered Users) ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านคน และ Twitter มี
ผู้ใช้บริการทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 75 ล้านคน ส่วน Windows Live Spaces ที่มีค่าย Software ใหญ่
อย่าง Microsoft เป็นเจ้าของหนุนหลังแต่ก็มีผู้ใช้บริการทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 120 ล้านคน ซึ่งถือว่า
น้อยกว่า Facebook เป็นอย่างมากTwitter ตัวจริงเรื่องข้อความสั้น (Micro-blogging) Twitter เป็น
เว็บไซต์สื่อสังคม (Social Media) ที่มีลักษณะใช้รูปแบบการให้บริการเผยแพร่ข้อความสั้น (Micro-
blogging) ผสมผสานกับการทาเป็นสื่อเครือข่ายสังคม (Social Networking Media) บางส่วนโดยผู้ที่
เผยแพร่ข้อความเองก็สามารถเลือกติดตามผู้ที่เผยแพร่ข้อความคนอื่น ๆ ได้ด้วย โดยผู้ใช้ Twitter จะ
เรียกผู้ติดตามว่า Follower Twitter มีลักษณะการนาเสนอข้อความแบบข้อความสั้น ๆ โดยผู้ใช้จะถูก
กาหนดให้สามารถพิมพ์ข้อความนาเสนอได้ครั้งละเพียง 140 ตัวอักขระ ซึ่งคุณลักษณะนี้กลับทาให้
Twitter เองเป็นที่นิยมมาก จากกระแสการนิยมเข้าถึงสื่อสังคม (Social Media) ผ่านระบบ
โทรศัพท์เคลื่อนที่สมัยใหม่ (Smartphone) เพราะด้วยข้อความที่สั้นและไม่มีการแสดงรูปภาพหรือ
ไอคอนภาพนิ่งหรือเคลื่อนไหว ทาให้สะดวกต่อการโหลดข้อมูลผ่านระบบโทรศัพท์ให้รวดเร็ว อีก
- 4. ทั้งการใช้ผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่สมัยใหม่ยังไม่ได้ผ่านการต่อผ่านเว็บไซต์ตรง แต่เป็นการต่อ
ผ่าน Application ที่ทาไว้โดยเฉพาะอีกด้วย
ทั้งนี้จากสถิติที่รวบรวมโดยนิตยสาร Positioning เดือนมิถุนายน 2553 รายงานว่า ผู้ใช้ Twitter
ผ่านโทรศัพท์มือถือ ( Smart Phone ) ทั่วโลกมี 37% ในขณะที่คนไทยมีสัดส่วนการใช้ Twitter ผ่าน
โทรศัพท์เคลื่อนที่สมัยใหม่ (Smartphone) สูงถึง 60% จากสถิตินี้เห็นได้ว่า ความนิยมใน Twitter
ของคนไทยมีอัตราที่สูงมากเมื่อเทียบกับชาติอื่น ๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะประเทศไทยมีผู้ใช้
โทรศัพท์เคลื่อนที่สมัยใหม่ (Smartphone) เป็นจานวนมากก็เป็นได้ (โทรศัพท์เคลื่อนที่สมัยใหม่ ที่
นิยมในประเทศไทย คือโทรศัพท์ BB BlackBerry และโทรศัพท์ iPhone)
เนื่องจาก Twitter เป็นการแสดงข้อความสั้นเป็นหลักเพียงอย่างเดียว จึงได้มีการใส่คาสั้น เพื่อ
แสดงและค้นหากลุ่ม ด้วยรูปแบบพิเศษขึ้นมา ที่เรียกว่า “การใส่คาสั้นๆ เพื่อบ่งชี้ประเด็น” หรือที่
เรียกว่า “Tag” หรือ “Hash Tag” โดยการใส่คาสั้นประเภทนี้เปรียบเสมือนหัวเรื่องที่ทาให้สังเกตง่าย
และ สามารถใช้การค้นหาได้ง่ายขึ้น ซึ่งมีผู้รวบรวมสถิติคายอดนิยม “Tag” ในแต่ละวันที่ใช้ใน
ประเทศไทยเอาไว้ที่เว็บไซต์http://www.lab.in.th/thaitrend/ โดยสามารถใช้ศึกษาถึงประเด็นยอด
นิยมของคนที่ใช้สื่อเครือข่ายสังคม Twitter ในแต่ละวันได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าในช่วง
วิกฤตการณ์ทางการเมือง พ.ศ.2553 ที่ผ่านมา คาสั้นยอดนิยมอย่าง “เสื้อแดง” “เสื้อหลากสี” “เรารัก
ในหลวง” ก็ถูกใช้อยู่ตลอดเป็นอันดับต้นๆFacebook หนังสือรุ่น ที่ไม่ใช่แค่หนังสือรุ่นอีกต่อไป
Facebook มีจุดกาเนิดมาจากการที่ Mark Zuckerberg นักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard
University) ในประเทศสหรัฐอเมริกาและกลุ่มเพื่อนได้พัฒนาเว็บไซต์ที่ให้บริการเครือข่ายเพื่อน
ขึ้นมา โดยมีจุดมุ่งหมายแรกจะให้เป็นเสมือนหนังสือรุ่น (Facebook) ซึ่งต่อมาได้แพร่หลายไปยัง
โรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จนต่อมาก็เปิดให้บุคคลทั่วไป กิจการธุรกิจ นักการเมือง กลุ่มผู้มี
ความนิยมในเรื่องเดียวกัน ใช้ได้อย่างอิสระ
Facebook มีลักษณะที่เป็นเว็บไซต์เพื่อการสื่อสารแบบมีเครือข่ายโดยตรง ที่เรียกว่า สื่อเครือข่าย
สังคม (Social Networking Media) โดยผู้ใช้จะสามารถหาเพื่อน และ มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนได้
สะดวกผ่านระบบการให้บริการต่าง ๆ ที่สนับสนุนทั้งการรายงานข้อความสั้น บทความ ภาพ คลิป
วีดีโอ เกมส์ ฯลฯ แสดงความเห็นแลกเปลี่ยนกันได้สะดวกผ่านระบบการใช้ของ Facebook เองที่ใช้
ง่าย สร้างเป็นพื้นที่แห่งการแสดงและเผยแพร่รูปภาพ บทความ และ คลิปวีดีโอมาประกอบการ
แลกเปลี่ยนความเห็นได้ ได้อย่างสะดวก ทั้งยังสามารถใช้เป็นช่องทางส่งต่อความคิดเห็นให้
แพร่กระจาย (Viral Communications)ทาให้ในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเมือง พ.ศ.2553 ที่ผ่านมา
Facebook กลายเป็นสนามรบแห่งการแสดงออกทางความคิดด้านการเมืองอย่างชัดเจนนักการเมือง
- 5. และการรายงานข่าวการเมือง กับสื่อสังคม (Social Media)
สรุปได้ว่าอิทธิพลของสื่อสื่อเครือข่ายสังคมต่อการรายงานข่าวสารนั้น เกิดขึ้นจากลักษณะ
พื้นฐานของสื่อประเภทนี้เองที่นี้ สามารถส่งต่อข้อมูลข่าวสารในแบบทันทีทันใด (Real-time) ทาให้
เกิดการรับรู้ ถกเถียง และแสดงความคิดเห็นในวงเครือข่ายได้กว้างขวาง ซึ่งตรงรูปแบบของผู้
ให้บริการสื่อประเภทนี้จะมีช่องทางในการแสดงความคิดเห็นโต้ตอบกันด้วย อันเป็นการเปิดพื้นที่
ในการแสดงออกทางความคิด และสร้างการรวมกลุ่ม ดังเห็นได้จากปรากฏการณ์ “ม็อบเฟซบุ๊ก”
หรือ “ม็อบออนไลน์” เรื่องเกี่ยวกับสื่อสังคม (Social Media) ทั้งหมดในข้างต้นนี้ จะไม่เป็นการ
เกินไปเลยที่ผู้เขียนจะกล่าวว่า เป็นเพียงหนึ่งในพันส่วนของปรากฏการณ์เกี่ยวกับสื่อสังคม (Social
Media) ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยและในสังคมโลกช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหากท่านผู้สนใจท่านใด
อยากจะรู้จักสื่อสังคม (Social Media) มากกว่านี้ คงไม่มีวิธีใดเหมาะสมไปกว่าการเข้าร่วมเป็นส่วน
หนึ่งของสื่อสังคม (Social Media) และสังเกตปรากฏการณ์นี้ด้วยตนเอง
ที่มา http://www.marketingoops.com/digital/social-media/what-is-social-media/
2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ที่ให้บริการ Social Media
ประเภทของเว็บไซต์สื่อสังคม
เมื่อเราพูดถึงเว็บไซต์สื่อสังคมแล้วเราคิดเกี่ยวกับเว็บไซต์ชุมชนสังคมเช่น Facebook สังคมส่วน
ใหญ่เป็นเว็บไซต์สื่อมีการแบ่งประเภทเป็น'สังคม Bookmarking''เครือข่ายสังคม'และ'ใช้สื่อร่วมกัน'
ตอนนี้เรามาพูดคุยเกี่ยวกับแต่ละของพวกเขา ก่อนที่ฉันต้องการจะบอกสิ่งหนึ่งที่ไม่ได้เป็นภาค
บังคับในการใช้เว็บไซต์สื่อทางสังคมทั้งหมดในเวลาที่จะส่งเสริมสิ่งเพียงตัดสินใจว่าเว็บไซต์สื่อ
สังคมที่จะใช้ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและผู้ชมของคุณ คุณสามารถได้รับการจราจรอย่างมากจากเว็บไซต์
ทั้งหมด แต่คุณต้องศึกษาพื้นฐานบางอย่างจะใช้พวกเขา
- 6. สังคม Bookmarking :
เมื่อคุณชอบเว็บไซต์ใด ๆ แล้วคุณใช้ฟังก์ชันบุ๊คมาร์คของเบราเซอร์ เช่นเดียวกับที่เว็บไซต์เหล่านี้
ทางาน มีหลายเว็บไซต์บุ๊คมาร์คสังคมที่คุณสามารถสร้างบัญชีของคุณและบันทึกบุ๊คมาร์คของคุณ
มี ผลประโยชน์ที่สาคัญที่ท่านจะใช้เว็บไซต์เหล่านี้สามารถใช้ที่คั่นหนังสือกับเพื่อนของคุณ
เช่นเดียวกับคุณสามารถเข้าถึงได้เมื่อไปที่ใดก็ได้
Digg.com, Stumbleupon.com และ Delicious.com มีเพียงไม่กี่ของพวกเขาซึ่งถูกใช้โดยผู้ใช้นับล้าน
เว็บไซต์แต่ละเว็บไซต์มีศักยภาพในการส่งนับพันของผู้เข้าชม ที่สุดของการบุ๊คมาร์คยื่นทาให้เป็น
ที่นิยมโดยมุมมองของคนอื่น ๆ เช่นบันทึกและออกเสียงลงคะแนน
เครือข่ายสังคม :
พื้นฐานทางสังคมเว็บไซต์เครือข่ายที่ไม่ได้ทาเพียงการส่งเสริมการบล็อกหรือผลิตภัณฑ์ของคุณ
จุดมุ่งหมายหลักของเว็บไซต์เหล่านี้จะทาให้การเชื่อมต่อใหม่, ติดต่อกับเพื่อนและสมาชิกใน
ครอบครัวของคุณ คุณสามารถเพิ่มคนในการเชื่อมต่อของคุณแล้วโต้ตอบกับเขา / เธอและมันจะ
ช่วยให้คุณคุ้นเคยกับเพื่อนใหม่ ๆ
เป็นวงกลมขนาดใหญ่ของคุณกลายเป็นคุณสามารถใช้เพื่อแบ่งปันบล็อกโพสต์ล่าสุดของคุณ
เว็บไซต์หรือสิ่งที่คุณต้องการ
Facebook.com, Twitter.com, Myspace.com เป็นตัวอย่างที่เป็นที่นิยมของเว็บไซต์เครือข่ายสังคม
ใช้สื่อร่วมกัน :
สื่อเว็บไซต์ร่วมกันจะกลายเป็นที่มีชื่อเสียงมากวันนี้ ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือ YouTube ด้วยความ
ช่วยเหลือของสื่อเว็บไซต์ร่วมกันคุณสามารถแบ่งปันภาพถ่ายวิดีโอ Audios คนอื่นสามารถแสดง
ความคิดเห็นผ่านความคิดเห็นและคะแนนโหวต
ชนิดของสื่อเว็บไซต์ร่วมกันเป็น
บล็อก - WordPress, Blogger, TypePad ฯลฯ
การเผยแพร่ภาพ : Flickr, Photobucket ฯลฯ
แบ่งปันวิดีโอ : YouTube, Metacafe ฯลฯ
- 7. ร่วมกันนาเสนอ : Slideshare.net, etc Scribd
ที่มาhttp://translate.google.co.th/translate?hl=th&langpair=en%
2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)
2.3.1 ความหมายของเว็บบล็อก (WebBlog)
เว็บบล็อกที่เขียนเป็นบางครั้งเว็บเข้าสู่ระบบหรือเว็บบล็อกเป็น เว็บไซต์ ที่ประกอบด้วยชุด
ของรายการในการจัดเรียงลาดับมีการปรับปรุงบ่อยครั้งที่มักมีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะ เป็น
ข้อมูลที่สามารถเขียนโดยเจ้าของเว็บไซต์ gleaned จากเว็บไซต์อื่น ๆ หรือแหล่งอื่น ๆ หรือผลงาน
โดยผู้ใช้
บล็อกมักจะมีคุณภาพของการเป็นชนิดของ"เข้าสู่ระบบครั้งของเรา"จากเฉพาะจุดของมุมมอง
โดยทั่วไปบล็อกจะอุทิศให้กับหนึ่งหรือหลายวิชาหรือรูปแบบปกติของความสนใจเฉพาะและใน
ทั่วไปสามารถคิดของการเป็นข้อคิดในการพัฒนาบุคคลหรือส่วนรวมในรูปแบบเฉพาะของพวกเขา
เว็บบล็อกอาจจะประกอบด้วยการบันทึกความคิดของแต่ละบุคคล (การเรียงลาดับของไดอารี่) หรือ
จะเป็นความร่วมมือที่ซับซ้อน
2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก
ประเภทของการ
โพสต์รายการ
แดกดันไม่ได้หรือไม่ ฉันควรเริ่มต้นการโพสต์รายการที่มีเคล็ดลับในการเขียนโพสต์รายการ สิ่งที่
ตลกคือมันทางาน คนที่ชอบเห็นที่เรียบง่ายตรงไปตรงมาในรายการของเคล็ดลับ พวกเขาสามารถ
เห็นตัวเลขด้านขวาของคุณในหัวเรื่องที่บอกพวกเขาว่าคุณมีข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อใช้ร่วมกัน คุณ
บอกพวกเขาว่าพวกเขาจะได้รับเป็นจานวนที่แน่นอน, 5, 7, 10, 20 .. ชิ้นของคาแนะนาที่พวกเขา
สามารถเริ่มใช้งานได้ในขณะนี้
- 8. โพสต์การกวดวิชา
การกวดวิชาจะช่วยให้ความคุ้มค่าสูงสุดให้กับผู้อ่านของคุณ นี่คือการโพสต์ที่คุณระบุปัญหาเฉพาะ
และให้เดินผ่านในการแก้ปัญหาที่ ทุกคนมีปัญหานี้จึงจะสามารถโพสต์ที่นิยมมากถ้าคุณให้เป็น
ทางออกที่ดีปัญหาที่เกิดขึ้นในซอกของคุณ นอกจากนี้ชนิดของการโพสต์นี้ lends เองดีกับการใช้
ภาพและภาพหน้าจอและภาพที่ดีมีมูลค่าหนึ่งพันคา
โพสต์ Informative
แตกต่างจากการกวดวิชา ข้อมูลการโพสต์สอนเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้ชมเฉพาะ มันไม่จาเป็นต้องเป็น
วิธีการ แต่คาตอบคาถาม"คืออะไร ... ?"นี้อาจจะเป็นคานิยามสั้น ๆ โพสต์รูปแบบหรือคุณสามารถ
ใช้เวลาเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะในซอกของคุณ
โพสต์ข่าว
ถ้าคุณต้องการจริงๆที่จะหาหัวข้อที่รวดเร็วในการบล็อกเกี่ยวกับการโพสต์ข่าวที่เป็นวิธีที่ดีเพื่อให้
ผู้อ่านของคุณให้ทันสมัยกับเหตุการณ์ปัจจุบัน คุณสามารถค้นหาเหตุการณ์ปัจจุบันในซอกของคุณ
และเขียนรายงานอย่างรวดเร็วในกรณีที่ หากคุณพบว่ามีแนวโน้มดีหัวข้อประเภทของการโพสต์นี้
สามารถให้บล็อกของคุณเพิ่มความนิยมในขณะที่หัวข้อที่ร้อน เป็นเครื่องมือที่ดีสาหรับการค้นหา
หัวข้อที่มีแนวโน้มเป็น แนวโน้มของ Google . หากคุณพบว่าหัวข้อในซอกของคุณที่เหมาะกับเป็น
แนวโน้มที่ด้านบนเหล่านี้คุณจะได้รับการจราจรออกมาอย่างมีนัยสาคัญจากการเขียนเกี่ยวกับหัวข้อ
ที่ สถานที่ ๆ คุณสามารถหาหัวข้อที่มีแนวโน้มที่ดีเป็นเพียงโดยการอ่านหนังสือพิมพ์ คุณสามารถ
ค้นหาบางส่วนของข่าวในปัจจุบันมากที่สุดในกระดาษในประเทศของคุณหรือของเอกสาร
ระดับชาติและนานาชาติที่เป็นที่นิยม
โพสต์คุย
ผมเคยอ่านหลายกระทู้พูดจาโผงผางออนไลน์ ฉันชอบอยู่กับบวกบนบล็อกของฉัน แต่มีคาถามที่
ไม่ได้ดึงความสนใจการทะเลาะวิวาท พูดจาโผงผางมักจะเป็นกระทู้เกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ชอบ Blogger
สิ่งที่เกี่ยวกับโพสต์เหล่านี้คือว่าจะดึงดูดความสนใจมาก คุณสามารถเลือกหัวข้อเพื่อความจริงใด ๆ
เกี่ยวกับพูดจาโผงผาง ถ้ามันเป็นสิ่งที่ชอบดีใน blogosphere คนจะแสดงให้พูดจาโผงผางกลับที่คุณ
- 9. ถ้ามันเป็นสิ่งที่เกลียดชังคนจะแสดงให้เสียงของพวกเขาสัญญา บางคนเจริญเติบโตในการทะเลาะ
วิวาท
โพสต์คลั่ง
โพสต์คลั่งเป็นตรงข้ามแน่นอนของการโพสต์พูดจาโผงผาง คุณเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณรักและคลั่ง
เกี่ยวกับมัน ในขณะที่ positivity มักจะอยากวาดเป็นความสนใจมากที่สุดเท่าที่ปฏิเสธผมคิดว่า
เหล่านี้จะโพสต์ง่ายต่อการเขียน บ่อยครั้งที่คุณสามารถค้นหาบล็อกที่ดีและคลั่งเกี่ยวกับว่าบล็อก
หรือ Blogger พวกเขาจะ appreaciate มันและเมื่อคุณแบ่งปันความรักที่พวกเขาจะแบ่งปันความรัก
โพสต์
มันไม่ได้พูดจาโผงผางหรือคลั่ง มันรายละเอียด เลือกคนในช่องและรายละเอียดของคุณที่คน ให้
สรุปเกี่ยวกับบุคคลนั้นและสิ่งที่พวกเขากาลังทาอยู่ในซอกของคุณ บอกให้ผู้ชมของคุณวิธีการที่
บุคคลนั้นได้เริ่มต้นและสิ่งที่พวกเขาทาเพื่อจะประสบความสาเร็จในซอกของคุณ นี่เป็นเรื่องที่มี
ทั่วไปในด้านบวก แต่ในเวลาเดียวกันคุณต้องการให้เสียงของคุณมากขึ้นกว่าที่เป็นกลางที่สมบูรณ์
คลั่ง
โพสต์สัมภาษณ์
ค้นหาผู้เชี่ยวชาญในสาขาของคุณและเชิญพวกเขาในการสัมภาษณ์ คุณยังสามารถทาให้ง่ายโดย
การทาเช่นการสัมภาษณ์ผ่านทางอีเมล หากพวกเขาเห็นด้วยกับการสัมภาษณ์ของคุณคุณสามารถส่ง
พวกเขาไปรายการของคาถามที่ว่าพวกเขาสามารถให้คาตอบเกี่ยวกับเวลาของตัวเอง นี้ทาให้สิ่งที่
ง่ายสาหรับคุณและง่ายสาหรับพวกเขา ผู้ชมจะได้รับการชื่นชมเป็นจุดที่อยู่นอกของมุมมองและ
การได้ยินจากผู้เชี่ยวชาญ ค่อนข้างบ่อยถ้าสัมภาษณ์มีดังต่อไปนี้คุณอาจจะวาดในบางส่วนของผู้ชม
และได้รับผู้อ่านที่พิเศษบางอย่างวิธีการที่
ที่มา http://www.google.co.th/webhp
2.3.3 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก
10 อันดับที่ดีที่สุดบล็อก Host - ผู้ให้บริการ
1. Blogger -- นี่คือหนึ่งในความนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นโฮสต์บล็อก Litterally
ล้านของผู้ใช้! พวกเขามีอิสระนาเสนอการปรับแต่งหนักเช่นเดียวกับรูปแบบ เพียง google
คาว่า"แม่แบบของ Blogger"และคุณจะเห็นสิ่งที่ฉันพูดคุยเกี่ยวกับ เกือบลืมพูดถึงว่าพวก
เขามีความเป็นเลิศไปตั้งแต่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของ Google!
- 10. 2. Xanga -- นี้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่บล็อกเป็นที่นิยมออนไลน์ซึ่งเหมาะสาหรับผู้ชมที่มีอายุน้อย
กว่าเช่น schoolers สูง มันไม่ได้เป็นที่ปรับแต่งเป็น Blogger ซึ่งอาจจะไม่ดังกล่าวเป็นสิ่ง
ไม่ดีถ้าคุณต้องการที่จะเขียนสิ่งที่ง่ายและรวดเร็วโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจัดใหม่นี้
และที่
3. LiveJournal -- นี้เป็นอีกหนึ่งที่มีคุณภาพที่ดีโฮสต์บล็อกที่ไม่เรียกเก็บเงินคุณ ฉันได้ใช้
ส่วนตัวมันและชอบมันมาก แต่มันคล้ายกับ Xanga ว่ามันไม่ 100% ปรับแต่ง แต่ใน
ความคิดของฉันเป็นรอยข้างต้น Xanga
4. Wordpress -- Wordpress เป็นที่นครเมกกะของต้นกาเนิดบล็อก ถ้าคุณไปในเว็บไซต์ของ
ตนและมองหาที่อยู่ด้านล่างคุณจะเห็นสื่อที่รู้จักกันดีชื่อ บริษัท ที่ขึ้นอยู่กับการใช้งานเช่น
New York Times หรือ Yahoo สิ่งที่ดีเกี่ยวกับการใช้งานก็คือว่ามันช่วยให้คุณสามารถ
โฮสต์และกาหนด virutally อะไร ใด ๆ ที่ผู้ใช้ครั้งแรกจริงๆจะต้องการสร้างบัญชีกับพวก
เขาได้รับสิ่งที่กลิ้ง
5. Tumblr -- ตอนนี้ฉันไม่ได้ใช้ Tumblr ดังนั้นฉันจะโกหกจะบอกว่าผมมีประสบการณ์ครั้ง
แรก แต่จากสิ่งที่ผมได้สังเกตเห็นเมื่อเร็ว ๆ นี้ส่วนใหญ่เป็นที่มากของเว็บไซต์ที่ดีออกมี
การใช้แพลตฟอร์ม Tumblr สาหรับบล็อก นอกจากนี้ยังดูเหมือนจะค่อนข้างเป็น
อเนกประสงค์เป็น Wordpress ตรวจสอบออก!
6. weebly -- ถัดไปขึ้นเป็นเว็บไซต์ / บล็อกโฮสต์ที่เรียกว่า weebly มันไม่ได้เป็นที่รู้จักกันดี
แต่ไม่มองแนวโน้มตามที่เสนอบล็อกฟรีโฮสติ้งและเครื่องมืออื่น ๆ ที่จะสนับสนุนคุณด้วย
7. Blog.com -- ดังกล่าวเป็นชื่อเดิมและทื่อไปยังจุดที่ ฉันชอบที่คุณไม่? อย่างน้อยก็ไม่เสียง
เช่น weedwacker เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ เว็บไซต์นี้ยังตามความเหมาะสมในการในการ
ให้บริการเว็บโฮสติ้งฟรีรวมทั้งการสนับสนุนเพื่อช่วยให้คุณสร้างบล็อกของคุณเอง การตั้ง
ค่าบัญชีไม่ได้ใช้เวลานานเกินไปอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อใช้ประโยชน์ในขณะนี้!
8. ความคิด -- ที่จุดที่แปดที่ฉันอยู่คิดเป็นอื่นให้บริการพื้นที่บล็อก ฉันยังไม่ได้ตรวจสอบมัน
ออกมากเกินไป นี่คือที่ดีแน่นอนสาหรับบรรดาผู้ที่คุณต้องการสิ่งที่เป็นหลักเป็นเพียง
เล็กน้อยน้อย
- 11. 9. ประสบการณ์การทางานโครงการ -- ที่นี่เป็นผู้ให้บริการสาหรับคนที่จะเริ่มการสร้างบล็อก
ออกไปอีก
10. ฟรีบล็อก - มัน -- น่าจะเป็นอีกเว็บไซต์ที่มีแนวโน้มที่จะให้ยืมบล็อกมือช่วย
ที่มา http://translate.google.co.th/translate
2.3.4 ประวัติของเว็บไซต์ Wordpress
WordPress คือ อะไร
เว็บไซต์นี้ จะแนะนาถึงวิธี การใช้ WordPress ตั้งแต่พื้นฐานเริ่มต้น ไปจนถึงการเพิ่มเทคนิค
ลูกเล่นต่าง ๆ แต่ก่อนที่จะไปเรียนรู้กัน เราควรมารู้จักก่อนว่า WordPress คือ อะไร
WordPress คือ โปรแกรมสาเร็จรูปตัวหนึ่ง ที่เอาไว้สาหรับสร้าง บล็อก หรือ เว็บไซต์ สามารถใช้
งานได้ฟรี ถูกจัดอยู่ในประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมายถึง โปรแกรม
สาเร็จรูปที่มีไว้สาหรับสร้างและบริหารจัดการเนื้อหาและข้อมูลบนเว็บไซต์
WordPress ได้รับการพัฒนาและเขียนชุดคาสั่งมาจากภาษา PHP (เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งตัวหนึ่ง)
ทางานบนฐานข้อมูล MySQL ซึ่งเป็นโปรแกรมสาหรับจัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่เก็บ เรียกดู แก้ไข
เพิ่มและลบข้อมูล การใช้งาน WordPress ร่วมกับ MySQL อยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตใช้งานแบบ
GNU General Public License
WordPress ปรากฏโฉมครั้งแรกในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2546 (2003) เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Matt
Mullenweg และ Mike Littlej มีเว็บไซต์หลักอยู่ที่ http://wordpress.org และยังมีบริการ Free
Hosting (พื้นที่สาหรับเก็บทุกอย่างของเว็บ/บล็อก) โดยขอใช้บริการได้ที่ http://wordpress.com
ปัจจุบันนี้ WordPress ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านเว็บ
บล็อกไปแล้ว แซงหน้า CMS ตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Drupal , Mambo และ Joomla สาเหตุเป็นเพราะ
ใช้งานง่า ย ไม่จาเป็นต้องมีความรู้ในเรื่อง Programing มีรูปแบบที่สวยงาม อีกทั้งยั งมีผู้พัฒนา
Theme (รูปแบบการแสดงผล) และ Plugins (โปรแกรมเสริม) ให้เลือกใช้ฟรีอย่างมากมาย
นอกจากนี้ สาหรับนักพัฒนา WordPress ยังมี Codex เอาไว้ให้เราได้เป็นไกด์ไลน์ เพื่อศึกษา
องค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายใน สาหรับพัฒนาต่อยอด หรือ นาไปสร้ าง Theme และ Plugins
- 12. ขึ้นมาเองได้อีกด้วย หนาซ้า ยังมีรุ่นพิเศษ คือ WordPress MU สาหรับไว้ให้ผู้นาไปใช้ สามารถเปิด
ให้บริการพื้นที่ทาเว็บบล็อกเป็นของตนเอง เพื่อให้ผู้อื่นมาสมัครขอร่วมใช้บริการในการสร้างเว็บ
บล็อก ภายใต้ชื่อโดเมนของเขา หรือที่เรียกว่า Sub-Domain
จากที่ ได้เกริ่นนาไปในบทความนี้ คงจะทาให้รู้จัก และได้ทราบประวัติความเป็นมา รวมถึง
ความหมายกันไปบ้างแล้วว่า WordPress คือ อะไร ในบทความหน้า เราจะได้เริ่มเรียนรู้ถึงรูปแบบ
และวิธีการใช้งาน ไปจนถึงการเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ ต่อไป
ที่มา http://wordpress.9supawat.com/10/what-is-wordpress.html
ความเป็นมาของ wordpress
wordpress หลายคนรู้จักกันดีและบางคนก็อาจจะกาลังใช้งานอยู่ก็ได้แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า
wordpress มีประวัติความเป็นมายังไงเดี๋ยวจะได้รู้กันครับ
ความเป็นมาของ wordpres เริ่มจาก B2 หรือ cafelog คือผู้ที่ให้กาเนิดการทางานของเว็บบล๊อก
ที่ชื่อว่า wordpress ได้การผลิตบล็อกชนิดนี้ขึ้นครั้งแรกประมาณปี 2003 ตอนนั้นมีบล็อก
wordpress อยู่ประมาณ 2000 บล็อก บล็อกที่ชื่อว่า wordpress นี้ เขียนด้วยภาษา PHP เพื่อที่จะใช้
กับ MySQL โดยผู้เขียน wordpress ก็คือ Michel Valdrighi เป็นผู้ร่วมพัฒนา wordpress ตอนนั้น
wordpress ยังอยู่ใน B2evolution wordpress ได้ปรากฏสู่โลกในปี 2003 โดยเป็นความพยายามของ
Matt Mullenweg และ Mike little ในปี 2004 ได้ถูกเปลี่ยนแปลงโดย six apart ทาให้มีผู้งาน
wordpress จานวนมากขึ้น และเริ่มก่อเกิดแบรนด์ wp หรือ wordpress ขึ้นมาและมีการใช้งานมาก
ขึ้นและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน ในปี 2007 wordpress ได้รับรางวัลชนะเลิศใน
เรื่องของ Packt open source CMS award
ที่มา
http://www.nampheung.com/1032/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8