More Related Content
Similar to ใบความรู้ที่ 1
Similar to ใบความรู้ที่ 1 (20)
More from Rattana Wongphu-nga
More from Rattana Wongphu-nga (20)
ใบความรู้ที่ 1
- 1. ใบความรู้ที่ 1 หน่ วยการเรียนรู้ที่ 3
รหัสวิชา ง31102 การงานอาชีพและเทคโนโลยี ระดับมัธยมศึกษาปี ที่ 4
ชื่อหน่ วย การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
จานวน 1 คาบ
ชื่อเรื่อง ทาความรู้จกกับโครงงานคอมพิวเตอร์
ั
ความหมายและคุณค่าของโครงงานคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริ ญก้าวหน้าของสังคม ปัจจุบนเทคโนโลยีดานนี้มี
ั ้
การ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ ว จึงเป็ นเรื่ องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยูตลอดเวลา ดังนั้น
่
การศึกษาเทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึงต้องศึกษาหลักการและเนื้อหาพื้นฐานเป็ นสาคัญ การศึก ษาด้าน
วิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็ นสิ่งจาเป็ นเสมือนกับการศึกษาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้
เปลี่ยนแปลง โลกของเราในด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่
1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็ นสังคมสารสนเทศ
2. การตัดสินใจในเรื่ องต่างๆ มักขึ้นอยูกบข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์
่ ั
3. คอมพิวเตอร์กลายเป็ นเครื่ องมือที่สาคัญแทนเครื่ องมืออื่นๆ ในอดีต เช่น เครื่ อง
พิมพ์ดีด เครื่ องคิดเลข เป็ นต้น
4. คอมพิวเตอร์ถกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรื อปัญหาที่ซบซ้อนต่างๆ
ู ั
5. คอมพิวเตอร์เป็ นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของโลกปัจจุบน ั
การศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีข้ ึน เพื่อพัฒนาให้ผเู้ รี ยนมีความรู้ ความเข้าใจในวิทยาการ
คอมพิวเตอร์ และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์จะเป็ นสิ่งที่ทา
ให้ผเู้ รี ยน สามารถบรรลุเป้ าหมายนี้ได้อย่างสมบูรณ์ จุดมุ่งหมายที่สาคัญประการหนึ่งของการเรี ยน
การสอน คอมพิวเตอร์ ในโรงเรี ยน คือการที่ผเู้ รี ยนได้มีโอกาสนาความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการ
แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรื อค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่ง
คือการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอ ร์เป็ นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหา
ต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริ ง หรื อเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริ มการเรี ยนการสอนให้มี
ประสิทธิภาพยิงขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็ นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ผเู้ รี ยนได้เรี ยนรู้ และฝึ ก
่
ทักษะการใช้เครื่ องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่ องมือต่างๆในการแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนา
เจตคติในการสร้างผลงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็ นกิจกรรมหนึ่งที่ผเู้ รี ยนสามารถศึกษาปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็ นปัญหา
ที่ตองใช้ความรู้ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาผสมผสานกัน ซึ่งบางโครงงานอาจต้องใช้ความรู้อื่นๆ มาร่ วมด้วย
้
- 2. โดยผูเ้ รี ยนจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรมหรื ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะ
พื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน โครงงานบางเรื่ องอาจต้องการวัสดุอุปกรณ์นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่งผูเ้ รี ยน
จะต้องพัฒนาขึ้ น หรื อดัดแปลงเพื่อให้ใช้งานได้ตรงกับความต้องการ โดยในการพัฒนาโครงงาน
คอมพิวเตอร์จะอยูภายใต้การดูแลและให้คาปรึ กษาของผูสอน และผูทรงคุณวุฒิดานต่างๆ
่ ้ ้ ้
การทาโครงงานและการจัดงานแสดงโครงงานคอมพิวเตอร์จะมีคุณค่าต่อการฝึ กฝนให้ผเู้ รี ยนมีความรู้ ความ
ชานาญ และมีทั กษะในการนาระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรื อค้นคว้าหา
ความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองดังที่ได้กล่าวมาแล้ว และยังมีคุณค่าอื่นๆ อีกดังต่อไปนี้
เปิ ดโอกาสให้ผเู้ รี ยนได้พฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง
ั
เปิ ดโอกาสให้ผเู้ รี ยนได้ศึกษา ค้นคว้า และ เรี ยนรู้ในเรื่ องที่ผเู้ รี ยนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการ
เรี ยนในห้องตามปกติ
ส่งเสริ มและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่าง
กัน
กระตุนให้ผเู้ รี ยนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมีความสนใจที่
้
จะประกอบอาชีพทางด้านนี้
ส่งเสริ มให้ผเู้ รี ยนได้ใช้เวลาให้เป็ นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผูเ้ รี ยนกับผูสอนและชุมชน รวมทั้งส่งเสริ มให้ชุมชนสนใจ
้
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
สร้างสานึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เป็ นเครื่ องมือที่ใช้ในงานวิจยในทุกสาขาวิชา ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงมีความ
ั
หลากหลายทั้ง ในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรม และประโยชน์หรื อผลงานที่ได้ โครงงานคอมพิวเตอร์มี
หลายประเภท ในที่น้ ีแบ่งเป็ น 5 ประเภท คือ
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media Development)
2. โครงงานพัฒนาเครื่ องมือ (Tools Development)
3. โครงงานจาลองทฤษฏี (Theory Simulation)
4. โครงงานประยุกต์ใช้งาน (Application)
5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)
โครงงานพัฒนาสื่อเพือการศึกษา
่
ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา
โดยการสร้างโปรแกรมบทเรี ยนหรื อหน่วยการเรี ยน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึ กหัด บททบทวน และคาถาม
- 3. คาตอบไว้พร้อม ผูเ้ รี ยนสามารถเรี ยนแบบรายบุคคลหรื อรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้
ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็ นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็ นการพัฒนาบทเรี ยนแบบออนไลน์ ให้ผเู้ รี ยนเข้ามาศึกษา
ด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผูเ้ รี ยนอาจ
คัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็ นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่
แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่
ี
สาคัญของประเทศไทย เป็ นต้น
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่ องมือช่วยสร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะ
อยูในรู ปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์ วาดรู ป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ
่
เป็ นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็ นโปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะเป็ นเครื่ องมือให้เรา
ใช้ในการพิมพ์งานต่างๆ บนเครื่ องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรู ป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความ
สะดวกให้การวาดรู ปบนเครื่ องคอมพิวเตอร์ให้เป็ นไปได้โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุม
ต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผูใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและ
้
ด้านข้างเป็ นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็ นมาให้ เพื่อพิจ ารณาและแก้ไขภาพแจกัน
ที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก เป็ นต้น
โครงงานจาลองทฤษฏี
โครงงานประเภทนี้เป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการจาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่ง
เป็ นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริ งได้ เช่น การจุดระเบิด เป็ นต้น และเป็ นโครงงานที่ผทาต้อง
ู้
ศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริ ง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่ องที่ตองการศึกษาแล้วเสนอ
้
เป็ นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยูในรู ปของสูตร สมการ หรื อคาอธิบาย พร้อมทั้งจาลองทฤษฏี
่
ด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็ นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรื อสมการนั้ น ซึ่งจะทาให้ผเู้ รี ยนมี
ความเข้าใจได้ดียงขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยูที่ผทาต้องมีความรู้ในเรื่ องนั้นๆ เป็ นอย่างดี
ิ่ ่ ู้
ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่ องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่ องพฤติกรรมของ
ปลาปิ รันย่า และการทดลองเรื่ องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็ นต้น
โครงงานประยุกต์ใช้ งาน
โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็ นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริ ง
ในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการ
ผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้า ย เป็ นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรื ออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็ นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรื อปรับปรุ งเปลี่ยนแปลง
ของเดิมที่มีอยูแล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของ
่
ผูใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการ
้
- 4. ทางานหรื อทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุ งแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้
ผูเ้ รี ยนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่ องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่ องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
โครงงานพัฒนาเกม
โครงงานพัฒนาเกมเป็ นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ /หรื อ ความเพลิดเพลิน เช่น
เกมหมากรุ ก เกมทายคาศัพท์ และเกมการคานวณเลข เป็ นต้น ซึ่งเกมที่พฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็ นเกมที่ไม่
ั
รุ นแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึ กความคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและ
กฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผเู้ ล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผูพฒนาควรจะได้ทาการ
้ ั
สารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยูทวไป และนามาปรับปรุ งหรื อพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็ น
่ ั่
เกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผเู้ ล่นกลุ่มต่าง
การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์น้ น ผูเ้ รี ยนควรมีความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับการทางานของเครื่ อง
ั
คอมพิวเตอร์ หลักการที่ใช้ในการแก้ปัญหา กระบวนการแก้ปัญหา หลักการเขียนโปรแกรม และการแทน
ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะเริ่ มทาโครงงาน และใช้ความรู้ดงกล่า วเป็ นพื้นฐานในการสร้างความรู้ใหม่
ั
ในโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยในการทาโครงงานผูเ้ รี ยนอาจจะมีโอกาสได้ทาความรู้จกกับความรู้ใหม่ ั
เพิ่มเติมอีกด้วย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) การออกแบบฐานข้อมูล (Database Design)
และการสืบค้นข้อมูล (Information Retrieval) เป็ นต้น ซึ่งจะขึ้นอยูกบหัวข้อที่ผเู้ รี ยนเลือกทาโครงงาน
่ ั