More Related Content
Similar to งานนำเสนอ1 คอม
Similar to งานนำเสนอ1 คอม (20)
งานนำเสนอ1 คอม
- 3. ความหมาย
กระบวนการเทคโนโลยี (Technological Process)
คือ ขั้นตอนการแก้ปัญหาหรื อตอบสนองต่อความต้องการซึ่งจะ
ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากทรัพยากรให้เป็ นผลผลิตหรื อผลลัพธ์ระบบ
เทคโนโลยีโดยก่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอย ตามที่มนุษย์ตองการและ
้
เปลี่ยนแปลงการเพิ่มประสิ ทธิภาพในการทากิจกรรมต่างๆของ
มนุษย์ เพราะมนุษย์มีความต้องการในการสร้างสิ่ งอานวยความสะดวก
ต่างๆในการดารงชีวิต
- 4. ขั้นตอนการแก้ไขปัญหา
วิธีการแก้ ปัญหาอย่ างเป็ นระบบ มีข้นตอน คือ
ั
ขันตอนที่ 1 วิเคราะห์ ปัญหาและกาหนดรายละเอียดของ
้
ปัญหา
ขันตอนที่ 2 วางแผนในการแก้ ปัญหา
้
ขันตอนที่ 3 ดาเนินการแก้ ปัญหา
้
ขันตอนที่ 4 การตรวจสอบและปรับปรุง
้
- 5. ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์ปญหาและกาหนดรายละเอียดของปัญหา
ั
จุดประสงค์ของขั้นตอนนี้ คือการทาความเข้าใจกับปัญหาเพื่อแยก
ให้ออกว่าข้อมูลที่กาหนดมาในปัญหาหรื อเงื่อนไขของปัญหาคืออะไร และ
สิ่ งที่ตองการคืออะไร อีกทั้งวิธีการที่ใช้ประมวลผล ในการวิเคราะห์ปัญหา
้
ใด กล่าวโดยสรุ ปมีองค์ประกอบในการวิเคราะห์ ดังนี้
1. การระบุขอมูลเข้า ได้แก่ การพิจารณาข้อมูลและเงื่อนไขที่กาหนด
้
มาในปัญหา
2. การระบุขอมูลออก ได้แก่ การพิจารณาเป้ าหมายหรื อสิ่ งที่ตองหา
้ ้
คาตอบ
3. การกาหนดวิธีประมวลผล ได้แก่ การพิจารณาขั้นตอนวิธีหา
คาตอบหรื อข้อมูลออก
- 6. ขั้นตอนที่ 2 วางแผนในการแก้ปญหา
ั
ขั้นตอนนี้จาเป็ นต้องอาศัยประสบการณ์ของผูแก้ปัญหาเป็ น
้
หลัก ขั้นตอนนี้จะเริ่ มจากการเลือกเครื่ องมือที่ใช้ในการแก้ปัญหา โดย
พิจารณาความเหมาะสมระหว่างเครื่ องมือกับเงื่อนไขต่างๆ ของปัญหาซึ่ง
หมายรวมถึงความสามารถของเครื่ องมือในการแก้ปัญหาดังกล่าว และสิ่ งที่
สาคัญคือความคุนเคยในการใช้งานเครื่ องมือนั้นๆ ของผูแก้ปัญหา
้ ้
- 7. ขั้นตอนที่ 3 ดาเนินการแก้ปญหา
ั
ขั้นตอนนี้เป็ นขั้นตอนที่ตองลงมือแก้ปัญหาโดยใช้เครื่ องมือที่ได้
้
เลือกไว้ข้นตอนนี้กเ็ ป็ นการใช้โปรแกรมสาเร็ จหรื อใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เขียน
ั
โปรแกรมแก้ปัญหา ขั้นตอนนี้ตองอาศัยความรู ้เกี่ยวกับเครื่ องมือที่เลือกใช้ซ่ ึง
้
ผูแก้ปัญหาต้องศึกษาให้เข้าใจและเชี่ยวชาญ ในขณะที่ดาเนินการหากพบ
้
็
แนวทางที่ดีกว่าที่ออกแบบไว้กสามารถปรับเปลี่ยนได้
การแก้ ปัญหาด้ วยกระบวนการสารสนเทศ
หลักการแก้ปัญหาตามวิธีวิทยาศาสตร์
หลักการแก้ปัญหาตามวิธีการทางวิศวกรรม
วิธีการแก้ปัญหาแบบสร้างสรรค์
- 8. ขั้นตอนที่ 4 การตรวจสอบและปรับปรุง
หลังจากที่ลงมือแก้ปัญหาแล้ว ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าวิธีการนี้
ให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง โดยผูแก้ปัญหาต้องตรวจสอบว่าขั้นตอนวิธีที่สร้างขึ้น
้
สอดคล้องกับรายละเอียดของปัญหา ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเข้า และข้อมูลออก
เพื่อให้มนใจว่าสามารถรองรับข้อมูลเข้าได้ในทุกกรณี อย่างถูกต้องและ
ั่
สมบูรณ์ แบ่งได้เป็ น 2 ขั้นตอน ได้แก่
การตรวจสอบและ
การตรวจสอบโดย
ปรับปรุงโดย
ผู้ใช้ งานจริง
ผู้ออกแบบ
- 9. การตรวจสอบและ
การตรวจสอบโดย
ปรับปรุงโดย
ผู้ใช้งานจริง
ผู้ออกแบบ
ควรกระทำระหว่ำง ตรวจสอบภำยหลัง
กำรดำเนินงำนและ กำรดำเนินงำน
ภำยหลังกำร เสร็จสิ ้นแล้ ว โดย
ดำเนินงำนเสร็จสิ ้น จัดเก็บข้ อมูลจำก
แล้ ว ผู้ใช้ งำนโดยตรง
- 10. การถ่ายทอดความคิดในการแก้ไขปัญหาด้วย
อัลกอริทม [ Algorithm ]
ึ
อัลกอริทม (Algorithm) คือ กระบวนการ การทางานที่ใช้การ
ึ
ตัดสิ นใจ โดยนาหลักเหตุผลและคณิ ตศาสตร์มาช่วยเลือกวิธีการหรื อ
ขั้นตอนการดาเนินงานต่อไป จนกระทังถึงขั้นตอนสุ ดท้าย เป็ นวิธีการที่ใช้
่
แยกย่อยและเรี ยงลาดับขั้นตอนของกระบวนการในการทางานต่างๆ เพื่อเพิ่ม
ประสิ ทธิภาพในการค้นหาและแก้ไขปัญหา
- 12. เครื่ องมือที่ใช้ในการจาลองความคิดมักจะประกอบขึ้นด้วย
เครื่ องหมายที่แตกต่างกันหลายอย่าง แต่พอสรุ ปได้เป็ น 2 ลักษณะ คือ
1. การจาลองความคิดเป็ นข้ อความหรือคาบรรยาย (Algorithm) เป็ น
การเขียนเค้าโครงด้วยการบรรยายเป็ นภาษาที่มนุษย์ใช้สื่อสารกัน เพื่อให้
ทราบถึงขั้นตอนการทางานของการแก้ปัญหาแต่ละตอน ในบางครั้งอาจใช้
คาสังของภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรมก็ได้
่
2. การจาลองความคิดเป็ นสั ญลักษณ์ หรือผังงาน (Flowchart)
สัญลักษณ์ คือ เครื่ องหมายรู ปแบบต่างๆ ซึ่งใช้สาหรับสื่ อสาร
ความหมายให้เข้าใจตรงกัน สถาบันมาตรฐานแห่งชาติอเมริ กา ได้กาหนด
สัญลักษณ์ไว้เป็ นมาตรฐานแล้ว สามารถนาไปใช้ได้ตามความเหมาะสม
ต่อไป
- 13. การเขียนรหัสจาลอง
รหัสลาลองหรื อ pseudocode เป็ นคาบรรยายที่เขียนแสดง
ขั้นตอนวิธี(algorithm) ของการเขียนโปรแกรม โดยใช้ภาษาที่กะทัดรัด
สื่ อสารกับโปรแกรมเมอร์ผเู ้ ขียนโปรแกรม โดยอาจใช้ภาษาที่ใช้ทวไปและ
ั่
อาจมีภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมประกอบ แต่ไม่มีมาตรฐานแน่นอนใน
การเขียน pseudocode และไม่สามารถนาไปทางานบนคอมพิวเตอร์
โดยตรง(เพราะไม่ใช่คาสังในภาษาคอมพิวเตอร์) และไม่ข้ ึนกับ
่
ภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่ง นิยมใช้ pseudocode แสดง
algorithm มากกว่าใช้ผงงาน เพราะผังงานอาจไม่แสดงรายละเอียดมาก
ั
นักและใช้สญลักษณ์ซ่ ึงทาให้ไม่สะดวกในการเขียน เช่นโปรแกรมใหญ่ ๆ
ั
- 14. มักจะประกอบด้วยคาสังต่างๆที่ใกล้เคียงกับภาษาคอมพิวเตอร์ที่
่
ใช้ในการเขียนโปรแกรมจริ งๆ เช่น begin…end, if…else,
do…while, while, for, read และ print การเขียนรหัส
จาลองจะต้องมีการวางแผนสาหรับการอ้างอิงถึงข้อมูลต่างๆที่จะใช้ใน
โปรแกรมด้วยการสร้างตัวแปร โดยใช้เครื่ องหมายเท่ากับ (=) แทนการ
กาหนดค่าให้กาหนดตัวแปรนั้นๆ
การเขียนผังงาน
ผังงาน (flowchart) คือ แผนภาพซึ่งแสดงลาดับขั้นตอน
ของการทางาน โดยแต่ละขั้นตอนจะถูกแสดงโดยใช้สญลักษณ์ซ่ ึงมี
ั
ความหมายบ่งบอกว่า ขั้นตอนนั้น ๆ มีลกษณะการทางาน ทาให้ง่ายต่อ
ั
ความเข้าใจ ว่าในการทางานนั้นมีข้นตอนอะไรบ้าง และมีลาดับอย่างไร
ั
- 16. ประเภทของผังงาน
1. ผังงานระบบ (system flowchart)
เป็ นผังซึ่งแสดงขอบเขต และลาดับขั้นตอนการทางานของระบบหนึ่ง ๆ
2. ผังงานโปรแกรม (Program flowchart)
เป็ นผังงานซึ่งแสดงลาดับขั้นตอนการทางานของโปรแกรมหนึ่ง ๆ
การใช้ สัญลักษณ์
จะใช้สญลักษณ์ที่เป็ นรู ปภาพแทนคาสังการทางานโดยจะไม่ใช้
ั ่
คาอธิบายลักษณะการทางาน มีลูกศรแสดงทิศทางการไหลของข้อมูลตั้งแต่
เริ่ มต้นไปสิ้ นสุ ดโปรแกรม
- 17. ตัวอย่ างสั ญลักษณ์
สัญลักษณ์ ความหมาย
เริ่มต้ น/สิ ้นสุด
รับข้ อมูลเข้ ำ/แสดงผล
รับข้ อมูลเข้ ำจำกมนุษย์
แสดงผลลัพธ์บนกระดำนด้ วย
เครื่ องพิมพ์
กำรประมวลผล
- 18. สัญลักษณ์ ความหมาย
จุดต่อเนื่องภำยในหน้ ำ
เดียวกันของผังงำน
จุดต่อเนื่องที่อยูคนละหน้ ำ
่
ของผังงำนเดียวกัน
ลูกศรแสดงลำดับกำรทำงำน
- 19. โครงสร้ างการเขียนผังงาน
เป็ นรู ปแบบพื้นฐานของการเขียนผังงาน เนื่องจากเขียนได้ง่าย
และนาไปใช้งานมากี่สุด
1.โครงสร้ างแบบเป็ นลาดับ
(Sequence Structure)
โครงสร้างลักษณะนี้เป็ นโครงสร้าง
พื้นฐานของผังงาน และเป็ นลักษณะ
ขั้นตอนการทางานที่พบมากที่สุด คือ
ทางานทีละขั้นตอนลาดับ
- 21. 3.โครงสร้ างแบบทาซ้า (Iteration Structure)
โครงสร้างการทางานแบบทาซ้ า จะทางานแบบเดียวกันซ้ าไปเรื่ อย
ๆ ในขณะที่ยงเป็ นไปตามเงื่อนไขหรื อเงื่อนไขเป็ นจริ ง จนกระทั้งเงื่อนไข
ั
เป็ นเท็จจึงทางานอื่นต่อไป
- 22. ประโยชน์ ของผังงาน
• ช่วยให้สามารถทาความเข้าใจลาดับขั้นตอนการทางานของโปรแกรม
หรื อระบบใด ๆได้อย่างรวดเร็ ว
• ช่วยแสดงลาดับขั้นตอนการทางาน ทาให้สามารถเขียนโปรแกรมได้
อย่างเป็ นระบบไม่สบสน นอกจากนี้ผงงานยังเป็ นอิสระต่อภาษาที่ใช้ใน
ั ั
การ เขียนโปรแกรม กล่าวคือจากผังงานเดียวกันสามารถนาไปเขียน
โปรแกรมด้วยภาษาใดก็ได้
• ช่วยในการตรวจสอบ และแก้ไขโปรแกรมได้ง่าย เมื่อเกิด
ข้อผิดพลาด ช่วยให้การดัดแปลง แก้ไข ทาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ ว
• ช่วยให้ผอ่ืนสามารถศึกษาการทางานของโปรแกรมได้อย่างง่าย และ
ู้
รวดเร็ วมากขึ้น
- 23. การเขียนโปรแกรม
ผังงานโปรแกรมสามารถนามาใช้เขียนโปรแกรม โดยในการเขียน
่
โปรแกรมสามารถเลือกใช้ภาษาได้หลายภาษา ไม่วาจะเป็ นภาษาแอสเซมบลี
ภาษาเบสิ ก ภาษาซี ภาษาปาสคาล ภาษาโคบอล ภาษาฟอร์แทรน หรื อภาษา
อื่น ๆ ซึ่งแต่ละภาษาก็มีรูปแบบไวยากรณ์ของภาษาที่ใช้แตกต่างกันออกไป
แต่โดยทัวไปแล้วจะมีรูปแบบหรื อโครงสร้างของคาสังที่คล้ายกัน โดยทัวไป
่ ่ ่
ทุกคาสังจะมีคาสังพื้นฐานต่อไปนี้
่ ่
• คาสังการรับข้อมูลเข้า และการแสดงผล
่
• คาสังการกาหนดค่า
่
• คาสังการเปรี ยบเทียบเงื่อนไข
่
• คาสังการทาซ้ าหรื อการวนลูป
่
- 25. 3.การวิเคราะห์ ปัญหาและกาหนดรายละเอียดของปัญหามี
องค์ ประกอบดังต่ อไปนี้ ยกเว้ นข้ อใด
ก.การกาหนดวิธีประมวลผล ข.การระบุข้อมูลออก
ค.การระบุข้อมูลเข้ า ง.การวิเคราะห์ ข้อมูล
4.การพิจารณาข้ อมูลและเงือนไขทีกาหนดมาในปัญหา อยู่
่ ่
ในองค์ ประกอบใดของการวิเคราะห์ ข้อมูล
ก.การระบุข้อมูลเข้ า ข.การระบุข้อมูลออก
ค.การกาหนดวิธีประมวลผล ง.ก และ ข ถูกต้ อง
- 26. 5. ข้ อใดไม่ ใช่ โครงสร้ างการเขียนผังงาน
ก.โครงสร้ างแบบลาดับ ข.โครงสร้ างแบบทางเลือก
ค.โครงสร้ างแบบซ้าซ้ อน ง.โครงสร้ างแบบทาซ้า
6.อัลกอริทมทีดต้องมีผลลัพธ์ ทดควรมีคุณสมบัตยกเว้ นข้ อ
ึ ่ ี ี่ ี ิ
ใด
ก.ความแม่ นยาถูกต้ อง
ข.มีข้นตอนหลักและขั้นตอนย่ อย
ั
ค.เข้ าใจง่ ายและชัดเจน
ง.มีข้นตอนทีผลลัพธ์ ออกมาหลายคาตอบไม่ ใช่ คาตอบ
ั ่
เหมือนเดิมทุกครั้ง
- 27. 7.สั ญลักษณ์ ทใช้ ในการเขียนผังงาน มีไว้ เพืออะไร
ี่ ่
ก.แสดงขั้นตอนการทางาน ข.ความสวยงาม
ค.การจัดการข้ อมูล ง.ลาดับข้ อมูล
8.การเขียนโปรแกรม โครงสร้ างของคาสั่ งทีคล้ ายกัน
่
โดยทัวไปทุกคาสั่ งจะมีคาสั่ งพืนฐานต่ อไปนียกเว้ นข้ อใด
่ ้ ้
ก.คาสั่ งการรับข้ อมูลเข้ า และการแสดงผล
ข.คาสั่ งการทาซ้าหรือการวนลูป
ค.คาสั่ งการเปรียบเทียบเงือนไข
่
ง.คาสั่ งการประเมินผลข้ อมูล
- 29. จัดทาโดย
นางสาว ชุ ติมณฑน์ เอียมศรีทรัพย์
่ เลขที่ 16
นางสาว ธิพรัตน์ เนื่องภิรมย์ เลขที่ 17
นางสาว แพรพลอย พรหมชนะ เลขที่ 18
นางสาว ภาสวัณ คูหา เลขที่ 19
นาวสาว วรรณนิลา ชนะใจวัฒนา เลขที่ 20
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/5